New Release : Buddy's Beloved หยุดชะงัก เมื่อเจอรักโดนใจ

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1073
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : Buddy's Beloved หยุดชะงัก เมื่อเจอรักโดนใจ

โพสต์ โดย Gals »

เรื่องย่อ
อยู่ในแก๊งเจ้าหญิงทั้งห้าผู้โด่งดังอยู่ดีๆ สาวแกร่งอย่างลูกกวาดกลับโดนใบสั่งจากผอ.ให้ต้องไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่โรงเรียนเก่า สถานที่ที่มีอดีตอันขมขื่นของเธอที่เคยอ่อนแอ ให้ตายยังไงเธอก็ไม่ไป! แต่เพราะโดนข่มขู่ว่าเพื่อนจอมเอ๋อจะถูกส่งไปแทน คนรักเพื่อนอย่างเธอถึงต้องลุยเอง โดยมีนายโมบายที่แสนอ่อนแอติดตามไปด้วย ได้ข่าวว่าหมอนั่นถูกส่งมาให้ดูแลเธอไม่ใช่เหรอ ไหงต้องกลายเป็นเธอที่คอยปกป้องหมอนั่นกันล่ะเนี่ย แล้วยังต้องคอยรับมือเดมอส...คนที่เคยทำให้หัวใจของเธอบอบช้ำอีก ศึกหนักสองด้านขนาดนี้ คนสวยล่ะเซ็ง!







บทนำ





?ฮึกๆ ลูกกวาดดดดดด!!~ ทำไมต้องเป็นแก ทำไมพระเจ้าจึงต้องเลือกแกด้วยนะ ทำม้ายยยย~? TT-TT


?ฮืออ~ ไปดีมาดีเถอะนะเพื่อนเกลอ ถึงตัวแกจะไป แต่ความทรงจำของแกยังตราตรึงอยู่ในซอกเล็บนิ้วมือนิ้วเท้าของพวกเราทุกคนเสมอ!! อะ...ฮือออ~?


?พวกเราทุกคนจะคิดถึงเธอนะลูกกวาด เพราะฉะนั้นจงอย่ามีห่วงอีกเลย ตัดอกตัดใจซะเถอะนะเพื่อน?


?ขอประธานโทษที่ต้องขัดจังหวะนาทีที่โศกเศร้าของพวกแกๆๆ ทั้งหลายนะ แต่เผอิญว่าฉันยังไม่ตายโว้ยยย!! ยัยพวกบ้า >[]<? ฉันตะโกนดังลั่นจนผู้คนมากมายที่ยืนรายล้อมพวกเราทั้งห้าถึงกับต้องก้าวถอยหนีอย่างรู้งานว่าในอีกไม่ช้านี้โลกคงได้แตกเพราะเสียงแหกปากของฉันเป็นแน่


รายงานเหตุด่วนเหตุร้าย ณ ขณะนี้ ฉันกำลังยืนอยู่กับสมาชิกแก๊งอีกสี่คนที่บริเวณหน้าโรงเรียนพร้อมกับประชากรทุกคนที่กำลังยืนโบกไม้โบกมือลากันอย่างอลหม่าน เบื้องหน้ามีรถบัสคันโตจอดเทียบท่ารอคอยการขึ้นไปนั่งของฉันกับใครอีกคนอยู่


อย่างที่บอกไปนั่นแหละค่ะ!! ว่าฉันยังไม่ได้ตาย แล้วก็ไม่ได้กำลังจะไปตายด้วย แต่ที่เพื่อนซี้ทั้งสี่ เอ๊ะ! ไม่สิ ตัดยัยอมยิ้มที่ได้แต่ยืนเงียบอยู่ออกไปก็เหลือสาม พวกมันสามตัวต่างก็พากันยืนร้องห่มร้องไห้ราวกับญาติเสียเมื่อรู้ว่าฉันคือหนึ่งในสองของผู้โชคดีได้ตั๋วเที่ยวเดียวบินคู่ไปแดนนรก (มันก็แค่คำเปรียบเทียบน่ะ - -)


ทุกคนอาจจะกำลังสงสัย ว่า ?โชคดี? ที่ว่านั้นมันหมายถึงอะไร


แต่ว่าจะให้ย้อนกลับไปเล่าเราคงจะต้องปูเสื่อล้อมวงกันเชียวล่ะ อยากรู้แล้วใช่มั้ยล่ะ งั้นเขยิบหูเข้ามาใกล้ๆ สิคะ ฉันจะเล่าให้ฟัง!!








1




?นี่มันหมายความว่ายังไงค่ะท่าน ผอ.?


หญิงสาวร่างบางเจ้าของเรือนผมสีทองตะโกนลั่นห้องสี่เหลี่ยมสุดหรูซึ่งถูกเรียกด้วยชื่อ ?ห้องปราบมาร? ห้องนี้ที่ใครๆ ก็ต่างหวาดผวาไม่อยากจะย่างกรายเข้ามาเป็นที่สุด แต่ร่างบางกลับเดินเข้าเดินออกเป็นว่าเล่น ราวกับมันคือห้องน้ำหญิงก็ไม่ปาน


นัยน์ตาสีเขียวมรกตจับจ้องไปยังร่างสูงเพรียวลมของหญิงชราดูมีอายุตรงหน้าอย่างไม่ลดละเพื่อรอคอยคำตอบของคำถามที่ลั่นวาจาออกไปเมื่อครู่อย่างใจจดใจจ่อ


?ใจเย็นๆ ก่อนสิคุณลูกกวาด ป้าว่าเรานั่งลงแล้วค่อยๆ คุยกันไปดีกว่านะหลานรัก?


?นี่มันไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะคะคุณป้า!! ป้าก็รู้ว่าหนูเกลียดไอ้โรงเรียนเส็งเคร็งนั่นยิ่งกว่าอะไรดี แต่นี่ป้ายังจะให้หนู...?


?ใจเย็นๆ ก่อนสิหลานรัก ที่ป้าทำไปทั้งหมดนั่นป้ามีเหตุผลอยู่นะ?


?เหตุผลอะไรคะ ไหนลองบอกหนูมาซิว่าเหตุผลของป้ามันยิ่งใหญ่มากแค่ไหนกันเชียว >O<? ฉันพูดด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว สายตาจับจ้องไปยังป้าบังเกิดเกล้าซึ่งเป็นญาติที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวอย่างเอาเรื่อง


เห็นร้ายๆ แบบนี้ ความจริงแล้วฉันน่ะ...ก็ร้ายจริงๆ นั่นแหละค่ะ ^^?


ฉันมีเพื่อนสนิทที่ไม่ว่าจะใช้เงินสักกี่ล้านก็ไม่สามารถซื้อได้อยู่สี่คนด้วยกัน รวมฉันไปก็กลายเป็นห้าสาวสุดสวย เราทั้งห้าเป็นผู้ปกป้องโรงเรียนแห่งนี้ภายใต้ชื่อแก๊งอันสวยหรูว่า ?เจ้าหญิงทั้งห้า?


ฉันอยู่ในแก๊งตำแหน่ง ?สายลมแห่งโชคชะตา? เพื่อนสนิทที่สุดในแก๊งก็จะเป็นทอฟฟี่กับยัยโอเล่จอมเซ่อ ส่วนยัยอมยิ้มกับลูกอมนั้นก็สนิทนะคะ (แต่ว่าสนิทแบบห่างๆ น่ะ) พวกมันสองคนเป็นเหมือนเส้นขนานที่แตกต่างกันมากมาย


คนหนึ่งก็พูดมากจนลิงหลับ


ส่วนอีกหนึ่ง...พูดแต่ละทีไม่มีเกินสามพยางค์ หรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ยากเกินจะเข้าใจ


จนถึงทุกวันนี้ฉันเองก็ยังแปลกใจไม่หายว่าพวกมันสองคนทำอีท่าไหนถึงมาเป็นเพื่อนกันได้จนถึงทุกวันนี้ และอาจจะเป็นเพราะป้าของฉันเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน จึงเป็นเหตุทำให้ไม่มีใครกล้าแหย็มกับพวกฉันเท่าไหร่


แต่ในความคิดของฉันนะ...ฉันว่าถึงแม้ฉันจะมีป้าเป็นแม่ค้าขายส้มตำที่โรงอาหารก็คงไม่มีใครใจกล้าหน้าด้านเดินเข้ามาหาเรื่องฉันอยู่ดีนั่นแหละ อาจจะเป็นเพราะความโหด โฉด ชั่วที่ถูกถ่ายทอดมาจากยัยทอฟฟี่เพื่อนรักก็เป็นได้ ที่ทำให้คุณหนูผู้เคยเรียบร้อย ปอดแหกอย่างฉันกลับกลายมาเป็นหญิงเหล็กจนถึงปัจจุบัน จุ จุ อย่าไปบอกใครเรื่องนี้เชียวนะคะ นี่น่ะมันเป็นความลับของราชการ เพราะฉะนั้นห้ามแพร่งพรายให้คนนอกล่วงรู้โดยเด็ดขาด


เกิดพวกเหล่าศัตรูหรือลูกสมุนของฉันรู้เรื่องนี้เข้าล่ะก็...คงจะเสียฟอร์มแย่เลยล่ะ


?ว่ายังไงคะ!! เหตุผลของป้าคืออะไร? ฉันถามย้ำอีกครั้งเพราะกลัวผู้เป็นป้าจะเฉไฉไปเรื่องอื่นอีก ไอ้เรื่องที่ชอบเปลี่ยนแปลงความคิดคนอื่นนี่ต้องยกให้ป้าฉันคนเดียวเท่านั้น


?ก็ไม่มีอะไรนี่จ๊ะ ป้าก็แค่อยากจะให้เราลองเปลี่ยนบรรยากาศในการเรียนดูบ้าง และโครงการแลกเปลี่ยนนี้ทางโรงเรียนของเราก็จำเป็นจะต้องส่งตัวแทนไปเข้าร่วม มิฉะนั้นแล้วอาจจะเกิดปัญหาระหว่างโรงเรียนก็ได้?


?ถึงอย่างนั้นหนูก็ยังมองไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมคนที่ต้องไปเรียนแลกเปลี่ยนปัญญาอ่อนถึงกลายเป็นหนู!!?


ฉันตวาดดังลั่นอีกครั้งเป็นรอบที่ร้อยของวันด้วยอารมณ์เดือดจัด พร้อมทั้งลอบมองใบสั่งตายที่มีรายชื่อของฉันในมือตาไม่กะพริบ อยากจะหลับตาสักสองนาทีแล้วเสกให้ไอ้ใบสั่งตายบัดซบนี่หายไปจัง อยากให้มันเป็นแค่ฝันร้าย...ฝันร้ายที่ไม่ได้ฝันถึงมานานแรมปี


{โครงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ดีๆ ระหว่างโรงเรียนเซนต์เซรัน & เซนต์โคไซ}


ประสบการณ์ดีๆ อย่างนั้นเหรอ หึ!! ประสบการณ์สยองที่เมื่อใครสักคนเผลอตัวปล่อยใจย่างกรายเข้าไปแล้วจะต้องพบเจอกับสิ่งที่โหดร้ายน่ะสิไม่ว่า ฉันเคยทิ้งหยดน้ำตาเอาไว้มากมายที่นั่น ความเจ็บปวดในใจที่ไม่เคยมีผู้ใดล่วงรู้มาก่อนในชีวิตล้วนอยู่ที่นั่นทั้งหมด!!


นี่ฉันเองก็เกือบๆ จะลืมไปแล้วนะว่าความทรงจำครั้งล่าสุดเมื่อตอนยังอยู่ที่นั่นมันเป็นยังไงบ้าง เกือบจะหลงลืมไปแล้วจริงๆ


?เถอะนะลูกกวาด ถือซะว่าช่วยป้าสักครั้งไม่ได้เหรอ?


?.....?


?โครงการนี้มันจำเป็นต่อโรงเรียนของเราจริงๆ แล้วที่สำคัญ นอกจากพวกหลานห้าคนแล้วนั้น...ป้าไม่ไว้ใจใคร T^T!!?


?แล้วทำไมป้าไปลองไปขอร้องยัยทอฟฟี่ดูล่ะคะ ยัยนั่นน่ะชอบเที่ยวนอกสถานที่จะตายไป ต้องรับข้อเสนอของป้าแหงๆ?


ฉันโต้กลับทันทีที่นึกถึงเพื่อนสนิทอันเป็นที่รักอย่างยัยทอฟฟี่ขึ้นมาได้ ยัยนั่นต้องยอมไปแน่ๆ ถ้ารู้ว่ามีอะไรรอคอยเจ้าหล่อนอยู่ ณ ที่แห่งนั้น ถึงจะดูว่าฉันเห็นแก่ตัวที่จะส่งเพื่อนรักไปตายก็เถอะ แต่อย่างน้อยๆ ถ้าส่งยัยทอฟฟี่ไปก็อาจจะมีสิทธิ์รอดกว่าคนไหนๆ เพราะถ้าเป็นยัยลูกอม ฉันเกรงว่ายัยนั่นจะทำให้คนที่โรงเรียนแห่งนั้นหูหนวกกันระนาว และถ้าเป็นยัยอมยิ้ม...ฉันเกรงว่ายัยนั่นจะถูกจับข้อหาฆ่าคนตายโดยใช้สายตาเป็นอาวุธ ไม่ได้ๆ ยังไงซะฉันก็ยอมให้เพื่อนรักไปเสี่ยงตาย (หรืออาจจะไปฆ่าใครตาย) ในที่แบบนั้นเป็นแน่ ไม่ได้เด็ดขาด!!


?ป้าลองไปขอร้องเธอแล้ว?


?แล้วไงคะ!!?


?เธอก็พูดเหมือนๆ กลับที่หลานพูดเมื่อกี้เปี๊ยบเลยล่ะ T-T?


?.....?


?ถ้าหลานไม่ช่วย...ป้าคงต้องไปขอร้องโอเล่จังซะแล้วล่ะ?


?ไม่ได้นะ!! ให้ยัยโอเล่ไปเสี่ยงอันตรายไม่ได้เด็ดขาด? ฉันโพล่งขึ้นอย่างเร่งด่วนเมื่อป้าพูดถึงชื่อยัยโอเล่ เพื่อนสาวสุดซื้อบื่อที่ริอ่านมีแฟนเป็นตัวเป็นตนไปก่อนใครเพื่อน


ขืนให้ยัยเซ่อโอเล่ไปเหยียบที่นั่นก็ไม่ต่างอะไรกับเอากับระเบิดมาวางแล้วให้ยัยนั่นมาเหยียบเล่นหรอก แถมตอนนี้ยัยโอเล่ก็ยังกำลังอินเลิฟอยู่ด้วย อย่าหวังเลยนะว่าไอ้หน้าอ่อนชีโร่จะปล่อยให้ไปน่ะ ยิ่งเดี๋ยวนี้ทำตัวติดกันเสมือนว่าเป็นฝาแฝด เห็นแล้วน่ารำคาญลูกตาชะมัด!


เฮ้อ~ ส่งให้ฉันไปออกรบยังจะน่ารื่นรมย์ใจกว่าอีก ==;;


?ป้ากำลังบังคับหนู -_-^?


?ปะ...เปล่านะจ๊ะ!! ป้าจะไปบังคับหนูได้ยังไง เพียงแต่ว่าโอเล่น่ะ...เขาค้างค่าเทอมมาหลายเดือนแล้ว ถ้าป้าลองเอาโครงงานนี้ไปเสนอเพื่อแลกกับค่าเทอมที่ค้างไว้ทั้งหมดล่ะก็...?


?ก็ได้!! หนูจะไปเรียนแลกเปลี่ยนที่โรงเรียนบัดซบนั่นเอง พอใจป้ารึยังเล่า >[]<!!?


สิ้นประโยคทรมานใจที่ต้องพูดออกไปของฉัน รอยยิ้มเล็กๆ ของผู้เป็นป้าก็ปรากฏขึ้น และก่อนที่ฉันจะทันได้เดินกระทืบเท้าออกไปจากห้อง ประโยคหนึ่งก็ดังขึ้นตามหลัง...


?ไม่ต้องกลัวว่าจะเหงานะจ๊ะ เพราะว่าป้าได้เตรียมองครักษ์เอาไว้ให้หลานแล้ว ^^??









2




เรื่องทั้งหมดมันก็เป็นอย่างที่ฉันรีเพลย์ให้ทุกคนได้รับทราบกันถ้วนหน้านั่นแหละค่ะ เพราะความที่เป็นหญิงงามมีจิตใจที่แสนจะโอบอ้อมอารีราวกับนางฟ้าตกสวรรค์ลงมาโปรดสัตว์ต่อมวลมนุษยชาติ สงสารเพื่อนร่วมแก๊งไม่อยากให้มันต้องไปเจอกับสิ่งเลวร้ายที่ฉันเคยเจอมา ฉันก็เลยต้องจำใจไปเรียนแลกเปลี่ยนเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม - -+ นรกชัดๆ เลยนะนั่นน่ะ


?ฮึกๆ ลูกกวาด ไปอยู่ที่นั่นอย่าลืมคิดถึงพวกเราที่อยู่ที่นี่บ้างนะ ฮืออ~? ยัยโอเล่ว่าพร้อมทั้งเอามือปาดน้ำตาอย่างลวกๆ


ทุกคนคงจะเข้าใจแล้วใช่มั้ยคะ...ว่าทำไมฉันถึงไม่อยากให้ยัยขี้แยนี่ไปน่ะ กะอีแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ยัยนี่ก็ท่อประปาแตกแล้ว ขืนไปอยู่ที่นั่นมีหวังร้องไห้จนน้ำท่วมโลกแหงๆ ฉันยังไม่อยากตายเพราะน้ำตายัยบ้านี่หรอกนะ


?รู้แล้วล่ะน่า แกเองก็ดูแลตัวเองให้ดีๆ ล่ะ ช่วงที่ฉันไม่อยู่ก็สวดมนต์ไหว้พระขอพรให้ฉันมีชีวิตรอดกลับมาด้วยแล้วกัน? ฉันพูดขึ้นเล่นๆ แต่ใครหนอจะรู้ว่าฉันพูดจริง!!


?พูดอะไรของแกน่ะยัยบ้า คนอย่างแกสำหรับเรื่องแค่นี้แล้วมันจิบๆ ไม่ใช่รึไงวะ? ยัยลูกอมพูดขึ้นมาบ้าง ก่อนจะลูบหัวฉันไปมาเป็นว่าเล่น ส่งผลให้ผู้คนรอบข้างถึงกับต้องอ้าปากค้างเพราะความตกใจ


แหงสิ!! ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทจริงๆ มีเหรอที่ฉันจะยอมให้แตะเส้นผมอันเป็นที่รักของฉันได้น่ะ เฮอะ!~ ไม่มีวันซะหรอก


ฉันละสายตาจากลูกอมไปมองยัยอมยิ้มที่ยืนแข็งทื่อราวกับถูกสาปให้เป็นหินทันที นี่ใจคอแกจะไม่อวยพรให้ฉันสักหน่อยเลยรึยังไงยะ พูดอะไรสักคำสิยัยบ้านี่ >_<!


?ความเจ็บปวดที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจ...อย่าได้เปิดเผยให้ใครล่วงรู้เป็นอันขาด อย่าให้อดีตที่ผ่านมากลายเป็นจุดอ่อนให้คนอื่นทำร้ายแกได้?


สาบานได้มั้ยว่ายัยนี่ไม่รู้ความลับอันสุดยอดของฉันน่ะ


ชอบพูดอะไรที่เหมือนว่ารู้ไปหมดซะทุกเรื่องนะยัยบ้านี่ น่ากลัวเหลือหลายนะผู้หญิงความลับเยอะคนนี้ ถ้าเราไม่ใช่เพื่อนกัน ฉันคงจะคิดว่าหล่อนเป็นคนบ้าหรือไม่ก็พวกหมอดูรู้ชะตาฟ้าดินไปแล้วล่ะ รู้ไปเสียทุกเรื่อง!


?เออๆ ขอบใจนะที่แกอุตส่าห์อ้าปากพูด หวังว่ากลับมาเดือนหน้าแกจะพูดให้มากกว่านี้นะ? ว่าจบฉันก็หันเหความสนใจมุ่งตรงมาที่เพื่อนสนิทที่สุด


มาถึงคนสุดท้ายแล้วสินะ...เพื่อนซี้ปึ้กของฉัน


ฉันกับทอฟฟี่มองตากันไปมาโดยไม่ต้องมีใครเอ่ยปากพูดอะไรให้เรื่องมันโศกเศร้าไปมากกว่านี้ ทว่าในที่สุด...


?อ๊ากกกกกกกกกกก!!~ ลูกกวาด TT-TT?


?โฮกกกกกกกกกกกก!!~ ทอฟฟี่ Y-Y?


และแล้ว...เราทั้งคู่ก็ปล่อยโฮลั่นหน้าโรงเรียนท่ามกลางความตกใจของทุกคน ทุกวันตอนเช้าฉันจะเจอกับยัยนี่ ไปไหนก็ไปด้วยกันมาโดยตลอดไม่เคยห่าง แล้วนี่...จะไม่ได้เห็นหน้ากันตั้งเดือนหนึ่งเต็มๆ ไม่รู้สึกเหงาก็บ้าแล้วล่ะ!!


?ถ้ามีใครรังแกแกล่ะก็...รีบโทรมาบอกฉันทันทีเลยรู้มั้ย ฉันจะรีบไปจกตากระทืบไส้มันให้แตกคาเท้าให้แกเอง ฮืออ~ ดูแลตัวเองดีๆ นะมูซาชิ?


?แกเองก็เหมือนโคจิโร่ ฮึกๆ ฮืออ~?


สรุปตอนนี้เราทั้งคู่กำลังถูกจับจ้องโดยประชากรทั้งโรงเรียนที่เต็มใจมาล่ำลาฉัน นาทีนี้ไม่มีคำว่าอายสำหรับฉันอีกต่อไป ถ้าแลกกับการที่จะไม่ได้โอบกอดเพื่อนรักแบบนี้เป็นเวลาตั้งหนึ่งเดือนเต็ม แต่ถึงจะขัดกับใจตัวเองแค่ไหนก็คงต้องไปจริงๆ ล่ะสินะ รู้สึกหดหู่หัวใจอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน


ทำไมฉันถึงได้มีความรู้สึกว่าถ้ารถบัสคันโตที่มาจอดรอเพื่อรับส่งคนเพียงคนเดียว (หรืออาจจะมากกว่านั้น) เคลื่อนย้ายออกไปนอกรั้วโรงเรียนแล้ว ฉันจะไม่มีโอกาสได้กลับมาเหยียบที่นี่อีกนะ เพราะอะไรกันนะ -_-;


?ลาก่อนทุกโคนนนนนนนน~? ฉันตะโกนดังลั่นพร้อมกับโบกมือลาเหล่าผองเพื่อนทั้งโรงเรียนขณะที่ตัวเองได้แต่ยืนเกาะเสาเหล็กในตัวรถบัสสายตาละห้อย


?ฝากดูแลน้องชายของฉันด้วยน้าาาา~ ถ้ากลับมาที่นี่คนเดียวพวกฉันเอาเธอตายแน่ได้ยินมั้ย >O<!? จู่ๆ ไอ้หน้าอ่อนชีโร่ (หนึ่งในสมาชิกแก๊งเจ้าชายทั้งห้า ที่ประกอบด้วย ยูโร ชีโร่ บิงโก ซันเด และโมบาย ที่มีนิสัยแตกต่างกันจนไม่น่าจะรวมกันได้ไม่แพ้แก๊งเจ้าหญิงทั้งห้า) ซึ่งเป็นแฟนของยัยโอเล่ก็แหกปากตะโกนลั่นขณะที่ฉันก็ได้แต่งง


น้องชายนายอย่างงั้นเหรอ OoO!!


อ๊ากกกก!!~ อย่าบอกนะว่าน้องชายที่เขาว่านั่นน่ะจะหมายถึง...กรี๊ดดดดดด >[]<!! อยากจะฝากน้องชายก็เอาไปฝากไว้กับยัยโอเล่สิยะไอ้บ้า มาฝากเอาไว้ที่ฉันทำเบื๊อกอะไรเล่า ไอ้นี่ วอนหาเรื่องตายซะแล้ว!~


พรึ่บ!!


เพราะว่าระยะทางมันไกลเหลือเกินที่จะตะโกนตอบกลับไปด่าไอ้โรคจิตนั่น ฉันเลยต้องจำใจนั่งลงบนเบาะตรงหน้าอย่างแรงด้วยความโมโห ทว่าพอฉันทิ้งตัวนั่งลงไปแล้วกลับเกิดเสียงประหลาดขึ้น แถมเบาะที่ว่านี้ก็นุ่มนิ่มเกินเหตุทำให้ฉันต้องรีบหันขวับไปมองทันที...


?ผะ...ผมหนักนะครับ >///<?


?O[]O!!?


?อะ...อ้าว? นึกว่าใครที่ไหน ที่แท้ก็สายลมนี่เอง สวัสดีฮะ ผมชื่อโมบาย เป็นหนึ่งในสมาชิกแก๊งเจ้าชายทั้งห้า ต่อจากวันนี้เป็นต้นไป ผมจะคอยเป็นผู้คุ้มกันภัยให้คุณเอง ฝากเนื้อฝากด้วยด้วยนะครับ ^^??


?อะ...อ๊ากกกกกก!! ไอ้บ้านี่ นายขึ้นมาบนนี้ได้ยังไงกันฮะ ละ...แล้วนายมานั่งตักฉันทำม้ายยยย~!!?


?เอ๊ะ? ผมว่าคุณคงจะเข้าใจผิดไปแล้วมั้งครับ เพราะว่าคนที่นั่งตักอยู่น่ะ...มันคุณไม่ใช่เหรอ - -;;?


เออแฮะ!! มิน่าล่ะ ทำไมถึงได้รู้สึกว่าเบาะนั่งมันนุ่มผิดปกติ แต่แกช่วยแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นมันจะลงแดงตายรึยังไงกันนะ >[]<!!


?นายมาทำบ้าอะไรที่นี่!!? ฉันรีบลุกพรวดแล้วย้ายก้นไปนั่งเบาะฝั่งตรงข้ามทันที


?ง่า...ผมก็เป็นคู่หูไปเรียนแลกเปลี่ยนเป็นเพื่อนคุณยังไงล่ะครับ?


?กลับไปซะ ฉันไม่ต้องการ!!?


?ตะ...แต่ว่า...?


?อะไร!!?


?นี่ครับ...ท่าน ผอ. ฝากให้ผมเอามันให้คุณเพื่อที่คุณจะได้หมดข้อสงสัยในตัวผมโดยสิ้นเชิง ^^?


ฉันมองชายตรงหน้าอย่างคาดโทษ ก่อนจะกระชากจดหมายในมือเขามาถือเอาไว้และจัดการเปิดออกอ่านในทันที





ฮัลโหลลูกกวาดหลานรัก


ขณะที่หลานกำลังอ่านจดหมายฉบับนี้อยู่นั้น รถบัสคงจะไปไกลเกินกว่าจะจอดทันแล้ว ยังไงซะป้าก็ขออวยพรให้หลานโชคดีนะจ๊ะ เอ๊าะ! แล้วก็อีกเรื่องหนึ่ง ในขณะที่หลานกำลังอ่านจดหมายฉบับนี้อยู่ ป้าคาดหวังว่าหลานคงจะได้เจอกับโมบายที่น่ารักของป้าแล้วใช่มั้ยล่ะจ๊ะ ภายในเวลาหนึ่งเดือนต่อจากนี้ไป โมบายจะเป็นคนคอยดูแลหลานเอง เป็นยังไงบ้างจ๊ะ คงจะกำลังดีใจอยู่ล่ะสิท่า


ยังไงซะ จนกว่าเราทั้งคู่จะได้เจอกัน อย่าเพิ่งไปฆ่าใครในโรงเรียนนั้นตายซะก่อนล่ะ ป้ายังไม่อยากมีหลานสาวเป็นฆาตกรฆ่าคนนะ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในใจของหลาน ถึงป้าจะไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ เพราะหลานเป็นคนที่ปิดกั้นตัวเองจากคนภายนอกมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว แต่ป้าก็รู้ว่าหลานต้องผ่านมันไปได้แน่ๆ เพราะหลานสาวของป้าในตอนนี้...ไม่ใช่คนอ่อนแอเหมือนอย่างเคยอีกต่อไปแล้ว


ขอให้หลานโชคดี พระเจ้าจงคุ้มครองนะจ๊ะ


รักนะ จุ๊บุ๊ จุ๊บุ๊ ^_^





ฉันมองจดหมายในมือ ก่อนจะหันมามองชายหนุ่มที่นั่งตรงกันข้ามอย่างชั่งใจ หน้าตาหล่อเหลาปัญญาอ่อน รูปร่างบอบบางแบบนี้น่ะเหรอจะมาคอยดูแลฉัน...เอาตัวเองให้รอดซะก่อนเถอะ


ดูท่าว่าหมอนี่คงไม่รู้จักนรกล่ะสินะ!!


?ฉันไม่รู้ว่านายมีความสามารถมากมายแค่ไหน แต่ตั้งใจฟังในสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดต่อไปนี้ให้ดีๆ?


?.....?


ชายหนุ่มไม่ได้โต้ตอบอะไรออกมา เพียงแต่เปลี่ยนเป็นสีหน้าเอาจริงเอาจังแทน


?สถานที่ที่เราทั้งคู่กำลังจะไปนั้นมันอันตรายและโหดร้ายเกินกว่าที่คนอ่อนแอจะรับไหว! เพราะฉะนั้นฉันไม่ต้องการตัวถ่วง ถ้าเกิดนายกำลังตกอยู่ในอันตรายล่ะก็...อย่าได้ริอ่านมาขอร้องอ้อนวอนให้ฉันช่วยโดยเด็ดขาด (เพราะว่าฉันเองก็ยังเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน << นี่คือสิ่งที่ฉันอยากพูด) เพราะว่าคนอย่างฉัน...เกลียดผู้ชายอ่อนแอเป็นที่สุด!!? << และนี่คือสิ่งที่ฉันพูดมันออกไป คุณเห็นถึงความแตกต่างของมันมั้ย?


?ทะ...ทำไมล่ะครับ T^T!!?


?ฉันอนุญาตให้นายเปิดปากพูดรึยังไง คราวหน้าถ้าฉันไม่ได้สั่งก็หุบปากไปซะ เข้าใจมั้ย!!?


?.....?


?ถามไม่ตอบ อยากเจอดีรึยังไงกันฮะ >O<!!?


?กะ...ก็คุณบอกว่าไม่ให้ผมพูดถ้าคุณยังไม่ได้อนุญาตนี่นา ผมก็เลย...?


โอ๊ยๆๆๆ ฉันล่ะจะบ้าตาย หมอนี่มันจะซื่อไปถึงไหนกันนะ ฉันยิ่งเกลียดผู้ชายแบบนี้ซะด้วย ถ้าเกิดพลั้งมือฆ่าปาดคอเขาไปใครจะรับผิดชอบล่ะทีนี้ ไม่รู้ว่าคุณป้าคิดยังไงถึงได้ให้คนซื่อบื้ออย่างเขาไปร่วมผจญกรรมกับฉันนะ -__-^


?เอาล่ะ!! ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นักที่จู่ๆ ก็รู้ว่าตัวเองกำลังจะมีภาระอันหนักอึ้งติดตามตัวไปในสถานที่แบบนั้นด้วย แต่ว่าฉันจะพยายามอดทนกับนายให้มากๆ เข้าใจ๊!!?


?ครับ ^-^!!?


ให้ตาย ทำไมจะต้องทำหน้าดีใจแบบนั้นด้วยนะ แต่ถึงหมอนี่จะหล่อแค่ไหนฉันก็ไม่สนหรอกนะจะบอกให้ ยังไงซะ!! ท่าทางปวกเปียกอ่อนแอแบบอีตาบ้านี่คงจะทนอยู่ที่โรงเรียนนรกนั้นได้ไม่เกินสามวันหรอก


ที่ที่เหมาะสำหรับคนที่แข็งแกร่งเท่านั้น...ที่ที่ฉันเคยถูกทรมานเหมือนตายทั้งเป็น!!


ตอนนี้คงได้เวลาแล้วสินะ...เวลาแห่งการหวนกลับไปที่นั่นอีกครั้ง!!!







3



ทันทีที่รถบัสคนใหญ่มโหฬารแต่กลับมีผู้โดยสารเพียงแค่สองคนล่วงล้ำเข้าไปในอาณาเขตรั้วสีดำทะมึนที่ฉันยังคงจำมันได้ติดตา ความรู้สึกเดิมๆ ที่เคยรู้สึกครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้วก็วนกลับเข้ามาในสมองของฉันอีกครั้ง


ความวิตก กังวล หวาดกลัวต่างๆ นานา ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ!!


?ว้าวๆๆ น่าอยู่จังเลยนะครับ? เสียงร่าเริงของคนข้างๆ ทำให้ฉันต้องหันขวับไปมองเขาด้วยสายตาตำหนิอย่างเร่งด่วน


?นรก...ยังจะน่าอยู่กว่าที่นี่!!? ฉันพูดเสียงเข้ม ก่อนจะสะพายกระเป๋าเสื้อผ้าเดินลงจากรถ ทิ้งให้นายนั่นนั่งงงงงวยต่อไป


บรรยากาศรอบข้างดูนิ่งสงบวังเวงเหมือนอย่างที่เคยเป็น ทำให้ฉันต้องหันกลับไปมองร่างสูงที่กำลังยกกระเป๋าถือใบใหญ่ลงมาจากรถด้วยท่าทีสงสัย สงสัยว่าหมอนั่นใช้ตาตุ่มมองรึยังไงว่าที่แบบนี้มันน่าอยู่น่ะ


ท่าทางสายตาน่าจะมีปัญหา -_-^


ยินดีต้อนรับนักเรียนแลกเปลี่ยนจากโรงเรียนเซนต์เซรัน เชิญเดินตรงไปทางทิศบูรพาเข้าสิ ท่านจะพบเจอกับด่านทดสอบแรกของเรา


ป้ายประกาศตัวหนาถูกแปะเอาไว้หน้าตึกสีดำทะมึน อ่าาา~ ฉันว่าฉันจำตึกนี้ได้นะ มันคือตึกที่มีไว้สำหรับลงโทษ


?ว้าวๆๆๆ มีด่านทดสอบด้วยล่ะ แบบนี้สิมันถึงจะสนุก ว่ามั้ยครับ?


?ไม่รู้สิ!!? ฉันว่าพร้อมทิ้งกระเป๋าในมือลงพื้น ก่อนจะก้าวเดินไปยังจุดหมายที่ว่านั่นทันที แม้จะรู้แก่ใจว่ามีอะไรรอคอยฉันอยู่ที่สุดปลายทางนี้...แต่คนที่เอาแต่หนีจะไม่มีวันชนะ


กลับกัน...คนที่ต่อสู้และตั้งหน้าตั้งตาเผชิญหน้ากับความเป็นไปตามสัจธรรมของโลกนี่สิคือผู้ชนะ!!









[ทิศบูรพา]


ทุกก้าวเดินฉันต้องระมัดระวังภัยอยู่ตลอดเวลา ทว่าชายหนุ่มอีกคนกลับเดินยิ้มร่าลอยหน้าลอยตาไปมาอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไร ทั้งๆ ที่อีกไม่กี่อึดใจต่อไปนี้ เราทั้งคู่จะถูกรับน้องสยองขวัญกันแล้วแท้ๆ


แปะ แปะ แปะ!!


เสียงปรบมือดังกึกก้องขึ้น ก่อนที่ร่างกำยำของชายประมาณ 6 คนจะเดินแหวกออกมาจากพุ่มหญ้าข้างทาง


?ต้องขอชื่นชมในความใจกล้าของเธอนะ อดีตควีนผู้สูงศักดิ์ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะกล้ากลับมาที่นี่อีกครั้ง ฉันล่ะเชื่อในความใจกล้าของเธอเลยจริงๆ? ชายคนหนึ่งในแก๊งชายโฉดพูดขึ้นก่อนจะจ้องหน้าฉันอย่างคนเอาเรื่อง


?ไม่เจอกันนาน นายก็ยังเก่งแต่ปากเหมือนเดิมเลยนะเฟิร์ส เอ๊ะ!! หรือว่าจะต้องเรียกใหม่ว่าสุนัขรับใช้กันแน่ ^-^!? ฉันเองก็ใช่ว่าจะยืนนิ่งๆ ตั้งใจฟังคำประณามของเขาซะเมื่อไหร่กัน นั่นมันเมื่อก่อน เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน!


?นะ...นี่มันเรื่องอะไรกันอย่างงั้นเหรอครับ ผมงงไปหมดแล้ว แล้วคนพวกนี้เป็นใครกัน รู้จักคุณด้วยเหรอครับ?? นายโมบายถามขึ้นพร้อมทั้งเขย่าแขนเสื้อฉันอย่างถือวิสาสะ ไม่อยากรู้สักเรื่องเอากี่บาทกันยะ?


?ยังพอมีเวลา ถ้าไม่อยากมีเลือดนายก็รีบหนีไปซะ ชักช้าเดี๋ยวจะไม่ทันกาลเอา? ฉันไม่ตอบกลับบอกเขาอย่างหวังดี เรื่องทั้งหมดจะให้หมอนี่มายุ่งด้วยไม่ได้ เขาไม่ผิดเลยสักนิด!


?ท่านผู้นำจะต้องไม่ชอบใจแน่ ถ้ารู้ว่าเธอพาคนนอกมาด้วย?


?ผมไม่ใช่คนนอกซะหน่อย บอกแล้วอย่าตกใจกันล่ะ ผมคือองครักษ์พิทักษ์สะ...?


?หุบปากซะ!!? ฉันรีบตวาดขึ้นก่อนที่หมอนั่นจะทำเสียแผนหมด จะเผยเรื่องที่ว่าฉันคือสายลมประจำแก๊งเจ้าหญิงทั้งห้าไม่ได้โดยเด็ดขาด เป็นตายยังไงก็ไม่ได้!!


?ยอมไปกับพวกเราดีๆ ซะเถอะ! ฉันไม่อยากใช้กำลังต้อนรับเธอ?


?ลองก้มลงมาคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนฉัน แล้วดูซิว่าฉันจะทำตามที่นายบอกรึเปล่า -_-^?


?นี่! พูดกันดีๆ เห็นว่าจะไม่รู้เรื่อง งั้นพวกเรา...ลุย!!!!?


สิ้นเสียงของเฟิร์ส ชายหนุ่มอีกห้าคนที่เหลือก็กรูเข้ามาล้อมวงฉันกับโบมายเอาไว้อย่างรวดเร็วจนฉันตั้งรับแทบจะไม่ทัน


สู้ก็แค่ตาย แต่ถ้าไม่สู้ฉันก็จะกลับไปเป็นคนที่อ่อนแออีกครั้ง ไม่มีวันซะหรอกที่ฉันคนนี้จะอ่อนแอให้มันหน้าไหนได้เห็น ไม่มีวัน!!


ผัวะ!!!


หมัดแรกของเฟิร์สถูกส่งมาอย่างเร็วไว แต่ก็เชื่องช้ากว่าสายตาฉันหลายเท่าตัว ฉันเบี่ยงตัวหลบพร้อมทั้งคืนหมัดหนักๆ ไปให้เขาบ้างเป็นการตอบโต้ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ! นี่มันเข้าข่ายหมาลอบกัดแบบนี้ แล้วไหนจะไม่มียัยทอฟฟี่ที่คอยระวังหลังให้ฉันเหมือนอย่างเคย โอกาสที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ เพียงคนเดียวอย่างฉันจะล้มผู้ชายตัวใหญ่ทั้งหกแบบนี้คงยากเหมือนกัน


นอกจากนายโมบายจะช่วยอะไรฉันไม่ได้แล้วนั้น หมอนั่นยังถูกซ้อมอย่างหนักด้วยฝีมือของไอ้คนชั่วร้ายพวกนี้ ทำยังไงดี ฉันควรจะทำยังไงดี!!


ผัวะ!!!!!


เผลอแค่ป๊บเดียวเท่านั้น หมัดหนักๆ ของเฟิร์สก็ลอยเข้าใบหน้าของฉันอย่างจังจนฉันเซล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น ให้ตายสิ! ไอ้บ้านั่นทำปากฉันแตกนะเนี่ย ไม่เคยตายรึยังไงกัน


ไม่ทันจะได้ตั้งตัว เฟิร์สก็ตรงดิ่งเข้ามากระชากร่างฉันให้ลุกขึ้นเผชิญหน้า จนสายตาของฉันไปปะทะเข้าให้กับร่างที่ชุ่มไปด้วยเลือดของโมบายเข้าโดยบังเอิญ หมอนั่นปากแตก คิ้วแตก ใบหน้าหล่อใสมีแต่รอยฟกช้ำเต็มไปหมด นึกไม่ถึงเลยว่าความปากกล้าของฉันจะทำให้เขาต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วยแบบนี้ ฉันรู้สึกผิดจัง T-T!!


?ให้ตายสิ! ผู้นำจะต้องไม่ชอบใจแน่ๆ ถ้ามาเห็นแววตาที่เธอกำลังจ้องมองไอ้หน้าอ่อนนั่น? คำพูดของเขาชวนให้ฉันคิดถึงใครคนหนึ่ง...


?เจ้านายของนายมันชั่วร้าย นายเองก็ชั่วช้าไม่ต่างกัน!!?


?นั่นแหละความหมายที่ว่าทำไมเธอถึงได้หวนกลับมาที่นี่อีกครั้ง เธอคงไม่คิดว่ามันเป็นเพราะเหตุบังเอิญหรอกจริงมั้ย ^=^?


กะเอาไว้อยู่แล้ว! ว่านี่มันต้องเป็นแผนการล่อเสือออกจากถ้ำของเขา...ผู้ชายชั่วร้ายที่ฉันไม่อยากจะพานพบที่สุดในโลก ถึงเวลาจะต้องเผชิญหน้าแล้วล่ะสินะ


ฉันจะต้องไม่อ่อนแอ ฉันจะไม่มีวันอ่อนเเอ!!!!



-------------
แค่เริ่มต้นก็มันแล้ว แล้วต่อไปจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ใน Buddy's Beloved หยุดชะงัก เมื่อเจอรักโดนใจ ฉบับเต็มที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป และ http://www.bongkoch.com/catalog/product ... ts_id=6896 ค่ะ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”