?ผมรักคุณ แสนขวัญ...ได้โปรด...อย่าไปจากผม?
?ผู้หญิงแพศยา...ผู้หญิงหลายใจ ผมเกลียดคุณ...ชาตินี้อย่าได้เจอหน้ากันอีกเลย?
?ไม่...ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้น ฉันรักคุณคนเดียว...อะ?
ร่างบางที่กำลังกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง มือเล็กทั้งสองไขว่คว้ากลางอากาศ เรียวปากขาวซีดพร่ำร้องหาใครบางคนพร้อมกับหยาดน้ำตาอุ่นที่ไหลรินเป็นทางยาวจากหางตาโดยเจ้าตัวไม่รู้ตัวถูกปลุกให้ตื่นจากฝันร้ายด้วยเสียงเรียกของน้องสาว
?พี่แสน...พี่แสน...ตื่นค่ะ...ตื่น...?
แสนขวัญ เจ้าของร่างบางเหงื่อแตกพราวทั่วหน้าผาก ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่งบนเตียง ใบหน้างามซีดเซียวไม่ต่างจากกระดาษขาว ดวงตาสีดำสนิทเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมมีน้ำตาคลอเบ้า เรียวปากซีดสั่นระริกขณะหันไปเอ่ยบอกน้องสาว
?พี่...พี่...ฝันร้ายอีกแล้ว...?
ขวัญข้าวผู้ปลุกพี่สาวให้ตื่นจากฝันร้ายพยักหน้ารับคำ เอื้อมมือไปจับมือเล็กเย็นเฉียบของพี่สาวไว้ แล้วเอ่ยปลอบไปด้วย
?ข้าวรู้ค่ะว่าพี่แสนฝันร้าย แต่มันเป็นแค่เพียงความฝันเท่านั้น พอพี่แสนตื่นแล้วทุกอย่างก็จะหายไป ไม่ต้องกลัวนะคะ?
แสนขวัญส่ายหน้าปฏิเสธทั้งน้ำตานอง ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นระคนหมองเศร้า
?ไม่...มันไม่มีทางหลุดพ้นไปจากชีวิตของพี่...พี่ฝันถึงแต่เรื่องเดิมๆ ความฝันเหล่านี้มันตามหลอกหลอนพี่ทุกคืน จนพี่ไม่กล้าหลับตานอนแล้ว?
?พี่แสนยังฝันถึงเรื่องเดิมอีกหรือคะ? ขวัญข้าวเอ่ยถามด้วยความสงสัย
?ใช่...ข้าว...พี่ฝันแบบนี้ทุกคืน?
มือเล็กสั่นเทายกขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากหางตา ค่อยๆ บอกถึงคำพูดของใครคนหนึ่งซึ่งดังก้องอยู่ในหัวของเธอทุกคืนวัน
?พี่ได้ยินเสียงของใครบางคนเอ่ยบอกรักพี่ และขอร้องไม่ให้พี่ไปจากเขา จากนั้นก็เป็นน้ำเสียงเดิมที่ตะโกนด่าทอว่าพี่เป็น...เป็นผู้หญิงเพศยา เป็นผู้หญิงหลายใจ...?
แสนรักหยุดพูดไปชั่วขณะ เพียงเพื่อสะอื้นฮักร่ำไห้เพราะความเจ็บปวดใจกับถ้อยคำเค้นด่าอันฝั่งแน่นอยู่ในหัวของเธอทุกนาที
?เขาบอกว่าเกลียดพี่ และสาปส่งว่าชาตินี้อย่าเจอกันอีกเลย?
?เขาคนนั้นคือใครคะ พี่แสนจำชื่อได้ไหมคะ?
ขวัญข้าวหรี่ตามอง ลุ้นอยู่ในใจว่าพี่สาวจะจดจำชื่อของผู้ชายคนนั้นได้หรือเปล่า แต่แล้วก็ต้องถอนหายใจด้วยความเสียดายกับคำตอบที่ได้รับ
?ทุกครั้งที่พี่พยายามนึกชื่อของเขา มีแค่คำว่า ?อะ? ที่แล่นเข้ามาในหัวของพี่ จากนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็วก่อนพี่จะนึกชื่อของเขาออก?
แสนรักยกมืออันเย็นเฉียบคลึงขมับของตัวเองพร้อมกับหลับตาลง พยายามนึกถึงเจ้าของน้ำเสียงซึ่งเอ่ยบอกรักและด่าทอเธอในคราวเดียวกัน ทว่า...นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกสักที จนต้องนิ่วหน้าเพราะถูกอาการปวดหัวเล่นงานขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
?พี่...พี่จำไม่ได้ พี่ไม่รู้ว่าเขาคือใคร...ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน...? หยาดน้ำตาไหลรินลงมาขณะตีสีหน้าเหยเกเมื่อปวดหัวอย่างหนัก
?พี่ปวดหัว...?
?พี่แสน...พอแล้วค่ะ อย่านึกถึงเขาอีกนะคะ...?
ขวัญข้าวจับมือเล็กของพี่สาวออกจากการกุมศีรษะตัวเอง ก่อนจะกอดร่างบางสั่นสะท้านไว้แนบแน่น ยกมือลูบไปบนแผ่นหลังเพื่อปลอบพี่สาวให้หายหวาดกลัว
?หยุดคิดนะคะพี่แสน เขาจะเป็นใครก็ไม่สำคัญ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือข้าวอยู่กับพี่แสนแล้ว ข้าวจะดูแลพี่สาวคนนี้เอง?
?ข้าว...พี่คิดถึง...ลูก...?
แทนที่จะทำตามคำขอร้องของน้องสาว แสนขวัญกลับรำพันถึงลูกน้อยในท้องที่ต้องสูญเสียไปทั้งๆ เพิ่งเติบโตอยู่ในท้องของเธอได้เพียงสามเดือนเท่านั้น และเมื่อคิดถึงลูก หญิงสาวก็ยิ่งร่ำไห้หนักกว่าเดิม
?ทำไมพี่ถึงโชคร้ายแบบนี้ ต้องสูญเสียความจำและต้องเสียลูกในคราวเดียวกัน...พี่อยากหลับ...หลับไปตลอดกาล โดยไม่ต้องตื่นขึ้นมารับรู้กับความเจ็บปวดนี้อีก?
?โธ่...พี่แสน...อย่าคิดแบบนั้นสิคะ?
คราวนี้เป็นขวัญข้าวที่มีน้ำตารื้นขอบตากับความคิดของพี่สาว หญิงสาวทั้งเอ่ยห้าม ทั้งขอร้องพี่สาวในคราวเดียวกัน
?ถ้าพี่แสนหลับโดยไม่ตื่นเลย แล้วข้าวจะอยู่กับใคร...ตอนนี้เรามีกันแค่สองคนพี่น้อง พี่แสนสัญญากับข้าวนะคะ ว่าจะไม่ทิ้งข้าวไป?
?แต่...พี่ไม่อยากอยู่แบบคนสูญเสียความจำ...?
แสนขวัญสะอื้นฮักจนตัวสั่นโยน เอ่ยบอกถึงความหวาดกลัวที่ซุกซ่อนอยู่ในใจ
?ในหัวของพี่มีแต่ความว่างเปล่า พอลืมตาขึ้นมาในโรงพยาบาล พี่ก็จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวพี่ จำไม่ได้แม้กระทั่งชื่อของตัวเอง จำไม่ได้ว่าข้าวคือน้องสาวของพี่ จำไม่ได้ว่าใครคือคนที่บอกรักและเค้นเสียงสาปส่งไล่พี่ไปจากชีวิตของเขา และสิ่งที่ทำให้พี่เสียใจที่สุดคือตอนหมอบอกว่า...พี่...แท้งลูก...?
?พี่แสนอย่าร้องไห้ค่ะ ข้าวเชื่อว่าสักวันความทรงจำของพี่แสนจะกลับคืนมาเหมือนเดิม แต่อาจต้องใช้เวลาสักระยะนะคะ?
ขวัญข้าวต้องเข้มแข็ง ทำหน้าที่เอ่ยปลอบพี่สาว ทั้งๆ ในใจนั้นก็หวาดกลัวไม่แพ้กัน หญิงสาวยังจำได้ไม่มีลืม ในวันที่พี่สาวถูกรถชนต่อหน้าต่อตา เลือดแดงฉานไหลทะลักจากหน้าผากเป็นแผลฉกรรจ์ ซ้ำร้ายยังมีเลือดไหลนองเปื้อนกระโปรงสีฟ้าอ่อนจนกลายเป็นสีแดงไปหมด
หนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ที่แสนขวัญนอนหมดสติไม่รู้สึกตัว ซึ่งในระหว่างนั้นเธอแทบทำอะไรไม่ถูก เมื่อชีวิตของพี่สาวแขวนอยู่บนเส้นดายบางๆ ส่วนหลานตัวน้อยที่กำลังเติบโตอยู่ในท้องของแสนขวัญไม่มีโอกาสลืมตาดูโลก เพราะแสนขวัญถูกชนอย่างรุนแรงจนกระทั่งแท้ง!
ความโชคร้ายยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ในวันที่แสนขวัญฟื้นคืนสติ เธอมองทุกคนด้วยสายตาว่างเปล่าราวกับไม่เคยรู้จักกัน
?ฉันเป็นใคร ฉันอยู่ที่ไหน แล้วพวกคุณเป็นใคร ฉันไม่รู้จักพวกคุณ?
เป็นคำถามที่หลุดออกมาจากปากของคนไข้ ทำให้ขวัญข้าวกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ต้องร้องไห้โฮเมื่อรู้ว่าพี่สาวสูญเสียความทรงจำไปกับอุบัติเหตุรถชน
?ต้องทำยังไง พี่ถึงจะได้ความทรงจำกลับคืนมา?
ขวัญข้าวตื่นจากภวังค์เมื่อได้ยินคำถามปนสะอื้นจากพี่สาว เธอพยายามกะพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่หยาดน้ำตาให้เหือดแห้ง ก่อนจะเอ่ยตอบคำถามของพี่สาว
?คุณหมอบอกข้าวว่า ต้องกระตุ้นความทรงจำด้วยการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านๆ มา ทั้งเรื่องของเราสองคนที่เคยไปเที่ยวด้วยกัน หรือกิจกรรมต่างๆ ที่ข้าวกับพี่แสนชอบทำ หรือไม่ก็เอาภาพถ่ายเก่าๆ ที่พี่แสนถ่ายไว้มาให้ดู สิ่งเหล่านั้นจะช่วยกระตุ้นให้พี่แสนนึกถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านมา ความทรงจำอาจจะกลับคืนมาในที่สุดค่ะ?
?ข้าวต้องช่วยพี่นะ? แสนขวัญจับยึดต้นแขนของน้องสาวไว้แน่น ขณะเอ่ยขอร้องเสียงสั่นเครือ ?พี่อยากให้ความทรงจำกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด พี่ไม่อยากอยู่อย่างทรมาน ไม่อยากให้ฝันร้ายตามหลอกหลอนพี่ในทุกคืน?
?ค่ะ ข้าวจะช่วยพี่แสนแน่นอนค่ะ แต่พี่แสนนอนก่อนนะคะ ตอนนี้เพิ่งตีสี่เองค่ะ?
ขวัญข้าวรับคำ พยายามโน้มตัวพี่สาวให้เอนกายลงนอนเหมือนเดิม แต่อีกฝ่ายส่ายหน้าปฏิเสธแถมยังขืนตัวไว้ด้วย
?พี่ไม่อยากนอน ไม่อยากหลับตาลง พี่กลัวความฝันเหล่านั้นจะกลับมาอีก?
สีหน้าของแสนรักซีดเซียว ดวงตาอันแดงก่ำเผยความหวาดหวั่นให้เห็น
?ไม่ต้องกลัวนะคะ ข้าวจะนอนข้างๆ พี่แสน จะจับมือพี่แสนไว้ทั้งคืน ฝันร้ายจะไม่กลับมาทำร้ายพี่แสนอีกแน่นอนค่ะ? ขวัญข้าวเอ่ยปลอบ จับกุมมือเย็นของพี่สาวไว้ตลอดเวลา
?พี่ปวดหัว เอายาแก้ปวดให้พี่ก่อน? แสนขวัญเอ่ยบอกพร้อมกับนิ่วหน้า เมื่ออาการปวดหัวเริ่มเล่นงานหนักจนต้องหลุดเสียงครางออกมาเบาๆ
?ค่ะๆ ข้าวจะเอายาให้เดี๋ยวนี้ค่ะ?
ขวัญข้าวกระโจนลงจากเตียงนอน คว้ายาแก้ปวดชนิดเฉียบพลันซึ่งวางไว้บนโต๊ะเล็กข้างเตียงมายื่นให้พี่สาวหนึ่งเม็ด พร้อมกับยื่นน้ำดื่มให้ด้วย
?ยาได้แล้วค่ะ?
แสนขวัญรีบรับยามากลืนลงคออย่างรวดเร็ว แทบไม่ต้องดื่มน้ำตามด้วยซ้ำ หญิงสาวชินกับการกินยาแก้ปวดชนิดเฉียบพลันโดยไม่มีน้ำดื่มกลั้วคอ เพราะคราใดที่ถูกอาการปวดหัวเล่นงานอย่างหนัก เธอต้องกลืนยาลงคอให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นจะปวดหัวรุนแรงถึงขั้นหมดสติได้
?ข้าว...นอนใกล้ๆ พี่นะ...?
แสนขวัญเอ่ยขอร้องเสียงแผ่วเบา ในยามนี้หญิงสาวแลดูไม่ต่างจากเด็กตัวเล็กๆ ซึ่งหวาดกลัวกับการต้องนอนอยู่เพียงลำพัง
?ค่ะ ข้าวจะนอนอยู่ใกล้ๆ พี่แสนค่ะ?
ขวัญข้าวคลี่ยิ้มให้ โน้มร่างบางให้เอนกายลงนอน ซึ่งคราวนี้แสนขวัญยอมนอนลงไปบนเตียงแต่โดยดี
?หลับนะคะพี่แสน ไม่ต้องกลัวนะคะ?
แสนขวัญยังคงถูกความหวาดกลัวเกาะกุมอยู่ทั่วหัวใจ แต่ก็ฝืนหลับตาลงพร้อมกับภาวนาให้ความทรงจำกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด เธออยากรู้ว่าเจ้าของน้ำเสียงที่บอกรักและไล่เธอในคราวเดียวกันคือใคร และที่สำคัญ...เขาใช่พ่อของลูกที่เธอต้องสูญเสียไปแล้วหรือไม่...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แสนขวัญตื่นในตอนเช้าของวันถัดมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีหนัก ใบหน้าซีดเซียว ขอบตาลึกโบ๋ เพราะเมื่อคืนกว่าจะข่มตาให้หลับลงได้ก็จวนรุ่งสางแล้ว
พอเดินออกจากห้องนอนก็ได้ยินเสียงของน้องสาวคุยกับเด็กสาวข้างๆ บ้าน ที่ได้ว่าจ้างให้มาดูแลเธอในช่วงกลางวันระหว่างขวัญข้าวออกไปทำงาน
?ข้าว จะไปทำงานแล้วหรือ?
คนที่ถูกเอ่ยถามเงยหน้ามองพี่สาว ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปประคองร่างบอบบางให้มาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ใกล้ๆ กัน
?ค่ะ พี่แสน วันนี้ที่บริษัทมีประชุมทั้งวัน ข้าวต้องรีบไปเตรียมเอกสารหลายอย่างให้บอสน่ะค่ะ?
ขวัญข้าวทำงานกับบริษัทต่างชาติจากอเมริกาที่มาเปิดสาขาอยู่ในประเทศไทย เธอเป็นเลขาฯ ส่วนตัวให้กับมิสเตอร์ไบรอัน ผู้เป็นเจ้าของบริษัท ซึ่งงานในแต่ละวันมีมากมายจนแทบกระดิกตัวไปไหนไม่ได้
?พี่อยากกลับไปทำงาน จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระของข้าวด้วย?
แสนขวัญเอ่ยบอกเสียงเศร้า ตั้งแต่ถูกรถชนกระทั่งออกมาพักฟื้นอยู่ในบ้านได้เกือบสองเดือน เธอเป็นภาระให้น้องสาวต้องดูแลทุกอย่าง รวมทั้งจ้างเด็กสาวที่ชื่อแก้วตาให้มาคอยดูแลด้วย
?พี่แสนอย่าเพิ่งกลับไปทำงานเลยนะคะ พักรักษาตัวก่อน เอาไว้ให้พี่แสนหายดีจริงๆ ค่อยกลับไปทำงานก็ยังไม่สายค่ะ?
ขวัญข้าววางมือทาบทับไปบนมือเล็กของพี่สาว แล้วเอ่ยปลอบติดกลั้วเสียงหัวเราะ
?ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้านค่ะ เงินเก็บของพี่แสนกับของข้าวรวมกันแล้ว พวกเรายังสามารถอยู่ได้สบายๆ เป็นปี โดยพี่แสนไม่ต้องทำงานเลย ให้ข้าวทำงานคนเดียวก็ยังไหวค่ะ?
?พี่รู้...แต่ถ้าหากได้กลับไปทำงาน จะทำให้พี่ไม่ต้องมีเวลามานั่งคิดถึงเรื่องฝันร้ายเหล่านั้น?
ใช่! หากได้ทำงาน เธอจะได้พุ่งสมาธิไปกับงานที่อยู่ในมือ ไม่ต้องมาคิดถึงถ้อยคำที่ถูกผู้ชายในฝันด่าทอขับไสไล่ส่งเธอให้ไปจากชีวิตของเขา
ขวัญข้าวไม่ทันได้เอ่ยห้ามพี่สาวเรื่องการกลับไปทำงานอีกครั้ง ก็มีเสียงหวานๆ ดังแว่วมาจากประตูห้องครัวเสียก่อน
?ใครจะไปทำงานจ๊ะ เมื่อสักครู่พี่ได้ยินไม่ค่อยชัดสักเท่าไร?
แสนขวัญและขวัญข้าวหันไปมองตามที่มาของน้ำเสียง และเป็นขวัญข้าวที่เอ่ยทักทายเจ้าของร่างโปร่งบางสุดเซ็กซี่คนนี้
?สวัสดีค่ะพี่เนตร วันนี้มาแต่เช้าเลยนะคะ?
?อรุณสวัสดิ์จ้าน้องข้าว? เนตรทรายทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับสองพี่น้อง แล้วเอ่ยตอบคำถามในก่อนหน้านี้ของขวัญข้าว
?วันนี้พี่มาชวนพี่สาวของน้องข้าวไปซื้อเสื้อผ้าและก็เข้าร้านเสริมสวยด้วยกัน เพราะเย็นนี้มีงานเลี้ยงรุ่นในโรงแรมจ้ะ?
?จริงด้วยสิ ข้าวลืมซะสนิทเลย?
ขวัญข้าวร้องเสียงหลง เพราะยุ่งกับงานเลขาฯ จึงลืมเรื่องงานเลี้ยงรุ่นซะสนิทใจ กระทั่งไม่ได้เอ่ยเตือนพี่สาว
?เพราะมั่นใจว่าน้องข้าวลืมยังไงล่ะ พี่ถึงต้องรีบมาแต่เช้า? ขณะเอ่ยบอก เนตรทรายก็หันไปคลี่ยิ้มให้กับแสนขวัญซึ่งเอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมา
แสนขวัญไม่ทักทายเนตรทราย เพราะจดจำหญิงสาวคนนี้ไม่ได้ แม้ตอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เนตรทรายจะเพียรไปเยี่ยมเยียนแทบทุกวัน พอกลับมาพักฟื้นที่บ้าน อีกฝ่ายก็แวะเวียนมาหาไม่ได้ขาด กระนั้นหญิงสาวก็ยังจำอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ดี
?แสน จำได้ไหมว่าวันนี้ของทุกปี พวกเราจะจัดงานเลี้ยงรุ่นกัน?
เนตรทรายเอ่ยถามแสนขวัญพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง
?ไม่?ฉันจำไม่ได้?
แสนขวัญตอบเสียงแผ่วเบา ก่อนจะหลุบสายตาลงไม่ให้ใครเห็นความรู้สึกที่ตนเองซุกซ่อนอยู่ในใจ ตอนนี้หัวสมองของเธอว่างเปล่าไม่ต่างจากแก้วไร้น้ำ ไม่มีความทรงจำใดๆ เหลืออยู่แม้แต่นิดเดียว
?ไม่เป็นไรจ้ะ แสนจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเนตรพาแสนไปเองนะ?
?ฉันไม่อยากไป ฉันจำใครไม่ได้ แม้กระทั่งเธอ...?
เนตรทรายถึงกับหันไปมองสบตากับขวัญข้าว ต่างพากันถอนหายใจยาวด้วยความหนักใจ ก่อนเนตรทรายจะเอ่ยขอร้องเพื่อนสาวต่อ
?ตอนนี้แสนอาจจำเราหรือเพื่อนคนอื่นๆ ยังไม่ได้ แต่การได้ไปเห็นบรรยากาศเก่าๆ ได้เห็นเพื่อนๆ ที่เราเรียนมหา?ลัยด้วยกันถึงสี่ปี อาจเป็นการช่วยฟื้นความทรงจำของแสนให้กลับมาทีละนิดก็ได้?
?ข้าวเห็นด้วยกับที่พี่เนตรพูดนะ พี่แสนไปงานเลี้ยงรุ่นเถอะนะคะ?
แสนขวัญอยากปฏิเสธเหลือเกิน แต่พอถูกน้องสาวขอร้องจึงจำต้องพยักหน้ารับในที่สุด
?พี่ไปก็ได้จ้ะ แต่ไม่จำเป็นต้องไปซื้อเสื้อผ้าใหม่หรอก?
?อุ๊ย! ไม่ได้นะแสน...เพราะงานเลี้ยงในคืนนี้ออกแนวเซ็กซี่นิดๆ และต้องใส่หน้ากากเข้าไปในงานด้วย เพราะจะมีการให้ทายว่าภายใต้หน้ากากนั้นคือใคร เราต้องไปหาซื้อเสื้อผ้าและหน้ากากให้เข้าชุดกันนะแสน?
?ใส่หน้ากากแล้วก็ทายว่าคนนั้นคือใคร...? แสนขวัญทวนคำ ไม่ได้ตื่นเต้นหรือนึกอยากไปงานเลี้ยงรุ่นที่ว่าแม้แต่นิดเดียว
?ใช่แล้วจ้ะ? เนตรทรายรับคำ ดวงตาไหวระริกขณะเอ่ยบอกต่อ ?งานปีนี้จะสนุกกว่าที่ผ่านๆ มาก็ตรงนี้แหละจ้ะ ใครทายได้ถูกมากที่สุด จะมีรางวัลพิเศษให้ด้วยนะ?
?เนตรไปซื้อเสื้อผ้าคนเดียวเถอะ เดี๋ยวฉันหาเสื้อผ้าที่มีอยู่มาใส่ และทำหน้ากากใส่เองก็ได้?
แสนขวัญบอกไม่ถูกว่าทำไมถึงไม่อยากออกไปไหนกับเนตรทรายเพียงลำพังสองคน
?โอ๊ย! อย่างกนักเลย แม่เศรษฐี? เนตรทรายร้องเสียงสูงต่อว่าเพื่อนสาว ก่อนจะเดินไปฉุดมือเล็กของแสนขวัญให้ผุดลุกขึ้นยืน
?ไปเร็ว ไปชอปปิ้งกัน และก็ไปร้านเสริมสวย ขัดสีฉวีวรรณ ทำเล็บทำผมให้สวยให้เริด เตรียมตัวไปงานเลี้ยงรุ่นในเย็นนี้?
แสนขวัญลอบถอนหายใจยาวเมื่อไม่อาจปฏิเสธได้ จำต้องรับคำในที่สุด
?ไปก็ได้จ้ะ?
ขวัญข้าวยิ้มให้พี่สาว พลางหันไปเอ่ยฝากฝังกับเนตรทราย
?ฝากพี่แสนด้วยนะคะ สายมากแล้ว ข้าวต้องไปทำงานแล้วค่ะ?
?ข้าวไม่ต้องเป็นห่วงพี่แสนนะ...พี่จะดูแลพี่แสนให้เอง เพราะพี่แสนเป็นเพื่อนรักของพี่ พี่ไม่มีทางทิ้งเพื่อนคนนี้อย่างแน่นอนจ้ะ?
คำพูดของเนตรทรายทำให้แสนขวัญต้องหันมามองหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะเบือนหน้าหนีโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา เนตรทรายดีกับเธอมากถึงเพียงนี้ แต่ทำไมเธอกลับจำเพื่อนรักไม่ได้เลย
?ขอบคุณพี่เนตรมากนะคะที่ไม่ทิ้งพวกเราสองพี่น้อง?
ขวัญข้าวเดินมาจับมือเนตรทรายไว้ คลี่ยิ้มหวานเป็นการขอบคุณอีกฝ่ายอีกครั้ง
?ข้าวไปทำงานแล้วนะคะ สายแล้วเดี๋ยวเข้าประชุมไม่ทัน?
?ไปเถอะข้าว...พี่จะพาพี่แสนออกไปชอบปิ้งตอนนี้เลย เพราะกว่าจะแต่งหน้า ทำผม ทำเล็บเสร็จก็ปาไปเกือบครึ่งวันแล้ว?
?ค่ะ ชอปปิ้งให้สนุกนะคะ พี่แสน พี่เนตร?
แสนขวัญถอนหายใจยาวอีกครั้งขณะมองตามร่างบางของน้องสาวที่เดินออกไปจากบ้านแล้ว พลางเอ่ยบอกเนตรทรายเสียงแผ่วเบาว่า
?รอสักครู่นะ ฉันไปหยิบกระเป๋ากับยาแก้ปวดหัวก่อน?
ได้ยินแสนขวัญแทนสรรพนามตัวเองเช่นนั้น เนตรทรายก็มองตาคว่ำ แสร้งตีเบาๆ ไปบนต้นแขนขาวเนียนพร้อมกับเอ็ดไปด้วย
?แสนนี่จริงๆ เลยนะ ทำไมพูดแทนตัวเองซะเหินห่างราวกับเราสองคนไม่ได้เป็นเพื่อนรักเพื่อนตายกัน พูดแทนตัวเองว่า ?แสน? เหมือนแต่ก่อนเถอะ เนตรจะได้อุ่นใจว่าได้แสนขวัญคนเดิมกลับคืนมาแล้ว?
?ก็ได้จ้ะ?
แสนขวัญพยักหน้ารับ พยายามฝืนยิ้มให้กับคนตรงหน้า ดันกายลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้แล้วบอกว่า
?แสนไปหยิบกระเป๋าก่อนนะ?
?จ้ะ เดี๋ยวเนตรนั่งรอแสนจ้ะ?
เนตรทรายรับคำเสียงหวานพร้อมกับคลี่ยิ้มให้กับเพื่อนด้วย
แสนขวัญยิ้มบางๆ ให้เนตรทรายอีกครั้ง ก่อนจะบิดต้นแขนให้หลุดพ้นจากอุ้งมือของเนตรทราย เดินเร็วๆ เข้าไปในห้องนอนของตนเอง
เมื่ออยู่คนเดียวเพียงลำพัง แสนขวัญทรุดตัวลงนั่งบนเตียง ยกมืออันเย็นเฉียบขึ้นลูบใบหน้าตัวเอง หัวสมองเต็มไปด้วยคำถามที่ไม่อาจหาคำตอบได้ว่า...เมื่อไรความทรงจำของเธอจะกลับคืนมา...
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แสนขวัญ ฟื้นขึ้นมาแล้วพบว่าความทรงจำของตนเองขาดหายไปหลังประสบอุบัติเหตุรถชน สิ่งที่เหลือไว้ในหัวมีเพียงคำบอกรักและคำด่าทอจากชายคนหนึ่งที่จำไม่ได้ว่าเป็นใคร หลักฐานที่หลงเหลือจากรูปถ่ายเป็นสิ่งเดียวที่จะนำพาเธอไปหาเขาเพื่อฟื้นความทรงจำต่างๆ หญิงสาวจึงออกเดินทางตามรอยจากรูปภาพโดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนสาวคนสนิทที่เป็นคู่ซี้ไปไหนไปกันมาตลอด จนได้พบกับ อเล็กซ์ นักธุรกิจหนุ่มจอร์เจียที่แสดงออกชัดเจนว่าโกรธแค้นเธอเพียงได้พบหน้า เรื่องราวช่วงที่ความทรงจำขาดหายไปมันเป็นเช่นไรกันแน่ หญิงสาวต้องรีบหาความจริงให้ได้ก่อนร่างบางจะบอบช้ำด้วยรอยเสน่หาจากริมฝีปากของเขา
?ถ้าแกล้งทำเป็นความจำเสื่อม จำไม่ได้ว่าเราเคยเป็นผัวเมียกัน
ผมก็จะช่วยทบทวนบทเรียน ทำให้คุณจำผัวคนนี้ได้ขึ้นใจสักที?
อเล็กซ์เค้นเสียงประชด ไม่รู้แม้แต่นิดเดียวว่าแสนขวัญไม่ได้เสแสร้ง ทว่า...หญิงสาวความจำเสื่อมจริงๆ
