New Release : ชมรมรักคลับมหาสนุก~เต็มสูบ~

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : ชมรมรักคลับมหาสนุก~เต็มสูบ~

โพสต์ โดย Gals »

1

ณ ชั้นบนสุดอาคารเรียนทิศใต้ สุดระเบียงทางเหนือ โดยปกติแล้วในยามนี้คงจะแว่วเสียงสรวลเสของบรรดาคุณหนูทั้งหลายมาแต่ไกล ทว่าวันนี้มันกลับเงียบงัน
ก็ควรจะเป็นเช่นนั้นอยู่หรอก เนื่องด้วยวันนี้เป็นการประชุมเฉพาะสมาชิกชมรม ไม่ได้เปิดทำการตามปกติ กระนั้นแม้จะไม่ได้อยู่ต่อหน้าแขกแล้วก็ตาม สมาชิกชมรมทั้งหลายก็ยังคงเร่าร้อนไม่ต่างจากเวลารับแขก แลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างออกรสชาติ
ทั้งใจทุ่มเทเพื่อรอยยิ้มของคุณในวันพรุ่งนี้
เมื่อเปิดประตูเข้าไป คุณจะได้พบกับ....

? ? ?

?เอาออกแนวแฟนตาซี เป็นเอลฟ์หรือพ่อมดไรงี้ดีกว่าน่า?
?ฮิคารุ หมู่นี้อยู่บ้านเอาแต่จับจอยเกมไม่ปล่อยเลยนี่นะ?
?หัวหน้าเองก็ได้ดูแล้วนี่ งามล้ำขนาดเลยใช่ม้า ขอเลย อันนี้เด็ดมาก?
?ไอ้ที่ปั๊มเวลแบบไม่เห็นอนาคตกันน่ะนะ... รุ่นพี่โมริเป็นนักดาบเป็นไง??
?....นักรบยุคสงครามกลางเมืองก็ดีนะ?
?โอ้~ สไตล์ญี่ปุ่นเองนี่ก็มองข้ามไม่ได้เลยเหมือนกันแฮะ งั้นผมกับคาโอรุเป็นนินจานะ!?
?แต่ผมว่า ถ้ายุคนั้นล่ะก็ คาบุกิก็โดนอยู่ใช่ย่อยน้า~ ?เรื่องผีโยทสึยะ? นี่ก็หนุกมากๆ เลยเนอ~ะ?
?เดี๋ยวนี้การแสดงมหาชนอย่าง ?ละครเวที? ก็เรียกความสนใจจากผู้ชมได้โขอยู่ ลองแนวนั้นก็อาจจะไม่เลวก็ได้นะ?
?ครับคร้าบ! งั้นทำเป็นละครเพลงไปเลยมั้ยล่ะ? ?เล มิเซราบ? หรือ ?แอนนี่? อะไรเงี้ย ฮารุฮิชอบแนวไหนล่ะ??
?....นี่ๆ คาโอรุ ดูเอาก็น่าจะเดาได้ไม่ใช่เรอะไง บอร์ดมันล้นแล้วนะเฮ้ย!?
ฮารุฮิหยุดมือและหันหลังให้กับกระดานดำที่แน่นเอี้ยดหลังจากเริ่มประชุมไปได้ไม่ถึงสิบนาทีดี ด้วยความที่แต่ละคนออกความเห็นรับส่งกันถี่ยิบราวกับซอยกะหล่ำปลีก็ไม่ปาน เธอถอนใจ
(ถ้าให้ดูแต่คำศัพท์ที่อยู่บนกระดานดำนี่ ให้ตายก็ไม่มีทางเดาได้ว่าประชุมอะไรอยู่กันแน่)
เพราะเป่ายิ้งฉุบแพ้ ฮารุฮิจึงจำต้องรับหน้าที่เขียนกระดาน แต่กระนั้น การที่มีสมาชิกแบบนี้คนบันทึกคนเดียวดูท่าจะไม่เพียงพอ
?กุหลาบ? ?มารีอังตัวเน็ต? ?รปภ.? ?ปราสาท? ?แหวน? ข้อความบนกระดานราวกับเกมทายคำที่หาจุดเชื่อมโยงไม่ได้ และเพราะไม่อาจคาดเดาว่าเนื้อหาต่อไปจะเป็นอย่างไรนี่แหละ ยิ่งทำให้เธอเหนื่อยหนักกว่าเดิมเสียอีก
(เอ... วันนี้ดูรุ่นพี่ทามากิไม่ค่อยออกความเห็นเหมือนทุกทีเลยแฮะ)
ปกติแล้วโฮสต์คลับนี้ ทามากิจะเป็นคนออกแบบชุดที่จะใช้รับแขก แล้วให้เคียวยะเป็นคนร่างแบบวางแผน จากนั้นค่อยให้แต่ละคนแต่งเติมส่วนของตัวเองเอาเอง แต่ทำไมวันนี้เขาจึงเอาแต่เออออกับความเห็นของคนอื่นอย่างเดียวกันนะ
(เป็นอะไรไปนะ ไม่สบายรึเปล่าเนี่ย?)
เมื่อเธอชำเลืองไปยังที่นั่งซึ่งเยื้องไปทางด้านหน้าก็สบเข้ากับดวงตาสีม่วงจางพอดี
(เอ๊ะ ว้าย)
ทันใดนั้นหัวใจของฮารุฮิก็บีบตัวแน่นจนแทบหายใจไม่ออก แล้วในอึดใจถัดมาหัวใจก็เต้นระรัว
(เอาอีกแล้ว ใจเต้นเร็วแบบนี้)
ตั้งแต่พวกนักเรียนปี 2 กลับมาจากค่ายทัศนศึกษา จู่ๆ ฮารุฮิก็มีอาการใจเต้นไม่เป็นจังหวะอย่างนี้ขึ้นมาเป็นพักๆ แม้จะผ่านไปหลายวันอาการก็ดูจะไม่บรรเทา พานจะกินข้าวไม่ลงเสียด้วยซ้ำ รึนี่จะไม่ใช่อาการของหวัดธรรมดา
ขณะที่กำลังสับสนกับอาการของตัวเองอยู่นั้น คราวนี้แก้มของเธอก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอีก
(สะ...สงสัยเลือดลมจะเดินไม่ค่อยดีแฮะ....!)
เพราะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองนี่แหละถึงได้ยิ่งเสียเซลฟ์ จะปล่อยเอาไว้แบบนี้คงไม่ดี ในสถานการณ์แบบนี้คงต้องทำอะไรสักอย่างก่อน....พอคิดอย่างนั้นก็เลยเผลอหลบสายตาจากทามากิ
ไม่รู้ว่าเขาตีความสีหน้ายุ่งยากใจของฮารุฮิที่เอาแต่นิ่งเงียบว่าอย่างไร แต่มีน้ำเสียงอ่อยแผ่วขึ้นมาว่า ?ขอโทษ? ครั้นพอเธอรีบเงยหน้าขึ้นมาอย่างลนลานเมื่อได้ยินประโยคนั้น ตาก็สบเข้ากับทามากิที่ยิ้มเจื่อนๆ อย่างจัง
?พูดน้ำไหลไฟดับเกินไปสินะ พอดีว่าไม่ได้คิดชุดใหม่ของชมรมมาตั้งนานก็เลยอยากจะให้ทุกคนมีส่วนร่วมน่ะ?
(อ้อ อย่างนั้นเองเหรอ)
ฮารุฮิคลายสงสัยเมื่อได้เห็นแววตาเอาจริงเอาจังของทามากิ
แต่ไหนแต่ไรแม้กระทั่งตอนนี้ คนที่ฉุกใจกับอะไรที่มันเล็กน้อยแต่สลักสำคัญและกล่าวออกมาเป็นคำพูดได้อย่างเขานั้น มันช่างดูมีรัศมีเจิดจ้าอย่างบอกไม่ถูก พอคิดอย่างนั้นแล้วก็พอเข้าใจที่มาของอาการประหลาดทั้งหลายที่เกิดขึ้นในระยะนี้ อาการของเธอคงเป็นอาการของภูมิแพ้อย่างหนึ่ง เหมือนภูมิแพ้ของบางคนที่เห็นพระอาทิตย์จ้าแล้วคัดจมูก
?เรื่องนั้นฉันทราบ....?
?ของมันแน่อยู่แล้ว?
เสียงของฮารุฮิที่พยักหน้ารับอย่างโล่งใจถูกเสียงของเคียวยะที่แทรกขึ้นกลบเสียมิด เขาทำท่าเหมือนนึกอะไรบางอย่างได้
เคียวยะถือแฟ้มประจำตัวด้วยมือข้างหนึ่ง และปรายยิ้มออกมา เบื้องหลังเป็นออร่าดำทะมึนต่างไปจากโหมดยักษ์มารหรือจอมมารจุติอย่างทุกครั้ง แต่ไม่รู้ว่าแกล้งพาซื่อ หรือมองไม่เห็นออร่าของเคียวยะจริงๆ ทามากิถึงได้ตอบรับอย่างหน้าชื่นตาบานอย่างนั้น
?ใช่มะ? ใช่มั้ยล่ะแม่!?
แต่นั่นก็เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น รอยยิ้มของทามากิเหือดไปภายในอึดใจเมื่อได้ฟังประโยคถัดมาจากเคียวยะ
?รวมกับที่หยุดท่องเที่ยวไปด้วยแล้ว จะเตรียมงานหรืออะไรก็ไม่รู้ล่ะ แต่ไม่ได้รับแขกมาปาเข้าไปตั้งสองอาทิตย์แล้วนี่นะ มันก็สมควรจะเรียกว่าตั้งนานจริงๆ นั่นแหละ หนำซ้ำตลอดครึ่งเดือนที่ว่ายังทำเนียนกับสมาชิก พอตกกลางคืนก็แอบพักโรงแรมหรูแล้วเอนจอยภัตตาคารตลอดแทบทุกคืนซะด้วยสิ?
?เรื่องนั้นโทษทีจริงๆ น่า?
?ทามากิก็รู้จักสำนึกผิดกับเขาเหมือนกันนี่นะ เพราะอย่างนั้นถึงได้ใช้แผน ?ทุกคนมีส่วนร่วม? แบบนี้ ...ไม่ต้องห่วงหรอกน่าทามากิ ทุกคนเขารู้ไต๋นายกันหมดนานแล้วล่ะ?
?หมายความว่าไงฟะ!??
(รุ่นพี่เคียวยะนี่ ที่จริงแล้วโหดไม่ฮาเลยสินะ....)
ฮารุฮิคิดอยู่ในใจ ขณะที่มองทามากิซึ่งพยายามจะค้านด้วยสีหน้ายับยู่
(เอาเถอะ อย่างน้อยก็แปลว่าสื่อกันรู้เรื่องแหละ)
แม้แต่ฮารุฮิเองก็ไม่คิดว่าคำพูดของทามากินั้นเตี๊ยมมาก่อนแล้ว ถ้าเป็นสมัยเพิ่งเข้าชมรมใหม่ๆ ล่ะก็คงจะไม่ทันรู้ แต่พอชักจะรู้นิสัยของคนคนนี้แล้วก็คงจะไม่มีวันเข้าใจผิดได้อีก และนั่นก็ไม่ใช่แต่เธอเท่านั้น
(ถึงได้เอาซะเต็มที่เลยสินะ)
ฮิคารุลุกพรวดขึ้นจากที่นั่งพร้อมกับคาโอรุ ทั้งสองเดินไปประกบทามากิแล้วก็วางมือลงบนบ่าคนละข้างพร้อมๆ กัน
?ช่ายช่าย ตามที่รุ่นพี่เคียวยะพูดเป๊ะ หายห่วงน่า?
?พวกเราเข้าใจความรู้สึกของหัวหน้าดี๊~ดีเลยล่ะ?
?ก็หัวหน้าเนี่ย ทิ้งทวน.....ก่อนไปทัศนศึกษาด้วยผ้าเตี่ยวนี่นะ....?
?แถมยังยืนข้างคณะปี่สก็อตช์ที่นุ่งกระโปรงลายตารางแบบทาร์ทันอีกต่างหาก!?
?มันก็ ต้องอยากยืดอวดสาวมั่งสินะ?
ทั้งคู่รับส่งกันอย่างลื่นไหลก่อนจะโพล่งหัวเราะออกมาแบบสุดกลั้น ทามากิที่อยู่ระหว่างทั้งสองคนได้แต่ตัวสั่นเดือดปุดๆ
?ไอ้พวกนี้นี่....อย่ามาสมทบกันหัวเราะกรอกหูอย่างนี้นะเฟ้ย!?
?วะฮ่าฮ่า?
?เคียวยะ คนเดียวก็ไม่ได้เฟ้ย!!?
?....ท้องเสีย?
?ระ...รุ่นพี่โมริ??
?จริงด้วยเนอะ~! ข้ออ้างโดดร่มตอนไปทัศนศึกษาของทามะจังคือ ?ท้องเสียรุนแรง? นี่นา แบบนี้ต้องไปปรากฏตัวให้บรรดาผู้มีอุปการคุณเห็นแบบว่า อ๋อ ผมสบายดีแล้วครับ มั่งเนอะ~?
?ผมจะใส่ผ้าเตี่ยวไปโชว์แมนครับ!?
?อย่างนี้เองเหรอ....จับต้นชนปลายได้แล้วสิ....?
?เออ ใช่!! เอ๊ะ แต่อีหรอบนี้มันคุ้นๆ ชอบกลนะว่ามะ.... ไม่สิ เรื่องนั้นช่างมันก่อน ฮารุฮิ! ไม่ใช่อย่างที่เธอเข้าใจนะ!?
ในห้องครื้นเครงกัน เว้นเสียก็แต่ทามากิที่พยายามออกตัวปฏิเสธอย่างสุดความสามารถแต่ก็ไร้คนสนใจ ทว่าเสียงนั้นกลับฟังชัดถ้อยนุ่มนวลสำหรับฮารุฮิ เธอคงไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม....
?นี่ แล้วฮารุฮิอยากใส่อะไรล่ะ??
พอหยุดหัวเราะได้ เคียวยะก็ขยับแว่นให้เข้าที่แล้วกลับเข้าประเด็น ฮารุฮิอุตส่าห์กะว่าทุกคนจะไม่ทันสังเกตแล้วแอบเนียนไปตามน้ำแท้ๆ พอมาถูกเค้นถามเรื่องที่ไม่ได้คิดคำตอบเอาไว้ก็รู้สึกราวกับโดนจี้เอากลายๆ ว่า ?มีแค่เธอคนเดียวนะที่ยังไม่ได้ออกความเห็น?
แม้จะไม่ได้เป็นคนจดบันทึกประจำวันนี้ แต่ดูเหมือนเขาก็จะบันทึกส่วนตัวไว้ด้วย คงไม่ใช่ว่าจดไว้หรอกนะว่าใครออกความเห็นไปกี่ครั้งน่ะ
(ถึงไม่ต้องจดรุ่นพี่เคียวยะก็จำได้อยู่แล้วนี่นา เรื่องพวกนี้น่ะ)
ถ้าเออออห่อหมกไปกับเนื้อหาที่พูดๆ กันมาก่อนหน้านี้บ้างสักแอะล่ะก็ อาจจะไม่โดนจี้เอาแบบนี้ก็ได้ ครั้นตอนนี้พอถูกเค้นเอาความเห็นเข้า ต่อให้แสดงความคิดเห็นกับไอเดียที่คนอื่นเสนอมาก่อนหน้านี้ก็คงไม่นับให้แน่ๆ ฮารุฮิจำต้องเค้นเอารีเควสท์อันน้อยนิดที่เธอมีเกี่ยวกับการคอสเพลย์ออกมา
?เอ่อ เอาที่มันเปลี่ยนง่ายๆ แล้วก็คล่องตัวก็น่าจะดีนะคะ?
?ครับ ไม่ผ่าน โหย อะไรกัน คำพูดไร้รสชาติขาดจินตนาการอย่างนั้นน่ะ?
?บ๊ะ แต่ก็สมเป็นฮารุฮิล่ะนะ ไม่ค่อยจะได้ใส่ใจรายละเอียดอะไรพวกเรื่องเสื้อผ้าอยู่แล้วนี่?
แต่ก็ดูเคียวยะจะคาดการณ์ไว้แล้วว่าเธอต้องตอบแบบนี้ เขาตัดข้ามไปคำถามถัดไปในทันควัน
?งั้น เท่าที่เคยใส่มาล่ะ มีอันไหนที่คิดว่า ถ้าออกแนวนี้ก็ดี บ้างมั้ย??
ฟังคำพูดที่เน้นเสียงนั้นแล้ว ฮารุฮิก็รีบนึกทบทวนทันที เขาไม่ใช่คนที่จะบอกคำตอบออกมาโต้งๆ แต่เวลาปล่อยให้คิดคำตอบเองทีไร เขาก็มักจะใบ้คำตอบมาให้อยู่แล้วทุกครั้ง
?....อ๊ะ จริงสิ เอาชุดพื้นเมืองแบบที่ยังไม่เคยใส่ก็ดีนะคะ?
?เอาล่ะ ทุกคนออกความเห็นแล้วสินะ เฮ้ย ทามากิ เดินงานต่อได้แล้ว?
?ไม่ไหวหรอกคร้าบ หัวหน้าซึมกะทือเข้ามุมไปแล้วครับผม?
?หา!??
ฮิคารุกับคาโอรุชี้ไปยังทามากิซึ่งไม่รู้ว่าไปแอบนั่งคู้อยู่มุมห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ หยาดน้ำตาที่ไหลพรากท่วมจนกลายเป็นน้ำตกสายใหญ่รินอาบแก้ม
(ปล่อยให้หายเอง....ท่าจะยากแฮะ)
แต่แค่คิดว่าจะต้องหาทางช่วยให้หายซึมก็ยุ่งยากน่าดูแล้ว ครั้นจะเหลือบไปดูทีท่าของเคียวยะก็อ่านสีหน้าไม่ออกเพราะเลนส์แว่นตาสะท้อนแสงอยู่อีก แต่อย่างน้อยเธอมั่นใจว่าได้ยินเสียงแสดงอาการไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นักจากเขา
(เฮ้อ ทุกทีเลย)
?แล้วจะเอายังไงดีล่ะเนี่ยเคียวจัง นี่แหย่มากไปแล้วเนอะ~?
?ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ เดี๋ยวก็ห้อกลับมาเองนั่นแหละ?
(??)
ไม่รู้ว่าเคียวยะมั่นใจอะไรขนาดนั้นถึงได้ตัดบทเอาดื้อๆ แม้จะพอรู้สึกได้ถึงความเหนื่อยหน่ายแบบเดียวกันกับที่เธอรู้สึกในน้ำเสียงของเคียวยะก็จริง ทว่ามันยังมีอะไรบางอย่างเร้นอยู่ในน้ำเสียงนั้นอีก แน่นอนว่าเขาไม่บอกใครว่าวางแผนอะไรอยู่
?ไม่มีหมอนั่นสักคนนี่สงบสุขขึ้นเยอะ งานจะได้เดินหน้าอย่างราบรื่นดีด้วย อา...เรื่องนั้นช่างเถอะ มีอะไรอยากจะให้ดูกันแน่ะ?
เคียวยะกล่าวต่ออย่างไม่ไยดี พลางหันหน้าจอของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คไปทางพวกฮารุฮิ ....ดูเหมือนจะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเอาไว้ด้วย
?โอ้ เข้าใจล่ะ เอาไอเดียทุกคนยำรวมกันแล้วกดเสิร์ชมาทีเดียวเหรอเนี่ย?
?พูดก็พูดเถอะนะ แอบมีอะไรสะดุดตาอยู่นะเนี่ย?
?อะไรเหรอ? ฮิคารุ คาโอรุ คุยเรื่องอะไรกันน่ะ??
?ก็เนี่ย พอจะหาข้อมูลคอสเพลย์ที่มันตรงตามไอเดียพวกเรา.... ก็ไปเจอเอาชื่อคู้นคุ้นนะเนี่ย....?
คาโอรุจิ้มเปลี่ยนหน้าจออย่างคล่องแคล่ว และมาหยุดอยู่ที่หน้าจอหนึ่ง
แล้วในครู่ถัดมาทั้งหกคนก็ถึงกับอึ้งไป

?วิทยาลัยสตรี เซนต์ โรเวเลีย สมาคมชิรายูริ ~สวนสมองกล~?

?ก๊ากก กั่ก กั่ก! สุโก้ย คุณภาพคับกล่องจริงๆ ชมรมซึกะเนี่ย!!?
ไอคอนดีไซน์สุดหรูอยู่ท่ามกลางวิวดอกชิรายูริ (ลิลลี่ขาว) บานสะพรั่ง แถมยังมี BGM เป็นเพลงที่พวกเธอร้องกันเองอีกต่างหาก สมแล้วที่เป็นกลุ่ม ?ของผู้หญิงจากผู้หญิงถึงผู้หญิง? ช่างเป็นโฮมเพจที่ใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ
?เว็บนี้ท่าทางรันกะซังจะปลื้มนะเนี่ย?
?....วอลเปเปอร์ ดาวน์โหลด แคมเปญ?
?มีบล็อกด้วยนะเนี่ย~?
?ว้าย ขอดูหน่อย!!?
ไม่ทันไรทุกคนก็ดูกระตือรือร้นและเริ่มสัมมนาชมเว็บไซต์ดังกล่าวกัน
???อีกหลายนาทีต่อมา บรรยากาศภายในห้องก็เปลี่ยนไปราวกับกับเพิ่งถ่ายเทอากาศใหม่
?ดูนี่ดิ คาโอรุ เขียนคอมเมนต์ได้ด้วยล่ะ?
?ไปอ่านตอนเก่าๆ ก่อนดีกว่าน่า?
ดูเหมือนคู่พี่น้องฮิตาจิอิงจะถูกอกถูกใจกับบล็อกชวนฝันสุดเพริดพริ้งสมเป็นชมรมซึกะน่าดู ทั้งที่ไม่ใช่คอมฯ ของตัวเองแต่ก็บุ๊คมาร์กเอาไว้ซะเรียบร้อยแล้ว
?นี่เองเหรอ ที่คุณอามาคุสะเคยพูดถึง....ออกมาหรูจังแฮะ?
?ประธานชมรมซึกะว่าไว้ว่าไงเหรอ??
?เปล่าหรอกค่ะ ไม่ได้ว่าอะไรมากหรอก แค่ก่อนหน้านี้เคยมาชวนว่า ?ถ้าจะเริ่มทำบล็อกสนใจมั้ย ยังไงต้องขอเชิญสาวๆ ทุกคน!? น่ะค่ะ?
?ฮารุจังเขียนบล็อกให้ชมรมซึกะด้วยเหรอ~??
?ฮะฮะ จะเป็นไปได้ไง อย่างฮารุฮิบอก ไม่อ่ะวุ่นวาย คำเดียวลาโรงกันตั้งแต่เริ่มแหงอยู่แล้ว?
?เออเนอะ ท่าจะจริง?
(ตาพวกนี้นี่....!)
คงไม่ใช่ว่าลืมสนิทใจเรื่องที่เจ้าตัวยังยืนอยู่ตำตาหรอกนะ ก็จริงที่ว่าถ้าเสียกำลังใจตั้งแต่เจอเรื่องแค่นี้คงไม่มีทางทำงานในโฮสต์คลับแห่งนี้ได้หรอก พอรุ่นพี่โมริหันมามองด้วยความเป็นห่วง ฮารุฮิจึงยิ้มกลับไปให้ แล้วลองพยายามแก้ไขความเข้าใจนั้นกับสองพี่น้องเสียใหม่
?มันก็ไม่เชิงหรอกนะคะ แบบว่าไม่ค่อยรู้เรื่องการใช้บล็อกเท่าไหร่....ก็เลย....แบบว่า?
พูดออกไปแล้วถึงเพิ่งรู้ตัวว่ามันฟังไม่ขึ้นเท่าไหร่ แต่ที่ทั้งคู่ติดใจกลับไม่ใช่เรื่องนั้น ดูเหมือนพวกเขาจะปลื้มเรื่องที่ ?ฮารุฮิรู้เรื่องที่มีบล็อกนี้อยู่ก่อนหน้าแล้วเหรอ? เสียมากกว่าชอบกล มันหมายความว่ายังไงกันนะ....
?ส่วนใหญ่จะเป็นพับบลิค เข้าไปดูได้ตามชอบใจ แบบที่อัพเดทเอาจากมือถือได้ก็มีด้วย ถ้าคิดซะว่าเขียนบันทึกประจำวันบนเน็ตก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่นะ?
?งั้นที่ชมรมซึกะเขียนกันหลายๆ คนนี่ก็เหมือนบันทึกแลกเปลี่ยนสินะคะ?
ทันทีที่ฮารุฮิเอ่ยจบ ก็มีเสียงอื่นดังขึ้น
?บันทึก....แลกเปลี่ยน??
ไม่สิ ถึงจะต่ำอยู่สักหน่อยแต่ก็น่าจะเป็นเสียงคน ฮารุฮิรู้สึกเหมือนมีใครปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าใส่จนเสียววาบไปทั้งแผ่นหลัง เธอค่อยเหลียวไปมองด้านหลังอย่างประหม่า ภาพที่เห็นคือทามากิที่ดูจะหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว
?ที่เป็นสิ่งซึ่งเอาไว้กระชับความสัมพันธ์ของคู่รักหรือผองเพื่อนมาแต่โบราณ สิ่งนั่นน่ะหรือ!? แล้วก็ที่ว่ากันว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการสานสัมพันธ์ขั้นแรกกัน สิ่งนั้นน่ะหรือ!??
?ไม่ต้องเน้นขนาดนั้นก็ได้มั้งคะ....??
ก็ใช่ว่าเขาจะพูดอะไรผิดไปหรอกนะ แต่สภาพของทามากิตรงหน้าน่าเป็นห่วงว่าจะเข้าใจอะไรผิดไปพอควร ประสบการณ์ของฮารุฮิเตือนขึ้นมาว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้จะเป็นอันตรายยิ่งนัก ทว่าคำพูดที่ควรจะอธิบายเพิ่มเติมก็ไม่ออกมาจากปาก ทามากิที่พลุ่งพล่านขึ้นมาค่อยคืบเข้ามาตามพื้นอย่างกระฉับกระเฉง จากนั้นก็ตะโกนขึ้น
?ฮารุฮิ! ถ้าอยากจะเขียนบันทึกแลกเปลี่ยนล่ะก็ เริ่มจากเขียนหาพ่อก่อนนะลูก!!?

~ความคิดภายในหัวของทามากิ~
?รุ่นพี่คะ ตั้งพาสเวิร์ดของบล็อกรึยังคะ??
ขณะที่ในใจเต้นตึกตักกับภาพของฮารุฮิที่ต้องช้อนตามองเพราะความสูงที่ต่างกัน ฉันก็พยักหน้ารับอย่างเงียบๆ ถ้าเปิดปากตอนนี้ฉันอาจจะพูดอะไรออกไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้
?ตั้งว่ายังไงหรือคะ??
ดวงตากลมโตที่จ้องมองมาหลังจากเอ่ยถามนั้นช่างน่ารักเสียนี่กระไร คราวนี้ฉันจงใจเงียบไว้สักครู่ แต่ยังไม่ทันถึงห้าวินาที หล่อนก็บ่ายหน้าอันเรื่อแดงนั้นหลบไปด้านข้าง
(ว้า เสียดายจัง....อะ ไม่ใช่สิ)
พอรู้สึกว่าถูกดึงชายเสื้อเบาๆ ใจก็เต้นเร่าขึ้นมาอีกครั้ง ทำไมถึงมีปฏิกิริยาน่ารักอย่างนี้กันนะ เมื่อไม่อาจห้ามใจได้ จึงโอบร่างอันบอบบางของหล่อนที่อยู่เบื้องหน้าเข้ามาและกระซิบที่ข้างหู

?ยังจำได้มั้ย รหัสก็คือวันแรกที่เราสองคนพบกันไงล่ะ?

?คร้า~บ! เช่นนั้นด้วยเสียงข้างมาก เราจะจัด ?กิจกรรมผลัดไม้ @โฮสต์คลับ บล็อก? กันนะครับ?
?ต่อไปกำหนดลำดับการเขียนเนอะ~?
?งั้นก็จับสลากตามแบบสามัญชนเอาแล้วกัน!?
นอกจากประธานชมรมที่ถูกปล่อยให้เหม่อแหงนหน้าตาค้างอยู่ตามลำพังแล้ว สมาชิกคนอื่นก็ต่างย้ายประเด็นจากการหาชุดคอสเพลย์ไปเป็นเขียนบล็อกกันเป็นที่เรียบร้อย ในเวลาแบบนี้ชมรมโฮสต์ช่างมีทีมเวิร์คกระฉูดกันจนสยองเสียจริงๆ
ฮารุฮิแว่วเสียงอันเร่าร้อนของบรรดาสมาชิกแต่ไกลๆ และถอนใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันนี้ การกลับมาทำกิจกรรมต่อหมายถึงจะมีเวลาน้อยลง นอกจากกับข้าวมื้อเย็นแล้วยังต้องมาคิดเรื่องอื่นเพิ่มอีกหรือนี่
?โอย...แล้วจะเขียนอะไรดีละเนี่ย....?

2

หลายวันต่อมา ณ ห้อง 1-A
ยังไม่ทันที่กริ่งบอกเวลาหมดคาบเรียนจะเงียบเสียง ฮิคารุกับคาโอรุก็ผลุนผลันออกจากที่นั่งของตนไปแล้ว หากไม่ทำเช่นนี้คงไม่มีทางจับเธอในวันที่ไม่มีกิจกรรมชมรมได้เป็นแน่
?ว้าย อย่าเข้ามาใกล้นักสิ?
สองพี่น้องขนาบซ้ายขวาของฮารุฮิ ล้อมไม่ให้เธอไปไหนได้
เธอคอตกอย่างเหนื่อยหน่าย ทว่าคาโอรุกลับยิ้มให้ ข้างฮิคารุเองก็สรรหาข้ออ้างด้วยท่าทีเริงร่าออกนอกหน้า
?ช่วยไม่ได้นี่นา บ่าฮารุฮิเนี่ยมันได้ระดับที่เท้าแขนพอดิบพอดีออกขนาดนี้?
?ไม่ต้องมาทำพูดดีเลย?
?ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ ใช่ว่าจะสึกหรอไปสักหน่อย?
ประเด็นมันไม่ใช่เรื่องนั้น คาโอรุได้แต่คิดอยู่ในใจ ไม่รู้ว่าเจ้าตัวคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แต่ถ้าลองมาถามคนใกล้ตัวล่ะก็ คงต้องบอกว่าระดับช่างไม่ต่างไปจากเด็กประถมกัดกันสักนิด ?เด็กผู้ชายที่แกล้งเด็กผู้หญิงที่ตัวเองชอบ แถมเด็กผู้หญิงเองยังไม่เอะใจเรื่องนั้นเลยสักนิด? ช่างคลาสสิกจริงๆ
(ปล่อยสองคนนี่ไว้แบบนี้คงไม่คืบหน้าแน่)
กว่าจะได้เข้าประเด็นคงหมดเวลาไปมหาศาล ทีแรกคาโอรุเองก็ตั้งใจจะดูไปเงียบๆ แต่เห็นทีเข้าไปตัดบทสักหน่อยจะดีกว่า
?นี่ ฮิคารุ พวกเราไม่ได้ถ่อมาเพื่อพูดเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ? ไหนๆ วันนี้ก็ไม่มีชมรมด้วยนี่?
เมื่อคาโอรุเน้นท้ายประโยคที่คำว่า ?นะ?? ก็มีเสียงถอนใจดังเฮ้อมาจากอีกฟากที่ประกบฮารุฮิเอาไว้ ท่าทางทั้งคู่จะเข้าใจกันเอง ฮิคารุยกแขนที่พาดอยู่นั้นออกจากบ่าของเธอ แล้วขยับไปยืนตรงหน้าเธอแทน แม้จะยังคงบ่ายหน้าไปทางอื่นก็ตาม
?ไหนๆ ก็ ไหนๆ แล้วติดรถเรากลับบ้านมั้ย??
(...อืม สำหรับฮิคารุคุง เท่านี้ก็ถือว่าพยายามได้ดีแล้วล่ะนะ)
?เอ๊ะ? อ๋อ ขอบใจจ้ะ แต่วันนี้กลับเองดีกว่า?
?มีธุระที่อื่นอีกหรือไง!??
?ฮิคารุ อย่าขึ้นเสียงสิ?
?อะ โทษที?
?ไม่เป็นไรหรอก เออ คือว่านะ พอดีจะไปช่วยชมรมจัดสวน....?
?หา? ของบอซซาโนว่านั่นน่ะเหรอ!??
?อื้อ คาโอรุเองก็ใจเย็นเถอะน่า ทำเป็นรุ่นพี่ทามากิไปได้?
?....ขอโทษครับ?
คาโอรุโดนคำพูดนั้นเชือดคาที่ เขานึกถึงความน่าทึ่งของคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ในเวลานี้ขึ้นมาจับใจ รายนั้นไม่ว่าจะโดนตอกอะไรไปเท่าไหร่ก็ไม่เคยท้อถอย ไม่เคยหนีหน้าเลยแม้สักครั้ง ถ้าอยากจะเข้าหน้ากับฮารุฮิตรงๆ ไม่ใช่แค่เทียบเคียงเธอล่ะก็....จำเป็นต้องเป็นแบบนั้นให้ได้
?ก็ได้ผักหญ้าอาหารมาจากคาซาโนบะคุงอยู่เรื่อยเลยใช่มั้ยล่ะ ก็เลยกะจะไปช่วยถอนวัชพืชสักหน่อย?
(ลืมไปเลย มีหมอนั่นด้วยนี่หว่า....)
จริงด้วยสินะ ฮารุฮิเองก็ให้ความสำคัญกับ ?ผู้ชายบ้านๆ? ไม่แพ้กัน แบบนี้แหละถึงเป็นความใจกว้างที่ไม่บีบบังคับใครแบบเดียวกับโมริ เพราะเจ้าตัวเองนั้น....จะเรียกว่าเป็นคนเด็ดเดี่ยวหรืออย่างไรดี ฮารุฮิน่ะที่จริงแล้วก็มีด้านที่มีความเป็นชายชาตรีอยู่พอดูเลยทีเดียว
(แต่ถ้าแค่นั้นล่ะก็ ฮิคารุเองก็มีน่า....!)
?หืม งั้นผมไปด้วยนะ เทมปุระที่ฮารุฮิทำให้ทาน นั่นก็มันหวานจากบ้านบอซซาโนว่าไม่ใช่เหรอ??
(เยี่ยมมาก พูดได้ดี!!)
?อื้อ เอ่อ แต่ว่างวดนี้ฉันว่าฉันคนเดียวก็คงเกินพอแล้วล่ะ?
?แต่บางส่วนอาจจะต้องใช้แรงงานผู้ชายก็ได้นะ งานทำสวนเนี่ย กรรมกรกว่าที่คิดนะ?
?เหรอ แต่ถ้าขืนเธอไปถอนอะไรที่ไม่ใช่วัชพืชเข้าก็เป็นเรื่องน่ะสิ?
?นี่แม่คุณ เธอเองน่ะรู้รึเปล่าว่าพืชบางชนิดกินไม่ได้น่ะ!??
(เอ้า กลับไปอีหรอบเดิมอีกแล้ว เด็กประถมตีกัน)
อะไรจะท่ามากนักนะ ฮารุฮิที่ดึงดันจะปฏิเสธท่าเดียวส่อพิรุธว่าปิดบังอะไรไว้อย่างไม่ต้องสงสัย ในขณะที่คาโอรุกำลังจะเอ่ยถามขึ้นนั้นก็มีอีกเสียงหนึ่งแทรกขึ้นพอดี
?ทำตาลอกแลกเชียวนะคะ ฮารุฮิคุง?
เสียงฝีเท้าจ้ำเข้ามาหาพร้อมๆ กับเสียงที่แทรกกลางวงนั้น ไม่ต้องเหลียวดูก็รู้ได้ทันทีว่าใคร มาแบบนี้มีคนเดียว....โฮชาคุจิ เร็นเกะ แน่นอน
?เร็นเกะจัง!? ไม่ใช่ว่าออกไปตั้งแต่จบโฮมรูมแล้วหรอกเหรอ??
?พอดีเห็นรังสี?สุดเลิศ เลยย้อนกลับมาไงคะ?
?นี่นี่นี่ ไหนว่า ?ต้นฉบับยังไม่เสร็จเลยค่ะ? ไง รีบๆ กลับไปเลยไป?
?ว่าแต่ ?รังสี?สุดเลิศ? เนี่ยมันอะไรน่ะ? ช่วยพูดจาภาษาคนหน่อยได้มั้ยคร้าบ??
?แหม เรื่องเลียนแบบคนอื่นเนี่ยเก่งกันทั้งคู่เลยนะคะ ไม่ต้องห่วงแทนหรอกค่ะ เสร็จทันแน่ เดี๋ยวจะเพิ่มลงไปในฉบับหน้าไว้นะคะ!?
?อุ๊ยตาย สุดยอดมองโลกในแง่ดี?
?ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกเจ้าค่ะ ว่าแต่ฮารุฮิคุง ดิฉันมีเรื่องอยากถาม....อ้าว ไปไหนซะแล้วล่ะ??
?หา!??
ไม่อยู่แล้ว....เพียงชั่วครู่ที่ความสนใจเบนไปยังผู้มาแทรกซึ่งเปี่ยมไปด้วยความเซลฟ์สุดๆ ฮารุฮิก็คว้ากระเป๋าหายต๋อมไปจากห้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งที่อยู่กันตั้งสามคนยังไม่ทันไหวตัวเลยสักนิด ไม่สิ ควรจะบอกว่าเพราะเป็นสามคนนี้รวมกันนี่แหละถึงไม่ทันสังเกต
คาโอรุปรายหางตาไปมองเร็นเกะที่กำลังตื่นเต้นว่า ?ฮารุฮิคุงท่าจะเป็นนินจาชั้นแนวหน้าได้นะ!? แล้วก็เอามือทั้งสองข้างขึ้นป้องใบหน้า
?แต่ยังไงก็ชักจะน่าสงสัยขึ้นมาแล้วสิคะเนี่ย?
?....ตั้งใจจะพูดอะไรน่ะหือ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว??
แม้จะลดระดับลงมาบ้างแล้ว แต่ดูเหมือนว่าคำพูดของฮิคารุ สำหรับผู้หญิงแล้วมันก็ยังแข็งไปสักหน่อย ทว่าใจของเธอนั้นอยู่กับเรื่องอื่นอย่างช่วยไม่ได้ เร็นเกะใช้นิ้วชี้แตะที่แก้มของตน แล้วเริ่มแถลงข้อสันนิษฐานของเธอด้วยน้ำเสียงคึกคัก
?ตามที่ฮิคารุคุงกล่าวนั่นแหละค่ะ กิจกรรมชมรมจัดสวน โดยเฉพาะการกำจัดวัชพืชน่ะ คงไม่มีใครค้านหรอกค่ะว่ายิ่งมากคนยิ่งดี?
คาโอรุเองก็คิดเหมือนกันว่าในการโต้เถียงกันของทั้งคู่ ฮิคารุดูมีน้ำหนักมากกว่า แล้วยิ่งนิสัยอย่างคาซาโนบะด้วยแล้ว หากมีโอกาสได้ทำกิจกรรมร่วมกับคนเยอะๆ เจ้าตัวเองก็ไม่น่าจะปฏิเสธ
?แถมยังไม่ยอมสบตาด้วยไม่ใช่หรือคะ? ดูไม่สมกับเป็นฮารุฮิคุงที่ปกติเวลาพูดจะจ้องตาตลอด...เลยนะคะ?
เร็นเกะไหล่ห่อเมื่อพูดออกมา ดูเผินๆ เหมือนกำลังสั่นเทิ้มไปทั้งตัว
?....ก็นั่นไง เห็นหมู่นี้ฮารุฮิบ่นๆ ว่าเหมือนจะเป็นหวัดไม่ใช่เหรอ??
คาโอรุพยายามชักแม่น้ำทั้งห้า เมื่อเห็นว่าเร็นเกะไม่เงยหน้าขึ้นมาอีกเลย เขาคิดว่าหดหู่แบบนี้ไม่เข้ากับนิสัยของเธอเท่าไหร่
(แล้วก็ไม่อยากเห็นฮิคารุพลอยซึมไปมากกว่านี้แล้วด้วยสิ)
แต่ทันทีที่พูดจบประโยค เร็นเกะก็เงยหน้าพรวดขึ้นพอดี ราวกับนักว่ายน้ำโผล่ขึ้นมาหายใจเหนือผิวน้ำไม่มีผิด คาโอรุกับฮิคารุถึงกับกลืนน้ำลาย
?ฉันไม่ขอยอมรับการกระทำอันเต็มไปด้วยพิรุธนั้นหรอกค่ะ! ต้องมีอะไรบางอย่างที่ไม่อาจบอกกับทั้งสองคนได้แน่ค่ะ! หรือจะมีความสัมพันธ์คืบหน้ากับคุณคาซาโนบะ....แต่ก็ดูไม่น่าจะเป็นไปได้ อ๊ะ งั้นที่ว่าไปช่วยชมรมจัดสวนนั่นก็กุขึ้นมาน่ะสิคะ!? รึบางทีหลังจากนั้นอาจจะมีธุระหลักแฝงอยู่!? ชักจะมีแรงบันดาลใจอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาอีกแล้วสิคะเนี่ย!
(ตะกี้ไม่ได้ซึมหรอกเรอะ!?)

หลังจากประกาศกร้าว ยัยโอตาคุเจ้าหล่อนก็รีบเผ่นผลุนออกไปทันควัน ปล่อยให้สองหนุ่มยืนมองตามตาค้าง ใช่ว่าคิดจะห้ามแต่แรก....พูดให้ถูกคือมาไวไปไวเกินจนยังไม่ทันจะเริ่มคิดว่าจะพูดอะไรดีมากกว่า
?เฮ้อ ....ผู้หญิงนี่ช่างเข้าใจยากซะจริง?
?ฮารุฮิก็ด้วยล่ะนะ ประมาณว่าชายหญิงสมองทำงานไม่เหมือนกันเหรอ??
?อะฮะฮะ แรงไปเปล่า? แบบว่า ?เรียกเข้า? นี่! ไรงี้เหรอ ที่ว่ากันว่าจับคลื่นสัญญาณได้นี่มันมีจริงๆ สินะ?
?นั่นสิน้า~ หืม มีอะไรเรียกเข้ามือถือเราด้วยรึเปล่าน่ะ??
พอล้วงไปหยิบโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาดู ที่หน้าจอก็ปรากฏชื่อ ?ฮารุฮิ? พอรีบร้อนเปิดเมลดู....ก็พอจะรู้ได้ว่าอีกฝ่ายคงรีบส่งมาเหมือนกัน เพราะไม่มีทั้งหัวข้อ ฟอนต์ที่ใช้ก็เรียบง่ายเสียเหลือเกิน ทั้งสองคนยิ้มเจื่อนๆ ออกมา มันมีแค่วลีเดียว

?โทศนะ ชิ่งก่อน?

?อะฮะฮะ น่าอายจัง!?
ทั้งคู่โดนประโยคนั้นเล่นเข้าอย่างจังจนเกือบทำโทรศัพท์มือถือหล่น ก็พอจะเข้าใจว่ากดรีพลายกลับมา แต่คำพูดที่ใช้มันก็ตีความได้หลายอยู่ ทั้งสองคนน้ำตาเล็ด
?ขอทีเหอะ เวลาแบบนี้มันต้องใช้อักษรภาพอะไรพวกนั้นไม่ใช่เหรอ??
?เห็นว่าเมจังเคยติวเข้มให้แล้วแท้ๆ น้า~ ของแบบนี้ ถ้าไม่ชินมันก็ทำไม่ได้แหละนะ...โอ๊ะ มีอีกข้อความเหรอ??

?ลืมบอก บล็อกตาฮิคารุคุงนะ ฝากด้วย?

?วะฮ่าฮ่าฮ่า ลูกไซด์โค้งมาอีกแล้ว!!?
?แต่ก็พูดเหอะนะ ถ้าไม่อ่านเมลนี่ลืมสนิทใจไปละนะเรื่องบล็อกน่ะ?
?ก็กว่าจะวนมานี่นะ หัวหน้าเป็นไม้แรกใช่ม้า คนถัดมาใครนะ ฮารุฮิรึเปล่า??
ระหว่างที่คุยกันนั้น ฮิคารุก็กดแป้นโทรศัพท์อย่างคล่องแคล่ว แม้จะไม่ได้ใช้สองมือพิมพ์ก็จริง แต่ใช้มือเดียวจิ้มเอาก็เร็วพอๆ กับกดเปลี่ยนช่องทีวี แค่แป๊บเดียวก็เชื่อมต่อไปยังบล็อกแล้ว คาโอรุชะโงกหน้ามาดูจากข้างๆ
เมื่อบรรดาสมาชิกของชมรม "โฮสต์" แห่งโีรงเรียนโอรังกักคุอิง ทำสงครามบล็อกกัน ผลจะเป็นเช่นไรติดตามอ่านได้ใน ชมรมรักคลับมหาสนุก~เต็มสูบ~ ฉบับเต็ม หาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือเว็บไซต์http://www.bongkoch.com/catalog/product ... ts_id=7324

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”