New Release!! Evader Valen กรุ่นกลิ่นอายแต่งหัวใจให้หลงรัก

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1073
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release!! Evader Valen กรุ่นกลิ่นอายแต่งหัวใจให้หลงรัก

โพสต์ โดย Gals »

สำหรับผลงานใหม่ล่าสุดอีกเล่มที่นำมาแนะนำให้กับคอนักอ่านมีชื่อเรื่องว่า Evader Valen กรุ่นกลิ่นอายแต่งหัวใจให้หลงรัก ผลงานของ Hairou ซึ่งเป็นเรื่องราวของ วาเลนท์ หญิงสาวเจ้าของร้าน Evader ที่ต้องการคนมาช่วยทำเค้กที่ร้าน จึงได้มาเจอกับ ลูคิน หนุ่มหล่อแสนซื่อที่มีฝีมือในเรื่องการทำเค้ก... ทั้งคู่เจอกันได้อย่างไร แล้วจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง ก็เชิญไปติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ


บทนำ

เพราะเค้ก... เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน =w=
เพราะฉัน... ขาดเค้กแล้วตาย T_T
เพราะฉะนั้นฉันจึงอยากจะเปิดร้านเค้ก หนึ่ง...เพื่อสนองตัณหาตัวเอง (-_-;;) อย่างที่สองคืออยากจะมีกิจการส่วนตัวของตัวเองมานานแล้ว แต่เพราะแม่ของฉันฮ้วงง ห่วงกับการที่ไม่อยากให้ฉันกินเค้ก... -*- ด้วยข้อหาเพราะกลัวว่าฉันจะอ้วนจนเกินกว่าคนปกติ
แล้วไอ้ร้านเอวาเดอร์ (Evader) เนี่ย ต้องสะสมลูกอ้อนตั้งแต่ชาติยันชีวิต กว่าจะไปขอพ่อมาได้น่ะ =_=; และต้องเปิดขายกาแฟและก็ไอศกรีมเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจแม่จากเค้กอีกด้วย
ร้านเอวาเดอร์ของฉัน ช่วงแรกที่เปิดก็ได้รับความสนใจแบบล้นหลาม เพราะว่าฉันมีเพื่อนจากในอินเตอร์เน็ตคนหนึ่ง ชื่อว่า ?จิ๊นซ์? ฉันรู้จักกับหมอนี่ทาง MSN และก็เพราะอยู่ห้องเดียวกัน (มารู้ทีหลัง) ฉันเลยชวนไปเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านกาแฟ และแน่นอน สาวๆ งี้เข้าตรึม *O* แล้วที่สำคัญ หมอนี่ก็เป็นเน็ตไอดอลชื่อดังอีกต่างหาก
นอกจากนั้นยังชวน ?เจสเตอร์? เพื่อนชายอีกคนมาเป็นแคชเชียร์เก็บเงินได้อีก >_<! เหลือแต่ตำแหน่งหัวใจ เอ๊ย คนทำขนมเค้กที่ยังว่างโล่ง ซึ่งฉันตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะเอาเฉพาะคนหล่อๆ ไว้ดึงดูดลูกค้าเท่านั้น
?ไง =O= มาแล้ว?
?นายมาสาย =_=!!?
ฉันที่ตอนแรกนั่งจัดแก้วกาแฟอยู่เงยหน้ามองจิ๊นซ์ที่เดินแบกเป้เข้ามาในร้าน เออใช่! วันนี้ทั้งจิ๊นซ์และก็เจสเตอร์มาช้ากันทั้งคู่ แต่เจสเตอร์ท่าจะแหล่มกว่า =_=; มาช้ากว่าไอ้จิ๊นซ์อีก (ปกติจิ๊นซ์จะช้ากว่า)
?แค่สิบห้านาทีเนี่ยนะ =_=; เธอไม่คิดจะหยวนหย่อนยานให้ฉันเลยรึไง?
?มันก็ทำให้ฉันเปิดร้านสายไปสิบห้านาทีเนี่ยแหละ แล้วเจสล่ะ -_-?
?มันไม่มาน่ะสิวันนี้ มันโทรบอกเธอรึยังล่ะ?
?ยัง! เอ๊ะ ไม่มาเหรอ!! แล้วใครจะช่วยร้านล่ะ TOT ให้นายกับฉันทำสองคนน่ะเหรอ?
ฉันบ่นขึ้นมาทันที แย่แน่ๆ =_=; ถ้าเกิดอยู่กันสองคนแบบนี้ มันจะช่วยร้านทันเสียที่ไหนล่ะ โอยย...ฉันอยากจะบ้าตาย T^T
?แน่นอนว่าทำไม่ทัน -..- งั้นวันนี้เราหยุดไปเที่ยวกันเหอะ?
?ชีวิตนายอยู่แบบนี้แล้วมันจะมีอะไรดีขึ้นมั้ย -_-+?
?ง่ะ... นิดๆ หน่อยๆ ก็ด่า ฉันลาออกเลยนะ เจ็บหัวใจอ่ะ TOT?
ไอ้จิ๊นซ์ทำท่าปวดร้าวพร้อมกับยกมือขึ้นมาทาบอกทำท่าจะแสดงละครในร้านฉัน จนฉันต้องแอบถอนหายใจออกมา - - หยุดก็ได้วะวันนี้
?ปิดม่านสิ -_- แต่ฉันไม่ได้อนุญาตให้เราไปเที่ยวกันหรอกนะ เราจะไปหาลูกจ้างมาทำเค้กให้ร้านเรา?
?*O* ก็ยังดีกว่าทำงานให้เธอ?
?ไม่รีบไปปิดม่านฉันเปิดร้านเลยนะ =_=!?
พอขู่เท่านั้นแหละ หมอนี่ถึงจะยอมวิ่งไปรูดม่านสีเนื้อน้ำตาลอ่อนๆ ลงมาคลุมกระจกร้านเอาไว้ทั้งหมด ไฟสีส้มอ่อนๆ ที่เปิดกระจายเป็นวงกว้างถูกดับ พร้อมๆ กับปิดแอร์เย็นที่ทำงานอยู่ขณะนี้ลง และป้ายตัวอักษรสีแดงที่อยู่หน้าประตูจาก ?OPEN? ก็เปลี่ยนเป็น ?CLOSE?...
?แล้วเราจะไปไหนกันอ่ะ >_<!?
ฉันปรายตามองไอ้จิ๊นซ์ที่เข้ามานั่งดี๊ด๊าอยู่ข้างๆ รถฉันแบบเซ็งๆ TOT ถึงเจสมาสายกว่า และแย่กว่าหมอนี่ในวันนี้ ถ้าให้เลือกระหว่างเจสกับจิ๊นซ์ ฉันขอไปกับเจสซะยังจะดีกว่า ฮืออ
?ไปงาน Cake Time ที่ศูนย์ OKIDS น่ะสิ?
ฉันบอกพร้อมกับออกรถ แล้วหันไปมองร้านเอวาเดอร์ของตัวเอง และไม่ทันสังเกตเห็นร่างเล็กๆ ที่เดินมาจดจ่ออยู่หน้าประตูร้าน และเมื่อเห็นป้ายบอกว่าปิด...
เธอคนนั้นยักไหล่ก่อนจะเดินกลับไปยังเส้นทางเดิม

1

งาน Cake Time จัดจำหน่ายและแสดงโชว์เค้กจากทั่วประเทศ ณ ศูนย์ OKIDS
ทุกคนอาจจะคิดว่ามันติงต๊องไปสักหน่อยที่มีจัดงานแบบนี้ด้วย =^= เหมือนกับรวมทุกอย่าง มีทุกอย่าง ทั้งของในประเทศ แล้วก็นอกประเทศ เค้กที่อร่อยและดังๆ ถูกนำมาจัดโชว์ทั้งหมด... มันเลยทำให้ฉันอยากจะลองมาชิม... ไม่ใช่! =_= มาจ้างคนทำเค้กให้ร้านฉันต่างหาก
?ยัยบ้า!?
ม้วนกระดาษสีขาวถูกโยนลงมาให้ฉันพร้อมกับมือขวาที่วางลงมาบนหัวและมืออีกข้างตบแหมะลงไปที่หัวไหล่ของฉัน -_-;
?ยืนน้ำลายย้อยแล้ว ฉันขอความแน่ใจหน่อยสิว่าเธอมาหาลูกจ้างทำเค้กอ่ะ?
?แน่ใจสิ! =[]=;?
แน่ใจที่สุด! แน่ใจว่าที่นี่กลิ่นเค้กมันยั่วยวนฉันเหลือเกิน โฮกกก... O_o แล้วนั่น... เตอร์ตองค์ เลอ ชูแนงค์ เค้กของร้าน MIONA (ไมโอน่า) ที่มีคนลือกันว่าอร่อยสุดๆ นี่นา =[]=; อะโหย... จะยั่วกันไปถึงไหนฟะ
และก็เหมือนมนต์สะกด ฉันไม่ได้สนใจเสียงบ่นของจิ๊นซ์เลยสักนิด ขากลับเดินพาร่างของตัวเองไปยังเค้กชูแนงค์ เค้กแนวฝรั่งเศสที่ส่งกลิ่นหอมอยู่ด้านนั้นทันที ยิ่งพอมาหยุดอยู่หน้าบูธแล้วมองผ่านกระจกใสเห็นเค้กที่เรียงเป็นวงกลมนั่น... ^(- -?? )^ อ๋อย... ฉันควรทำยังไงดี... อยากกิน...
?เฮ้... อยากกินเหรอ =O=?
เสียงที่ดูเหมือนเอ๋อๆ ของใครบางคนดังขึ้นมา ก่อนที่ฉันจะได้ยินเสียงตุ้บของข้อศอกทั้งสองข้างที่ทิ้งตัวลงเท้ากับเคาน์เตอร์ เจ้าของร่างนั้นยื่นหน้ามาหาฉันอีกด้วย -*-;;
?=O=!?
?-_-;;?
อะ...อะไรของหมอนี่นะ ไอ้หน้าตาเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาวปนเอ๋อๆ ทำให้ฉันชักจะงุนงง หล่อก็หล่อ แต่ทำไม... = =;
?เออ...ใช่ ฉันลืมทักทายเธอ ขอโทษด้วย -O- พอดีสงสัยว่าทำไมมีคนตัวเล็กๆ มายืนมองเค้กในตู้กระจกนี้แบบบ้องแบ๊ว?
ฉันบ้องแบ๊ว ? =_=;; (วิตกจริตอย่างหนัก) ด้วยเพราะกลัวหมอนี่อย่างหนักเลยพยายามหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาจิ๊นซ์ T_T คิดดูเซ่ ก็เกิดมาเกือบจะ 21 ปีเข้าไปแล้วเพิ่งจะมีหมอนี่เป็นคนแรกที่บอกว่าฉันยืนทำหน้าตาบ้องแบ๊ว -*- ฉันว่าหน้าฉันไม่ให้เลยนะ
?ว่าไงล่ะ -.- หรือต้องแนะนำตัวก่อน ฉันชื่อ ?ลูคิน? เป็นพนักงานทำเค้กที่นี่เองแหละ?
?O_O?
พนักงานทำเค้กเหรอ O_O โอ้โห... หมอนี่ เอ๊ย นายลูคินนี่มีอะไรดีบ้างนะ ทำเค้กเป็น... ใช่เลย หน้าตาก็หล่อ ใช่อีกนั่นแหละ =.,= แล้วอีกอย่าง... ท่าทางจะทำเค้กเก่ง
เสียเพียงแต่พี่แกดูเหมือนเป๋อเหลอไปหน่อย...แค่นั้น -*-
?โอ๊ะ ตาโต =O= บ้องแบ๊วๆ?
ฉันว่าคนที่บ้องแบ๊วน่ะหมอนี่มากกว่าเนอะ -_-;
?เอ่อ...?
?เธอชื่ออะไรล่ะ ^^ อยากกินชูแนงค์นี่เหรอ ถ้าเธอบอกชื่อแล้วฉันจะทำให้กินอีกสิบชิ้นเลยก็ได้นะ?
?=O=!! นายเป็นคนทำเหรอ?
?=O=??
ลูคินทำหน้าแบ๊วเอ๋อก่อนจะยิ้มเหมือนเด็กๆ แล้วพยักหน้า มันทำให้ฉันอึ้ง อึ้ง... ในหัวมีแต่คำว่าอึ้ง O_o โฮ่... คนเป๋อแบบนี้ทำเค้กค่ะทุกคน แถมทำออกมาน่ากินมากๆ เลย
?เธออยากกินใช่ม้า =O= งั้นก็บอกชื่อเธอมาก่อนสิ?
?ฉันชื่อวาเลนท์...?
?วาเลนท์... วาเลนท์เหรอ... วันวาเลนไทน์...?
และแล้วนายเอ๋อคนนี้ก็พึมพำวาเลนท์ๆ ต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจเลยว่าฉันกำลังจ้องเค้กนั้นอยู่ O.,O น้ำลายไหลปิ่มปานจะขาดใจ...เค้กของหมอนี่น่ากิน T_T
?โอ๊ะ ฉันขอโทษที ลืม -..- เอาสิ เค้ก?
สุดท้ายกล่องเค้กสีชมพูหวานที่ประดับโบเล็กๆ ก็มาอยู่ในมือของฉันจนได้ มันทำให้ฉันยิ้มแก้มแทบแตก ก็คิดดู กลิ่นหอมมันฟุ้งกระจายออกมาจากกล่องนี่ มันทำให้ฉันเกือบจะคลั่งแล้วไปหามุมอับนั่งจกกินเค้กนี่คนเดียวแบบไม่แบ่งใครเลย -*-
จังหวะที่จะก้าวขาฉันก็ชะงักและหันกลับไปมอง... ฉันว่าฉันควรจะขอเบอร์ของเขาไว้นะ =_=!
?นี่นายเอ๋อ!!?
ฉันตะโกนเรียกก่อนที่หมอนั่นจะเดินไปหลังบูธ
?ลูคิน =O=!!?
?หา... เธอเรียกฉันเหรอ O_O?
ชั่ววินาทีสุดท้ายที่ฉันคิดว่าจะคลาดกับลูคิน นายเอ๋อนี่ก็ถอยหลังกลับมาแล้วหันมาถามแบบหน้าตายังคงความใสซื่อเอาไว้ =.,= ดูๆ ไปหมอนี่ก็น่ารักเนาะ... ดูไร้เดียงสาดีจัง
?นาย...มีเบอร์มั้ยอ่ะ?
?หืม...=O= จะจีบฉันเหรอ สนใจฉันเหรอ?
?-_-;?
เรื่องอื่นก็เห็นดูเอ๋อๆ ทำไมเรื่องนี้ออกจะคิดลึกไปหน่อยกันฟะ ฉันรีบส่ายหัวดิกให้เขา ก่อนจะรีบแก้ไขให้กระจ่าง ไม่งั้นหมอนี่คงเข้าใจผิดว่าฉันอยากแต่งงานด้วยเป็นข้อเข้าใจต่อไปแน่ๆ
?ฉันอยาก...ได้คนทำเค้กเก่งๆ แบบนายอ่ะ?
?^^ โอเคสิ...?
ช่างง่ายดายเหลือเกิน =_=; ไม่รู้เลยรึไงว่าตัวเองทำงานร้านนี้อยู่แล้ว แต่ก็...ช่างเหอะ ถ้าได้หมอนี่มาช่วยงานที่ร้านก็คงจะดีไม่น้อยเลย >_< คิดแล้วก็มองกระดาษในมือแบบอิ่มใจ ฮ่าๆๆ คืนนี้ต้องโทรไปสานความสัมพันธ์ฉันเพื่อนกับหมอนั่นซะหน่อย
ฉันเดินลั้ลลาออกจากงานโดยลืมจิ๊นซ์ ลืมความเซ็ง และก็ลืมไปว่าควรจะหันไปจ้องหน้านายเอ๋อคนนั้นอีกที เผื่อว่าจะเจอใบหน้ายิ้มมุมปากแบบ...ดีใจเล็กๆ นั่น

2

พอกลับถึงบ้าน ฉันเพิ่งนึกได้ว่าลืมจิ๊นซ์ไว้ที่งาน =_=; และพอโทรไปถามก็แทบจะหูชา เพราะว่าตานั่นบ่นด่ามาเป็นชุด จนฉันแทบจะบ้าตาย กำลังดีใจนี่นา ใครจะไปจำได้ว่าลืมเขาไว้ในงานกันล่ะ แถมตัวเองก็เดินล่อสาวไปมา สาวๆ ก็รุมๆ กัน
ใครมันจะไปจำได้ -_-; มากับหมอนี่ก็เหมือนมาคนเดียว
ฉันนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียง หลังจากฟาดเค้กชูแนงค์นั้นไปแล้ว TOT อร่อยจนน้ำตาแห่งความเปรมปรีดิ์ไหลออกมาไม่ขาดสายเลยเชียว ฮืออ อร่อยมากกกก พอฉันสุขสมอารมณ์หมาย ฉันเลยจัดการควักกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่ลูคินให้มาถือไว้ ก่อนจะกดโทรออกทันที
>O<! สานความสัมพันธ์ไว้ แล้วมันจะดีในภายหลัง
[ฮัลโหล =O=]
?ฮะ...ฮัลโหล =.=;;?
แอบประหม่านิดหน่อยแฮะ ไม่เคยโทรหาผู้ชายนอกจากจิ๊นซ์กับเจสเตอร์ =O=;;
[ครับผม...ใครเหรอ -O-]
?ฉัน...ฉันเอง วาเลนท์อ่ะ คนที่ขอเบอร์นายเมื่อตอนเย็นไง?
ฉันพูดพร้อมกับหันหน้าไปมองนาฬิกา = =^ ตอนนี้จะตีสองเข้าไปแล้ว เสียงของลูคินยังไม่มีวี่แววว่าจะง่วงซะด้วยซ้ำ แสดงว่าหมอนี่ยังไม่ได้นอนหลับเลยล่ะสิ อีกอย่างนึง...ขอเบอร์เขามาตอนเย็นแล้วมาโทรตอนตีสองเลย - -^ ช่างน่ายินดีจริงๆ
[อ๋อ...=O= ยังไม่นอนอีกเหรอเนี่ย]
?ยังๆ >O< โทรมาสานความสัมพันธ์กับนาย เราจะได้เป็นเพื่อนกันไง?
และจากนั้นฉันก็จะใช้ตัวนายมาทำเค้กให้ร้านฉันยังไงล่ะ =O=! ความสามารถและแนวคิดอันยิ่งใหญ่ ถึงแม้จะยอมโดนหาว่าทุเรศก็ตามแต่เถอะนะ - -* นี่มันธุรกิจ ต้องไม่มีใครยอมใครเซ่
[อ๋อ เล่นเป็นเพื่อนกันน่ะเหรอ]
?มะ...ไม่ใช่สิ =_=;;? ฉันเหลือบตามองโทรศัพท์แบบมึนงง...งงกับคำตอบ ?เป็นเพื่อนกันจริงๆ เลยอ่ะ ฉันกับนายเป็นเพื่อนกันไง...?
[อ้อ... ใช่ๆ เพื่อนกันๆ]
ทำไมถึงเอ๋ออย่างนี้นะ TOT
?บ้านนายอยู่ไหนเหรอ พรุ่งนี้ไปเที่ยวด้วยกันมั้ย *O*?
แผนรุกที่สอง -_-^^ เจอกันบ่อยๆ เข้าไว้จะได้ชินต่อกันและกัน ฮ่าๆๆ
[อื๋อ...เอาสิ เธอจะมารับฉันเหรอ]
?หรือจะไปเจอกันข้างนอกเรอะไง -*- ฉันไปรับนายก็ได้?
[ฮะฮะ...โอเคสิ... บ้านฉันที่ xx ถนน xx นะ]
?-_-; เยี่ยม! ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่านายจะตื่นเช้านะ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะไปรับ...?
[โอเคครับ =O=]
ก่อนวางสาย ลูคินบอกฝันดีแบบเอ๋อๆ ตามแบบฉบับของเขาอีกที มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ บางทีลูคินก็ดูใสซื่อ แต่บางทีก็เหมือนกับหยันๆ ยังไงแปลกๆ แต่ก็ช่างเถอะ ถ้าหมอนั่นมาเป็นคนทำเค้กให้ร้านฉันได้คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว...ก็เพราะเค้กของลูคินอร่อยจริงๆ นี่นะ

****************************************************************************************************************


และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งคู่ได้มาพบกัน ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นยังไงต่อไป แล้วความรักลึกซึ้งจะก่อเกิดขึ้นในร้านกาแฟเล็กๆ แห่งนี้ได้อย่างไร ก็คงต้องอดใจรออีกนิด วางแผงที่แผงหนังสือร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น เดือนเมษายนนี้แน่นอน แล้วพบกันค่ะ...

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”