New Release : Cinderella Man ยัยกุ๊กกิ๊กกะคุณชายพลิกล็อค

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1074
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : Cinderella Man ยัยกุ๊กกิ๊กกะคุณชายพลิกล็อค

โพสต์ โดย Gals »

เรื่องย่อ
โอแดซานได้พบกับอีจุนฮีซึ่งหน้าเหมือนตัวเองโดยบังเอิญและถูกจ้างให้ปลอมเป็นอีจุนฮี ลูกชายบริษัทแฟชั่นชั้นนำ เขาไม่ยินยอมทำแต่เพราะสถานการณ์ที่ร้านขายเสื้อผ้าของซอยูจินลูกสาวของผู้มีพระคุณกำลังจะถูกยึด และเขาต้องการมีร้านเสื้อผ้าเป็นของตัวเองจึงตกลงทำงานนี้แลกกับค่าจ้างมหาศาล หนึ่งเดือนนี้เขาต้องสลับเปลี่ยนไปมาระหว่างโอแดซานและอีจุนฮีโดยที่ไม่ให้ใครจับได้









บทนำ





กลางดึก ภายในบ้านศูนย์แม่และเด็กนั้น ไม่มีเสียงอื่นใดนอกจากเสียงทีวีที่ดังขึ้นโดยปราศจากคนดู ชายมีอายุคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ภายในบ้านอย่างกระวนกระวายใจ จากนั้นจู่ๆ ก็มีเสียงเด็กร้องดังขึ้น ไม่นานหญิงวัยราวสี่สิบต้นๆ ก็อุ้มทารกแรกเกิดคนหนึ่งออกมาจากห้อง เธอมองหน้าเขาและมอบเด็กทารกให้ ชายคนดังกล่าวรับเด็กมาอุ้มไว้อย่างระมัดระวัง ก่อนจะยื่นซองสีน้ำตาลที่บรรจุเงินจำนวนหนึ่งให้กับหญิงตรงหน้าโดยบอกว่าเป็นค่าตอบแทน จากนั้นเขาก็รีบร้อนอุ้มเด็กทารกออกจากบ้านไป
เมื่ออุ้มเด็กทารกวิ่งไปจนถึงรถคันที่จอดรออยู่หน้าบ้าน เขาก็รีบส่งเด็กให้กับหญิงวัยกลางคนลักษณะภูมิฐานที่นั่งนิ่งรออยู่บนรถตั้งแต่แรกแล้ว
?เป็นลูกชายครับ? เขาบอกเพียงเท่านั้น หญิงลักษณะภูมิฐานทำสีหน้าครุ่นคิดแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
จากนั้นชายคนเดิมก็เดินอ้อมไปเปิดประตูรถทางด้านหน้า ในระหว่างที่เขากำลังจะขึ้นไปบนรถก็ได้ยินเสียงเด็กร้องดังออกมาจากข้างในบ้านอีกครั้ง แต่เขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากนัก ก่อนจะรีบขับรถพาเจ้านายและเด็กทารกที่เพิ่งได้มาออกไปทันที









1





โอแดซาน หนุ่มหล่อบุคลิกดี วัย 29 ปี วิ่งถือกระเป๋าที่ข้างในบรรจุเสื้อผ้าซึ่งเป็นสินค้าของเขาอย่างกระตือรือร้นเข้าไปในตลาดทงแดมุน ศูนย์รวมเสื้อผ้าค้าส่งขนาดใหญ่ของประเทศซึ่งตั้งอยู่ใจกลางโซล วันนี้ตลาดทงแดมุนยังคงคึกคักดั่งเช่นทุกวัน พอแดซานวิ่งไปถึงร้านที่เขาต้องส่งของก็ส่งเสียงดังท่ามกลางเสียงจอแจของผู้คนที่พลุกพล่าน


?ของใหม่มาแล้วคร้าบ?


แดซานส่งของให้ลูกค้าเจ้าประจำและตรวจนับเงินที่ได้รับอย่างคล่องแคล่ว เสร็จจากนั้นเขาก็เดินผิวปากไปต่ออย่างอารมณ์ดี โอแดซานเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยม มีความกะล่อนในตัว แต่นั่นทำให้เขาเป็นที่รู้จักรักใคร่ของเหล่าพ่อค้าแม่ขายและลูกค้าในตลาดย่านนั้น


ชายหนุ่มเดินหอบของนำไปส่งต่อ จนมาหยุดที่ร้านหนึ่งที่กำลังตกแต่งอยู่ ซึ่งนั่นก็คือร้านของเขาเอง เขาพยายามเก็บหอมรอบริบและกู้เงินมาทำร้านของตัวเองจนมันใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว แดซานมองสำรวจร้าน


?เหนื่อยแย่เลยนะครับ? เขาบอกชายสูงวัยคนหนึ่งที่กำลังตกแต่งร้านให้อยู่พลางวิ่งเข้าไปดูป้ายชื่อร้าน ?เจ้าชาย? ที่ยังไม่เรียบร้อยดีนักและยื่นมือไปลูบมันเบาๆ ก่อนจะหันไปบอกคุณลุงคนเดิม


?อ้าว... ตัวหนังสือให้มันตรงๆ หน่อยสิ ใกล้วันเปิดร้านแล้วด้วย ลุงทำให้ใหม่ด้วยนะ?


?ครับ เดี๋ยวทำให้ครับ?


?ขอบคุณคร้าบ? เขาบอกเสียงสดใส ก่อนจะเดินต่อไปอีกหน่อยจนมาหยุดอยู่หน้าร้านอีสเทิร์นซึ่งเป็นของคุณซอยองจุน คนที่เขานับถือและมีพระคุณต่อเขา แต่เมื่อเห็นว่าร้านปิดก็นึกแปลกใจ ฉันพลันโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น


?ครับ เจ้าชายโทเทิลแฟชั่น โอแดซานพูดครับ?


ในตอนแรกเขาคิดว่าคงเป็นลูกค้าโทรมาเรื่องการค้าขาย แต่เมื่อรับสายแล้วเขากลับได้รับฟังเรื่องน่าตกใจ...





หญิงสาวที่ไปเรียนต่อด้านการดีไซน์ที่ปารีสตรงกลับมาเกาหลีทันทีที่ทราบข่าวการเสียชีวิตของพ่อ เธอเข้ามาในบริเวณที่จัดงานศพอย่างรีบเร่งด้วยความตื่นตระหนกกับข่าวร้าย รูปถ่ายของพ่อที่ตั้งอยู่หน้าศพและภาพแม่ที่หอบสะอื้นทำให้เธอต้องชะงักงัน


?ยูจิน ยูจิน ทำยังไงดี ยูจิน? อีคึทซุนซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของแม่เธอร้องถามเสียงปนสะอื้น แต่ยูจินเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีเช่นกัน เธอเดินเข้าไปหาแม่ที่นั่งอยู่หน้าพิธีศพแล้วทรุดตัวลงนั่งข้างแม่ ยุนอึนฮีที่เห็นการมาของลูกสาวก็หันไปมองและร้องไห้


?แม่...? ยูจินเรียกแม่เสียงเครือและกอดแม่เอาไว้ สองแม่ลูกกอดกันร่ำไห้สะอึกสะอื้น


ขณะเดียวกันแดซานก็มาถึงสถานที่จัดงานศพพอดี อีคึทซุนและคุณปาร์คผู้เป็นสามีเดินเข้ามาหาเขาเพื่อจะปรึกษาว่าควรทำอย่างไรต่อดี ทว่าทันใดนั้นยุนอึนฮีก็เป็นลมล้มพับไป


?แม่คะ! ฟื้นสิคะ แม่!? ซอยูจินร้องเรียกแม่อย่างตกใจ โอแดซานก็รีบวิ่งพรวดเข้าไป


?คุณป้า คุณป้า คุณป้าครับ!? เขาเรียกคนหมดสติหลายรอบ แต่พอเห็นว่าไม่มีวี่แววจะได้สติก็รีบแบกยุนอึนฮีขึ้นหลัง จากนั้นก็รีบร้อนพาไปหาหมอโดยวิ่งฝ่าวงล้อมคนจำนวนมากออกไป


พอมาถึงห้องฉุกเฉิน ยูจินก็ยืนร้องไห้สะอื้นรออยู่ด้านหน้าห้อง หลายคนที่ตามมาและกำลังยืนรอผลตรวจอยู่บริเวณหน้าห้องก็เริ่มคุยกัน


?โธ่เอ๊ย... ชีวิตคนเราก็นะ เขาเป็นคนรักครอบครัวมาก เฮ้อ แล้วนี่ถ้าแม่เกิดเป็นอะไรไปอีกคนจะทำยังไง ได้ยินว่าเธอกำลังเรียนแฟชั่นดีไซน์ที่ฝรั่งเศสแน่ะ? คึทซุนเอ่ยขึ้นอย่างเห็นใจ รวมถึงอีกหลายคนที่ตามมาก็เห็นอกเห็นใจยูจินและแม่เช่นเดียวกัน ซึ่งแดซานที่ได้เห็นความเสียใจของยูจินก็อดไม่ได้ที่จะสงสารเธอ





หนุ่มหล่อมาดนิ่งเดินออกมาจากสนามบินกลางของประเทศอย่างไม่สนใจใคร เขาสวมแว่นกันแดดสีชาเข้มปกปิดสายตานิ่งเฉยเอาไว้ อันซอกฮวานหรือเลขาฯ อันที่ไปรอรับอยู่เอ่ยทักขึ้นทันทีเมื่อเห็นอีจุนฮี


?คุณชายครับ คุณชายจุนฮี นึกว่าจะมาถึงเร็วกว่านี้?


อีจุนฮีมองอันซอกฮวานเล็กน้อยและถามขึ้นเสียงเรียบทั้งยังเดินออกไปจากสนามบินเรื่อยๆ


?รถผมล่ะ?


?เตรียมเอาไว้แล้วครับ แต่ไปอีกคันน่าจะดีกว่า คุณชาย...อย่างน้อยก็เปลี่ยนเสื้อก่อนเถอะครับ? เลขาฯ อันบอกอย่างสุภาพ แต่จุนฮีไม่ได้เอ่ยอะไร เขาขึ้นรถพลางมองชุดสีดำสำหรับใส่ไปร่วมงานศพของบิดา ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เขากลับมาเกาหลีหลังจากไปอยู่ปารีสเป็นเวลาสิบปี ก่อนจะขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว


ขณะเดียวกัน ชางเซอึน สาวสวยวัย 26 ปี ก็กำลังเดินคุยโทรศัพท์ออกมาจากสนามบิน


?ค่ะแม่ หนูมาถึงแล้วค่ะ ไม่ล่ะ เหนื่อยมาก จะกลับบ้านเลย ไว้วันหลังค่อยไปหาอาจารย์? เธอคุยกับแม่ที่ดีใจเมื่อรู้ว่าลูกสาวกลับมาเกาหลีแล้ว หลังจากไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเป็นเวลานาน


?ค่ะ เดี๋ยวเจอกันที่บ้าน? เซอึนบอกกับแม่ก่อนจะวางสาย ทว่ารถสปอร์ตเปิดประทุนของจุนฮีที่แล่นมาด้วยความเร็วสูงก็ขับเฉียดเธอไป ทำให้เธอตกใจและบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ


ในระหว่างทาง อีจุนฮีมองชุดสีดำที่วางอยู่บนเบาะด้านข้างด้วยสีหน้าระทมทุกข์ นึกย้อนถึงอดีตต่างๆ ที่เขาเคยต้องประสบมา มีแต่ความอ้างว้างและเดียวดาย ในเวลานี้เขายิ่งกว่าเหลือตัวคนเดียว อีจุนฮีกินยาโรคหัวใจก่อนตัดสินใจกลับบ้านและเปลี่ยนมาสวมชุดที่เลขาฯ อันนำมา


เมื่อมาถึงก็เป็นเวลาเดียวกับคังจูอ๊คและทุกคนในบ้านตระกูลอีเพิ่งจะกลับมาจากพิธีฝังศพของอีคังอิล คังจูอ๊คและคนอื่นๆ ในครอบครัวหันไปมองเขา พอจุนฮีเดินเข้ามา คังจูอ๊คก็ตบหน้าเขาเต็มแรง ทำให้แว่นที่เขาสวมอยู่กระเด็นหลุดลงกับพื้น


?ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า ไม่มางานศพพ่อได้ยังไง!?


?คุณย่าตั้งใจบอกผมช้าไม่ใช่เหรอ?


?แกว่าอะไรนะ!? คังจูอ๊คถามเสียงดัง


อีจุนฮีได้แต่มองคุณย่าของเขาด้วยแววตาขุ่นเคืองระคนเจ็บปวด สร้างความโมโหแก่หญิงชราที่หลานชายทำพูดจาแข็งกร้าวใส่ เธอทำท่าจะตบเขาอีกครั้งแต่จุนฮีก็คว้าแขนเอาไว้เสียก่อน


?ครั้งเดียวก็พอครับ?


คังจูอ๊คได้แต่มองหลานชายด้วยความอดกลั้น


?คุณย่าไม่ได้เสียใจคนเดียว ตอนนี้ผมเป็นเด็กกำพร้าแล้ว? จุนฮีบอกเสียงเย็นกึ่งประชดประชันและตอกย้ำจนผู้เป็นย่าต้องสบถด่าหลานชายออกมา ทว่าทันใดนั้นทนายความก็เดินทางมาที่บ้านเพื่อทำการเปิดพินัยกรรมของอีคังอิล ทั้งหมดจึงต้องไปรวมตัวกันที่ห้องรับแขกโดยมีทายาทและสักขีพยานที่เกี่ยวข้องอยู่กันอย่างพร้อมหน้า ทั้งคังจูอ๊คผู้เป็นมารดา ภรรยาโอซันยอง อีแจมินและอีจุนฮีลูกชายทั้งสองคน โดยทุกคนได้รับส่วนแบ่งมรดกกันหมด แต่โอซันยองไม่พอใจที่สามีไม่ยกมรดกส่วนมากของเขาให้เธอและอีแจมินลูกของเธอ ส่วนอีจุนฮีนั้นไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรกับมรดกที่เขาได้รับ






โอแดซานเริ่มปฏิบัติภารกิจของเขาที่ทำเป็นประจำคือการเดินเข้าไปร้านหรูและแอบถ่ายรูปเสื้อผ้าคอลเล็คชั่นใหม่ๆ เพื่อเอาไปให้โรงงานผลิตเสื้อที่ตลาดทงแดมุนทำเลียนแบบ และตัวเขาก็เป็นตัวแทนจัดจำหน่าย พอออกมาจากร้านขายเสื้อผ้า แดซานก็รีบกดโทรศัพท์โทรออก


?คนสวยเหรอ นี่พี่เองนะ? เขาเอ่ยกลั้วเสียงหัวเราะพร้อมกับเดินไปเรื่อยๆ เมื่อนึกถึงว่าคนรับสายคือพี่สาวเจ้าของร้านขายผ้าคุณภาพดีราคาถูกที่ชอบลวนลามเขาอยู่เรื่อย ?คุณเวลเวท ผมเอง แดซานครับ ได้รับรูปผมแล้วนะ เมื่อกี้คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด ปริ๊นท์ออกมาแจ่มๆ ล่ะ ปริ๊นท์สีสิบแผ่นนะ?


แดซานบอกสิ่งที่ตนเองต้องการเสร็จแล้วก็วางสาย จากนั้นก็กลับไปที่ตลาดทงแดมุนเพื่อหาสินค้าใหม่ๆ ออกขายอย่างแข็งขัน เขาเดินไปเรื่อยๆ ก็เหลือบไปเห็นซอยูจินยืนซึมเศร้าอยู่ในร้านอีสเทิร์นของพ่อเธอที่เพิ่งจะเสียไป


ซอยูจินยกกรอบรูปที่บรรจุรูปถ่ายครอบครัวซึ่งถ่ายกันที่หน้าหอไอเฟลอย่างพร้อมหน้ากันขึ้นมาดูแล้วร้องไห้สะอื้น เธอกอดกรอบรูปนั้นไว้พลางคิดถึงอดีตที่เคยมีความสุข แดซานลอบมองยูจินอย่างเห็นใจ ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปใกล้ร้านอีสเทิร์นเรื่อยๆ ทว่าทันใดนั้นก็มีลูกค้าเข้ามาคุยกับยูจินและสั่งของกับเธอ แต่ยูจินอึกอักจนลูกค้ารำคาญจึงยกเลิกการสั่ง แดซานเห็นอย่างนั้นก็ทนไม่ได้จึงรีบวิ่งเข้าไปแทรกและรั้งลูกค้าไว้


?เดี๋ยวสิครับพี่สาว?


ลูกค้าหันไปมองโอแดซานอย่างแปลกใจปนเคืองเล็กน้อย แต่แดซานก็อาศัยความเชี่ยวชาญเกลี้ยกล่อมเรียกความสนใจจากลูกค้า


?จะไปไหนล่ะครับ ไม่รู้จักร้านเราเหรอ เราอีสเทิร์นนะ ร้านเก่าแก่ของทงแดมุน อยู่มาสามสิบปีแล้ว พี่สาวลองเข้ามาเลือกได้เลย?


?เป็นเจ้าของร้านเหรอ ลูกน้องไม่ได้เรื่องเลยนะ? ลูกค้าว่าพลางเหลือบไปมองยูจินที่กำลังย่นคิ้วนิดๆ มองชายแปลกหน้าที่แทรกเข้ามา


?เด็กใหม่น่ะ ก็เลยทึ่มๆ ไปหน่อย อย่าถือสาเลยนะ เลือกเลยดีกว่าครับ?


ยูจินมองเขาตาขุ่น ขณะที่แดซานทำหน้าที่ขายของต่อจนลูกค้าตกลงสั่งสินค้าหลายตัว ทว่าสุดท้ายแล้วยูจินก็ทนไม่ไหวกับความเจ้ากี้เจ้าการของคนที่เธอไม่รู้จัก


?ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เจ้าของร้านนะ ถ้าซื้อกับเขา ฉันไม่รับเปลี่ยนนะคะ?


ถ้อยคำแข้งกระด้างนั้นทำให้ลูกค้ายกเลิกออร์เดอร์และเดินออกจากร้านทันที แดซานโอดขึ้นอย่างเสียดายและหันไปต่อว่ายูจินที่นอกจากจะไม่ยอมขายของแล้วยังมาขัดการขายของเขาอีก แต่ยูจินกลับถามเขาออกมาเสียงเรียบนิ่ง


?แล้วคุณเป็นใคร??


?อ๋อ ฉันค้าขายกับคุณซอคุณพ่อของเธอมานานหลายปีแล้ว อยู่ร้านเจ้าชาย ชื่อโอแดซาน จำไม่ได้เหรอ คนที่แบกแม่เธอตอนงานศพไง?


?แล้วไงคะ?


?เฮอะ ฉันเห็นเธอทำหน้างงๆ เลยอยากช่วย เห็นแก่เจ้าของร้านหรอกเลยมาช่วย? แดซานอธิบาย แต่ยูจินก็สวนกลับไปทันที


?โกหก จะช่วยก็ช่วยสิ ทำตัวเป็นเจ้าของร้านทำไม นี่มันร้านของพ่อฉัน? เธอต่อว่าเขาอย่างไม่พอใจ หนำซ้ำยังประกาศตัวว่าเป็นเจ้าของร้านและไม่ได้ยินดีกับการช่วยเหลือของเขา


แดซานทำหน้าเซ็งเล็กน้อย แต่ความคิดที่อยากจะช่วยเธอก็ยังไม่หมดไป





หลังจากการเสียชีวิตของอีคังอิล คังจูอ๊คก็กลับเข้าไปทำงานที่บริษัทในฐานะประธาน อีแจมินกับโอซันยองไม่เห็นด้วยมากนัก เพราะคิดว่าตำแหน่งและอำนาจจะมาตกอยู่ที่แจมินเมื่อคังอิลตาย แต่มันกลับตาลปัตร พอลับหลังจูอ๊ค ซันยองก็คุยกับลูกชายเรื่องที่เธอคิดว่าคังจูอ๊คอยากจะยกบริษัทให้จุนฮี ทำให้แจมินได้แต่ปลอบและบอกย้ำกับแม่


?แม่ครับ ผมทุ่มเทแทบตายนะ มาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าบริษัทไม่มีผมก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้ จุนฮีไม่เคยสนใจธุรกิจ แม่จะคิดมากทำไม?


?แกนี่... ห้ามให้พลาดเด็ดขาด เราเป็นคนฟื้นธุรกิจที่กำลังจะเจ๊งขึ้นมา เขาก็รับแกเป็นลูกแล้ว แม่ก็ดูแลจุนฮีอย่างดี เราสองคนไม่มีอะไรติดค้างครอบครัวนี้ รู้ไหม รู้หรือเปล่า?


เมื่อก่อนโซเพีย แอพาเรลเคยเป็นเพียงร้านค้าขนาดใหญ่ที่เปิดอยู่ในทงแดมุนเท่านั้น แต่เพราะการแต่งงานของอีคังอิลและโอซันยอง ทำให้ร้านค้าในตลาดขายส่งได้กลายมาเป็นบริษัทและพัฒนาจนมาเป็นบริษัทแฟชั่นยักษ์ใหญ่ที่ใครๆ ต่างก็รู้จักดี เธอระลึกอยู่เสมอว่าเป็นเพราะเธอถึงทำให้โซเพียมีทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นไม่มีทางเด็ดขาดที่เธอจะยอมให้คนอื่นมาชุบมือเปิบไป โดยเฉพาะอีจุนฮีซึ่งเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของอีคังอิลและคนรักเก่า...ยูจองฮี


?แกต้องระวังนะ จุนฮีเปลี่ยนไปไม่ใช่คนเดิมที่คอยแต่อยู่เงียบๆ อีกแล้ว?


?ครับ ผมเข้าใจแล้ว ผมต้องเตรียมประชุมดีไซเนอร์ แม่ไปพักผ่อนเถอะครับ?


ถึงแจมินจะบอกแม่ออกไปแบบนั้น แต่ลึกๆ แล้วเขาก็ยังมีความกังวลอยู่ เพราะเขารับรู้อยู่เสมอว่าคังจูอ๊คผู้เป็นย่าไม่ได้ยอมรับเขาในฐานะที่เป็นหลานเช่นเดียวกับจุนฮี นั่นเป็นเพราะเขาไม่ใช่หลานแท้ๆ เป็นเพียงลูกติดของโอซันยองเท่านั้น


ขณะเดียวกันนั้น คังจูอ๊คเริ่มสั่งให้คนสืบเรื่องที่เธอคิดว่าลูกสะใภ้กับหลานชายตั้งใจจะฮุบโซเพีย แอพพาเรล สมบัติที่เธอสร้างมากับมือและมุ่งหวังไว้ว่าจะให้อีจุนฮีมารับช่วงบริษัทต่อจากเธอ หากแต่สุขภาพของจุนฮีไม่เอื้ออำนวย เพราะโรคหัวใจที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด จูอ๊คจึงฝากให้ตรวจสอบสุขภาพของจุนฮีด้วย





ในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โอแดซานออกล่าหาคอลเลคชั่นเสื้อผ้าโดยเลือกร้านหรูเช่นเดิม แต่คราวนี้เขาประสบกับปัญหา เมื่อพนักงานหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาและถามเขาอย่างดูถูกดูแคลน


?อย่าเที่ยวเดินจับให้ยับเปล่าๆ เลยค่ะ ไปดูร้านอื่นเถอะค่ะ รู้สึกว่าชั้นใต้ดินห้างเนชั่นแนลตอนนี้มีเซลส์อยู่นะ?


พอได้ยินแบบนั้นแดซานก็แค่นหัวเราะ ?อะไรเนี่ย นี่หาว่าผมไม่มีระดับก็เลยไล่เหรอ?


พนักงานหญิงคนนั้นทำหูทวนลมไม่สนใจ เพราะไม่ต้องการจะเสวนากับคนท่าทางไร้ระดับอย่างเขา ก่อนจะหันไปเรียก รปภ. ที่ยืนอยู่หน้าร้าน


?เธอมัวทำอะไรอยู่ บอกให้ระวังคนพวกนี้ไง?


?นี่! ทำแบบนี้กับลูกค้าได้ไง เอาเบอร์เจ้าของร้านมา ไร้มารยาทจริงๆ? แดซานรีบสวนขึ้นเมื่อดูท่าว่าจะโดนไล่ออกจากร้าน


?คุณว่าไงนะ!? เธอร้องโวยที่ถูกแดซานต่อว่า แต่แดซานเองก็ไม่ยอมเหมือนกัน ทว่าทันใดนั้นพนักงานหญิงคนหนึ่งจากอีกร้านก็หอบถุงเสื้อผ้าของร้านเอามายื่นให้เขา


?คุณลูกค้า คุณลืมเอาไว้น่ะค่ะ?


?หา?? แดซานร้องเสียงหลงเล็กน้อยเมื่อได้ยิน แต่เขาก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติเมื่อเหลือบไปเห็นถุงเสื้อผ้าจากร้านหรูที่พนักงานหญิงบอกว่าเป็นของของเขา


?คุณซื้อเยอะมากคงจะลืมน่ะค่ะ หรือว่าจะให้ส่งไปเทกูพร้อมกับอย่างอื่นคะ?


?ไม่เป็นไร แค่นี้ผมถือไปเองได้? เขาพูดอย่างวางมาดและคว้าถุงเสื้อผ้ามาทันทีด้วยท่าทางเหมือนจะข่มพนักงานหญิงที่ไล่เขาเมื่อครู่


?คราวหน้าเชิญที่ร้านอีกนะคะ? เธอบอกพร้อมกับรอยยิ้ม และโค้งให้อย่างนอบน้อม


?ผมไปอีกอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง ซื้อร้านประจำก็ดีอยู่แล้ว? แดซานจงใจพูดใส่หน้าพนักงานหญิงคนที่ทำกิริยาไม่ดีใส่เขา พนักงานหญิงคนนั้นพยายามจะแก้ตัว แต่โอแดซานไม่รับฟัง เขารีบตัดบท จากนั้นก็เชิดใส่เธอและเดินออกจากร้านไปอย่างสบายใจ


เมื่อออกมาจากร้านแล้วแดซานก็รีบไปเข้าห้องน้ำและสำรวจเสื้อผ้าที่เขาเพิ่งจะได้มาฟรีๆ พอเห็นเสื้อผ้าหรูเริดเขาก็ห้ามใจไว้ไม่ไหว รีบเปลี่ยนชุดสลัดคราบหนุ่มไม่มีระดับกลายเป็นหนุ่มมาดคุณชายทันที


?นี่อะไร โอ้ สวยสุดยอด มีคนซื้อด้วยเหรอ ท่าจะมีเงินเป็นตัน ฮ่าๆ อย่างหรู ว้าว ตายไปเลย อย่างเท่ อยากจะบ้า ทำไมมันหล่ออย่างนี้วะ? เขาส่องกระจกแล้วชื่นชมตัวเองไม่หยุดปากพร้อมกับมองชุดที่อยู่บนตัวอย่างพึงพอใจ


ขณะที่แดซานกำลังชื่นชมกับตัวเองในมาดใหม่ อีจุนฮีที่จ่ายเงินค่าเสื้อผ้าไปแล้วก็ได้แต่หงุดหงิดที่รู้ว่าพนักงานขายมอบเสื้อผ้าให้ผิดคน พนักงานขายละล่ำละลักขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ อีจุนฮีรับฟังอย่างหงุดหงิดเพราะเสื้อผ้าที่เขาซื้อเป็นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่มีเพียงชุดเดียวในเกาหลี แต่เขาก็ไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืดอะไรเพราะมันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว





ซอยูจินถูกมาอีซานหัวหน้ามาเฟียเงินกู้และลูกน้องมาขู่ให้โอนร้าน เพราะตอนที่พ่อของเธอยังมีชีวิตอยู่ได้เอาร้านอีสเทิร์นไปค้ำประกันเงินกู้เอาไว้ เมื่อไม่ยอมจ่ายเงินตามกำหนดร้านจึงจะถูกยึด แดซานถูกคึทซุนลากมาดูเหตุการณ์และผลักเขาให้เข้าไปช่วยยูจิน อีซานและแดซานจึงเปิดฉากซัดหมัดใส่กัน จากนั้นก็ตามมาด้วยเหตุตะลุมบอน ทว่าไม่นานก็มีเสียงนกหวีดของเจ้าหน้าที่ตำรวจดังขึ้นทำให้การต่อสู้หยุดชะงักลง อีซานมองแดซานอย่างแค้นเคืองและขู่ทิ้งท้าย


?วันนี้ฝากไว้ก่อน แต่คราวหน้าฉันจะพังร้านนี้ให้เละแน่ แล้วจะเสียใจ?


?ฉันไม่กลัวนายหรอก คนอย่างฉันไม่มีคำว่าเสียใจ แล้วไม่เคยย้อนอดีตด้วย? แดซานบอกกลับอย่างท้าทาย มาอีซานกับลูกน้องได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างเจ็บใจก่อนจะรีบพากันหนีไปเพราะกลัวตำรวจจะมา


อีคึทซุนรีบวิ่งเข้าไปหาซอยูจินอย่างเป็นห่วง แต่ยูจินนึกถึงคนที่มาช่วยเธอมากกว่าจึงพาแดซานไปที่ร้านขายยา เธอยืนรอเขาอยู่นอกร้าน ไม่นานแดซานก็เดินออกมาพร้อมกับถุงยาและยื่นมันให้เธอ ยูจินจึงจัดการทำแผลให้เขา ถือเป็นการชดใช้ที่ทำให้เขาต้องเจ็บตัว และเป็นการตอบแทนที่เขามาช่วยเธอเอาไว้ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ยูจินรู้สึกดีกับแดซานมากขึ้น


?ขอบคุณนะคะ? ยูจินบอกหลังจากทำแผลให้แดซานเสร็จแล้ว


เขาหันไปมองเธอและถามขึ้น ?กลัวใช่ไหม?


?ไม่เป็นไรค่ะ?


?ไม่ต้องตกใจไปหรอก มาอยู่นี่น่ะจะเห็นอีกเยอะ นี่ ไปกินกาแฟไหม? พอเห็นซอยูจินยังเศร้าซึม เขาก็เอ่ยต่อ ?โธ่เอ๊ย ทางที่ดีลืมๆ มันซะ แล้วไปกินกาแฟ เดี๋ยวฉันจะเลี้ยงกาแฟเจ๋งๆ ในโซล ไปกันเถอะ?


แดซานพายูจินไปที่ภูเขานัมซานเพื่อจะเลี้ยงกาแฟเธออย่างที่บอก เขาพาเธอวิ่งขึ้นบันไดมาจนเกือบจะถึงโซลทาวเวอร์ที่อยู่บนเนินสูงและลาดชัน ซอยูจินวิ่งขึ้นบันไดตามหลังชายหนุ่มมาอย่างเหนื่อยหอบจนเขาต้องหันไปร้องทัก


?ขาไม่มีแรงเอาซะเลย แบบนี้จะขายของที่ตลาดได้ยังไง?


?เฮ้อ มันกาแฟอะไรกันเนี่ย? ยูจินบอกเสียงเหนื่อยหอบ


?เกือบถึงแล้ว เร็วๆ สิ?


ในที่สุดพวกเขาทั้งคู่ก็ขึ้นมาจนถึงจุดชมวิวด้านบนสุด เมื่อยืนอยู่ตรงนี้จะสามารถมองเห็นทัศนียภาพโดยรอบของกรุงโซล ตอนนี้เป็นเวลาหัวค่ำ เบื้องล่างที่ได้เห็นจึงเต็มไปด้วยดวงไฟดวงเล็กๆ กระจัดกระจายอยู่ทั่วทั้งเมือง


?เห็นตรงโน้นไหม โน่นน่ะ? แดซานพูดพร้อมกับชี้ไปยังจุดที่เป็นที่ตั้งของตลาดทงแดมุน ?ฉันชอบมาที่นี่เวลาเครียดๆ ไม่เคยพาใครมาเลยนะเนี่ย เห็นเธอปัญหารุมเร้าเลยให้เป็นกรณีพิเศษ?


เขากระแอมเล็กน้อยแล้วก็ป้องปากตะโกนขึ้นเสียงดัง


?แกเป็นของฉัน! ให้ตายแกก็เป็นของฉัน! รอฉันก่อนเถอะวะ ไอ้ทงแดมุน แกต้องเป็นของโอแดซาน รู้ไหม!? จากนั้นเขาก็หันมาบอกยูจิน ?ลองดูสิ?


?คะ!?? ยูจินร้องออกไปอย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก แม้ว่าเธอจะมีความเครียดอยู่จนล้นอกและอยากจะร้องไห้ออกมาเสียงดังๆ ก็ตาม


?อยากพูดอะไรก็ใส่ได้เลย เก็บมันไว้ข้างใน ถ้าอกระเบิดจะทำยังไงฮะ ไม่มีใครได้ยินหรอก เอาสิ เอาเลย? แดซานบอกพร้อมกับยกมือขึ้นปิดหูทั้งสองข้างของตัวเองเอาไว้เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องกังวลว่าเขาจะได้ยินสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจของเธอ


ซอยูจินชั่งใจเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจตะโกนออกไปตามคำแนะนำของเขา


?ฉันเกลียดแกที่สุด เพราะแกแท้ๆ ทำฉันเจ็บเจียนตาย เป็นเพราะแก เป็นเพราะแก แกกล้าดียังไง? จากเสียงสะอื้นก็กลายเป็นร้องไห้อย่างหนักหลังจากที่เธอตะโกนจบ แดซานได้แต่มองหญิงสาวอย่างเห็นใจ แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้จึงปล่อยให้เธอระบายความเศร้าเสียใจออกมาให้หมด


เมื่อยูจินร้องไห้อย่างเต็มที่แล้ว แดซานก็พาเธอไปซื้อกาแฟจากร้านเล็กๆ ที่อยู่แถวนั้น พอได้กาแฟคนละแก้วทั้งคู่ก็เดินคุยกันออกมา


?กาแฟ นม น้ำตาลของที่นี่ดูเหมือนทั่วๆ ไป แต่ไม่เหมือนที่อื่น ยิ่งเพิ่งตะโกนเสร็จ คอแห้ง แล้วมือเย็นๆ พอกินแล้วมันชุ่มคออย่างบอกไม่ถูก ฉันถึงไม่กินกาแฟที่อื่นไง? เขาบอกเหตุผลก่อนจะชวนคุยเรื่องอื่นต่อ ?เธอเรียนที่ปารีสเหรอ สถาบันไหน สตูดิโอแบร์ซอต์ หรือว่าที่แอสโม้ด?


?เอสโม้ดค่ะ?


ยูจินรู้สึกเศร้าขึ้นมาอีกครั้งที่ต้องพูดถึงเรื่องการเรียน เพราะในตอนนี้เธอต้องดร็อปไว้เนื่องจากปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย เธอเพิ่งรู้มาว่าก่อนที่พ่อจะเสีย เขาถูกฟ้องล้มละลายจนสิ้นเนื้อประดาตัว เรื่องนี้เธอไม่เคยรู้เลยแม้แต่น้อย กระทั่งมีหมายศาลมาที่บ้านเมื่อคืนว่าบ้านของเธอกำลังจะถูกยึด


แดซานที่สัมผัสได้ถึงความซึมเศร้าของยูจินจึงพูดขึ้นมาอีกครั้ง


?เธออาจไม่เชื่อนะ ฉันก็อยากไปเรียนที่ฝรั่งเศสเหมือนกัน แต่ฉันไม่เรียนจบมัธยม ท่าจะยาก ก็ว่าจะใช้ทงแดมุนเป็นสถานศึกษา แล้วเอาความสำเร็จเป็นปริญญา อย่าคิดมากไปเลย มันเป็นเรื่องธรรมดา ร้านเจ๊งกันเป็นประจำอยู่แล้ว?


?ความจริงคือต้องย้ายจากบ้านด้วย มีหนี้เยอะแยะไปหมด ฉันก็ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ แม่ก็ไม่รู้อะไรเลย ถ้าต้องเสียอีสเทิร์นไปอีกจะทำยังไง?


เธอเริ่มคิดมากจนแดซานอยู่เฉยอีกไม่ได้ เขารีบออกตัวให้เธอสบายใจว่าไม่ใช่เธอที่ต้องแก้ไขเรื่องนี้เพียงลำพัง


?ฉันจะช่วยเธอเอง มาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันเองก็ติดค้างพ่อเธออยู่มาก พอออกจากบ้านเด็กกำพร้าเร่ร่อนในตลาด พ่อเธอช่วยฉันไว้ ให้ข้าวให้งานฉัน ถ้าไม่ได้เขา ฉันคงตายไปแล้ว เพราะฉะนั้นฉันต้องตอบแทนเขา?


?ขอบคุณที่ให้กำลังใจนะคะ?


?ก่อนอื่น เราต้องล้างสต๊อกเก่า เอาให้ร้านพออยู่รอด เธออาจจะไม่รู้ แต่อีสเทิร์นเป็นร้านดังมากๆ ในทงแดมุนนะ หนี้แค่นี้ทำไมจะหาคืนไม่ได้ อีกอย่าง ฉันพอรู้จักที่เขาจ้างดีไซเนอร์อยู่ จะพาไปแนะนำ เธอน่าจะได้งาน เอาไง อยากทำหรือเปล่าล่ะ?


?ฉันรบกวนคุณมากไปหรือเปล่า?


?ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า ก็บอกแล้วไงว่าพ่อเธอมีบุญคุณกับฉันเยอะ นี่ ขอโทรศัพท์หน่อย เร็วสิ? เขาบอกอย่างสบายๆ ก่อนจะเร่งขอโทรศัพท์จากเธอ


ยูจินรู้สึกงุนงงเล็กน้อยแต่ก็ยื่นโทรศัพท์ของเธอไปให้เขา เมื่อรับไปแล้วแดซานก็ใช้โทรศัพท์ของยูจินโทรเข้าเครื่องของเขาและบันทึกเบอร์เอาไว้ ก่อนจะส่งคืน


?ถ้ามีปัญหาโทรหาฉันได้ทุกเมื่อเลยนะ ปกติฉันเรียกพ่อเธอว่าลุง ก็คิดซะว่าฉันเป็นพี่ชายแล้วกัน?


ยูจินมองอย่างซาบซึ้ง เพราะไม่คิดว่าจะมีคนที่ดีกับเธอขนาดนี้ และมันก็ทำให้แดซานรู้สึกเขินนิดหน่อย เขารีบบอก


?รักษาร้านไว้ให้ได้แล้วเก็บเงินไปเรียนปารีสต่อ จะได้กลับมาเป็นสุดยอดดีไซเนอร์ จากนั้นพอฉันได้ไปบ้าง เธอจะได้ช่วยฉันไง ตกลงไหม? เขาหันไปถาม ก่อนจะยกถ้วยกาแฟขึ้นมา ?ชนแก้ว ชนหน่อย?


รอยยิ้มอย่างจริงใจที่แดซานมีให้ทำให้ยูจินต้องยิ้มตาม เธอรู้สึกสบายใจขึ้นและเลื่อนถ้วยกาแฟไปชนกับถ้วยของเขา






อีจุนฮีที่เลือกพักอยู่โรงแรมแทนที่จะอยู่บ้านยืนมองรูปอีคังอิลที่ตั้งอยู่บนโต๊ะซึ่งเต็มไปด้วยอาหารหลากหลายจากฝีมือของเขา เขาชอบทำอาหารเป็นพิเศษและมีความหวังหนึ่งอยู่ในใจ แต่มันก็สายเกินไป


?ผมอยากทำอาหารให้พ่อทานมาตลอดครับ แต่ว่าพ่อก็ไม่ยอมที่จะรอผม หลับให้สบายนะครับ?


เขาจิบไวน์เล็กน้อยเพื่อเป็นการอวยพรให้พ่อไปสู่สุคติ ทว่าจากนั้นเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น เขาหันไปมองก็พบเลขาฯ อันและคุณย่าของเขากำลังเข้ามาในห้อง


?อยู่ข้างนอกทำไมให้เปลืองเงิน กลับบ้านที่ซองบ๊กดงซะ?


เพียงแค่ประโยคแรกจากคุณย่าก็ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจแล้ว จุนฮีพูดด้วยท่าทางแข็งกระด้าง ไม่ยอมอ่อนข้อให้กับคนที่สูงวัยกว่า


?คุณย่าเคยอยากไล่ผมจะตาย แล้วทำไมมาเรียกผมกลับไปซะล่ะครับ ผมน่ะอยู่คนเดียวมาสิบปี ตอนนี้ให้ไปอยู่กับคนอื่นมันไม่ชิน?


?คนอื่นเหรอ? แกต้องไปแทนที่พ่อของแก ถ้าความรู้ไม่พอก็ไปเรียนเพิ่ม ถ้าบริหารงานไม่เป็นก็หาผู้ช่วยเก่งๆ มาคอยแนะนำ รู้แล้วก็เลิกคิดจะกลับปารีสซะ?


?พี่แจมินรู้เรื่องนี้หรือเปล่า ทำไมครับ ถึงคราวต้องยกให้คนอื่น แต่เห็นเขาไม่ใช่สายเลือดเลยทำใจไม่ได้เหรอ แต่คุณย่าไม่เคยเห็นผมเป็นหลานอยู่แล้ว อย่าว่าแต่เป็นทายาทบริษัทเลย ทำกับผมแบบนี้ หึ ผมอึดอัดนะครับ? เขาแค่นยิ้มออกมาก่อนจะพูดอย่างประชดประชัน


คังจูอ๊คพยายามสะกดกลั้นความไม่พอใจเอาไว้ก่อนจะบอกเสียงเรียบ ?เขาให้อะไรก็เต็มใจรับไว้เถอะ พ่อแกตั้งใจไว้แล้ว?


?เขาถึงได้แต่มองตอนคุณย่าเอาผมมา เมื่อสิบปีก่อน ผมได้ยินทุกอย่างที่คุณย่าพูดกับพ่อว่าพี่แจมินน่าจะเป็นหลานแท้ๆ ถ้าคุณย่ารู้ว่าผมขี้โรคแบบนี้ คุณย่าคงไม่เอามาเลี้ยงหรอก ตอนนั้นคุณย่าคงนึกว่าผมหลับไปแล้ว พอได้ฟังแล้วผมอยากตายไปตรงนั้นเลย? อีจุนฮีเอ่ยพลางนึกถึงความทรงจำอันแสนโหดร้ายของเขา มันเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะต้องรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึงจนน้ำตาทะลักขึ้นมาเอ่อล้นขอบตา


?แกต้องดูแลคนอีกสามพันกว่าคน จะอ่อนแอไม่ได้ ฉันถึงได้พูดแบบนั้น แล้วถึงฉันปล่อยแกไว้กับแม่ คิดว่าเขาจะมีปัญญาจ่ายค่าลิ้นหัวใจเทียมให้แกได้เหรอ?


จุนฮีน้ำตาร่วงเผาะลงแล้วเอ่ยขึ้น ?พ่อทิ้งจดหมายไว้ให้ผม เขากลัวผมเสียใจเลยบอกว่าแม่ตาย แต่ความจริงแล้วแม่ยังอยู่ ผมอยากหาแม่ให้เจอ จะได้ถามว่าทำไมถึงทิ้งผมไป เสร็จเรื่องนี้แล้วผมจะบินกลับปารีส?


คังจูอ๊คอึ้งไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอรู้สึกจนปัญญากับหลานคนนี้ แต่เธอไม่มีวันยอมแพ้ ไม่ว่าอย่างไรเธอจะต้องทำให้หลานชายเข้าไปทำงานที่บริษัทให้ได้


พอจูอ๊คกับเลขาฯ อันออกไปแล้ว จุนฮีก็เดินไปนั่งบนเตียงด้วยท่าทางเครียดๆ เขาถอนหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม ก่อนจะถอดแว่นตาออกแล้วหยิบจดหมายที่พ่อให้ไว้ก่อนตายขึ้นมาอ่านอีกครั้ง





จุนฮี พ่อขอโทษที่เพิ่งบอกความจริงตอนที่กำลังจะจากโลกนี้ไป แกคงคิดว่ายูจองฮีแม่แท้ๆ ของแกตายไปแล้ว แต่ที่จริงคือไม่มีใครรู้ว่ายูจองฮีอยู่ที่ไหน ชีวิตคนเรามันสั้น ถึงวันนี้ยังเสียใจไม่หาย ทำไมพ่อไม่คิดก่อนนี้นะ หาเธอให้เจอ แล้วฝากขอโทษเธอแทนคุณย่ากับพ่อด้วยที่ทำผิดไว้





จุนฮีหยิบรูปแม่ที่พ่อให้เขาไว้ขึ้นมาดูและตั้งใจจะทำตามความต้องการของพ่อในจดหมายให้สำเร็จ





แดซานพายูจินไปทำงานกับลุงปาร์คเพื่อเอาเงินไปใช้หนี้ แต่ว่างานนั้นเป็นงานที่ต้องก๊อปปี้แบบเสื้อผ้า ยูจินไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เพราะเธอก็ถือว่าเป็นดีไซเนอร์คนหนึ่ง เข้าใจดีว่าการถูกก๊อปปี้ผลงานทำให้รู้สึกย่ำแย่ เสียใจ และเจ็บปวดแค่ไหน เธอโกรธที่แดซานทำธุรกิจแบบนั้นและยังจะชักจูงเธอไปทำด้วยจึงรีบเดินออกมาก่อน ทำให้แดซานต้องรีบวิ่งตาม


?เดี๋ยวก่อน รอด้วย นี่ เดี๋ยวก่อนสิ เธอเป็นอะไรไป ก็ไหนว่าอยากหางานไง ถ้าจะรักษาร้านไว้ก็เลือกมากไม่ได้นะ?


?แล้วจะให้ฉันเป็นหัวขโมยหรือไง? เธอถามออกไปเสียงแข็ง


?อะไร หัวขโมยอะไร?


?สำหรับคนก๊อปปี้อย่างคุณ มันคงไม่มีความหมายอะไร แต่ดีไซเนอร์ทุ่มเทไม่รู้กี่เดือนกว่าจะคิดแบบออกมาได้ ต่อให้ฉันต้องอดตายก็ไม่มีวันยอมทำแบบนั้นเด็ดขาด!?


?จองหองเหลือเกิน?


?ว่าไงนะ!? ยูจินร้องถามเสียงดัง แต่แดซานทำหน้าเหนื่อยหน่ายใจก่อนจะถามขึ้น


?แล้วเธอล่ะ เงินที่พ่อส่งเธอไปเรียนปารีสก็ได้มาเพราะทำแบบนี้นั่นแหละ?


?เรื่องนั้น...? ซอยูจินพูดอะไรต่อไม่ออกเพราะทราบมาเหมือนกันว่าเงินที่พ่อเธอส่งให้ไปเรียนที่ปารีสมีที่มาอย่างไร


?เธอน่าจะรู้ว่าคนที่ตลาดต้องหากินไปวันๆ เขาต้องดิ้นรนเอาตัวรอดทุกวิถีทาง มาทำเป็นหยิ่งแบบนี้น่าอายกว่า ไหนๆ ก็หมดตัวแล้ว มานั่งขอทานแล้วกัน เอาไหมล่ะ? เขาบอกด้วยน้ำเสียงประชดประชันแต่ไม่ได้มีเจตนาจะตอกย้ำเธอแต่อย่างใด เขาเพียงแค่อยากจะช่วยให้เธอมีงานทำ ให้เธอรีบตั้งหลักได้ก็เพียงเท่านั้น ซึ่งมันก็ทำให้เธอไม่พอใจจึงขอแยกตัวมาจากเขา


พอแยกจากแดซาน ยูจินตั้งใจไว้ว่าจะไปหางานทำเอง บังเอิญระหว่างทางที่กลับบ้าน เธอเห็นใบประกาศรับสมัครดีไซเนอร์ของบริษัทโซเพีย แอพพาเรล ซึ่งเป็นบริษัทแฟชั่นชื่อดังที่ผลิตเสื้อผ้าได้อย่างสวยงามและมีระดับมามากมายหลายแบรนด์และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เธอจึงตัดสินใจไปสมัครงานที่นั่น


พอถึงวันสัมภาษณ์ ยูจินถูกซักเรื่องประวัติการเรียนทำให้เธออึกอัก เพราะว่าเธอยังเรียนไม่จบและกำลังดร็อปเรียนไว้ แม้จะพยายามอธิบายว่าเธอมีความตั้งใจจะทำงานมากแค่ไหนแต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของบริษัท ในระหว่างที่ซอยูจินกำลังจะลุกออกไปจากห้องสอบสัมภาษณ์ อีแจมินหนึ่งในกรรมการสัมภาษณ์งานก็ร้องขึ้น


?เดี๋ยวก่อนครับ แฟ้มงานของคุณดูแปลกใหม่ทีเดียว งานชิ้นที่ห้า ร็อคโคโค่ ผลงานแนวอาวองการ์ดชิ้นนี้คือที่ได้รางวัลมาใช่ไหมครับ?


?ค่ะ ใช่แล้วค่ะ? เธอตอบรับก่อนจะมองหน้าเขาแล้วรู้สึกคุ้นหน้า เมื่อนึกขึ้นได้ก็โพล่งถามออกไปอย่างตื่นเต้น ?คุณอีแจมิน? คุณนั่นเอง!?


?ในห้องสอบสัมภาษณ์ไม่มีคุณนั่นเองครับ เชิญคุณออกไปได้?


การโพล่งเสียงออกมาแบบนั้นทำให้อีแจมินหน้าตึงขึ้นกว่าเดิม เขาไม่ชอบให้ใครมาทำตัวไม่มีมารยาท ยิ่งกับการแสดงตัวออกมาว่ารู้จักเขาเพื่อหวังผลยิ่งไม่ต้องพูดถึง สำหรับคนที่ทำงานอย่างเอาจริงเอาจังจนสำเร็จได้ด้วยตัวเองจนถึงทุกวันนี้อย่างเขา เกลียดคนที่คิดจะก้าวหน้าด้วยทางลัดที่สุด


?คะ! เอ่อ ค่ะ?


หลังจากโดนขับไล่อย่างไร้เยื่อใย ยูจินก็เดินหน้าเสียออกจากห้องสัมภาษณ์ไป


?รู้จักกันหรือครับ? ผู้จัดการชินคีชอลหันไปถามอีแจมิน


?เปล่าครับ เรียกคนต่อไปเข้ามาเลย? แจมินตอบหน้านิ่งเพราะเขาไม่รู้จักและไม่คุ้นหน้าเธอแม้แต่น้อย ตรงข้ามกับยูจินที่กำลังเดินออกจากบริษัทโซเพีย แอพพาเรลอย่างนึกเสียใจที่หลุดปากเสียมารยาทในห้องสอบสัมภาษณ์ แม้ว่าเธอจะไม่ได้ตั้งใจ แต่เธอก็มั่นใจว่าเธอไม่ได้จำผิดคนแน่






สถานบันเทิงกำลังคึกคักในยามค่ำคืน สาวๆ ที่ต้องแต่งเนื้อแต่งตัวเพื่อดูแลต้อนรับแขกในร้านถือว่าเป็นลูกค้าชั้นยอดของโอแดซาน เขานำสินค้ามาแนะนำกับสาวๆ ทว่าในระหว่างที่กำลังคุยธุรกิจกับลูกค้าหญิงรายหนึ่งอยู่ก็มีชายร่างใหญ่เดินเข้ามาหา แดซานรีบเก็บแฟ้มงานของเขาทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นคนคุ้นหน้าที่เคยมีเรื่องกันมาแล้ว เขาพยายามซุกหน้าหลบแต่ก็ไม่พ้น


?เอ่อ! จริงๆ แล้วพักนี้ฉันขายไม่ค่อยดีเลยแวะเข้ามาแถวๆ นี้ เฮ้ย นี่มันมีเส้นขีดแบ่งเขตไว้เหรอ ทำไมต้องแบ่งเขตการค้ากันด้วย เราไม่ใช่คนแปลกหน้า แบ่งๆ กันรวยมั่งนะ?


เมื่อเห็นว่าไม่มีทางหนีได้ แดซานก็เจรจาอย่างปรองดอง แต่ก็ไม่สำเร็จ ทำให้เขาโดนชกท่ามกลางเสียงกรี๊ดของสาวๆ ที่เห็นเหตุการณ์ แดซานเตะตอบโต้กลับทำให้พวกพ้องขอบชายคนนั้นที่คุมคลับอยู่ออกมาสมทบอย่างรวดเร็ว


แดซานทั้งเตะทั้งต่อยพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปกป้องตัวเองและหนีเอาตัวรอดจากค่ำคืนนี้ไปให้ได้ เมื่อเขาเหลือบไปเห็นขวดเหล้าจากพนักงานเสิร์ฟก็ใช้มันเป็นอาวุธ ทำให้พวกนักเลงเจ้าถิ่นล้มลงไปกองกับพื้นหลายราย เพิ่มโอกาสหนีให้ตนเอง


แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เมื่อเริ่มสู้ไม่ได้แดซานก็เลือกที่จะวิ่งหนีเพียงอย่างเดียว ทว่านักเลงเจ้าถิ่นไม่ยอมให้เขาหนีได้ง่ายๆ ยังคงวิ่งตามมาอย่างไม่ลดละ


?ให้ตายเหอะ? แดซานสบถขึ้นในระหว่างที่วิ่งหนี ในขณะนั้นเองเขาก็วิ่งสวนกับอีจุนฮีที่เดินคุยโทรศัพท์มา ทั้งคู่ต่างไม่มีใครเห็นหน้ากัน พอจุนฮีเดินต่อไปอีกเพียงครู่เดียวเขาก็เจอกับคู่กรณีของแดซาน


?ไอ้นี่ กวนฉันเหรอ?


อีจุนฮีมองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ แต่นักเลงเจ้าถิ่นเข้าใจว่าเขาคือโอแดซานจึงปล่อยหมัดเข้าใส่ท้องจุนฮีทันที





-----------------
เรื่องราวอันซับซ้อนของตระกูลใหญ่เป็นปริศนาที่ต้องติดตามค่ะ เพราะฉะนั้นอย่าพลาดกับ Cinderella Man ยัยกุ๊กกิ๊กกะคุณชายพลิกล็อค นิยายจากซีรี่ส์ดังที่ทำให้ใครต่อใครต้องหลงรักผู้ชายที่ชื่อโอแดซาน พบกันได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือเว็บไซต์ http://www.bongkoch.com/catalog/product ... ts_id=6729 ค่ะ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”