New Release : Gambling heart เกมพนันหัวใจกับนายมาเฟียจอมแสบ

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1074
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : Gambling heart เกมพนันหัวใจกับนายมาเฟียจอมแสบ

โพสต์ โดย Gals »

เรื่องย่อ
เพราะมรดกที่ประเมินค่าไม่ได้และความอยู่รอดของทุกคนในบ้านทำให้คุณหนูตัวยุ่งต้องระหกระเหินไปตามหาคู่หมั้นไกลถึงเกาหลี ทว่าพอไปถึงแล้วเธอถึงได้รู้ว่า โมเซส คู่หมั้นของเธอมีอาชีพลับคือมาเฟีย แค่นี้ก็โหดพอดูแล้ว แต่ว่าสิ่งที่โหดร้ายยิ่งไปกว่าคือการทำให้เขายอมรับการหมั้นกันในครั้งนี้ให้ได้










1






?กระผม...นายบดินทร์ อินทรานนท์ ได้ทำพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นในปี พ.ศ 25XX ณ วันที่มีนกนางนวลร้อยตัวบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก อากาศสภาพคลื่นลมแปรปรวนเล็กน้อย มีเมฆหมอกหนาในบางพื้นที่ วันนั้นผมตกปลาคาร์พได้สามตัว ปลาวาฬได้.....?


?เข้าเรื่องสักทีสิวะคะไอ้คุณทนาย? หญิงสาวเรือนร่างบางตาใสปิ๊งเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งตบโต๊ะไม้สักทองแท้ตรงหน้าดังลั่นด้วยความเหลืออด นัยน์ตาสีเขียวมรกตฉายความไม่พอใจอย่างหนัก ส่งผลให้ชายชราร่างเตี้ยม่อต้อที่กำลังเกริ่นนำบทความในพินัยกรรมถึงกับต้องรีบม้วนปากหนาๆ กลับเข้าที่ในทันทีทันใด


เป็นเวลาสามชั่วโมงกว่าๆ เห็นจะได้แล้วที่ทั้งฉันและบรรดาญาติมิตรสหายไม่ต่ำกว่าสี่สิบคนต้องอดทนนั่งฟังไอ้ทนายหัวเถิกนี่ร่ายยาวถึงเนื้อหาที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่เนื้อหาในพินัยกรรมปัญญาอ่อนของคุณปู่ทวด ประโยคที่เป็นเสมือนใจความสำคัญของพินัยกรรมในครั้งนี้มันอยู่ที่ว่า...ใคร!!! ใครคือผู้ที่ถูกเลือกให้สืบทอดมรดกทั้งหมดที่คุณปู่ทวดได้เลือกเอาไว้ก่อนที่ท่านจะสิ้นใจตายคาอ้อมอกพยาบาลสาวสุดสวย


มรดกที่ไม่สามารถตีค่าเป็นจำนวนเงินได้...มันมากซะจนสามารถทำให้ญาติโกโหติกาของฉันที่อยู่กันคนละซีกโลกมารวมกันได้ในเวลาอันรวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์ใจ -*-?


?ในขณะที่เขียนพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้น ผมขอยืนยันว่าผมมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนทุกประการ มิได้ถูกบังคับหรือข่มขู่แต่อย่างใด...? ไอ้ทนายหัวเถิกพูดขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ ก่อนจะเงยหน้ามองฉันเป็นเชิงขออนุญาตอ่านต่อ


?แล้วไงอีก!! ว่าไป ว่าไป~? อ้าว? ยัยป้าที่ไหนมาแย่งบทพูดของฉันล่ะเนี่ย


?ทรัพย์สินทั้งสิ้น อันได้แก่ ธุรกิจทั้งหมดที่ผมมีทั่วโลก บ้านพักตากอากาศที่ฮาวาย บ้านคนรับใช้ที่สวิสแปดสิบหลัง เกาะส่วนตัวหนึ่งร้อยสี่สิบห้าแห่ง ป่าชายเลนที่ลุ่มแม่น้ำอเมซอน เครื่องบินส่วนตัวสิบหกลำ เรือยอชต์แปดลำ รถยี่ห้อดังราคาสามสิบล้านขึ้นไปทั้งหมด และอีกมากมายที่ถ้าจะให้บรรยายผมคงได้เมื่อยตายกันพอดี ทรัพย์สินที่ผมมีทั้งหมดในมูลค่าสามหมื่นล้านกว่าๆ ไม่ขาดไม่เกินนี้ ขอมอบให้แก่...?


?.....?


?ปาลิตา อินทรานนท์แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น หากมีผู้ใดขัดข้องและฝ่าฝืน อาจจะถูกจำคุกไม่ต่ำกว่าสี่สิบปี ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ!!?


สะ...สามหมื่นล้าน! O[ ]O! ให้ฉัน!!!


?ฉันไม่ยอม!! ทำไมมรดกทั้งหมดของคุณปู่ทวดถึงได้ตกเป็นของยัยเด็กเหลือขอพันทางอย่างยัยตัวยุ่งได้ฮะ!!? ยัยป้าปากมากที่นั่งอยู่ด้านขวามือสุดของโต๊ะตะโกนดังลั่นคฤหาสน์ (ของฉัน) อย่างเหลืออด ฉันจะไม่สนใจเลยสักนิด ถ้ายัยป้าที่ไม่รู้ว่าเป็นญาติส่วนไหนของวงศ์ตระกูลของฉันไม่เอ่ยคำคำนั้นออกมา...


เด็กเหลือขอพันทางงั้นเหรอ >[]<!!! แค่ตอนนี้พ่อทำงานจนหัวเกือบจะโตพอๆ กับโดราเอมอนอยู่ที่ญี่ปุ่น ส่วนคุณแม่ที่เป็นคนเกาหลีกำลังไปเที่ยวรอบโลกเพื่อจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ของชีวิตอย่างที่เคยใฝ่ฝันเอาไว้เนี่ยนะถึงกับเรียกฉันว่าเด็กเหลือขอเลยอย่างนั้นเหรอ!!


?ใจเย็นๆ ก่อนครับคุณโสม มีอะไรค่อยๆ คุยกันได้?


?จะให้ฉันใจเย็นอยู่ได้ยังไงกันฮะ!! ฉันยอมตาย ดีกว่าจะเห็นทรัพย์สมบัติทั้งหมดต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของยัยเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่แน่?


?งั้นก็รีบตายๆ ไปซะสิ เผื่อแผ่นดินจะได้สูงขึ้น?


?กรี๊ดดดดดดดด!!! >[]< ยัยตัวยุ่ง แกแช่งให้ฉันรีบไปตายเหรอย่ะ ยัยเด็กบ้าาาา >[]<? โฮกกก~ เสียงยังดังได้อีกนะป้า ตะโกนมาทีหูแทบระเบิดแน่ะ -o-^


?ก็ได้ยินแล้วนี่ หรือว่าป้าไม่เคลียร์ตรงประโยคไหนล่ะ จะได้ให้แม่บ้านไปเอาพจนานุกรมมาเปิดอ่าน?


?นี่! ฉันชักจะทนนิสัยที่หยาบกระด้างของแกไม่ไหวแล้วนะยัยเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ไม่รู้ว่าคุณปู่ทวดใช้อะไรคิด จู่ๆ ถึงได้มอบทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้ยัยเด็กบ้าอย่างแกน่ะ ฉันคงหนึ่งล่ะที่ไม่เห็นด้วย?


?ฉันด้วย!!?


?ฉันด้วย!!!!?


?ใจเย็นๆ ก่อนครับคุณๆ ทั้งหลาย กรุณานั่งลงสงบสติอารมณ์ก่อนครับ? คุณทนายเป็นฝ่ายพูดขึ้นหลังจากเงียบหายไปนานจนฉันเกือบจะคิดว่าลุงแกหัวใจวายตายเพราะเสียงกรี๊ดของยัยป้าบ้านั่นไปแล้วซะอีก


?คุณหนูจะได้รับทรัพย์สมบัติทั้งหมดของคุณท่านก็ต่อเมื่อ...? ว่าแล้วเชียว -o-^ ฉันล่ะถึงได้เกลียดของฟรี เพราะว่าของฟรีมัน...ไม่มีจริงในโลกกลมๆ ใบนี้หรอก -*-


?ต่อเมื่ออะไร!!? ฉันเอ่ยปากถามขึ้นเมื่อเห็นว่าไอ้คุณทนายเว้นช่วงพักหายใจนานเกินไป


?...ต่อเมื่อคุณหนูยอมหมั้นหมายกับบุคคลที่คุณท่านได้เลือกเอาไว้ให้ตามสัญญาพินัยกรรมที่คุณท่านได้ทำเอาไว้ครับ เงื่อนไขสำคัญนั้นมีอยู่ว่า นอกจากคุณหนูจะต้องเข้าพิธีหมั้นกับชายหนุ่มที่คุณท่านได้เลือกสรรเอาไว้ให้และต้องเข้าพิธีแต่งงานในเวลาอันรวดเร็วเพื่อที่จะผลิตทายะ...?


?หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!!? ฉันตวาดดังลั่นอย่างเหลืออดหมดความอดทน และก่อนที่จะมีใครผู้ใดได้เอ่ยถ้อยคำใดๆ ออกมา ฉันเป็นคนแรกที่ส่งเสียงตะโกนดังลั่นขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงจัง...


?เอาพินัยกรรมบ้าๆ นี่ไปเผาซะ!!!?






หลังจากที่พังงานชุมนุมบรรดาญาติมิตรสหายจนพังไม่เป็นท่าแล้ว ฉันก็ถูกคุณแม่นมลากขึ้นมานั่งสงบสติอารมณ์อันร้อนรุ่มบนห้องนอนในทันที ตามที่พินัยกรรมนั้นบอกเอาไว้คือฉันจะต้องยอมหมั้นกับใครก็ไม่รู้ที่คุณปู่ทวดเลือกให้ มิฉะนั้นแล้วทรัพย์สมบัติทั้งหมด (ไม่เว้นแม้กระทั่งบ้านทรายทองม้วนที่ฉันกำลังซุกหัวนอนอยู่ในขณะนี้) จะต้องตกเป็นของสถาบันเด็กผู้ยากไร้ในทันที ซึ่งนั่นก็หมายความว่า หากฉันปฏิเสธการหมั้นหมายในครั้งนี้ ฉันและทุกๆ คนในบ้านหลังนี้คงต้องไปนอนวัดแหงๆ ซึ่งนั่นมัน....อ๊ายยย~ คุณหนูตัวยุ่งรับไม่ด้ายยยย!!!


?คุณหนูคะ! ชะตากรรมของพวกเราทุกคนในบ้านหลังนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณหนูแล้วนะคะ?


?งานหมั้นนะนม ไม่ใช่งานวัด ที่พอเสร็จพิธีแล้วก็จบๆ กันไปน่ะ!! แล้วอีกอย่าง ไอ้ผู้ชายที่จะมาหมั้นกับฉันหน้าตาสันดานเป็นยังไงก็ไม่มีใครรู้ แล้วอย่างนี้นมจะให้ฉะ...?


?นะคะคุณหนู...หมั้นสักปีแล้วค่อยถอนหมั้นหลังจากได้สมบัติของคุณท่านก็ได้นี่คะ? คำพูดของนมอุ่นทำให้ฉันกลืนคำพูดที่อยู่ในหัวไปเสียหมดเกลี้ยง ถอนหมั้นงั้นเหรอ!? จริงสินะ O[]O ฉันลืมคิดเรื่องนี้ไปได้ยังไงกัน หนึ่งปีน่ะมันนานไป นิสัยบ้าเลือด เอาแต่ใจอย่างฉันเนี่ย ใครทนได้สามวันก็สุดยอดมนุษย์โลกแล้วล่ะ หึหึหึ


?ตกลง...หนูยอมหมั้น!!!?









2





นะ...หนาวว~ สิ่งแรกที่ฉันสัมผัสได้ทันทีที่เหยียบแผ่นดินโสมแห่งนี้คือความรู้สึกหนาวเหน็บ ทำไมประเทศเกาหลีมันถึงได้หนาวจับจิตจับใจขนาดนี้นะ แตกต่างจากประเทศไทยที่นับวันยิ่งเพิ่มความร้อนระอุราวนรกแตก -_-^ ทำไมฉันถึงได้มาอยู่ที่นี่ในบรรยากาศแบบนี้น่ะเหรอ เพราะทันทีที่ฉันตกลงปลงใจรับหมั้นกำมะลอบ้าๆ นั่น ฉันก็ต้องเดินทางข้ามขอบฟ้ามาตามล่าหาตัวคู่หมั้นที่คุณปู่ทวดได้เลือกเอาไว้ให้ที่ประเทศเกาหลี ซ้ำร้ายอาชีพหลักของว่าที่คู่หมั้นคู่หมายคือ...มาเฟีย!!


แม่เจ้า!! มาเฟียเชียวนะ ไม่ใช่มาม่าและก็ไม่ใช่มาช่า...แต่นี่มันมาเฟียเชียวนะ >[]<!! ได้ข่าวว่ากิจกรรมยามว่างของพวกที่แทนสรรพนามให้ตัวเองว่า ?มาเฟีย? น่ะมันคือการฆ่าล้างโคตรคนไม่ใช่รึไง -[]-;;


นี่มันเป็นแค่เศษเสี้ยวของข้อมูลที่ฉันรับรู้ก่อนจะต้องมาผจญในอีกไม่ช้าเท่านั้นเอง ไม่รู้ว่าฉันคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่นะ ที่ตกลงรับข้อเสนอบ้าๆ นี่ แต่เมื่อตกปากรับคำมาแล้วจะถอยกลับก็คงสายไปหกชั่วโมงกับอีกสี่สิบหกวินาทีแล้วล่ะ ?o?^ เพื่อความอยู่รอดของทุกคนในบ้าน ตัวยุ่งผู้นี้ขอสู้ตายยย!





โฮกกก~ นี่มันอะไรกันเนี่ย ทั้งๆ ที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะหาที่ซุกหัวนอนให้ได้ซะก่อนแล้วค่อยออกท่องเมืองกิมจิแห่งนี้ แหม...ก็เพราะบรรยากาศมันล่อตาล่อใจจนยากเกินห้ามใจ ฉันเลยละทิ้งความคิดทั้งหมดเอาไว้ข้างทางแล้วออกทัวร์รอบเมืองทันที จนมาถึงตอนนี้ฉันเพิ่งจะรู้ตัวว่า...ฉันกำลังหลงทาง!!!


งอแงๆ เกิดที่ไทยแต่ต้องมาตายที่เกาหลีซี้แหงแก๋แน่ๆ เลยฉัน ฮือๆ อากาศก็หนาว ฟ้าก็เริ่มจะมืดลงเรื่อยๆ แถมผู้คนก็มากหน้าหลายตาเดินสวนทางกันไปสวนทางกันมาอลหม่านไปหมด โฮกก~ ในเวลาอย่างนี้อย่าว่าแต่หาตัวคู่หมั้นให้เจอเลย หาที่จะซุกหัวนอนจะหาได้รึเปล่าก็ยังไม่รู้ -__-^


?ว่าไงจ๊ะน้องสาวคนสวย ดึกดื่นป่านนี้แล้ว มาเดินกินลมชมจันทร์อะไรแถวนี้คนเดียวจ๊ะ? ไอ้จิ๊กโก๋คนหนึ่งในกลุ่มพวกไอ้ขี้เมาพูดขึ้น ขณะที่ฉันอุตส่าห์ทำตัวให้ลีบที่สุดเพื่อที่จะเดินผ่านพวกมันไป ว่าแต่ฉันเดินมาทำบ้าอะไรในซอยอันมืดมิดนี้ล่ะเนี่ย ให้ตายสิ!!


?อะ...เอ่อ ขอทางหน่อยค่ะ? เจี๋ยมเจี้ยมเข้าไว้ยัยตัวยุ่ง ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นเรา ถึงฉันจะพอมีฝีไม้ลายมืออยู่บ้าง แต่นี่มันผู้ชายหน้าโหดกล้ามโตเป็นฝูงๆ นะ ต่อให้สู้ตายแค่ไหนฉันก็คงเสียแรงไปเปล่าประโยชน์อยู่ดี ?สติมาปัญญาเกิด? แหมๆๆ คติพจน์ที่แม่นมชอบท่องให้ฟังก่อนนอนเพิ่งจะมามีประโยชน์กับฉันก็วันมหาซวยนี่แหละ!!


?ขอทางเหรอจ๊ะ ทางไหนล่ะจ๊ะ? ใช่ทางไปสู่สวรรค์กับพวกพี่รึเปล่า?


?ฮิ้วๆๆๆ~? บ๊ะ!! ไอ้พวกบ้า หยุดเล่นมุกเสี่ยวๆ กับฉันเดี๋ยวนี้นะ! หน้าตาพวกแกแต่ละคนไม่น่าจะพูดภาษาคนได้ด้วยซ้ำ ไอ้มนุษย์นอกโลก!!


?ว่าง่ายๆ แล้วไปขึ้นสวรรค์กับพวกพี่ดีกว่าน้อง ขาวๆ สวยๆ แบบนี้พี่ไม่อยากใช้กำลัง เดี๋ยวมันจะเสียของ? กะ...กรี๊ดดด! ไอ้พวกบ้า ถือดียังไงมาจับมือถือแขนฉันยะ ว่าแล้วฉันก็สะบัดมืออันโสโครกที่เต็มไปด้วยความหื่นของไอ้บ้าหน้าขนดกทิ้งก่อนจะออกวิ่งทันที ให้ตายเถอะโว้ยย~ วันนี้มันเป็นวันบ้าอะไรของฉันกันเนี่ย


ตึก ตึก ตึก โครม! กรรมหนอกรรม ไอ้ขาบ้าที่ดันวิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือทำให้ฉันสะดุดท่อนเหล็กที่วางเกะกะอยู่ข้างทางจนล้มหน้าทิ่มไปในทันทีทันใด แม่เจ้า O_O!! เลือดออกด้วย งอแงๆ เจ็บตัวยังไม่เท่าไหร่ แต่เจ็บใจนี่สิเรื่องใหญ่!!


?ฮ่าๆๆ เอาล่ะสาวน้อย จะวิ่งหนีให้เสียกำลังไปทำไม มามะ มาเล่นกีฬาเข้าจังหวะกับพวกพี่ดีกว่าน้อง?


ไปเล่นกับป้าพวกแกเถอะไอ้บ้า ฉันได้แต่ร้องขอชีวิตและเวอร์จิ้นกับพระเจ้าอยู่อย่างเงียบๆ พร้อมทั้งหลับตาปี๋เพราะความกลัว แหงล่ะ! ฉันคงถูกผีเข้าแน่ๆ ถ้าฉันจะไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิดขณะที่กำลังจะถูกสัตว์ป่าข่มขืนน่ะ


ผัวะ! ตุบ! เปรี้ยง! จู่ๆ ก็เกิดเสียงประหลาดขึ้นขณะที่ฉันกำลังนั่งกอดหัวเข่าตัวเองพร้อมทั้งหลับตาปี๋ด้วยความกลัว และเพราะความสงสัยฉันจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ แล้วก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า


โฮกกก ผู้ชายหล่อเจ้าขาาา~ ตรงหน้าฉันคือบุรุษปริศนาผู้มีเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนซอยประบ่า แถมไม่ได้มาเพียงคนเดียวด้วย มากันถึงสามคนแน่ะ!!


?ช่วยยืนขึ้นแล้วไปกับเราหน่อยจะได้มั้ยครับ ^^? ชายหนุ่มร่างสูงที่อยู่ใกล้ตาที่สุดพูดขึ้นก่อนจะยื่นมือมาให้ฉันอย่างสุภาพบุรุษ ซึ่งฉันเองก็เคยถูกสอนให้มีสมบัติผู้ดีในด้านรักนวลสงวนตัวอยู่บ้างจึงไม่รอ รีบยื่นมือออกไปรับความช่วยเหลือนั่นทันที (รักนวลสงวนตัวตรงไหน ==)


แกร๊ก! ทันทีที่มือสัมผัสมือก็เกิดเสียงประหลาดดังขึ้นก่อนจะมีบางสิ่งล็อกเข้าที่ข้อมือของฉันอย่างเร็วด้วยฝีมือชายหนุ่มผู้ใจดีคนนั้น ฉันคงจะยิ้มแก้มบานปากฉีกไปแล้วล่ะ ถ้าไอ้สิ่งนั้นที่ว่ามันไม่ใช่...กุญแจมือ O[]O!!


?นะ...นี่มัน...OoO?


?กรุณาอย่าขัดขืนไปเลยครับ ถ้าไม่อยากตาย? จบประโยคคำขู่ฆ่าที่มาพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนหวานฉันก็แทบลมบ้าหมูกำเริบ นะ...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย!! อ๊ากกก! แล้วนี่พวกแก (เปลี่ยนสรรพนามไปโดยฉับพลัน) จะลากฉันไป ณ แห่งหนใดกันล่ะเนี่ย ไม่ทันจะได้อ้าปากถามความเป็นมาว่าเรื่องมันเริ่มต้นมาอย่างไรและจะไปจบลงที่ไหน ร่างกายที่อ่อนระทวยเพราะความช็อกเกินพิกัดของฉันก็ถูกอุ้มพาดบ่าโดยชายทั้งสามไปยังรถตู้สีดำทะมึนที่จอดเอาไว้ในทันที


โฮกกก~ นี่ฉันคงไม่ได้ถูกหนุ่มหล่อพวกนี้ลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่หรอกใช่มั้ย งอแงๆๆ ทำไมชีวิตฉันมันถึงได้ซวยแบบนี้นะ นอกจากจะไม่เจอตัวว่าที่คู่หมั้นที่หมายจะเจอะเจอแล้วยังไม่มีโอกาสได้กลับบ้านเกิดเมืองนอนอีกแล้ว ฮือออ~ ทั้งๆ ที่เกิดที่ไทยแท้ๆ ไม่นึกเลยว่าฉันจะต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่เกาหลีนี่น่ะ


โอ้ววววม่ายยยยย~ อีเจ้ยรับบ่ได้ มันบ่ช่ายยยยยยย~










3




สถานที่ที่ฉันถูกเชื้อเชิญ (ประชดสดๆ ร้อนๆ เลยนะนั่น) มานั้นคลับคล้ายคลับคลาผับบาร์ที่ฉันเคยแอบปีนกำแพงหนีนมเที่ยว ทว่าที่นี่มันมืดกว่า คนเยอะกว่า แถมน่ากลัวกว่าหลายร้อยเท่าทีเดียวเชียวแหละ!!


สารรูปฉันในตอนนี้มันแทบจะสลัดคราบขี้ไคลคุณหนูผู้ (เกือบๆ) เรียบร้อยก่อนหน้านี้ไปหมดเกลี้ยง ถ้านมมาเห็นฉันในสภาพแบบนี้มีหวังเบาหวานคงได้ขึ้นกันพอดี ตู้กระจกใสๆ ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเวทีผับแห่งนี้เป็นที่ที่ฉันกำลังสิงสถิตอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก ชุดเกาะอกสีขาวที่เกือบจะใสข้างล่างเป็นกระโปรงบานราวกับชุดเจ้าหญิงในตำนาน แถมแค่นั้นยังไม่พอ ไอ้พวกบ้านั่นมันยังเอาไอ้ปีกนางฟ้าปัญญาอ่อนมาติดไว้ที่หลังเพื่อที่ฉันจะได้ดูเป็นนางฟ้าสมใจ (พวกมัน)


ฉันไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องมายืนโชว์หุ่นเรียวเพรียวด้วยชุดที่แทบจะมองทะลุไส้ติ่งแบบนี้ด้วย แต่ที่รู้ๆ ฉันคงจะกัดฟันวิ่งหรือไม่ก็แหกปากขอความช่วยเหลือจากใครสักคนที่อาจจะเมตตากับผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างฉันไปนานแล้ว...ถ้าไอ้รูปหล่อนิสัยแย่ที่กำลังยืนประกบฉันอยู่ลดปืนที่ถือลงไปบ้างน่ะ -[]-;;


[เอาล่ะครับทุกๆ ท่าน บัดนี้ก็ถึงเวลาอันดีงาม ค่ำคืนแห่งความสุขกับนางฟ้าสุดสวยผู้นี้จะตกเป็นของผู้ที่สามารถประมูลเธอไปด้วยราคาสูงที่สุด ส่วนสูงร้อยหกสิบเก้า น้ำหนักสี่สิบหก รอบอกสามสิบห้า ส่วนที่เหลือใช้สายตาวัดกันเอาเองก็แล้วกันนะครับ ^^]


กรี๊ดดดด! ไอ้พวกบ้า ลามก แกมาวัดสัดส่วนของฉันตอนไหนมิทราบยะ ทำไมถึงได้รู้เรื่องพวกนั้นดีกว่าตัวฉันเองซะอีก สู่รู้จริงๆ นะแก >[]<!! แล้วดูสายตาไอ้ผู้ชายที่กำลังรุมล้อมกระจกใสที่ฉันกำลังอยู่นี่สิ มันแทบจะมองทะลุไปถึงตับ ไต ไส้พุงฉันหมดแล้ว ฮืออ~ หมดกัน ชื่อเสียงที่ฉันอุตส่าห์สร้างมานั้นพังลงไม่เป็นท่า เกิดมาจากท้องแม่นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้ที่ฉันต้องมาทำอะไรที่น่าอับอายขายขี้หน้าแบบนี้น่ะ ทำยังไงถึงจะสามารถออกไปจากไอ้สถานที่บ้าๆ นี้ได้กันนะ - -?


[เอาล่ะครับ! ราคาเริ่มต้นอยู่ที่...ห้าล้านวอนครับ] มันเริ่มแล้วล่ะสินะ...เอาล่ะ เรามาลองดูกันซิว่าค่าตัวของตัวยุ่งคนงามผู้นี้มันจะสูงเทียมฟ้าหรือต่ำกว่าหญ้านิดเดียวแค่ไหน ไม่ใช่สิ!! นังตัวยุ่ง นี่แกกำลังจะถูกขายไปในไม่ช้านี้นะยัยบ้า ตามบทแล้วแกต้องกลัวสิวะนังนี่ >O<!


?อ่า...อั๊วให้สิบล้านวอนอ่า อีหนูนี่หน้าตาน่ารักน่าเจี๊ยะจริงๆ อั๊วสู้ไม่ถอยอยู่แล้วอ่า ^-^? ไปอู้ๆ อ้าๆ กับอาม่าแกเถอะไป๊ไอ้อ้วน หน้าตาฉันน่ะมันน่ารักอยู่แล้วไม่เถียง แต่หน้าตาแกนี่สิ...พูดภาษาคนได้ก็น่าจะกราบไหว้ขอบคุณเทพเจ้าอยู่บ้านดีกว่านะเนี่ย ฮึ้ย!!


[เงินประมูลขึ้นสูงเร็วมาก ทำลายสถิติตั้งแต่เคยมีมาเลยครับ สิบล้านวอน มีใครจะให้มากกว่านี้มั้ยครับ]


?ฉันให้ยี่สิบล้านเลยเอ้า!!? ไอ้เสี่ยหนวดจิ๋ม NO.1


?ของฉันให้สามสิบล้าน!!? อาแปะหัวทอง NO.2


?สี่สิบล้าน? และอีกมากมายจนฉันหันซ้ายหันขวาตามป้ายจนหน้ามืดตาลายไปหมดแล้ว แฮ่กๆๆ ไอ้คนพวกนี้...เงินไม่ใช่น้อยๆ เลยนะนั่น ทำไมถึงได้ทุ่มสุดตัวเพียงเพราะอยากจะได้จิ้นน้อยของฉันล่ะเนี่ย เห็นแบบนี้แล้วฉันควรจะดีใจหรือว่าร้องไห้ดีล่ะ เกิดมาก็เพิ่งรู้สำนึกว่าตัวเองจะมีค่ามากมายขนาดนี้


?ฉันให้ร้อยล้านวอน? ฉันชะงักความคิดในหัวทั้งหมดเอาไว้ก่อนจะหันขวับไปยังต้นตอของเสียงประหลาดที่ดังขึ้นท่ามกลางเสียงฮือฮาที่ตามมาติดๆ ทันที


เบื้องหน้าของฉันในตอนนี้คือผู้ชายรูปงามนามสมมติไม่ทราบนามสกุล ผมสีดำสนิทซอยระประบ่า ใบหน้าเนียนใสกิ๊งฉบับหนุ่มเกาหลีที่ฉันเคยดูในซีรี่ส์ ดวงตาสีดำสนิทคู่สวยกำลังจ้องมองมาที่ฉันอย่างเอาเป็นเอาตาย ก่อนรอยยิ้มเล็กๆ จะผุดขึ้นมาจากริมฝีปากกระจับที่น่าจอง


โฮกกกก!!~ เมื่อกี้เขาว่าเขาให้เท่าไหร่นะ ร้อยล้านวอนอย่างนั้นเหรอ ไม่ต้องงงงง!!~ หล่อโฮกฮากแบบนี้ใส่พานถวายแถมข้าวอีกกระสอบเลยล่ะจ้าา~


[ระ...ร้อยล้านวอน O[]O!! พระเจ้าช่วยครับทุกๆ ท่าน ระ...ร้อยล้านวอน มีใครจะสู้อีกมั้ยครับ]


เงียบบบ~ อย่าลุกขึ้นมาสู้เชียวนะไอ้พวกปู่ๆ ทั้งหลาย อย่าเชียวนะ!! แม่จะตบให้กะโหลกร้าวจริงๆ ด้วย


[อ่าาา~ ในเมื่อไม่มีใครใจกล้าไปมากกว่านี้...งั้นผมก็ขอยุติการประมูลหญิงงามจากฟากฟ้าไว้แต่เพียงเท่านี้นะครับ ^^]


เสียงปรบมือดังลั่นสนั่นไปทั่วบริเวณก่อนที่ตู้กระจกจะถูกปลดทำให้ฉันเป็นอิสระจากไอ้พวกหน้าหล่อแต่สันดานเสียพวกนี้ไปโดยปริยาย แต่ก็ไม่วายถูกลากให้เดินไปหาหนุ่มหล่อนิรนามคนนั้นจนได้ เอิ่มมม~ ยิ่งดูใกล้ๆ ระยะเผาขนแบบนี้ยิ่งหล่อแฮะ ถ้าคู่หมั้นของฉันหล่อได้ถึงครึ่งของคนคนนี้แล้วล่ะก็นะ...อย่าว่าแต่งานหมั้นเล้ยย~ จะจัดพิธีสวมแหวนแต่งงานมันซะเดี๋ยวนั้นตัวยุ่งผู้นี้ก็ไม่ขัดหรอก ^[]^?


?หวังเฉา!!?


?ครับเจ้านาย?


?จัดการไอ้เรื่องเศษเงินนั่นด้วย? ว่าจบบุรุษปริศนาที่ฉันเพิ่งจะสังเกตเห็นว่ามากับนายหน้าหล่อคนนี้ด้วยก็คำนับให้ฉันหนึ่งทีเป็นการเคารพ ก่อนจะเดินไปคุยกับไอ้หน้าหล่ออีกคนที่จับฉันมา ฉันได้แต่มองตามหวังเฉาด้วยสายตาละห้อยโดยไม่ทันระวังตัว มารู้ตัวอีกทีร่างฉันก็ถูกกระชากให้เข้าไปอยู่ในอ้อมอกของนายหน้าหล่อไปซะแล้ววว~


?ไปจากที่นี่กันเถอะ...จุ๊บ O[]O!!? ไม่พูดเปล่า เขายังก้มหน้าลงมาจูบเบาๆ ที่หน้าผากของฉันอย่างถือวิสาสะ ทำให้ฉันที่กำลังอยู่ในอาการช็อกอยู่แล้วยิ่งช็อกคูณสองเข้าไปกันใหญ่ แต่ยังไม่ทันจะได้ขัดอะไรเขาก็อุ้มฉันขึ้นก่อนจะสาวเท้าเดินออกจากไอ้สถานที่บ้าๆ นี่ท่ามกลางสายตาของไอ้พวกแก่ตัณหากลับทั้งหลายที่มองเราทั้งคู่ด้วยสายตาละห้อย ก็บอกแล้วยังไงเล่าไอ้พวกไม่หล่ออายุมากทั้งหลาย ว่าชาตินี้ทั้งชาติก็อย่างหวังจะได้สัมผัสขาอ่อนที่เรียวสวยของฉันเลย กลับไปลูบไล้ขาหมูของคุณศรีภรรยาของพวกลุงๆ ที่บ้านเถอะไป๊!!


ทันทีที่เดินมาถึงรถลีมูซีนสีแดงสง่า เขาก็จัดการโยนร่างของฉันเข้าไปในรถอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินอ้อมไปนั่งอีกด้านหนึ่งของรถเพื่อรอการกลับมาของหวังเฉา ในเมื่อมีหวังเฉาแล้วก็ต้องมีหม่าฮั่นด้วยสินะ แล้วถ้ามีหม่าฮั่น...จางหลงกับจางหู่ไปอยู่ที่ไหนซะล่ะเนี่ย -_-;;


?อะ...เอ่อ.....คือว่าขอบคุณนายมากๆ นะที่ช่วยฉันออกมาจากไอ้สถานที่บ้าๆ นั่น ฉันเพิ่งจะเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกก็ซวยถึงขนาดนี้แล้ว นึกว่าคนที่นี่จะเลวร้ายไปซะทุกคน แต่ความจริงแล้วคนดีๆ แบบนายก็ยังมีอยู่เหมือนกัน ขอบคุณนายมากๆ นะ แล้ว...ฉันไปละ...? ว่าจบฉันก็เตรียมจะกระโดดลงเพื่อเผ่นแน่บ ถึงแม้ว่าในใจจะรู้สึกเสียดายเล็กๆ ที่จะต้องจากกับหนุ่มหล่อเท่คนนี้ก็ตามที ทว่าไม่ว่าจะยังไงอีท่าไหน ไอ้ประตูเฮงซวยนั่นก็ไม่ยอมเปิดให้สักที อ๊ากกก! ประตูบ้าอะไรกันวะเนี่ย ทำไมมันถึงได้ปิดตายแบบนี้นะ >[]<!!


?นี่นาย! จะเป็นพระคุณอย่างสูงสุดเลยล่ะ ถ้านายช่วยเปิดไอ้ประตูบัดซบนี่ให้ฉันหน่อยน่ะ -O-^? ผลสุดท้ายฉันจึงต้องจำใจขอความช่วยเหลือจากหนุ่มตรงหน้าอย่างเสียไม่ได้ ไหนๆ ก็อุตส่าห์ช่วยฉันมาซะขนาดนี้แล้ว ช่วยอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป


?หึ! เธอนี่ตลกดีนะ?


?เอ๊ะ O[]O!!?


?เธอคิดว่าที่ฉันยอมเสียเงินมากมายขนาดนั้นเพื่อที่จะช่วยเธอออกมาอย่างนั้นเหรอสาวน้อย? นั่นแหละที่ฉันคิด!! ก็ไหนเมื่อกี้บอกว่าเงินพวกนั้นมันเป็นแค่เศษเงินยังไงเล่า ฉันได้ยินชัดเต็มสองหูเลย พูดแล้วจะหาว่าคุย แต่ฉันพูดได้ถึงสี่ภาษาเชียวนะยะ >O<!!


?ละ...แล้วนายจะเอายังไง!! จะเอาเงินคืนรึไง...งั้นได้เลย รอให้ฉันพบกับคู่หมั้นคู่หมายของฉันซะก่อน เดี๋ยวจะโอนเงินคืนให้ เอาเลขที่บัญชีของนายมาสิ ^^?? อะฮ้า~ ฉันลืมเรื่องคู่หมั้นล่องหนนั่นไปได้ยังไงกันนะเนี่ย!! จุดประสงค์ที่ทำให้ฉันต้องลี้ภัยจากถิ่นฐานบ้านเกิดเมืองนอนมาเสี่ยงอันตรายแบบนี้ก็เพราะเรื่องคู่หมั้นบัดซบนั่นแท้ๆ ไอ้คนบ้าเอ๊ย!! นายจะรู้มั้ยนะว่าตอนนี้ว่าที่ศรีภรรยาในอนาคตของนายกำลังตกระกำลำบากอยู่น่ะ -__-;;


?หึ! แล้วตอนนี้ว่าที่คู่หมั้นของเธออยู่ที่ไหนซะล่ะ? ถ้าฉันรู้ฉันคงไม่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้หรอกย่ะอีตาบ้า >[]<!!


?ตะ...ตอนนี้เขากำลังทำงานสำคัญอยู่ที่ไหนสักแห่งในเกาหลีนี่แหละ คู่หมั้นของฉันคนนี้เป็นมาเฟียเชียวนะจะบอกให้ เขาน่ะทั้งรักทั้งหวงฉันอย่างกับอะไรดี ถ้ารู้ว่านายกำลังกักขังหน่วงเหนี่ยวฉันอยู่แบบนี้มีหวังเขาได้เอาระเบิดมาปาใส่หน้าหล่อๆ ของนายแน่!!? ให้ตาย ปากหนอปาก ทำไมถึงได้ไปพูดแบบนั้นกันเล่า! รักบ้ารักบออะไรกัน หมอนั่นหน้าตาเป็นยังไงฉันก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้เลยสักนิด แล้วแบบนี้จะเอายังไงต่อดีล่ะเนี่ย


?เปิดประตูรถให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือนจริงๆ ด้วย -_-o?? ใจกล้าแต่ปากสั่นนี่ถือว่าเก่งรึเปล่านะ


?เห็นทีว่าฉันคงจะทำตามที่เธอขอร้องไม่ได้?


?แล้วใครว่าฉันขอร้องนายกันล่ะยะ! รีบเปิดประตูรถเดี๋ยวนี้น้าาาาา~? ฉันพูดขึ้นพร้อมทั้งพยายามเปิดประตูรถจนหวังเฉาเดินกลับมาพอดี


?นายครับ! กลับบ้านหรือว่าจะไปโรง...?


?กลับบ้านเลยหวังเฉา?


?ครับนาย? นี่เป็นบทสนทนาสั้นๆ ระหว่างเจ้านายกับลูกน้องก่อนที่รถคันหรูคนนี้จะเคลื่อนทะยานตัวออกไปท่ามกลางความงุงงนของฉัน


?กรี๊ดดด! นี่นายจะพาฉันไปไหนเนี่ย จอดรถเดี๋ยวนี้ ฉันจะลง ได้ยินมั้ยว่าฉันจะลงงง!!~ >[]<? และแน่นอน เมื่อสติกลับคืนมาฉันก็ไม่นั่งอยู่เฉยๆ แน่ ฉันทั้งร้องทั้งทุบกระจกรถเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนภายนอกเพราะขอจากคนภายในแล้วไม่เป็นผล แต่ก็ไม่มีใครสนใจหญิงสาวแสนสวยคนนี้เลยสักนิด อาจเป็นเพราะกระจกรถเวรๆ นี่เป็นสีดำก็เป็นได้ ทำให้คนที่เดินเพ่นพ่านไปมาอยู่ด้านนอกนั้นไม่สามารถมองทะลุเข้ามาถึงภายใน หมดกัน!! อิสรภาพของฉัน >O<!


?ฮึกๆ ปล่อยฉันไปเถอะนะ พ่อกับแม่ฉันกำลังป่วยหนักใกล้ตายอยู่ที่โรงพยาบาล ถ้าฉันไปดูใจท่านทั้งสองไม่ทันมีหวังชาตินี้ทั้งชาติฉันคงจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเป็นแน่!!? เมื่อขอร้องดีๆ ไม่สำเร็จฉันจึงไม่มีทางเลือก พ่อคะ แม่จ๋า~ ตัวยุ่งน้อยคนนี้ขอโทษนะคะ หนูไม่ได้ตั้งใจแช่งพ่อกับแม่ให้ป่วย แต่เพื่อชีวิตของลูกสาวที่น่ารักคนนี้...ขอให้พ่อกับแม่โปรดเข้าใจ


?.....?


?นี่!!...?


?ถ้าจำไม่ผิด...พ่อของเธอตอนนี้อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น กำลังทำงานอย่างหนักโดยมีเลขาฯ สาวสวยอยู่ข้างๆ ส่วนแม่ของเธออยู่ที่อิตาลี กำลังนั่งจิบชายามบ่ายพร้อมกับจดบันทึกการเดินทางไปพลางๆ -_-^? ร่างสูงที่นั่งแข็งเป็นหินอยู่ตรงหน้าโพล่งขึ้นขัดซะก่อนที่ฉันจะทำบาปโดยการแช่งคนในครอบครัวไปมากกว่านี้ แต่อะไรก็คงไม่สำคัญเท่าคำพูดเมื่อสักครู่นี้ของเขา...


?นะ...นายรู้ได้ยังไงกันยะว่าพ่อแม่ฉันตอนนี้อยู่ที่ไหนและกำลังทำอะไรอยู่น่ะ O[]O?


?หึ! ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ฉันอยากรู้แล้วไม่รู้ อยากได้แล้วไม่ได้ และในตอนนี้สิ่งที่ฉันอยากได้ก็คือใจเธอ!!?


?อยากได้แน่จริงก็ลองเข้ามาควักดูสิยะ แม่จะตบไม่เลี้ยงจริงๆ ด้วย ฉันจะบอกอะไรให้เอาบุญนะ คนอย่างนายไม่มีวันที่จะได้ทั้งตัวแล้วก็ใจของฉันหรอกย่ะ เพราะฉันจะเก็บสิ่งมีค่าสองสิ่งนี้เอาไว้ให้คนที่ฉันรักและมองเห็นคุณค่าของมันเท่านั้น รู้เอาไว้ซะด้วย >O<!? ฉันตะโกนดังลั่นก่อนจะค่อยๆ เขยิบหนีทันทีที่พูดจบ เนื่องจากร่างสูงที่เคยนั่งหน้าหล่ออยู่ตรงหน้านั้นตอนนี้ไม่อยู่แล้ว...แต่กลับมานั่งอยู่ข้างๆ ของฉันแทน


?งั้นเรามาดูกันมั้ยล่ะว่าฉันจะทำทุกอย่างให้ได้ทั้งตัวและก็ใจของเธอมาฟรีๆ เธอกล้าจะเสี่ยงกับฉันสักตั้งมั้ยล่ะสาวน้อย ^^? ร่างสูงกระชากฉันเข้าหาตัวก่อนจะก้มต่ำลงมากระซิบคำพูดเหล่านั้นข้างๆ หูของฉันอย่างช้าๆ เพียงแค่สัมผัสเล็กๆ จากผู้ชายคนนี้ก็ทำเอาใจฉันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ


เขาเป็นใครกันแน่นะ!! ทำไมถึงได้รู้เรื่องของฉันมากมายขนาดนี้ คำพูดของหมอนี่ทำฉันกลัวเลยจริงๆ เขาพูดเหมือนกับเขารู้จักฉันดีกว่าตัวของฉันอีกอย่างงั้นแหละ -[]-^ ตลอดการเดินทางที่ไม่อาจจะคาดเดาได้เลยว่ามันจะไปหยุดอยู่ ณ ที่ตรงไหน ไม่มีใครปริปากพูดอะไรออกมาท่ามกลางความเงียบเชียบภายในรถ สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือภาวนา...ปล่อยให้โชคชะตานำทางฉันไปสู่อิสรภาพด้วยเถอะ!!













4






รถลีมูซีนคันหรูทะยานเข้าไปในคฤหาสน์หลังงามที่สวยจนฉันถึงกับต้องอ้าปากค้าง ที่นี่มันที่ไหนกัน สวรรค์ใช่มั้ย ใช่สวรรค์รึเปล่า!! อ๊ากกก >[]<! แม่เจ้าเว้ยยย~ คฤหาสน์คุณหญิงป้าญาติทางฝ่ายพ่อ ลูกพี่ลูกน้องของคุณตาที่ว่าสวยสดงดงามน่าจับจองเป็นเจ้าของนั่นยังสวยได้ไม่ถึงครึ่งของที่นี่ด้วยซ้ำไปนะเนี่ย ถึงแม้จะไม่รู้ว่าในสวนสวยแห่งนี้มีดอกไม้อะไรอยู่บ้าง เพราะตอนนี้มืดแล้ว แม้จะมีไฟสีสวยที่คอยส่องแสงระยิบระยับราวกับหิ่งห้อยในเวลาค่ำคืนอยู่ก็ตาม แต่ฉันว่าถ้าเป็นตอนกลางวันล่ะก็ ที่แห่งนี้จะต้องสวยมากแน่ๆ


เอี๊ยดดดด! และเพราะความตะลึงที่ไม่มีทีท่าว่าจะสลายไปได้ง่ายๆ ทำให้ฉันถึงกับต้องกลิ้งขลุกขลักไปมารอบรถที่แสนจะกว้างนี้ทันทีที่รถจอดสนิทหน้าทางโถงอันกว้างใหญ่และสวยสดงดงามที่มีเหล่าชายชุดดำจำนวนไม่ต่ำกว่ายี่สิบคนยืนรายล้อมกันอยู่


คอยดูเถอะ!! ถ้าได้เงินจากมรดกของคุณปู่ทวดนั่นเมื่อไหร่ สิ่งแรกที่ฉันจะทำก็คือซื้อคฤหาสน์แบบนี้เอาไว้เป็นที่นั่งเล่นสักหลังให้ได้เลยคอยดู ฮึ้ม!!


?จะนอนเฝ้ารถรึยังไงคืนนี้ ไม่ลงมาเหรอ? ร่างสูงที่ฉันยังไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อถามขึ้นหลังจากที่เขาได้ลงไปจากรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลงไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะเนี่ย -__-^


?ก็แล้วทำไมฉันจะต้องลงไปด้วย ที่นี่มันคือที่ไหนกัน ละ...แล้วทำไมถึงได้มีคนพลุกพล่านอยู่เต็มไปหมดแบบนี้ -_-;;? ฉันถามพลางกวาดสายตาสอดส่องไปทั่วบริเวณ มีใครตายที่นี่งั้นเหรอ ทำไมมีแต่ชายชุดดำเดินสวนกันไปมาอยู่เต็มไปหมด สีดำมันเป็นสีแห่งความตายเชียวนะ ใส่สีชมพูสิ สีชมพูมันเป็นสีโปรดของฉันเชียวนะจะบอกให้!


?ที่นี่จะกลายเป็นเรือนหอรอรักของเราสองคน ถ้าเธอยังไม่รีบนำตัวเองลงมาจากรถและหุบปากให้สนิท? ร่างสูงยืนเก๊กหน้าหล่อตอบด้วยเสียงเรียบเฉย


?คิดว่าขู่แบบนี้แล้วฉันจะกลัวอย่างงั้นเหรอ!!?


?แล้วกลัวมั้ยล่ะ - -?


?ก็กลัวน่ะสิยะ ถามมาได้ >O<!? ถึงแม้จะต้องอับอายที่เสียหน้าแต่ก็ยังดีกว่าต้องเสียของรักของหวงอย่างเวอร์จิ้นล่ะน้า~ ฉันยอมก้าวขาลงจากรถแต่โดยดี ก่อนจะถูกลากโดยร่างสูงให้เดินเข้าไปในตัวบ้านท่ามกลางสายตาของผู้คนรอบข้างที่จ้องมองราวกับว่าเจ้านายของพวกเขากำลังจูงมือกับสิ่งมหัศจรรย์ที่แปดของโลกเข้าไปในคฤหาสน์ก็ไม่ปาน


ถึงแม้ว่าลึกสุดในใจอยากจะเอ่ยปากถามออกไปถึงเหตุผลที่ฉันถูกจ้องมองด้วยสายตาแบบนั้นก็ตามที แต่เพราะเหลือบไปมองสีหน้าที่เรียบเฉยเย็นชาของคนข้างๆ นี้แล้ว...เก็บเอาไว้ค่อยถามเวลาอื่นก็ได้ล่ะมั้ง มีแววว่าฉันคงจะไม่ได้ออกไปจากที่นี่ง่ายๆ =_=?


เราสองคนเดินกอดคอควงแขนหยอกล้อต่อกระซิก (ประชด - -) กันมาจนถึงบันไดยักษ์ที่มีเหล่าแม่บ้านในชุดน่ารักนับสิบคนกำลังยืนเรียงรายก่อนจะก้มหัวคำนับให้ตลอดการเดินทางของเราทั้งสอง รู้สึกเขินขึ้นมาหน่อยๆ แฮะ ที่จู่ๆ ก็มีคนแปลกหน้ามาคอยก้มหัวให้แบบนี้ เหมือนกับว่าตัวเองเริ่มจะมีอำนาจขึ้นมาหน่อยๆ ซะแล้วสิ!!


?โอ้ววว~ คุณหนู ในที่สุดก็ได้เจอสักที โธ่ๆๆ มาให้ป้ากอดให้หายคิดถึงหน่อยนะคะ? ขณะที่ฉันกำลังตื่นตาตื่นใจอยู่กับเฟอร์นิเจอร์สุดหรูที่ใช้ประดับบ้านอยู่นั้นก็มีหญิงชราไม่ทราบนามสกุลท่าทางใจดีคนหนึ่งเดินเข้ามาสวมกอดฉันอย่างหน้าตาเฉย


?คะ...คุณเป็นใครอย่างนั้นเหรอคะ ระ...เราเคยรู้จักกันงั้นเหรอ -_-??


?โธ่ๆๆ ครั้งสุดท้ายที่เจอกันคุณหนูยังเล็กมาก ไม่แปลกหรอกนะคะที่จะจำป้าไม่ได้น่ะ แต่ป้านี่สิ เห็นแวบแรกก็รู้ได้ทันทีเลยล่ะค่ะว่าคุณจะต้องใช่คุณหนูตัวยุ่งของป้าอย่างแน่นอน?


?ป้ารู้จักชื่อของฉันด้วยเหรอคะ O[]O!!?


?ก็ต้องรู้จักน่ะสิคะ ก็คุณเป็นวะ...?


?จะคุยกันอีกนานมั้ยฮะ! คุณป้า เดี๋ยวช่วยเตรียมอาหารค่ำเอาขึ้นไปให้ฉันที่ห้องด้วย วันนี้เราทั้งคู่ผจญภัยมามาก รู้สึกเหนื่อยเต็มที อยากจะพักผ่อนแล้ว อย่าให้ใครขึ้นไปรบกวน? แต่ก่อนที่คุณป้าผู้แสนจะจิตใจดีจะได้ช่วยไขข้อสงสัยในใจให้ฉันได้รับรู้ บุคคลที่สามก็โพล่งขึ้นก่อนจะจัดการลากฉันขึ้นบันไดมุ่งหน้าไปยังที่ไหนสักแห่งทันที


อ๊ากกก!! อีตาบ้าเอ๊ย ฉันกำลังจะได้รู้อยู่แล้วเชียวว่าที่นี่มันคือที่ไหน แล้วยัยป้านั่นมารู้จักมักจี่กับฉันได้ยังไง ตั้งแต่ชาติปางไหน ปัดโธ่!! เสียอารมณ์จริงๆ เลยวุ้ย >[]<!





ในที่สุดฉันก็ถูกลากกระชากมาจนถึงห้องห้องหนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องนอนของเขาทั้งๆ ที่ยังไม่ได้รู้เรื่องที่อยากจะรู้ แม่เจ้า O[]O!! นี่มันใช่ห้องนอนของคนเพียงคนเดียวจริงๆ เหรอเนี่ย ทำไมมันถึงได้ใหญ่โตโออ่าแบบนี้ หรูหราอลังการงานสร้างสุดๆ เลย ห้องนอนของอีตาบ้าอำนาจนี่ฉันสามารถนอนรวมกันได้ทั้งตำบลเชียวนะจะบอกให้ คนรวยนี่มันช่างฟุ่มเฟือยกันจริงๆ ไม่รู้ค่าของเงินทองกันเลยหรือยังไง (พูดเหมือนตัวเองไม่รวย - -)


?คืนนี้ก็นอนที่นี่ไปก่อนก็แล้วกัน พรุ่งนี้ฉันจะให้แม่บ้านจัดห้องส่วนตัวให้เธอ?


?ทำไมจะต้องจัดด้วย! ฉันเองก็ไม่ได้คิดว่าจะอยู่ที่นี่เกินคืนเดียวอยู่แล้ว?


?.....?


?ตกลงว่านายเป็นใครกันแน่ ทำไมคนในบ้านหลังนี้ถึงได้มองฉันแปลกๆ และไหนจะคุณป้าคนเมื่อกี้ที่รู้จักแม้กระทั่งชื่อของฉัน โอ๊ยยย!!~ นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับชีวิตของฉันกันล่ะเนี่ย >[]<!!?


?.....?


?อย่าเอาแต่เงียบจะได้มั้ย ช่วยพูดอะไรสักอย่างสิ อย่างน้อยๆ บอกชื่อของนายให้ฉันได้รู้บ้างก็ยังดี?


?เธอนี่พูดมากกว่าที่ฉันคิดเอาไว้แฮะ เอาล่ะ อ่านจดหมายนี่ซะ มันจะตอบข้อสงสัยที่มีอยู่ในใจของเธอให้หมด จะได้เลิกโวยวายซะที? ร่างสูงพูดก่อนจะยื่นจดหมายฉบับหนึ่งมาให้ฉัน ฉันชั่งใจอยู่ครู่ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปกระชากจดหมายนั่นมาถือไว้แล้วเปิดออกอ่านทันที


TO :: คุณหนูผู้เสียสละที่รักของนม


กราบเรียนคุณหนูตัวยุ่งที่เคารพรักและนับถือ ในขณะที่คุณหนูกำลังอ่านจดหมายฉบับนี้ของนมอยู่นั้น คาดว่าคุณหนูน่าจะได้เจอกับว่าที่คู่หมั้นสุดหล่อของคุณหนูแล้วนะคะ เพราะทันทีที่ส่งคุณหนูขึ้นเครื่อง ป้าก็รีบอีเมลไปหานายท่านใหญ่ หรือก็คือเพื่อนรักของคุณปู่ทวดของคุณหนูนั่นเอง เมื่อท่านรู้ข่าวเรื่องที่ว่าคุณหนูกำลังเดินทางไปเกาหลี ท่านก็ดีใจจนเนื้อเต้น ก่อนจะบอกให้คุณชายไปรอรับคุณหนูที่สนามบิน ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีๆ นะคะคุณหนู หนาวก็ห่มผ้า เป็นหวัดก็กินทิฟฟี่แผงสีเขียว (ของแท้ต้องแผงสีเขียวเท่านั้น!!)


อนาคตของทุกคนที่นี่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณหนูเพียงคนเดียว


ยังไงซะก็ขอให้คุณจงโชคดีมีความสุขให้มากๆ


ป.ล. อีกหนึ่งเดือนต่อจากนี้เราค่อยเจอกันนะคะ หวังว่าวันนั้นคุณหนูจะยังคงมีชีวิตอยู่

I LOVE YOU คุณหนูตัวยุ่งของป้า จากนมผู้แสนเศร้า


ฉันแทบจะหยุดหายใจไปซะเดี๋ยวนั้นที่ได้อ่านจดหมายของนมจนจบทุกบรรทัด ก่อนจะตวัดสายตาไปมองร่างสูงตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่าตัวเองใกล้จะมีเขางอกออกมาจากหัว มีขาเพิ่มมาอีกสองขา ชอบกินหญ้าเป็นอาหารหลัก มีนกเอี้ยงคอยเกาะอยู่บนหลังล่ะเนี่ย


?มะ...หมายความว่านายก็คือ.....?


?สวัสดี ฉันชื่อโมเซส เป็นว่าที่คู่หมั้นที่ทั้งรักทั้งห่วงเธออย่างกับอะไรดี? พะ...พระเจ้า OoO! นี่พระองค์กำลังเล่นตลกอะไรอยู่กันล่ะคะเนี่ย นี่มันต้องเป็นเรื่องล้อเล่นกันแน่ๆ หมอนี่!! ไอ้หน้าหล่อตรงหน้าฉันคนนี้นี่น่ะเหรอคือว่าที่คู่หมั้นของฉัน!!


?เมื่อรู้แบบนี้แล้ว...ก็รีบไปยกเลิกเรื่องงานหมั้นปัญญาอ่อนนั่นซะ? ร่างสูงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะสบอารมณ์เท่าไหร่นักเมื่อเอ่ยถึงคำว่างานหมั้น


?ทะ...ทำไมฉันจะต้องทำตามที่นายบอก!!?


?ก็เพราะถ้าเธอยังไม่อยากตายก็จงรีบทำตามที่ฉันบอกแล้วไสหัวไปจากที่นี่ซะ ผู้หญิงอย่างเธอมันน่าขยะแขยงสิ้นดี!!? ร่างสูงตวาดลั่นห้อง ก่อนจะตั้งท่าเดินออกไป ทว่าเสียงของฉันแผดขึ้นขัดขาเขาเข้าซะก่อน


?ฉันไม่ไป -_-^? เกิดมาทั้งชีวิตยังไม่เคยมีชายใดปฏิเสธโฉมงามทรามวัยคนนี้มาก่อนเลยนะ รู้เอาไว้ซะด้วย!! แล้วหมอนี่มันเป็นครายยย~


?เธอว่ายังไงนะ!!?


?นะ...นายก็ได้ยินแล้วนี่ งานหมั้นระหว่างเราจะต้องมีขึ้นอย่างแน่นอน และที่สำคัญไปมากกว่านั้น ฉันจะทำให้นายกลืนคำพูดที่พูดออกมาเมื่อสักครู่นี้ลงคอไปให้หมด ไม่เชื่อก็คอยดูสิ!!?


?นี่เธอ!!? ร่างสูงเอ่ยเสียงเย็นชาก่อนจะเดินเข้ามากระชากแขนฉันอย่างแรงให้หันไปประจันหน้ากับเขา


?นายจำคำพูดของตัวเองที่พูดไว้บนรถได้รึเปล่า ที่ว่านายบอกว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตัวและหัวใจของฉันมาฟรีๆ น่ะ ฉันว่าจะขอลองเสี่ยงกับนายดูสักตั้งนึง นายคิดว่ายังไงล่ะ ^^?


?ของเดิมพันล่ะ!! คิดที่จะเล่นการพนันกับมาเฟียมันก็ต้องมีของรางวัลเป็นสิ่งจูงใจไม่ใช่รึไง? หน็อยยย~ ไอ้มาเฟียจอมบ้าอำนาจเอ๊ย! คิดว่าแสยะยิ้มแบบนั้นแล้วดูเท่ดูหล่อรึยังไงกัน


?ถ้าภายในหนึ่งเดือนนับจากวันนี้ไป นายไม่สามารถทำให้ฉันล้มเลิกงานหมั้นได้ล่ะก็ งานหมั้นที่ว่าจะต้องถูกจัดขึ้นอย่างแน่นอน แต่กลับกัน...?


?ถ้าภายในหนึ่งเดือนนับจากนี้ฉันสามารถทำให้เธอไม่อยากจะหมั้นกับฉันได้แล้วล่ะก็ ทั้งตัวและหัวใจของเธอ...จะต้องเป็นของฉันคนเดียว!!?


?ได้เลย!! นายอย่ากลับคำพูดของตัวเองซะล่ะ!!?


?คนอย่างฉัน...พูดคำไหนคำนั้น ไม่เปลี่ยนแปลง?


มันเริ่มแล้วสินะ!! การพนันครั้งยิ่งใหญ่ที่มีหัวใจและเวอร์จิ้นของฉันเป็นเดิมพัน!!








------------
รับบทหนักเหลือเกินกับนางเอกเรื่องนี้ แถมยังชีวิตรันทดเสียอีก จากที่เป็นคุณหนูดีๆ กลับต้องมาทำระหกระเหเร่ร่อนจนมาเจอคู่หมั้นที่ดูท่าจะเถื่อนไม่เบา แถมเป็นมาเฟียซะอีก แ้ล้วการเดิมพันครั้งนี้ ใครจะเป็นผู้ชนะกันล่ะเนี่ย ติดตามกันต่อได้ในเล่มค่ะ สามารถหาซื้อได้ที่ 7-11 และร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือ http://www.bongkoch.com/catalog/product ... ts_id=6625 ค่ะ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”