New Release : วิวาห์ร้ายลิขิตรัก

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : วิวาห์ร้ายลิขิตรัก

โพสต์ โดย Gals »

?แม่ขอเถอะนะ แม่ไม่เคยขออะไรลูกเลย ขอสะใภ้ตระกูลธีระโยธินลูกให้แม่ไม่ได้เหรอ แม่อยากได้น้องคนใดคนหนึ่งมาเป็นสะใภ้?
?แล้วทำไมต้องเป็นผมด้วยครับ?ก็ได้ผมจะทำตามที่คุณแม่ต้องการ แต่ผมไม่รับปากนะครับว่าเราจะอยู่กันยืด ผมจะเป็นของผมแบบนี้ ทนได้ก็ทนทนไม่ได้ก็เลิก?
ร่างสูงของภาคินยืนกอดอกพิงขอบหน้าต่างกระจกบานใหญ่ คิดถึงตอนที่มารดาขอให้เขาแต่งงานกับหลานคนใดคนหนึ่งของท่าน เสียงลมหายใจถูกพ่นออกมาอย่างหนักหน่วง สายตาคมเหม่อมองออกไปที่สวนดอกไม้ของมารดา รัศมีความหล่อของเขาไม่ว่าจะมองทางไหนก็หาที่ติไม่ได้เลยสักนิด ผมดกดำ ดวงตาคมกริบล้อมกรอบด้วยแพขนตาดำขลับ ปากสีชมพูที่ดูมีสุขภาพดี จัดว่าเขาช่างเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาขั้นเทพ เมื่อบวกกับรูปร่างสมส่วนที่มีความสูงถึงหกฟุตสองนิ้ว ก็ยิ่งเพิ่มความดูดีให้เขาเป็นทวีคูณ
อรรถมองบุตรชายคนเดียวอย่างพิจารณา ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสาวน้อยสาวใหญ่ถึงได้คลั่งไคล้บุตรชายของท่านนัก เพราะเพียงขนาดแค่แผ่นหลังยังอยากจะเข้าไปแนบชิด แล้วนับประสาอะไรกับใบหน้าอันหล่อเหลา เพราะมันทำให้ใครต่อใครใจละลายมานักต่อนักแล้ว อันนี้ต้องขอบคุณเชื้อสายที่ดีถึงได้รับมรดกความหล่อไปเต็มๆ แต่ก็อีกนั่นแหละไม่กี่วันข้างหน้าสาวๆ คงได้น้ำตาตกในกันบ้างเมื่อได้รู้ข่าวการลั่นระฆังวิวาห์ของหนุ่มหล่อ
?เรื่องที่เราคุยกันค้างไว้เมื่อวาน วันนี้คงได้คุยกันจบสักทีนะ? อรรถกล่าวกับบุตรชาย ภาคินจึงหันมามองหน้าบิดาด้วยสายตามีคำถาม
?เรื่องอะไรครับ?
?เรื่องงานแต่งงาน?
?อ๋อ? เขาทำสุ่มเสียงอย่างนึกออก ใบหน้ายียวนกวนประสาทนั้นทำเอาผู้เป็นบิดาอยากจะจัดหนักให้สักทีสองที
?แกรู้ว่าต้องแต่งงาน แต่ไม่รู้ว่าแต่งกับใครใช่ไหม?
?คุณแม่บอกผมแล้วว่าหลานของท่านคนใดคนหนึ่ง คุณแม่คงจะเลือกเฟ้นคนที่ดีที่สุดและคงจะต้องถูกใจท่านด้วย แต่ผมบอกคุณแม่แล้วนะครับว่าแต่งก็แต่ง ถ้าเขาทนผมได้ก็ทนไป แต่ถ้าทนไม่ไหวก็ช่วยไม่ได้ เราจะอยู่แบบตัวใครตัวมัน?
?มันได้ที่ไหน ยังไงก็แต่งงานกันไปแล้ว?
?แต่ผมไม่เต็มใจ ส่วนหลานของคุณแม่ถ้าเต็มใจ ก็เชิญเขานอนกอดทะเบียนสมรสและนามสกุลธีระโยธินไปคนเดียวเถอะ ผมไม่สน? ภาคินเอ่ยออกมาอย่างไม่ยี่หระ
?แล้วระหว่างน้องทั้งสี่?แกสนใจใครบ้างไหม?
?ไม่เลยครับ โดยเฉพาะยัยหลานทอมของคุณแม่? เขาประกาศกร้าวออกมาด้วยความรู้สึกต่อต้านสุดๆ
?แล้วถ้าหากว่าคนที่แกต้องแต่งด้วยคือต้นข้าวล่ะ แกจะว่ายังไง?
?ไม่ครับ? ภาคินออกปากปฏิเสธทันที เขาไม่มีทางยอมแต่งงานกับยัยทอมนั่นแน่นอน ถ้ามารดาเลือกยัยนั่นมาคงได้เอาปี๊ปคลุมหัว คงอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ผู้หญิงสวยๆ มีมากมายไม่เลือก ดันไปคว้าเอาคนวิปริตผิดเพศมาเป็นสะใภ้
?อาย?งานนี้บอกได้คำเดียวว่าอาย?
***************************************************************************************************
ที่พัทยา?ณ ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมหน้าผาสูง ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ยามพระอาทิตย์ตกขอบน้ำทะเลได้อย่างชัดเจน ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาใช้บริการก็มักจะมากินบรรยากาศ อาหารอร่อย และบริการที่เป็นหนึ่ง โดยร้านอาหารแห่งนี้ถูกแบ่งเป็นชั้นๆ เล่นระดับไปตามหน้าผาสูง แต่มีชั้นหนึ่งซึ่งเป็นชั้นสูงสุดและมีโต๊ะเดียว เป็นชั้นที่สามารถมองเห็นบรรยากาศทั้งด้านล่างและวิวทิวทัศน์โดยรอบ มันเป็นชั้นของแขกระดับวีไอพี
กระนั้นใช่ว่าใครจะสามารถนั่งบนชั้นนั้นได้ง่ายๆ หากไม่ใหญ่จริง ดังนั้นจึงไม่มีลูกค้าคนไหนใคร่อยากจะนั่งชั้นนั้น เพราะชั้นที่ลดหลั่นกันลงมาก็สามารถมองเห็นความสวยงามของธรรมชาติได้ไม่แพ้กัน
แล้วเหตุใดจะต้องไปเสียเงินเสียทองเพิ่ม?
ทว่าก็มีเสียงเล่าลือมาว่าชั้นระดับบิ๊กนั้นไม่จำเป็นต้องเสียเงินเสียทองเป็นเท่าตัว เพียงแต่ทางร้านจัดไว้ต้อนรับเฉพาะแขกบิ๊กเท่านั้น แต่ก็ไม่เคยเห็นว่าจะมีใครมานั่งชั้นนั้นสักครา
จนกระทั่งวันนี้ ร่างสูงของชายหนุ่มรูปงามที่สาวๆ ด้านล่างต่างพากันเมียงมองส่งสายตาหวานมาให้ แต่ตอนนี้เวลานี้ เขาไม่มีอารมณ์ตอบสนองรอยยิ้มของใคร เขากำลังกลุ้มหนัก คิดไม่ตก หากเจ้าสาวของเขาต้องเป็นคนที่เขาไม่ชอบหน้า กว่าห้าปีแล้วที่เขาไม่ได้เจอเด็กทอมคนนั้น แล้วภาพหนึ่งก็ฉายชัดขึ้นมาเป็นมโนภาพ
?ภาคินมานี่ลูก? ภาวิณีเอ่ยเรียกบุตรชายที่ยืนมองมายังเธอและบรรดาหลานสาวทั้งสี่ ภาคินเดินเข้าไปหามารดา เขามองจ้องเด็กสาวกลุ่มนั้นจนไปหยุดที่คนเล็กสุดท้อง เขามองจ้องเด็กสาวตรงหน้าอย่างพิจารณา เด็กสาวคนอื่นๆ แต่งตัวบ่งบอกว่าเป็นหญิง แต่เด็กคนนี้แต่งตัวเสมือนเด็กผู้ชาย พิลึกคนหน้าตาก็ออกจะน่ารัก
?สวัสดีต้นข้าว? เขาเอ่ยทักเด็กประหลาดในความรู้สึก
?สวัสดีฮะ?
?ทำไมไม่พูดค่ะ เป็นผู้หญิงไม่ใช่เหรอ พ่อแม่ให้เกิดมาเป็นหญิงอุตริอยากจะเป็นชายทำไมกัน พวกวิปริตผิดเพศ? ภาคินพูดใส่หน้าเด็กสาว จนผู้เป็นมารดาของชายหนุ่มถึงกับยกมือขึ้นทาบอก แต่ไม่ทันจะเข้าไปห้ามร่างสูงของบุตรชายก็ล้มลงไปกองกับพื้นด้วยหมัดหนักไม่เบาของเด็กสาวที่เขาถากถาง
?ยัยต้นข้าว? ภาคินแผดเสียงใส่ ทั้งสองมองจ้องหน้ากันราวกับโกรธกันมานับสิบชาติ
?คุณภาคินครับ? เสียงทุ้มดังขึ้นเรียกสติของภาคินให้ออกจากภวังค์ความโกรธแค้น เขาหันไปมองตามเสียงเรียกก่อนจะถอนหายใจออกมา จนธนากรคนสนิทถึงกับนิ่วหน้าด้วยความแปลกใจ
?อะไรที่ทำให้คุณภาคินคิดหนักขนาดนี้ครับ?
?นายรู้มั้ยคุณแม่ต้องการให้ฉันแต่งงานกับหลานของท่านคนใดคนหนึ่ง?
?ดูท่าจะเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้หญิงหลายๆ คนนะครับ?
?แต่งน่ะแต่งได้ แต่อยู่ได้หรือเปล่าอันนั้นฉันไม่สน?คนไหนฉันก็แต่งได้ยกเว้นยัยทอมนั่น? ภาคินบอกออกมาสายตาวาวโรจน์
เวลาเดียวกันตีรณากำลังสอดสายตามองหากลุ่มเพื่อนที่นัดกันมาสังสรรค์ไกลถึงพัทยา เมืองทะเลใกล้กรุงเทพฯ ทุกย่างก้าวของเธอตกอยู่ในเป้าสายตาของบรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในร้านอาหารหรู ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงที่ยังมองด้วยความชื่นชมในความสวยและน่ารักของหญิงสาวที่ดุจนางฟ้าในชุดขาว
หากมีสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองเธอจากมุมสูงของร้าน มันเปล่งประกายระยิบระยับราวกับเจอของถูกใจ แต่ติดตรงที่ไม่ได้เข้าไปถามไถ่ราคาและก็ไม่รู้ว่ามีคนจับจองแล้วหรือยัง เธอสวมชุดกระโปรงแซกสีขาว รูปร่างบอบบางน่าทะนุถนอม ใบหน้าหวานรูปไข่ รอยยิ้มสดใสที่ส่งยิ้มให้บรรดาเพื่อนพ้องที่โบกมือเย้วๆ ให้อยู่ที่โต๊ะอาหาร ทุกอิริยาบถของเธอตกอยู่ในสายตาเขาตลอด ร่างสูงมองจ้องสาวงามด้านล่างจนถูกน้องคนสนิทถึงกับเอ่ยปากถาม
?คุณภาคินสนใจผู้หญิงคนนั้นเหรอครับ? ธนากรเอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจ แค่มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าความสนใจของนายหนุ่มอยู่ที่ไหน
?ผู้หญิงสวยใครๆ ก็ต้องมอง ดูสายตาหนุ่มๆ ในร้านสิ?มองจ้องตาเป็นมัน ไม่รู้ว่านางฟ้าชุดขาวนั้นมีเจ้าของหรือยัง?
?สงสัยว่ากำลังจะมีแล้วครับคุณภาคิน? ธนากรบอกยิ้มๆ ภาคินถึงกับตวัดหางตามามองด้วยความไม่พอใจ นี่มันกันท่าเขาเห็นๆ
?ทำไมหลานของคุณแม่ไม่สวยน่ารักอย่างนี้บ้างนะ ถ้าฉันต้องแต่งกับยัยวิปริตนั่นมีหวังได้อกแตกตายแน่?
?แล้วคนที่คุณภาคินว่าวิปริตคือใครเหรอครับ? ธนากรถามด้วยความงุนงง เพราะเท่าที่ได้รู้ได้เห็นมา ไม่มีหลานคนไหนของท่านที่เป็นทอมเลยสักคน มีแต่คนสวยๆ น่ารักๆ ทั้งนั้น ไม่แพ้สาวงามคนที่นายหนุ่มหมายตาต้องใจเลย
?ก็ยัยต้นข้าว ยัยเด็กทอมบอยนั่นไง?
?ทอมบอยเหรอครับ!? คุณต้นข้าวเนี่ยนะทอมบอย?
?ใช่? ภาคินรับคำทันที
?ผมว่าคุณภาคินมองดูใหม่ดีมั้ยครับ ว่าหญิงสาวในชุดขาวนั่นมีตรงไหนที่แสดงถึงความเป็นทอม ในเมื่อผู้หญิงที่คุณสนใจนั้นคือ คุณต้นข้าว ตีรณา พิทักษ์ ส่วนคนนั่งด้านข้างที่แต่งตัวออกแนวทะมัดทะแมงนั้นก็คือคุณจี๊ด จิตาภา ประภัสสร?
ภาคินถึงกับอึ้ง
เขามองจ้องสาวสวยด้านล่างนั้นอย่างพิจารณาตามที่ลูกน้องคนสนิทบอก ไม่มีและไม่มีเลย คราบทอมบอยเมื่อห้าปีที่แล้วมันมลายไปหมด?เหลือเพียงหญิงสาวสวย สวยจนเขาแทบอยากจะเข้าไปถวายตัวถวายใจหากเธอต้องการ เพียงแต่สายตาที่ชำเลืองมองมาทางเขาเท่านั้น เขาไม่รอช้าจะเข้าไปหาทันที
ส่วนทางด้านล่างของร้านทุกคนต่างเฮฮาจนเสียงดังลั่นร้าน จนเพื่อนบางคนต้องเอ่ยปรามอยู่หลายครั้ง แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น ไม่นานมันก็ดังขึ้นมาอีก หากเพราะไม่ใช่ว่ามีสาวสวยนั่งรวมอยู่ด้วยล่ะก็สงสัยได้มีการขว้างขวดกันมาบ้าง
?นี่ๆ ดูอะไรนี่สิ? เพื่อนคนหนึ่งยื่นนิตยสารมาตรงกลางโต๊ะ ทุกคนต่างชะโงกหน้าเข้าไปมองจนศีรษะแทบชนกัน
?ใครน่ะ? ตีรณาเอ่ยขึ้น เพราะแสงไฟในร้านไม่ได้สว่างมากนัก อีกทั้งโต๊ะที่เธอนั่งก็อยู่ติดชิดขอบระเบียง แสงไฟจึงมีเพียงสลัวๆ ตามบรรยากาศ
?โอ๊ยยัยไดโนเสาร์ไม่รู้หรือไง เนี่ยคุณภาคิน หนุ่มโสดในฝันของสาวๆ ทั้งกรุงเลยรู้มั้ย?
?ใครนะ? จิตาภาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นก่อนจะดึงนิตยสารเล่มนั้นมาดูใกล้ๆ จนบรรดาเพื่อนๆ ร้องโวย ดึงกันไปแย่งกันมา จนตีรณาชักเวียนหัวมองทางซ้ายทีทางขวาทีวุ่นวายไปหมด
?หยุด! มันจะอะไรนักหนาเนี่ยฮะ แย่งกันอยู่ได้ ถ้าพวกเธอแย่งตัวเป็นๆ ของเขาฉันจะไม่ว่าเลย?
ตีรณาพูดขึ้นด้วยความโมโห ก่อนจะดึงหนังสือมาปิดลงแล้ววางมันไว้บนโต๊ะ
?ยัยต้นข้าว!?
?ทำไม?ผู้ชายคนนี้มีดีอะไรหรือ หล่อ รวย แล้วไง?
?เท่านั้นยังไม่พออีกเหรอที่เขาจะเป็นที่สนใจ แต่ดูไปดูมาคนสวยอย่างเธอถ้าได้เจอเขา ฉันว่าเธอคงถูกใจเขาน่าดู? เมื่อได้ฟังที่เพื่อนเอ่ยตีรณาถึงกับคอแข็งขึ้นมาทันที
?ฟังนะ คนอย่างนายภาคิน ธีระโยธิน อะไรนั่นจะไม่มีทางได้เห็นขาอ่อนฉันหรอก แล้วผู้ชายพรรค์นั้นต่อให้เหลือเพียงคนเดียวในโลก ฉันก็ไม่มีทางเอามาทำพันธุ์ให้เสียเกียรติวงศ์ตระกูลหรอก?
?ยัยต้นข้าว?ช่างกล้านะยะ?
ในขณะที่สาวๆ กำลังนั่งวาดฝันถึงหนุ่มหล่ออยู่นั้น พวกเธอจะรู้หรือไม่ว่าคนที่พวกเธอพูดถึง ได้มายืนอยู่มุมหนึ่งใกล้ๆ กับโต๊ะของพวกเธอ โชคดีที่มีต้นไม้บังร่างเขาไว้จึงทำให้ได้ฟังทุกถ้อยคำที่ออกจากปากของคนสวย
?ต้นข้าว?เธอจะได้รู้ว่านายภาคินคนนี้ จะไม่ได้เห็นแค่ขาอ่อนหรอก แต่จะเห็นมากกว่านั้นอีก และไม่ใช่แค่เห็นอย่างเดียวด้วย?
มุมปากหยักกระตุกยิ้มเยือกเย็น มันเต็มไปด้วยความโกรธกับความอวดดีและดูหมิ่นของแม่สาวชุดขาวนั้น
?แล้วเราจะได้เห็นดีกัน?ตีรณา?
สายตาวาวโรจน์มองจ้องใบหน้าหวานที่งอง้ำนั้นอย่างคาดโทษ โทษของเธอมีเพียงสถานเดียวคือ ใช้เรือนร่างเย้ายวนนั้นเพื่อรับโทษจากเขา
ครั้นรุ่งเช้าภาคินรีบเข้าไปพบมารดาและบิดาในห้องนั่งเล่น เพื่อจะเอ่ยถามมารดาเรื่องการคัดเลือกหลานสาวว่าจะเอาคนไหนมาแต่งงานกับเขา ภาวิณีเห็นบุตรชายเดินเข้ามาหาถึงกับล้อเลียนด้วยความขบขันระคนแปลกใจ
?อะไรกันพ่อลูกชาย ลมสวาทขาดช่วงเหรอจ๊ะถึงกลับมานอนบ้านได้ ทุกทีเห็นมีแต่เดินเข้าบ้านมาตอนเช้า วันนี้แปลก เดินลงบันไดมาแน่ะคุณ? ภาวิณีหันไปหัวเราะขบขันกับสามี
?ไม่ตลกนะครับคุณแม่ ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย?
?สำคัญแค่ไหนลูก? ภาวิณีไม่วายล้อบุตรชาย
?เรื่องแต่งงาน? เขาบอกเสียงเรียบ และเรื่องที่ภาคินเอ่ยออกมาส่งผลให้รอยยิ้มของมารดาและบิดาจางหายลงไปทันที ยิ่งเห็นใบหน้าเอาจริงเอาจังของบุตรชายตัวดีก็ชักจะไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว
?ทำไมเหรอภาคิน?
?เปล่าครับ ผมแค่อยากจะถามว่าคุณแม่เลือกใคร? ร่างสูงมองจ้องหน้ามารดาอย่างต้องการคำตอบ เพราะหากมารดาเลือกไปแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่เลือกเขาจะเป็นคนเลือกเอง
?คือตอนนี้แม่ตัดเหลือสองคน?
?ผมไม่รู้ว่าคุณแม่เลือกใคร แล้วที่ว่าเหลือสองคนคือใครผมก็ไม่สน เพราะผมขอบอกตรงนี้เลยว่าเจ้าสาวของผมต้องเป็นตีรณาคนเดียวเท่านั้น?ไม่งั้นผมไม่แต่ง?
เขาพูดจบก็เดินจากไปทันที ปล่อยให้บุพการีนั่งอึ้งอย่างคาดไม่ถึง
?นี่มันอะไรกันคุณ เมื่อวานมันยังต่อต้านหนูต้นข้าว ปฏิเสธหัวชนฝาว่าไม่แต่งกับทอมบอย วันนี้กลับลั่นวาจาเด็ดขาดว่าจะแต่งกับหนูต้นข้าว? อรรถเอ่ยออกมาด้วยความงุนงง
?ฉันไม่รู้เหมือนกันคุณ?แต่ฉันว่าดีนะ เพราะคนที่ฉันเลือกไว้ก็คือต้นข้าว?
ภาวิณียิ้มพอใจที่บุตรชายเลือกเจ้าสาวคนเดียวกันกับเธอ แต่อรรถกลับรู้สึกเป็นห่วงเจ้าสาวของภาคินอย่างบอกไม่ถูก เพราะการที่บุตรชายต่อต้านแล้วจู่ๆ เกิดตอบรับอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยมันต้องมีเหตุแน่ๆ
แล้วเหตุที่ว่านั่นคืออะไรล่ะ
ไม่รอช้า ภาวินีจึงรีบออกจากบ้านทันที เมอร์เซเดส-เบนซ์คันหรูแล่นเข้ามาในบริเวณบ้านทรงไทยริมน้ำที่ตั้งตระหง่านรอต้อนรับแขกผู้มาเยือน และเพราะเสียงเครื่องยนต์ที่ดังแว่วมาส่งผลให้ร่างที่กำลังงกๆ เงิ่นๆ อยู่ในแปลงผักสวนครัวต้องเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัย
หญิงชราร่างท้วมยืดคอยาว พยายามเพ่งพินิจบุคคลที่เดินตรงเข้ามาหา จากลักษณะแล้วดูคุ้นตาแต่เพราะอายุมากแล้วทำให้สายตาไม่ค่อยดีนัก
?สวัสดีค่ะคุณแม่? ภาวิณีพนมมือไหว้มารดาพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้
?นึกว่าใคร ที่แท้ก็แม่ภาว่าไง ลมอะไรหอบเรามาถึงนี่? มารดาเอ่ยถามบุตรสาวพลางหันไปเก็บพริกที่กำลังดกแดงเต็มต้น
?แหมก็ลมคิดถึงไงค่ะ แล้วนี่คุณแม่อยู่บ้านคนเดียวเหรอ?
?เปล่า อยู่กับนังแป้น นายมา แล้วก็แม่ชุ่ม? ผู้เป็นมารดาบอก ทว่ามือเหี่ยวก็ยังไม่ละจากต้นพริก
?ไม่ใช่ค่ะ หมายถึงหลานๆ ไม่อยู่เหรอค่ะ? ภาวิณีถามพลางส่ายสายตามองหาคนที่อยากเจอ ตั้งแต่พบกันครั้งล่าสุดก็ไม่ได้เจออีกเลยร่วมห้าปีเห็นจะได้ เพราะต้องไปติดต่อธุรกิจกับสามีที่ต่างประเทศ จนกระทั่งวันนี้ที่ได้เดินทางกลับมาเมืองไทยและคิดจะปักหลักอยู่ที่นี่เสียทีเพราะมีคนรับช่วงสานต่องานที่ทำแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะส่งเงินทองมาให้มารดาใช้จ่ายรวมถึงรายจ่ายทุกอย่าง แม้กระทั่งหลานสาวทั้งสองที่ท่านอุปการะเลี้ยงดูตั้งแต่บิดาของหลานทั้งสองเสียชีวิต ซึ่งก็คือน้องชายซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของนางนั่นเอง
?อยู่ๆ กำลังนั่งร้อยมาลัยอยู่ในสวนมั้ง ส่วนอีกคนโน่น?พายเรือไปไหนไม่รู้ แล้วนี่ไปไงมาไง แล้วจะอยู่ค้างคืนมั้ย?
?กะว่าจะอยู่ค่ะ?
?ดีเหมือนกัน จะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเสียที ไปเถอะขึ้นบ้านกัน แม่หลานสาวคงดีใจจนเนื้อเต้นน่าดู? ว่าแล้วพลางเดินนำออกไปพร้อมกับตะกร้าที่มีพริกเม็ดแดงๆ เต็มไปหมด
ขณะที่ร่างบางกำลังนั่งร้อยมาลัยอยู่ที่ศาลาท่าน้ำเป็นต้องหันมามองด้านหลังเมื่อได้ยินเสียงร้องโหวกเหวกจากสาวใช้คนสนิท เมื่อรู้ว่าใครมา หญิงสาวก็รีบไปพบทันที
?คุณป้า? เตชินีถลาเข้าไปหาผู้เป็นป้าด้วยความดีใจก่อนจะโผเข้ากอดท่านไว้แน่น
?โอ๊ย?ตายแล้ว ต้นน้ำของป้าโตเป็นสาวสวยเชียว? ภาวิณีเอ่ยชมหลานสาวคนโตที่เธอรักและเอ็นดู ?เอ๊ะแล้วน้องไปไหนล่ะลูก เห็นคุณย่าบอกว่าพายเรือออกไป?
?ไปบ้านคุณอาประกิจค่ะ ไปหายัยจี๊ด?
?อ๋อ? ภาวิณีพยักหน้าเข้าใจ ซึ่งประกิจก็คือน้องชายของเธอเอง
หลายวันก่อนนางก็ได้ไปเยี่ยมมาแล้ว ก็เรื่องเลือกลูกสะใภ้ตามเคย แถมยังไปบ้านวิรัชซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเธอเช่นเดียวกับบิดาของหลานสาวทั้งสองนี้ด้วย ถึงแม้จะเป็นญาติที่ลำดับแล้วค่อนข้างห่างแต่ก็สนิทกันมาก ไม่อย่างนั้นภาวิณีคงไม่หมายตา?ปาลิตา บุตรสาวของวิรัชด้วยหรอกแถมยังเป็นหนึ่งในสองที่เลือกไว้คือ?ปาลิตากับตีรณา
?งั้นเดี๋ยวต้นน้ำโทร.บอกต้นข้าวให้กลับมาหาคุณป้านะคะ? เสียงของหลานสาวส่งผลให้ภาวิณีออกจากภวังค์ความคิด ก่อนจะบอกปฏิเสธว่าไม่ต้องตามเพราะวันนี้เธอจะค้างที่บ้านคุณย่า ยังไงก็ต้องได้เจอตัวหลานสาวคนเล็กอยู่แล้ว
พอตกเย็นเรือแจวลำเล็กก็มาจอดเทียบท่าที่ศาลาท่าน้ำ ตามด้วยร่างบางที่ก้าวขึ้นจากเรือ ใบหน้าหวานยิ้มละไม เพราะในมือนั้นมีของติดไม้ติดมือมาจากบ้านโน้นด้วย หนำซ้ำยังหอบเอาดอกบัวที่เด็ดจากบึงมาด้วย แต่พอจะก้าวขึ้นบันได แป้นก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ วิ่งมาชนหลังของตีรณาจนข้าวของตกเกลื่อนพื้น
?ตายแล้ว อะไรเนี่ยพี่แป้น ข้าวของเสียหายหมดแล้ว?ทำไมไม่ดู? ตีรณาส่งเสียงโวยวายดังลั่นจนถึงบนบ้าน จนผู้เป็นย่าต้องชะโงกหน้าตะโกนถาม
?อะไรกันลูก?ต้นข้าวเสียงดังโวยวายไปทั้งบ้าน เดี๋ยวเถอะนะ? คุณดวงใจเอ่ยดุหลานสาว
?คุณย่าขาก็พี่แป้นน่ะสิคะ เดินไม่ดูเลยชนกับต้นข้าวจนข้าวของตกเกลื่อนไปหมด ขนมพวกนี้บ้านโน้นเขาก็ฝากมากราบคุณย่า ส่วนดอกบัวเนี่ยต้นข้าวก็ไปเก็บมาจากบึงว่าจะเอาไปจัดแจกันห้องพระ แล้วดูสิคะ ไม่เหลืออะไรเลย? ตีรณาโวยวายไม่เลิก
?โถ?คุณหนูต้นข้าวขา พี่แป้นขอโทษค่ะ?
?เอาเถอะ ไม่เป็นไรหรอกลูก ขึ้นมาข้างบนมา มีคนเขารอหนูอยู่แน่ะ? คุณดวงใจเอ่ยปรามพร้อมกับบอกให้ขึ้นมาด้านบนเพื่อพบแขกคนสำคัญ ตีรณาหันไปย่นคิ้วใส่แป้นก่อนจะเดินขึ้นบ้านไปด้วยอารมณ์ที่ยังขุ่นมัวไม่หาย
แต่เมื่อก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้ายขึ้นมาตีรณาถึงกับยิ้มกว้าง เมื่อมองเห็นใบหน้าแย้มยิ้มของคนสำคัญ ภาวิณีนั้นเมื่อเห็นหน้าหลานสาวคนเล็ก เธอถึงกับตะลึงก็แม่สาวน้อยแสนซนแถมชอบแต่งตัวเป็นเด็กผู้ชายในวันวาน บัดนี้เปลี่ยนแปลงไปจนจำแทบไม่ได้ ทั้งสวยหวาน ทั้งน่ารักน่าทะนุถนอม ยิ่งรอยยิ้มที่หวานจับใจนั้นด้วยแล้ว มีใครบ้างนะที่จะต่อต้านความต้องการครอบครองนั้นได้
?คุณป้า? ตีรณาเดินแกมวิ่งเข้าไปหาอ้อมกอดที่อ้าแขนรอรับเธออยู่แล้วด้วยความรักและคิดถึง
?ต้นข้าวคิดถึงคุณป้ามากเลยค่ะ ไม่ได้เจอตั้งหลายปี คุณป้าน่ะหายไปเลย? ผู้เป็นหลานกล่าวอย่างแสนงอน
?ป้าสัญญานะลูก ว่าต่อไปนี้หนูจะได้เห็นหน้าป้าทุกวันจนเบื่อไปเลยล่ะ? ภาวิณีกล่าวออกมาอย่างมีนัย ก็จะไม่ให้เห็นหน้าทุกวันได้อย่างไร เพราะต่อไปหลานสาวแสนงอนคนนี้ต้องกลายไปเป็นสะใภ้ตระกูลธีระโยธิน
ตกดึกคืนนั้นคุณดวงใจนั่งถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้มอยู่ที่ระเบียงบ้าน ท่านกำลังคิดหาคำพูดที่ดีที่สุดเพื่อบอกกล่าวเรื่องสำคัญที่อาจมีผลกระทบต่อจิตใจของหลานทั้งสองโดยเฉพาะหลานสาวคนเล็ก
?คุณแม่คะ? ภาวิณีเอ่ยเรียกมารดาเมื่อเดินมาเห็นว่าท่านกำลังนั่งเครียดอยู่
?อ้าวแม่ภา?
?คุณแม่กำลังคิดถึงเรื่องที่ภาบอกใช่มั้ยคะ?
?เฮ้อ?ฉันจะบอกเขายังไง ว่าที่เธอมาเนี่ยเพื่อเลือกลูกสะใภ้ ในบรรดาหลานสาวทั้งสี่ ปาลิตา จิตาภา เตชินี แล้วก็ตีรณา คนหลังนี่แม่ไม่มั่นใจว่าจะยอมเป็นตัวเลือกให้เรานะแม่ภา? คุณดวงใจกล่าวออกมาด้วยความรู้สึกหนักหน่วง
ในระหว่างที่ท่านทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ที่มุมหนึ่งของบ้าน ตีรณายืนฟังด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก ร่างบางหันหลังพิงเสาอย่างอ่อนแรง
นี่คือธุระสำคัญของคุณป้าเธอสินะ มาเพื่อคัดเลือกสะใภ้ตระกูลธีระโยธิน
ตีรณารีบเอาข่าวนี้ไปบอกพี่สาว ซึ่งเตชินีก็นั่งนิ่งไม่ไหวติงเมื่อได้ฟังเรื่องที่น้องสาวบอก เธอไม่แสดงอาการใดๆ ทั้งสิ้น ผิดกับคนเป็นน้องที่ผุดลุกผุดนั่ง เดินไปเวียนมาจนน่าเวียนหัว
?โอ๊ย?ทำไงดี? ตีรณาร้องโวยขึ้น จนผู้เป็นพี่ต้องหันไปมองอย่างเอือมระอา อาการร้อนรนเกินเหตุของน้องสาวนี่มันดูจะโอเวอร์ไป
?นี่ นั่งลงสงบสติก่อนได้มั้ยต้นข้าว คุณป้ายังไม่ได้บอกเลยนะว่าจะเลือกใคร อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ได้มั้ย บางทีคุณป้าอาจเลือกลูกปลาก็ได้ เพราะขานั้นน่ะสวย ดูดี เข้าสังคมเก่ง?น่าจะเหมาะกับพี่ภาคิน?
เตชินีเอ่ยปลอบน้องสาวแม้ในใจนั้นก็นึกหวั่นอยู่เหมือนกัน
?แล้วถ้าคนที่โดนเลือกเป็นเราล่ะ?
?ก็แต่งไง อย่าลืมสิว่าท่านมีบุญคุณกับเรานะ ถึงแม้ว่าท่านจะไม่เอาเรื่องนี้มาอ้างแต่เราก็ต้องพึงสำนึกอยู่ดี บุญคุณต้องทดแทนนะต้นข้าว ถ้าไม่มีคุณย่า ไม่มีคุณป้า เราสองพี่น้องก็คงไม่มีวันนี้ ขนาดว่าเราไม่ได้เป็นญาติสายตรงท่านยังเมตตาเราขนาดนี้ แล้วเรื่องแค่นี้ทำให้ท่านไม่ได้เหรอ?
?แต่มันคือความสุขของเราทั้งชีวิตนะพี่ต้นน้ำ? ตีรณาสวนขึ้น
?ต้นข้าวอย่าเพิ่งร้อนตัวได้มั้ย พี่บอกแล้วไงว่ายังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ใจเย็นๆ?
?แต่ต้นข้าวรู้สึกไม่ค่อยดีเลย?
?ทำไม?กลัวว่าจะเป็นคนที่ถูกเลือกเหรอจ๊ะ? เตชินีไม่วายกระเซ้าน้องสาว ก็แม่ตัวยุ่งอยากทำตัวร้อนรนทำไม ตีรณานั้นอึ้งจนพูดไม่ออก ถ้าหากถูกเลือกขึ้นมาจะทำอย่างไร ดันไปลั่นวาจาไว้แล้วว่าคนอย่าเขาจะไม่ได้เห็นขาอ่อนของเธอ แล้วเป็นไง?ถ้าคนที่โชคร้ายเป็นเธอ
มันจะไม่ใช่แค่ขาอ่อนล่ะสิที่เขาจะเห็น?
****************************************************************************************************
เช้านี้เตชินีกับตีรณานั่งหน้าเศร้าอยู่ท่ามกลางสายตาเพ่งเล็งของผู้เป็นย่าและป้า ท่านทั้งสองหันมองหน้ากันก่อนจะหันมาจ้องหลานสาวทั้งสอง
?เอาล่ะ?อย่างที่ป้าบอกพวกหนูเมื่อกี้ ป้ามีหลานสาวทั้งหมดสี่คน และป้าก็เลือกแล้วว่าใครคือผู้โชคดี?
?โชคร้ายสิไม่ว่า?
ตีรณาก้มหน้าแย้งผู้เป็นป้าอยู่ในใจ ก่อนจะเงยหน้ามองสบตาพี่สาว ต่างก็กลุ้มและภาวนาว่าขออย่าให้ใช่ตัวเองเลย ความเงียบเข้ามาครอบงำบรรยากาศรอบกายอีกครั้ง จนคนเป็นพี่ทนไม่ไหวต้องเอ่ยถามผู้เป็นป้าที่เอาแต่นั่งอมพะนำไม่ยอมบอกสักที ปล่อยให้เธอและน้องสาวแทบจะอกแตกตาย ทั้งที่ว่าจะพยายามระงับอารมณ์แล้วนะ
?คุณป้าเลือกใครค่ะ?
เตชินีเอ่ยถามขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศวังเวงและหนาวจิตนั้น ผู้เป็นป้าและย่าหันมาสบตาก่อนที่ภาวิณีจะเอ่ยตอบหลานสาวถึงบุคคลในใจที่เลือกไว้แล้ว เธอมองจ้องหน้าหลานพิจารณาไปทีละคนก่อนจะไปหยุดจ้องคนน้อง?
ตีรณารู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมาดื้อๆ ให้ตายเถอะอย่าบอกนะว่าผู้โชคร้ายคือ?เธอ
?ป้า?เลือก?ต้น?ข้าว?
คำสุดท้ายที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบลิปสติกสีส้มนั้น ทำเอาหัวใจของผู้ถูกเลือกกระตุกวูบก่อนจะดิ่งลงสู่ปลายเท้าและจมหายไปในพื้นธรณี มือทั้งสองของตีรณาที่ถูกยกขึ้นมากำแน่นอย่างลุ้นระทึก ถึงกับร่วงลงข้างลำตัว ใจหายยิ่งกว่าโดนฟ้าผ่าลงมาตรงหน้าด้วยซ้ำ อาการอึ้งตกใจจนช็อคของเธอทำให้บุคคลที่ร่วมสนทนามองด้วยความเป็นห่วง
?ต้นข้าว? เตชินีเอ่ยเรียกน้องสาว รู้สึกสงสารอยู่เหมือนกันแต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไร เมื่อป้าของเธอเลือกไปแล้ว และปฏิเสธไม่ได้เสียด้วย ก็คำว่าบุญคุณมันค้ำคออยู่นี่นา จะเอ่ยปากขอรับแทนน้องก็คงจะไม่ได้เพราะป้าเธอต้องไม่ยอมแน่ๆ ไม่อย่างนั้นท่านจะเจาะจงเลือกทำไม
?โอ๊ยจะบ้าตาย?อยากจะร้องกรี๊ดออกมาดังๆ ทำไม ทำไม๊?
?โอ๊ย?เบาๆ หน่อยได้มั้ยหนวกหู ร้องไปก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ที่จริงเธอน่าจะนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มากกว่าที่จะได้แต่งกับหนุ่มโสดในฝัน ใครต่อใครอิจฉาเธอจะแย่แล้วเนี่ย? จิตาภาเอ่ยกระเซ้าตีรณาที่เป็นทั้งเพื่อนรักและญาติสนิท จึงโดนค้อนเข้าให้อย่างเคืองๆ
?ฉันไม่ต้องการ?
?แต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้ ทำใจเถอะต้นข้าว เอ?ใครหนอที่พูดว่าคนอย่างนายภาคิน ธีระโยธินจะไม่ได้เห็นขาอ่อน ต้าย?งานนี้ได้เสียหน้ากับยัยพวกนั้นตายเลย สงสัยจะโดนทั้งอิจฉาและล้อเลียนแน่ๆ? จิตาภาไม่วายล้อเลียน
?ไอ้เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แต่เรื่องที่ต้องมีสามีชื่อภาคินนี่สิเรื่องใหญ่ การแต่งงานก็เพียงการอุปโลกน์ขึ้น เขาไม่มีทางคิดจะอยู่กับคนที่แม่เขาเลือกให้ตลอดชีวิตหรอก แต่งไปก็ต้องเลิก มิหนำช้ำอาจต้องตรอมใจและอับอายที่เขาเที่ยวไปเรี่ยราดกับหญิงอื่นน่ะสิ?
ตีรณากล่าวออกมาด้วยความรู้สึกขมขื่น ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นเธออาจจะไม่นั่งเครียดขนาดนี้ และเหตุผลของตีรณาก็ทำเอาจิตาภาเป็นกังวลไปด้วย เพราะใครก็รู้ไปทั่วบ้านทั่วเมืองว่าภาคินนั้นเป็นคาสโนว่าตัวยง เปลี่ยนคู่ควงเป็นว่าเล่นพอๆ กับการเปลี่ยนเสื้อผ้าในแต่ละวัน
หากแต่การเปลี่ยนเสื้อผ้ามันก็ต้องมีบ้างที่จะใส่ซ้ำ แต่สำหรับเรื่องผู้หญิงนั้นไม่ใช่ เลิกก็คือเลิก จบแล้วจบกัน ทั้งที่บางคนคบไม่ถึงอาทิตย์ด้วยซ้ำ



******************************************


เรื่องราวความรักแสนเข้มข้นระหว่าง "ภาคิน" หนุ่มนักธุรกิจผู้ที่มีหญิงสาวไม่ขาดมือ แต่กลับโดนแม่บังคับให้แต่งงานกับ 1 ใน 4 หลานสาว และคนแรกที่เขาตัดออกจากตัวเลือกคือ "ตรีณา" สาวทอมผอมโก่งในวัยเด็ก แต่เพราะคำพูดร้ายกาจที่สาวเจ้าเอ่ยลั่นกับเพื่อนว่าให้ตายยังไงภาคินก็ไม่มีทางได้เห็นขาอ่อน ทำให้เขาอยากจะเอาชนะหญิงสาว .. ความรักของพวกเขาจะลงเอยยังไง ติดตามได้ใน "วิวาห์ร้ายลิขิตรัก" .. (อ่านรายละเอียดคลิกที่ปก)

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”