เรื่องย่อ
นิสัยที่เย่อหยิ่งและไม่สนใจใครทำให้เพื่อนผู้หวังดีแนะนำให้ปารีสทำงานที่โรงพยาบาลสัตว์ของเพื่อนรุ่นพี่ เธอจึงได้พบกับราฟาเอล เจ้าของโรงพยาบาลพระจันทร์เต็มดวงที่แสนโหด หนำซ้ำบ้านที่เธอเพิ่งซื้อใหม่เพียงเพราะคอนโดที่อยู่เลี้ยงสุนัขไม่ได้ก็มีเพื่อนบ้านเป็นเขาอีก ทำให้ชีวิตเธอต้องติดแง็กอยู่กับเขา ซึ่งเขาก็ดูจะยินดีปรีดาเหลือเกินที่เป็นอย่างนั้น ทว่าในคืนพระจันทร์เต็มดวงเธอกลับได้ยินเสียงแปลกประหลาดมาจากข้างบ้าน ทั้งเสียงตึงตังทำลายข้าวของที่น่าหวาดกลัวและ ...เสียงของหมาป่า!
1
ปัง!! โครม!!
ฉันโยนช่อดอกไม้เกือบสิบช่อลงบนเตียงหลังจากปิดประตูห้อง วันนี้เป็นวันรับปริญญาของฉัน ใช่...ตอนนี้ฉันสามารถเรียกตัวเองว่าสัตวแพทย์หญิงได้เต็มปากแล้ว สำเร็จแล้ว! เวลา 6 ปีที่แสนยาวนานของฉัน
ปารีสคนสวย รับโทรศัพท์ดิ~ เสียงเรียกเข้าที่ฟังกี่ครั้งก็อยากลบมันทิ้งซะให้ได้ แต่นี่มันเป็นสิ่งสุดท้ายที่เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวในโลกของฉันทิ้งไว้ให้ เฮ้ๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด หมอนั่นยังไม่ตาย แค่ไปเรียนต่อที่เดนมาร์กและทิ้งฉันให้ค้างเติ่งอยู่เมืองไทยคนเดียว -_-;
?ฮัลโหล?
[ปารีส แม่เองนะจ๊ะ ^^]
?ค่ะ ว่าไงคะ?
[ตอนนี้แม่อยู่ลอนดอนจ้ะ ฝนกำลังตก ฮู้ววว หนาวมากเลย >.<] แม่ทำเสียงปัญญาอ่อนใส่ฉัน ขอโทษที่ต้องใช้คำพูดแบบนี้ แต่แม่ทำจริงๆ -_-
[ลูกสาวคนสวยของแม่ทำอะไรอยู่จ๊ะ]
?เพิ่งไปรับปริญญากลับมาค่ะ?
[ตายแล้ว! แม่ลืมได้ยังไงกัน OoO] แม่ทำเสียงตกใจสุดขีดเสมือนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แม่ลืมวันสำคัญของฉัน ฮึ! เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจนเป็นเรื่องปกติสำหรับฉันไปแล้ว ฉันไม่เคยได้รับคำอวยพรวันเกิดจากแม่เลยสักปีตั้งแต่เกิดมา เพราะแม่จำไม่เคยได้ นี่ก็แค่วันรับปริญญา -_- จะไปสำคัญอะไรกันล่ะ
?ไม่เป็นไรค่ะ แม่มีอะไรหรือเปล่าคะ?
[ลูกอยากได้อะไรเป็นของฝากจากลอนดอนจ๊ะ]
?ไม่มีค่ะ ค่าโทรศัพท์แพง แค่นี้นะคะ ตี๊ด!? ฉันวางสายจากแม่ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงขนาดใหญ่ วันนี้เหนื่อยจัง น่าแวะไปนวดตัวสักหน่อย แต่ก็นะ จะให้ขับรถอีกวันนี้ฉันก็ขี้เกียจเกินแล้ว นอนเอาแรงที่ห้องดีกว่า พอตัดสินใจได้ว่าจะทำอะไร ฉันก็กวาดช่อดอกไม้ลงไปไว้ข้างๆ เตียงให้พวกมันไปนอนกระจัดกระจายที่พื้น ก็แค่ช่อดอกไม้ จะสนใจทำไมนักหนา เดี๋ยวก็เหี่ยว ฉันจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวเอง จากนั้นก็กลับมานอนแผ่ที่เตียง (_ _)zZ
ปารีสคนสวย รับโทรศัพท์ดิ~ ใครโทรมาอีกล่ะเนี่ย! ฉันเพิ่งเอาหนังตาติดกันเมื่อกี้เองนะ
?ฮัลโหล? ฉันกระชากเสียงเบาๆ ต้องการบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าฉันไม่สบอารมณ์อย่างรุนแรงที่ถูกรบกวนเวลานี้
[ทำเสียงแบบนี้ นอนอยู่ล่ะสิ] น้ำเสียงร่าเริงอันคุ้นเคยทำให้ฉันเด้งตัวลุกขึ้นมาจากเตียง
?มอส!?
[ฮ่าๆ ไม่ต้องทำเสียงดีใจขนาดนั้นก็ได้] หมอนี่คือเพื่อนสนิทคนเดียวที่ฉันมีในโลก ย้ำ! คนเดียวในโลก
?แกยอมสละเงินโทรข้ามซีกโลกมาหาฉัน มีอะไรจะใช้ฉันบอกมา?
[ยัยบ้า! ฉันโทรมาแสดงความยินดี วันนี้เป็นสัตวแพทย์หญิงแล้วสินะ]
?จำได้ด้วย? แล้วทำไมไม่บินเอาดอกไม้มาให้ด้วยล่ะ?
[แกคิดว่าค่าตั๋วเครื่องบินมันถูกหรือไงหา!] แล้วแกจะตะโกนใส่หูฉันทำไมล่ะ =_=
?แกไม่มาฉันไม่มีคนถ่ายรูปด้วยเลย?
[แม่แกล่ะ ไม่ไปเหรอ]
?แม่ลืม? จากนั้นมอส ไอ้เพื่อนนรกสาปก็ระเบิดเสียงหัวเราะระดับนรกออกมา ถ้าอยู่ใกล้ๆ จะตบให้หัวโม่งโลกเลย -_- ?แกจะโทรมาหัวเราะเยาะฉันย่างเดียวใช่มั้ย งั้นวางไปเลย?
[เฮ้ยๆ แกอย่าเพิ่งงอนดิ ฉันจะถามว่าแกมีงานทำหรือยัง]
?มีติดต่อมานะ แต่ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจ ทำไม??
[เออดีแล้วๆ ฉันมีรุ่นพี่เขาไปเปิดโรงพยาบาลสัตว์อยู่ หมอขาดพอดีเลย แกไปช่วยหน่อยดิ]
?หา! แกจะให้ฉันทำงานที่นั่นเหรอ?
[เออดิ ไปช่วยพี่เขาหน่อยนะ เขาเคยมีบุญคุณกับฉัน]
?มีบุญคุณกับแก ไม่ได้หมายความว่ามีกับฉัน?
[ไปให้หน่อยนะ ดีกว่านอนเหงาๆ อยู่บ้านคนเดียว] มอสพูดโอดโอย ทำเสียงรู้ทันจนน่าหมั่นไส้
?ใครบอกแกว่าฉันเหงา?
[ฉันรู้เอง ^O^//]
?ไม่คุยกับแกแล้ว ส่งเมลที่อยู่ไอ้โรงพยาบาลของแกมาแล้วกัน ชิ!? ฉันวางสายจากมอส ล้มตัวลงนอนเหมือนเดิม อืม...ทำงานก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องอยู่ห้องคนเดียว เพราะอยู่ไปฉันก็ไม่มีอะไรทำอยู่ดี ถึงจะมีเงินใช้ก็เถอะนะ -_- ขอโทษนะที่บ้านรวย
เฮ้อ...ไปก็ไป แต่ก่อนพรุ่งนี้จะไปทำงาน ฉันไปท่องราตรีสักหน่อยดีกว่า อย่างน้อยก็ถือว่าฉลองเรียนจบให้ตัวเอง การตัดสินใจครั้งที่สองทำให้ฉันใช้เวลาหมดไปกับการแต่งตัวถึงสองชั่วโมง ก่อนจะมาโผล่ที่นี่!
ฉันเดินเข้าผับชื่อดังคนเดียว การไปไหนมาไหนคนเดียวเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับฉัน ฉันเดินเชิดเข้าไปข้างในหลังจากผ่านการตรวจบัตรเรียบร้อย
วี้ด วิ้ววว~ เสียงนกเสียงกาส่งเสียงขันรับกันเป็นทอดๆ ทันทีที่ฉันเดินผ่าน บรรพบุรุษพวกแกเกิดเป็นนกเขาหรือไง เฮอะ! เรื่องพวกนี้ฉันก็เจอเป็นประจำอีกแล้วนั่นแหละ
?เตกีล่าหนึ่งแก้ว? ฉันสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์ เขาพยักหน้ารับเบาๆ
?ข้างๆ ว่างมั้ยครับ? ฉันเหลือบหางตามองผู้ชายที่เข้ามาใกล้ หน้าตาหมอนี่ก็ดูดีนะ มีส่วนละม้ายคล้ายคนอยู่บ้าง แต่ก็ยังห่างไกลกับคำว่าคนประมาณสามล้านปีแสง
?ชื่ออะไรเอ่ย~? หมอนี่ลากเสียงยาวถามชื่อฉัน ฟังแล้วอยากจะอ้วก ?ผมแดน?
?.....? แดนนรกน่ะเหรอ เหมาะดีนี่ ฮึ!
?เรียนที่ไหนฮะ?
?.....? ยังหน้าด้านไม่ไป ได้ข่าวว่าฉันไม่ได้พูดอะไรกับแกสักคำเลยนะ
?มารอใครหรือเปล่าครับ?
?.....?
?ผู้หญิงบ้าอะไร คิดว่าสวยแล้วจะทำหยิ่งได้เหรอ? หมอนั่นพ่นคำที่แสดงความเป็นสุภาพบุรุษออกมา ดูเหมือนในตัวหมอนี่จะมีมากซะด้วยสิ ฉันไม่คิดจะโต้ตอบกับคนที่มีมันสมองระดับนี้หรอกนะ เสียเวลา!
หลังจากไอ้หน้าห่างไกลความเป็นคนลุกไป ฉันก็นั่งดื่มและก็ฟังเพลงอยู่คนเดียว ฉันมักจะมาเที่ยวแบบนี้คนเดียวประจำ ไม่มีเพื่อนมาแต่ก็ไม่ต้องนั่งกดรีโมททีวีที่ห้องคนเดียว
?Hi!!? รอบนี้ฝรั่งเหรอ -_- และแน่นอน สิ่งที่ฉันทำก็คือการใช้หางตามองนายฝรั่งที่มาใหม่
ว้าว! คนนี้หล่อแฮะ หลุดพ้นจากระดับคนธรรมดาเข้าขั้นเทพบุตรเลยนะเนี่ย ผมสีทองแต่สีตาฉันมองไม่ชัด ก็ในนี้มันมืดนี่นา แต่สรุปได้ว่าหล่อ แต่ถึงจะหล่อขนาดไหน สิ่งที่ได้รับจากฉันกลับไปก็มีเพียงแค่การมองด้วยหางตาเท่านั้น
?เตกีล่าสองแก้ว? เขาหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์ พูดไทยได้ ชัดซะด้วยนะ แต่เดี๋ยวนะ ฉันจะสนใจมันทำไม -_-
?ฉันเลี้ยง ^^? นายฝรั่งหน้าเทพบุตรเลื่อนแก้วเตกีล่ามาให้ฉัน ฉันก็ทำแค่เหลือบตามองและหันกลับมาที่เดิม ส่งคำทักทายให้เป็นภาษาใบ้อย่างที่ฉันถนัด ?พูดกับฉันสักคำคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง ^^?
?.....?
?ชื่ออะไร ฉันราฟ ^^? หมอนี่ยื่นมือออกมาทักทายตามแบบฉบับของสากลโลก ฉันได้แต่มองมือนั้นอย่างไม่คิดจะใส่ใจ ขอโทษนะ ฉันเป็นคนไทย และอีกอย่างนายอยู่ในเมืองไทย เพราะฉะนั้นกรุณาทักทายแบบคนไทยย่ะ!!
?ปารีส? แต่ในที่สุดฉันก็บอกชื่อตัวเองกับคนแปลกหน้าจนได้ แต่ก็แค่ไม่อยากให้หมอนี่คิดว่าคนไทยอย่างเราไม่มีมารยาทก็แค่นั้นเอง
?นี่ของเธอ? หมอนี่ยังพยายามส่งแก้วเตกีล่าแก้วนั้นให้ฉัน
?ขอบคุณ? ฉันรับมันมา แต่ก็ไม่คิดจะดื่ม มันไม่ใช่วิสัยของฉันน่ะ การดื่มเครื่องดื่มของคนที่ไม่รู้จักเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่งในสถานที่แบบนี้ โดยเฉพาะคนที่มาเที่ยวคนเดียวอย่างฉัน
?มาเที่ยวคนเดียวบ่อยเหรอ ^^?
?.....? ฉันไม่ตอบ แค่การพยักหน้าเบาๆ ก็น่าจะพอแล้วสำหรับคนที่ไม่รู้จัก
?มาคนเดียวแบบนี้อันตรายนะ?
ฉันยังไม่พูดอะไร ได้แต่เหลือบตาไปมองเขาอย่างไม่พอใจ นายได้สิทธิ์สั่งสอนฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!
?ฉันมาบ่อยแต่ก็ยังไม่เคยเป็นอะไรกลับไป แต่ขอบใจในความหวังดี? ฉันหันไปพูดกับเขา ก่อนจะเชิดหน้ากลับอย่างที่ถนัด
?ถ้ามีเพื่อนมาด้วยก็ดีนะ ^^? เพื่อนฉันมี แต่มีคนเดียว และตอนนี้มันก็สะแหลนไปอยู่เดนมาร์กแล้ว!
?ถ้ามาคราวหน้า ฉันมาเป็นเพื่อนเธอก็ได้นะ?
?ฉันไม่ต้องการ ขอบใจ?
นายฝรั่งนั่นยิ้มกว้างก่อนจะระเห็จตัวเองไปจากตรงนี้ คงรับรู้ได้แล้วมั้งว่าฉันไม่อยากเสวนาด้วย
?เตกีล่าแก้วนั้นฉันไม่ได้ใส่ยาอะไร?
?-*-?
?แล้วเจอกัน ปารีส? นายนั่นทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินจากไป
แล้วเจอกัน? อย่าได้หวังเลยว่าจะเป็นชาตินี้!!
2
ฉันขับรถมาตามที่อยู่ที่มอสส่งอีเมลมาให้ หือ...ตรงนี้เหรอ? ตึกห้าชั้นเนี่ยนะโรงพยายาบาลสัตว์ ฉันจอดรถอยู่หน้าโรงพยาบาล ชั่งใจอยู่ว่าจะกลับเลยดีมั้ย ไอ้ตึกห้าชั้นนี่ไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่เลย แต่เอาเถอะ ไหนๆ ก็มาแล้ว ไปดูสักหน่อยก็ได้
ฉันลงจากรถ ถอดแว่นกันแดดออก เงยหน้ามองป้ายชื่อโรงพยาบาลให้ชัดๆ อีกครั้ง ป้ายนั้นติดอยู่บนสุดของตึกเขียนว่า...โรงพยาบาลสัตว์ พระจันทร์เต็มดวง ชื่อสะเหล่อมาก -_-^ ไอ้มอสมันจะรู้มั้ยว่าชื่อโรงพยาบาลสัตว์ของรุ่นพี่มันเชยหลุดโลกขนาดนี้ ฉันตัดสินใจเปิดประตูกระจกเข้าไปข้างใน สิ่งแรกที่ฉันเจอคือเคาน์เตอร์ลงทะเบียนของเจ้าของไข้
?โรงพยาบาลพระจันทร์เต็มดวง สวัสดีค่ะ!? พนักงานประจำเคาน์เตอร์ตะโกนต้อนรับฉัน ขอบอกอีกครั้งว่าเป็นการตะโกน!
?ฉันมาหาเจ้าของโรงพยาบาลค่ะ? ไอ้มอสมันไม่ได้บอกชื่อตาเจ้าของนั่นมาด้วยสิ ดูมันทำสิเนี่ย มาพูดแบบนี้ใครเขาจะให้พบกัน
?คุณราฟาเอลเหรอคะ? ถ้ามีนาดาลต่อท้าย หมอนี่คงเป็นนักเทนนิสแทนเจ้าของโรงพยาบาลสัตว์ -_-
?คิดว่าใช่? ฉันตอบไปอย่างไม่มั่นใจ
?เชิญที่ชั้นสาม ห้องซ้ายมือสุดนะคะ? หล่อนชี้ไปที่บันไดทางขึ้น ฉันพยักหน้าเข้าใจ น่าแปลกใจกับการให้เข้าพบอย่างง่ายๆ แบบนี้ ระหว่างเดินฉันก็สำรวจไปด้วย ชั้นสองเอาไว้ให้สัตว์พวกที่ต้องแอดมิทสินะ อืม...ใหญ่ไม่เบานี่ ฉันเดินขึ้นมาถึงชั้นสาม เมื่อกี้ยัยโทรโข่งนั่นบอกว่าห้องซ้ายสุดสินะ
ก๊อกๆๆ ฉันเคาะประตูห้องที่มีป้ายชื่อติดอยู่ ...ราฟาเอล คลีฟ ทำไมรู้สึกคุ้นๆ กับชื่อนี้ยังไงบอกไม่ถูก แต่ใครมีชื่อที่เลียนแบบเทวดาแบบนี้ฉันว่าฉันคงไม่รู้จักหรอกมั้ง
?เชิญครับ? กว่าจะตอบกลับ ทำไมไม่รอให้พระอาทิตย์ตกดินก่อนล่ะ ฉันเปิดประตูเข้าไป นายเจ้าของโรงพยาบาลนั่นนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน สภาพบนโต๊ะอุบาทว์สิ้นดี กระดาษ A4 กระจายทั่วโต๊ะ นี่น่ะเหรอโต๊ะเจ้าของโรงพยาบาล ไม่มีความน่าเกรงขามเลยสักนิด แล้วนี่มันห้องบ้าอะไรกัน หน้าต่างไม่มีสักบาน ง่ายๆ คือรูของห้องนี้มีก็แค่ประตูบานเดียว ทึบขนาดนี้อยู่เข้าไปได้ยังไง ที่สำคัญห้องนี้มีแค่โต๊ะทำงานของหมอนี่กับชุดโซฟารับแขกสีแดงที่อยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง
?ฉันมา...?
?ฉันรู้ เธอมาเป็นหมอใช่มั้ย? ไอ้นี่เป็นใคร ทำไมรู้จักฉัน หรือว่ามอสมันบอกนายนี่ไว้แล้ว
?ในเมื่อรู้ว่าฉันมาทำไม คำตอบว่าไงล่ะ? ฉันเลือกที่จะยืนมากกว่านั่งใกล้ไอ้โต๊ะขยะนั่น ส่วนนายเจ้าของที่นี่ก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นมาคุยกับฉัน เอาแต่อ่านไอ้เอกสารบ้าบออะไรอยู่ก็ไม่รู้ มารยาททรามสิ้นดี
?ขออีกห้านาที? เขาพูดขึ้นมาเฉยๆ แต่ก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นมา ฉันเริ่มมีน้ำโหแล้วนะ อยู่ๆ บอกให้รอ นายคิดว่าฉันเป็นใครกัน! อย่าคิดจะทดสอบความอดทนของฉันเพราะมันมีต่ำมาก (จนเกือบไม่มี =_=;;)
?อ้า เสร็จแล้ว ^^? เขาพูดขึ้นเฉยๆ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมา เฮ้ย!!! นายฝรั่งเทพบุตรเมื่อวานนี้นี่
?นาย...? ฉันชี้นิ้วไปที่ผู้ชายผมสีทอง ส่วนไอ้ตาสีฟ้าเมื่อวานที่มองไม่เห็น วันนี้มองเห็นชัดเจนเลย
?ฉันเอง ยินดีที่ได้พบอีกครั้ง? บอกตามตรง ฉันไม่มีความยินดีเลยสักนิด -_-
?นั่งก่อนสิ? เขาชี้ไปที่เก้าอี้รับแขกข้างหน้าฉัน ฉันเชิดหน้าขึ้นและไม่ขยับเข้าไปใกล้มัน ?^^?
?อย่าลีลา ในเมื่อรู้ว่าฉันมาทำไมก็รีบตอบมาว่าจะเอายังไง ฉันจะได้กลับ?
?ฉันตกลงอยู่แล้ว ^^? ยิ้มอะไรนักหนา ชีวิตนายจะมีความสุขทั้งชาติเลยหรือไง เห็นแล้วหงุดหงิด
?งั้นฉันกลับล่ะ? ฉันเตรียมหมุนตัวจะเดินออกไป
?เดี๋ยวสิ?
?อะไรอีก? ฉันถามกลับไป น้ำเสียงติดรำคาญนิดๆ ฉันไม่มีนโยบายประจบเจ้านายหรอกนะ เพราะฉะนั้นอย่าคิดหวังคำพูดดีๆ จากฉัน ไม่มีทางจะได้
?เธอทำงานทุกวันได้มั้ย?
?เฮ้! ฉันคนนะ ต้องมีเวลาพักผ่อน?
?วันพระจันทร์เต็มดวงเราจะปิดครึ่งวัน ต่อจากวันพระจันทร์เต็มดวงเป็นวันหยุดของเธอก็ได้ ^^?
เดี๋ยวนะ หมอนี่กำลังพ่นอะไรอยู่ ฉันไม่เข้าใจ แล้วหนึ่งเดือนมีพระจันทร์เต็มดวงกี่ครั้ง?
?ช่วยพูดภาษาคนได้มั้ย -_-^? ฉันยืนกอดอก เชิดหน้า รอฟังคำตอบจากนายนั่น
?ง่ายๆ คือเธอได้หยุดเดือนละครั้ง ซึ่งมันเท่ากับวันครึ่ง?
?วันครึ่ง?? อะไรของมัน ฉันชักจะหมดความอดทนแล้วนะ
?โรงพยาบาลเราเปิด 24 ชั่วโมง ฉันจะให้เธออยู่เวรตอนเที่ยงคืนถึงแปดโมงเช้าสามวัน?
?นายจะบ้าเหรอ!?
?ฟังฉันก่อนเซ่ -O-? ฉันมองเขาอย่างไม่พอใจ เชิดหน้าขึ้นแต่ก็ยืนฟังต่อ ?ถึงฉันจะบอกว่าเที่ยงคืนถึงแปดโมงเช้า แต่ช่วงเวลานี้ไม่ค่อยจะมีเคสเข้ามา ฉันมีที่พักให้หมอที่อยู่เวรดึก ถ้ามีเคสเข้ามา เจ้าหน้าที่ของเราจะขึ้นไปตามเธอ?
?ง่ายๆ คือถ้าเวรดึกฉันไม่ต้องนั่งเฝ้าโรงพยาบาลใช่มั้ย?
?(-_-) (_ _) (-_-) (_ _)? แบบนั้นก็ค่อยยังชั่วหน่อย จะให้ฉันมานั่งเฝ้าโรงพยาบาลร้างตอนกลางคืนน่ะฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ
?ตกลง?
?ยินดีต้อนรับ ^^?
ที่นี่มีหมออยู่ 5 คน (รวมฉัน) เป็นผู้หญิง 3 คน หนึ่งในนั้นเป็นรุ่นพี่ของฉัน ยังมีชายที่ไม่ใช่ชายหนึ่ง และก็ชายทั้งแท่งอีกหนึ่ง ฉันนั่งพักอยู่ในห้องพักอเนกประสงค์ เรียกแบบนี้คงไม่ผิดนะ? เพราะห้องนี้น่ะใช้เป็นทั้งห้องชงกาแฟ ห้องพักเวลาไม่มีเคส ห้องเซ็นชื่อเข้างาน จะไม่ให้อเนกประสงค์ได้ยังไง และวันนี้ฉันเข้าเวรเช้าคู่กับเอมมี่ ผู้ชายที่ไม่ใช่ผู้ชายคนนั้นแหละ
?หมอปารีสคะ? ผู้ช่วยหมอโผล่หน้ามาตามฉัน งานเข้าแล้วสินะ -_- ฉันพยักหน้าให้ยัยเตี้ยนั่นก่อนจะเดินตามเธอออกมา ถ้าจำไม่ผิดฉันว่าเธอชื่อแยมนะ (หรือเปล่า?)
แมวเปอร์เซียตัวอ้วนสีขาวปลอดยืนรอฉันอยู่บนโต๊ะผ่าตัด มีเจ้าของที่เป็นเด็กสาวยืนอยู่ข้างๆ เจ้าอ้วนพยายามเดินเข้าไปหาเจ้าของ เธอพยายามจับมันให้ยืนอยู่กับที่
?ประวัติค่ะ? ยัยแยมยื่นประวัติของเจ้าอ้วนให้ฉัน อืม...เจ้านี่ชื่อชาแนล อายุ 2 ปี น้ำหนัก 6 กิโล อ้วนไปนิดนะ
?เป็นอะไรมา...คะ? การพูดเพราะๆ กับคนไม่รู้จักค่อนข้างเป็นอุปสรรคกับฉันพอสมควร แต่ท่องเอาไว้ ฉันเป็นสัตวแพทย์...ฉันเป็นสัตวแพทย์
?มาฉีดวัคซีนลูคีเมียค่ะ? เธอบอก ขณะที่เจ้าอ้วนกำลังเอาหัวถูๆ ไถๆ อยู่กับมือของหล่อน ฉันเปิดดูประวัติการฉีดวัคซีนของเจ้าอ้วน อืม...ครบกำหนดวันนี้พอดี
?เขากัดมั้ยคะ? ฉันถามเจ้าของแมว เธอส่ายหน้านิดๆ ถ้าไม่กัดก็ให้เจ้าของอุ้มแล้วฉีดยาก็ได้ ฉันสอนวิธีจับเจ้าเหมียวให้เธอ เพื่อความปลอดภัยของตัวเธอ เจ้าเหมียวและตัวฉันเองด้วย -_-
การฉีดวัคซีนผ่านไปราบรื่น เจ้าแมวอ้วนไม่ได้โวยวายอะไร แต่ถ้าเป็นแมวไทยแขนฉันคงแหกไปแล้วล่ะ ไอ้แมวบ้าประเภทนั้นเปรี้ยวจะตาย
?อีกหกเดือนมาฉีดอีกเข็มนะคะ? ฉันเซ็นกำกับลงในใบประวัติการฉีดวัคซีนของเจ้าชาแนล พร้อมกับบอกกำหนดการมาครั้งใหม่ให้เจ้าของทราบด้วย
?ค่ะ ^^?
ฉันเดินออกมาหลังบอกรายละเอียดทุกอย่าง ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายไม่ใช่หน้าที่ฉัน เป็นหน้าที่ของยัยพวกผู้ช่วยข้างนอก
?ปารีส ^^?
ฉันเดินเข้ามาในห้องอเนกประสงค์ แทนที่จะได้พักกลับต้องมาเจอนายเจ้าของโรงพยาบาลสติไม่ดีมานั่งเสนอหน้าอยู่ในห้องพัก
?มีอะไร -_-?? ฉันเดินไปเปิดตู้เย็น เทน้ำผลไม้ที่ฉันซื้อไว้ใส่แก้วของฉันที่เอามาเอง เรื่องอะไรจะใช้แก้วร่วมกับคนอื่น เป็นโรคติดต่อหรือเปล่าก็ไม่รู้
?ทำงานเหนื่อยมั้ย?
?ไม่?
?ว้า...ฉันจะลงมาให้กำลังใจเธอสักหน่อย? พูดไปหมอนี่ก็ยิ้มไป ความสุขของนายมันทะลักออกมานอกเบ้าตาแล้วนะ หมั่นไส้
?ฉันไม่ต้องการ? ฉันเชิดหน้าขึ้น ไม่เข้าใจว่านายนี่มายุ่งวุ่นวายกับฉันทำไม เมื่อเช้าหมอนี่ก็โทรมาตั้งแต่ค้างคาวยังไม่กลับถ้ำ โทรมาแค่บอกว่า ?อรุณสวัสดิ์?
?จะเที่ยงแล้ว ไปทานข้าวกัน ฉันเลี้ยงเอง?
?ฉันมีเงิน เรื่องแค่นี้ฉันดูแลตัวเองได้?
?ฉันแค่อยากเลี้ยงต้อนรับ ^^?
?ขอบใจ แต่ฉันบอกแล้วว่าไม่เป็นไร? ฉันกระดกน้ำผลไม้รวดเดียวหมด ก่อนจะถอดเสื้อกาวน์แขวน หยิบกระเป๋าและเดินออกจากห้องไปทันที ไม่คิดจะสนใจนายเจ้าของโรงพยาบาลนั่นด้วย บอกแล้วฉันไม่มีนโยบายประจบประแจงเจ้านาย
3
ฉันเดินเข้ามาในผับชื่อดัง ตรงดิ่งไปที่บาร์ทันที วันนี้วันศุกร์คนเลยแห่แหนกันมาแน่นร้าน ฉันสั่งเครื่องดื่ม ฟังเพลงมันส์ๆ แต่ไม่มีความรู้สึกอยากลุกออกไปเต้นเลยสักนิด ดูไอ้พวกที่เต้นอยู่สิ อย่างกับกิ้งก่าถูกถลกหนัง ทุเรศชะมัด - -*
?มาคนเดียวเหรอ? นี่เป็นผู้ชายคนที่แปดของคืนนี้ที่เดินเข้ามาถามฉันแบบนี้
?ได้ยินที่ฉันพูดมั้ยอ่ะ? ไอ้บ้านี่ขยับเข้ามาใกล้ฉัน เหม็นเหล้าชะมัด กลิ่นอย่างกับหมาตาย
?ถอยออกไป? ฉันบอกเสียงเฉียบ แต่ไอ้บ้านี่ไม่คิดจะสนใจ ยิ่งขยับเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น
?เธอนี่สวยนะ? เขายกมือขึ้นจับปลายผมฉัน ฉันปัดมือนายนี่ออก เชิดหน้าขึ้นสูง ใช้หางตามองเหมือนเขาเป็นแมลงสาบ สิ่งมีชีวิตที่ชวนให้รู้สึกขยะแขยงและไม่อยากเข้าใกล้
?เฮ้...ทำแบบนี่ออกจะเกินไปหน่อยนะ? ไอ้บ้านี่พ่นควันบุหรี่ใส่หน้าฉัน แค่กๆ ไอ้สารเลว! ฉันแพ้ควันบุหรี่นะโว้ย!!!
?ดับมันซะ!!? ฉันสั่งเสียงเย็น ดังพอจะได้ยินแน่ๆ แต่มันกลับมึนทำเป็นไม่สนใจ
ไม่ดับใช่มั้ย ได้! ถ้าอยากเจอดี เดี๋ยวจะให้แกได้เจอของดีจริงๆ ฉันเอื้อมมือออกไปคีบบุหรี่จากปากไอ้บ้านั่น ขว้างมันลงพื้นแล้วก็ใช้เท้าขยี้ให้มันดับ
?เฮ้ย!! ทำบ้าอะไรของเธอ?
?แหกตาดูป้ายมั่งมั้ย ที่นี่เขาห้ามสูบบุหรี่ โง่ชะมัด!? ฉันตะโกนด่าหมอนั่นเสียงดัง กะเอาให้มันอายมุดดินไปเลย แต่เสียงเพลงพวกนี้กลับดังกลบเสียงฉันจนไม่มีใครหันมาสนใจฉันเลย ไอ้เวรนั่นกระชากต้นแขนฉัน ดึงฉันเข้าไปใกล้มัน
?ปล่อย!? ฉันสั่ง แต่ไอ้สารเลวนั่นก็ยังไม่ยอมปล่อยฉัน
?หอมจัง? เขากดหน้าซุกลงมาที่ผมของฉัน ไอ้ชั่ว! นี่มันจะมากไปแล้วนะ!!
?ปล่อยฉันนะ ไอ้สารเลว!? ฉันพยายามสะบัดแขนออก แต่ดูเหมือนมันจะไม่มีความหมายอะไรเลยและยิ่งทำให้ไอ้บ้านั่นบีบแขนฉันแน่นขึ้นด้วย ฉันไม่คิดจะร้องโวยวายให้ใครช่วย เรื่องแค่นี้ฉันจัดการได้
?ปล่อยยัยนั่นซะ? เสียงทุ้มๆ ดังมาจากด้านหลังฉัน
?แกอย่าสอด?
?เห็นจะไม่ได้ล่ะนะ ดูเหมือนเธอจะไม่เต็มใจไปกับนาย?
?ยัยนี่เป็นแฟนฉัน เราทะเลาะกัน? ไอ้นรก! แกพูดมาได้ยังไง ฉันไม่มีรสนิยมคบหาควายธนูหรอกนะ!!
?นี่ปารีส เธอมีแฟนหน้าตาตะกวดแบบนี้เหรอ?
เขาเป็นใคร ทำไมรู้จักฉัน? แล้วทำไมเสียงคุ้นๆ นั่นเหมือนเคยได้ยินที่ไหน
?แล้วแกน่ะจะปล่อยแขนยัยนี่ได้หรือยังวะ!? คนมาใหม่ตะคอกใส่ไอ้หน้าตะกวด (ฉันเห็นด้วยกับหน้าตะกวด เพราะมันเหมือนมาก)
?ปล่อย!? เขาคนนั้นเดินเข้ามาจับแขนหมอนั่น
?ระ...ราฟ!!? เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง O_O!
-------
ดูท่าว่าพระเอกหัวทองหน้าหล่อของเราจะติดใจแม่สาวผู้เย่อหยิ่งคนนี้เข้าเสียแล้ว แต่ว่ามันไม่จบง่ายแน่ๆ เพราะว่าเรื่องวุ่นๆ ระหว่างทั้งสองคนยังมีอีกเยอะชนิดที่คาดไม่ถึงเชียวค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าจะมีอะไรอีกบ้างและเรื่องราวสนุก ป่วน ฮา เพราะความเพี้ยน (?) ของพระเอกขนาดไหน ติดตามในหนังสือ Bonny Werewolf ตกหลุมรักร้ายเจ้าชายหมาป่า ค่ะ หาซื้อได้ที่ 7-11 ร้านหนังสือชั้นนำ หรือทางเว็บไซต์ http://www.bongkoch.com/catalog/product ... ts_id=6566 ค่ะ