New Release : Devil Girl ยัยตัวร้ายป่วนหัวใจนายจอมเฮี้ยบ

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : Devil Girl ยัยตัวร้ายป่วนหัวใจนายจอมเฮี้ยบ

โพสต์ โดย Gals »

ฉันไม่ใช่ผู้หญิงหวาน
สุภาพสตรี หรือเรียบร้อย...
ฉันไม่ใช่ผู้หญิงเรียนเก่ง
ทั้งงานบ้าน และงานเรือน...
ฉันไม่ใช่ผู้หญิงชอบแต่งตัว
ไม่ว่าจะเป็นชุดเดรสหรือเกาะอก

ฉันเป็นเพียงผู้หญิง
ที่ทุกคนคิดว่าผู้หญิง
เพราะเกิดมาเป็นเพศหญิง...

แม้หลายคนจะส่ายหน้ากับฉัน แล้วบอกว่า ?ให้ไปเกิดใหม่? ก็ตาม
ก็ใครจะสนล่ะ
คิดจะมาหาเรื่องฉันเหรอ...แล้วจะรู้ว่า นรกน่ะมีจริง!


1

ท่ามกลางแสงพระอาทิตย์ยามบ่ายที่ร้อนระอุ ย่านนอกเมืองเกือบจะถึงชนบท เสียงร้องของจิ้งหรีดแว่วมาแต่ไกล ผสานกับเสียงเครื่องยนต์ที่ตะบึงกันอยู่บนท้องถนน ฉันยืนอยู่บนทางเดินเท้า ซึ่งปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่เรียงรายกันเป็นแถว
?อย่าทำฉันเลย!!?
คนตรงหน้าอ้อนวอนด้วยหน้าตาเหมือนจะร้องไห้ แทบจะยกมือไหว้ด้วยซ้ำ แต่ไม่เป็นผล เมื่อฉันยกขาเรียวขึ้นไปเหยียบบนยอดอกหมอนี่ พลางส่งเสียงคำรามใส่ จนอีกฝ่ายต้องยกมือปกป้องใบหน้าจากน้ำลายของฉัน ถุยๆๆ -O-! นี่แน่ะ! บังอาจมาก่อเรื่องทำฉันเสียเวลา
ผัวะ!!!
?โอ๊ย!!?
?ใครสั่งใครสอนให้แกมาทำร้ายลูกน้องฉันฮะ!!?
ฉันฉุดกระชากคอเสื้อหมอนี่ก่อนจะต่อยไปอีกหมัดหนักๆ จนเขาล้มลงก้นจ้ำเบ้ากับพื้น สภาพไม่แตกต่างจากลูกน้องฉันที่กองอยู่ตรงทางเดิน
ขนาดมีเรื่องชกต่อยกันบนทางเดินเท้า ทว่าไม่มีใครจะสนใจพวกเราเลย ตำรวจจราจรก็หายไปไหนไม่รู้ แต่ดีแล้วล่ะ ฉันจะได้จัดการเก็บเจ้าพวกนี้ให้หมดซะที หึๆๆ
ตรงหน้าฉันตอนนี้คือผู้ชายอายุราว 16 ปี อยู่ชั้น ม.4 นอนกองกันเป็นแถวอยู่สามคน เฮ้! ฝ่าเท้าของหมอนั่นโดนหน้านายอยู่น่ะ สกปรกจริงๆ พวกนี้ ดมกันไปได้ไง ฉันแหวะจนจะอ้วกอยู่ละ คิกๆๆ แต่การต่อยคนนี่มันทำให้ได้ผ่อนคลายความเครียดดีจริงๆ
หลังจากจัดการพวกนั้นเสร็จฉันก็เดินเบ่งด้วยการยกไหล่สองข้างท่าทางเหมือนนักเลงหัวไม้ คนภายนอกมักจะเข้าใจว่าฉันเป็นอย่างนั้น แต่ที่จริงฉันแค่ป้องกันตัวเองจากการรุกราน มันผิดตรงไหน พับผ่าสิ! พวกผู้ชายชอบมาหาเรื่องต่อยตีกับฉันเสมอ (แต่ก่อนหน้านั้นฉันอัดพวกมันก่อนนะ -__-)
?เฮ้ย ลุก!?
เจ้าลูกน้องที่นอนแบ็บอยู่ที่พื้นสะดุ้งโหยงเพราะโดนเตะบริเวณสีข้าง รองเท้าฉันไม่ได้ติดหนามไว้สักหน่อย ทำไมต้องทำท่าทางเหมือนเจ็บเจียนตายด้วยฟะ
?ลูกพี่ ผมเจ็บ T^T!?
?ก็บอกให้ลุกไงวะ จะได้กลับบ้าน?
?แต่...แอ้ก!?
มัวแต่อืดอาดอยู่ได้ ต้องโดนลูกเตะเจ้าแม่อีกสักที คิกๆ โอเค ความเครียดที่ต้องทำงานบ้านหายไปเปลาะหนึ่งละ เหลืออีกนิดหน่อย จะระบายกับร่างกายหมอนี่ตรงไหนดีนะ หึๆ
ฉันไม่ค่อยเข้าใจผู้ชายสมัยนี้เท่าไหร่เลย เอะอะก็ชกต่อยกัน แต่สุดท้ายก็แพ้ยับเยิน กลับมาร้องไห้ แล้วมาขอให้ฉันช่วย ทำให้ฉันต้องรีบถ่อมายังจุดเกิดเหตุอีก
ในที่สุดฉันก็ลากคอเสื้อเจ้าลูกน้องขึ้นมา อืม...จะว่าไป หมอนี่ก็ไม่ใช่คนที่ชอบไปหาเรื่องคนอื่นก่อนหรอกนะ แต่เพราะ...
ใบหน้าขาวซีด มีกระตรงแก้ม ท่าทางเจี๋ยมเจี้ยม ดูยังไงก็น่าแกล้งเป็นที่สุด แถมตัวเตี้ยอีกต่างหาก สูงแค่หนึ่งร้อยหกสิบเองมั้ง ซ้ำยังชอบใส่เสื้อตัวใหญ่หลวมโพรก (เปิดไหล่ข้างหนึ่งด้วยแหละ -O-) ดูบอบบางชะมัด ให้ความรู้สึกว่าน่าจับมาลงไม้ลงมือตุ้บตั้บซะที ฮี่ๆ ไม่แปลกเลยที่จะโดนพวกนักเลงแถวนี้หาเรื่อง -_-^ ก็อ่อนแอเองนี่นะ ช่วยไม่ได้
เมื่อก่อนฉันก็ไม่สนิทกับหมอนี่เท่าไหร่หรอก แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นซี้ปึ้ก ไม่รู้ว่าเป็นคราวซวยรึเปล่า เวลาหมอนี่โทรมาทีไรต้องมีเรื่องให้ฉันช่วยทุกที เช่นวันนี้...เจ้าลูกน้องแค่เดินเสียบหูฟัง กำลังจะกลับบ้าน อีกแค่ไม่กี่ป้ายรถเมล์ก็จะถึงแล้วเชียว แต่ดันเจอพวกนักเรียนซึ่งทำตัวเหมือนนักเลง -_-; มาหาเรื่องซะได้
หมอนี่ไม่ทำอะไรเลย รีบวิ่งหน้าตาตื่น คว้าโทรศัพท์โทรเรียกฉันทันที โชคดีที่ฉันกำลังยืนต่อแถวซื้อปาท่องโก๋กะน้ำเต้าหู้อยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุเท่าไหร่นักเลยมาช่วยได้ทัน
?ขอบคุณมากครับลูกพี่ T^T?
โป๊ก!!!
ฉันเขกหัวมันไปหนึ่งที โทษฐานอ่อนแอ ทำตัวปวกเปียกไปได้ ไอ้นี่กากจริง ส่วนเจ้าลูกน้องก็ขยับเสื้อยับยู่ยี่ให้เข้าที่ พลางทำปากแบะเหมือนจะร้องไห้
ฉันทนไม่ไหวเลยเข้าไปช่วยถือกระเป๋าให้ อนาถใจจริงๆ ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงดูอ่อนแอแบบนี้
เจ้านี่ชื่อ ?ช่วงช่วง? ชื่อนี้กลายเป็นฮิตระเบิด ถ้ามันเกิดตอนยุคแพนด้าดัง ฉันจะไม่ตกใจเลยนะ แต่...-*- มันเกิดก่อนแพนด้านานโข เวลาดูหน้าเจ้านี่บางที ฉันยังเห็นเป็นแพนด้าลอยละล่องเลย คิกๆ ฉันชอบเรียกไอ้เชื่อง เพราะมันเหมือนหมาผู้ซื่อสัตย์มาก หึๆ
ระหว่างที่ฉันกำลังปัดกระเป๋าที่เปื้อนฝุ่นให้ช่วงช่วง ผู้ชายสามคนที่โดนฉันอัดจนกองร่วงอยู่ที่พื้นก็ค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้น พวกมันเดินโซเซจนเกือบจะตกถนน อยากไปเยี่ยมยมบาลมั้ย เดี๋ยวฉันสงเคราะห์ให้ คิกๆ กำลังจะยกขาเตะมันให้ทรุดล้มไปอีกรอบละ แต่กลับถูกชี้หน้าพร้อมตะโกนลั่น จนฉันต้องเอี้ยวตัวหลบน้ำลายที่พุ่งกระจายแทบจะกระเด็นโดนหน้าเสียก่อน
อะไรพี่แกจะฟองฟอดขนาดนี้ -.,-
?นังปีศาจ อย่างแกขายไม่ออกแน่!!!!! ยัยบ้าเอ๊ยยย!!!!!!!!?
?ไอ้หมอนี่!?
?อย่าเพิ่งลูกพี่ TOT!!!!!!!?
ช่วงช่วงดึงแขนเสื้อฉันไว้ด้วยพลังอันน้อยนิด พวกมันสามตัววิ่งไปอีกด้านแล้ว ในขณะที่ฉันกำลังย่ำเท้าตึงตังกับพื้นด้วยความไม่พอใจ บังอาจมาด่าฉันได้
เอาเถอะ วันนี้เหนื่อย อัดกับผู้ชายมาสามคน พักผ่อนดีกว่า ให้คนพวกนั้นปากเปราะได้แค่ด่าฉันก็พอ พวกผู้ชายอ่อนแอ สู้ฉันไม่ได้ ต้องใช้ฝีปากแทน หึๆ
?หูฟังเสียมั้ย?
?ไม่ฮะ?
ช่วงช่วงตอบพร้อมกับสำรวจหนังสือวิชาเคมีของ ม.4 ที่เพิ่งเรียนพิเศษมา ขยันจริงๆ เลย หมอนี่เรียนเก่งมาก แน่นอน ^O^~ ฉันก็ได้รับผลพลอยได้ด้วย เพราะสามารถจะจิกหัวใช้ช่วงช่วงให้ทำงานอะไรก็ได้ สั่งปุ๊บได้ปั๊บ สมองหมอนี่อัจฉริยะแท้ๆ เรียนแค่ ม.4 แต่สามารถทำการบ้านของ ม.5 ได้ด้วย เปิดเรียนมาอาทิตย์เดียว ฉันก็ขนหนังสือไปกองไว้ที่บ้านเขาเต็มไปหมด ช่วยกันทำมาหากิน ให้ฉันรอดพ้นจากอาจารย์สุดโหดทั้งหลาย
?เออ ไอ้พวกนั้นคงไปแล้วแหละ งั้นฉันไปก่อนนะ?
?ลูกพี่ T^T?
ช่วงช่วงทำปากแบะเหมือนจะร้องไห้ สายตาละห้อย พร้อมใบหน้าเฉาๆ ทำให้ฉันต้องชะงักขาที่กำลังจะก้าวเดิน อ๊ากกกกกก!! ฉันไม่ได้ใจอ่อนนะ แต่กลัวมันจะแกล้งฉันคืนด้วยการทำการบ้านให้ช้าน่ะสิ ถ้าแบบนั้นต้องโดนอาจารย์สุดเขี้ยวหักคะแนนแน่
สุดท้ายฉันก็ยอมเอ่ยปากจนได้ว่า...
?เออ เดี๋ยวไปส่ง?
ว่าแล้วก็หิ้วกระเป๋าพาดบ่า เดินนำไปทางเข้าหมู่บ้านซึ่งอยู่เยื้องไปอีกสองป้ายรถเมล์ แดดในกรุงเทพมหานครมันเบาซะที่ไหนล่ะ ฉันปาดเหงื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า เสื้อสีดำลายกะโหลกตัวเก่งกับกางเกงยีนขาสั้นเท่าเข่าเปียกชุ่มไปหมด ส่วนช่วงช่วงเดินฮัมเพลงสบายอารมณ์ มั่นใจว่าจะปลอดภัยจากพวกนักเลงแน่นอน
ฉันรู้จักกับหมอนี่เมื่อสองปีที่แล้ว ตอนนั้นฉันกำลังเล่นบาสฯ อยู่ตรงสนามหลังโรงเรียน สักพักก็มีเสียงเอะอะโวยวาย ที่แท้ช่วงช่วงไปทำน้ำแดงหกเลอะใส่ขาพวกเด็ก ม.6 ซึ่งมีอิทธิพล ชอบจับกลุ่มอยู่ตามโรงอาหารในเวลากลางวัน และป้วนเปี้ยนแถวสนามบาสฯ ตอนเย็น
ช่วงช่วงแทบจะร้องไห้ต่อหน้าคนนับร้อย เพราะโดนพวกเด็ก ม.6 ล้อมเอาไว้น่ะสิ
อันธพาลครองเมืองมีทุกยุคจริงๆ เฮ้อ...
ฉันก็เลยปล่อยให้หมอนั่นโดนอัดไปสักสองสามทีก่อน เสียงแหกปากดังลั่น แต่ตอนนั้นยังไปช่วยไม่ได้หรอก ต้องชู้ตลูกสามคะแนนให้ได้เพื่อจะอวดชาวบ้าน หึๆ ฉันวิ่งฝ่าพวกผู้ชายซึ่งตัวสูงกว่าเป็นสิบๆ เซ็นต์ แล้วกระโดดทำคะแนนได้ แค่นั้นแหละ...ก็เยาะเย้ยเจ้าพวกนักบาสฯ อ่อนด้อย แล้วเดินลิ่วๆ ไปจัดการกับพวกชอบรังแกคนอื่นทันที
ตั้งแต่นั้นช่วงช่วงก็ติดฉันเป็นตังเม ยังกะหมาน้อยเดินตามเจ้าของ แรกๆ ก็รำคาญอิ๊บอ๋าย หลังๆ เริ่มชิน พอเข้าใจสภาพชีวิตนายคนนี้แล้วก็สงสารยังไงไม่รู้
?พวกนั้นจะมาแกล้งผมอีกมั้ยอ่ะลูกพี่ T^T?
อย่าปาดน้ำตาต่อหน้าฉันนะเฟ้ย -_-^ รับไม่ได้สุดๆ ทำไมนายนี่อ่อนแอได้ขนาดนี้นะ ฉันอยากจับไปเข้าค่ายชกมวยสักอาทิตย์เผื่อจะแกร่งขึ้นจัง แต่กลัวมันไปตายอนาถเสียก่อน
?เออ เดี๋ยวฉันไปส่งถึงหน้าบ้าน =_=?
?ขอบคุณฮะ?
เอากะมันสิ ไม่คิดเหรอฟะว่าฉันประชด วันๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากมาตามอัดคนให้แล้วก็พาไปส่งบ้าน นี่ล่ะวัฏจักรชีวิตฉัน
ฉันเดินย่ำเท้าด้วยความเร็วสูง ไม่อยากตากแดดนาน เดี๋ยวดำ...เห็นฉันไม่ค่อยสนใจอะไรเท่าไหร่ แต่คงจะยกเว้นเรื่องผิวซึ่งมันขาวผ่องอย่างกับสีขาว -_-; ฉันไม่รู้จะเปรียบกับอะไรดีน่ะ เอาง่ายๆ แบบนี้เลยละกัน
ใช้เวลาไม่นานนักเราสองคนก็มาหยุดอยู่ตรงทางเดินเข้าหมู่บ้าน มีป้ายสีทองอร่ามขนาดใหญ่ สลักด้วยตัวหนังสือสีดำบ่งบอกชื่อสถานที่ มีป้อมยามอยู่ตรงทางเข้า ที่จริงฉันจะส่งมันตรงนี้ก็ได้นะ แต่กลัวไอ้หมอนี่จะแกล้งด้วยการทำการบ้านเขี่ยๆ มาให้ คงจะไม่ดีแน่
ฉันเดินตัดผ่านสวนหย่อมขนาดเล็กในหมู่บ้าน ประกอบไปด้วยม้านั่ง ต้นไม้ นกพิราบ -_- สามสิ่งนี้มักจะอยู่คู่กันเสมอ ขนาดช่วงช่วงเดินผ่านยังมีนกพิราบบางตัวอยากจะบินมาจิกเลย คิดดูกับความอ่อนแอของมัน
?ถึงแล้ว?
?เออ?
ฉันจะได้กลับไปนอนอ้อยอิ่งสักที นี่มันบ่ายสองแล้วนะโว้ย
?ขอบคุณฮะลูกพี่เจส ^O^?
?มัวแต่อ้อยอิ่ง จะเข้าบ้านเองหรือให้ฉันถีบหา!??
แค่นั้นแหละ ช่วงช่วงก็ผลุบหายเข้าบ้าน ล็อกกลอนเสร็จสรรพ ทำไมทีหนีไอ้พวกเด็กเกเรไม่เร็วแบบนี้บ้างฟะ แค่นั้นก็รอดได้แล้ว
บ้านหมอนี่หลังใหญ่จริงๆ บ้านเดี่ยวสามชั้น ผนังสีฟ้าอ่อนตัดกับหลังคาสีน้ำตาลเข้ม ด้านบนทำเป็นหอคอยขนาดเล็กตรงมุมด้านขวา เพราะช่วงช่วงชอบมาส่องดูดาว คุณหนูดีมั้ยล่ะงานอดิเรกมัน -_- หน้าบ้านมีพื้นที่สำหรับจอดรถ ซึ่งมีรถยุโรปราคาหลายล้านราวสี่คัน ได้ข่าวว่าอยู่กันสามคน =.,= (ไม่รวมคนใช้นับสิบ ไม่รู้จะมีเยอะไปทำไม ในเมื่อไอ้ช่วงก็ไม่ได้กินข้าววันละสิบมื้อ แล้วก็ขี้เรี่ยราดให้ตามเก็บซะหน่อย)
สรุปง่ายๆ คือ ฉันอิจฉาความรวยของหมอนี่อย่างออกนอกหน้า ต้องรีบเดินไปนอกหมู่บ้านก่อนรัศมีความริษยาจะพวยพุ่ง
ถ้าจำไม่ผิด เหมือนหมอนั่นเคยบอกว่าบ้านตัวเองแค่ราคากลางๆ เท่านั้นถ้าเทียบกับหลังอื่นๆ ในหมู่บ้านนี้ มีบ้านหลังใหญ่กว่านี้ตรงท้ายสุดของหมู่บ้าน เรียกได้ว่าเป็นคฤหาสน์เลย แต่ฉันไม่สนใจหรอก ขอแค่ฐานะแบบช่วงช่วงก็พอแล้ว ชิ!
ฉันเดินล้วงกระเป๋ากางเกง เตะกระป๋องเปล่าตรงพื้นเล่นแก้เซ็ง -_- อยากจะรวยบ้าง จะใช้เงินให้เป็นเศษกระดาษเลย คอยดู
เคร้ง!
หืม O_O!!! ฉันเบิกตาโต ปากเผยอขึ้นด้านบนต้านทานแรงโน้มถ่วงของโลก ถ้ามีกระจกตรงหน้าคงจะสะท้อนสภาพผู้หญิงแสนอุบาทว์ที่ไม่สงวนท่าทีเอาไว้บ้างเลย
เอี๊ยดดดดด!!!!!!
รถสีดำสนิท โหลดต่ำจนล้อรถแทบจะติดกับพื้นถนน กระจกติดฟิล์มดำมองไม่เห็นคนด้านใน ท้ายกระโปรงยังติดทะเบียนป้ายแดง ที่สำคัญคือ...เจ้ากระป๋องที่ฉันเตะเมื่อกี้มันกลิ้งหลุนๆ ออกจากกระโปรงหน้าซึ่งตกแต่งด้วยลวดลายแปลกๆ เต็มคันน่ะสิ
เอ่อ...ทำยังไงดีล่ะ...
วิ่งสิคร้าบบบบบบบ!!!
รถนั่นไม่รู้ว่ายี่ห้ออะไร แต่ดูจากรูปทรงแล้วน่าจะราคาหลายล้าน ฉันจะมีปัญญาจ่ายได้ไงล่ะวุ้ย ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองทำอะไรน่าเกลียดแบบนี้ เห็นแก่ตัวชัดๆ แต่คิดอย่างอื่นไม่ออกแล้วจริงๆ
โชคดีที่ฉันเป็นแชมป์วิ่งมาก่อน แข่งชนะผู้ชายในโรงเรียนด้วย แต่...ฉันเป็นแค่คนธรรมดา แถมเพศหญิง คงจะสู้ความเร็วของรถที่พุ่งมาจอดอยู่ตรงหน้าฉันไม่ได้หรอกใช่มั้ย T_T
?แฮ่กๆ?
ฉันยืนหอบหายใจด้วยความเหนื่อย ปาดเหงื่อตรงบริเวณหน้าผากหนึ่งครั้ง พร้อมกับแลบลิ้นหอบแฮกๆ ถ้าดูเผินๆ นี่คือลูกหมาชัดๆ -_-^
แกร๊ก... เสียงเปิดประตูรถทำเอาขนแขนฉันลุกตั้งชันไปหมด
รองเท้าหนังสีดำขลับ พร้อมกับกางเกงสแล็คสีเดียวกันเยื้องกรายลงมาจากรถทางฝั่งประตูคนขับ ผู้ชายร่างสูง ผมสีดำสนิทเสยขึ้นไปเผยให้เห็นหน้าผากเกลี้ยงเกลา สวมแว่นกันแดด เสื้อเชิ้ตสีดำพับแขนถึงข้อศอก ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ไม่ใช่เวลาที่ฉันจะมาชื่นชม เมื่อหมอนั่นหันตัวมาทางทิศที่ฉันยืนอยู่เตรียมพร้อมจะเดินมาหาเรื่องเต็มที่
ฉันกำลังจะออกวิ่งต่อ แต่ถูกแรงกระชากจนเซถลาไปด้านหลัง โชคดีที่ยึดตัวกับต้นไม้แถวนั้นได้ทัน ไม่ล้มไปกองกับพื้นให้ขายหน้า
?เธอ...? เสียงเรียบดังขึ้น
ไม่ใช่แค่ขนแขนที่ตั้งชันเท่านั้น แต่ขนหัวก็ลุกซู่กันเกรียวกราว >.,<
ฉันบิดแขนไปด้านหลัง พลิกตัวไปประมาณสี่สิบห้าองศา กะไปแบบนั้นแหละ ฉันไม่รู้หรอกว่ามันประมาณเท่าไหร่ ต่อจากนั้นก็หันขวับ เงื้อหมัดขึ้นเต็มแรง
ผัวะ!!!
ผู้ชายตรงหน้าเบนแก้มหลบได้อย่างง่ายดาย มืออีกข้างของเขาบิดฝ่ามือฉันเล็กน้อยจนมันเจ็บไปหมด โอ๊ย! T^T! ถ้าฉันมีแรงคงสู้นายนี่ได้อยู่แล้ว แต่นี่หมดแรงข้าวต้มเพราะเพิ่งอัดเจ้าสามตัวนั้นมา นายนี่! ผู้ชายบ้าอะไรเนี่ยทำร้ายผู้หญิง
?เอ่อ -_- มือมันกระตุกน่ะ แหะๆ?
แก้ตัวน้ำขุ่นๆ =_= แต่หมอนี่กลับกระตุกยิ้มที่มุมปาก แลดูเหมือนซาตานชะมัด ฉันพยายามหาทางหนีทีไล่ แต่ทว่าเขากลับขยับปากเพียงเล็กน้อย แต่เสียงที่แผ่วออกมาแทบจะกระชากวิญญาณฉันไป
?รถเป็นรอย...ค่าเสียหายสามหมื่น?
?เฮ้ย!! O_O!?
จะบ้าเรอะไงฟะ ส...สามหมื่น ฉันจะมีจ่ายได้ไง แล้วหมอนี่มีอาชีพเป็นประกันเหรอ ถึงตีราคาได้แม่นราวกับจับวาง ชอบมั่วนี่หว่า
ฉันได้ค่าขนมวันละห้าสิบบาท ปกติฉันไม่ค่อยเก่งเลข แต่ดันคำนวณได้เร็วเป็นบ้าเลยว่าทั้งเดือนก็แค่หนึ่งพันห้าร้อยบาท แล้วจะหาเงินจากไหนตั้งมากมายมาจ่ายค่าซ่อมรอยกระจิริดตรงกระโปรงหน้าล่ะนั่น T^T
ต้องโทษไอ้ช่วงช่วง อ๊ากกกกก!! ถ้าไม่เดินมาส่งมันหน้าบ้านก็ไม่เกิดเรื่องแบบนี้ ฉันจะทำยังไงดีนะ วะว้อย!! คิดไม่ออกเลย
?มานี่...?
หมอนั่นก้าวขาเข้ามาใกล้...ฉันอยากจะถอยหนี แต่กลับไม่มีแรง ทั้งที่เห็นกิ่งต้นไม้ใหญ่ท่าทางจะปีนออกไปนอกหมู่บ้านได้ ทว่าขากลับก้าวไม่ออก
ทำไมฉันถึงรู้สึกเพลียแปลกๆ นะ ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว สงสัยเป็นเพราะอยู่ดูทีวีเป็นเพื่อนแม่จนดึก แม่ชอบดูละครผี เรื่องอะไรก็ได้ที่มีตัวละครผู้หญิงผมยาวหน้าเละ แต่ไม่กล้าดูคนเดียว พ่อก็ต้องตื่นไปทำงานแต่เช้าจึงต้องนอนแต่หัวค่ำ เลยเหลือแค่ฉันที่รับบทเป็นผู้เคราะห์ร้าย
พอมาวันนี้ก็ไปช่วยแม่ขายของตั้งแต่เช้า ตั้งแต่เข็นรถเข็นออกจากบ้าน ยันเก็บร้าน ตอนบ่ายก็เจอไอ้เชื่อง -*- เรียกให้มาช่วย แล้วก็เดินตากแดดร้อนหลายสิบนาที (โดยไอ้ช่วงไม่เป็นอะไร เพราะมันหยิบร่มพับที่พกไว้ออกมากางกันแดด ดูมัน -_-) ฉันก็เริ่มครั่นเนื้อครั่นตัว แต่ไม่ได้คิดอะไร
สุดท้าย...พอมาเจอนายนี่...ฉันก็รู้สึกคลื่นไส้เพราะกลิ่นน้ำหอมที่ชวนให้ปวดจมูกของเขา อยากจะอ้วกเต็มที แต่ต้องฝืนกลั้นไว้ ทั้งปวดมวนในท้อง ปั่นป่วนไปหมด
และ...ฉันก็ทนไม่ไหว...
?อะไรกัน...?
ฉันล้มทั้งยืน แพขนตาทาบกันสนิท ภาพสุดท้ายที่เห็นคือหมอนั่นถอดแว่นกันแดดออกแล้วจ้องมาที่ฉันเท่านั้น ให้ตายเถอะ...นายช่วยแสดงอาการว่าตกใจสักนิดได้มั้ยเนี่ย...
โอย...เหมือนหลังฉันกระแทกพื้นหญ้าด้วยล่ะ แทนที่เขาจะช่วยรับตัวฉันไว้ หมอนี่แล้งน้ำใจชะมัดเลย...

***********************************************************************************************************

เรื่องราวของเจ้าแม่นักบู๊ที่เก่งกาจการต่อสู้อย่าง ?เจส? ที่อยู่ดีๆ ก็ต้องกลายไปเป็นแฟนกำมะลอของหนุ่มหล่อมาดไฮโซอย่าง ?เช็ง? เพียงเพราะไม่มีเงินชดใช้ค่าเสียหายที่ไปทำรถยนต์ราคาแพงเว่อร์ของเขาเป็นรอย แค่ต้องแอ๊บเป็นกุลสตรีแสนเรียบร้อยต่อหน้าแม่นายเช็งก็อึดอัดจะแย่ ยังต้องมารำคาญใจกับแม่ว่าที่คู่หมั้นของเขาที่ตามระรานเธอไม่หยุดอีก... เจสจะรับมือกับเรื่องราวแสนปวดหัวนี่ยังไง ไปติดตามอ่านกันได้ในเล่มเลยค่ะ โดยสามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป และร้าน 7-11 หรือสั่งซื้อทางเว็บไซต์ http://www.bongkoch.com/catalog/product ... ts_id=7961

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”