ท่านอ๋องโดยทั่วไปจะรู้สึกอย่างไรในเช้าวันถัดจากคืนเข้าเรือนหอกันหรือ
คาดว่าคงจะเป็นภาพเช่นเมื่อลืมตาขึ้น เขาก้มลงมองดูชายานอนหลับอย่างอ่อนเพลียในอ้อมแขนของตน ครั้นนางเงยหน้าขึ้นมองเห็นสายตาของท่านอ๋อง ก็หลบตาลงอย่างขัดเขินด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ
ส่วนท่านอ๋องคงจะยิ้มอย่างอ่อนโยนต่อใบหน้าแดงก่ำของนาง หยอกเย้านางด้วยการโอบกอดเอวบางนั้นแล้วพ่นลมร้อนที่ข้างหูของนาง กระซิบว่า ?ที่นี่ไม่ใช่ในเมืองหลวง ไม่มีแม่สะใภ้ ไม่จำเป็นต้องเข้าวังไปเข้าเฝ้าฯ ฮองเฮา มีเพียงสองเรา...?
ครั้นแล้วมองดูคนในอ้อมแขนค่อยๆ มีสีแดงระเรื่อแผ่ไปบนผิวหนังที่ขาวเนียนทั่วเรือนร่าง คล้ายกับบุปผากำลังผลิดอกยามวสันตฤดูเพียงเพราะคำพูดของตน
ภาพอันงดงามตรงหน้านี้ทำให้แขนแข็งแกร่งของท่านอ๋องที่โอบกอดเอวบางไว้ออกแรงมากยิ่งขึ้น พลิกตัวขึ้นมา จากนั้นลิ้มลองรสชาติของเรือนร่างที่เมื่อคืนยังชิมไม่พอ ประทับตราสีแดงลงไปอีกครา...
โดยทั่วไปแล้วควรจะเป็นเช่นนี้ ล่อหยี่เฟิงก็ตั้งใจว่าจะทำเช่นนี้ เขาเอื้อมมืออันแข็งแรงออกไปโอบกอดร่างเปลือยเปล่าของคนที่นอนอยู่ในอ้อมอก กำลังจะเอ่ยปากหยอกล้อ แต่พลันได้ยินเสียงชายหนุ่มตะโกนโหวกเหวกอยู่ข้างนอก...
?คุณชายกงซุน ข้าทำสำเร็จแล้ว ฮ่าๆๆๆ ในที่สุดข้าก็ทำของที่ท่านต้องการได้สำเร็จแล้ว สิ่งของที่แม้แต่ข้าเองยังไม่อยากเชื่อว่าข้าจะสามารถทำมันได้ คุณชายกงซุน คุณชายกงซุน!?
ดวงตาของล่อหยี่เฟิงหรี่ลง ติงปู๋ไฮ่บังอาจมาส่งเสียงดังรบกวนเขาอยู่นอกห้อง!
กงซุนจ่างซุนที่เมื่อคืนถูกกระทำอย่างหนัก ได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากข้างนอกจึงยกมือขึ้นขยี้ตา หาวด้วยปากเล็กๆ นั้นแล้วกล่าวขึ้นอย่างสะลึมสะลือ ?ทำอะไรออกมาได้??
?ข้าจะไปทำให้ติงปู๋ไฮ่หุบปากเอง? ติงปู๋ไฮ่คนนี้ต้องเป็นคนที่ไม่มีสมองเป็นแน่ บังอาจมาส่งเสียงดังโวยวายนอกห้องของเขาในเช้าหลังวันแต่งงานเช่นนี้
?อ้อ คือติงปู๋ไฮ่...? เสียงของกงซุนจ่างซุนชะงักลง ดวงตาเบิกกว้างเป็นประกายขึ้นมาเมื่อสองหูจับคำที่สำคัญได้ ทันใดนั้นเขาก็ร้องขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า ?อะไรนะ? เขาทำมันออกมาได้แล้ว! จริงหรือ? ว้าว นี่มันสุดยอดไปเลย ข้าจะออกไปดูของสิ่งนั้นทันที?
กงซุนจ่างซุนเปลี่ยนจากง่วงเหงาหาวนอนเป็นกระตือรือร้นอย่างเต็มที่ ปัดมือของล่อหยี่เฟิงที่โอบเอวของเขาออกอย่างรำคาญ จากนั้นพูดอย่างรีบร้อนว่า ?หลีกไป หลีกไป ตอนนี้ข้าไม่มีเวลามายุ่งกับท่าน ท่านเห็นมุมเตียงที่ว่างอยู่ตรงนั้นหรือไม่ ไปหลบอยู่ตรงนั้นก่อนไป?
?อ้ายเฟย...?
?จะมาฟงมาเฟยอะไรกันตอนนี้ ด้วยกลยุทธ์อันสุดแสนจะเลวร้ายของท่าน ตอนนี้บั้นท้ายของข้าระบมไปหมด สุขชั่วครู่แต่ต้องทนเจ็บแรมเดือน ข้าขาดทุนมหาศาลเลยทีเดียว หลีกไป อย่าโน้มหัวเข้ามา ตอนนี้ข้าไม่ว่างพอจะมาตอแยกับท่าน ต่อไปข้าจะไม่เล่นอะไรแบบนี้กับท่านอีกแล้ว ถอยไป?
กงซุนจ่างซุนผลักศีรษะตรงหน้าออกไป รีบร้อนคลุมอาภรณ์แล้วลงจากเตียง ระหว่างนั้นยังเผลอเหยียบท้องของล่อหยี่เฟิงไปหลายครั้ง ล่อหยี่เฟิงจุกไปเล็กน้อย ในใจของกงซุนจ่างซุนแอบหัวเราะ ตอนนี้เขากำลังโกรธการเล่นเปิดผ้าคลุมหน้าของล่อหยี่เฟิงเมื่อคืนอยู่ ดังนั้นแม้ครั้งแรกจะเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ แต่ครั้งที่สองเขาตั้งใจเหยียบลงไปเต็มๆ
ใครบอกให้ล่อหยี่เฟิงอวดดี ใครบอกให้ล่อหยี่เฟิงถือตัว ใครบอกให้ล่อหยี่เฟิงหลอกให้เขาคิดว่าเขาจะต้องเป็นม่ายทั้งเป็นไปตลอดชีวิต!
แม้ว่าล่อหยี่เฟิงจะหล่อ จะดีงาม หรือตำแหน่งสูงส่งสักเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้เขาลืมความรู้สึกกังวล ความเหงา และความอ้างว้างที่มีก่อนแต่งงานไปได้
ทำให้เขาต้องปลอบใจตัวเองอยู่ตั้งนานสองนาน กว่าจะทำใจยอมรับในชะตากรรมของตนเองได้ สุดท้ายแล้วล่อหยี่เฟิงกลับมีความรู้สึกกับผู้ชายได้ ไม่เพียงรู้สึกเท่านั้น แต่ยังแข็งแรงทนทาน แถมยังทำเอาเขาระบมไปหมดทั้งตัว เหนื่อยล้าจนแทบขาดใจ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ล่อหยี่เฟิงก็น่าโมโหอยู่ดี บังอาจใช้ลูกเล่นพิเรนทร์เหล่านั้นกับเขาในคืนเข้าหอ เห็นได้ชัดว่าคนแซ่ล่อต้องคิดไม่ซื่อกับเขามาก่อนหน้านี้แล้ว มิเช่นนั้นคงไม่มีลูกเล่นแปลกๆ มากมายพวกนั้น เสียแรงที่ก่อนแต่งงานเขาทั้งถอนหายใจทั้งเศร้าใจเจียนตาย หลงคิดไปได้ตั้งนานว่าในโลกใบนี้ไม่มีคนรักร่วมเพศ
พอย้อนคิดกลับไป จะเห็นว่าตลอดระยะเวลาที่พวกเขาเดินทางมาเมืองจุ่นหนาน ล่อหยี่เฟิงก็เคยแทะโลมเขาอยู่บ่อยครั้ง หรือบางทีก็มองเขาด้วยสาตาหื่นกระหาย แม้แต่แก้มก้นขาวๆ ของเขาเองยังเคยถูกล่อหยี่เฟิงสัมผัส แต่เขากลับไม่เคยเอะใจมาก่อน ยิ่งคิดกงซุนจ่างซุนก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเองเป็นคนไม่มีสมองมากขึ้นเท่านั้น แต่นั่นเป็นเพราะล่อหยี่เฟิงทำตัวเป็นบัณฑิตหน้าซื่อ แถมยังไม่เคยโผล่หางออกมาแม้แต่เล็กน้อยต่างหาก
ฮึ ยิ่งคิดยิ่งโมโห บนโลกใบนี้ชายหนุ่มที่สามารถปั่นหัวเขาได้ถึงเพียงนี้ ล่อหยี่เฟิงนับเป็นคนแรก
?อ้ายเฟย ข้าที่เป็นสามีของเจ้าสำคัญ หรือว่าชายหนุ่มป่าเถื่อนด้านนอกสำคัญรึ?
กงซุนจ่างซุนเลิกคิ้วขึ้น ?ชายหนุ่มป่าเถื่อนด้านนอกสำคัญกว่า จากสถานการณ์ตอนนี้เขาสำคัญกว่าท่านมากทีเดียว? อาวุธในการสู้รบกับโจรแม่น้ำของพวกเขาล้วนต้องพึ่งติงปู๋ไฮ่แต่เพียงผู้เดียว แน่นอนว่าเวลานี้ติงปู๋ไฮ่ย่อมสำคัญกว่า
สำหรับสามีที่แรงดีไม่มีตกคนนี้น่ะหรือ หึหึ เขาอยากทำเพียงสิ่งเดียวคือถีบหน้าให้เต็มแรงเท่านั้น
แต่ครั้นนึกถึงภาพล่อหยี่เฟิงปรนนิบัติตนเองเมื่อคืนแล้ว สายตาของกงซุนจ่างซุนที่หันมาจ้องล่อหยี่เฟิงก็อดมองต่ำลงไปไม่ได้ จึ๊ จึ๊ ล่อหยี่เฟิงตอนสวมเสื้อผ้าช่างดูเป็นสุภาพบุรุษ เป็นบุรุษหนุ่มรูปงามที่พรั่งพร้อมไปด้วยกิริยามารยาทและความสำรวม
แต่พอเปลื้องผ้าออกเท่านั้น หน้าอกที่ประดับด้วยลูกสตรอเบอร์รี่สีแดงสดสองลูกช่างเย้ายวนใจ ทำให้อยากลิ้มลองสักคำ เมื่อไล่สายตาไปตามกล้ามเนื้อแข็งแรง ซิกซ์แพ็กตรงท้องต่างพากันอวดโฉมอย่างไม่ซ่อนเร้น ครั้นไล่มองลงไปอีก ทัศนียภาพอันสวยงามกำลังถูกบดบังด้วยผ้าห่มปักลายผีเสื้อคู่รักสีแดงผืนโต
ภาพปักของผีเสื้อคู่นั้นค่อยๆ ชันขึ้น กงซุนจ่างซุนเลิกคิ้วสูง เขาสู้รบกับหมอนี่มาตลอดทั้งคืนแล้ว ทำไมถึงยังมีแรงเหลืออีกนะ แต่กระนั้นลึกๆ ในใจกงซุนจ่างซุนก็มีความรู้สึกยินดี เห็นทีรูปโฉมของเขาคงจะเข้าขั้นเป็นอันดันต้นๆ ในใต้หล้า มิเช่นนั้นพระเอกที่หนังสือเล่มนี้บรรยายไว้ว่าเป็นยอดชายชาตรีที่แข็งแกร่งที่สุด รูปงามที่สุด และเป็นที่หมายปองของสตรีมากที่สุด ทำไมถึงมาตกล่องปล่องชิ้นเป็นสามีของเขา
?อ้ายเฟย... มานี่เถิด...?
ล่อหยี่เฟิงเพียงผายมือขวาออกมาทำท่าทางเชื้อเชิญ กงซุนจ่างซุนก็แทบจะน้ำลายหกอยู่รอมร่อ
นิ้วมือเรียวยาวนั้นชวนมอง กอปรกับทั่วทั้งตัวโชยด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ผู้ชายคนนี้งดงามเสียยิ่งกว่าหญิงสาวใดๆ เสียอีก นี่คิดจะหลอกล่อคนที่รักรูป หลงคนหล่อยิ่งชีพอย่างกงซุนจ่างซุนใช่ไหม?!
?ท่านกงซุน รีบออกมาดูเร็วเข้า ข้าประดิษฐ์สิ่งของที่ท่านต้องการเสร็จแล้ว!?
คล้ายกับว่ากำลังต่อกรอยู่กับเสียงร้องตะโกนจากภายนอก ล่อหยี่เฟิงยิ้มอย่างยั่วยวนให้กงซุนจ่างซุนอีกครา จากนั้นค่อยๆ พลิกตัว ผ้าห่มที่คลุมจุดสำคัญอยู่เลื่อนต่ำลงอย่างพอเหมาะ เผยภาพที่แสนจะ... กงซุนจ่างซุนเหลือบมอง ยังไม่เห็น
ยั่วให้คนอยากเห็นแต่ไม่ให้ดู เมื่อไม่เห็นกลับยิ่งอยากดู เมื่อดูเสร็จแล้วก็อยากจะสัมผัสสักเล็กน้อย เมื่อได้สัมผัสแล้วย่อมอยากที่จะคลึงเบาๆ และเมื่อได้คลึงแล้ว ต่อไปก็ต้อง...
อุ๊ กงซุนจ่างซุนรีบหนีบขาเข้าหากัน ร่างกายร้อนเหมือนไฟกำลังแผดเผา ตอนนี้เขาต้องการสิ่งมาช่วยดับไฟในร่างกาย
แย่แล้ว สามีหล่อเกินไปจนเขาอยากจะโผเข้าใส่!
กงซุนจ่างซุนชำเลืองมองข้างนอก แล้วหันมามองรูปร่างสมส่วนที่ชวนให้น้ำลายหกของล่อหยี่เฟิง
อืม นางมารร้ายต๋าจี่ ที่ทำลายบ้านเมือง หญิงงามเปาซื่อ ที่ทำให้บ้านเมืองต้องย่อยยับ สนมตัวร้ายหยางกุ้ยเฟย ที่ทำให้ประเทศชาติต้องปั่นป่วน ประวัติศาสตร์เหล่านี้สอนให้รู้ว่าความงามเป็นพิษ แต่ว่าแม้แต่ผู้ปกครองแคว้นในแต่ละรัชสมัยเองยังไม่สามารถหักห้ามใจไว้ได้ ดังนั้นเขาที่เป็นเพียงชายาเล็กๆ คนนี้ หากจะถูกยั่วเย้าโดยความงามของท่านอ๋อง คงไม่เป็นความผิดร้ายแรงหรอกกระมัง
กงซุนจ่างซุนจับมือล่อหยี่เฟิงไว้ สีหน้าของล่อหยี่เฟิงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแต่สายตาคู่นั้นส่องประกายกว่าธรรมดา จากนั้นดึงตัวกงซุนจ่างซุนลงมาบนผืนผ้าห่มนุ่ม ริมฝีปากที่แดงระเรื่อคู่นั้นประกบเข้ากับปากของกงซุนจ่างซุน และก่อนที่กงซุนจ่างซุนจะตั้งตัว ลิ้นอันอ่อนนุ่มก็สอดแทรกเข้ามาในปาก ดูดรัดปลายลิ้นไว้ไม่ปล่อย โลมเลียจนวิญญาณของกงซุนจ่างซุนแทบจะหลุดลอย
มือของล่อหยี่เฟิงมิได้อยู่นิ่งเฉย เอื้อมไปบีบจับยอดปทุมของกงซุนจ่างซุนทำให้ส่วนล่างของเขาแทบจะหลั่งน้ำตาแห่งความปรีดี
?เจ้าเพิ่งพูดว่า ?ข้าไม่มีเวลามายุ่งกับท่าน ท่านเห็นมุมเตียงที่ว่างอยู่ตรงนั้นหรือไม่ ไปหลบอยู่ตรงนั้นก่อนไป? ?
?ข้าผิด... ผิดไปแล้ว ข้าจะกล้าเรียกให้สามีที่รักไปหลบอยู่ตรงมุมเตียงได้อย่างไร เข้ามาที ข้าทนไม่ไหวแล้ว...?
? ?ด้วยกลยุทธ์อันสุดแสนจะเลวร้ายของท่าน ตอนนี้บั้นท้ายของข้าระบมไปหมด สุขชั่วครู่แต่ต้องทนเจ็บแรมเดือน? ?
?อื๊อ อือ ข้าต่างหากที่ไม่มีกลยุทธ์ ไม่ใช่ท่าน... อย่าทำตรงนั้น อ๊าาาา! ตายแล้ว ข้าใกล้จะตายแล้ว...?
? ?ชายหนุ่มป่าเถื่อนด้านนอกสำคัญกว่า จากสถานการณ์ตอนนี้เขาสำคัญกว่าท่านมากทีเดียว? ?
?ท่านสำคัญที่สุด ปล่อยให้ชายหนุ่มป่าเถื่อนข้างนอกรอต่อไป ท่านพี่ สามีที่รัก ให้ข้าได้ปลดปล่อยเถอะ ฮือ อื๊ม ...ให้ข้าได้ปลดปล่อย ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว...?
คำพูดยั่วยุเมื่อครู่ถูกเอ่ยออกมาทีละคำ ทำไมเขาถึงได้โชคร้ายมีสามีที่ฉลาดหลักแหลม ไม่ลืมสิ่งที่ผ่านหูแบบนี้นะ ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์ที่ชวนให้ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอารมณ์อย่างตอนนี้ ล่อหยี่เฟิงกลับจำทุกคำพูดของเขาเมื่อสิบนาทีที่แล้วได้ มิหนำซ้ำยังนำมาพูดด้วยน้ำเสียงเดิมของเขา เป็นการทรมานและสั่งสอนเขาในคราวเดียว
สมดังที่ว่าโฉมงามทำให้คนเห็นผิด ที่สำคัญกว่านั้นเขาจะบ่นหรือด่าพระเอกคนนี้ไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว มิเช่นนั้นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจะทั้งเลวร้ายและน่ากลัวอย่างที่สุด
ภายหลังจากเสร็จกิจ กงซุนจ่างซุนนอนตัวอ่อนปวกเปียกราวกับดินโคลนอยู่บนเตียง ส่วนล่อหยี่เฟิงสวมใส่อาภรณ์อย่างสุขสำราญ มือทั้งสองข้างอุ้มกงซุนจ่างซุนขึ้นมา พาเขาไปชำระล้างร่างกายในห้องด้านหลัง ครั้นล่อหยี่เฟิงอุ้มกงซุนจ่างซุนกลับมาบนเตียงอีกครา กงซุนจ่างซุนก็สะลึมสะลือ หนังตาจวนจะปิดอยู่รอมร่อ ทว่าล่อหยี่เฟิงยังคงมีกำลังวังชาจึงออกไปพบติงปู๋ไฮ่ที่โวยวายอยู่นอกห้อง
?อ้ายเฟย เรื่องเล็กน้อยอย่างการสู้รบเช่นนี้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าคนเดียวก็พอ ในเมื่อคนของเจ้าก็เหมือนกับคนของข้า เป็นเด็กดีเล่า เจ้านอนพักผ่อนสักประเดี๋ยว แล้วค่อยกินอาหารบำรุงร่างกาย แรงกายเพียงเท่านี้ของเจ้าเห็นทีจะไม่เพียงพอสำหรับปรนนิบัติข้า?
เชอะ ทำเป็นมาพูดดี ที่แท้ก็อิจฉาข้าที่ข้ามีลูกน้องมากความสามารถ เป็นอัจฉริยะ และที่สำคัญมีวิทยาการล้ำหน้ากว่ายุคสมัยนี้อย่างติงปู๋ไฮ่ ยังมีหน้ามาพูดหน้าตายทำนองว่า ?การดึงคนของเจ้าไปนั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะเราเป็นสามีภรรยากัน ดังนั้นคนของเจ้าก็เป็นคนของข้า?
เจ็บใจชะมัด! กงซุนจ่างซุนกัดมือของล่อหยี่เฟิงอย่างเจ็บใจ แต่กลับทำให้ล่อหยี่เฟิงสายตาลุกเป็นไฟ ก้มศีรษะลง เลียปากของกงซุนจ่างซุนอีกหนึ่งคำรบ ทำเอาเขาเริ่มอ่อนระทวยอีกครา พอเขาตั้งสติได้ ล่อหยี่เฟิงก็เดินออกจากห้องไปแล้ว กงซุนจ่างซุนเช็ดน้ำลายที่ไม่รู้ว่าเป็นของใครออกจากมุมปาก อดตะโกนในใจไม่ได้ว่า โฉมงามทำให้ข้าเห็นผิดถึงเพียงนี้ ข้ากงซุนจ่างซุน...
ครั้นมองดูขาทั้งสองข้างที่ยังหุบเข้าหากันไม่ได้ ราวกับพร้อมเปิดรับการรังแกอย่างจำนนของตนเองแล้ว กงซุนจ่างซุนก็ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะต้องบำรุงร่างกายให้มีเรี่ยวแรงมากกว่านี้เสียก่อน มิเช่นนั้นหากตนต้องมีอันเป็นไปเพราะเรื่องบนเตียง คงเป็นการเสียชีวิตที่น่าหัวเราะที่สุด คงมิวายกลายเป็นเรื่องเล่าที่ตลกที่สุดเช่นกัน
เมื่อล่อหยี่เฟิงเดินออกไป เสี่ยวหลานกับฉินฮวาคนรับใช้ข้างกายคนสนิทก็รีบถลาเข้ามาหากงซุนจ่างซุนทันใด กงซุนจ่างซุนที่ยามนี้อับอายจนแดงไปหมดทั้งตัวรู้สึกอยากจะขุดหลุมฝังตัวเองเสียจริง เพราะท่าทางอ่อนแรงเช่นนี้ย่อมบอกเป็นนัยอยู่แล้วว่าเขาเพิ่งผ่านสมรภูมิที่เร่าร้อนเพียงใดมา
ทว่าเสี่ยวหลานกลับมองดูกงซุนจ่างซุนอย่างอิ่มเอมใจ จากประสบการณ์การเป็นทาสของตนเองแล้ว เขารู้ดีว่าหญิงบำเรอที่ได้รับความโปรดปราน ส่วนใหญ่จะมีมารยาและเล่ห์เหลี่ยมระดับหนึ่งจึงสามารถเอาอกเอาใจนายท่านได้
แต่ว่าคุณชายเป็นบุรุษ มิหนำซ้ำยังเป็นถึงพระชายา ย่อมแน่ว่าไม่จำเป็นต้องใช้มารยาและเล่ห์เหลี่ยมเหล่านั้นในการมัดใจท่านอ๋อง แต่เพื่อป้องกันมิให้มีนางจิ้งจอกหน้าไหนกล้าโผล่เข้ามาในภายหลัง ที่คุณชายสามารถมัดใจของล่อหยี่เฟิงได้ตั้งแต่คืนเข้าหอ นับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง
ฉินฮวาแม้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ แต่ยังไม่ค่อยประสีประสาเรื่องของชายหนุ่มหญิงสาวเท่าใดนัก พอเห็นกงซุนจ่างซุนในสภาพเช่นนี้ก็อดหน้าแดงมิได้ ถึงกระนั้นในใจของนางกลับรู้สึกภูมิใจ
คุณชายเป็นหนึ่งไม่เป็นรองใคร มีความกล้าหาญ ทั้งยังมีน้ำใจช่วยเหลือผู้คน กล่าวคือไม่ว่าจะมองจากมุมใดก็ดีไปเสียหมดทุกอย่าง ย่อมไม่มีทางมีผู้ใดที่คุณชายไม่คู่ควรด้วย จะมีก็แต่ผู้อื่นที่ไม่คู่ควรกับคุณชาย
ต้องถือว่าล่อหยี่เฟิงเป็นคนที่มีสายตากว้างไกล มีโอกาสแต่งงานกับคุณชาย ซ้ำยังปฏิบัติต่อคุณชายเป็นอย่างดี ดูจากสีหน้าอากัปกิริยาของคุณชายแล้ว เมื่อคืนพวกเขาคงจะมีค่ำคืนที่วิเศษร่วมกันเป็นแน่แท้
ในใจของทั้งสองต่างคิดเหมือนกันว่า... ฮึ คนดีอย่างคุณชายมีหรือล่อหยี่เฟิงจะไม่พอใจ ตอนนี้ปัญหาคือคุณชายพอใจในตัวล่อหยี่เฟิงหรือไม่ต่างหาก
แต่ดูท่าทางคงจะพอใจเป็นอย่างมาก!
?คุณชาย พวกเราต้มน้ำร้อนไว้ให้คุณชายแช่แล้ว จะได้สบายตัวมากขึ้น? เสี่ยวหลานตักน้ำร้อนใส่ถังน้ำในห้องอาบน้ำด้านในจนเต็มถัง
ในใจของกงซุนจ่างซุนมีเสียงเล็กๆ แผดร้องอยู่ตลอดเวลาว่า การแก้ผ้าล่อนจ้อนให้คนอื่นดูนั้นเป็นเรื่องน่าอับอาย แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธทั้งสองคนได้ เพราะเมื่อเขาจะลุกเดินไปยังถังน้ำเพื่ออาบน้ำด้วยตัวเอง แข้งขาที่อ่อนปวกเปียกก็เกือบทำให้เขาต้องล้มจับกบตัวโต จนสุดท้ายต้องยอมให้เสี่ยวหลานและฉินฮวาช่วยกันพยุงเขาเข้าไป
น้ำร้อนทำให้สบายตัวและผ่อนคลาย แต่ที่สำคัญเขาต้องหาทางเพิ่มกำลังกายให้ได้ ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป เขาคงไม่มีหน้าไปพบใครได้อีก!
ที่ยิ่งกว่านั้นพอเห็นสายตาที่เสี่ยวหลานกับเสี่ยวฮวาส่งถึงกันแล้ว ยิ่งทำให้เขาอยากจะจมน้ำร้อนหายไปในถังไม้นี้ซะเลย... ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าในสายตาของเสี่ยวฮวากับเสี่ยวหลานนั้นเต็มไปด้วยความปีติและยินดี
ทำไมพวกเขาไม่รู้สึกต่อต้านใดๆ เลย?!
ทว่าสิ่งที่ทำให้กงซุนจ่างซุนแทบจะระเบิดยังรออยู่ข้างหลัง...
?คุณชาย นี่คือยาทาสำหรับแผลฉีกขาด เอาไว้ทาที่ลับของท่าน วันละสองเวลา?
?คุณชาย ข้าจะช่วยท่านกดจุดคลายกล้ามเนื้อ แรงของผู้ชายนั้นจะมากสักหน่อย ครั้งแรกของท่านย่อมต้องเจ็บเป็นธรรมดา แต่จากนี้ไปท่านจะสบายขึ้น?
?คุณชาย ยาตัวนี้ประกอบด้วยไป๋เหลียน มีสรรพคุณช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นความเต่งตึง จะช่วยให้จุดลับของท่านยังคงเต่งตึงบริสุทธิ์ดังเดิม สีสันชมพูสดใสเหมือนอย่างครั้งแรก ผู้ชายล้วนชอบของพวกนี้กันนักเจ้าค่ะ?
?คุณชาย ท่านยังต้องเรียนรู้ท่วงท่าที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อและเส้นเอ็นจากข้าด้วย การปรนนิบัติผู้ชายบนเตียงได้อย่างเต็มที่ถือเป็นสิ่งสำคัญในการได้รับความโปรดปราน จะยอมให้มีนางจิ้งจอกไร้ยางอายที่ไหนมาแย่งตำแหน่งของท่านไปไม่ได้?
หลังจากเช็ดเนื้อเช็ดตัวจนสะอาด สวมใส่อาภรณ์จนเรียบร้อย กงซุนจ่างซุนก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง รู้สึกเหมือนหน้าจะมืด สองคนนี้พูดจาโน้มน้าว แนะนำสารพัดอย่าง พล่ามมาตั้งแต่เมื่อกี้เหมือนกับคนเป็นแม่ที่เริ่มกังวลว่าเขาจะตกกระป๋องเมื่อไร
กงซุนจ่างซุนเอามือปิดหน้าไว้ เสี่ยวฮวา เจ้ายังเป็นเพียงเด็กผู้หญิงเท่านั้น ยังไม่ได้ออกเรือน ขอร้องเถอะ เจ้าอย่าได้พูดคำอย่างพวกเต่งตึง ครั้งแรก อะไรพวกนี้อย่างเป็นธรรมชาติได้ไหม
ยังมีเสี่ยวหลานอีกคน เจ้าเองก็ยังไม่บรรลุนิติภาวะใช่ไหม ขอร้องเถอะ อย่าได้เอ่ยคำพูดที่ไม่เข้ากับใบหน้าอันงดงามของเจ้าอย่างเช่นคำว่า นางจิ้งจอกไร้ยางอาย หรือการปรนนิบัติผู้ชายอย่างเต็มที่ อะไรพวกนี้จะได้ไหม?
กงซุนจ่างซุนยังอยากพูดอะไรอีก แต่เห็นทั้งสองคนกำลังยุ่งกระวีกระวาดเดินเข้าเดินออก ในใจก็พลันอบอุ่นขึ้นมา เฮ้อ เป็นเด็กดีกันทั้งคู่ พวกเขาต่างก็เป็นกังวลอย่างจริงใจว่าชายาชายคนแรกอย่างเขาจะตกกระป๋องเมื่อไรสินะ
เพื่อไม่ให้พวกเขาเป็นกังวลไปมากกว่านี้ ข้าจะพยายามไม่ตกกระป๋อง!
เอ่อ รู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง?
***
แม้จะเข้าพิธีกันแล้ว แต่เมื่อถึงยามนอนก็นอน ถึงยามกินก็กิน ถึงยามรบก็... เหอ เหอ รบเล่านะ
ล่อหยี่เฟิงนำทัพเข้าโจมตีช่องแคบหยุนสุ่ย ช่องแคบฉี่ยื่อ และช่องแคบล่อฮุนโดยตรง โดยให้ทหารปลอมตัวเป็นขบวนพ่อค้า ประดับธงของเฉินจิ๋วสุ่ยไว้ จากนั้นเริ่มโจมตีจากด้านล่างไปจนถึงด้านบน ด้วยการโยนลูกระเบิดที่มากด้วยแสนยานุภาพขึ้นไป
พวกเขาเข้าโจมตีทุกช่องแคบเพื่อเป็นการตัดรากถอนโคน
ชาวเมืองจุ่นหนานทุกคนต่างรู้ดีว่าหน้าไม้สุ่ยของเฉินจิ๋วสุ่ยร้ายกาจเพียงใด ย่อมแน่ว่าเฉินจิ๋วสุ่ยเองก็คิดเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงตั้งรับอยู่ที่ช่องแคบซึ่งเอื้อต่อการตั้งรับแต่ยากต่อการรุกแห่งนี้อย่างชะล่าใจ ไม่เพียงแต่ล่อหยี่เฟิงนำทัพนับพันบุกเข้ามา ต่อให้ล่อหยี่เฟิงนำทัพมาเป็นแสน เขาก็หาเกรงกลัวไม่
ทว่าต่อหน้าลูกระเบิดแล้ว หน้าไม้สุ่ยก็เป็นได้เพียงของเด็กเล่น เหมือนเด็กหยิบกระบี่ไม้ไปฟาดฟันกับผู้ใหญ่ที่มีสุดยอดดาบในมือ ย่อมไม่สามารถต่อกรได้
ต่อหน้ากองกำลังที่ทรงพลังและมีอาวุธร้ายกาจ นับได้ว่าเป็นคราวเคราะห์ของกลุ่มทหารแห่งราชวงศ์ก่อนที่ผันตัวมาเป็นโจรแม่น้ำกลุ่มนี้ พวกเขาตกใจกลัวจนหนีกันอลหม่าน สติกระเจิดกระเจิงกระทั่งได้ยินเสียงร้องทวงชีวิตของผู้ที่ต้องจบชีวิตด้วยน้ำมือของพวกเขาอยู่ก้นแม่น้ำแห่งนี้
พวกเขาขนลุกชัน หรือว่านี่จะเป็นกรรมตามสนอง?
เสียงระเบิดของลูกระเบิดนั้นดังกึกก้องเหมือนเสียงอสนีบาต เมื่อสิ้นเสียงก็มีเปลวเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วราวกับมีน้ำมันเป็นเชื้อเพลิง บริเวณช่องแคบเต็มไปด้วยสีแดงเพลิงของเปลวไฟทั่วทุกสารทิศ ทุกหย่อมหญ้าล้วนลุกไหม้เป็นจุณ ไม่มีโอกาสที่สิ่งมีชีวิตใดจะเล็ดลอดออกไปได้
เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่ว บรรดาผู้คนที่โดนลูกระเบิด หากไม่แขนขาดก็ขาขาด เศษอวัยวะเหล่านี้กระเด็นอยู่เกลื่อนกลาด ทั้งตัวชุ่มโชกไปด้วยโลหิตสีแดงสด แม้แต่ลำไส้ยังทะลักออกมานอกกาย สิ่งที่เห็นตรงหน้าทำให้ตื่นตระหนกได้เสียยิ่งกว่าคำบอกเล่าใดๆ ทำให้ผู้ที่พบเห็นหวาดกลัวจนตัวสั่น รู้สึกเหมือนกับว่าตนกำลังอยู่ในขุมนรก รอเวลาลงกระทะทองแดง
โจรภูเขาที่ยังมีชีวิตรอดต่างพ่ายแพ้โดยไม่ทันได้จับอาวุธ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เหอะ เหอะ แท้จริงแล้วล่อหยี่เฟิงมีชื่อจริงว่าโจวหยี่เฟิง และเป็นเพียงลูกเลี้ยงของตระกูลล่อเท่านั้น มิน่าคนตระกูลนี้ถึงได้พยายามกำจัดโจวหยี่เฟิงให้พ้นทางเสียเหลือเกิน ส่วนเขา...กงซุนจ่างซุน ชายาของโจวหยี่เฟิงก็ถูกเปิดเผยฐานะว่าที่แท้เป็นเชื้อพระวงศ์ของราชวงศ์ก่อน
เมื่อข่าวคราวนี้แพร่กระจายออกไป ใครเล่าจะเชื่อว่าโจวหยี่เฟิงไม่เคยมีใจคิดกบฏ? แต่ว่าเขาผู้นี้เป็นถึงอัจฉริยะที่แม้แต่เทพเจ้าแห่งสงครามอย่างโจวหยี่เฟิงยังต้องยอมแพ้ สิ่งถนัดของเขาคือพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
อยากให้พวกเขาตายงั้นหรือ? มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก
เขาไม่เพียงแต่หลบหนีออกจากเมืองหลวงอย่างปลอดภัย แต่ยังสามารถช่วยโจวหยี่เฟิงรวบรวมยอดคนในด้านต่างๆ อีกด้วย
มีคนคอยช่วยมากมาย โจวหยี่เฟิงจึงขึ้นครองราชย์ได้อย่างราบรื่น ไม่เพียงแต่จัดการวางรากฐานของบ้านเมืองเป็นปึกแผ่นเท่านั้น แต่ยังคิดที่จะ...เลือกนางสนม?! เพราะว่าเขาที่เป็นฮองเฮาคนนี้ไม่สามารถมีทายาทให้ได้?!
บ้าเอ๊ย คืนนี้เขาจะทำให้โจวหยี่เฟิงรู้ว่าฮองเฮาไม่ใช่คนที่ใครจะมารังแกได้ง่ายๆ
