ไลลาบอกตัวเองว่าไม่เคยเสียใจอะไรเท่านี้มาก่อน...เมื่อลงมาจากตึกพยาบาลตรงมายังหอพักในค่ำวันนั้น...
หมอวิศรุตกำลังจะแต่งงาน เขากำลังจะแต่งงานทั้งๆ ที่เขาเคยบอกว่ารักไลลา...รักยิ่งกว่าใคร และบอกว่าจะแต่งงานกับหล่อน...
หากบัดนี้กาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่หมอวิศรุตพูดล้วนแล้วแต่เป็นการโกหกทั้งเพ...ทั้งโกหกและหลอกลวงเลยทีเดียว...
ร่างบางวิ่งตัวปลิวเข้าไปในห้อง...ปิดประตูแล้วหลับตาลงเพื่อระงับความรู้สึกเจ็บปวดที่ตีตื้นขึ้นมาแน่นอยู่ในหัวอกจนไม่สามารถจะอธิบายได้...
หากแต่ไลลายืนอยู่เช่นนั้นได้ไม่ถึงห้านาทีก็มีเสียงเคาะประตูตามมาติดๆ
?ไลลา...นี่ผมนะ เปิดประตูที?
เปลือกตาที่ระบายไปด้วยขนตายาวของหล่อนเปิดขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น...
?ไลลา...นี่ผมนะ...หมอวิศรุต...?
เสียงนั้นย้ำเข้ามาอีกครั้ง แต่ไลลายังเงียบ...
?ผมต้องการพูดกับคุณนะไลลา ผมต้องการอธิบาย ผมมีเหตุผล...?
หญิงสาวถอนใจยืดยาว...เมื่อบอกตัวเองว่ามันสายเกินไปแล้วที่จะมาอธิบาย
?ไลลา...?
เสียงของหมอวิศรุตดังขึ้นทุกทีจนหล่อนต้องหมุนตัวไปเปิดประตูและเผชิญหน้ากับเขา...ผู้ชายรูปหล่อและเสน่ห์แรงจนผู้หญิงวิ่งไล่จับกันทั้งโรงพยาบาล...ก็จะไม่แรงยังไงไหวล่ะ ในเมื่อหมอวิศรุตมีพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าทรัพย์สมบัติ...ชื่อเสียงหรือวงศ์ตระกูลเก่าแก่ของเขา
ไลลาถอนใจอีกครั้งเมื่อสบตากับอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งหัวใจ...
?ผม...เสียใจนะไลลา...?
หญิงสาวไม่ได้ตอบ ดวงตาคู่สวยจ้องมองเขานิ่ง...ริมฝีปากหุบสนิท
?ผม...ขอเข้าไปข้างในได้ไหม...?
แทนคำตอบ...ไลลากลับก้าวออกมาข้างนอกและตรงไปยังเก้าอี้ว่างกลางห้องโถงด้านนอก หล่อนไม่เคยเปิดโอกาสให้เขาได้เหยียบย่างเข้าไปในห้อง...และจะไม่มีวันตลอดไป
หญิงสาวหันกลับมามองอีกฝ่ายอีกครั้งก่อนจะทรุดตัวลงนั่ง หมอวิศรุตก้าวตามมาอย่างไม่มีทางเลือก...หยุดยืนอยู่ตรงหน้าผู้หญิงที่เขาต้องเสียเวลาวิ่งไล่ตามหล่อนมากมายกว่าหล่อนจะยอมรับรัก...
เขาทรุดตัวลงนั่งบนม้านั่งใกล้ๆ และจ้องไลลานิ่งอยู่หลายอึดใจ...
?หาที่เงียบๆ กว่านี้ได้ไหมไลลา...นั่งอยู่อย่างนี้ เดี๋ยวใครไปใครมาก็เห็นเข้า?
?ก็ช่างเขาปะไรคะ...ไลลาไม่ได้ทำผิดอะไรนี่ คุณหมอมีอะไรก็ว่ามา?
?คุณอยากให้คนอื่นมาได้ยินเรื่องส่วนตัวของเรางั้นหรือ...?
หมอวิศรุตติงอย่างไม่สบายใจนัก
?ไม่มีเรื่องส่วนตัว ?ของเรา? แล้วค่ะคุณหมอ...?
หล่อนตอบเสียงเรียบเย็นจนตัวเองยังรู้สึก...
ดวงตาของไลลากวาดไปทั่วดวงหน้าของอีกฝ่ายอย่างเสียใจ
?ผมจำเป็นจริงๆ นะไลลา...?
?หรือคะ...? หล่อนย้อนถามด้วยเสียงเย้ยหยัน
?หมอจามรีเขา...ต้องการผม...?
ไลลาตาลุก...แทบจะฉีกเนื้อคนพูดเป็นชิ้นๆ ถ้าทำได้...
?แต่คุณสิไลลา...ไม่ว่าผมจะทำยังไงคุณก็เฉยทุกที...ผมบอกรักคุณ คุณก็เฉย...ผมบอกจะแต่งงานกับคุณ คุณก็เฉยๆ หรือแม้แต่ผมจะแตะต้องหรือเข้าใกล้คุณก็ไม่ได้?
คำต่อว่าของเขาเล่นเอาไลลาสะอึก...จ้องผู้ชายตรงหน้าอย่างกราดเกรี้ยวเพิ่มขึ้นไปอีก หล่อนอยากบอกเขาว่าการที่หล่อนเฉย...และไม่ปฏิเสธก็เท่ากับยอมรับเขาโดยปริยายไม่ใช่หรือ...และในกรณีหลัง...หล่อนก็ต้องการหลักประกันอันมั่นคงคือการแต่งงานเสียก่อนที่จะยอมให้เขาเข้ามาใกล้ง่ายๆ
หมอวิศรุตไม่ได้พยายามจะแตะต้องหล่อนเพียงอย่างเดียว...แต่ไลลารู้ว่าเขาต้องการรวบหัวรวบหางซะด้วยซ้ำ...ซึ่งหล่อนก็ต้องปฏิเสธ แน่นอน...กิตติศัพท์ความเจ้าชู้ของเขาไลลารู้ดี และไม่ต้องการให้ตัวเองกลายเป็นขี้ปากหรือ ?ฉากผ่าน? ของใคร...
หล่อนระมัดระวังตัวเองอย่างมั่นคง ถึงกระนั้นก็ยังไม่วายจะถูกทรยศขบถรักเข้าจนได้...
?นี่คือเหตุผลที่คุณไปมีคนอื่นใช่ไหมคะ...?
หล่อนถามและมองเขานิ่ง...สะใจที่เห็นอีกฝ่ายต้องอึ้ง
?ผมต้องทำหน้าที่ของผมนะไลลา...ผมพลาด?
ประโยคนี้ทำให้หญิงสาวต้องขมวดคิ้ว...
?นี่หมายความว่า...?
?หมอจามรีกำลังท้อง เธอฟ้องผู้ใหญ่...ผมต้องรับผิดชอบ...?
ไลลาเพิ่งถึงบางอ้อเอาตอนนี้เอง...หล่อนถอนใจอีกครั้ง แน่นอน...หมอวิศรุตกำลังมีอนาคตทางการงาน เขากำลังจะเป็นหัวหน้าอยู่ไม่นานนี้...ถ้ามีเรื่องก็มีหวังพลาด...และข้อสำคัญหมอจามรีคือบันไดเลื่อนที่จะทำให้เขาก้าวสูงขึ้นไปกว่านี้ในอนาคต เพราะหล่อนเป็นลูกสาวผู้อำนวยการ
ไลลาโง่เองที่มองข้ามเรื่องนี้ไป...และไม่คิดว่าข่าวลือที่มีมาเข้าหูเพียงไม่นานมานี้จะเป็นความจริง หล่อนโง่เองที่คิดว่าคนอย่างหมอวิศรุตจะจริงจัง...จริงใจ...และไม่เป็นอื่น เมื่อหล่อนไม่ปฏิเสธความรักของเขา
หล่อนเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้ว่าความรัก...ความจริงใจ และผู้หญิงคนเดียวไม่พอสำหรับเขา
ขณะที่วิ่งไล่ตามหล่อนนั้น...หมอวิศรุตเก็บดอกไม้รายทางไปดะ หรือแม้แต่จะหยุดชมดอกไม้แพงเขาก็ยังทำ
แล้วไลลาล่ะ...มีอะไรจะเทียบกับหมอจามรีได้ พยาบาลธรรมดาๆ อย่างหล่อนที่มีเพียงรูปสวย...ไร้พ่อแม่ผู้ปกครองค้ำจุน ต้องดิ้นรนช่วยเหลือตัวเองมาตลอด และไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรเลยสักอย่าง...ถ้าเขาเลือกหล่อนก็ผิดไปล่ะ
หญิงสาวก้มหน้าลงมองมือตัวเองเมื่อสำนึกถึงความจริงที่เป็นอยู่ได้ ความหยิ่งและจองหองในศักดิ์ศรี...ความดีที่ได้กระทำล้วนแต่ถูกผู้ชายอย่างหมอวิศรุตมองข้ามไปทั้งสิ้น เมื่อเขาจับหล่อนไปวางเทียบกับหมอจามรีแล้ว...ไลลาจึงถูกเตะกลิ้งลงมาอย่างไร้ความหมาย
?ไลลา...โปรดฟังผม...? หมอวิศรุตก้มลงบอกหล่อน มือของเขายื่นมาประคองมือบางของหล่อนเอาไว้อย่างมั่นคง
?ผมรักคุณ...ผมรักคุณจริงๆ นะไลลา...แต่ว่า...?
ไลลาก้มหน้าเงียบ...ตะแคงหูฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่อไป...
?ผมต้องแต่งงานกับจามรีเพื่อกู้หน้าเขา...แล้วหลังจากนั้นเราจะ...?
ไลลาเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยดวงตาลุกวาบอีกครั้ง...
นี่เขานึกว่าไลลาเป็นผู้หญิงชนิดไหนกันนะ...
หมอวิศรุตเห็นดวงตาหล่อนแล้วชะงัก อึกอักพูดไม่ออกไปชั่วขณะ...
?ไลลา...ขอเวลาผมหน่อย แล้วผมจะกลับมาหาคุณ...?
เขาเปลี่ยนคำพูดได้รวดเร็วดีแท้ แต่มันเปลี่ยนความรู้สึกของไลลาไม่ได้หรอก...หล่อนไม่เคยคิดจะทำบาปแย่งสามีใครสักที ไม่ว่าหล่อนจะชอบเขาแค่ไหนก็เถอะ
ไลลารู้ว่ามนุษย์เราดีกว่าสัตว์ก็ตรงที่มีจิตสำนึกของความเป็นคน...และครองตัวอยู่ในศีลธรรมได้พอเหมาะพอควรนี่แหละ ไลลาจะไม่ทำบาปเด็ดขาด หล่อนจะไม่มีวันทำให้ผู้หญิงเพศเดียวกันต้องเจ็บปวด...หรือเสียใจ แม้ผู้หญิงคนนั้นจะมองไลลาอย่างหยามหยันมาตลอดก็ตาม...
?อย่าเลยค่ะคุณหมอ...ไม่มีประโยชน์...? หล่อนบอกกับเขา
ไลลาเดาถูกว่าเขาจะพูดอะไรต่อ...คงจะกล่อมให้หล่อนใจอ่อน และคิดว่าความรักจะทำให้ไลลาทำอะไรโง่ๆ ได้ ไม่มีทางเสียแล้ว...หมอวิศรุตยังรู้จักไลลาน้อยไป
?ไลลา...?
เขาเรียกชื่อหล่อนด้วยเสียงเบาอ่อนหวานขณะที่ดึงมือไลลาไปกุมไว้แน่น...หญิงสาวดึงมือหนีโดยละม่อม...พยายามรักษาสีหน้าเอาไว้ขณะได้ยินเสียงรองเท้ากระทบขั้นบันไดขึ้นมา
หมอวิศรุตหันไปมอง ส่วนหญิงสาวกะพริบตาเมื่อเห็นร่างของผู้ที่ก้าวขึ้นมาถนัด...หมอจามรี...
หล่อนสวยไม่ได้ครึ่งของไลลา แต่มีพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างที่ไลลาไม่เคยมี แต่ไลลาก็ไม่เคยคิดอิจฉา...ตรงกันข้ามกับอีกฝ่ายที่เจอะเจอกันทีไรเป็นต้องกระทบกระเทียบเหน็บแนมใส่ทุกที
ร่างผอมบางของหมอจามรีเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคนทั้งสอง และมองไลลาด้วยสายตาเย็นเยียบ
หญิงสาวถอนใจ...และลุกขึ้นยืนพร้อมๆ กับหมอวิศรุต
?ถึงกับต้องตามมาสั่งเสียกันเชียวหรือคะ...?
หล่อนถาม...และมองหน้าหมอหนุ่มอย่างไม่พอใจ
?ผมเพียงแต่...?
?หรือจะนัดไปพบกันอีกลับหลังฉัน คุณเอาอะไรต่อรองให้เขายอมกินน้ำใต้ศอกฉันล่ะคะ...ตัวคุณ...หรือทรัพย์สมบัติของคุณ?
ไลลาเจ็บลึกเข้าไปในหัวอก และเดินหนีเข้าห้องเสียทันที หล่อนไม่คิดจะปะทะคารมกับใคร...เพราะเล็งไม่เห็นประโยชน์อะไร
หมอวิศรุตเห็นแก่ตัว...หมอจามรีก็หลงรักผู้ชายคนนี้แม้เขาจะหวังเอาหล่อนเป็นบันไดไปสู่อนาคต...ส่วนไลลา...หล่อนขอโง่เพียงแค่นี้เท่านั้น
หญิงสาวปิดประตูห้องแล้วล็อกอย่างแน่นหนาอีกครั้ง...สาบานกับตัวเองแล้วว่าจะไม่เปิดออกไปอีก...ไม่ว่าใครจะมาเรียก...
หล่อนขึ้นไปนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง ใช้เวลาครุ่นคิดอยู่มากมาย...และสุดท้ายก็ตัดสินใจ
ไลลาหันไปคว้าหนังสือพิมพ์ที่เห็นประกาศรับพยาบาลมาเปิดดูใหม่ หล่อนเพิ่งเห็นคอลัมน์นี้เมื่อเช้า...และไม่คิดว่าตัวเองมีความจำเป็นจะต้องสนใจมันจนกระทั่งนาทีนี้
สถานีอนามัยประจำอำเภอแห่งหนึ่งรับพยาบาลมีคุณวุฒิเพิ่ม...หล่อนนึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าเขาเปิดรับสมัครได้ยังไง หรือว่าจะมีเอกชนหนุนหรือให้ทุนอยู่ และชื่ออำเภอที่มันปรากฏอยู่ในประกาศนั้น...ก็อยู่ในจังหวัดที่ห่างไกลความเจริญสุดขีด
คงจะมีคนพูดกันมากมายถ้าจู่ๆ ไลลาจะลาออกไปหางานใหม่ทำซะดื้อๆ ในวันพรุ่งนี้...แต่นั่นแหละ...หล่อนไม่อยากอยู่ที่นี่เสียแล้วนี่ ไม่อยากอยู่เห็นหน้าใครทั้งนั้นด้วย
ไลลาตัดสินใจเด็ดขาดในนาทีนั้นว่าหล่อนจะไป...ไปให้ไกลลิบโลกเลยจริงๆ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?คฤหาสน์รัตติกาล? แห่งนี้ราวดินแดนพิศวงเมื่อมันตั้งอยู่ในหุบเขาลึกที่แสงแดดส่องแทบไม่ถึง ซึ่งมีเจ้าของเป็นคู่พี่น้องฝาแฝดที่ไม่มีอะไรเหมือนกันสักอย่างนอกจากหน้าตา อภิมัญแฝดพี่นั้นบุคลิกเงียบขรึมเก็บตัวเพราะเป็นโรคแพ้แดด ส่วนแฝดน้องจักรวรกลับดูเป็นมิตรและมีไมตรีจิตอย่างยิ่งโดยเฉพาะผู้หญิง แม้ทุกอย่างที่ดำเนินไปจะดูเหมือนปกติ ทว่าไลลา พยาบาลสาวที่ถูกส่งมาที่นี่เพื่อดูแลเด็กๆ ซึ่งเป็นลูกของแฝดน้องกลับรู้สึกได้ว่าคฤหาสน์หลังนี้มันแปลกไปหมด เหมือนมีเรื่องอะไรไม่ชอบมาพากลมากกว่าที่เห็น กว่าจะทันรู้หล่อนก็ตกเป็นเชลยอยู่ในอ้อมแขนบุรุษแห่งรัตติกาลโดยไม่อาจปฏิเสธอันใดได้
?กรุณาพาฉันออกไปเถอะค่ะ คุณคงไม่คิดจะขังฉันไว้แบบนี้หรอกนะ?
ดวงตาสีเข้มของอีกฝ่ายมองตามการเคลื่อนไหวของหล่อนทุกอิริยาบถอย่างพอใจ
เสื้อนอนตัวบางนั้นบังอะไรแทบไม่ได้จนไลลาต้องยกมือขึ้นกอดอก นึกโมโหตัวเองที่หยิบเสื้อตัวนี้มาใส่นัก
