New Release : Crash into heart ดับเครื่องชนหัวใจคนอันธพาล

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : Crash into heart ดับเครื่องชนหัวใจคนอันธพาล

โพสต์ โดย Gals »

เรื่องย่อ
แสนแสบเกือบต้องกลายเป็นคนบ้าเพราะการตายของเพื่อนรักที่มีเงื่อนงำ เธอต้องหาตัวคนร้ายที่ทำให้เพื่อนของเธอคิดสั้นให้ได้ แต่ว่าเบาะแสเพียงหนึ่งเดียวที่ได้คือประโยคแปลกๆ ที่ไม่รู้ความหมายกับกลุ่มหนุ่มฮอตที่มีชื่อว่า ?ลัทธิหัวใจนิยม? เธอพยายามจะตีสนิทคนที่คิดว่าเข้าหาง่ายที่สุด แต่เรื่องกลับไม่คืบหน้าเพราะมิวนิสต์หนุ่มฮอตอันดับหนึ่งของกลุ่มดันตามติดเธอทุกฝีก้าว แล้วอย่างนี้เธอจะหาตัวคนร้ายได้ยังไงและเขามีจุดประสงค์อะไรกันแน่







Prologue





แสงไฟจากหน้าจอคอมพิวเตอร์สาดกระทบเข้ากับใบหน้าขาวนวลให้ผ่องขึ้นไปอีก หญิงสาวนั่งรัวแป้นพิมพ์อย่างว่องไว มันดังกิ๊กๆ ท่ามกลางความมืดมิดเงียบสงบจากรอบๆ ตัวห้อง



หัวข้อกระทู้ : ?ลัทธิหัวใจนิยม? คุณคิดว่าใครฮอตมากที่สุด?



กลุ่ม ?ลัทธิหัวใจนิยม? คือผู้มีอิทธิพลในโรงเรียน ใช้ความหล่ออย่าง ?เผด็จการ? หลอกล่อให้สาวๆ หัวใจอ่อนไหวให้หลงมาติดกับดักของพวกเขา


มิวนิสต์:


ชื่อของเขามาจากคำว่า ?คอมมิวนิสต์? ชายหนุ่มอารมณ์ร้าย ขี้รำคาญ เอาแต่ใจสุดๆ หนำซ้ำยังเห็นแก่ตัว ชอบออกคำสั่ง ไม่เคยเห็นใจคนอื่น เวลาถูกขัดใจจะอาละวาดขว้างปาข้าวของ และมักจะใช้อารมณ์ตัดสินปัญหา แต่กลับทำให้เขาเป็นคนที่โด่งดังมากที่สุดในกลุ่ม เพราะใบหน้าหล่อเหลา แต่ชอบทำตาขวางใส่ทุกคนที่เข้าใกล้ ดุดันแต่ได้ใจไปเลยจริงๆ


ฟาสซิสต์:


หนุ่มหล่อขี้เก๊ก หลงตัวเองเป็นที่หนึ่ง ในบางครั้งก็ชอบพูดจาสร้างภาพให้ตัวเองดูดี จนเพื่อนๆ เริ่มเอือมระอา และชินชาในที่สุด


มาร์กซิสต์:


ชายหนุ่มผู้ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตนเอง เขาเป็นคนขี้ขลาด ไม่กล้าเผชิญหน้ากับปัญหา เก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร อ่อนแอจนถูกเพื่อนรังแกเป็นประจำ โลกนี้ไม่มีที่สำหรับเขา


นาซี:


หนุ่มหล่อหน้าใสกิ๊ก น่ารักสดใส พูดมาก ขี้เล่น ชอบอำ และชอบทำให้คนอื่นหัวเราะได้แม้อยู่ในภาวะเครียด แต่เขายังแฝงไปด้วยความอ่อนโยน





?ความคิดเห็นที่ 1?


ถ้าเป็นฉัน...ฉันว่านาซีน่ารักที่สุดเลยล่ะ


?ความคิดเห็นที่ 2?


ฉันชอบมิวนิสต์นะ ถึงเขาจะโหดไปหน่อยก็เถอะ แต่เขาเท่มากๆ เลย กรี๊ดดดด!


?ความคิดเห็นที่ 3?


ฉันขอเหมาหมดเลยนะ ฮ่าๆ โลภมากได้มั้ยล่ะ แต่ถ้าให้เลือก...ใครคือนัมเบอร์วัน ฉันเลือกฟาสซิสต์เพราะเขาอัธยาศัยดี


?ความคิดเห็นที่ 4?


ไม่เห็นจะหล่อตรงไหน ก็ไอ้พวกที่ชอบทำตัวเด่นดัง นิสัยก็เกเร อันธพาล วันนี้ยังเห็นไปตีกับโรงเรียนอื่น นี่เหรอไอ้พวกสาวๆ ชื่นชอบ ชิ!!


?ความคิดเห็นที่ 5?


นี่ๆ ความคิดเห็นที่ 4 นายอิจฉาพวกเขาล่ะสิ ตัวเองคงหล่อไม่เท่าพวกเขาใช่มั้ย!!


?ความคิดเห็นที่ 6?


เฮ้ย! แต่ฉันก็เห็นด้วยกับ คห.4 นะ เพราะว่าฉันก็เห็นเหตุการณ์ด้วยเหมือนกัน พวกเขาโหดมากเลย เตะ ต่อยไม่เลี้ยง (เอ่อ...แค่ออกความเห็นส่วนตัวนะ แฟนคลับอย่ามารุมทึ้งฉันล่ะ)





?เฮ้อออออ! นี่เหรอพวกหนุ่มฮอตร้อนระอุปรอทแตก ไม่เห็นมีอะไรดูดีเลยสักนิด แต่ละคนนี่ ถ้าไม่ติดว่าเกิดมาหล่อ หุ่นสูง ดูดี บ้านรวย คงไม่มีใครสนใจหรอก เพราะไอ้นิสัยห่วยๆ แบบนั้น?


หญิงสาวไล่อ่านความคิดเห็นไปเรื่อยๆ พร้อมกับกดรีเฟรชเพื่อดูข้อความล่าสุด เธอถอนหายใจอย่างแรงก่อนจะเอ่ยปากพูด แล้วเริ่มปิดหน้าต่างเว็บเพจที่ตัวเองเปิดอยู่ทีละหน้า เหลือเพียงแค่กระทู้หนุ่มฮอตเพียงหน้าต่างเดียว





?ความคิดเห็นที่ 58?


แต่มีข่าวลือว่าคนในกลุ่มนี้...มีคนที่ ?ต? เอ่อ...ไม่ขอพูดถึงดีกว่า





?พิมพ์ให้อยากรู้ แล้วก็จากไปหรือไง!?


หญิงสาวกดรีเฟรชข้อความอีกรอบเมื่อไม่เจอข้อความอะไรที่ดูน่าสนใจมากกว่าการตอบกระทู้กรี๊ดกร๊าด และความอิจฉาริษยาของพวกผู้ชาย เธอเลื่อนเม้าส์ไปที่ตัว ?X? ที่อยู่บนสุดทางด้านขวามือ แต่สายตาเหลือบไปเห็นข้อความล่าสุดที่เพิ่งมีคนโพสต์ลงไป





?ความคิดเห็นที่ 59?


?Whenever เมื่อไรก็ตาม?


?Whatever อะไรก็ตาม?


?Wherever ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม?


?Whomever ไม่ว่าใครก็ตาม?


จาก ?ลัทธิหัวใจนิยม?




มือที่เลื่อนเม้าส์ไปถึงตัว ?X? ต้องหยุดชะงัก ใบหน้าสวยบ่งบอกถึงอาการสงสัย... ?ลัทธิหัวใจนิยม? งั้นเหรอ...?


ร่างบางลุกขึ้นจากเก้าอี้บิดตัวเพื่อขับไล่ความเมื่อยล้าจากการนั่งอยู่หน้าจอมามากกว่าสามชั่วโมง เดินไปเปิดลิ้นชักหยิบไดอารี่สีชมพูอ่อนลายดอกซากุระเล่มเล็กขึ้นมาเปิดอ่าน



?Whenever เมื่อไรก็ตาม?


?Whatever อะไรก็ตาม?


?Wherever ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม?


?Whomever ไม่ว่าใครก็ตาม?


?Alone? คือคนที่ฉันแอบเฝ้ามองทุกลมหายใจ









1




?วันที่ 30 กันยายน?


ท่ามกลางงานศพที่มีฝนโปรยปรายลงมาเล็กน้อย ภายในศาลาแห่งนี้มีโลงศพตั้งอยู่ ได้กลิ่นธูปอบอวลล่องลอยอยู่ในอากาศ ฉันรู้สึกอึดอัดเมื่อคิดว่าศาลาหลังนี้ถูกห่อหุ้มด้วยเสียงฝนผสมกับควันธูปลอยล่อง บรรดาญาติและกลุ่มเพื่อนต่างสวมชุดดำ พวกเขาพากันนั่งร้องไห้อยู่ตรงหน้ารูปถ่ายของคนที่เพิ่งจากไป ฉันจึงละสายตาไปมองทางอื่นเมื่อรู้สึกหดหู่กับบรรยากาศที่กำลังรายล้อมอยู่ พลันสายตาเหลือบไปเห็นกลุ่มคนที่เดินเข้ามาใหม่ ซึ่งเต็มไปด้วยคนหล่อๆ มากมายตบเท้าเข้ามากันอย่างล้นหลาม


?เป็นไปได้ยังไงเนี่ย!? ฉันร้องโพล่งออกมา กรี๊ด! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ากลุ่มของพวก ?ลัทธิหัวใจนิยม? ที่แสนจะโด่งดังในหมู่สาวๆ จะเรียงแถวหน้ากระดานสวมชุดสูทสุดไฮโซโก้หรูอย่างหล่อลากมางานศพเพื่อนของฉัน ให้ตายสิ ถ้าไม่ติดว่านี่คืองานศพนะ ฉันจะกรี๊ดออกมาให้ดังลั่น


ฉันก้าวฉับๆ ไปยังเป้าหมายที่กำลังเดินเข้ามาด้วยสีหน้ามุ่งมั่น เอ๊ะ! ได้ข่าวว่าคนกลุ่มนี้มีอยู่ 4 คนไม่ใช่เหรอ แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะนับยังไง พวกเขาก็มีอยู่กันแค่ 3 คนเท่านั้น แต่ช่างเถอะ ยังไงที่เหลือพวกเขาก็ยังหล่อมากพอที่จะดึงดูดฉันอยู่แล้ว อิอิ


?สวัสดีค่ะ? ฉันเอ่ยทักด้วยสายตาเป็นประกาย ต๊าย! ยิ่งมองพวกเขาใกล้ๆ ยิ่งหล่อลาก


?สวัสดี? มีเสียงหนึ่งเอ่ยทักอย่างห้วนๆ แต่อุ๊ย! เสียงยังหล่อไปเลยแฮะ แล้วทำไมต้องทำตาขวางใส่ฉันด้วยเนี่ย แต่ไม่เป็นไร ฉันไม่สนใจอะไรในโลกานี้อยู่แล้ว


?ฉันชื่อแสนแสบค่ะ เป็นเพื่อนกับผู้หญิงในรูป? ฉันพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปยังรูปถ่ายที่ประดับด้วยดอกไม้สดที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างๆ โลงศพ


?อะไรนะ?


?ชื่ออะไรเหรอคะ?? ฉันถามเขาต่อโดยไม่สนใจสีหน้าของเขาเลยสักนิด


?เอ่อ...มิวนิสต์? เขาตอบฉันเสียงเรียบเย็น แต่สีหน้าของเขายังไม่คลายความสงสัย


?อ๋อค่ะ...เพื่อนของฉันที่อยู่ในรูปนั่น ชื่อ ?นิชา? ไปทักทายเธอหน่อยก็ดีนะคะ?


?เอ่อ...?


?ขอเชิญทุกคนเลยนะคะ นิชาคงจะดีใจมากๆ ที่มีหนุ่มหล่อๆ มางานศพของเธอ?


?นี่เธอยัง ?ไหว? มั้ย??


?อ๋อ ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ นิชานิสัยดี เข้ากับคนได้ง่าย?


ผู้ชายที่อยู่ตรงฉันทำหน้างุนงงแบบสุดๆ เขาทำท่าทางอึกอักหันไปมองเพื่อนๆ อย่างต้องการความเห็น หรือว่าสีหน้าแบบนี้ต้องการร้องขอความช่วยเหลือรึเปล่าก็ไม่รู้


?ไปสิครับ ไปทักทายเพื่อนของคุณกัน? มือหนาๆ ที่ยื่นมาจากผู้ชายคนที่สามดึงข้อมือของฉันแล้วลากไปตรงรูปถ่ายของนิชา ฉันหันไปมองหน้าเขาแล้วยิ้มจนปากกว้าง


?นิสัยดีจัง ชื่ออะไรเหรอคะ?


?นาซีครับ?


?รับสมัครแฟนรึเปล่าคะ นิชาเธอยังโสด?


?รับครับ?


?เฮ้ย! ไอ้นาซี!? ผู้ชายที่เหลือเอ่ยร้องขึ้นพร้อมๆ กัน แต่ผู้ชายที่ยืนพนมมือข้างๆ ฉันหันมายิ้มจนปากกว้าง


?ชื่อ ?นาซี? เป็นอะไรกับ ?นาบี? เหรอคะ?


?เป็นพี่น้องกันครับ?


?ถ้าแบบนั้นขอฉันเป็น ?นาเอ? แล้วกันนะคะจะได้เป็นพี่ อิอิ?


?เฮ้ย! ไอ้แสนแสบ? เสียงของใครเรียกฉันนะ เห็นมั้ยว่ากำลังหาแฟนให้กับนิชาอยู่นี่ไง นิชาจะได้มีแฟนซะที


?เอ่อ...ขอโทษด้วยนะครับรุ่นพี่ คือว่ายัยนี่น่ะ ตั้งแต่นิชาจากไป สติเลยหายไปพักนึงแล้ว อย่าได้ถือสามันเลยนะครับ? เอ๊ะ! รุ่นพี่?


?ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมว่าแบบนี้น่ะน่ารักดี?


?อ๋อครับ รุ่นพี่คงชอบของแปลก? ผู้ชายหน้าคุ้นคนนี้พูดจบก็ลากแขนฉันออกมาจากวงสนทนากับคนหล่อ อะไร...อะไรกัน เค้าแค่จะหาแฟนให้เพื่อน ทำไมต้องลากออกมาด้วย ฮือๆ





ณ โรงพยาบาลประสาทเสีย


?กำลังรออยู่พอดีเลยครับ? เสียงของชายวัยกลางคนที่สวมชุดกาวน์ เขานั่งอยู่ประจำโต๊ะ มองมาที่ประตูตรงที่มีผู้ชายที่ลากแขนของฉันยืนอยู่


?คือว่า...? เขาลากแขนของฉันแล้วเดินเข้าไปในห้องอย่างเก้ๆ กังๆ จากนั้นก็กระชากให้ฉันนั่งลงข้างๆ ก่อนที่เขาจะเปิดปากพูดอย่างอึกอัก


?ไหนเล่าอาการให้หมอฟังหน่อยสิครับ?


ผู้ชายที่พาฉันเข้ามาในห้องนี้สูดลมหายใจก่อนจะค่อยๆ ระบายเป็นคำพูด นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ทำไมต้องพาฉันมาที่นี่ด้วย หรือว่าผู้ชายคนนี้จะป่วย


?คือเพื่อนผมเธอจะหายเป็นปกติมั้ยครับหมอ? เขาเอ่ยถามหมอเสียงเบา ฉันไม่เห็นเข้าใจอะไรเลยอ่ะ


?เธอคงสะเทือนใจมาก สมองเลยกระทบกระเทือนอย่างหนัก?


?ใช่เลยครับ เธอกับนิชาสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก พอมาเสียนิชาไปอย่างกะทันหันเลยทำใจยอมรับไม่ได้?


ฉันจำได้แล้วว่าผู้ชายข้างๆ ฉันเป็นใคร


?นี่! ลุงโจ หนูจะกลับไปงานศพของนิชา? ฉันพูดพร้อมกับกระตุกชายเสื้อเขาไปด้วย


?ยัยบ้า! นั่นมันชื่อพ่อฉันโว้ย!?


?ลุงอ่า อย่าตะโกนใส่หน้าหนูสิ น้ำลายลุงกระเด็นนะ จะติดเชื้อรึเปล่าก็ไม่รู้?


?หมอครับ ถ้าผมตบคนบ้า ตำรวจจะจับผมมั้ยครับ? ลุงโจ? หันไปถามหมอเสียงเซ็ง


?หึๆ หมอเคยได้ยินแต่คนบ้าทำร้ายคนดีตำรวจไม่จับน่ะสิลุงโจ?


?หมออ่ะ!!?


ฉันชื่อ ?แสนแสบ? มีเพื่อนสนิทชื่อ ?นิชา? มีเพื่อนผู้ชายอีกคนที่เป็นลูกของลุงโจคนนี้ชื่อว่า ?เจย์? เราสามคนรักกันมาก เป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งน้องกันมาโดยตลอด แต่ว่าตอนนี้...ตอนนี้


?ฮือๆ นิชาตายแล้ว? ฉันร้องขึ้นมาเมื่อนึกถึงว่าเพื่อนสนิทของฉันตายไปแล้ว


?เฮ้ย! แสนแสบ!?


?ลุงโจ นิชาตายไปแล้ว ทำไมล่ะ ทำไมไม่เอาหนูไปอยู่ด้วย!?


?เธอพูดว่าไงนะ!?


?หนูจะไปอยู่กับนิชา...?


เพียะ! อยู่ๆ ลุงโจก็ฟาดฝ่ามือลงมาที่แก้มของฉัน หน้าของฉันหันไปซบกับไหล่ที่มีแต่กระดูกของหมอจนเจ็บไปสองเด้ง!


?เธอพูดแบบนี้ได้ไง เรื่องตายใครเขาเอามาพูดเล่นฮะ!?


?ฮือๆ หนูเจ็บนะลุงโจ?


?ถ้าเธอยังพูดเรื่องอยากตายขึ้นมาอีกครั้งล่ะก็ ฉันจะตบเธอไม่เลี้ยงเลยไอ้แสนแสบ?


?สัญญาว่าจะไม่พูดอีก กระซิกๆ?


?แล้วอีกอย่าง ฉันคือเจย์! ไม่ใช่พ่อโจโว้ย!?


?เจย์?? ฉันหยุดร้องอย่างกะทันหันพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองคนที่อ้างตัวว่าชื่อเจย์ ทำไมลุงโจถึงได้บอกว่าตัวเองเป็นลูกชายนะ!


?เออสิวะ!?


?ทำไมหน้าแก่เหมือนลุงโจจัง ให้ตายเถอะ ถ้าเป็นเจย์จริงๆ ฉันสงสารนายนะ ที่อายุไม่เท่าไหร่แต่หน้าตาแก่พอๆ กับพ่อไปซะแล้ว?


?หมอครับ ผมถามอีกที ยัยนี่มันแกล้งบ้ารึเปล่าครับ?


?ไม่หรอกพ่อหนุ่ม แต่คงมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอคิดแบบนั้น ขนาดหมอเองยังแอบคิด?


?อะไรนะหมอ!?


?ปะ...เปล่าจ้า? หมอยกมือปฏิเสธพัลวัน


?แต่ถ้าให้ผมเดา ผมว่าสมองส่วนกวนบาทาสั่งการให้ปากยัยนี่พ่นคำพวกนี้ออกมาแน่ๆ? พูดอะไรกัน แสนแสบงง


?เจย์หน้าแก่ กลับไปที่งานศพของนิชากันเถอะ? ฉันดึงชายเสื้อเขาอีกครั้ง


?เออ กลับไปก็ได้ แต่สัญญาก่อนว่าจะไม่ไปก่อกวนอีก?


?สัญญา!? ฉันชูสองนิ้วขึ้น


ในที่สุดเจย์ก็พาฉันกลับมาที่งานศพของนิชาอีกครั้ง จุดประสงค์หลักของฉันจริงๆ ก็คือ...นั่นไง พรหมลิขิตที่ให้ฉันได้พบเจอกับคนหล่อ (อีกแล้ว) เขายืนอยู่หลังสุดของงาน ไปทักทายตามประสาคนคุ้นเคยกันดีกว่า


?เจอกันอีกแล้วนะมิวนิสต์? ฉันทักด้วยน้ำเสียงใสซื่อ ผู้ชายตรงหน้าฉันทำท่าทางหวาดผวา ราวกับว่าเห็นผียังไงยังงั้น จากนั้นก็ตะโกนใส่หน้าฉันดังลั่น


?มาอีกแล้วเรอะ!?


?สงสัยนี่ต้องเป็นพรหมลิขิตของเราแน่ๆ เลย? ฉันพูดต่อพลางฉีกยิ้มให้เขา


?เธอว่าไงนะ!?


?นี่เพื่อนของมิวนิสต์เหรอ...ดีจังเลยนะ เพราะเพื่อนสมัยนี้น่ะมีแต่เพื่อนกิน?


?เฮ้ย! เธอพล่ามบ้าอะไรวะ!?


?เคยได้ยินมั้ย? เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายก็ไปงานศพ อย่างฉันนี่ไง ฮือๆๆๆ? ฉันร้องไห้พร้อมกับยื่นหน้าไปซบอกของเขา ฮือๆ หอมจัง อกผู้ชายนี่แบนราบไปเลยแฮะ เอ๊ะ! หรือว่าอกไข่ดาว


?ไอ้นาซี เอายัยนี่ออกไปจากตัวฉัน!?








2




ภายในห้องพยาบาลของโรงเรียน ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเดินจับผมสีน้ำตาลเข้มทางด้านซ้ายที ทางด้านขวาที เขาทำแบบนี้จนกระทั่งเดินห่างออกไปไกลมากพอสมควร


ขี้เก๊ก! ไม่ทราบว่าทำไมจะต้องเดินทำท่าแบบนั้น นึกว่าเท่มากรึไง เออ...ยอมรับก็ได้ว่าผู้ชายคนนี้มันหล่อ มันเท่ มันดูดี แต่มันก็ขัดลูกตาฉันอยู่ดีนั่นแหละ!


?แสนแสบโว้ย!?


?ฮะ! ว่าไงนะ? ฉันหันไปตามเสียงเรียกของเจย์ เพราะได้ข่าวแว่วๆ มาว่า ก่อนหน้านี้ 2-3 วัน ฉันไปทำเรื่องน่าอายเอาไว้มากมาย โดยที่ฉันจำอะไรไม่ได้เลยสักนิด แต่ตอนนี้สิ่งที่ฉันสนใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องที่ฉันไป ?สติเสีย? ใส่ ?มิวนิสต์? คนที่ได้ชื่อว่าโหดที่สุดใน ?ลัทธิหัวใจนิยม? ให้ตายสิ ทำไมฉันเลือกได้ถูกคนแบบนี้นะ


?เรียกตั้งนานทำไมเพิ่งตอบฮะ! มัวแต่มองตามฟาสซิสต์อยู่นั่นแหละ?


?เปล่ามองนะ แต่ว่าฉันทำแบบที่นายเล่าจริงๆ เหรอเจย์? ฉันถามหน้าละห้อย


?เออ...พวกนั้นไม่ตบให้ก็บุญแล้ว ขนาดฉันนะ หวิดที่จะตบอยู่หลายครั้ง?


?อ้าว นี่นายเป็นเพื่อนฉันรึเปล่าเนี่ย?


?ก็เออไง ถึงไม่ได้ทำ แต่แค่ ?เกือบ? ทำนั่นแหละว่ะ?


?แล้วนอกจากมิวนิสต์แล้วฉันไปบ้าใส่ใครอีก ช่วยบอกทีว่ามีแค่คนเดียว?


?มีนาซีอีกคน?


?อ่า...แล้วฉันจะกล้าไปสู้หน้าพวกเขาอีกมั้ยเนี่ย?


?แต่นาซีแปลกนะ ชมว่าเธอน่ารักดี?


?เขาประชดน่ะสินะ ฮือๆ?


พูดแล้วก็อยากจะร้องไห้ ?นิชา? เพื่อนฉันตายเพราะเหตุผลโง่ๆ ที่ตอนนี้ยังไม่อยากจะพูดถึง เพราะคิดถึงเรื่องนี้ทีไร ฉันรู้สึกว่าสมองมันว่างเปล่าทุกครั้ง พอลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ฉันจะไปอยู่อีกที่ราวกับล่องหน


ใช่ที่ไหนเล่า! แถวบ้านฉันเรียกคนประเภทนี้ว่า ?บ้า? นี่ขนาดฉันต้องไปพบจิตแพทย์เป็นว่าเล่นเลยนะ ผู้หญิงหน้าตาสวยๆ แต่เป็นบ้านี่คิดแล้วก็อยากจะกรีดร้อง


แอ๊ด!


ประตูห้องพยาบาลซึ่งเป็นที่โดดเรียนของฉันถูกเปิดออก อะไรทองๆ โผล่เข้ามาพร้อมกับใบหน้าหลอนกระชากจิต อ้อ ไม่ใช่ ?หล่อกระชากจิตน่ะ? หน้าตาคนคนนี้เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน


เฮ้ย! นาซีนี่


?ดีจังเลย ได้เจอกับคนน่ารักอีกแล้ว? ยิ้มแบบนี้มาควักหัวใจฉันไปเลยเซ่ แต่จริงๆ แล้วฉันไม่กล้าสู้หน้าเขาเลย ฉันก้มหน้าหลบแวบทันที อับอายขายขี้หน้ามากๆ


?เฮ้ย! ไอ้นาซี เข้าไปสักทีสิวะ ง่วงนอน!? เสียงที่ดังจากด้านหลังของนาซีนี่ก็คุ้นหูชอบกล นาซีเดินเข้ามาทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงข้างๆ ฉัน ผู้ชายที่ส่งเสียงโวยวายเดินมาพร้อมกับยกมือขึ้นขยี้ผมจนยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง เมื่อเขาเสยผมขึ้นแบบนี้เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาฉายแสงกระแทกตาฉันแทบบอด (เว่อร์)


?ดะ...ดีนะ? ฉันทักพร้อมกับยิ้มอย่างแห้งแล้ง แต่ว่าผู้ชายคนนี้มองฉันแล้วส่ายหัวสองสามทีก่อนจะเดินไปที่เตียงอยู่ริมสุดจากนั้นก็ล้มตัวลงไปนอนอย่างไม่สนใจโลก ก็ยังดีที่ไม่ได้ด่าฉันกลับ


?เออ ไอ้แสนแสบ นอนพักที่นี่ก่อนแล้วกัน ตอนเย็นๆ จะแวะมารับ? เฮ้ย! เจย์ นี่นายจะทิ้งฉันเอาไว้กับผู้ชายพวกนี้เหรอ ถึงจะหล่อมากก็เถอะ แต่ฉันเคยไปทำเรื่องเลวร้ายเอาไว้นะ!


?ฉันกลับไปเรียนต่อดีกว่านะ?


?สภาพแบบนี้เรอะ! นอนไปเลยอย่าพูดมาก? เจย์พูดพร้อมกับผลักหัวฉันล้มไปกระแทกกับหมอน มิหนำซ้ำยังเอาผ้าห่มมาคลุมฉันถึงคออีกต่างหาก นายจะรู้ตัวบ้างมั้ย นายทำเหมือนลุงโจเข้าไปทุกที


?รักกันดีนะครับ? ลืมไปเสียสนิทว่าในห้องพยาบาลยังมีใครอีกหลายคน


?แล้วรุ่นพี่ไม่ไปเรียนเหรอคะ? ฉันเปลี่ยนเรื่องถามโพล่งออกไป


จะว่าไป...ฉันควรจะเรียกเขาว่ารุ่นพี่ถึงจะถูกต้อง เพราะฉันเรียนอยู่ชั้นมัธยม 5 แต่เขาเรียนชั้นมัธยม 6...แต่ลับหลงฉันไม่เคยเรียกเขาว่าพี่หรอก ฉันมันพวก ?แอบ? ปีนเกลียวลับหลังพวกเขาน่ะ แหะๆ


?สักพักจะไปแล้วล่ะครับ แล้วก็ไม่ต้องเรียกผมว่ารุ่นพี่หรอก เรียกนาซีเหมือนเดิมดีกว่า?


?อ๋อค่ะ เอ่อ...คือว่าเรื่อง...? ฉันอึกอักพร้อมกับเกาหัวอย่างเขินอาย


?มีอะไรหรือครับ??


?เรื่องเมื่อวันนั้น ฉันขอโทษด้วยที่ไปทำตัว เอ่อ...นั่นแหละค่ะ? ฉันไม่กล้าออกเสียงเลยว่า ไปทำตัวบ้ากับเขาน่ะ


?ไม่เป็นไรหรอก ผมว่าน่ารักดี? ท่าทางผู้ชายคนนี้จะชอบของแปลกมากกว่าพูดประชด


?แต่ก็อยากจะ...?


?ถ้าอยากจะจีบกันช่วยไสหัวออกไปข้างนอกจะได้มั้ยเนี่ย!? ทันใดนั้นก็มีเสียงบุรุษที่สามแทรกขึ้นมา


?จะไปแล้วน่า...ทำมาเป็นอิจฉานะไอ้มิว?


?อ๋อ...เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าฉันกำลังอิจฉา? ประชดเข้าไปเถอะ ใช่สิ คนหล่อน่ะพูดอะไรก็ยังดูหล่อ


?ไปก่อนนะครับ ระวังด้วยล่ะ คนแถวนี้น่ะน่ากลัว? นาซีพูดจบก็ฉีกยิ้มอย่างน่ารักแล้วเดินหายวับไปอีกคน เหลือเพียงฉันกับผู้ชายที่นอนหันหลังให้ที่มุมสุดของห้อง


เงียบ...


ดีแล้วที่เงียบแบบนี้ ฉันแหงนหน้าขึ้นมองเพดานครุ่นคิดเรื่อยเปื่อย


อีกแล้ว...ฉันคิดถึงนิชาอีกแล้ว


?นี่เธอ!? แล้วอยู่ๆ คนที่ฉันบอกว่าเงียบก็โพล่งออกมา ทำเอาหัวใจฉันหล่นวูบ


?เอ่อ...อะไรเหรอคะ??


?เธอเชื่อเรื่องวิญญาณมั้ย?? ฮะ! คนอย่างมิวนิสต์เนี่ยนะพูดเรื่องเหนือธรรมชาติ ให้ตายเถอะ ฉันน่าจะมีที่อัดเสียง จะอัดเอาไปขายให้พวกสาวๆ เพราะนี่มันคือสิ่งมหัศจรรย์ของโลกเลยกว่าได้


?เฮ้ย! ถามก็ตอบสิวะ? เอ่อ...นึกว่าพูดคนเดียว


?ไม่รู้เหมือนกัน ถึงจะบอกว่าไม่เชื่อแต่ฉันก็ไม่ลบหลู่หรอกนะ?


?แต่ฉันอยากจะเห็นวิญญาณสักครั้ง?


แปลก? อีตานี่มีนิสัยแปลกๆ ไหนว่าโหดไง ระ...หรือว่าเขาคิดว่ากำลังคุยกับคนสติเสียอย่างฉัน อ๊าก! เครียด


?แต่ช่างเถอะ คุยกับคนบ้าไป ใครได้ยินก็คงจะหาว่าฉันบ้าไปด้วย?


กรี๊ด! ฉันอยากจะลุกขึ้นจากเตียงไปบีบคออีตานี่จริงๆ ฮือๆๆ


?ฉันไม่ได้บ้าซะหน่อย...แต่สติมันไปเอง? ฉันตอบมิวนิสต์เบาๆ เหลือบหางตาแอบมองเขาเล็กน้อย ใบหน้าด้านข้างเห็นโครงหน้าได้รูป ปลายจมูกโด่งสันของเขานี่มันน่าหลงใหลชะมัด


อิจฉา! ทำไมเกิดมาหล่อไม่เกรงใจคนข้างเตียง


?เฮ้ย! ไอ้มิว? ทันใดนั้นประตูห้องพยาบาลก็เปิดพรวดเข้ามาพร้อมกับเสียงตะโกน ด้วยความที่ฉันกำลังแอบมองผู้ชาย ทำให้ร่างของฉันกระเด้งลุกจากเตียงด้วยความตกใจ


คนทำอะไรผิดมักจะมีปฏิกิริยาแบบนี้ใช่มั้ย?


?มีอะไรไอ้ฟาส?


?เอ่อ...ผู้หญิงคนนี้ใช่คนที่เราเจอที่งานศพรึเปล่า? ฟาสซิสต์พูดพร้อมกับมองหน้าฉันอย่างหวาดผวา แกล้งทำเป็นลืมบ้างจะได้มั้ย


?เออ ใช่มั้ง ว่าแต่มีอะไร? มิวนิสต์พูดพร้อมกับลุกจากเตียง นั่งห้อยขาข้างหนึ่ง อีกข้างยกขึ้น เฮ้ย! รองเท้านายไม่ได้ถอด ผ้าปูเตียงมันจะเปื้อนนะยะ


?วันนี้วันอะไรวะไอ้มิว?


?วันพุธ? มิวนิสต์ทำหน้าเบื่อโลกแบบสุดๆ นั่นสิ ถามทำไม ก็วันนี้วันพุธ


?ไม่ใช่ๆ วันนี้เรามีนัดไง?


?ก็รู้แล้วน่า ทำไมฉันจะจำไม่ได้ว่าทุกวันพุธเราจะไปไหน?


?เออ จำได้ก็แล้วไป...ว่าแต่สาวน้อยอยากไปด้วยมั้ยจ๊ะ? ฟาสซิสต์หันมาถามฉันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์


?ไปไหนเหรอจ๊ะ...เอ๊ย! ไปไหนเหรอคะ?? บ้าเอ๊ย! ทำไมฉันตอบไปอย่างไม่คิดแบบนี้นะ


?ไปเดทกันไงล่ะ ท่าทางจะหลอกขึ้นเตียงง่ายๆ?


?อะไรนะ!?


?ฮ่าๆ ล้อเล่นน่า แล้วนี่หายดีแล้วหรือยัง? ฟาสซิสต์เดินมานั่งลงที่ปลายเตียงของฉันถามด้วยสีหน้าราบเรียบ


?ฉันไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย?


?แต่เมื่อวันที่เจอกันในงานศพ เธอเล่นไอ้มิวสติแตกไปเลยรู้ตัวมั้ย ฮ่าๆๆ? ฟาสซิสต์พูดพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ได้ยินเสียงหัวใจของฉันมั้ย มันกำลังตะโกนว่า ?ลืมมันไปซะเถอะ?


?ทำไมมีแต่คนสนใจผู้หญิงบ้าๆ แบบยัยนี่ ไอ้นาซีก็อีกคน? มิวนิสต์พูดพร้อมกับมองฉันด้วยหางตา ไอ้บ้า อยากจะตะโกนออกไปแต่ทำไม่ได้ ฮือๆ


?ก็เพราะคนบ้าแบบนี้ มันถึงต้องมีคนสนใจไงไอ้มิว ฮ่าๆ? ขอบคุณนะที่ช่วยกันตอกย้ำ


ว่าแต่เรื่องที่พวกเขาพูดหมายถึงเรื่องอะไร หรือว่าวันพุธจะเป็นวันที่พวกเขาจะไปต่อยตีกับโรงเรียนอื่น เอ่อ...อยากถามนะ แต่กลัวว่าคำตอบที่ได้มามันจะกลายเป็นอย่างอื่นน่ะสิ






3



ฉันนั่งเท้าคางเหม่อลอยอยู่ตรงโต๊ะม้าหินซึ่งเป็นโต๊ะประจำกลุ่มของพวกเรา ใบหน้าหวานๆ ของเพื่อนสนิทของฉันลอยอยู่ตรงหน้า ดวงตากลมโตดำขลับ เรือนผมสีดำขับใบหน้าขาวนวลให้ผ่องขึ้น เมื่อก่อนมันเคยมีเธออยู่ตรงนี้...แต่ตอนนี้มันหลงเหลือเพียงแค่มโนภาพที่ฉันสร้างมันขึ้นมาเท่านั้นเอง


เธอ...จากฉันไปแล้ว เธอจะไม่กลับมาหาฉันอีกแล้ว ?นิชา? เธอจะรู้บ้างมั้ยนะว่าเพื่อนสนิทคนนี้คิดถึงเธอเหลือเกิน


ฉันหยิบสมุดบันทึกเล่มสีชมพูอ่อนลายดอกซากุระที่นิชาใช้ขึ้นมาลูบไล้มันด้วยความรักใคร่ มันเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่หลงเหลืออยู่ ลายมือน่ารักคิกขุของเธอกับข้อความบันทึกประจำวัน ฉันเปิดอ่านแบบผ่านๆ ด้วยหัวใจกระตุกวูบ จนกระทั่งไปหยุดลงที่หน้าหนึ่ง มันมีรูปถ่ายของผู้ชายคนหนึ่งที่เห็นเพียงแค่ด้านข้างและก็ถ่ายจากมุมไกลมากพอสมควร ทำไมไม่ใช้เลนส์มาโครนะ จะได้ถ่ายใกล้ๆ


เอ่อ...มันไม่เกี่ยวกันซะหน่อย เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนระต้นคอ รูปร่างสูงโปร่ง สวมชุดนักเรียนโรงเรียนเดียวกันกับฉัน


ใคร?


คำถามนี้มันผุดขึ้นในหัว ผู้ชายคนนี้เป็นใคร?




ฉันพลิกดูหลังรูปถ่ายมีข้อความเขียนอยู่ซึ่งเป็นลายมือของนิชา ฉันจำมันได้ดี


?มองอยู่ไกลๆ ก็เพียงพอ?


?นี่แสนแสบ?


ผู้ชายคนนี้คือคนที่นิชาแอบรักงั้นเหรอ หรือนี่จะเป็นสาเหตุ...


?แสนแสบโว้ย!?


ฉันเปิดบันทึกหน้าต่อไปเผื่อจะมีอะไรขยายความหมายของรูปถ่ายได้อยู่บ้าง ข้อความที่ปรากฏต่อสายตาของฉันเป็นอักษรภาษาอังกฤษพร้อมกับคำแปลภาษาไทย





?Whenever เมื่อไรก็ตาม?


?Whatever อะไรก็ตาม?


?Wherever ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม?


?Whomever ไม่ว่าใครก็ตาม?





ฉันเคยเห็น... เคยเห็นมัน ไอ้ข้อความพวกนี้ แต่...!?


?ไอ้ W?4 ตัวนี่มันคือโค้ดลับอะไรกันวะ? ฉันร้องเสียงหลงพร้อมกับใบหน้าของใครบางคนที่โผล่มาข้างๆ หน้าของฉัน


?ก็นี่ไง มีคำแปล ถามอะไรโง่ๆ?


?ไม่! ฉันรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น เฮ้ย! เจย์ นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่?


?มาตั้งนานแล้ว เรียกตั้งหลายครั้ง มัวเหม่ออะไรอยู่ฮะ!? เจย์ตะคอกฉันด้วยใบหน้าเซ็งๆ


?เอ่อ...เปล่า ฉันก็แค่คิดถึงนิชา? ฉันพูดพร้อมกับน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง ฮือๆ นิชา!




?แล้วจะร้องไห้ให้ได้อะไรขึ้นมา เธอคิดว่านิชาจะดีใจเหรอไงที่ต้องเห็นเธอเป็นทุกข์อยู่แบบนี้?


?แล้วนายไม่เสียใจบ้างเหรอ เพื่อนนะ! เพื่อนรักเราจากไปไม่มีวันกลับทั้งคน?


?ทำไม...ทำไมฉันจะไม่เสียใจล่ะ แต่...คนตายมิอาจจะฟื้นขึ้นมาอีกแล้ว?


?ฮือๆ ก็ฉันคิดถึงนิชานี่?


?แต่นิชาจะอยู่กับเราตรงนี้? เจย์พูดพร้อมกับยกมือทาบหน้าอกด้านซ้ายของตัวเอง ใช่...นิชาจะอยู่ตรงนี้กับฉัน จะอยู่ในหัวใจของฉันตลอดไป


?แต่ฉันยังมีชีวิตอยู่ ฉันจะสู้เพื่อนิชา ฉันจะแก้แค้นให้นิชา ไอ้ผู้ชายที่ทำให้เธอต้องตาย ฉันจะตามหามันเอง และฉันก็มั่นใจว่าฉันจะได้เจอกับผู้ชายคนนั้น? ฉันพูดพร้อมกับก้มหน้าลงไปอ่านข้อความสุดท้ายต่อจากไอ้ W?4 ตัว





?Alone? คือคนที่ฉันแอบเฝ้ามองทุกลมหายใจ




ถ้าผู้ชายในรูปกับผู้ชายที่ชื่อ ?Alone? เป็นคนคนเดียวกัน ฉันจะดีใจมาก เพราะ...ผู้ชายคนนั้นจะต้องอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ และฉันก็คิดว่า คนคนนี้ต้องเป็นหนึ่งในพวก ?ลัทธิหัวใจนิยม?


ฉันไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ เพราะไอ้ W?4 ที่ฉันเคยเห็นในกระทู้หนุ่มฮอตนั่นแหละ


?ในกลุ่มลัทธิหัวใจนิยม ใครนิสัยดีสุดเหรอเจย์?


?ฮะ! ทำไมอยู่ๆ ถึงได้สนใจคนพวกนี้ขึ้นมาล่ะ?


?เถอะน่า นายว่าใครเข้าถึงตัวง่ายมากที่สุด?


?เอ่อ...เดี๋ยวนึกก่อนนะ? ฉันนั่งเงียบรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ ถ้าเจย์ตอบว่ามิวนิสต์ล่ะก็ จะตบให้กะโหลกร้าวไปเลย


?มาร์กซิสต์...?


?จริงเรอะ!!? ฉันร้องพร้อมกับสายตาลุกวาว


?แต่ว่า...ฉันไม่เห็นมาร์กซิสต์มาเป็นเดือนแล้วนะ แถมก่อนหน้านี้เขาก็ไม่ค่อยมาเรียนด้วย และยังมีข่าวลือแบบแปลกๆ? เจย์พูดพร้อมกับทำสีหน้าครุ่นคิด


นั่นสิ...มาร์กซิสต์อะไรเนี่ยหน้าตาเป็นแบบไหนวะ จะว่าไปฉันไม่เคยเห็นหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ หรืออาจจะเคยเห็นแต่เหมือนว่าจะจำไม่ได้ สรุปง่ายๆ นะ คือว่าฉันไม่ใช่พวกแฟนคลับที่คลั่งไคล้พวกเขา เรียกว่าเป็นพวกแฟนขับไล่จะถูกต้องเสียมากกว่า เพราะฉันรำคาญเสียงกรี๊ดกร๊าดที่มันจะมาพร้อมกับผู้ชายกลุ่มนี้ แถมข่าวลือที่พวกผู้หญิงมักสร้างมันขึ้นมาว่า มาร์กซิสต์อะไรเนี่ยชอบเก็บตัวเงียบๆ ไม่สุงสิงกับใครมากนัก


โอ๊ย! เมื่อก่อนฉันน่าจะสนใจพวกเขาให้มากกว่านี้


?ข่าวลืออะไรอีกล่ะ??


?ก็ได้ยินพวกผู้หญิงคุยๆ กัน บ้างก็ว่าดร็อปเรียนเพราะป่วยหนัก บางคนก็บอกว่าไปเรียนต่อต่างประเทศ สุดท้ายนี่ลือกันน่ากลัวมาก บอกว่ามาร์กซิสต์ตายไปแล้ว...?


?จะบ้าเรอะไง ไอ้ที่ฟังมาเนี่ย ความเป็นไปได้มีอยู่แค่ข้อเดียวเองนะ ฉันว่าเขาน่าจะไปเรียนต่อต่างประเทศ?


?ทำไมเธอถึงคิดว่าอย่างนั้นล่ะ? เจย์ถามด้วยความสงสัย


?ก็เขาน่าจะแข็งแรง ?มั้ง? ไอ้เรื่องจะป่วยจนมาเรียนไม่ได้เนี่ย...ฉันไม่เชื่อ แล้วเรื่องตายนี่เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด เขามีแรงจูงใจอะไรให้ตายฮะ!? ฉันเถียงข้างๆ คูๆ


?เออ นั่นสิ ไม่เหมือนกับนิ...? เจย์ชะงักคำพูดไปแค่นั้นก่อนจะก้มหน้านิ่ง


?งั้นก็ตัดมาร์กซิสต์ไปดีกว่า เอานาซีแล้วกัน หมอนั่นน่ารักดี? ฉันพูดพร้อมกับอมยิ้ม ใช่...นาซีน่ารัก!


?เดี๋ยวนะ ไอ้ที่พูดมาทั้งหมดน่ะหมายความว่าไง?


?ไม่มีอะไร?


?เธออย่าคิดทำอะไรโง่ๆ นะแสนแสบ?


?นายคิดว่าฉันจะทำอะไรเหรอเจย์? ฉันหันไปถามอย่างใสซื่อ และคิดว่าเป็นใบหน้าที่บ้องแบ๊วที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้


?เธอคิดว่าฉันไม่รู้จักนิสัยเธอรึไงฮะ! ขอร้องเถอะ ฉันไม่อยากจะเสียเธอไปอีกคนนะแสนแสบ? เจย์ลงท้ายประโยคเสียงเบา แล้วลุกพรวดเดินหนีจากไปเมื่อเห็นว่าฉันกำลังอ้าปากจะเถียง


ขอโทษนะเจย์ ฉันก็ทำเพื่อนิชาเหมือนกัน แต่ฉันจะไม่มีวันแลกด้วยชีวิตของฉันเด็ดขาด


ฉันตกลงปลงใจว่าจะเข้าไป ?อ่อยเหยื่อ? เอ๊ย! ?ตีสนิท? กับนาซี เพราะดูท่าทางเขาจะนิสัยดีที่สุด มิวนิสต์ ฟาสซิสต์ ตัดทิ้งไปอย่างไร้เยื่อใย เพราะคนแรกก็โหด ปากร้าย คนที่สองก็ท่าทางจะงุ่นง่าน หมกมุ่นอยู่กับเรื่องบนเตียง


ฉันคิดว่าไอ้ W?4 ตัวนั่นมันต้องมีอะไรเชื่อมโยงกันถึงเรื่องการตายของนิชา ทำไมนิชาถึงได้เขียนคำพวกนี้เอาไว้ในไดอารี่ มันไม่บังเอิญเกินไปหน่อยเหรอที่พวกลัทธิหัวใจนิยมก็มาตอบกระทู้หนุ่มฮอตและพิมพ์คำพวกนี้ด้วยเช่นกัน


ว่าแต่ใครเป็นคนพิมพ์?!


แล้วคนที่พิมพ์ต้องการจะสื่ออะไร?!


หลายๆ คำถามมันผุดขึ้นในหัวของฉันจนยุ่งเหยิงไปหมด


?เฮ้อออออ! แล้วฉันจะเริ่มตรงไหนก่อนดีวะ? ฉันถอนหายใจยาวอย่างเบื่อๆ


?เริ่มอะไรเหรอครับ? เสียงของใครไม่รู้เอ่ยแทรกความคิดของฉัน เฮ้ย! นี่ฉันคิดดังมากไปหน่อยถึงได้มีคนตอบกลับมา


?นะ...นาซี? ฉันเอ่ยเรียกชื่อเขาตะกุกตะกักเมื่อร่างสูงมายืนอยู่ตรงหน้า


?อ้าว ผมทำให้แสนแสบตกใจเหรอเนี่ย ขอโทษนะครับ? เขาพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่ฉันคิดว่ามันอบอุ่นมากที่สุด น่ารักจัง ยิ้มก็มีเสน่ห์


?เปล่าน่ะ ฉันแค่คิดอะไรเพลินๆ? จะให้ตอบไปว่ากำลังคิดถึงเขาก็ทะแม่งๆ อยู่นะ ฮ่าๆ ฉันกำลังคิดถึงนายน่ะนาซี เขินๆๆ


?ขอนั่งด้วยคนได้มั้ยครับ? มานั่งในใจสิ จะแหวกอกให้เล้ยยย


?ตามสบายเลยค่ะ?


?แล้วทำอะไรอยู่เหรอครับ ผมมารบกวนรึเปล่า?


?ไม่เลย จะว่าไป ฉันถามอะไรหน่อยจะได้มั้ย??


?ว่ามาเลยครับ?


?มาร์กซิสต์น่ะหายไปไหนเหรอ?


?เอ่อ...? นาซีอึกอักขึ้นมา สีหน้าเขาดูลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด นี่ฉันถามอะไรผิดเหรอ?


?แล้วเธอจะมายุ่งอะไรกับเพื่อนของฉัน!!? ฉันถามนาซี แต่คนที่ตอบดันเป็นผู้ชายที่เดินมาอย่างหน้าตาถมึงทึง ฉันหันไปมองทางต้นเสียงอย่างช้าๆ ทำไมแค่คิดจะเข้าไปพัวพันกับพวก ?ลัทธิหัวใจนิยม? ถึงต้องมาเจอพวกเขาทั้งหมด แค่นาซีมันก็น่าจะเพียงพอแล้วนี่ ทำไมต้องเอาอีตาโหด แต่ (หล่อ) พ่วงมาให้ฉันด้วย


?อีกแล้วเหรอไอ้มิว เวลาฉันคุยกับแสนแสบทีไร ทำไมนายต้องเขามาแทรกทุกครั้งเลยนะ? นาซีหันไปพูดกับมิวนิสต์ด้วยสีหน้าเคืองๆ


อย่ามาฆ่ากันตายเพราะแย่งฉันเลยนะ


เอ่อ...รู้สึกจะไม่ใช่อย่างนั้น


?พอดีเดินผ่านมาได้ยินคน ?บ้า? กำลังพูดถึงเรื่องเพื่อน ทำไม มีปัญหาอะไร?? มิวนิสต์พูดพร้อมกับก้มหน้าลงมาใกล้ๆ กับใบหน้าของฉัน สายตาพิฆาตของเขาทำให้ฉันหายใจติดขัด


คำก็บ้า สองคำก็บ้า ไม่รู้รึไงตอนนี้วัยรุ่นเขาฮิตเป็นกันอยู่


?ไปได้แล้วไอ้นาซี ไป ?ซ้อม? ฟุตบอลกัน? มิวนิสต์พูดเน้นคำว่า ?ซ้อม? พร้อมกับลากคอนาซีที่น่ารักของฉันจากไปเสียดื้อๆ


ซ้อมฟุตบอล แต่ทำไมทำหน้าตาเหมือนจะไปซ้อมคนเลยแฮะ


ฉันจ้องมองแผ่นหลังของเขาสองคนพลางถอนหายใจอย่างเบื่อๆ จากนั้นมองซ้ายมองขวาเพื่อหาเจย์ แต่ว่าแถวนี้ไม่เหลือใครอีก ฉันจึงลุกขึ้นจากโต๊ะมุ่งหน้าสู่ร้านขายน้ำก่อนจะไปหาอะไรทำในชมรม


?ป้าคะ ขอชามะนาวแก้วนึง? ฉันยื่นหน้าเข้าไปในซุ้มก่อนจะยกมือขึ้นเท้าคางแล้วกลอกตามองไปรอบๆ เห็นผู้ชายสองคนที่เมื่อกี้เพิ่งแยกจากกันกำลังเดินมาทางนี้พอดิบพอดี


ปิ๊งๆ ฉันหลบแวบเข้ามาในร้านเมื่อคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้


?แม่หนูเข้ามาทำไมจ๊ะ?


?หนูขอยืมสถานที่แป๊บนะป้า? ฉันหันไปพูดกับป้าที่ยืนมองฉันด้วยความงุนงง แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากไปกว่านี้


?ป้าครับ ขอน้ำ...เอ่อ...? นาซีกำลังสั่งน้ำแต่ต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นฉันยืนหน้าบานแทนที่ของป้าคนขาย


?รับน้ำอะไรดีคะ? ฉันเอ่ยถามเสียงใส


?เอ่อ...น้ำแดง 3 แก้วครับ? นาซีขมวดคิ้วแต่ก็ตอบรับในที่สุด ป้าคนขายก็ทำหน้าที่เทน้ำแดง 3 แก้วแล้วยื่นส่งไปให้นาซีที่ยังทำงุนงงอย่างน่ารัก


?แล้วจะรับขนมจีบซาลาเปาทานเพิ่มมั้ยคะ??


?ถ้าคุณเป็นคนขายให้ ผมรับครับ? นาซีน่ารักจัง เขารับมุกของฉันด้วย


ตุ้บ!


ทันใดนั้น น้ำแดงแก้วหนึ่งที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ที่ยื่นออกไปก็ถูกใครบางคนยกขึ้นแล้วกระแทกลงกับเคาน์เตอร์อย่างแรงจนน้ำแดงมันกระฉอกออกมาเลอะเสื้อนักเรียนของฉัน


เฮ้ย! ฉันไม่ได้คุยกับนายนะอีตาโหด! แล้วดูเสื้อนักเรียนของฉันสิ เลอะเป็นสีแดงไปหมดแล้ว กรี๊ด!


?มุกจีบผู้ชายแบบนี้น่ะ เขาเลิกใช้เก็บใส่ไหดองปลาร้ากันไปตั้งนานแล้ว?


?อ๊ะ...?


?เลิกเล่นเหอะ มุกควายๆ น่ะ มันทุเรศลูกตา!? มิวนิสต์พูดจบก็ถลึงตาใส่ฉันแล้ววางเงินลงบนเคาน์เตอร์ ก่อนจะลากคอเสื้อของนาซีจากไปแทบจะทันทีที่พูดจบ


กรี๊ด! ไม่รอให้ฉันกรี๊ดใส่หน้าก่อนเล่า ไอ้ผู้ชายปากร้ายกาจ


?แม่หนู พ่อหนุ่มรูปหล่อคนนั้นเขาหาว่าแม่หนูเล่นมุกควายๆ น่ะ? ถึงป้าไม่พูดหนูก็เข้าใจดีอยู่แล้ว ผู้ชายอะไรปากคอเราะร้ายชะมัด มุกควายๆ เรอะ แบบนี้เขาเรียกมุกยอดฮิตต่างหากเล่า!


ฉันก้มหน้ามองเสื้อเชิ้ตนักเรียนสีขาวที่เลอะน้ำแดงอย่างเซ็งๆ มุกจีบนาซีของฉันใช้ไม่ได้ผลไม่พอ ยังต้องมาเจอเรื่องซวยๆ แบบนี้อีก


ฉันเดินมาที่ก๊อกน้ำข้างๆ โรงอาหารแล้วดึงเสื้อเชิ้ตออกมานอกกระโปรงนักเรียน ก้มร่างลงไปบนก๊อกน้ำเพื่อล้างคราบน้ำแดงออกไปจากเสื้อนักเรียนสีขาว


?ล้างหน้าหน่อยดีกว่า จะได้สดชื่น? ฉันรองน้ำใส่มือแล้วยกขึ้นลูบหน้าตัวเองจนเปียกชุ่ม


?น้ำเย็นดีจัง?


?เฮ้! เธอ? เสียงคุ้นหูจากด้านหลัง


?อะไรของนายอีก ไม่ต้องมาหาเรื่องฉันเลยนะ? ฉันพูดกับเขาทั้งๆ ที่ยังไม่ได้หันกลับไปมอง ใครจะเดาไม่ออกล่ะ เสียงแบบนี้น่ะของมิวนิสต์ ผู้ชายปากร้ายกาจคนนั้น


?พูดจาไม่น่ารักเลยนะเธอนี่? ย่ะ! ฉันรู้ตัวว่าไม่น่ารัก ก็อย่ามายุ่งวุ่นวายกับฉันสิยะ


?ช่างฉันเถอะ!? ฉันบอกพร้อมกับก้มหน้าลงอย่างเขินๆ ทำไมถึงรู้สึกหน้าร้อนวูบขึ้นมา


?นี่เธอมีไข้รึเปล่า ทำไมหน้าแดงแบบนั้น? อยู่ๆ มิวนิสต์ก็มาดึงหน้าฉันจากด้านหลัง เล่นเอาหัวใจฉันเต้นตึกๆ


?ปล่อยนะ อย่ามายุ่งกับฉัน...ว้าย!? ฉันผลักมิวนิสต์พร้อมกับมือที่ไปคว้าก๊อกน้ำจนสายน้ำไหลพุ่งกระจายออกมาจนเปียกร่างของฉัน มิหนำซ้ำมันยังลามไปถึงร่างสูงที่อยู่ด้านหลังอีกต่างหาก


ฮือๆ ซวยไม่มีวันสิ้นสุด


?นี่เธอ...? ฉันหันไปมองหน้ามิวนิสต์ที่ตอนนี้ตาขวางใส่ฉันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อกันเลยทีเดียว


...เหวอ!


?ฉันขอโทษ พอดีว่ามือมันไปดะ...? แต่ว่าใบหน้าของมิวนิสต์เปลี่ยนเป็นแดงแปร๊ด ดวงตาเรียวรีคมกริบของเขาจับจ้องมาที่ร่างของฉัน


ฉันค่อยๆ ก้มมองตามสายตาของมิวนิสต์ แล้วก็พบว่า...เสื้อนักเรียนสีขาวเปียกโชกของฉันนั้นมันเห็นไปถึงเสื้อชั้นใน


?กรี๊ด! นี่นายมองอะไรของนายน่ะ? ฉันยกมือขึ้นพร้อมกับหันหลังให้เขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ


?เธอนี่ไม่ระวังตัวเอาเสียเลย จำเอาไว้บ้างสิว่าตัวเองน่ะเป็นผู้หญิง? คำพูดนี้มาพร้อมกับอะไรบางอย่างคลุมร่างของฉัน เสื้อนักเรียนแขนยาวสีขาวของเขานั่นเอง


?ไม่ต้องมายุ่งกับฉันหรอกน่า...? ฉันพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ แต่ก็เอามือดึงเสื้อเชิ้ตของเขากระชับเข้ามา


อยู่ๆ ก็มาใจดีถอดเสื้อของตัวเองให้ฉัน รู้สึกขนลุกชอบกล ถ้าหากเป็นผู้ชายคนอื่นจะไม่ว่าอะไรเลยนะ แต่เป็นอีตามิวนิสต์นี่สิ มันถึงได้น่ากลัว


เมื่อหันกลับไปมองก็พบกับร่างเปลือยท่อนบนเผยให้เห็นผิวขาวเนียนละเอียด ต้นแขนมีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ที่ดูไม่ใหญ่จนเกินไป หน้าท้องมีกล้ามเนื้อเป็นซิกแพ็ค เมื่อบวกกับเอวคอดในแบบผู้ชายทำให้เขาดูแมน กางเกงนักเรียนทรงเท่ที่มันหลุดต่ำเกือบชายสะโพกนั้นมีขอบบ๊อกเซอร์โผล่ออกมาเพียงเล็กน้อย ฉันรู้สึกว่าลมมันกำลังออกหู หน้ามันเหมือนกำลังจะมืดดับไปทันทีที่ได้เห็น


?คือ...ฉันไปเอาเสื้อพละที่ล็อกเกอร์ก็ได้ นะ...นายไม่ต้องถอดเสื้อหรอก?


?ใส่ๆ ไปเถอะน่า เธออยากโชว์นักหรือไง ไอ้อกเล็กๆ นั่นน่ะ? กรี๊ด! ไอ้ผู้ชายปากร้ายกาจ


?แล้วก็ไปที่ล็อกเกอร์กันสักทีสิ หรือจะให้ฉันยืนโชว์อยู่แบบนี้ฮะ!? เขาตะคอกอีกครั้งเมื่อเห็นฉันยืนอ้ำอึ้งอยู่กับที่


?รู้แล้ว? ฉันรีบเดินนำเข้าไปที่ล็อกเกอร์ ร่างสูงเดินตามหลังมาพร้อมๆ กับยกมือขึ้นยีผมสีดำที่เปียกโชกไปมาด้วยความหงุดหงิด ให้อารมณ์แบบหนุ่มมาดเซอร์ผู้มีปณิธานอาจหาญยิ่ง


แต่ไม่ว่าจะเดินผ่านไปทางไหน เขาก็เรียกความสนใจจากคนรอบๆ ข้างได้เป็นอย่างดี ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้ชายด้วยกัน น่าอิจฉาพิลึก เกิดมาดูดีเกินไป ทำใจให้ไม่อิจฉาลำบากจริงๆ เลยแหะ เอ่อ...ฉันนี่เป็นผู้หญิงที่ชอบคิดอะไรแปลกๆ ชอบกล เมื่อมาถึงล็อกเกอร์ ฉันมองซ้ายมองขวา ไม่มีใครอยู่เลย มีเพียงเราสองคนในห้องนี้เท่านั้น เป็นผู้หญิงบางคนได้อยู่กับมิวนิสต์สองต่อสองคงดีใจกระโดดโลดเต้นไปแล้ว แต่กับฉันไม่ใช่ เพราะผู้ชายคนนี้ปากไม่น่าคบเลยสักนิด


?อ๊ะ! ขอบใจมากนะ? ฉันดึงเสื้อพละออกมาจากล็อกเกอร์แล้วคืนเสื้อนักเรียนของเขา


?ดูสิ เสื้อฉันก็เปียกไปด้วย เธอนี่ทำอะไรงี่เง่าชะมัด? เขาบ่นพร้อมกับเดินไปที่ถังขยะ แล้วก็โยนเสื้อนักเรียนลงไปในนั้น


?เฮ้ย! นายทิ้งเสื้อทำไมน่ะ?


?ก็มันเปียก ใครจะไปใส่อีกเล่ายัยโง่!? เขาพูดขึ้นหน้าตาเฉยแล้วเดินไปเปิดล็อกเกอร์อีกฝั่งที่เป็นของชั้นมัธยม 6 ฉันเดินตามไปใกล้ๆ เห็นเขาดึงเสื้อยืดสีขาวเพ้นท์ลายสีดำขึ้นมาสวมแทน


เท่มาก! เมื่อเขาใส่เสื้อยืดธรรมดาๆ แบบนั้น แบบว่าฉันเพิ่งเคยเห็นมิวนิสต์สวมชุดไปรเวทเป็นครั้งแรกน่ะ


?มองอะไรของเธอ? เอ่อ...สงสัยฉันจะชื่นชมความหล่อของเขามากไปหน่อย ฉันรีบเสหน้าไปมองทางอื่นอย่างเขินๆ มิวนิสต์เดินมายืนอยู่ด้านหลังของฉันพร้อมกับกระซิบข้างหูของฉันอีกต่างหาก


?ทำอะไรไม่ระวัง ถ้าเมื่อกี้ไม่ใช่ฉัน เธอไม่คิดเลยเหรอว่าจะเกิดอะไรขึ้น? จากนั้นเขาก็ยกมือข้างหนึ่งดันล็อกเกอร์เอาไว้


?กะ...ก็ใครจะไปรู้ล่ะ เอ่อ...คือช่วยออกไปห่างๆ ฉันจะได้มั้ย?


?จะให้ออกไปไหนล่ะ ก็เมื่อกี้เธอมองฉันซะหยาดเยิ้ม อย่าบอกนะว่าไม่ได้คิดอะไรน่ะ?


?ปะ...เปล่านะ! ละ...แล้วเมื่อกี้นายมีธุระอะไรกับฉันใช่มั้ยล่ะ?


?ก็มีแต่ตอนนี้ช่างมันเถอะ และไม่ต้องคิดมาก เพราะฉันไม่คิดจะทำอะไรคนบ้าหรอกรู้เอาไว้ซะด้วย ฮ่าๆ? มิวนิสต์พูดจบก็เดินหัวเราะออกไปจากล็อกเกอร์


?นายต่างหากเล่าที่บ้าน่ะ!? ฉันตะโกนพร้อมกับจับหัวใจที่เต้นรัว


อย่าหวั่นไหวนะแสนแสบ เธออย่าหวั่นไหวกับผู้ชายคนนี้!






-----------
แค่เริ่มเพียงไม่นานก็ดูท่าว่านางเอกของเราจะหวั่นไหวซะแล้ว แล้วอย่างนี้แผนการสืบความลับของเธอจะรอดหรือไ่ม่ ติดตามความสนุกแบบเต็มที่ได้ในเล่มจากร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปและ 7-11 ค่ะ เรื่องนี้ได้รับเลือกให้เป็น Book of The Month ประจำเดือนกันยายน ปี 2010 ด้วยนะคะ



ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”