New Release : Swallow The Sun ฝากรัก ณ ตะวันนิรันดร

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : Swallow The Sun ฝากรัก ณ ตะวันนิรันดร

โพสต์ โดย Gals »

เรื่องย่อ
คิมจองอูช่วยชีวิตจางมินโฮไว้ จึงทำให้เขาได้มาทำงานกับจางแทฮยอกซึ่งเป็นลูกชายของมินโฮ และเขาก็ได้พบกับอีซูฮยอน ผู้หญิงที่เขาหลงรักมาตั้งแต่เด็ก แต่เพราเหตุนี้ชีวิตของเขาจึงต้องตกต่ำและพลิกผันจนกลายมาเป็นฆาตกร และเมื่อออกมาจากคุกได้ จองอูก็ต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปอยู่ลาสเวกัสเพราะสองพ่อลูกนั้น ทว่าที่นั่นเขาก็ได้พบกับซูฮยอนอีกครั้ง พร้อมๆ กับเกมที่มีชีวิตเป็นเดิมพันกำลังเริ่มต้นขึ้น!




1





บริเวณเนินผาเตี้ยๆ อันเป็นจุดชมวิวซึ่งมีเวิ้งฟ้าและท้องทะเลเป็นฉากสวยงามแม้ในยามที่พระอาทิตย์ทำมุมสี่สิบห้าองศา บรรดานักตกปลามือสมัครเล่นต่างนั่งเรียงแถวหน้ากระดานพร้อมกับคันเบ็ดเหมาะมืออย่างวาดหวังเอาไว้เต็มที่ว่าในวันที่ทะเลนิ่งเหมาะที่จะตกปลาอย่างวันนี้จะทำให้พวกเขาได้ปลาตัวใหญ่และกลับไปพร้อมกับเงินพนันที่ลงขันกันเอาไว้ก้อนโต โดยไม่มีใครรู้เลยว่าการแข่งขันนี้มีการล็อกผู้ชนะไว้เรียบร้อยแล้ว


?นั่งประจำที่กันได้เลยนะครับ? คิมจองอูกุลีกุจอพาบรรดาผู้แข่งขันที่กำลังตื่นเต้นกับเกมที่ใกล้จะเริ่มเต็มทีไปนั่งประจำที่


?ที่นั่งของผมอยู่ที่ไหนเนี่ย หาตั้งนานแล้วไม่เห็นจะเจอเลย? ชายหนุ่มร่างท้วมถือคันเบ็ดตกปลาราคาแพงถามขึ้น เมื่อจองอูหันมา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ผุดขึ้นที่มุมปากน้อยๆ


?หมายเลข 9 ที่นั่งตรงนี้เป็นที่นั่งที่ดีมากเลยนะครับ?


ชายอ้วนหัวเราะหึๆ ?ผมเป็นคนโชคดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เรื่องตกปลามันต้องใช้ฝีมือ ไม่ใช่โชค?


?ครับ? จองอูยิ้มรับ ตั้งใจจะพาชายอ้วนหน้าโง่ไปนั่งประจำที่ด้วยตัวเอง แต่เปลี่ยนใจพลันเมื่ออีคังแรกับจางเซดอลพานักท่องเที่ยวมาที่นี่กลุ่มใหญ่


?งั้น...? จองอูเกริ่น ?สำหรับนักแข่งวีไอพี ผมจะให้สตาฟฟ์วีไอพีพาไปแล้วกันนะครับ? พูดจบก็หันไปตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่สาวสวยหนึ่งเดียวในงานนี้


หญิงสาวในชุดเสื้อยืด ท่อนล่างเป็นกางเกงยีนสั้นอวดเรียวขาสวยได้ยินชายหนุ่มเรียก เธอรีบเดินมาหาเขา


?มีอะไรเหรอ? ฮันซอนยองถาม


?เขาคือนักแข่งหมายเลข 9 ช่วยพาเขาไปประจำที่ที?


?อ้อ... ได้เลย? ยิ้มสวยก่อนเดินนำนักแข่งวีไอพีไปหาที่นั่ง ระหว่างนั้นนักแข่งกลุ่มใหญ่ถือคันเบ็ดเดินสวนเข้าไปในงาน ซอนยองสบตากับนักแข่งสองคนในกลุ่มนั้นอย่างตั้งใจ ก่อนจะหันไปชวนนักแข่งที่เธอพามาคุยโน่นนี่โดยที่ไม่สนใจคนทั้งคู่อีก


?มีที่สำหรับนักแข่งอีกที่เดียวเท่านั้น เชิญครับ เชิญคร้าบ... เงินเดิมพันกว่าห้าแสนวอนกำลังรอพวกท่านอยู่?


เซดอลซึ่งรับเล่นบทนักตกปลาเจนพื้นที่ได้ยินเสียงตะโกนของจองอูก็รีบทำตาโตแสร้งว่าตื่นเต้นสุดๆ


?โอ้! โชคดีจริงๆ ที่พวกคุณมาในวันที่มีการแข่งตกปลาพอดี? เซดอลเปรยขึ้นดังๆ ก่อนจะหันไปพูดกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชอบตกปลาเป็นงานอดิเรกในวันสุดสัปดาห์ซึ่งตามเขามาจากท่ารถเพราะเชื่อว่าเขาเป็นคนพื้นที่ที่รู้จักแหล่งที่มีปลาชุกชุม ?ครั้งที่แล้วผมสมัครแข่งตกปลาไปสองหมื่นวอนเท่านั้นเองนะ แต่ได้เงินกลับบ้านตั้งห้าแสนวอนแน่ะ สุดยอดเลย?


?แล้วครั้งนี้คุณจะลงแข่งอีกรึเปล่า? คังแรที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบการตกปลาอยู่ในกลุ่มตะโกนถาม


?อยากเหมือนกันครับ แต่ผมลงไม่ได้แล้ว เพราะทางผู้จัดสงวนสิทธิ์สำหรับคนที่เคยชนะไปแล้ว แต่ถ้าพวกคุณสนใจล่ะก็ ผมจะเป็นพี่เลี้ยงให้เอง?


เสียงฮือฮาดังระงมบอกถึงดีกรีความสนใจของผู้ฟัง และก่อนที่จะมีคนเริ่มปรึกษาหารือ เซดอลชิงพูดต่อ


?ไหนๆ พวกคุณก็มาหาความสำราญด้วยการตกปลาอยู่แล้วนี่ ลงแข่งไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าพวกคุณเชื่อใจผม ผมจะบอกแหล่งให้ว่าตรงไหนมีปลาชุกที่สุด และตัวใหญ่ที่สุดอาศัยอยู่ ดีไม่ดี หนึ่งในพวกคุณอาจจะเป็นคนนอนกอดเงินรางวัลในครั้งนี้ก็ได้นะ?


?ดีเลยพี่ชาย ผมจะสมัคร? คังแรตบเท้าออกมาเป็นคนแรกตามที่เตี๊ยมเอาไว้


?ครับ เชิญๆ คุณตัดสินใจถูกต้องแล้ว เงินหมื่นแลกกับเงินแสน คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มอีก?


?ผมก็อยากลงด้วย? ชายอีกคนตะโกน แล้วเดินขึ้นมาข้างหน้า จากนั้นก็มีอีกหลายคนที่มีเจตจำนงจะร่วมงานนี้ด้วย เซดอลยิ้มกริ่มเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนทีละสเต็ปอย่างง่ายดาย


?มีอะไรให้ช่วยรึเปล่า? จองอูเดินตรงมาพูดอย่างตรงจังหวะจะโคน ?อ้า คุณเซดอลมาแข่งครั้งที่แล้วแล้วชนะไปแล้วไม่ใช่เหรอ คุณไม่รู้เหรอว่าทางเรามีกฎห้ามคนที่ชนะแล้วลงแข่งอีกน่ะ?


เซดอลยิ้มกริ่มหลังจากที่จองอูเข้ามาตอกย้ำความเป็นมืออาชีพให้เขาอีกระลอก


?ไม่ใช่ผมหรอกครับ เพื่อนใหม่ของผมพวกนี้ต่างหากที่จะเป็นคนลงแข่ง?


?ฮ้า อย่างนั้นหรอกเหรอครับ? พูดจบก็แสร้งเปิดเอกสารในมือดูที่นั่งที่ว่างอยู่ ?เหลืออีกที่นั่งนึงพอดี โชคดีจริงๆ นะครับ?


?อะไรกัน ตรงโน้นน่ะ ผมเห็นมีที่ว่างอยู่อีกตั้งเยอะแน่ะ? คังแรชี้นิ้วไปที่ริมผา


?เหลือที่เดียวจริงๆ ครับ เมื่อเช้ามีผู้แข่งขันโทรมาสละสิทธิ์เพราะไม่มีรถมา? จองอูตอบอย่างฉะฉาน ?ส่วนที่ว่างพวกนั้นเป็นที่นั่งของนักตกปลาจากโซลที่จองไว้ล่วงหน้าน่ะครับ คุณจะลงแข่งรึเปล่าครับ ถ้าใช่ก็ลงชื่อรอได้เลย อีกเดี๋ยวเดียวก็คงจะเริ่มการแข่งแล้วล่ะครับ เพราะนี่ก็เลยเวลามามากแล้ว?


ระหว่างที่คนอื่นๆ พากันมอง คังแรรีบเซ็นชื่อด้วยตาละห้อยอย่างเสียดายที่สุด โจชีกุกในมาดผู้ตัดสินที่กำลังตรวจนับจำนวนผู้แข่งขันเดินตรงมาทางจองอูกับนักท่องเที่ยวด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง


?นี่ใช่กลุ่มนักท่องเที่ยวจากโซลที่จองไว้รึเปล่า?


?ไม่ใช่ครับ มีอะไรเหรอ?


?เรารอต่อไปไม่ได้แล้วน่ะสิ คงต้องให้พวกที่มาจากโซลสละสิทธิ์ไป น่าเสียดายจริงๆ ที่นั่งพวกเขาดีมากซะด้วย?


?อย่างนั้นก็มีที่ว่างประมาณสิบหกที่ พวกเขาจ่ายค่ามัดจำไว้ครึ่งหนึ่งแล้ว ทางเราไม่มีนโยบายคืนเงินค่ามัดจำซะด้วยสิ เฮ่ย! น่าเสียดายแทนพวกเขาจริงๆ นะครับ? จองอูเปรยดังๆ


?ก็นั่นแหละ เอ้อ จริงสิ พวกคุณไม่คิดจะลงแข่งเหรอ? ชีกุกหันไปตะล่อมนักท่องเที่ยวที่เซดอลพามาอย่างรู้หน้าที่ ?ถ้าสนใจ ผมจะให้พวกคุณลงแทนโดยจ่ายค่าสมัครแค่หมื่นวอนเท่านั้น ว่าไง สนใจรึเปล่า?


ยิ่งกว่าสนใจ เพราะไหนจะมีเทรนเนอร์มืออาชีพมาช่วยหนุนหลังแล้ว พวกเขายังสมัครเข้าแข่งขันได้ด้วยราคาแค่ครึ่งเดียว ในขณะที่มีโอกาสชนะรางวัลใหญ่เท่ากับคนอื่นๆ ที่นั่งรออยู่อีกสิบกว่ารายตรงผานั่น นักท่องเที่ยวเกือบๆ ยี่สิบคนจึงพากันแย่งลงชื่อชิงที่นั่งกันอุตลุดด้วยความโลภเข้าครอบงำ โดยไม่ทันฉุกคิดว่านี่อาจเป็นแผนล่อลวงอันแยบยลของแก๊งสิบแปดมงกุฎที่กำลังหลอกเงินในกระเป๋าของพวกเขาคนละหมื่นสองหมื่นวอนอย่างง่ายดาย







หลังจากการแข่งขันตกปลาเสร็จสิ้น โจชีกุกนับเงินเป็นฟ่อนด้วยสีหน้าระรื่น ก่อนโบกมือเรียกคิมจองอูที่กำลังเดินมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กๆ คล้องอยู่บนบ่า


?เร็วๆ หน่อย จองอู?


ได้ยินเสียงเรียก ชายหนุ่มก็เร่งฝีเท้ามานั่งลงกลางวง


?ไม่น้อยเลยนะเนี่ย? จองอูตาโต มองเงินปึกหนาด้วยความตื่นเต้น อีคังแรตบไหล่จองอูด้วยความชื่นชม


?ถ้าไม่มีนายสักคน แผนนี้คงไม่สำเร็จ?


?ใช่ ในบรรดาคนที่ฉันรู้จัก มีพี่จองอูนี่แหละที่เป็นคนปราดเปรื่องสุดๆ แถมยังว่ายน้ำเก่ง ดำน้ำเก่งสุดๆ ฉันนับถือพี่ที่สุดเลย?


?พูดเกินไปแล้ว? จองอูยันมือลงบนผมที่เป็นเหมือนเส้นไหมนิ่มๆ ของฮันซอนยองด้วยความเอ็นดู ซอนยองยิ้มปลื้ม แม้จะรู้ว่าจองอูไม่มีทางคิดเป็นอื่นนอกจากคิดว่าตัวเองเป็นพี่ใหญ่ที่ต้องคุ้มครองคนอื่นๆ ในแก๊ง โดยเฉพาะเธอที่เขาต้องใส่ใจเป็นพิเศษเพราะเป็นน้องเล็กและเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในแก๊งนี้


จางเซดอลมองซอนยองด้วยความน้อยใจ แต่ก็ยอมรับความจริงที่ว่า สิ่งที่ซอนยองพูดมาคือเรื่องจริงทุกอย่าง เธอไม่ได้พูดอะไรเกินเลยไปเลยแม้แต่น้อย


หากจองอูไม่ใช่ชายหนุ่มเข้มขรึมที่เจ้าแผนการและมีไหวพริบเยี่ยมยอด แถมยังมีฝีมือต่อยตีไม่เป็นสองรองใครแล้วล่ะก็ คนในวัยเดียวกันอย่างเขาก็คงไม่ยกย่องให้จองอูเป็นลูกพี่แทนฮันซอกแทที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ และยอมมองผู้หญิงที่ตัวเองแอบชอบไปชอบจองอูอยู่เฉยๆ อย่างนี้


คังแรยกมือพาดไหล่ให้กำลังใจเซดอลอย่างรู้เท่าทันความคิดที่อยู่ในใจของเขา ก่อนจะหันไปทางชีกุก จากนั้นก็เคลิ้มไปกับเสียงดีดกระดาษที่ยังคงดังอยู่ต่อเนื่องราวกับกำลังฟังดนตรีออเคสตร้าอันไพเราะ อ่อนหวาน และจับจิตจับใจ


?สามแสนสี่หมื่นวอน? ชีกุกบอกเมื่อนับธนบัตรในมือใบสุดท้ายเสร็จ


?เยี่ยม? จองอูยกกำปั้นขึ้นฟ้า สีหน้าแช่มชื่นไม่ต่างกับซอนยอง คังแร และเซดอลที่ดูเหมือนว่าตัวเลขที่ชีกุกแจ้งจะทำให้เขาลืมความน้อยใจที่มีต่อซอนยองไปได้ครู่หนึ่ง


ชีกุกโยนเงินลงตรงหน้าทุกคนทีละปึก ?ของพวกแกคนละห้าหมื่นวอน ส่วนนี่แสนวอนเป็นของแก จองอู?


มือหยาบจากการทำงานหนักของจองอูชะงักงัน ก่อนเงยหน้าสบตาชีกุก


?ผมไม่มีสิทธิ์ได้เงินมากกว่าคนอื่น ในเมื่อทุกคนต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเยี่ยมยอด?


?รับไว้เถอะพี่ ฉันเห็นด้วยนะที่พี่ชีกุกแบ่งให้พี่มากกว่าใคร พี่เป็นคนคิดแผนนี้ขึ้นมา แถมต้องดำน้ำเอาปลามาเกี่ยวเบ็ดตั้งสิบ-ยี่สิบกว่าคัน พี่ทำงานหนักขนาดนี้ ไม่มีใครว่าพี่เอาเปรียบหรอก ใช่ไหมพี่?!?


ซอนยองตวัดหน้าไปถามคังแรกับเซดอล ทั้งคู่พยักพเยิดตามอย่างรู้ดีแก่ใจว่าจองอูทุ่มเทกับงานนี้แค่ไหน


?นายเอาไปตามที่พี่ชีกุกแบ่งให้เหอะน่า ไม่งั้นเราจะรู้สึกผิดมากนะที่ทำงานเอาเปรียบนาย?


คังแรดันปึกเงินไปตรงหน้าจองอู และเมื่อจองอูมองแววตาของทุกคนที่ต้องการให้เขารับมันไว้ เสียงพ่นลมหายใจดังๆ ก็ดังขึ้น ก่อนที่เขาจะยื่นมือไปหยิบเงินปึกนั้นไว้


?ก็ได้? จองอูนับเงินในมือ พริบตาหนึ่งเขาก็เก็บเงินส่วนหนึ่งเอาไว้ในกระเป๋ากางเกง แล้วยื่นส่วนที่เหลือให้ชีกุก ?ห้าหมื่นวอนนี่ ฉันฝากพี่มอบให้ครูใหญ่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยแล้วกัน?


ชีกุกซึ้งในความหัวรั้นของจองอูดี เขาจึงรับมันไว้โดยที่ไม่คะยั้นคะยอให้จองอูเก็บเอาไว้ใช้เองอีกหน ก่อนจะเหลือบไปเห็นผู้กองฮยอนคีซางกับตำรวจนอกเครื่องแบบอีกสองนายกำลังตรงมาทางพวกเขา


?ผู้กองฮยอนมา พวกแกรีบเก็บเงินเร็วเข้า ฉันจะไปรับหน้าให้? พูดจบก็ตรงไปรับหน้าผู้กองโดยมีจองอูวิ่งเหยาะๆ ตามไปด้วย


?ว่าไงผู้กอง เกิดอะไรขึ้นครับ?


?ก่อกวนอะไรกันอีกรึเปล่า? คีซางย้อนถาม เมื่อชีกุกเห็นว่าผู้กองไม่รู้เรื่องที่พวกเขาเพิ่งได้เงินก้อนโตมาจากการต้มตุ๋นพวกนักท่องเที่ยวที่ไม่ทันเหลี่ยมมา เขาจึงยักไหล่ก่อนตอบ


?ก่อกวนที่ไหน ไม่มีใครกล้าก่อกวนในพื้นที่ที่ผู้กองฮยอนดูแลร้อก?


ผู้กองยิ้มมุมปากก่อนจะเหลือบไปมองชายหนุ่มที่มีหัวเปียกปอนด้วยสายตาเอ็นดูเป็นพิเศษ


ชีกุกสังเกตเห็นสายตานั้นบ่อยครั้ง เขาเคยคิดด้วยซ้ำว่าจองอูอาจจะเป็นลูกชายลับๆ ของคีซางที่นำเขาไปทิ้งไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ก่อนจะปัดความคิดที่ว่านั่นทิ้งไปหลังจากชเวอินซุก เพื่อนสมัยเด็กซึ่งเป็นภรรยาของผู้กองในปัจจุบันเป็นคนยืนยันอย่างหนักแน่นว่าสามีของเธอไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนมาก่อนก่อนที่จะมาแต่งงานกับเธอ จากนั้นก็หันไปคิดเรื่องที่เป็นไปได้มากกว่าแทน อย่างเช่น เรื่องที่จองอูเป็นคนฉลาดเฉลียวมาตั้งแต่เด็ก มีสัมมาคารวะ รักพวกพ้องอะไรพวกนั้น ถึงทำให้ผู้กองฮยอนมักยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือจองอูให้รอดจากคุกหลายครั้งหลายหน


?เป็นยังไงบ้าง? คีซางถามจองอู


?ดีครับ? น้ำเสียงที่ตอบเต็มไปด้วยความเคารพและนับถือ


?ขอคุยด้วยหน่อย?


?อ่า... ครับ เดี๋ยวผมตามไป?


ทันทีที่ผู้กองหันหลังแล้วเดินไปพร้อมกับนายตำรวจทั้งสอง เพื่อความปลอดภัย จองอูจึงควักเงินในกระเป๋าฝากชีกุกเอาไว้ ก่อนจะเร่งฝีเท้าให้ทันนายตำรวจ


?ได้ข่าวฮันซอกแทบ้างรึเปล่า? คีซางเปรยเปิดประเด็น


?ผมเพิ่งไปพบเขามาครับ แล้วก็โอนเงินให้? จองอูตอบตรงไปตรงมา


?ไอ้เจ้าฮันซอกแทมันจะพ้นโทษอาทิตย์หน้า แต่ก็ยังติดทัณฑ์บน?* คีซางหยุดพูดเพื่อสูดอากาศเข้าปอด ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ?ถึงเวลาแล้วนะที่นายต้องเลิกยุ่งกับไอ้ฮันซอกแทสักที?


?เขาก็ต้องการแบบนั้นครับ แต่ผมจะไม่ทิ้งเขา? ชายหนุ่มยิ้มอย่างรับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่ผู้กองมีให้เขา แต่มันก็ทำให้คีซางต้องชักสีหน้าขึ้นอย่างขัดใจ


?ให้ตายสิ แกนี่มันโง่จริงๆ เลย ขืนยังคบมันต่อไป แกรู้ไหมว่าจะเป็นยังไง?


?ครับ แต่ไม่ต้องห่วง?


?แกนี่มัน...? คีซางอยากยกมือเขกหัวคนรั้นแรงๆ สักทีสองทีให้กับรอยยิ้มกวนประสาทนั่น ก่อนจะเปลี่ยนใจมาเป็นถอนใจหนักๆ เดินตรงไปขึ้นรถแล้วเหยียบคันเร่งให้รถกระชากตัวออกไปอย่างรวดเร็วตามตามความคุกรุ่นที่มีอยู่ในใจ เขาเตรียมใจมาแล้วว่าชายหนุ่มรุ่นลูกจะไม่ฟังคำเตือนของเขา ด้วยนิสัยของจองอูที่เขารู้จัก คำเตือนของเขาไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้จองอูตัดสินใจทิ้งพวกพ้องไปง่ายๆ แม้ว่าคนคนนั้นจะทำให้ต้องเดือดร้อน... ทั้งๆ ที่รู้ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะมาเตือนจองอูด้วยความห่วงใย


หากจองอูไม่ใช่ลูกชายของมิยอนแล้วล่ะก็ เขาจะไม่ลดตัวลงมายุ่งเกี่ยวกับพวกไร้อนาคตอย่างเด็กคนนั้น... คีซางยิ้มขื่น ระทมใจ เมื่อนึกถึงรอยยิ้มอันอ่อนต่อโลกของสตรีที่เขาเคยรักเมื่อในอดีตซึ่งฉายชัดขึ้นมาในความทรงจำ








?มีอะไรเหรอ เขามาพบนายทำไม? ชีกุกถามเมื่อจองอูเดินกลับมา ชายหนุ่มรุ่นลูกยักไหล่แล้วนั่งลงเอาผ้าขนหนูเช็ดหัวให้แห้งจากน้ำทะเล


?นี่ บอกหน่อยสิ นะ? เซดอลคะยั้นคะยอให้จองอูบอก จองอูเลยตอบเอื่อยๆ


?ผู้กองมาบอกว่าฮันซอกแทจะพ้นโทษอาทิตย์หน้า?


?หือ?!? คังแรร้องด้วยความแปลกใจ ขณะที่คนอื่นๆ พากันมองหน้ากันเลิ่กลั่กประหนึ่งได้รับข่าวว่าพายุไซโคลนกำลังถล่มเกาะเชจู


?ทำไมเร็วจังเลยล่ะ เหลืออีกหกเดือนไม่ใช่เหรอ? คังแรภาวนาว่าขอให้ข่าวที่ได้รับผิดพลาด แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงความจริงไปได้


?ได้ทัณฑ์บนน่ะ? จองอูตอบ ก่อนจะเหยียดยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าของแต่ละคนที่เหมือนโดนบังคับให้อมบอระเพ็ดก็ไม่ปาน ชีกุกโยนเงินที่จองอูฝากไว้คืนให้เจ้าตัวพร้อมกับเงินส่วนที่จองอูฝากไปมอบให้กับครูใหญ่


?ฉันไม่อยากให้ครูใหญ่มาซักฉันว่าไปเอาเงินนี่มาจากไหน แกเอาเงินไปให้ครูใหญ่เองก็แล้วกัน?


?งั้นเดี๋ยวฉันมาแล้วกัน? พูดจบก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะหยิบหมวกกันน็อคที่วางเรี่ยราดแถวๆ นั้นติดมือไปยังมอเตอร์ไซค์คู่ใจ


เมื่อจองอูออกไปแล้ว ทุกคนจึงสลายตัวไปทำธุระส่วนตัว เซดอลไม่มีที่ไปและยังไม่อยากใช้เงินที่มีอยู่ เขาตัดสินใจขับมอเตอร์ไซค์ตามจองอูไปหาครูใหญ่ด้วยคน แต่ออกจากหาดไปได้ไม่เท่าไร่ เซดอลก็ค่อยๆ ชะลอความเร็วเมื่อเห็นร่างสูงของจองอูยืนพิงมอเตอร์ไซค์อยู่ริมทาง เซดอลจอดรถแล้ววางหมวกกันน็อคลงบนกระจกมองข้าง จากนั้นก็เดินมายืนอยู่ข้างๆ จองอูก่อนจะสูดอากาศเข้าเต็มปอด


?อากาศดี เหมาะที่จะสูดอากาศมากเลยนะ ว่าไหม?


จองอูพยักหน้า สายตาทอดไปยังคฤหาสน์หรูหราดุจพระราชวังยุโรปที่เคยเห็นในข่าวต่างประเทศ


?ทำไมนายถึงมาแต่ที่นี่ฮะ ที่นี่มีดีอะไรนักหนาเหรอ?


?ก็แค่...อยากมา?


เซดอลหัวเราะเมื่อได้ยินคำตอบ จนจองอูต้องตวัดเสียงถาม


?ขำอะไร?


?ไอ้บ้าเอ๊ย ฉันรู้ทุกอย่าง ทำเป็นบอกว่าอยากมา?


?นายรู้อะไร? จองอูย้อนถามด้วยความสนใจว่าเซดอลรู้อะไร และรู้แค่ไหนเกี่ยวกับเรื่องในใจเขาที่มีต่อคฤหาสน์หลังนั้น


?ก็รู้ว่าที่นายมาที่นี่เพราะเด็กผู้หญิงคนนั้น คนที่เคยอยู่ในที่ผืนนั้น พื้นที่ที่เคยเป็นสวนส้มของเจ้าของไร่ส้มหน้าซีดๆ คนนั้นไงเล่า?


?จำได้เหรอ? จองอูย้อนถามอย่างประหลาดใจ ซึ่งเซดอลก็ตอบกลับมาอย่างผึ่งผาย มั่นใจในตัวเองสุดๆ ว่าแน่นอน


เซดอลสนิทสนมกับจองอูซึ่งเติบโตมาในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เดียวกัน พร้อมกับฮันซอกแท คังแร และซอนยอง ดังนั้นจึงไม่มีเรื่องไหนที่เกี่ยวกับจองอูแล้วเขาไม่รู้


?ตอนแกเด็กๆ แกรักเธอมากเลยนี่ แกยังคิดถึงเธออยู่เหรอ? ถามจบก็ละสายตาจากใบหน้าเข้มขรึมไปมองบ้านหลังใหญ่ ?ใครกันนะที่สร้างปราสาทหลังงามนี้ หลังจากที่ถางสวนส้มใหญ่โตซะจนโล่งเตียน?


?ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน?


?คิดว่าเท่าไหร่? เซดอลถามถึงราคาค่าก่อสร้างโดยที่สายตาไม่ละไปจากคฤหาสน์หลังงามนั้น


?ประมาณห้าพันล้านวอน?


?ห้าพันเหรอ ไม่มาก นายรอหน่อยนะ ฉันจะหาเงินให้ได้แล้วสร้างแบบนั้นให้? เซดอลพูดติดตลก จองอูเลยส่ายหน้าเบาๆ ให้กับความไร้แก่นสารของเซดอล ก่อนจะยันตัวขึ้นยืนตรงแล้วโยนหมวกกันน็อคไว้ที่พื้น


?ไปดูกันว่าใครอยู่?


?เฮ้ย จองอู จะบ้าเหรอ จองอู! จองอู!!?


ด้วยความเป็นห่วง เซดอลรีบเดินหมอบๆ ย่องตามจองอูเข้าไปในคฤหาสน์ ทั้งคู่ยังไปไม่ถึงหน้าเรือนด้วยซ้ำ จู่ๆ ก็มีเสียงปืนดังปังใหญ่ที่ทำให้ทั้งคู่เกือบนอนหมอบลงไปนอนที่พื้นด้วยความตระหนก


จองอูค่อยๆ ยืดตัวตรงเมื่อเขาเห็นเจ้าบ้านเดินถือปืนลูกซองมาทางพวกเขาด้วยท่าทีที่นิ่งสงบ หากแต่แววตาที่มองพวกเขากลับแผ่.้อย่างร้ายกาจ...หากเขาเป็นกระต่าย หรือหมาข้างถนน เขาจะไม่ว่าเลยเรื่องที่ชายรุ่นพ่อผู้น่าเกรงขามคนนี้ยกปืนขึ้นมาส่องเขาด้วยสีหน้าที่บอกว่าพร้อมจะเหนี่ยวไกได้ทุกเมื่อ แต่เขาเป็น ?คน? ผู้ชายคนนี้จะยิงมนุษย์เหมือนกันได้อย่างง่ายดายเลยหรือ หรือว่าผู้ชายคนนี้จะเห็นว่าคนที่ต่ำต้อยกว่าไม่ใช่มนุษย์เหมือนตัวเองกันแน่?!


จองอูลุกขึ้นสบตาเจ้าบ้านอย่างท้าทาย สร้างความแปลกใจให้กับจางมินโฮ ชายภูมิฐานที่มี.็นของชายหนุ่มรุ่นลูกที่ดูเหมือนกุ๊ยข้างถนน


?ท่านครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง? แพคซิลจาง ลูกน้องคนสนิทที่ถือเป็นมือขวาของมินโฮตามมาขวางไว้ แต่มินโฮก็ใช้ปืนกระแทกร่างซิลจางแล้วเยื้องย่างมายืนด้านหน้า จากนั้นจึงถามโดยที่ไม่ได้ลดปืนในมือลงพื้น


?แกเป็นใคร?


?แค่มาดูบ้าน ก็แค่อยากรู้ว่าต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะสร้างได้? จองอูตอบอย่างไม่สะทกสะท้านและไม่มีท่าทีหวาดกลัว


?ทำไม? มินโฮถามกลับ


?เพราะเราชอบ แบบนี้ต้องใช้เงินเท่าไหร่? ตอบเสร็จก็ขยับเท้าเดินอย่างย่ามใจที่เห็นว่าเจ้าบ้านไม่มีทีท่าว่าจะยิงจริงๆ มินโฮขยับปืนในมือทันที แต่จองอูก็เย้าแหย่อย่างไม่กลัว ?อย่าจ่อปืนใส่เราแบบนั้นสิครับ กลัวจะแย่แล้ว?


มินโฮสนองการเหยียดหยามความกล้าหาญในตัวของเขาด้วยการยิงเฉียดผู้บุกรุกที่หน้าด้านหน้าทนไปอีกหนึ่งนัด เป็นผลให้จองอูสะดุ้งโหยง ก่อนจะหน้าตึงขึ้นด้วยความโกรธ


?รีบออกไปซะ จะนับหนึ่งถึงสาม? มินโฮสั่ง


เซดอลเห็นจองอูยังยืนเฉยจึงรีบฉุดแขนจองอูให้ตามเขาไป แต่ร่างของจองอูยังคงนิ่ง นัยน์ตาจับจ้องไปที่มินโฮ


?สอง?


?จองอูไปกันเถอะ? เซดอลเรียกอย่างร้อนรนเพราะว่าเขากลัวจะแย่แล้ว ผิดกับจองอูที่สวนกลับไปแบบไม่กลัวตาย


?ไม่ต้องถึงสามหรอก ยิงได้เลย ผมมันไม่มีค่าอะไรมากนักหรอก เอาเลย?


มินโฮเกลียดคนที่กล้าท้าทายอำนาจเขามากที่สุด เขากำลังจะเหนี่ยวไกสนองคำท้าทายของเจ้ากุ๊ยข้างถนนแต่ซิลจางมาขวางเขาเอาไว้อีกหน


?ท่านครับ?


?ถอยไป?


?ท่านประธาน!?


จางมินโฮสูดลมอย่างขัดใจ ก่อนจะยอมยัดปืนใส่อกซิลจางแล้วหมุนร่างกลับไปด้านในเพื่อให้ซิลจางจัดการทุกอย่างแทนเขา เซดอลโล่งอกจนต้องขอบคุณพระเจ้า ส่วนจองอูแอบกัดริมฝีปากล่าง มองตามเบื้องหลังมินโฮไปด้วยแววตาขุ่นข้อง


?ขอโทษครับ ผมจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก? พ่อบ้านเอ่ยขอโทษที่บกพร่องต่อหน้าที่กับซิลจาง ซิลจางไม่ได้ว่ากล่าวอะไรพ่อบ้านอย่างเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องสุดวิสัย แต่เขาถอนใจหนักๆ ก่อนจะหันกลับไปที่ชายหนุ่มแปลกหน้าทั้งสอง


?พวกเธอเป็นใคร เข้ามาในบ้านคนอื่นทำไม?


?ก็บอกแล้วแค่อยากดูบ้าน? จองอูตอบคำเดิม


?แต่นายกำลังบุกรุก รีบออกไปซะ?


จองอูยิ้มก่อนจะหันหลังออกไป โดยมีเซดอลวิ่งเหยาะๆ ตามอย่างเร่งร้อนก่อนจะบ่นอย่างหงุดหงิดในความบ้าระห่ำของเพื่อน


?แกบ้ารึไง ปืนจ่ออยู่ยังจะท้าอยู่ได้?


?ถ้าเขายิงฉัน ชีวิตเขาก็จบเหมือนกัน ถ้าเขาบ้าก็ว่าไปอย่าง?


?แต่มองตาเขาแล้ว ฉันว่าบ้าชัวร์ว่ะ ฮึ้ย น่ากลัวจริงๆ เลย คนบ้าอะไร นี่ รีบไปกันเถอะ?


จองอูส่ายหน้าอย่างรู้สึกขำท่าทีเหมือนกระต่ายที่เพิ่งเจอกับนายพรานแม่นปืนของเซดอล แต่จู่ๆ รอยยิ้มที่มีก็จางหายไปเมื่อไปถึงมอเตอร์ไซค์แล้วเขารู้สึกว่ามือของตัวเองหยุดสั่นเทาไม่ได้เลยยามที่นึกถึงนัยน์ตาเย็นชา . สายตาของนักฆ่าอันเลือดเย็นที่หล่อหลอมอยู่ในตัวของชายภูมิฐานผู้ร่ำรวยคนนั้น


...กว่าจองอูจะตามเซดอลกลับไปบ้านได้ ต้องใช้เวลาครู่ใหญ่ทีเดียว









หลังพระอาทิตย์ตก มอเตอร์ไซค์ของจองอูถูกเจ้าตัวจอดเอาไว้ลวกๆ ข้างผนังบ้าน จากนั้นก็ถอดหมวกกันน็อคสีดำสนิทแขวนไว้ที่กระจกมองหลังพลางใช้มืออีกข้างยีผมแฟบๆ ให้ฟู จองอูตั้งใจว่าจะเข้าไปพักผ่อนเอาแรงก่อนไปช่วยงานชีกุกที่ท่าเรือคืนนี้ ทว่านัยน์ตาคมตวัดไปเห็นคังแร เซดอล และซอนยองกำลังเอ็ดตะโรกันเสียงดังลั่น


?ทำอะไรกันอยู่น่ะ?


ซอนยองรีบเอาอะไรบางอย่างซ่อนไว้เบื้องหลังด้วยความรวดเร็ว แต่ความเร็วที่ว่าก็ไม่พ้นสายตาอันฉับไวของจองอูไปได้ จองอูขมวดคิ้ว คิดว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ และเรื่องที่ซอนยองกำลังปิดบังอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องดี ไม่เช่นนั้นคังแรกับเซดอลคงไม่ทำหน้าเจื่อนขนาดนั้น


ไม่ต้องมีใครเล่าละเอียดให้มากความ เพราะแค่มองสถานการณ์ทั้งหมด จองอูก็สรุปได้ด้วยตัวเอง


?เธอกลับไปล้วงกระเป๋าอีกแล้วเหรอ ซอนยอง?


?เปล่านะพี่?


คำปฏิเสธของซอนยองไม่ได้ทำให้จองอูเชื่อ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปกระชากกระเป๋าสตางค์ที่ถูกซ่อนไว้ขึ้นมาชูตรงหน้าด้วยสีหน้าขึงเครียด ซอนยองรู้สึกว่าน้ำลายเฝื่อนคอจนขม


?นั่น... ฉันเก็บได้ ฉันเลยเอามาถามพี่คังแรว่าจะทำยังไงกับมัน พี่เชื่อฉันสิพี่จองอู?


นัยน์ตาคมสังเกตว่ากระเป๋าหนังสีดำเป็นมัน บ่งบอกถึงฐานะผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดีว่าเป็นคนล่ำซำมากพอที่จะเย้ายวนพวกมือไวอย่างซอนยองได้ เขาช้อนสายตาเย็นชาใส่คนที่รักดุจน้องสาวซึ่งดูว่าใจของเธอจะหายวาบลงไปกองที่พื้นอย่างเห็นได้ชัด


?พี่คะ พี่เชื่อฉันสิ? ซอนยองถลาเข้าไปเขย่าแขนจองอูแรงๆ ?ฉันบอกว่าจะเลิกล้วงกระเป๋าแล้วไง ฉันสัญญากับพี่ไปแล้วฉันก็ต้องรักษาสัญญาสิ พี่ไม่เชื่อใจฉันเหรอ?


จองอูเบือนสายตาไปมองเพื่อนทั้งสองเพื่อถาม แต่ทั้งสองกลับหลุบตาลงพื้นอย่างพร้อมใจที่จะปกป้องซอนยองไม่ให้ถูกเขาโกรธ จนชายหนุ่มต้องถอนใจหนักๆ


?เอาไปส่งที่สถานีตำรวจซะ แล้วฉันจะเชื่อเธอ? จองอูตัดบทด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดก่อนจะยกกระเป๋าสตางค์เคาะหน้าผากซอนยอง จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเองด้วยความหวังว่า ครั้งนี้คงจะไม่ใช่อีกครั้งที่ซอนยองโกหกเขา...







ช่วงสายวันต่อมา ชีกุกชวนจองอูมาช่วยเชียร์ม้าฝีเท้าลมกรดที่เขาลงเงินพนันด้วยเงินทั้งหมดที่หามาได้เมื่อวานนี้ จองอูตกลงมาเป็นเพื่อน และด้วยความที่ชีกุกเป็นคนกว้างขวาง เขาจึงคิดว่าชีกุกน่าจะตอบคำถามเขาได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องเจ้าของคฤหาสน์จอมโหดคนนั้น


?คฤหาสน์ที่เหมือนปราสาทเหรอ?? ชีกุกถามโดยไม่ละสายตาจากม้าตัวที่เขาเก็งไว้


?ใช่ ที่สร้างทับสวนส้มของตาแก่ที่ชอบเอาส้มมาแจกที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้านั่นน่ะ เจ้าของบ้านทำอะไร? จองอูเริ่มซัก อยากรู้นักว่าชายที่มีนัยน์.ั้นเอาเงินจากไหนมาสร้างคฤหาสน์หลังโตขนาดนั้น


?ไม่รู้สิ? ชีกุกยังไม่ละสายตามาจากม้าที่เขาเชียร์อยู่เช่นเดิม ?เขาไม่ใช่คนที่นี่ ไม่ใช่คนเชจู คงจะมาจากแผ่นดินใหญ่ ส่วนเรื่องของเขาก็ไม่มีใครรู้ความเป็นมา ที่ฉันรู้ก็มีแค่ว่าเขากำลังมีปัญหา?


?เรื่องอะไร? จองอูเลิกคิ้ว ถามอย่างใคร่รู้


?ได้ข่าวว่าเขากว้านซื้อที่ดินที่นี่ทั้งหมด แถวชายฝั่งน่ะ ตอนนี้ก็เป็นของเขาจนหมดแล้ว ที่จากฮันอานถึงชองโด รู้สึกว่าตอนนี้เขาเป็นคนครอบครองอยู่ทั้งหมด?


ชายภูมิฐานคนนั้นไม่ได้เป็นแค่เศรษฐี แต่เป็นอภิมหาเศรษฐี ทั้งเงินและทรัพย์สินทั้งหมดคงมีใช้เหลือเฟือจนตายก็ยังใช้ไม่หมด ถ้าหากได้ทำงานกับชายคนนั้นล่ะก็...จองอูคิดสะระตะไปเรื่อยก่อนจะถามต่อ


?จริงสิ แล้วเขาจะเอาไปทำอะไร?


?ฉันจะไปรู้ได้ยังไง? ชีกุกตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเพราะม้าที่เขาลงเงินพนันไปมากโขถูกตัวที่ตามหลังเบียดแซงขึ้นมา ?เขาอาจจะอยากเป็นเจ้าของเกาะเชจูมั้ง แต่ว่าถ้าทั้งหมดนี่เป็นเรื่องจริงล่ะก็ เขาคงมีเงินล้นฟ้าเลยล่ะ ว่าแต่ถามทำไม?


?อยากถาม? จองอูยักไหล่แล้วตอบแค่นั้น ก่อนจะขำกับท่าระเบิดอารมณ์ของชีกุกเนื่องจากม้าตัวเก็งว่าจะได้แชมป์รอบนี้เข้าเป็นที่สอง โดยที่ยังมีเรื่องของเศรษฐีเจ้าของคฤหาสน์หรูหราคนนั้นวนเวียนอยู่ในความคิดเขา







แพคซิลจางก้าวเท้าอย่างสม่ำเสมอมาหยุดตรงหน้าเจ้านาย แล้วรายงานด้วยสีหน้าที่มีรอยเคร่งเครียดอยู่บริเวณหัวคิ้วดกหนา


?สิบเอ็ดเอเคอร์ครึ่งที่ท่านให้หา ดูจะซื้อได้ยากแล้วล่ะครับ?


ดวงตาดุดันของจางมินโฮหรี่ลงพลางเอ่ยถามเสียงเข้ม ?มีปัญหาอะไร?


?เราเจออุปสรรคใหญ่ครับ เหมือนประธานยูจะอยู่เบื้องหลัง?


?ยู...คังซู? มินโฮเอ่ยชื่อเต็มๆ เพื่อความแน่ใจ ซิลจางจึงค้อมศีรษะ หลุบตาลงต่ำก่อนตอบรับเพื่อยืนยัน แต่มินโฮก็ยังถามย้ำด้วยความไม่แน่ใจ ?แน่ใจเหรอ?


เขารู้จักคนอย่างยูคังซูดีว่าคนคนนั้นเป็นพวกขี้ขลาดตาขาว ดังนั้น...ไม่มีทางเสียหรอกที่คนคนนั้นจะกล้ายื่นขาเข้ามาขัดสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ ทว่า...ซิลจางตอบอย่างหนักแน่น


?แน่ใจครับ?


?ฉันทำอะไรอยู่ เขารู้ไหม?


?เชื่อว่ารู้ครับ?


นัยน์ตาของมินโฮมีรอยวูบไหวด้วยโทสะแม้สีหน้าโดยรวมจะคงนิ่ง เขาลุกขึ้นเต็มความสูง จัดสูทให้เข้าที่ก่อนสบตามือขวาที่เขาไว้ใจ


?ไปเถอะ?







ภายในสนามกอล์ฟอันหรูหราที่สุดในเกาะเชจู ยูมิรันเหลือบไปเห็นรถยนต์คุ้นตาขับเคลื่อนเข้ามาจอดเทียบอยู่ที่หน้าบริษัท เธอสั่งให้คนขับรถวนรถกลับไปที่บริเวณนั้นเมื่อมั่นใจว่าเป็นรถของจางมินโฮ ผู้เป็นทั้งบิดาของคู่หมั้นและเป็นเพื่อนกับบิดาของเธอ


?คุณลุงคะ สวัสดีค่ะ?


?อ้าว? มินโฮยิ้มบางๆ เมื่อเห็นร่างของมิรันที่รีบวิ่งมาหาเขา เธอทักทายเขาอย่างนอบน้อม ก่อนที่มินโฮจะถามกลับไป ?มาเมื่อไหร่?


ยูมิรันเรียนอยู่ที่เดียวกับจางแทฮยอก ลูกชายของเขาซึ่งอยู่ที่โซล การที่เขาเห็นมิรันกลับมาโดยที่แทฮยอกไม่มาด้วยทำให้เขาแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่มากพอที่จะทำให้เขาลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงในการมาพบยูคังซูอย่างกะทันหัน


?สองวันแล้วค่ะ? มิรันตอบเสียงสดใส


?โตขึ้นเยอะเลย? มินโฮกวาดตามอง ?แต่งงานได้แล้วสิ?


?หนูพร้อมแล้วค่ะ แต่เจ้าบ่าวไม่เห็นสนใจเลย?


?ไม่เจอแทฮยอกเหรอ?


?ไม่เจอค่ะ หายตัวอยู่เรื่อย คุณลุงดุเขาสิคะ? ได้ทีเธอก็ฟ้องแต่ไม่ได้จริงจังอะไร ท่าทางกระเง้ากระงอดแต่มีความหยิ่งผยองในตัวของเธอทำให้มินโฮหัวเราะหึๆ


?ได้สิ ใครทำให้มิรันของลุงโกรธ ลุงจะจัดการให้เอง?


พนักงานเดินมาเชิญมินโฮเข้าไปด้านใน มินโฮจึงหันมาลามิรัน เขาหมุนร่างอันน่าเกรงขามแล้วทอดฝีเท้าอย่างไม่เร่งร้อนอะไร แม้ใจอันร้อนรุ่มอยากจะทำลายทุกๆ อย่างที่เป็นของยูคังซู ให้สมกับความกล้าหาญที่บังอาจมาขวางทางของจางมินโฮ!


ขณะที่จางมินโฮสืบเท้าเข้าใกล้ห้องทำงานของยูคังซูมากขึ้นไปทุกที เจ้าของห้องกลับสนทนาผ่านกระบอกโทรศัพท์อย่างย่ามใจ


?คิดว่าฉันกลัวจางมินโฮเหรอ ไม่ต้องห่วง ดูเรื่องเงินให้ดีเถอะ ก็ได้?


ทว่าระหว่างที่ยังพูดไม่จบ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น คังซูเอ่ยอนุญาตก่อนจะหันหลังกลับไปมองเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดออก ซึ่งสิ่งที่เห็นก็คือร่างของคนที่เขาบอกว่าไม่กลัว จึงต้องรีบวางสายและเดินเข้ามาต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มผิดกับคำพูดเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง


?ทำไมถึงมาเงียบๆ?


?ฉันต้องโทรมาก่อนถึงจะได้เจอพี่เหรอ? น้ำเสียงของมินโฮเย็นเยียบจับขั้วหัวใจคังซู กระนั้นเขาก็ทำเป็นไม่รู้สึกว่ากลัวชายตรงหน้า


?ไม่ต้องก็ได้ ฉันแค่ถามเท่านั้นเอง นั่งสิ? คังซูรีบผายมือเชื้อเชิญให้นั่ง ก่อนจะบอกต่อ ?กำลังคิดถึงเลย?


มินโฮตอบเสียงกลับในลำคอด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แววตาชาเฉย คังซูจึงต้องกลืนความฝืดเฝื่อนในคอลงและรินชาให้มินโฮ


?ขอบคุณมาก อ้อ พี่สบายดีไหม? มินโฮเริ่มเกริ่น คังซูสัมผัสได้ว่าชายรุ่นน้องตรงหน้าคงรู้อะไรมาบ้างแล้ว แต่เขาเลือกจะแสร้งว่ายังไม่รู้ว่ามินโฮมาด้วยเรื่องอะไร


?ฉันน่ะเหรอ ก็งั้นๆ ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน? ตอบยิ้มๆ หากแต่หลบสายตาคมดุจราชสีห์กำลังจ้องเหยื่อของอีกฝ่าย


?ฉันว่า... พี่ไม่เหมือนเดิม?


?ฉันมีทุกอย่างแต่ก็กังวลอยู่ตลอดเวลา เรื่องสัพเพเหระ ฉันกังวลทั้งเรื่องฝน กังวลทั้งเรื่องลม ที่เกาะเชจูอากาศแย่มาก? คังซูเสไปเรื่องอื่นๆ อย่างติดๆ ขัดๆ ท่าทีที่แสดงออกมาของวัวสันหลังหวะช่างน่าขำสำหรับมินโฮ เขาบอกเสียงเรียบดุจเดิม


?ถ้าปวดหัวนักก็ปล่อยมันไป?


?หือ?? คังซูหัวเราะไม่เต็มเสียง ?อะไรกัน?


?ไอ้ทุเรศยูคังซู กระสับกระส่ายออกนอกหน้าเชียวนะ?


ดูเหมือนว่าความอดทนของจางมินโฮจะสิ้นสุดลงแล้วเมื่ออีกฝ่ายยังคงพยายามเสแสร้งต่อไป เขาใช้น้ำเสียงเหยียดๆ พร้อมส่งนัยน์ตาเข้มให้ จนคังซูต้องพยายามอย่างหนักไม่ให้เสียงฟ้องว่าเขากำลังหวาดหวั่น


?ทำไมพูดแบบนี้?


?ทำไมเหรอ? มินโฮขว้างซิการ์ที่ถืออยู่กระแทกหน้าอกคังซู จากนั้นก็ลุกพรวดขึ้นและเดินตรงไปที่ถุงใส่ไม้กอล์ฟก่อนจะหยิบไม้กอล์ฟเหมาะมือขึ้นมาถือไว้มั่น


?ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้พี่ชาย ลืมไปแล้วเหรอว่านายเป็นหนี้ฉัน ไม่ใช่แค่สนามกอล์ฟนะ ชีวิตด้วย?


มินโฮใช้ไม้กอล์ฟในมือชี้ใบหน้าอวบอูมที่มีเหงื่อซึมขมับของคังซู จากนั้นก็ค่อยๆ พูดถึงเรื่องราวในอดีตที่แทบจะกลืนกินชีวิตพวกเขาอย่างโหดร้าย


?ปัญหาใหญ่ก็คือ...คนโง่เง่าอย่างนายโลภมากจนกระทั่งลืมสิ่งที่นายต้องจำติดตัวไปจนชั่วชีวิต งั้นฉันจะช่วยเตือนให้ 7 กันยายน ปี 1967 ที่ควางจู ในตอนนั้นเราช่วยกันเก็บฝิ่นแล้วเอาไปขายให้กับพวกต่างชาติ มีสิ่งน่ากลัวเกิดขึ้น ท้องฟ้ามืดครึ้มเต็มไปด้วยควันไฟ พอเราเงยหน้ามองขึ้นไปก็เห็นแต่ลูกระเบิด พวกมันเอาแต่โปรยระเบิดลงมา?


พูดจบเขาก็หัวเราะหึๆ ก่อนจะเริ่มทำลายข้าวของราคาแพงในห้องทีละชิ้น จากนั้นก็เอาไม้ต้นเหตุที่ทำให้ข้าวของพังพินาศมาชี้หน้าคนที่ทำให้เขาบันดาลโทสะ


?ตอนนั้น...ไฟไหม้ลามไปทั่วไม่ยอมหยุด ทั้งป่ากลายเป็นทะเลนาปาล์ม นายอยู่ที่นั่นอย่างคนใกล้ตาย ฉันใช่ไหมที่แบกนายหนีออกมา นายพูดว่ายังไง ชีวิตที่เหลือของฉันมันเป็นของนาย จากนั้นตอนเราทำงานในตลาดมืดที่ไซง่อน นายถูกพวกมือปืนรับจ้างจับตัวไป พวกมันเอาปืนจ่อที่หัวนายแล้วบังคับนายให้เล่นรัสเซี่ยนรูเล็ตต์* นายขอร้องให้ฉันช่วยขณะที่นายฉี่ราดกางเกง ใครกันที่ช่วย มีอีกไหม ยังจำได้รึเปล่า!?


คังซูสะดุ้ง หลับตาอันร้อนผ่าวลงแน่น และขอร้องด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ?พอแล้ว หยุดสักที?


?ฉันเคยขออะไรเป็นการตอบแทนไหม ส่วนเงินฉันก็หามาให้ เคยมีเงื่อนไขไหม? มินโฮลำเลิกบุญคุณต่ออย่างไม่สนใจ ?แล้วนายจะตะกละไปอีกนานไหม บอกฉันมาเลย ฉันจะได้ไม่แปลกใจอีกเวลาที่ถูกนายแทงข้างหลัง บอกฉันมาให้หมดเดี๋ยวนี้?


?ฉันรู้ ฉันผิดไปแล้ว? คังซูเอื้อนเสียงด้วยความหวาดกลัว กระนั้นมินโฮก็ยังมองคังซูด้วยความผิดหวัง ไฟแห่งความโกรธแค้นทำให้เขาเริ่มอาละวาด ทำลายข้าวของในห้องอย่างบ้าคลั่งจนสาแก่ใจ


สุดท้ายมินโฮก็ขว้างไม้กอล์ฟลงตรงหน้าชายร่างท้วมผู้ซึ่งเป็นคนที่เขานับถือเป็นพี่น้องแบบไม่ออมแรง และชุดน้ำกาที่นำมาต้อนรับมินโฮคือสิ่งสุดท้ายที่แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ไปพร้อมกับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งคู่


?ไปเถอะ? มินโฮบอกซิลจางแล้วเดินออกจากห้องไปโดยที่ไม่หันหลังกลับมามองร่างสั่นเทิ้มเบื้องหลัง ยูคังซูยกโทรศัพท์ติดต่อหาใครบางคนทันทีหลังจากที่ทั้งคู่คล้อยหลังไปไม่ถึงนาที


?ฉันเอง ฉันจะต้องได้ที่ผืนนั้น ไปจัดการซะ?


แต่ใช่ว่าจะมีแค่คังซูเท่านั้นที่ลุกขึ้นมาเอาจริง ระหว่างนั่งรถกลับไปคฤหาสน์ มินโฮเองก็สั่งงานซิลจางด้วยสีหน้าเคร่งขรึม


?จับตาดูยูคังซูไว้?


?ท่านคิดว่าเขาจะทำยังไงต่อไป?


?ไว้ใจไม่ได้?


?เข้าใจแล้วครับ?


ซิลจางรู้ถึงความต้องการของเจ้านาย และทำให้เขานึกถึงพวกที่ทำงานสกปรกเพื่อแลกกับเงินที่ชื่อฮันซอกแท คนที่เคยทำงานให้เขาจนไปจบอยู่ที่เรือนจำ หลังจากที่แยกกับมินโฮ เขากลับไปที่คอนโดฯ และติดต่อไปยังชินกี คนที่จัดหาคนมาทำงานให้เขาซึ่งสามารถตามตัวฮันซอกแทได้ จากนั้นก็แจ้งค่าจ้างเป็นเลขเจ็ดหลักและรออย่างใจเย็น


Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

Re: New Release : Swallow The Sun ฝากรัก ณ ตะวันนิรันดร

โพสต์ โดย Gals »


2




ช่วงบ่ายแก่ๆ บริเวณลานกว้างเต็มไปด้วยเด็กๆ ที่กำลังเตรียมตัวไปเข้านอน สตรีสูงวัยเดินอย่างรีบร้อนออกมาพบจองอู เพราะกว่านางจะละมือจากพวกเด็กๆ ที่วิ่งซุกซนเหมือนปูมาได้ก็ทำให้เขานั่งรออยู่นานแล้ว


ครูใหญ่ยิ้มดีใจเมื่อเห็นร่างสูงของจองอู


?วันนี้ยุ่งมากหรือครับ? ถามพลางกวาดตามองหญิงสูงวัยด้วยความห่วงใย


?เป็นปกตินั่นแหละ แล้วยังไง วันนี้ไม่ไปทำงานรึไง?


?วันนี้ไม่มีงานครับ? ชายหนุ่มรีบบอกต่อเมื่อเห็นสีหน้ากังวลใจของอีกฝ่าย ?จะมีคนจ้างผมทำงานเร็วๆ นี้ ครูไม่ต้องห่วง แล้วก็...พี่ซอกแทก็จะออกจากคุกในอีกไม่กี่วันนี้?


ครูใหญ่ถอนใจหนักๆ ?นั่นแหละที่ฉันห่วง เป็นความผิดฉันเอง ฉัน...ไม่น่าปล่อยให้เธอไปกับเขาเลย? พูดจบครูใหญ่ก็ถอนใจอีกครั้งด้วยความกลัดกลุ้ม


ไม่มีทางเลือกมากสำหรับเด็กกำพร้า จองอูรู้ดีแก่ใจ เขาคาดหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ในอนาคต แต่เขากลับตัดสินใจออกไปอยู่กับคนที่ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกกุ๊ยอย่างฮันซอกแท ก็เพราะเขาได้อยู่กับคังแร เซดอล พวกพ้องที่เปรียบเสมือนพี่น้องแท้ๆ ถึงแม้ว่าความเป็นอยู่จะไม่ดีนัก เฉียดคุกมาก็หลายหน สำหรับจองอู ชีวิตอย่างนี้ยังดีกว่าที่เขาต้องออกไปอยู่อย่างโดดเดี่ยวและตายไปโดยลำพัง


?อย่าห่วงครับ? จองอูบอกพลางล้วงกระเป๋า ตั้งใจจะมอบเงินจากส่วนแบ่งเมื่อวานนี้ให้ แต่ไม่ทันจะได้ยื่นให้ก็ต้องหันไปสนใจมอเตอร์ไซค์เสียงแหลม แถมทำฝุ่นตลบอบอวลอย่างไร้ความเกรงใจ


คังแร หรือคนไม่เกรงใจในความเห็นของจองอูเอามือป้อมถอดหมวกกันน็อค แล้วเดินมาทางพวกเขาทั้งคู่ด้วยความเร็วดั่งพายุพร้อมเซดอลที่ซ้อนมาด้วย จากนั้นก็รีบพูดด้วยหน้าไร้สีเลือดกับเขา


?แย่แล้วจองอู ซอนยอง... ซอนยองถูกตำรวจจับ!?







ที่สถานีตำรวจ ระหว่างที่จองอูเดินเป็นหนูติดจั่น คังแรและเซดอลนั่งอยู่ตรงบันไดบริเวณประตูทางเข้าด้วยความกลุ้มใจ ผู้กองฮยอนคีซางเดินเร็วตามวิสัยเกือบจะผ่านพวกเขาไป กว่าจะสังเกตว่าพวกจองอูรออยู่ก็ตอนที่จองอูเร่งฝีเท้าไปดักหน้าเขาไว้


?มีอะไร? ผู้กองฮยอนถามอย่างรำคาญ เพราะต้องรีบเข้าไปทำคดีด่วนด้านใน


?ซอนยองครับ?


?จะให้ทำยังไง?


?ช่วยเราสักครั้ง? จองอูหัวเราะแหะๆ แต่ผู้กองฮยอนไม่ขำด้วย พลางยกเท้าเตะไล่


?ฉันช่วยแกมาเยอะแล้ว แกยังต้องการอะไรอีก?


?แต่...? คังแรเดินไปขวางผู้กองฮยอนเอาไว้ เขาเลยโดนแข้งหวดเข้าอีกคน


?ไปให้พ้นไง พวกแกนี่ยังไงนะ เฮ้อ!?


ผู้กองฮยอนมีคดีที่ต้องติดตามอีกหลายคดี และวันนี้ยังมีคดีใหม่ที่ต้องทำการสอบสวนผู้ต้องสงสัยโดยด่วน เท่านี้เขาก็หัวปั่นมากพออยู่แล้ว ทำไมเจ้าเด็กบ้าพวกนี้ไม่ยอมหยุดก่อเรื่องกันบ้างเลย ไม่รู้หรือว่าแค่งานในมือก็ทำให้เขาไม่มีเวลาจะกลับบ้านอยู่แล้ว


ตำรวจวัยกลางคนบ่นในใจพลางเก็บสีหน้าและอารมณ์ให้สงบนิ่งเมื่อไปถึงโต๊ะที่มีเจ้าหน้าที่กำลังไต่สวน เขาพยักพเยิดสีหน้าเข้มขรึมอยู่เป็นนิจให้ลูกน้องเพื่อบอกว่าเขารู้ว่าต้องทำอะไรเป็นอันดับแรกกับคดีนี้ ก่อนจะเหลือบไปเห็นหญิงสาวในชุดเสื้อยืดกับกางเกงยีนขาสั้น บนศีรษะมักมีหมวกมอซอสวมทับผมสั้นเท่าบ่าที่เจ้าตัวชอบมัดไว้หลวมๆ เป็นจุกชี้ๆ อยู่ด้านหลัง เขาจำเธอได้ และจำได้ดีด้วย


ผู้กองฮยอนเดินไปที่หน้าลูกกรงเหล็กและลอดสายตามองผ่านซี่ลูกกรงไปยังเธอคนนั้น บ่าตั้งลู่ลงเมื่อนึกถึงเจ้าทุกข์ที่แจ้งคดีลักทรัพย์... คดีที่ทำให้เขาต้องทิ้งงานข้างนอกกลับมาที่สถานีตำรวจโดยด่วนอย่างไม่รู้ล่วงหน้าว่าคนที่ถูกกล่าวหาในคดีอันมีหลักฐานชี้ชัดแท้จริงแล้วไม่ใช่คนอื่นคนไกลอะไร


?โธ่เอ๊ย นี่ฮันซอนยอง เธอเห็นฮันซอกแทกำลังจะออกมา เธอเลยจะเข้าไปอยู่ในนั้นแทนใช่ไหม? คีซางเอ่ยอย่างกลัดกลุ้ม








?ถ้าเขาออกมาก็นรกชัดๆ? คังแรบ่นดังๆ ระหว่างที่นั่งรอฮันซอกแทถูกปล่อยตัวอยู่หน้าเรือนจำ


จองอูไม่ได้พูดอะไรแต่มีแววกังวลอยู่บนหัวคิ้วเข้มอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่วันที่ซอนยองถูกจับและต้องนอนคุกอยู่สามวัน ถึงวันนี้เขายังไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาให้ซอนยองยังไงเมื่อผู้กองฮยอนบอกเขาว่า เขาหมดปัญญาที่จะช่วยซอนยองให้พ้นโทษ เพราะอีกฝ่ายมีพยานบุคคลเป็นหลักฐานสำคัญที่มัดตัวซอนยองเอาไว้แน่น และจะบอกฮันซอกแทที่กำลังจะออกมาจากเรือนจำยังไงว่าน้องสาวของเขาติดคุก ทั้งที่เขารับปากฮันซอกแทเอาไว้ว่าจะดูแลเธอให้ดีระหว่างที่ซอกแทต้องโทษอยู่


เซดอลลุกพรวดขึ้นปัดกางเกงเมื่อเห็นร่างสูงตระหง่านเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อกำยำเดินออกมาพร้อมกับผู้คุม คังแรเดินตามเซดอลไป จากนั้นเขาก็ค้อมศีรษะลงเล็กน้อยพร้อมกับส่งก้อนเต้าหู้ให้*


?หวัดดีลูกพี่ นี่ทำจากถั่วเหลืองแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ?


คนที่ออกมาจากคุกจะดูเลวอย่างร้ายกาจเหมือนฮันซอกแททุกคนไหมนะ... จองอูถามในใจพลางเตรียมตัวรับชะตากรรม เมื่อซอกแทกวาดตามองไปที่พวกเขาจนครบแต่ไม่มีคนที่เจ้าตัวมองหา


?ซอนยองล่ะ?


ความเงียบเข้าครอบงำอึดใจก่อนที่จองอูจะเป็นคนเอ่ยบอกว่าเธออยู่ที่ไหน และผลที่ได้ก็คือฮันซอกแทลากพวกเขาไปที่ท่าเรือเก่าแล้วจับพวกเขาอัดเรียงตัว ทว่าจองอูยอมให้มือหยาบซัดเขาแค่สองหมัด ก่อนจะสั่งด้วยริมฝีปากที่มีเลือดไหลซิบ


?หยุดสักที?


ฮันซอกแทไม่สนใจ เขาง้างหมัดแต่ต่อยไม่โดนที่หมายเมื่อมือที่มีกำลังไม่ต่างกันผลักเข้าที่อกจนเซถอยหลัง ซอกแทมองหน้าจองอูด้วยความโกรธแล้วกระชากคอเสื้อชายหนุ่ม


เป็นอีกครั้งที่จองอูไม่ยอมให้ตัวเองโดนกระทำ เขายกมือรับกำปั้นโตด้วยการจับเข้าที่แขนของซอกแทด้วยแรงที่อาจทำให้ข้อมือนั้นมีรอยห้อเลือดไปเป็นวัน


?เรื่องซอนยองทีไรพี่มักไม่มีเหตุผลตลอดเลย ฉันทำเท่าที่ทำได้ ฉันตามดูแลเธอตลอดไม่ได้ ฉันทำอะไรผิด!?


ประกายวูบไหวพร้อมสู้ตายในนัยน์ตาของจองอูทำให้ซอกแทหันไปกวาดเอาลังไม้และซากข้าวของที่เรียกว่าขยะ อย่างเช่นพวกกล่องโฟม วิทยุเก่าๆ ที่ไม่ใช้แล้วลงทะเลแทน ระหว่างที่ฮันซอกแทกำลังเพิ่มปฏิกูลให้สิ่งแวดล้อมชิ้นแล้วชิ้นเล่า โจชีกุกที่เดินมาแถวนั้นพอดีเห็นว่าซอกแทออกจากคุกแล้วก็เข้ามาทัก ก่อนจะสังเกตว่าสถานการณ์ระหว่างคนทั้งสี่ไม่ปกติ


?ไม่เจอกันนานนะ?


ซอกแทรีบเดินไปหาชีกุก จากนั้นก็เอ่ยปากขอร้อง


?ซอนยองถูกจับไป พี่ไปคุยกับผู้กองให้หน่อยได้ไหม?


ชีกุกถอนใจหนักๆ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนกว้างขวาง รู้จักเส้นสายในสถานีตำรวจและสนิทกับภรรยาของผู้กองฮยอนเป็นพิเศษเพราะเธอกับเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เลยทำให้เขามีโอกาสสนิทสนมในระดับหนึ่งกับผู้กองฮยอนไปด้วย แต่ทั้งหมดนั่นก็ไม่ได้ทำให้ชีกุกลำพองตัวว่าเป็นผู้วิเศษ สามารถจัดการทุกอย่างได้ด้วยมือทั้งสองข้างของเขา และเรื่องของซอนยอง พอรู้ข่าวว่าซอนยองถูกจับ เขาก็ไม่ได้อยู่เฉย เขาหาทางช่วยเหลือก่อนที่ใครจะเอ่ยปากด้วยซ้ำ ซึ่งเขาได้รับการยืนยันจากผู้กองฮยอนมาแล้วว่าครั้งนี้ต่อให้ผู้กองฮยอนออกหน้าก็ยากที่จะช่วยซอนยองได้


?นี่ ให้ไปคุยอีกกี่รอบก็ไม่มีประโยชน์หรอก ทางโน้นน่ะเขามีหลักฐาน? ชีกุกบอกเสียงดัง ?ตอนนี้ทำได้แค่จ้างทนายเท่านั้นแหละ? พูดจบก็ปรายตาไปยังพวกจองอูอย่างพอที่จะเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย สภาพเละเทะที่เห็นนั้นคงมีสาเหตุมาจากเรื่องซอนยอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ซอนยองทำตัวเอง ไม่เกี่ยวกับพวกจองอูแม้แต่น้อย


?ไอ้พวกโง่มัวทำอะไรกันอยู่ ลุกขึ้น ลุกขึ้นสิ? ชีกุกพูดพร้อมดึงแขนคังแร เซดอล ให้เลิกนั่งคุกเข่าที่ดูแล้วน่าสมเพช ก่อนจะหันไปพูดเอาใจซอกแทให้หายอารมณ์เสีย


?แกเพิ่งจะออกมา ฉันว่าอย่าเพิ่งคุยเรื่องนี้กันเลย ว่าไหม? ไปเถอะ ไปเถอะ เป็นไง เดี๋ยวนี้คุกไม่แย่นักใช่ไหม?


?อยากรู้เหรอ ก็ลองเข้าไปสิ? ซอกแทย้อนอย่างขุ่นๆ ชีกุกเลยได้แต่ยิ้มแหยๆ รีบพาซอกแทไปที่อื่นก่อนที่เจ้าตัวจะเปลี่ยนใจกลับไปอัดพวกจองอูต่อ คล้อยหลังฮันซอกแทกับโจชีกุกไปแล้ว คังแรกับเซดอลตั้งวงกินเหล้าระบายความอัดอั้นที่มีอยู่ให้จองอูฟัง


?ฉันทนไม่ไหวแล้ว จะอยู่แบบนี้ไปอีกนานไหม ให้อยู่กับคนขี้คุกเนี่ยนะ? เซดอลโวย


?มาจบเรื่องนี้กันเถอะ? คังแรทุบโต๊ะเสียงดังสนั่นด้วยความคับแค้นใจ ก่อนคว้าโซจูทั้งขวดขึ้นดื่ม


?บ้าจริง? จองอูเคี้ยวฟัน ความคับแค้นใจของทั้งคู่เขารู้อยู่แก่ใจดี...


บางทีนี่อาจจะถึงเวลาแล้วจริงๆ ที่พวกเขาต้องยืนอยู่ด้วยขาของตัวเอง จองอูคิดเท่านั้น อีกใจหนึ่งก็ถีบตัวค้านขึ้นมาดังๆ ว่า เขาจะไปรอดหรือ ยิ่งเป็นเด็กกำพร้า การศึกษารึก็ไม่ได้สูงส่ง เส้นทางชีวิตที่ออกมาจากฮันซอกแทก็คงไม่ได้สวยงามกว่าที่เป็นอยู่ สุดท้าย...ก็คงจบที่เรือนจำ ไม่ต่างจากฮันซอกแทที่โดนมาแล้วหมาดๆ


ความคิดหลังทำให้คอหอยของเขาตีบตันจนไม่อาจทนนั่งรอให้ความรู้สึกอัดอั้นทะลักออกมาเป็นน้ำใสๆ รินจากตาของเขา โดยเฉพาะต่อหน้าเพื่อนทั้งสองที่นับถือเขาทั้งใจ จองอูลุกพรวดขึ้นทันที


?จะไปไหน?


?สูดอากาศ? จองอูตอบเท่านั้นแล้วไปยังชายหาด เขาทอดน่องเพลินไปเกือบถึงท่าเรือ และนั่งเหยียดยาวลงพลางสังเกตว่าในทะเลมีเรือหลายลำเปิดไฟส่องสว่างไปทั่ว พร้อมกับเสียงตะโกนก่นด่า


?พวกเขาทำอะไรกัน? ชายหนุ่มถามด้วยความใคร่รู้


?สงสัยกำลังประท้วง? คนที่ดูสถานการณ์อยู่ก่อนตอบ


?อะไรนะ ประท้วงเหรอ ประท้วงเรื่องอะไรกัน?


?ไม่รู้สิ?


ฟังแค่นั้นจองอูก็หันกลับไปมองภาพม็อบอย่างเฉยเมย ก่อนจะหันหลังกลับไปหาเซดอลกับคังแรที่ร้านเหล้า โดยไม่คิดว่าเรื่องของคนงานพวกนั้นจะมาเกี่ยวข้องกับเขาในเช้าวันต่อมา








คังแรทำหน้าที่เป็นพ่อครัวโดยมีเซดอลเตรียมจานให้อยู่แถวนั้น ส่วนจองอูช่วยเตรียมโต๊ะซึ่งเสร็จพอดีกับซอกแทที่เพิ่งลืมตาตื่นและลงมาร่วมโต๊ะกับพวกเขาราวกับเมื่อวานนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น


?เป็นไงบ้าง? ซอกแทเอ่ยปากถามในมาดลูกพี่


?ก็ดี? จองอูตอบด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ


?พวกแกมีเงินกันรึเปล่า พี่ชีกุกบอกว่าเราควรจะจ้างทนายความดีๆ สักคน?


คังแรทอดถอนใจ ขณะที่เซดอลขมวดคิ้วแล้วตอบแกนๆ


?ลูกพี่ก็รู้ไม่ใช่เหรอ เราให้เงินพี่กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนเราแทบไม่มีกินกันอยู่แล้ว?


?ก็ดี? ซอกแทตอบไปอย่างงั้นๆ จากนั้นก็รีบกินข้าวเพิ่มกำลังก่อนจะออกไปหางานทำพร้อมกับหาทางช่วยซอนยอง ตอนที่ออกจากบ้านนั่นเอง จู่ๆ ก็มีคนรู้จักที่ซอกแทไม่อยากพบมาหาเขา


?ไงฮันซอกแท ไอ้เพื่อนรัก ออกมาแล้วก็น่าจะบอกกันบ้างจะได้มาหา โทษทีนะที่ไม่ได้ไปเยี่ยมเลย?


ชินกียกมือขึ้นพาดไหล่ ซอกแทรีบปัดออกด้วยสีหน้ามึนตึง


?อย่าเว่อร์หน่อยเลย เราไม่ได้สนิทกัน?


?เฮ้ย พูดมาได้ยังไงวะ เสียความรู้สึกชะมัด? ชินกีหน้ามุ่ย ซอกแทจึงถามว่ามีอะไรด้วยความรำคาญ ซึ่งก็ทำให้ชินกียิ้มร่า ?มีคนอยากจะพบนาย ถ้ามันเวิร์ค นายก็รวยเละ?


ชินกี ชายรุ่นราวคราวเดียวกันกับซอกแทคนนี้เป็นพวกจัดหาคนทำงานสกปรกให้กับเจ้านายอีกทอดหนึ่ง เมื่อได้ยินว่ามีคนอยากพบ ซอกแทก็รู้ทันทีว่ามันเป็นงานเสี่ยงคุก ไม่ก็เสี่ยงตาย เขาไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ในคุกอีกแล้ว


ซอกแทตั้งใจจะปฏิเสธ ทว่าคนที่อยากพบเขาก้าวออกมาจากรถสีดำสุดหรู ซึ่งเมื่อเขามาเผชิญหน้ากับซอกแท จองอูและเซดอลจำได้ทันทีว่าชายคนนี้คือคนสนิทที่ทำงานรับใช้เศรษฐีที่มีนัยน์ตาโหดร้าย ผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์หรูหราที่สุดในเกาะเชจู


?คนนี้ไงครับ ฮันซอกแท? ชินกีแนะนำ


?ฉันมีงานอยากให้นายทำ? ซิลจางเอ่ยปากพลางเหลือบไปมองจองอูกับเซดอลอย่างจำได้เช่นกัน


?งานอะไรล่ะ? ซอกแทถาม


?ไม่มีอะไรมากหรอก แค่คนประท้วงที่ท่าเรือ แค่ให้หัวหน้าพวกมันประทับตราให้ ว่าไง?


?ผมไม่สนใจ? ซอกแทปฏิเสธเสียงขรึม ชินกีเห็นท่าไม่ดีจึงพยายามจะตะล่อมให้ซอกแทรับงาน แต่ซอกแทผลักชินกีออกไปให้ห่าง


?ไม่เอาๆ ไม่ทำ ไป?


?นี่ซอกแท?


?ไปได้แล้ว อย่ามายุ่ง ไม่ว่าง?


เมื่อซอกแทยื่นกรานว่าจะไม่รับงาน ซิลจางก็ไม่คิดจะงอนง้อขอร้องให้เขาทำ เขาหมุนร่างเดินกลับไปที่รถและสั่งให้คนขับรถขับรถกลับทันที


?ว้า! น่าขายหน้าชะมัดเลย นี่ เป็นอะไรไป? ชินกีถามซอกแทอย่างไม่เข้าใจ


?ฉันไม่ทำงานแบบนั้นอีกแล้ว? ตอบหน้าตาย


?นี่ซอกแทที่เรารู้จักตายแล้ว ตายไปแล้ว?

?วอนเหรอ ไปได้แล้ว?


?เฮ้ย! โธ่เอ๊ย!? ชินกีเดินกระแทกเท้ากลับไปอย่างหัวเสีย ซึ่งซอกแทไม่ใส่ใจเขาแม้แต่น้อย เขาหันมาบอกกับทั้งสาม


?ฉันจะเข้าเมือง...จะไปหางาน แล้วก็...จะลองไปหาทนายดู?


คล้อยหลังซอกแทเดินออกไปจากบ้าน จองอูรีบวิ่งไปที่มอเตอร์ไซค์แล้วบึ่งตามรถของซิลจางจนทัน และขอทำงานที่ว่านั่นแทนซอกแท จากนั้นเขาก็กลับมาที่บ้านและเล่าเรื่องที่เขาตามไปขอทำงานกับซิลจางให้คังแรและเซดอลฟัง


?จะบ้ารึเปล่า ถ้าพี่ซอกแทรู้เรื่องล่ะ? คังแรค้าน


?อะไรของแก แกจะบ้ารึเปล่าเนี่ย ก็เขาไม่ทำเองนี่นา? เซดอลเห็นด้วยกับจองอูเต็มที่


?ตอนนี้เราต้องการเงินไปจ้างทนาย ขืนรองานเข้ามาเองก็คงหาไม่ทัน? จองอูบอกเหตุผล ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้คังแรเลิกค้านและร่วมมือกับจองอูเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่ามันจะเป็นงานสกปรกก็ตาม







ไม่กี่วันต่อมาคังซูก็ได้รับข่าวร้ายว่าการปล่อยข่าวเพื่อให้คนงานไปขัดขวางการซื้อขายที่แพคซองรีของมินโฮนั้นล้มเหลว ตอนนี้ทางหัวหน้าคนงานทั้ง 58 คนได้เซ็นยินยอมให้มินโฮจัดการทุกอย่างได้ตามแต่ใจ ทำให้คังซูโมโหจัด คิดแผนการใหม่ขึ้น ขณะที่คนที่จัดการเรื่องยากๆ ให้เป็นเรื่องง่ายให้มินโฮกำลังฉลองกันอยู่ในคาราโอเกะพร้อมกับสาวสวยที่มาให้บริการกันอย่างถึงใจ ทว่างานเลี้ยงฉลองของพวกเขาก็จบลงอย่างรวดเร็วเมื่อซอกแทรู้ข่าวจากชินกีว่าเด็กในคอนโทรลแอบไปรับงานลับหลังเขา ซอกแทตามมาเอาเรื่องพวกจองอูถึงที่


?พวกแกทำอะไรไป ไอ้พวกโง่? พูดจบก็กระโดดขึ้นโต๊ะ แล้วกระชากคอเสื้อของจองอูที่นั่งมองหน้าเขาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวให้สบตา


?อย่าทำขายหน้าน่า พูดความจริงมาดีกว่า? จองอูว่าใส่หน้าซอกแท ทำเอาคนฟังหรี่ตามองอย่างเอาเรื่อง


?อะไรนะ?


?ค่าทนายของซอนยอง ต้องการมันไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่อยากแปดเปื้อนพวกเราก็จะทำกันเอง ฮึ ไม่ว่าพี่จะกลัวว่าตัวเองต้องกลับเข้าคุกหรือว่าเพิ่งจะนึกรักชีวิตขึ้นมาก็พูดความจริงมาดีกว่า จะได้ไม่น่าสมเพชอย่างที่เป็นอยู่?


ชายหนุ่มรุ่นน้องพูดด้วยแววตาเหยียดหยามระคนเสียใจในตัวลูกพี่อย่างสุดซึ้ง ก่อนจะดึงมือหยาบกระด้างออกจากสาบเสื้อ จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป พร้อมกับสั่งให้เพื่อนทั้งสองตามเขาออกมาอย่างห้าวหาญ... คิมจองอูเดินข้ามเส้นมาแล้ว และเขาจะไม่หันกลับไปเป็นลูกน้องคนรักตัวกลัวตายอย่างนั้นอีก


ขณะที่จองอูเดินจากไปโดยไม่เหลียวหลังพร้อมกับสัญญากับตัวเองอยู่ในใจ ซอกแทที่ไม่อาจโต้เถียงความจริงที่จี้ใจดำตัวเองได้ก็ได้แต่หน้าชาและทิ้งตัวลงนั่งอย่างเจ็บใจ ใช่... เขากลัว เขายอมขายหน้าลูกน้องดีกว่าต้องกลับไปอยู่ในนั้น


มันผิดมากใช่ไหมที่เขาไม่อยากตกนรกทั้งเป็นอีกแล้ว!





ที่คฤหาสน์ ชายภูมิฐานในชุดสูทราคาแพงทอดสายตามองไปยังพื้นที่เวิ้งว้างกว้างไกลอย่างสุดลูกหูลูกตา อันเป็นอาณาจักรที่นับวันจะยิ่งใหญ่โตภายใต้การครอบครองของเขาด้วยแววตาเด็ดเดี่ยว ที่ทะเล แสงที่เคยเห็นจากเรือเมื่อหลายวันก่อนดับลงเหลือเพียงทะเลอันว่างเปล่า เขารู้แล้วว่างานที่สั่งให้ซิลจางทำนั้นสำเร็จลุล่วงก่อนซิลจางจะตบเท้าเข้าห้องมารายงานเขา


?ดีมาก? มินโฮเอ่ยปากชม


?ต้องการพบคนที่จัดการเรื่องนี้ไหมครับ?


?ตอบแทนเขาไปแล้วยุติ?


ซิลจางค้อมศีรษะรับคำสั่งเจ้านายและถอยร่างออกจากห้องไป ขณะที่มินโฮยังคงทอดสายตามองตรงไปข้างหน้าอย่างพึงพอใจยิ่งยวด เพราะดูเหมือนว่าอุปสรรคที่จะมาขวางเส้นทางสร้างอาณาจักรของเขาที่เกาะเชจูจะลดน้อยลงทุกที... ทุกที...


ความย่ามใจทำให้มินโฮย่อหย่อนเรื่องความปลอดภัย ด้วยเหตุนั้น ระหว่างทางที่มินโฮไปทำงานจึงถูกคนร้ายพยายามจะลักพาตัวไป โชคดีที่ตอนนั้นจองอูขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจไปรับค่าจ้างจากซิลจางมาพบเข้า เขาตัดสินใจเสี่ยงเข้าไปช่วยมินโฮเอาไว้จากอันตรายในครั้งนี้ การตัดสินใจอันบ้าระห่ำของจองอูถูกใจมินโฮมาก เขาสั่งให้ซิลจางพาจองอูเข้ามาพบเขา


คล้อยหลังซิลจางไปจัดการตามคำสั่ง มินโฮทอดฝีเท้าเดินเรื่อยเอื่อยไปในสวน ที่นั่นเขาได้พบกับหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งกำลังเดินด้วยฝีเท้าสม่ำเสมอด้วยดวงตาที่มีน้ำใสๆ คลออยู่ระยิบระยับ หญิงสาวรุ่นลูกคนนั้นสังเกตเห็นเขา เธอเชิดหน้าขึ้น น้ำตาคลอหน่วยเหือดหายไปราวกับเสก ก่อนจะหมุนตัวเดินหนี


?เดี๋ยวก่อน? มินโฮหรี่ตามองเด็กสาวที่หันกลับมา ?เธอเป็นใคร เข้ามาในบ้านคนอื่นทำไม?


เธอคนนั้นตอบมินโฮด้วยการค้อมศีรษะลงเล็กน้อยก่อนหันหลังกลับแล้วเดินเร็วๆ จากไป มินโฮขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจ... ทำไมช่วงนี้ถึงมีคนแปลกหน้าเข้ามาในคฤหาสน์บ่อยนัก ทั้งที่ไม่มีป้ายบอกว่าที่นี่คือพิพิธภัณฑ์หรือลานจัดแสดงโชว์อะไรเสียหน่อย... พิลึกจริง








จองอูตัดสินใจมาทำงานที่โซลหลังจากที่เข้าพบจางมินโฮที่คฤหาสน์แล้วมินโฮยื่นงานผู้ติดตามจางแทฮยอกผู้เป็นลูกชายที่กำลังศึกษาอยู่ให้แก่เขา ทีแรกจองอูยังลังเลที่จะรับงานนี้ แต่ซิลจางก็ยื่นข้อเสนอว่าจะมอบงานให้คังแรกับเซดอล ให้ทั้งสองอยู่ดีกินดี ราวกับรู้ความกังวลอยู่ในใจเขา เขาจึงตัดสินใจตอบตกลง และมายืนอยู่ที่หน้าไนต์คลับแห่งหนึ่งซึ่งรู้จากซิลจางว่าแทฮยอกมักจะมาเล่นดนตรีกับเพื่อนๆ ไฮโซที่นี่ทุกคืนวันเสาร์


จางแทฮยอกช่างเป็นเด็กหนุ่มเจ้าสำอาง เอาแต่ใจ ดูรั้นอย่างร้ายกาจ และคงใช้ชีวิตฟู่ฟ่าฟุ้งเฟ้อมาทั้งชีวิตโดยที่เจ้าตัวไม่ต้องสนใจอะไรนอกจากตัวเอง จองอูสรุปหลังจากเห็นเขาสนุกสุดเหวี่ยงอยู่บนเวทีและจูบดูดดื่มกับสาวสวยหลังการแสดงจบอย่างไม่สนใจสายตาใคร

เขารอจังหวะที่แทฮยอกอยู่คนเดียวก่อนแล้วค่อยปรากฏตัวต่อหน้า


แทฮยอกเลิกคิ้วมอง ดูจากการแต่งตัวที่ซอมซ่อของชายแปลกหน้า เขาคิดว่าคนตรงหน้าคงเป็นพวกกุ๊ยข้างถนนหรือไม่ก็พวกรีดไถ แทฮยอกยกมุมปากขึ้น... บางทีเจ้านี่อาจจะเป็นพวกหน้าใหม่ที่ไม่รู้ว่าเขามีอิทธิพลถึงขนาดสั่งเก็บได้ในวันรุ่งขึ้น


?ถอยไป? แทฮยอกสั่ง แต่จองอูยืนนิ่งสบตาแทฮยอกอย่างประเมิน


?นายคงไม่รู้สินะว่ากำลังเล่นกับอะไร ถอยไปดีกว่าน่า ฉันไม่อยากให้นายต้องเจ็บตัว? พูดจบก็เบี่ยงตัวเดินหนี ทว่ามือหยาบกร้านของอีกฝ่ายรั้งเขาเอาไว้ตรงแขนสะอาดสะอ้านแม้จะชุ่มไปด้วยเหงื่อ


แทฮยอกช้อนตาเอาเรื่อง จองอูกลับยิ้ม นึกขำชะตาชีวิตตัวเองที่ต้องมาเป็นสุนัขรับใช้เด็กเอาแต่ใจอย่างจางแทฮยอก


?ฉัน...คิมจองอู... มาจากเชจู?


แทฮยอกสะบัดแขนออกมายืนตั้งหลัก


?ฉันไม่รู้ว่านายเกี่ยวกับก็อทแนอูนยังไง แต่อย่ามายุ่งกับฉันดีกว่า ถ้านายเกี่ยวข้องกับเขา คงรู้นะว่าจะเป็นยังไง?


จองอูไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูด ?อะไรของคุณ?


?พวกนักเลงหรือกุ๊ยไง?


ฟังแทฮยอกตัดสินเขาตั้งแรกพบว่าเป็นคนจำพวกนั้นแล้วจองอูก็หัวเราะออกมา


?งานฉันคืออยู่กับนาย และจะทำตามที่ได้รับมอบหมายมานับตั้งแต่วินาทีนี้?



---------
ความดุเดือดของเรื่องไม่ใช่เพียงแค่นี้ แต่มันจะเข้มข้นเรื่อยๆ จนถึงตัวหนังสือตัวสุดท้ายบนหน้ากระดาษ เรื่องราวจะเข้มข้น เฉือนคมกันแค่ไหน ติดตามกันได้ในรูปแบบหนังสือที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปค่ะ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”