New Release : Will it Snow for Christmas

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : Will it Snow for Christmas

โพสต์ โดย Gals »

เรื่องย่อ
ชาคังจินย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดของแม่หลังจากมีปัญหากับที่โรงเรียน เขาจึงได้พบกับฮันจีวาน ลูกสาวของอดีตคนรักของแม่ เธอเข้ามาตีสนิทเขาเพราะต้องการหักหน้าผู้หญิงที่มาแย่งแฟนของเธอไปแต่กลับหันมาชอบคังจิน ด้วยความมุ่งมั่นและเอาจริงเอาจังของเธอทำให้คนเย็นชาอย่างคังจินต้องยอมเปิดหัวใจ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อพี่ชายของจีวานต้องเสียชีวิตเพราะเขาช่วยเธองมหาสร้อยของคังจินที่ตกแม่น้ำไปเนื่องจากช่วยเธอจากคนไม่ดี จีวานจึงหนีออกจากบ้านเพราะรู้สึกละลายใจที่ทำให้พี่ชายต้องตาย ความรักที่ยังไม่ทันได้เริ่มต้นจึงจบลง ทว่าแปดปีต่อมา การเริ่มต้นได้เกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่จีวานกำลังจะเข้าพิธีหมั้นกับเพื่อนร่วมงานของคังจิน...

ตอนที่ 1

แม้จะเป็นยามเช้าที่เพิ่งจะเริ่มมีแสงรำไร ชาชุนฮีกลับรู้สึกว่าแสงแดดที่แผดเผาร่างกายกำลังทำให้อุณหภูมิภายในร่างสูงขึ้นจนรู้สึกอึดอัดจวนเจียนระเบิด โดยเฉพาะเวลาที่มองป้ายเชิดชูเกียรติซึ่งเขียนเอาไว้ด้วยตัวโตๆ ที่เห็นมาแต่ไกลว่า ?ผอ.ฮันจุนซูและภรรยา ยินดีกับลูกชายคนโตที่ได้เป็นนักเรียนทุนของมหาวิทยาลัยโซล? อยู่บนผ้าสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ขึงด้วยไม้ไผ่อยู่คนละฟากถนน
ชุนฮีอ่านทวนไปทวนมา ยิ่งอ่านก็ยิ่งหงุดหงิดเหมือนอยากจะบ้าเสียให้ได้ ท่าทางเธอต้องทำอะไรสักอย่างกับป้ายนั่นแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นวันนี้คงจะกินอะไรไม่ลงแน่นอน
คนขับรถค่อยๆ ชะลอรถจนล้อหยุดอยู่กับที่
?ดูเหมือนตู้เสื้อผ้าจะชนกับป้ายนะ ผมว่าชนแน่ๆ เพราะตู้มันสูงด้วย นี่ ไม่มีเส้นทางอื่นแล้วเหรอ?
ดวงตาคมกริบด้วยอายไลเนอร์สีดำสนิทมีแวววูบไหวอย่างใช้ความคิด
?เดี๋ยวฉันจัดการให้? ชุนฮีบอกพร้อมกับยกมือขึ้นดันหัวลูกชายคนเล็ก ซึ่งเกิดจากสามีไม่เอาอ่าวคนที่สองให้ตื่น ?ตื่นสิพูซัน รีบๆ ตื่นเลย?
ชาพูซันเป็นเด็กร่างท้วมและดูไม่ฉลาดเฉลียว เขาอ้าปากหาวหวอดๆ ด้วยความอ่อนเพลียจากการเดินทางมาหลายชั่วโมง ก่อนเดินตามแม่ลงมาจากรถอย่างเกียจคร้าน
?ให้ฉันขี่คอแกหน่อย?
?แม่ว่าไงนะ?
?ขี่คอไงล่ะ ฉันจะตัดป้ายรกๆ พวกนี้ออก เราจะได้กลับไปพักผ่อนกันเร็วๆ ไงล่ะ แกมานั่งตรงนี้แล้วยกฉันขึ้นหน่อย ฉันสั่ง ไม่ได้ยินรึไง พูซัน?
?ทำไมต้องเป็นผมล่ะ ให้พี่เขามาทำสิ? พูซันบุ้ยปากไปยังคังจินซึ่งยังหลับอยู่หลังรถด้วยความไม่เข้าใจ เพราะแม้ว่าเขาจะดูตัวใหญ่และกินข้าวเยอะกว่าพี่ชาย แต่เรื่องแบบนี้ควรเป็นหน้าที่ของคนเป็นพี่มากกว่าไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่ยอมปลุกพี่ชายที่นอนหลับสบายอยู่ท้ายรถนะ!
?อย่าเรื่องมากได้ไหม? พูดจบ ชุนฮีก็ใช้มือสองข้างกดไหล่ลูกชายคนเล็กให้นั่งลง จากนั้นจึงหย่อนขาทั้งสองข้างขึ้นพาดบ่า ?ยกฉันขึ้น ยกสูงขึ้นอีก อีกนิดหนึ่ง ยกขึ้นอีกสิ ไอ้นี่ อีกนิด อีกนิดหนึ่ง อยู่นิ่งๆ ไว้นะ อย่าขยับนะ นิ่งๆ ไว้ ได้แล้ว เดินไปข้างหน้าหน่อยสิ?
พูซันที่เพิ่งลอบหายใจด้วยความโล่งอกทำหน้าเหยเก ร่างโงนเงนไปมาด้วยน้ำหนักอันหนักอึ้งที่พาดทับอยู่บนบ่า
?อันนั้นสูงนะ เราไม่ชนมันหรอก?
?บอกให้เดินไปก็ไปสิ?
พูซันจำใจเดิน ชุนฮีตวาดไม่พอใจ
?นี่ ไอ้เวรนี่ ช้าๆ หน่อยสิ ไปอีกนิดหนึ่ง อีกนิด พอแล้วๆๆ อย่าขยับนะ?
เธอเริ่มใช้กรรไกรตัดผ้าผืนนั้นทีละนิดๆ จนเกือบขาด
ฮันจีวาน เด็กสาวตากลมโตมาเห็นเข้า ดวงตาของเธอจึงโตขึ้นอีกด้วยความตกใจที่จู่ๆ ก็มีคนมาตัดป้ายเชิดชูพี่ชาย จีวานเร่งฝีเท้าปั่นจักรยานตรงมาหาทั้งคู่ทันที
?ไอ้พวกหัวขโมย! ไอ้พวกนิสัยไม่ดี ตัดทำไม ทำไมถึงมาตัดป้ายของพ่อฉัน ไอ้คนนิสัยไม่ดี!? จีวานตะโกนมาแต่ไกล
พูซันย่นหัวคิ้วติดกันก่อนหันไปถามแม่ที่เพิ่งหย่อนเท้าลงพื้นอย่างปลอดภัย
?แม่ เราเป็นหัวขโมยเหรอ?
?ขึ้นรถเถอะ? ชุนฮีตอบอย่างไม่คิดจะใส่ใจ
จีวานเห็นว่าทั้งคู่เมินใส่แล้วเดินไปขึ้นรถหน้าตาเฉย เธอจึงเร่งฝีเท้าสุดชีวิต ก่อนล้อหน้าจะเสียหลักจากการหักหลบกะทันหันเพราะครอบครัวเป็ดน้อยต้องการข้ามถนน เลยเป็นเหตุให้ทั้งเธอทั้งจักรยานหล่นลงไปในคูน้ำข้างทาง
คังจินซึ่งนอนอยู่ตรงกระบะหลังรถลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นภาพนั้นเข้าอย่างพอดิบพอดี เขารีบลงจากรถมาช่วยจีวานที่กำลังร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
?อ๋า...ซี้ด จริงๆ เลย? เด็กสาวครางก่อนจะพยายามจะลุกขึ้น แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องยากมากทีเดียว เพราะนอกจากบริเวณหัวเข่าที่มีแผลถลอกเป็นทางยาวแล้ว ข้อเท้าก็ดูเหมือนจะเคล็ดอีกต่างหาก ขณะที่ลองลุกขึ้นอีกครั้ง มือของคังจินก็ยื่นมาตรงหน้าเธอ
?เจ็บรึเปล่า เดินไหวไหม?
จีวานเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมือ ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นทันทีที่เห็นสิ่งมีชีวิตที่หล่อเหลาประดุจเจ้าชายผู้สูงส่ง เธอยื่นมือให้ด้วยความประหม่าก่อนที่เจ้าชายจะดึงแขนเธอให้ลุกขึ้นยืนตรงๆ
?ขอบคุณมาก...ค่ะ?
?พี่ แม่บอกให้รีบกลับไปขึ้นรถ? เสียงตะโกนของเด็กชายตัวอ้วนกลมคนที่ให้ผู้หญิงรุ่นแม่ที่แต่งหน้าฉูดฉาดอย่างกับจะไปแสดงงิ้วขี่คอดังแทรกมา แววตาของจีวานซึ่งกำลังอยู่ในภวังค์ความลุ่มหลงจึงแปรเปลี่ยนเป็นขุ่นข้องพร้อมจะเอาเรื่องคังจินทันที
?ชิ! นายก็มากับพวกหัวขโมยนั่นเหรอ ไอ้คนเลว หัวขโมย มาจับหัวขโมยเร็ว ตรงนี้มีพวกหัวขโมย พวกหัวขโมยมันตัดป้ายพี่ชายของฉัน มาจับหัวขโมยเร็ว มาจับพวกมันเร็ว หัวขโมยอยู่ตรงนี้ พวกหัวขโมยๆ? จีวานตะโกนไปทั่ว
คังจินส่ายหน้าแล้วก็ถอนหายใจให้กับอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของเด็กสาว
?เธอรู้จักแต่คำว่าหัวขโมยเหรอ เธอเอาแต่พูดอยู่ได้ว่าหัวขโมยๆๆ ทำไมเธอไม่หาคำนิยามใหม่ดูบ้างล่ะ เราไม่ใช่หัวขโมยนะ?
?งั้นพวกนายก็แย่ยิ่งกว่าหัวขโมยอีก ทำไมถึงต้องตัด...ทำไมต้องตัดป้ายของพี่ฉันด้วย ป้ายมันทำอะไรให้พวกนายอย่างงั้นเหรอ?
?นายกับแม่ไปกันก่อนก็แล้วกัน? คังจินเบือนหน้าไปบอกกับพูซัน แต่กลับถูกย้อนถามด้วยความงุนงง
?ทำไมล่ะ?
?ไปเถอะ เดี๋ยวฉันตามไปเอง ไม่ต้องห่วงหรอก?
พูซันพยักหน้านิดๆ แล้วหันหลังกลับไป จีวานชักสีหน้าแล้วเขยกขาก้าวขึ้นไปบนถนนอย่างไม่ยอม แต่พอขึ้นไปถึง รถบรรทุกก็เคลื่อนตัวออกไปแล้ว เล่นเอาจีวานรู้สึกโกรธจนอยากจะร้องไห้
?ฉันจะซ่อมให้เธอเอง? คังจินที่เดินตามจีวานขึ้นมาบอกเสียงเรียบ
จีวานหันขวับไปทางคังจิน ?อะไรนะ?
?ที่แม่ของฉันตัดป้าย ฉันจะซ่อมให้เอง?
ริมฝีปากจีวานเชิดเกือบติดกับจมูกด้วยความไม่พอใจ
?ทำอย่างกับว่าพอนายซ่อมให้แล้วรอยขาดมันจะหายไปอย่างนั้นแหละ เชอะ ฉันจะไปแจ้งตำรวจ แล้วฉันจะแต่งเรื่องว่านายผลักฉันจนเกือบตาย ฉันจะโยนความผิดทุกอย่างให้พวกนายหมดเลย ทั้งไอ้หัวไหล่ แม่กรรไกร แล้วก็นาย พวกนายสามคนน่ะต้องตายแน่ โอ๊ย เจ็บจังเลย?
ใบหน้าคมเข้มส่ายไปมาอย่างระอากับความดื้อของเด็กสาว ก่อนจะหันหลังแล้วย่อตัวลงนั่งยองๆ เพื่อให้เด็กสาวขี่หลัง
?ขึ้นมาสิ เธอเจ็บแบบนี้ไปโรงพยาบาลดีกว่า?
จีวานอ้าปากค้าง เฮอะ นี่เขาคิดว่าเธอจะยอมขี่หลังลูกชายของมือกรรไกรคนนั้นได้ลงจริงๆ น่ะเหรอ ไม่มีทางเสียล่ะ
จีวานลุกพรวดขึ้นแล้วผลักคังจินเต็มแรง ทำให้อีกฝ่ายเสียหลักหล่นลงไปในคูน้ำข้างทางอย่างแรง
?ฉัน เอ่อ...? จีวานหน้าเสีย กลัวคังจินจะได้รับบาดเจ็บ แต่เมื่อเห็นว่าเขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ดุจเดิม เจ้าของแก้มป่องก็เชิดหน้าขึ้น แม้ว่าจะรู้สึกผิดอยู่เหมือนกันว่าตัวเองทำเกินไปหน่อย
?ชิ! นี่ ถ้า...ถ้าฉันเจอนายอีกครั้ง นายตายแน่? พูดจบก็รีบยกจักรยานขึ้นตั้งแล้วปั่นหนีเร็วๆ อย่างลืมเจ็บ ขณะที่คังจินได้แต่มองตามแล้วถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นและค่อยๆ เดินตามหาร้านที่พอจะมีเข็มกับด้ายขาย เพื่อจะกลับมาทำตามคำพูดที่เขาให้เอาไว้กับเด็กสาวว่าเขาจะเป็นคนซ่อมป้ายนั่น
คังจินทำตามคำพูดได้ดีกว่าที่จีวานคิดเอาไว้มาก เพราะเช้าวันต่อมา ป้ายเชิดชูเกียรติที่ทางโรงเรียนซันชองทำให้ครอบครัวของเธอกลับมาแขวนหราอยู่ในสภาพเดิม จีวานถึงกับยิ้มออก เช้านี้จึงเป็นเช้าที่สดใสของเธอ ขณะที่เช้าวันแรกในซันชองของคังจินกลับกลายเป็นวันที่เขาเสียใจอย่างสุดซึ้งที่แม่ไม่ทำตามสัญญาอีกแล้ว เพราะแม่กลับมาเปิดโรงน้ำชาที่คอยต้อนรับบรรดาแขกบุรุษทั้งหลายอีกครั้ง
อาชีพอื่นก็มีตั้งมากมาย ทำไมแม่ต้องเอาแต่เปิดโรงน้ำชาด้วย...
คังจินคิดพลางขมวดคิ้วเข้มเป็นปมแน่น ระหว่างที่ยืนมองช่างซึ่งกำลังติดป้ายชื่อร้านอยู่ข้างน้องชายที่ได้แต่กะพริบตาปริบๆ
?เราโดนหลอกอีกแล้วล่ะพี่ แม่โกหกอีกแล้ว? พูซันครางเสียงอ่อย
คังจินเดินกระแทกเท้าเข้าไปใกล้ๆ ด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างไม่คิดจะปิดบัง จากนั้นก็จ้องเบื้องหลังของแม่ที่น่าจะรู้ตัวนานแล้ว แต่ยังแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่ากำลังถูกแววตาของลูกชายทั้งสองทิ่มแทงอยู่
?ยกขึ้นอีกนิดหนึ่ง นี่คุณ มันเอียงไปทางขวาแล้วนะ?
?รู้แล้วครับ? ช่างตะโกนกลับลงมา
?นั่นล่ะ อีกนิดหนึ่ง สูงขึ้นอีกนิด...?
ในที่สุดชุนฮีก็ไม่อาจทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้อีกต่อไป แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็หลีกเลี่ยงที่จะพูดเรื่องสัญญา
?แม่ดูเป็นไงบ้าง สีลิปสติกบาดใจรึเปล่า เซ็กซี่ใช่ไหม?
คังจินไม่มีอารมณ์จะล้อเล่นกับแม่แม้แต่น้อย เขาโกรธมากถึงมากที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ขึ้นเสียงถามแต่อย่างใด
?แม่จะเปิดร้านซุปไส้กรอกไม่ใช่เหรอ?
?ซุปไส้กรอกต้องเคี้ยวนานกว่าจะขาด ไม่งั้นอาจจะสำลักเอาได้? พูดจบก็เสไปทางช่าง ?เชื่อเลย คราวนี้เอียงไปทางซ้ายแล้ว?
คังจินเดินไปเผชิญหน้ากับชุนฮี
?ไหนว่าถ้าเราย้ายมาที่นี่แล้วจะใช้ชีวิตให้ดีขึ้น?
?ฉันก็กำลังพยายามอยู่ แต่ฉันไม่อยากใช้ชีวิตให้ดี ฉันไม่อยากใช้ชีวิตในทางนั้น? พูดอย่างดื้อดึงก่อนจะหันไปหาช่าง ?โอ๊ย พี่คนนี้ นี่ช่าง...มันเอียงขวาไปแล้วนะ ทำให้มันตรงๆ ไม่ได้ใช่ไหม คิดว่าหล่อก็พองั้นเหรอ?
ชุนฮีโวยก่อนจะเหลือบไปเห็นใครบางคนก้าวเข้ามาในร้าน
?ตายจริง เถ้าแก่น้อย?
เถ้าแก่น้อยที่ว่าคือลูกชายของเถ้าแก่เจ้าของตึกที่ชุนฮีเช่าอยู่ จากที่ดูแล้วเขาอายุน้อยกว่าชุนฮีหลายปี แม้จะแต่งตัวดีและขับรถราคาแพง แต่พฤติกรรมที่แสดงออกมาบ่งบอกว่าเป็นพวกกุ๊ยอย่างแท้จริง คังจินรู้สึกไม่ถูกชะตาเอาเสียเลย โดยเฉพาะตอนที่ชายคนนั้นเอาแขนพาดไหล่ชุนฮี
?เตรียมการไปได้ดีไหม เถ้าแก่ของฉันใจป้ำเป็นบ้าให้ราคาถูกๆ กับเธอเลย รู้ใช่ไหม?
?รู้สิคะ ฉันรู้แล้ว? ยิ้มตอบอย่างเอาใจ ?ฉันรู้สึกขอบคุณท่านประธานกับคุณจากใจเหลือเกินค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ?
เถ้าแก่น้อยหัวเราะถูกใจ
?แว่นเก๋ๆ ของคุณมันเชียว? ชุนฮีหยิบแว่นตากันแดดของเถ้าแก่น้อยลงมาเช็ดให้ ขณะที่เถ้าแก่น้อยยิ้มอย่างดูแคลนใส่คังจิน ก่อนจะยกเท้าข้างหนึ่งแล้วกระดิกมันต่อหน้าชุนฮี
?เธอเช็ดไอ้นี่แล้วเช็ดรองเท้าด้วยได้ไหม ฉันแค่เดินลงมาสูบบุหรี่แป๊บเดียว หมาดันมาฉี่ใส่ซะนี่?
ชุนฮีรู้สึกไม่พอใจ แต่ด้วยอาชีพที่ทำอยู่ทำให้เธอต้องอดกลั้น ฝืนยิ้มออกมาอย่างยินดี
?ตายจริง ไอ้หมาเวรตัวไหนมันทำอย่างนั้น รองเท้าสวยเชียว รองเท้าหนังใช่ไหมคะ? พูดจบก็ย่อตัวลง แต่ไม่ทันที่มือจะได้แตะรองเท้าเป็นมันปลาบคู่นั้น คังจินก็เดินมาดึงแขนของแม่ให้มายืนข้างๆ ตัวเอง
?เช็ดรองเท้าสกปรกของนายเองเถอะ แม่ฉันไม่ได้เป็นคนเช็ดรองเท้า?
?คังจิน? ชุนฮีร้องปราม
?ไอ้หมอนี่ คิดว่าพูดข่มใครอยู่วะ หมอนี่เป็นใคร ลูกชายของเธอเรอะ? เถ้าแก่น้อยถามซีเรียส
?พี่ ผมต้องรีบไปโรงเรียนนะ? เด็กหนุ่มในชุดเครื่องแบบโรงเรียนซันชองตะโกนออกมาจากรถด้วยความหงุดหงิด
?รู้แล้ว แป๊บหนึ่งนะ? ตะโกนก่อนหันมาเขม่นคังจิน ?นายมานี่ซิ เมื่อกี้นายพูดว่าไงนะ มานี่สิวะ?
?เดี๋ยวก่อน...? ชุนฮีรีบดึงความสนใจของเถ้าแก่น้อยไปที่น้องชาย ?เธอคงเป็นน้องชายของเถ้าแก่น้อยสินะ เป็นนักเรียน ม.ปลาย เหรอ โรงเรียนมัธยมซันชองใช่ไหม ปีไหน ห้องอะไรเหรอ ลูกชายของฉันก็ต้องไป...?
จงซอกขมวดคิ้วใส่ชุนฮี แล้วหันไปเร่งพี่ชาย
?พี่ รีบไปกันเถอะ?
?ทานข้าวรึยังคะ คุณชายน้อยรูปหล่อ จะรับนมสักแก้วไหมคะ?
?ไปกันเถอะ?
?จู้จี้จริงๆ เลย ไหนว่ายังไม่ได้กินอะไรไง ดื่มนมก่อนไปสิ? เถ้าแก่น้อยหันไปบ่นด้วยความรำคาญ จงซอกฟังแล้วเบ้ปากทันควัน
?ไม่ดื่มหรอก สกปรกจะตาย?
ชุนฮีหน้าเสีย ก่อนจะรีบรั้งตัวลูกชายคนโตเอาไว้อีกครั้ง เนื่องจากรู้จักนิสัยเลือดร้อนของเขาดี
?ถ้าคุณไม่อยากดื่มนม ฉันก็มีโยเกิร์ตนะ?
?ไม่รู้ล่ะ ผมจะไปแล้วนะ พี่นี่รสนิยมแปลกๆ? พูดจบก็เบ้หน้าหนีราวกับไม่ต้องการเสวนากับพวกสกปรกๆ ไปมากกว่านี้
?ไอ้หมอนี่ รอเดี๋ยวสิ เดี๋ยวฉันไปส่ง? พูดกับน้องชายแล้วก็หันมาชี้หน้าคังจิน ?เดี๋ยวฉันกลับมา นายตายแน่ ไอ้เด็กน้อย?
?ขับรถดีๆ นะคะ เถ้าแก่น้อย บ๊ายบาย ขับรถดีๆ นะ บาย?
เมื่อรถยนต์ของเถ้าแก่น้อยลับตาไป ชุนฮีก็ปั้นหน้าดุใส่คังจินด้วยความไม่พอใจ
?ทำไมแกต้องกำหมัดด้วย จะสร้างปัญหาอีกเรอะ จะต่อยใครอีกใช่ไหม อยากจะทำแบบนี้อีกเรอะ อยากโดนเตะออกจากโรงเรียนแล้วต้องย้ายออกจากเมืองกันอีกใช่ไหม ฉันเคยบอกแล้วนะว่านี่จะเป็นที่สุดท้าย ฉันบอกแล้วใช่ไหม ถ้าเราอยู่ที่นี่ไม่ได้ ทางเลือกเดียวที่เหลือคือฉันกับพูซันต้องดื่มยาพิษฆ่าตัวตาย?
เมื่อไม้แข็งใช้ไม่ได้ผล ชุนฮีจึงใช้วิธีทำให้เห็นใจแทน หลังจากเห็นว่าคังจินยังจ้องหน้าเธอนิ่ง
?แต่...ฉันจะไม่เสิร์ฟเหล้าหรอก แกเกลียดมันมากจนอยากตาย ฉันเลยจะไม่ทำไงล่ะ แม่เองก็พยายามทำทุกทางที่จะให้พวกเราอยู่รอดให้ได้แล้วนะ ไอ้เด็กบ้า?
?สีลิปสติกของแม่ห่วยแตก อย่างกับสาวเสิร์ฟในบาร์? คังจินพูดออกมาในที่สุด ก่อนจะลงเท้าหนักๆ เดินหนีไป

จีวานเดินกระแทกเท้าลงจากห้องเรียนมายังบริเวณที่นั่งใต้ต้นไม้ซึ่งมียุนจูรออยู่ด้วยความไม่พอใจ แต่ด้วยความที่ยุนจูเป็นรุ่นพี่ จีวานจึงไม่สามารถแสดงอารมณ์หงุดหงิดออกมาได้ แม้ในใจจะกำลังก่นด่าและสาปแช่งเรื่องที่รุ่นพี่ยุนจูแย่งปาร์คจงซอก แฟนคนแรกของเธอไป
?เธอยังตามตื๊อจงซอกอยู่อีกเหรอ? ยุนจูลอยหน้าลอยตาถาม ขณะที่ดวงตาคู่สวยจับจ้องดวงตากลมโตของจีวาน
?เมื่อเช้าฉันไม่ได้ไป ฉันกำลังควบคุมตัวเองอยู่? จีวานปฏิเสธพร้อมอธิบาย
?แต่เมื่อวานตอนเช้าเธอไปนี่ ฉันเห็นเธออยู่ที่หน้าบ้านของปาร์คจงซอก? ยุนจูย้อน
?ฉันก็แค่ลืมไปชั่วขณะ ฉันลืมไปชั่ววูบว่าฉันเลิกกับปาร์คจงซอกแล้ว และคิดว่าต้องมาโรงเรียนกับเขา?
?เธอลืมเรื่องแบบนั้นเนี่ยนะ? ยุนจูหรี่ตาเอาเรื่อง
?ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ก็เราเพิ่งจะเลิกกันไปสามอาทิตย์เอง แล้วฉันก็ยังรับความจริงไม่ได้? จีวานรีบปฏิเสธ เพราะเข้าใจดีว่ายุนจูหมายถึงคนปัญญาอ่อนเท่านั้นแหละที่จะลืมเรื่องอย่างนั้นได้หน้าตาเฉย
เจ้าของใบหน้าสวยดุจเทพธิดาลุกขึ้นก่อนยื่นหน้าเข้าไปใกล้จีวาน
?ฉันขอเตือนเธออีกครั้งนะว่า ปาร์คจงซอกกำลังคบกับฉันอยู่ อย่าทำตัวน่าสงสาร ป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้เขาในฐานะเพื่อนสาว ฉันเสียศักดิ์ศรีแทนน่ะ?
จีวานช้อนหน้าขึ้นมองยุนจูด้วยความโมโห ก่อนจะขึ้นเสียงอย่างสุดทน
?รุ่นพี่! นอกจากจงซอก พี่ยังมีผู้ชายอีกมากมายต่อแถวมาชอบ?
?แล้วยังไง?
?พี่เมินผู้ชายพวกนั้นหมด แล้วมาขโมยผู้ชายที่มีเจ้าของแล้วได้ยังไง?
?ใครเป็นเจ้าของ เธอเป็นเจ้าของเหรอ ใครบอกแบบนั้น? ปาร์คจงซอกมาทันได้ยินเข้าพอดี เขาเอ่ยถามขึ้นด้วยความไม่พอใจ
ยุนจูขยับเรียวปากยิ้มเยาะ...เธอคาดการณ์เอาไว้แล้วว่าเด็กสาวแสนใสซื่อแถมตรงไปตรงมาอย่างจีวานต้องพูดแบบนี้กับเธออย่างแน่นอน ถึงได้นัดจงซอกให้มาพบที่นี่ แล้วมันก็เป็นไปตามคาดจริงๆ ที่จงซอกมาเห็นตอนที่เธอกำลังโดนจีวานคุกคามด้วยคำพูด
...สะใจอะไรอย่างนี้นะ เธอไม่มีวันได้จงซอกกลับไปแล้วล่ะ ยัยเด็กโง่เอ๋ย!
?คนที่คบกัน ก็หมายความว่าเขาเป็นเจ้าของกัน? จีวานอธิบายตะกุกตะกัก
จงซอกขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ชอบใจในสิ่งที่จีวานพูดออกมา
?เราไม่ได้คบกัน ฉันแค่เล่นๆ ไปสักพักจนได้มาเจอรุ่นพี่ยุนจู อย่าแวะมาบ้านฉันเพื่อจะมาโรงเรียนด้วยกันอีกนะ? จงซอกสั่งแล้วยกแขนโอบไหล่ยุนจู ?ไปกันเถอะรุ่นพี่?
จีวานมองตามหลังทั้งคู่ด้วยความเจ็บใจ และไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเธอต้องเจอกับเรื่องแย่ๆ อย่างนี้ด้วย จีวานกระทืบเท้าอย่างหงุดหงิด ก่อนจะยกมือกุมไหล่ซึ่งเจ็บแปลบราวถูกสายฟ้าฟาดใส่ เพราะจู่ๆ ก็มีลูกเบสบอลลอยมากระแทกเข้าอย่างจัง
?นี่ ขอโทษนะ โยนบอลนั่นให้ฉันหน่อยสิ? นักเรียนชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา จีวานที่กำลังเม้มปากเป็นเส้นตรงอยู่ก้มลงมองหาลูกบอลที่ว่านั่น ไม่นานนักเธอก็เจอมัน เธอก้มลงเก็บ แต่แทนที่จะคืนมันให้เด็กผู้ชายคนนั้น จีวานกลับปามันอย่างแรงไปที่ยุนจู
เพล้ง!
ลูกบอลลอยละล่องไปกระแทกกระจกแทนที่จะเป็นหลังของยุนจู ความซวยอีกระลอกหนึ่งจึงคืบคลานมาหาจีวาน ทันทีที่เธอได้ยินเสียงอาจารย์โวยวายเรื่องกระจกแตก

?นี่เธออีกแล้วเหรอ ฉันคิดว่าเธอจะหยุดก่อเรื่องได้สักสองวัน ไอ้เด็กนี่?
จีวานที่กำลังนั่งคุกเข่าพร้อมกับชูแขนเหนือศีรษะทำหน้าเหยเกทันทีที่อาจารย์แจกมะเหงกหนักๆ ลงมาบนศีรษะของเธอ ขณะที่คังจินยืนอยู่หน้าห้องและมองเข้าไปด้านในอย่างไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน พอดีอาจารย์ท่านหนึ่งสังเกตเห็นคังจินเข้า ท่านเลยตะโกนเรียกให้คังจินเข้าไป
คังจินเดินผ่านไปโดยไม่ทันสังเกตว่าเด็กที่กำลังโดนทำโทษอยู่นั่นคือจีวาน เขาไปยืนอยู่ใกล้ๆ อาจารย์ที่กำลังดูรายงานเรื่องอาหารที่กางอยู่ในมือ ยุนจูเงยหน้าจากรายงานไปมองนักเรียนใหม่ ใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหล่อเหลาราวเทพบุตรผู้เคร่งขรึมทำเอายุนจูถึงกับตาค้างด้วยความตกตะลึง
?เด็กทั้งหมดทานกันได้ใช่ไหม?
ยุนจูกลั้นใจละสายตาจากคังจินหันมาตอบคำถามอาจารย์
?ค่ะ ทานกันได้หมดค่ะ?
?ดี ในฐานะหัวหน้าห้อง เธอดูแลเรื่องพวกนั้นได้ดี? อาจารย์เอ่ยปากชมก่อนจะหันไปเลิกคิ้วใส่คังจินเป็นเชิงถาม
?ผมชื่อชาคังจินครับ? คังจินแนะนำตัวพร้อมกับยื่นสมุดพกให้
?อ๋อ นักเรียนย้ายมาใหม่ เฮ้อ จะย้ายอะไรกันนักหนาเนี่ย? อาจารย์หนุ่มวัยสามสิบบ่นปอดแปดพลางเปิดสมุดพกของคังจิน ?อยู่มาแล้วสี่โรงเรียนในหนึ่งปีครึ่ง แล้วนี่มันอะไรกัน ดร็อปสองครั้ง...เรียนช้าไปตั้งหนึ่งปี เฮ้อ ดร็อปเหรอ นี่คือเธอโดนไล่ออกมาจากโรงเรียนเก่าใช่ไหม?
เพราะคังจินเอาแต่มองตรงไปข้างหน้าโดยไม่ตอบคำถาม อาจารย์ประจำชั้นจึงเริ่มรู้สึกหงุดหงิดและถามต่ออย่างใส่อารมณ์
?บอกเหตุผลที่โดนไล่ออกและดร็อปมาซิ หนึ่ง คบกับกลุ่มเพื่อนที่ไม่เอาถ่าน แล้วเธอก็เป็นหัวหน้าของพวกนั้น สอง เธอชกต่อยกับคนอื่น สาม เธอขี้โกงจนติดเป็นนิสัย สี่ เธอสมองช้าเกินไปจนทำให้ไม่สามารถที่จะเรียนชั้นมัธยมได้แล้ว ข้อไหนล่ะ ถ้าคำถามแบบตัวเลือกตอบยากนัก จะให้ฉันถามคำถามแบบเรียงความไหม จะไม่ตอบใช่ไหม เธอพูดอยู่กับหมาข้างบ้านรึไง?
?ข้อสองครับ? คังจินตอบอย่างนึกรำคาญในใจ
อาจารย์เลิกคิ้วก่อนจะขมวดเป็นปมที่เห็นลูกศิษย์ใหม่เชิดหน้าเชิดตาตอบราวกับมันเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจ
?ฮู้ น่าโอ้อวดนักนะ การชกต่อยกับคนอื่นเป็นเรื่องน่าโอ้อวดนักนะ ไอ้เวร โอ๊ย ฉันจะบ้าตาย ผู้อำนวยการต่อต้านอะไรฉันถึงขนาดต้องส่งอันธพาลแบบเธอมาอยู่ห้องฉันด้วยเนี่ย โอ๊ย ฉันจะบ้าตายจริงๆ?
ระหว่างที่บ่นอย่างน่ารำคาญต่อนั่นเอง อาจารย์อีกคนก็เอากระดาษแผ่นหนึ่งมายื่นให้
?อาจารย์ ท่านผู้อำนวยการต้องการแฟกซ์จากกรรมการโรงเรียนเมื่อวานนี้ ท่านต้องการให้คุณจัดการด่วนเลย ภายในหนึ่งชั่วโมงนะ?
?แฟกซ์เหรอ แฟกซ์อะไร โอ๊ย...ฉันมั่นใจเลยว่าเขาจะต้องตั้งใจทำให้ฉันเป็นบ้าแน่ๆ เลยเนี่ย ไม่มีทางที่ฉันจะจัดการเอกสารนี่ได้ภายในหนึ่งชั่วโมงหรอก แล้วยังเขียนเป็นภาษาอังกฤษอีก เฮ้อ เด สปิท อา ฟอร์ตี้ซิก เปอร์เซ็นต์ จั๊มพ์ อิน ดิ เอเวอเรจ ออฟ อโม...อโมเม้นท์ แธท ลอสคอล สแต...ฉันจะบ้าตาย ดิกอังกฤษอยู่ไหนนะ หัวหน้าห้อง?
ยุนจูรีบดึงสายตาจากคังจินมาที่อาจารย์ทันทีที่ถูกเรียก
?คะ??
?พาเขาไปที่ห้องเรียนก่อนนะ โอ๊ย เราจะสอบวัดความรู้ปลายภาคของปีนี้แล้วใช่ไหมฮะ เด็กคนนี้เกรดเฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์แน่ๆ การโดนไล่ออกจากโรงเรียนก็ทำให้เธอเรียนได้ยากกว่าเพื่อนๆ อยู่แล้ว อย่างน้อยก็เรียนภาษาเกาหลีมาใช่ไหม แล้ว ABC ของเธอล่ะ โอ๊ย หัวฉัน ไปเถอะ ไปๆ มีอาจารย์ที่มีดิกภาษาอังกฤษไหม อาจารย์ชเว เอาดิกเล่มนั้นให้ผมหน่อย?
คังจินมองกระดาษแผ่นนั้นอยู่นาน ก่อนจะยื่นมือไปดึงมันมาแล้วเริ่มอ่านอย่างคล่องแคล่ว
?Despite a 46 percent jump in the average amount the local state and federal government spent per pupil, the percentage of high school students who graduate has actually dropped from 73.3 percent to 71.1 percent.?
?แปลซิ? อาจารย์ที่กำลังฟังด้วยความรู้สึกทึ่งสั่งคังจิน
?ทั้งๆ ที่รัฐบาลและเมืองท้องถิ่นเพิ่มงบเฉลี่ย 46% ต่อนักเรียน 1 คน จำนวนเปอร์เซ็นต์ของนักเรียนที่จบ ม.ปลาย ก็ยังตกลงมาจาก 73.3% อยู่ที่ 71.1%?
?ต่อซิ?
?รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ กำหนดว่าเพื่อเป็นข้อยุติเรื่องประสิทธิผลต่อระบบการศึกษา...?
อาจารย์รีบเปิดสมุดพกในมือไปยังหน้าที่แจ้งคะแนนในการสอบที่ผ่านมาทั้งหมด เมื่อเห็นคะแนนของคังจิน ก็ถึงกับอุทานเสียงดังขึ้นมาราวกับไฟไหม้
?คะแนนสูงสุด ฮะ?! เธอได้คะแนนสูงสุดในการสอบวัดความรู้ที่โรงเรียนเก่า แล้วยังได้ลำดับที่ 7 ของประเทศ โอ้วๆ ที่หนึ่งๆๆ อะไรกัน เธอได้ที่ 1 ของห้องของทุกโรงเรียนที่เรียนมา มันสมเหตุสมผลแล้วเหรอเนี่ย โอ้ว เหลือเชื่อจริงๆ นี่เธอ...โดนไล่ออก แล้วก็ยังโดนพักการเรียนอีก ที่หนึ่งของโรงเรียน ที่ 7 ของประเทศเหรอ มันสมเหตุสมผลแล้วเรอะ ฮ้า เธอ...เป็นอัจฉริยะเหรอ?
จีวานซึ่งนั่งบิดซ้ายบิดขวาด้วยความปวดหน่วงๆ ที่ท้องน้อยอยู่ได้ระยะหนึ่งแล้วตัดสินใจเอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ใกล้จะร้องไห้เต็มที
?อาจารย์คะ หนูต้องไปห้องน้ำแป๊บหนึ่งค่ะ จะอั้นไม่ไหวแล้วค่ะ? จีวานตะโกนแล้วมองไปรอบห้องที่ไม่มีใครสนใจเธอสักคนเดียว จีวานที่น่าสงสารตัดสินใจลุกขึ้น ทว่า...ไม่ทันแล้ว เธอฉี่รดกางเกงทันทีที่ก้าวขาออกไปแค่ข้างเดียวเท่านั้น
จีวานภาวนาว่าทุกคนจะยังสนใจแต่นักเรียนใหม่ต่อไป แต่คำภาวนานั้นกลับได้ผลตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง และดูเหมือนว่าพระเจ้าจะเกลียดเธอเข้ากระดูกดำ เพราะเมื่อจีวานหันไปด้านหลัง นอกจากทุกคนจะพร้อมใจกันหันมาสนใจเธอ จีวานยังได้สบตาคู่ปรับเก่าเข้าอย่างจังในสภาพที่ถุงเท้าเปียกชุ่มไปด้วยปัสสาวะ
ต่อหน้าผู้ชายคนนั้นเนี่ยนะ!
จีวานรีบหันกลับมา นึกอยากจะตายตรงหน้าประตูนี้เสียให้รู้แล้วรู้รอดเพื่อหนีความอัปยศอดสูเกินที่จะกล่าว

?โอ๊ย...เชื่อเลย จีวาน? จูจินคยองพูดออกมาพร้อมกับถอนหายใจระหว่างที่มองเพื่อนกำลังใส่กางเกงพละอย่างหมดอาลัยตายอยาก ?บางครั้งเธอรู้สึกเกลียดตัวเองบ้างไหม?
?ไม่เลย แค่ตลอดเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงต่อวัน ทั้งวันเลย? จีวานประชด
จินคยองถอนหายใจหนักๆ
?เฮ้อ แม่เธอน่ะ ท่านปิดหน้าเอาไว้ตอนที่ท่านเอาชั้นในมาให้เธอ ท่านคงขายหน้ามาก แล้วฉันก็ต้องหลบมุมตอนไปพบกับท่านเพื่อเอามันมา?
?เฮ้อ...? จีวานถอนหายใจอย่างพูดอะไรไม่ออก แม่ต้องอับอายแน่อยู่แล้ว เพราะที่เธอรู้สึกอยู่มันก็ไม่ต่างอะไรกันนัก
จินคยองมองจีวานแล้วขมวดคิ้ว
?หลบมุมอะไรกัน แม่ของเธอจะทำแบบนั้นได้ยังไง ได้ยินว่าท่านเดินเชิดโอ้อวดตอนที่พี่ของเธอเข้าโรงเรียน ฉันเป็นแม่ของฮันจียง นักเรียนที่ได้คะแนนสูงสุดของโรงเรียน ตามที่แม่ของฉันบอก เวลาคนเรียกแม่ของเธอว่า...แม่จีวาน ท่านไม่อยากตอบกลับเลย นอกจากเรียกว่า...แม่จียง?
ไหล่จีวานลู่ลงอย่างหดหู่
?ไม่ต้องตอกย้ำ ฉันรู้สึกเหมือนจะตายอยู่แล้วล่ะ เอายาพิษมาให้ฉันสิ ฉันจะกินแล้วตายให้ดู?
?ฉันก็แค่รู้สึกแย่ไปกับเธอ ในฐานะเพื่อนรัก ตลอดชีวิต ฉันไม่เคยเจอใครที่ชีวิตมีแต่อุปสรรคเหมือนเธอมาก่อน ขนาดเธอก้าวถอยหลังก็ยังล้ม...จมูกหัก?
?เธอคิดว่าเธอรู้สึกอยู่คนเดียวรึไง ฉันก็เป็นเหมือนกัน เฮ้อ แล้วทำไมจะต้อง...เป็นหมอนั่นด้วยนะ? จีวานพูดพลางขยี้หัวตัวเอง ทำไมแววตาของหมอนั่นในตอนนั้นถึงไม่ยอมลบเลือนไปสักทีก็ไม่รู้!
?อ้อ จริงสิ ดิคาปริโอเห็นเธอฉี่ราดด้วยใช่ไหม?
จีวานเลิกทึ้งผมแล้วหันไปเลิกคิ้วใส่ ?ดิ...คาปริโอ อะไร?
?หนุ่มฮอตปี 3 ที่ย้ายมาใหม่ไง เพราะพี่คนนั้น สาวๆ ในโรงเรียนถึงได้ตื่นเต้นกันใหญ่ ถ้าเราก่อตั้งแฟนคลับตอนนี้ก็น่าจะมีสมาชิกอย่างน้อย 50 คนได้เลยนะ เด็กใหม่ของห้องเราก็เป็นน้องชายของพี่คนนั้นด้วย?
?ชิ!? จีวานเบ้ปาก สำหรับเธอแล้ว ต่อให้หน้าตาดีแค่ไหนก็สู้พี่จียงพี่ชายเธอไม่ได้
?เธอไม่เห็นเขาเหรอ? จินคยองถาม แล้วก็เริ่มอธิบายให้จีวานเห็นภาพจากเรื่องราวที่เพิ่งผ่านมา ?ตอนที่เธอโดนทำโทษที่ห้องพักครูแล้วฉี่ราด พี่คนนั้นก็อยู่ที่นั่นนะ?
อยู่ที่นั่น...หมายความว่าหนุ่มฮอตคนนั้นอยู่ในห้องนั้น แล้วในห้องนั้น คนที่เธอเพิ่งเคยเห็นหน้าก็มีนักเรียนใหม่อยู่คนเดียว ตอนนี้ทั้งใบหน้าและแววตาของคังจินลอยขึ้นมาในห้วงคำนึงของจีวาน เล่นเอาจีวานยกมือขึ้นมากุมขมับ นึกอยากให้เรื่องนี้เป็นแค่ฝันร้าย ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องนี้คงจะเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ไปอีก 75 วันทีเดียว


**********************************************************

ติดตามเรื่องราวความรักที่จะทำให้คุณอบอุ่นหัวใจท่ามกลางลมหนาวใน Will it Snow for Christmas อธิษฐานรัก ณ ปลายหนาว ได้แล้ววันนี้ ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”