New Release : Princess Hearts ภาค คู่รักลวงโลก

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : Princess Hearts ภาค คู่รักลวงโลก

โพสต์ โดย Gals »

เรื่องย่อ

ลูซีโด้ อาร์คดยุคแห่งอเจนเซนจำต้องรับเจรัลดี คราวน์ หญิงในย่านราตรีที่หน้าตายและไร้ความรู้สึก

เป็นอาร์คดัชเชส ทั้งที่รู้ว่านางเป็นตัวปลอมของเจ้าหญิงเมริลโรสที่หมายปอง แต่ด้วยมันสมองอันล้ำเลิศของเจรัลดี

เขาจึงต้องพึ่งนางในการบริหารบ้านเมือง ทว่าหน้าที่ของนางไม่ได้มีเท่านั้น

เพราะปริศนาการตายอย่างต่อเนื่องได้เริ่มต้นขึ้น และเข้าใกล้ทั้งสองคนมากขึ้นไปทุกที





1

กาลครั้งหนึ่ง ณ แคว้นเล็กๆ ที่ก่อตั้งได้ไม่นานนามอเจนเซน

แคว้นแห่งนั้นมีอาร์คดยุคหนุ่มผู้เปี่ยมชีวิตชีวานามลูซีโด้ และเจ้าหญิงผู้เลอโฉมนามเมริลโรส

แม้ผูกพันด้วยการแต่งงานทางการเมือง แต่ทั้งคู่กลับเข้ากันได้อย่างดี บ่อยครั้งเจ้าหญิงมักช่วยงานอาร์คดยุคที่เอาแต่ออกศึก จนแคว้นอเจนเซนเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว

ทว่า ทั้งสองมีความลับที่ไม่อาจบอกใครได้

ทั้งคู่ที่สนิทสนมกลมเกลียวกัน

แท้จริงแล้ว

คือ ?คู่รักจอมปลอม? ตัวจริงเสียงจริง...!

อาร์คดยุคลูซีโด้ มิริ อเจนเซน กษัตริย์แห่งอเจนเซน แคว้นทางเหนือ มักฝันถึงอดีตบ่อยๆ

สมัยที่ยังสูงแค่ไหล่ของตัวเองขณะนี้

ช่วงที่ถูกฝากฝังไว้กับราชวังจักรวรรดิพาลเมเนีย มหาอำนาจอันดับหนึ่งของทวีปที่อเจนเซนตกเป็นอาณานิคม ในฐานะตัวประกันชั้นดี

?นี่ ลูซีโด้ นี่เป็นความลับนะ อย่าบอกเรื่องที่นี่ให้ใครรู้เชียว?

นางใช้นิ้วชี้แตะริมฝีปากจุ๋มจิ๋มดุจลูกเชอร์รี่และทำเสียงชู่ว์

?เพราะมันคือสถานที่ลับของเราสองคน...สวนสีครามที่มีแต่ดอกไม้สีน้ำเงินเบ่งบาน ทั้งดอกไม้ที่หาดูไม่ได้ในพาลเมเนีย ไม้กลิ่นหอมจากตะวันออกก็มี ในราชวังพาลเมเนีย ข้าโปรดปรานที่นี่ที่สุด ไม่สิ หนึ่งเดียวต่างหาก?

เส้นผมสีเงินยาวสลวยดั่งแพรไหมของนางพลิ้วไหวแวววาวเคลียใบหน้าเปื้อนยิ้มยามเอื้อนเอ่ย

เมริลโรสตัวน้อย

เมริลโรสผู้น่ารัก

ทั้งที่อายุมากกว่าเขาเพียงปีเดียว แต่กลับทำตัวเป็นพี่สาวเช่นนี้เสมอ

...นางคือเจ้าหญิงอันดับหนึ่งแห่งจักรวรรดิพาลเมเนียที่กุมตัวลูซีโด้ไว้

สถานที่ซึ่งเมริลโรสมักพาลูซีโด้หนีครูสอนพิเศษมาซ่อนคือสวนหลังวัง ซึ่งอดีตเคยเป็นสถานที่แสนโปรดปรานของกษัตริย์รุ่นใดรุ่นหนึ่งของพาลเมเนีย

ราชวังเอสปาลด้าแห่งพาลเมเนีย แผ่กว้างเป็นรูปอินทรีสยายปีกซับซ้อนวกวนไม่ต่างกับเขาวงกตสำหรับเด็กน้อยอย่างพวกเขา ซึ่งสวนนั้นอยู่ลึกเข้าไปอีก...วันนั้นเมริลโรสพาลูซีโด้มายังสวนหย่อมหญ้ารก ล้อมด้วยกำแพงหินที่สูงกว่าตัวเองหลายเท่า

การกระทำนั้นมีความหมายพิเศษ

ลูซีโด้จากอเจนเซนมาอยู่พาลเมเนียนานแปดปี แต่พรุ่งนี้เขาจะได้กลับบ้านเกิด

...ใช่ เวลาแห่งการจากลากใกล้มาถึงแล้ว

?เหงาจัง ถ้าลูซีโด้ไม่อยู่ ข้าก็อดเล่นซ่อนหากับเล่นแม่ลูกน่ะสิ?

เมริลโรสแหวกพุ่มดอกเอลเดอเบอรี่สีน้ำเงิน เดินลึกไปยังท้ายสวนพลางระวังไม่เหยียบดอกสไปเดอร์วอทที่ใกล้ผลิบาน

สวนหย่อมร้างผู้คน สวนหลังวังที่ใครต่างขนลุกไม่กล้าย่างกรายเข้าใกล้

มีตำนานว่า ครั้งหนึ่ง กษัตริย์มิลเฟรดที่ 2 เจ้าของฉายากษัตริย์อำมหิตและกษัตริย์ปีศาจเคยแอบประกอบพิธีกรรมมนต์ดำไสยศาสตร์ที่นี่

นางพูดอย่างเสียดายเหลือแสน

?ลูซีโด้เล่นบทคุณแม่เก่งขึ้นตั้งเยอะ ตอนทำกับข้าวด้วย?

?ขอบคุณที่ชมขอรับ?

แม้ตอบเช่นนั้น แต่ในใจลูซีโด้กลับรู้สึกบอกไม่ถูก เพราะความจริงเขาไม่อยากเล่นทั้งบทแม่และบทน้องชายของเมริลโรส

?นี่ ลูซีโด้มาอยู่ราชวังพาลเมเนียตั้งแต่กี่ขวบนะ?

?ประมาณ 6 ขวบขอรับ?

เขาพูดพลางนึกถึงอดีตเมื่อแปดปีก่อนได้รางๆ

จักรวรรดิพาลเมเนียอันศักดิ์สิทธิ์คืออาณาจักรมหาอำนาจอันดับหนึ่งในทวีป

แคว้นที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นานอย่างอเจนเซนซึ่งอยู่ติดกันทางเหนือจึงส่งบุตรหลานในราชวงศ์ไปเป็นตัวประกันตามธรรมเนียมปฏิบัติ ในฐานะแคว้นใต้ปกครองของพาลเมเนียและอาณานิคมที่จงรักภักดี

ซึ่งไม่ใช่ใครนอกจากลูซีโด้ เจ้าชายรัชทายาทแห่งอเจนเซน

แม้มีอนุชาฝาแฝดลิโดริส แต่สักวันตัวเองต้องขึ้นเป็นอาร์คดยุคต่อจากบิดาอยู่แล้ว...

แต่ทั้งอาร์คดยุคบิดาและมารดากลับส่งเขาซึ่งเป็นรัชทายาทให้พาลเมเนีย ในฐานะตัวประกันที่ตายได้ทุกเมื่อ ถ้าสัมพันธไมตรีกับพาลเมเนียเลวร้ายลง...

(ไม่ใช่ลิโดริส น้องข้า!)

เหตุใดมารดาถึงจงเกลียดจงชังเขาขนาดนั้น

จนบัดนี้ลูซีโด้ก็ยังไม่เข้าใจ เพราะพรากจากกันตอนเล็กมาก แต่สิ่งเดียวที่รู้ตอนนี้คือลิโดริสแฝดผู้น้องคงถอดแบบหน้าตารัชทายาททุกกระเบียดนิ้วและวางโตทำหน้าเหมือนเป็นเจ้าของราชวังอเจนเซน

?น่าสงสารจัง เด็กขนาดนั้นแต่ขาดทั้งท่านพ่อท่านแม่ คงอ้างว้างน่าดู?

?ไม่ขอรับ เพราะข้ามีท่านเมริลโรสอยู่ทั้งคน?

เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรปรปักษ์ผู้แก่กว่าหนึ่งปี

แต่ถ้าขาดนาง... ถ้านางไม่คอยช่วยปกป้องลูซีโด้จากคนรอบข้างไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เขาคงจบชีวิตไปนานแล้ว ลูซีโด้คิด

ซุ้มโดมเหล็กเก่าโทรมขึ้นสนิมเริ่มปรากฏสู่สายตา ไม้เลื้อยพันเกี่ยวมันจนไม่ต่างกับกรงนกขนาดใหญ่

นางเอ่ยขึ้น

?แต่เราต้องจากกันแล้ว ข้าเป็นนกในกรง ชีวิตนี้ไม่เคยออกจากวัง และคงไม่ได้ออกเรือนด้วย เพราะบิดาข้าคงไม่มีทางอนุญาต?

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลูซีโด้จึงตัดสินใจทำสิ่งที่นอนครุ่นคิดมาทั้งคืน

เขาพูดกับแผ่นหลังแบบบางของนาง

?...สักวันหนึ่ง อยากให้ข้ามารับไหม ท่านเมริลโรส?

นั่นคือความปรารถนาที่เขาเก็บงำในใจตลอดมา

?เอ๊ะ...?

?พะ พอข้ากลับไปอเจนเซน และได้เป็นบุรุษที่คู่ควรกับท่านเมื่อไร...?

จริงอยู่ที่คำพูดนั้นแฝงนัยถึงความทะเยอทะยานที่จะโค่นอนุชาและขึ้นเป็นอาร์คดยุคแห่งอเจนเซน แต่สำหรับลูซีโด้ มันลึกซึ้งและแรงกล้ากว่านั้น

คำขอแต่งงานครั้งแรก

และอาจเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต

?ลูซีโด้...?

เมริลโรสจ้องเขาด้วยสีหน้างงงัน

น้ำไหลเอื่อยแทบเท้า น้ำพุผุพังจนเกิดลำธารเล็กๆ ในสวน เขากระโดดข้ามลำธารนั้นได้สบาย ต่างกับตอนมาที่นี่ใหม่ๆ ลูซีโด้สูงแซงหน้าเมริลโรสแล้ว และลำธารก็เป็นเพียงแอ่งน้ำธรรมดา

(ข้าไม่ใช่เด็กแล้ว)

เขาคิดเช่นนั้น

จะไม่เล่นแม่ลูกหรือพี่สาวน้องชายกับนางแล้ว

เมริลโรสไม่ต้องปกป้องเด็กขี้แยอย่างเขาอีกต่อไป

คืนวันอันเยาว์วัย ไกลห่างทั้งคู่ออกไปทุกที

เขาอายุสิบสี่ นางอายุสิบห้า

วัยที่บุรุษประกาศตัวเป็นอัศวิน ส่วนสตรีออกเรือน

เขาจึงเก็บเงียบไม่ได้อีกต่อไป

ว่าเฝ้ามองนางมาตลอดตั้งแต่แรกพบ

...และรักนางเสมอมา

?ลูซีโด้ พูดจริงหรือ?

เมริลโรสก้าวเข้าไปใกล้ลูซีโด้

?จะมารับข้าจริงหรือ เจ้าจะพาข้าออกไปจากกรงนกนี้ จะชิงข้าไปจากพระบิดาหรือ?

?เพื่อเหตุนั้น ข้าจึงต้องกลับอเจนเซน แว่นแคว้นอนาถาที่ไม่เหลือใครนอกจากศัตรู ข้าต้องการกำลัง เพื่อชิงท่านมาจากองค์จักรพรรดิ ถ้าไม่โค่นน้องชายและกุมอำนาจทุกอย่างของอเจนเซนไว้ในมือนี้ล่ะก็ ข้าคงไม่มีทางชนะจักรวรรดิพาลเมเนียได้?

?...สัญญากับข้าได้ไหม?

?แน่นอนขอรับ?

ใบหน้าสงบเยือกเย็นของเมริลโรสเบ้ทันที

น้ำตาที่เขาไม่เคยเห็นไหลอาบแก้มขาวอมชมพูเลือดฝาดของนางเป็นทาง

?ข้าเฝ้ารอให้ใครสักคนพูดคำนั้นมาตลอด?

นางสะอื้นเล็กน้อย

เหมือนเด็กไม่มีผิด

?ข้าจะรอนะ ลูซีโด้ รอตลอดไป ต่อให้ต้องแสร้งเป็นหญิงเสียสติในสวนสวรรค์สีครามนี้ก็จะรอ จนถึงวันที่เจ้ามารับข้า?

?เมริลโรส?

ลูซีโด้รวบรวมความกล้าทั้งหมดสวมกอดร่างที่เล็กกว่าเขาถนัดตา

นางไม่ขัดขืน นาทีนั้นทำให้ลูซีโด้รู้ว่าในใจนาง ตัวตนของเขาเปลี่ยนจากน้องชายขี้แยไปเป็นอัศวินผู้กล้าแล้ว

?ข้าจะมารับแน่ แต่อาจต้องรอนานหน่อย แต่ข้าจะไม่ลืม?

?ข้าก็เช่นกัน ต่อให้เจ้าไม่มา ต่อให้ข้ากลายเป็นยายแก่ผมหงอกอัปลักษณ์ ก็จะเด็ดแต่ดอกไม้สีน้ำเงินในสวนนี้รอเจ้า เฉพาะดอกไม้ที่บานในดินแดนแห่งความตาย*...?

เขามองนัยน์ตาสีน้ำเงินของเมริลโรส

ลูซีโด้ไม่เคยเห็นสีน้ำเงินแบบนี้มาก่อน จากที่ได้ยินได้ฟังมา ท้องฟ้าเหนือทะเลทรายแถบตะวันออกที่พวกพ่อค้าสัญจรไปมามีสีน้ำเงินแบบนั้น

ดอกไม้ในดินแดนแห่งความตายก็คงเช่นกัน

...ตอนนั้น ลูซีโด้มิอาจลืมใบหน้าตัวเองที่สะท้อนในดวงตาสีครามคู่นั้นของนางได้แม้ชั่วอึดใจ

?ข้าให้สัญญา?

เขาจุมพิตนาง

หรือเพราะที่นั่นเป็นสวนหย่อม จุมพิตแรกถึง...

...มีกลิ่นดอกไม้

...ช่วงเวลาสี่ปีหลังแยกกับเมริลโรสและกลับมาอเจนเซน ทุกวันคือคืนวันอันเลวร้ายแสนสาหัสสำหรับลูซีโด้

เริ่มด้วยการสังหารมารดาที่อยากให้ลิโดริสสืบบัลลังก์และต่อสู้กับบิดาบังเกิดเกล้า หลบไปกบดานในชนบทหลายปี พลางกระชับสัมพันธ์กับชนเผ่าที่ถูกลอยแพจากการรวมศูนย์อำนาจ และกำลังคนของพวกเขาก็ช่วยให้ลูซีโด้มีกองทัพทรงอานุภาพกว่าอาร์คดยุคผู้เป็นบิดา

เมื่อโค่นล้มบิดาและขึ้นเป็นอาร์คดยุคแห่งอเจนเซนที่ใฝ่ฝันแล้ว ความปรารถนาแรกของเขาคือการรับเมริลโรส เจ้าหญิงอันดับหนึ่งแห่งพาลเมเนียมาเป็นชายาของตน

ตลอดสี่ปีที่ยึดครองอเจนเซนและแผ่อิทธิผลออกไปสู่ภายนอก จักรวรรดิพาลเมเนียก็อ่อนกำลังลง

การปฏิรูปของโซลทาคที่ 1 จักรพรรดิองค์ปัจจุบันล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง...เหล่าขุนนางเอาใจออกห่าง พาลเมเนียจึงไม่ใช่อาณาจักรมหาอำนาจอีกต่อไป

?ข้าจะกลับมารับท่านแน่นอน?

สี่ปีหลังสาบานด้วยเกียรติของนักบุญคุ้มครองประจำตน ในวันปลายฤดูใบไม้ผลินั้น ลูซีโด้ก็รับเมริลโรสมาเป็นชายาตามสัญญา

พิธีอภิเษกสมรสของทั้งคู่ยิ่งใหญ่อลังการอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ชาวอเจนเซนพากันจัดงานเฉลิมฉลองอย่างครึกครื้นทั่วแคว้นเป็นเวลาเกือบเดือน ด้วยความไม่คาดฝันและปีติยินดีที่ได้ต้อนรับเจ้าหญิงอันดับหนึ่งแห่งจักรวรรดิพาลเมเนียมาเป็นชายาในอาร์คดยุคแห่งแคว้นเล็กๆ นี้

ตลอดสี่ปี ลูซีโด้ยังรักเมริลโรสไม่เปลี่ยนแปลง

เมื่อได้พบกันอีก เมริลโรสก็บอกว่าคิดถึงลูซีโด้เช่นกัน

.....และแล้ว.....

บัดนี้ เหตุใดจึงมีกำแพงที่มองไม่เห็นอยู่กลางเตียงนอนของสามี ลูซีโด้ มิริ อเจนเซนและภรรยาเมริลโรส ผู้สาบานรักต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้า

?ในสภาพนี้ยังหลับปุ๋ยได้นะ?

เช้านั้น ลูซีโด้ตื่นก่อนภรรยาอย่างผิดวิสัย เขามองใบหน้ายามหลับของนางซึ่งนอนกุมมือบนอกราวคนสิ้นใจอยู่ข้างตัวเองด้วยสายตาสุดซึ้ง

...จากนั้นมาสี่ปี

เมริลโรสในวัยสิบเก้ายังงดงามไม่สร่าง

เส้นผมเป็นลายริ้วสีเงินสลับสีทอง ราววารีที่หลั่งรินบนสรวงสวรรค์ ดวงเนตรสีน้ำเงินสุกสกาวใต้เปลือกตาที่ปิดอยู่

และผิวขาวผ่องเป็นยองใย

ถ้าชาวบ้านตาดำๆ รู้จักหน้าตาเจ้าหญิงแห่งพาลเมเนีย (ซึ่งถูกบิดาห้ามไม่ให้ย่างกรายออกจากซอกหลืบของราชวังแม้แต่ก้าวเดียว) ล่ะก็ คงบอกว่านางคือเมริลโรสผู้นั้นอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่

คนที่หลับอยู่ข้างกายลูซีโด้ แม้จะเป็นชายาของเขา แต่ไม่ใช่เมริลโรสเพื่อนวัยเด็กที่สัญญาหมั้นหมายกันในวันนั้น

นั่นก็เพราะ...

?อ๊ะ?

ลูซีโด้คงเผลอหายใจรดแก้มนางจนรู้สึกตัวตื่น

และราวกับตุ๊กตาแข็งทื่อ นางหันคอไปพูดกับสามีที่เอาแต่จ้องหน้าตัวเองแต่เช้าโดยไม่ยอมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียที

?...ทำอะไรอยู่รึเพคะ?

แม้แต่เสียงกังวานใสดั่งกระดิ่งก็เหมือนเสียงเมริลโรสไม่ผิดเพี้ยน

?ถะ ถามได้ ข้าก็...?

?ฝ่าบาท ถ้าวันนี้ตื่นเช้ากว่าปกติก็อย่ามัวแต่จ้องหน้าหม่อมฉัน รีบเรียกนางกำนัลมาช่วยแต่งองค์สิเพคะ วันนี้เป็นวันพบปะราษฎร?

ลูซีโด้ก้มหน้าผิดหวังกับคำตอบห้วนๆ เหมือนมะนาวไม่มีน้ำนั้น

ทั้งที่เพิ่งแต่งงานมาปีเดียว กลับไม่มีบรรยากาศหวานชื่นเหมือนข้าวใหม่ปลามัน

ซึ่งไม่แปลก เพราะนางไม่ใช่เมริลโรส เจ้าหญิงอันดับหนึ่งแห่งจักรวรรดิแห่งพาลเมเนีย นางฟ้าผมเงินที่ตัวเองตกหลุมรักสมัยเด็ก...

...ชื่อของนางคือ เจรัลดี้ คราวน์

จากอันตี้โยล แหล่งบันเทิงอันดับหนึ่งของโรห์แลนด์ เมืองหลวงของพาลเมเนีย

และแม่ของนางคือหญิงงามเมืองชั้นสูง

ใช่ ความจริงนางคือคู่เหมือนตัวปลอมที่พาลเมเนียส่งตัวมาโดยบอกว่าเป็นเมริลโรส!

นางลุกพรวดพราดขึ้นนั่งและตบมือ

?เอ้า ตื่นบรรทมได้แล้วเพคะฝ่าบาท ...มีใครอยู่บ้าง! วันนี้ฝ่าบาทตื่นบรรทมเร็วเป็นประวัติการณ์เชียวนะจ๊ะ!?

เมื่อได้ยินคำพูดขวานผ่าซากของจิล เหล่านางกำนัลที่รอนายหญิงเรียกอย่างกระสับกระส่ายก็กรูเข้ามาในห้องบรรทมของเจ้านาย

?ได้เวลาแต่งองค์แล้วเพคะ?

?ได้เวลาแต่งองค์แล้วเพคะ?

ไม่ทันไร เหล่านางกำนัลก็รุมล้อมเตียงที่ทั้งคู่นั่งอยู่

พอดูดีๆ ทุกคนหอบตั้งแต่เหยือกน้ำไปจนถึงอ่างล้างหน้า แปรงปัดเสื้อผ้า อุปกรณ์ทำผมเต็มตะกร้า เสื้อผ้าสารพัดแบบกองเป็นภูเขา นี่คือผู้ช่วยแต่งตัวรอบเช้าที่จะแห่เข้ามาทันทีที่เจ้านายทั้งสองตื่น

นับได้ประมาณยี่สิบคน

?อรุณสวัสดิ์เพคะ ฝ่าบาท!?

?อรุณสวัสดิ์เพคะ พระชายา!?

?อืม อรุณสวัสดิ์...?

ลูซีโด้ตอบหน้างัวเงีย

เจ้าหญิงจอมปลอม

และภรรยาจอมปลอม...

...วันอันโชคร้ายซ้ำซากของลูซีโด้จึงเริ่มต้นขึ้นด้วยประการฉะนี้

...แคว้นหนึ่งนามอเจนเซน

แผ่นดินนี้ตั้งอยู่ทิศเหนือเยื้องไปทางตะวันออกของทวีปเล็กน้อย เดิมทีเคยเป็นดินแดนซึ่งปกครองโดยชนเผ่านักขี่ม้าผู้โหดร้าย มันคือบ้านป่าเมืองเถื่อนที่ยี่สิบชนเผ่าต่างต่อสู้แย่งชิงดินแดนของตน

ส่วนอเจนเซน...ภาษาโบราณหมายถึงดินแดนอัคคีเพราะมีภูเขาไฟจำนวนมาก โดยมีบุรุษนามจิฮาด ลอนกิอน เป็นผู้รวมทุ่งหญ้าแห่งนี้เป็นหนึ่งเดียว

นี่คือจุดเริ่มต้นของแคว้นอเจนเซนปัจจุบัน

กษัตริย์ลอนกิอนอยากทำให้ดินแดนเล็กๆ แข็งแกร่งขึ้น จึงส่งเครื่องบรรณาการไปยังจักรวรรดิพาลเมเนีย

อเจนเซนจึงได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ และเริ่มจารึกประวัติศาสตร์หน้าแรกในฐานะแคว้นในปกครองของพาลเมเนีย

นับจากนั้นห้าสิบปี

การเป็นไทจากพาลเมเนียอย่างสมบูรณ์คือความปรารถนาแรงกล้าของชาวอเจนเซน

แน่นอนว่าอาร์คดยุคลูซีโด้ ผู้นำแห่งอเจนเซนก็ไม่ต่างกัน

รวมทั้งสตรีนางหนึ่งที่แนบชิดเคียงกายเขาราวกับเงา...

*****


?แหม น่ายินดีจริงๆ กี่ปี่แล้วนะที่ฝ่าบาทตื่นนอนก่อนข้าเข้ามาปลุก?

ผู้พูดประโยคไม่เข้าหูแต่เช้าคือ บารอนมาเชียส โซอาซอน เลขาธิการประจำตัวลูซีโด้นั่นเอง เสื้อคลุมยาวสีเขียวเข้มดูสมกับตำแหน่งคืออาภรณ์ห่มร่างสูงที่น่าจะเรียกว่าผอมมากกว่าเพรียวบาง เขาไม่มีแถบคลุมไหล่แสดงว่าตำแหน่งนั้นไม่ได้มาจากการสืบทอด

?อรุณสวัสดิ์ มาเชียส?

ลูซีโด้พูดด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ

?อรุณสวัสดิ์พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทจอมขี้เซาของข้า วันนี้อากาศดีเสียด้วย คิดว่าท่านจะตื่นเที่ยงวันเสียอีก?

?หนวกหู?

?เทียบกับเมื่อวาน เช้านี้ท่านตื่นเร็วกว่าปกติยี่สิบสามนาที แน่นอนว่าเป็นสถิติใหม่พ่ะย่ะค่ะ ยอดเยี่ยมจริงๆ อยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไปจัง?

?..........?

ในมือมาเชียสจอมถากถางมีนาฬิกาวิสตันเชียร์เรือนจิ๋วซึ่งได้ชื่อว่าเที่ยงตรงมาก

ไม่ว่าลูซีโด้ทำอะไรก็จับเวลาเสมอ กระทั่งเวลาอยู่คนเดียวในสุขาก็ยังจับเวลาและรายงานเจ้านายอย่างละเอียดทุกครั้ง

เขาจึงได้ฉายาว่า ?บารอนจอมจับเวลา?

เพราะเขามีอุปกรณ์ชิ้นเยี่ยมที่ราชวงศ์ไหนๆ ไม่เคยมี ลูซีโด้จึงถูกเขาและเข็มนาฬิกาวิ่งไล่ตามทุกเมื่อเชื่อวัน แน่นอนว่าโชคร้ายนี้ไม่ได้หยุดที่เขา เพราะในราชวังโร-แองเจลีแห่งอเจนเซนนี้ มีน้อยคนนักที่ไม่ถูกจอมจับเวลาผู้นี้คุกคาม

(อ้า ง่วงชะมัด)

ลูซีโด้กลั้นหาว

หนึ่งในหน้าที่ผู้นำประเทศคือการพบปะราษฎรยามเช้า

พิธีการนี้ริเริ่มโดยปฐมกษัตริย์จิฮาด ลอนกิอนผู้ยิ่งใหญ่ ผู้รวบรวมชนเผ่าต่างๆ ให้เป็นหนึ่ง มันจึงกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของราชวังที่แม้แต่กษัตริย์อย่างลูซีโด้ก็ละเลยไม่ได้

ขณะลูซีโด้สะลึมสะลือ นางกำนัลครึ่งหนึ่งก็ตามพระชายาออกจากห้องไป สตรีใช้เวลาแต่งตัวนาน ผิดกับบุรุษที่เปลี่ยนเสื้อในห้องนอนก็เสร็จเรียบร้อย

แต่ระหว่างที่ลูซีโด้มัวแต่อ้อยอิ่ง นางก็ปรากฏตัวออกมาพร้อมเสียงกรุ๊งกริ๊งของปิ่นปักผม ประดับดอกไม้สดดอกใหญ่เหนือใบหูบนเรือนผมสีเงินยาวสลวยซึ่งรวบสูงอย่างสวยงาม

ว่ากันว่าสตรีอ่อนแอกว่าบุรุษ แต่ดูเหมือนจะแบกรับความหนักอึ้งของเครื่องประดับบนเรือนร่างตนได้ ลูซีโด้คิดเช่นนั้น

?ฝ่าบาท พระเกศาเรียบร้อยแล้วเพคะ?

?ฉลองพระองค์ของวันนี้เพคะ?

ผมถูกลูบด้วยน้ำมัน สวมกางเกงขายาว ห่มกายด้วยเสื้อผ้าไหมตัวยาวปักลายมังกรขนาดใหญ่ตรงหน้าอก เสื้อตัวนี้ประดับขนมิงค์บริเวณคอเสื้อและแขนเสื้ออย่างหรูหรา จึงใช้ในพิธีการสำคัญอย่างการพบปะราษฎรเช่นวันนี้เท่านั้น แน่นอนว่ามงกุฎด้วย

?ฝ่าบาท พระธำมรงค์เพคะ?

?คทาเพคะ?

?ทองพระกรเพคะ?

นางกำนัลส่งเครื่องประดับเงินที่ผ่านการขัดจนแวววับเป็นประกายให้เขาอย่างนอบน้อม หนัก หนักเหลือเกิน...สำหรับลูซีโด้ซึ่งเกลียดสิ่งพันธนาการร่างกายยังคิดว่าชุดเกราะเบากว่านี้ด้วยซ้ำ

?ฝ่าบาท เหลือสามนาทีพ่ะย่ะค่ะ กรุณารีบด้วย?

แทนที่จะเรียกว่าถูกมาเชียสเร่ง น่าจะเรียกว่าถูกนาฬิกาในมือเขาเร่งมากกว่า ลูซีโด้รีบจ้ำออกจากห้อง พอเดินไปถึงหน้าห้องซึ่งมีระเบียงใหญ่หันสู่ลานกว้างด้านใต้ของราชวังก็เจอจิลในชุดเต็มยศของพระชายาผู้สมบูรณ์แบบตั้งแต่หัวจรดเท้ายืนรออยู่

?...ช้าจังนะเพคะ?

?ขะ ขอโทษที?

?อุตส่าห์ตื่นเช้าทั้งที มัวทำอะไรอยู่เพคะ?

ลูซีโด้ชักอยากตอกกลับให้ใบหน้างามๆ ที่พูดจาเหน็บแนมเขาหน้าตาเฉยนั้นเจื่อนบ้าง

?ข้ามัวแต่มองนางกำนัลสวยๆ อยู่ สวยกว่าเจ้าตั้งหลายเท่า เห็นแล้วเคลิ้มเลย?

?อะไรเพคะ นางกำนัลในวังก็ต้องสวยอยู่แล้ว ถ้าไม่สวยจะถูกเลือกมาได้ยังไง?

?..........?

ทั้งที่ตั้งใจพูดแดกดันแต่กลับถูกสวนกลับอย่างตั้งตัวไม่ทันจนลูซีโด้เถียงไม่ออก

(หน็อย...มาไม้นี้เรอะ)

ให้ตายสิ ไม่น่ารักเอาซะเลย ทำไมผู้หญิงคนนี้ต้องมาเป็นชายาของเขาด้วย

มาเชียสส่งเสียงเรียก

?ฝ่าบาททั้งสอง ได้เวลาพบราษฎรแล้วพ่ะย่ะค่ะ!?

แหง่งหง่าง แหง่งหง่าง...

ระฆังในมหาวิหารเพิร์ลเอมซึ่งอยู่สูงสุดในใจกลางเมืองหลวงเพิร์ลเอมแห่งอเจนเซนดังก้องกังวาน พร้อมประตูเชื่อมระเบียงหน้าลูซีโด้ซึ่งเปิดออก แดดยามเช้าสว่างแยงตาแต่ยังไงก็ต้องเดินออกไป

?เอ้า มือ?

เขาคว้ามือจิลอย่างแรงก่อนก้าวออกไปข้างหน้าพร้อมมือข้างนั้น

ชาวเมืองเพิร์ลเอมที่มารวมตัวกันเต็มลานกว้างส่งเสียงโห่ร้องต้อนรับทั้งสองที่ออกมายืนตรงระเบียง

ทั้งคู่พยายามโบกมือทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้ม บอกตามตรงว่ามองไม่เห็นหน้าชาวเมืองเลย แต่ยังไงก็ต้องทำ เพราะนี่เป็นหน้าที่ของผู้นำแคว้นอเจนเซน

(นี่)

เขาเอาศอกถองสีข้างจิลผู้หน้าตายไม่ต่างกับตอนตื่นแม้แต่นิดเดียว

(ยิ้มหน่อยสิ)

(ก็ยิ้มอยู่ไง)

(ยิ้มตรงไหน ทำหน้าอย่างกับคนปวดฟัน แล้วจะออกมาพบประชาชนทำไม)

(ฝ่าบาทต่างหาก คิดโอวาทของวันนี้รึยังเพคะ?)

เขาเงียบทันทีเมื่อถูกหล่อนสวนกลับอย่างจัง

ใช่ หน้าที่ของผู้นำแห่งอเจนเซน ไม่ใช่ออกมายืนโบกมืออย่างเอาเป็นเอาตายตรงระเบียงเฉยๆ

แต่ต้องกล่าวโอวาททุกครั้งกับราษฏรอเจนเซนที่มารวมตัวกันเพื่อรอฟังเสียงผู้นำตัวเองอย่างปีติยินดี

ทว่ามันเป็นสิ่งที่เขาไม่ถนัดที่สุด

ถ้าไม่นับกษัตริย์ลอนกิอน พระอัยกาที่ได้ชื่อว่าเป็นคนมีอารยธรรม การพูดบางอย่างให้กินใจทุกคนในยามเช้าที่สมองยังไม่สั่งงานทุกสัปดาห์เป็นอะไรที่ไม่มีเหตุผลเลย

?...หม่อมฉันถึงบอกให้คิดตั้งแต่เมื่อวานไงเพคะ?

เสียงบ่นกระปอดกระแปดข้างหูทำให้ลูซีโด้รำคาญจนทนไม่ไหว

?นะ หนวกหู! โอวาทแค่นี้ข้าคิดเอาไว้แล้ว แถมซ้อมมาดิบดีตั้งแต่เมื่อคืนด้วย?

ลูซีโด้ปากดีทั้งที่ยังไม่ได้เตรียมใจ เขาทิ้งจิลและเดินไปสุดขอบระเบียง ชาวเมืองพากันเงียบตั้งใจเงี่ยหูฟัง ?โอวาท? ของกษัตริย์อย่างใจจดใจจ่อ

?อะ อรุณสวัสดิ์ ทุกคน!?

ลูซีโด้ทักทาย

?เอ่อ อรุณสวัสดิ์ เช้าวันนี้อากาศปลอดโปร่ง แจ่มใส เพราะฉะนั้น...?

แต่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี

(โอย...)

แดดยามเช้าแยงตา

ความเงียบดำเนินต่อไป มาเชียสที่อยู่ข้างหลังกระแอมเร่งให้พูดต่อ

เมื่อถูกต้อนจนมุม เขาต้องพูดอะไรออกไปสักอย่าง

ด้วยเสียงดังลั่น

?...ทุกคน อย่าลืมกินข้าวเช้าล่ะ!!?

...วินาทีถัดมา เสียงหัวเราะของทุกคนก็ดังเซ็งแซ่ทั่วลานกว้างหน้าราชวัง

*****

?จะบ้ารึไงเพคะ?

ฉึก

คำพูดไร้หัวใจของชายาทิ่มแทงใจของลูซีโด้ราวกับส้อมในมือไม่มีผิด

?นั่นหรือเพคะ ?โอวาทยามเช้า? ที่ฝ่าบาทซุ่มซ้อมมาตั้งแต่เมื่อคืน?

เปลี่ยนสถานที่มาเป็นห้องอาหารซึ่งทั้งสองกำลังทานมื้อเช้ากัน

ภายในห้องหัวมุมตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรับแสงแดดยามเช้าได้ดีที่สุด ทั้งห้องปูด้วยพรมลวดลายตามฤดูกาล ผนังแขวนพรมทอให้ความรู้สึกอบอุ่น พร้อมเครื่องเรือนเข้าชุดซึ่งขัดน้ำมันจนเงางามทุกวัน

และมื้อเช้าบนโต๊ะอาหารนั้น

? ?โอวาท? ของฝ่าบาทเช้านี้นับนิ้วได้ประมาณหกวินาที ถือเป็นสถิติใหม่นะพ่ะย่ะค่ะ?

เลขาธิการมาเชียสรายงาน

เขายืนกางกำหนดการอย่างหนากลางโต๊ะแคบยาวที่สองสามีภรรยานั่งตรงหัวโต๊ะประจันหน้ากัน

ลูซีโด้พ่นลมหายใจออกจากจมูก

?แล้วมันผิดตรงไหน ถึงจะสั้นแต่กินใจชาวเมืองออก?

?เหรอ?

?หืม?

เมื่อถูกสายตาเย็นชาตรงข้ามกับแสงแดดอบอุ่นสาดใส่ ลูซีโด้จึงตักซุปเย็นชืดใส่ปากต่อ ไม่ใช่เพราะหิว แต่ไม่มีอะไรจะเถียงต่างหาก

?เอาเถอะพ่ะย่ะค่ะ วันนี้กำหนดการแน่นมาก โปรดรักษาเวลาด้วย โดยเฉพาะฝ่าบาท?

?เอ้อเอ้อ?

ลูซีโด้ดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่เหลืออยู่จนหมดแก้วและรินใหม่เอง มื้อเช้าเป็นช่วงเวลาหารือลับระหว่างมาเชียสกับจิล ดังนั้น หลังเสิร์ฟอาหารเรียบร้อยแล้ว ใครจะเข้า-ออกไม่ได้อีก

พวกเขาระวังตัวถึงขั้นนี้เพราะเหตุผลบางประการ

เพราะอาร์คดัชเชสเมริลโรสจากพาลเมเนีย แท้จริงแล้วเป็นตัวปลอมนั่นเอง

คนที่รู้ความจริงมีเพียงสามคนนี้เท่านั้น

และยังมีสัญญาลับระหว่างทั้งสามด้วย...

?ดูเหมือนตอนนี้ยังไม่มีใครสงสัยเรื่องพระชายานะพ่ะย่ะค่ะ?

มาเชียสพูด

?แหม มันก็ไม่แปลก ในเมื่อทั้งคู่เหมือนกันอย่างกับแกะจนตบตาฝ่าบาทลูซีโด้ได้?

?แต่ถือเป็นฝันร้ายของข้า?

?..........?

ลูซีโด้แกล้งทำเป็นหั่นขนมปังแต่ลอบมองจิล

ทว่าหล่อนยังคงไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของเขาเช่นเดิม

(ผู้หญิงอะไร ทำไมไร้ความรู้สึกขนาดนี้)

ลูซีโด้เดาะลิ้น ทั้งที่เจ้าหญิงเมริลโรสตัวจริงออกจะเป็นสาวน้อยที่น่าทะนุถนอมขนาดนั้น...

(ถึงภายนอกจะเหมือนกัน แต่ภายในผิดกันราวฟ้ากับเหว)

แต่ต่อให้ไม่ชอบสีหน้าเฉยชาไร้ความรู้สึกของหล่อนก็จำต้องใช้ชีวิตเยี่ยงสามีภรรยาเช่นนี้ต่อไป

เพื่อ ?สัญญา? ที่ให้ไว้กับหล่อน

มาเชียสพูดขึ้น

?นี่เป็นกำหนดการของฝ่าบาทหลังมื้อเช้าพ่ะย่ะค่ะ สิบโมงเช้า เข้าประชุมกับเหล่าข้าหลวงและรัฐมนตรี วันนี้จะคุยกันเรื่องโครงการก่อสร้าง ?ทางหลวงตัดใหม่? พ่ะย่ะค่ะ?

?ทางหลวงตัดใหม่? เป็นโครงการนำร่องเปิดศักราชใหม่ด้วยการสร้างชุมทางสี่แยกตัดผ่านทั่วทั้งแคว้นอเจนเซนโดยมีเมืองหลวงเพิร์ลเอมเป็นศูนย์กลาง

จริงๆ แล้วการสร้างระบบคมนาคมนี้มีส่วนช่วยพัฒนาประเทศเป็นอย่างมาก

เพราะการสัญจรไปมาผ่านถนนคับแคบอย่างที่เป็นอยู่นั้นไม่สะดวก และเจ้าของที่ต่างพากันตั้งด่านหาเงินเข้ากระเป๋า จึงยากต่อการเก็บภาษี ที่สำคัญ การตั้งด่านทั่วประเทศทำให้เสียเวลาในการคมนาคมขนส่ง

ที่สำคัญที่สุด ถ้าปล่อยไว้เช่นนี้จะทำให้ส่งกองกำลังจำนวนมากเข้าบุกพาลเมเนียไม่ได้ ระหว่างที่ยังใช้ทางอ้อมอยู่อย่างนี้ โรห์แลนด์เมืองหลวงของพาลเมเนียคงวางมาตรการรับมือได้ทันท่วงที แล้วจะลอบโจมตีเพื่ออะไร

แต่เหล่ารัฐมนตรีพากันทักท้วงโครงการก่อสร้างนี้

เพราะใช้งบประมาณมากเกินไป

?เรื่องนั้น เมื่อคืนข้าหารือกับฝ่าบาทแล้ว?

จิลพูดห้วนๆ

มาเชียสหันไปมองลูซีโด้

?โอ้ แสดงว่าเมื่อคืนพวกท่านมัวแต่ถกปัญหากันบนเตียงจนไม่ได้นอนเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ?

ลูซีโด้ยืดอกตอบ

?ใช่ และเราก็คิดแผนตอบโต้ได้แล้วด้วย?

?แผนของพระชายาหรือพ่ะย่ะค่ะ?

?..........?

ใช่ ลูซีโด้ยอมรับอย่างเสียไม่ได้

เมื่อคืน เตียงที่ลูซีโด้กับจิลใช้ร่วมกันกลายเป็นที่ประชุมส่วนตัวของทั้งคู่

และข้อเสนอของเขาก็ถูกภรรยาหักล้างจนไม่เหลือชิ้นดี

ซึ่งเป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

แม้โลกนี้กว้างใหญ่ไพศาล แต่คงไม่มีสามีภรรยาคู่ไหนใช้เอกสารต่อสู้กันอย่างพวกเขาอีกแล้ว ลูซีโด้คิด

และเตียงของพวกเขาก็ไม่เคยถูกใช้ตามวัตถุประสงค์ดั้งเดิมสักครั้ง

แม้แต่ครั้งเดียว...

?ยอดเยี่ยมพ่ะย่ะค่ะ แม้จะใช้เตียงผิดวัตถุประสงค์ไปหน่อย แต่กระหม่อมไม่คิดจะบังคับพวกท่านอยู่แล้ว?

?งะ แหงล่ะ?

ไม่รู้ทำไมลูซีโด้ถึงตอบอึกอัก

?ถ้าโครงการ ?ทางหลวงตัดใหม่? ล่าช้าไปกว่านี้ ก็จะเป็นอุปสรรคกับแผนของเรา ไม่ว่ายังไงก็ต้องหาข้อสรุปภายในวันนี้พ่ะย่ะค่ะ?

?อืม รู้แล้วน่ะ?

ลูซีโด้กับจิลพยักหน้ารับคำของมาเชียส

การประชุมวันนี้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องทำให้พวกรัฐมนตรีเขี้ยวลากดินเถียงไม่ออกให้ได้

ลูซีโด้ซึ่งโค่นบิดาตัวเองและขึ้นเป็นผู้นำแคว้นอเจนเซนแห่งนี้รู้ดีว่าการใช้กำลังทหารอย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้ประเทศชาติสงบสุขได้

ถึงเป็นกษัตริย์ก็ไม่อาจปกครองประเทศได้ถ้าไร้คนสนับสนุน

และสิ่งที่น่าปวดหัวที่สุดในการปกครองคือหัวใจคน

เพื่อไม่ให้อ่านใจคนเหล่านั้นพลาด เขาในตอนนี้จึงต้องการจิล

ความรอบรู้ และสมองอันเฉียบแหลมดุจปีศาจเจ้าเล่ห์ของหล่อน...

?ตามด้วยปัญหาค้างคาอีกสองเรื่องพ่ะย่ะค่ะ?

?อะไร?

?ช่วงบ่าย ตัวแทนจากสมาคมแพทย์สาธารณสุขของเพิร์ลเอมจะเข้าเฝ้าฯ ฝ่าบาท ปัญหานี้ยืดเยื้อมานานถึงสี่ปี ต้องรีบจัดการให้เรียบร้อยพ่ะย่ะค่ะ?

?สมาคมแพทย์สาธารณสุข...พวกหมอมีธุระอะไรกับข้า?

?พูดง่ายๆ ก็เกี่ยวกับสิทธิ์ในการประกอบโรคศิลป์พ่ะย่ะค่ะ?

มาเชียสเริ่มอธิบายสั้นๆ

สมาคมแพทย์สาธารณสุขคือกลุ่มหมอที่ไปประจำตามเมืองต่างๆ เพื่อรับมือกับ ?โรคมัจจุราช? ที่เคยระบาดทั่วแผ่นดินใหญ่

เพื่อคงสุขอนามัยของชาวเมืองและผลักดันการรักษาให้ก้าวหน้า จึงเรียกร้องสิทธิ์ในการประกอบอาชีพ (กล่าวคือสิทธิ์ในการดำเนินการทดลองของแพทย์) นั่นเอง

ทว่าศาสนจักรแองเกเลียนระงับการเคลื่อนไหวนี้

ประเทศต่างๆ ในแผ่นดินใหญ่นี้ ส่วนใหญ่ศรัทธาในศาสนาที่เรียกว่าแองเกเลียนนี้

...และยิ่งกว่านั้น นอกจากประชาชนต้องเคารพกษัตริย์ของตนแล้ว ยังต้องเคารพผู้นำสูงสุดของศาสนจักรนามว่าสันตะปาปาด้วย

กล่าวคือ เหมือนมีกษัตริย์สองคนในประเทศนั่นเอง

และคราวนี้ พวกเขาซึ่งมีอำนาจไม่ด้อยไปกว่าผู้นำประเทศก็กลับมาทวงสิทธิ์ของตนอีกครั้ง

?สำหรับศาสนจักรที่ใช้ ?ปาฏิหาริย์? ของพระเจ้าและวิญญาณผู้ตายเป็นไม้ตายมาตลอด เป็นหนึ่งในหนทางเยียวยารักษาที่สามารถชนะใจผู้คนได้อย่างง่ายดาย ส่วนเงินทุนของพวกเขา แน่นอนว่ามาจากเงินบริจาคจำนวนมากและจิตศรัทธาของผู้คน ศาสนจักรที่ได้รับเงินเหล่านั้นมาตลอดจึงอยากให้อภิสิทธิ์กับนักบวชเป็นผู้เยียวยารักษาอาการป่วยพ่ะย่ะค่ะ?

?อย่างนี้เอง?

ลูซีโด้เข้าใจสิ่งที่มาเชียสอธิบาย

?สันตะปาปาก็เลยคัดค้านเรอะ ถ้าให้สิทธิ์ประกอบโรคศิลป์กับสมาคมแพทย์ สิ่งที่พวกตัวเองทำอยู่ก็จะกลายเป็นเรื่องลวงโลกสินะ?

?ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ?

แต่ถ้าจะให้พูดว่ามันเป็นเรื่องที่งี่เง่าสิ้นดี ลูซีโด้คงทำไม่ได้

ปัจจุบัน ศาสนจักรแองเกเลียนถือครองอำนาจครึ่งหนึ่งและมีสิทธิ์เก็บหนึ่งในสิบของภาษีเงินได้เป็น ?ค่าศรัทธา?

พูดง่ายๆ คือเป็นกลุ่มคนที่มีอำนาจและเงินทองมากเงินไปนั่นเอง

ถ้าทำให้สันตะปาปาขุ่นเคืองจะเจอไม้ตายอันดับสองที่เรียกว่า ?การขับไล่ออกจากศาสนา? ต่อให้เป็นอาร์คดยุคก็ไม่ควรตั้งตัวเป็นศัตรูกับคนพวกนั้นง่ายๆ

?ให้ตายสิ หลอกขายปาฏิหาริย์ราคาถูกๆ จนรวยกว่าข้าด้วยซ้ำ ถ้าให้พวกนั้นสร้างทางหลวงให้เราคงสบายไปเลย?

ลูซีโด้เผลอพึมพำออกมา

เป็นปัญหาที่น่าปวดหัวจริงๆ

เขาอยากสนับสนุนสมาคมแพทย์เท่าที่ทำได้ ถ้ามีโรคอย่าง ?โรคมัจจุราช? ระบาดอีกคงไม่ได้บุกพาลเมเนียกันพอดี

แต่สันตะปาปาก็น่ากลัว

(แล้วจะทำยังไงดี)

บอกตามตรงว่าสถานการณ์ปัจจุบันของคณะบริหารนั้นต่อให้แก้ปัญหาได้อย่างหนึ่งก็จะมีปัญหาใหม่ตามมาไม่สิ้นสุด

?เกี่ยวกับเรื่องนั้น...?

จู่ๆ จิลที่แทบไม่ได้ออกความเห็นก็เอ่ยปาก

?พระชายา??

?จิล??

หล่อนจัดการนมและถั่วในถ้วยจนเกลี้ยงก่อนวางช้อนลง

?ถ้าให้หม่อมฉันจัดการคดีของจีกีบารอนที่จะมีขึ้นที่ศาลฎีกามะรืนนี้ หม่อมฉันก็มีข้อเสนอเพคะ?

?จีกีบารอน??

ลูซีโด้ฉงน มาเชียสจึงพูดแทรก

?หมายถึงบอสใหญ่ของแก๊งมหาโจรจอมต้มตุ๋นหรือพ่ะย่ะค่ะ ที่ถูกจับครึ่งปีก่อนและถูกศาสนจักรตัดสินให้แขวนคอ...?

?ใช่?

อย่างที่กล่าวข้างต้น ศาสนจักรกุมอำนาจครึ่งหนึ่งของประเทศแทบทั้งหมดบนแผ่นดินใหญ่ และโดยทั่วไป คำตัดสินของศาสนจักรนั้นมักมีภาษีกว่า แม้แบ่งอำนาจเป็นสอง แต่น้อยครั้งนักที่สามารถพลิกคำตัดสินของศาสนจักรในศาลฎีกาได้

เพราะทุกคนต่างกลัวสันตะปาปา

แต่ป่านนี้จิลคิดจะทำอะไรกับนักโทษประหารที่ชะตากรรมถูกขีดไว้แล้ว

?เจ้ามีแผนอะไรกันแน่ คิดจะใช้คดีของบารอนนั่นหาเรื่องศาสนจักรรึไง?

?พูดเป็นเล่น?

รอยยิ้มแสนเย็นชาของจิลผุดขึ้นตรงมุมปาก

?ใครจะไปทำอะไรตื้นๆ แบบนั้นล่ะเพคะ ถ้ายกคดีนั้นให้หม่อมฉันจัดการ หม่อมฉันจะยึดสิทธิ์ในการรักษาคนจากศาสนจักรมา และจะทำให้พวกนั้นออกเงินสร้างทางหลวงให้ดู...?

?ว่าไงนะ!??

เมื่อได้ยินคำพูดคาดไม่ถึง ลูซีโด้จึงจ้องจิลที่ดื่มน้ำแอบเปิ้ลไซเดอร์หน้าตาเฉยอยู่อีกฟากของโต๊ะอาหาร

?นี่ แค่คดีพรรค์นั้นจะช่วยอะไรได้ มันเป็นปัญหาที่ค้างคามานานนะ แถมยังจะขูดรีดงบสร้างทางหลวงจากสันตะปาปาขี้เหนียวนั่นอีก พูดอะไรให้มันมีขอบเขตหน่อยเถอะ?

?หม่อมฉันพูดจริงๆ?

?งั้นเจ้าจะทำยังไง!?

?ถ้ายอมให้ทำ หม่อมฉันจะเล่าให้ฟังเพคะ?



********************************************************************************************************************************************************************************************

สาวน้อยจิลจะทำยังไงน๊า :D ไปลุ้นกันต่อในเล่มค่ะ


"Princess Hearts ภาค คู่รักลวงโลก" ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”