แหม ก็มันเป็นแบบนั้นใช่มั้ยล่ะ? ทันทีที่ตัวสูงกว่าข้า ลูกชายทั้งหลายก็ลืมกระทั่งความเคารพรักต่อแม่และชักจะคล้ายพ่อมากขึ้นไปทุกวันๆ
มาคิดๆ ดูแล้ว ช่วงที่แต่งงานกับสามีคนแรก ข้ายังไม่ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งยุ่งยากอย่างราชาปีศาจเลย พ่อของเกวนดัลเนี่ย เป็นบุรุษที่น่าเกรงขามเสียจนตัวข้าเมื่อสมัยสาวๆ หลงใหลความเคร่งขรึมนั้นเข้าให้เต็มเปา ตรงจุดที่ดูแก่กว่าวัยนี่เหมือนเกวนในตอนนี้เปี๊ยบเลย
กลับกัน คู่แต่งงานครั้งที่สามเป็นหนุ่มวัยรุ่นผู้มีอารมณ์แปรปรวนรุนแรง เขาน่ารักเหมือนลูกสุนัขที่ขี้กลัวจนชวนให้เผลออยากลูบหัวขึ้นมาเลย ถึงรูปลักษณ์ภายนอกของโวลฟรัมจะเหมือนข้าเป๊ะ แต่นิสัยต้องได้มาจากพ่อแน่นอน
ที่ประทับใจไม่รู้ลืมเลยก็คือการพบกันอันน่าตกตะลึงกับพ่อของคอนราท ตอนที่ข้าให้ที่ซ่อนเขาซึ่งถูกไล่ล่าอยู่ในสถานที่ที่ข้าไปเที่ยว ต่างฝ่ายต่างก็ตกหลุมรักซึ่งกันและกันเข้า ถึงแม้เขาจะเป็นมนุษย์ร่อนเร่รอนแรมผู้มีข้อดีเพียงแค่ฝีมือดาบก็ตาม แต่ไม่เห็นจะต้องไปใส่ใจความแตกต่างด้านชนชั้นหรือเผ่าพันธุ์เลย! ก็โลกนี้เนี่ย ความรักคือทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่ออยู่ต่อหน้าความรัก ไม่ว่าอะไรก็เสมอภาคด้วยกันทั้งนั้น!
แต่ว่านะ ข้าดันไปเห็นเข้าจนได้ ว่าที่แขนซ้ายของเขามีรอยสักอยู่สองรอย นั่นคือสัญลักษณ์ของผู้ที่ก่อความผิดมหันต์ ถึงขนาดทำให้โดนไล่ออกมาจากอาณาจักรของเหล่ามนุษย์เลยทีเดียว คนคนนั้นเป็นอาชญากรที่กำลังอยู่ระหว่างหลบหนีสินะ
อา อาชญากรแห่งรัก! วิเศษไปเลย!
ถ้าอย่างนั้นข้าก็เป็นนักล่าความรักสินะ ข้าจะดึงศรสุดแรงเท่าที่มี ไม่ว่าใครหน้าไหนก็หนีรอดจากการตามล่าของข้าไปไม่ได้ทั้งนั้นแหละ
บทที่ 1
ล่าสาว
ว่าก็ว่าเถอะ มุราตะ จริงๆ แล้วนายอายุเท่าไหร่กันแน่เนี่ย? ผมคล้อยตามคำพูดที่ชวนให้อยากขอดูเอกสารยืนยันตัวตนแบบนั้น และมายังทะเลที่มีแมงกะพรุนมากมายในช่วงหลังจากผ่านพ้นเทศกาลไหว้บรรพบุรุษไปแล้ว
ตัวผมเองเป็นคนรักสงบผู้เชื่อว่าความรักไม่ใช่สิ่งที่ต้องไล่ล่า แต่เป็นสิ่งที่จะได้รับมาต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็มาอยู่ที่นี่เพราะโดนล่อจากค่าจ้างทำงานพิเศษ และข้อเท็จจริงอันน่าเศร้าที่ว่าตลอดเวลาสิบหกปีมานี้ ผมยังไม่เคยเนื้อหอมเป็นเรื่องเป็นราวเลยสักครั้ง
?หน้าร้อน ทะเลสีคราม พระอาทิตย์เจิดจ้า?
?....แมงกะพรุน?
?ชุดว่ายน้ำสุดใจกล้า ความรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยที่รีสอร์ท?
?....เพรียงหิน?
?ชายที่พบเจอตามชายหาดเนี่ย จะดูเท่ทุกคนก็เพราะแว่นกันแดดปิดซ่อนใบหน้าครึ่งหนึ่งเอาไว้อยู่ไงล่ะ!?
?....นั่นน่ะน่าจะเป็นตามลานสกีมากกว่ามั้ง?
ผมเข็นรถเข็นของที่เคลื่อนไปได้อย่างไม่คล่องตัวนัก เพื่อจะไปเติมของที่ตู้ขายน้ำอัตโนมัติตรงฝั่งลานจอดรถ พร้อมกันนั้นก็เค้นเสียงคัดค้านออกไป
?อีกอย่าง ไหนนายบอกว่าจะจีบเองหรือจะรอให้สาวมาจีบก็ได้ทั้งนั้นไม่ใช่หรือไง แต่พอเอาเข้าจริง ตอนกลางวันกลับต้องทำงานที่ร้านริมทะเลแทบทั้งวัน ส่วนตอนกลางคืนก็ต้องช่วยงานที่เพนชั่นอีก แล้วแบบนี้จะให้ไปคว้าสาวในชุดว่ายน้ำได้จากที่ไหนกันหา!??
?ขอแค่มีความเร่าร้อน เวลาไม่สำคัญหรอก?
เพื่อนผมบอกปัดอย่างง่ายดายพร้อมใช้หางตามองผมผู้ทุ่มเทแรงสุดกายสุดใจ
มุราตะ เคน หนุ่มแว่นผู้เคยอยู่ห้องเดียวกับผมสมัย ม.2 - ม.3 โยนงานใช้แรงต่างๆ นานามาให้ผมทำคนเดียว ส่วนตัวเองก็ทำตัวสบายเฉิบ เดิมทีแล้ว ?ครอบครัวตัว M? ซึ่งเป็นเพนชั่นควบร้านริมทะเลแห่งนี้ เป็นร้านที่ญาติของหมอนี่ดำเนินกิจการอยู่ ผลของนโยบายการจัดการที่มั่นคงเข้ากับยุคสมัยอย่างการริจะจ้างคนรู้ใจมาทำงานด้วยค่าแรงต่ำๆ ทำให้ลูกชายของญาติที่เป็นเด็ก ม.ปลาย ปี 1 ต้องตกเป็นผู้รับเคราะห์ไป ทั้งๆ ที่ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นอยู่หรอก แต่เจ้าตัวกลับอู้งานตลอดซะงั้น นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย
?อย่างกลุ่มสาวออฟฟิศที่พักอยู่ในห้องมาร์กาเร็ตล่ะเป็นไง เมื่อวานพอเห็นนายหกล้ม พวกเธอบอกว่านายน่ารักด้วยนะ??
ห้องพักของแขกในเพนชั่น ?ครอบครัวตัว M? แต่ละห้องจะมีชื่อห้องเป็นชื่อพรรณพืช
?อย่างสามสาวผู้ช่ำชองจากห้องโอเรียนทัลเมลอนก็บอกว่าบังเอิญเจอนายตอนที่นายกำลังเปลี่ยนชุดเข้าจังๆ แถมกลุ่มผู้ชายสี่คนจากห้องแมนเดรกยังให้คะแนนเต็มร้อยอีกต่างหาก?
?รอเดี๋ยวนะ ตรงไหนของเรื่องนั้นที่จะช่วยให้ฉันหาแฟนสาวได้ไม่อั้นงั้นเรอะ!? ไม่สิ ตอนนี้ถึงจะหลับหูหลับตาไม่มองเรื่องความรัก แล้วมามองเฉพาะเรื่องหาเงินเป็นกอบเป็นกำจากงานพิเศษแสนหรรษาช่วงหยุดหน้าร้อนแทนก็เถอะ แต่ไหงฉันที่ทำงานอย่างแข็งขันขนาดนี้กลับได้ค่าจ้างเท่ากับนายที่ทำตัวลอยชายล่ะ ฉันว่ามันแปลกๆ นะ?
?เอาน่าๆ อย่าหดหู่อย่างนั้นสิ เดี๋ยวก็ต้องมีสาวที่หลงใหลซูเปอร์ไฮสคูลสติวเดนท์อย่างพวกเราปรากฏตัวออกมาแหงๆ อยู่แล้ว?
ทางผมน่ะตัดใจจากการผจญภัยความรักในหน้าร้อนไปเรียบร้อยแล้วล่ะ
เอาเป็นว่าผมมาที่นี่เพราะโดนค่าแรงวันละเก้าพันเยนล่อมา เพราะงั้นไม่ว่าจะหาแฟนได้หรือไม่ แค่ขอหาเงินทุนให้ทีมเบสบอลมือสมัครเล่นได้ เรื่องนั้นมันจะเป็นยังไงก็ช่าง ความโรแมนติกที่คู่หูผมคาดหวังอยู่ มันน่าจะผ่านเลยพวกเราไปต่อหน้าต่อตาแล้วแหงๆ
อนึ่ง มุราตะ เคนผู้สวมรองเท้าแตะเดินชายหาดและเดินอยู่ข้างๆ ผมนั้น แม้แต่สีผมก็ยังแตกต่างไปจากเมื่อหนึ่งเดือนก่อน
เขาเปลี่ยนโฉมเอาในช่วงที่ใกล้จะสิ้นสุดฤดูร้อนแล้วนั่นเอง
ไม่เคยคิดมาก่อนเลย ว่าจะมีคนที่วางแผนทำเรื่องแบบเดียวกับการ์ตูนอันเป็นคัมภีร์ไบเบิลของหนุ่มเนื้อไม่หอมอยู่ใกล้ตัวแค่นี้เอง เส้นผมเขาตอนนี้ถูกกัดสีจนใกล้เคียงสีทอง แถมยังใส่คอนแทคเลนส์สีเปลี่ยนสีตาให้กลายเป็นสีฟ้าอีกต่างหาก ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ทิ้งแว่นไปไหน เขาสวมแว่นกันแดดเลนส์สายตาสั้นสีฟ้าไว้บนหัว พวกสายตาสั้นเนี่ยลำบากชะมัด
?อะไรกันล่ะ ขนาดนักเบสบอลยังมีคนผมทองผมน้ำตาลอยู่เลยไม่ใช่เรอะ? มัตสึอิคนหน้าหล่อๆ ที่นายชอบก็ยังผมทองเลยนี่นา?
?นั่นมันก็ใช่อยู่หรอก...?
ผมเกือบจะพูดออกไปแล้ว ว่านั่นน่ะเป็นเพราะเขาหน้าตาดีต่างหาก ถึงได้ดูเข้ากัน แต่แล้วผมก็ถอนหายใจใส่บริเวณหลังศีรษะของมุราตะ เคน เจ้าหนุ่มแว่นผู้เคยอยู่ห้องเดียวกับผมสมัย ม.2 - ม.3 คนนี้ไม่ใช่คนหน้าตาแบบที่จะโดนสาวๆ เกลียดแน่นอน ผมว่าหน้าตาเขาออกจะดูฉลาดและสดใส แสดงให้เห็นถึงความหัวดีและลักษณะนิสัย ถ้ามั่นใจในตัวเองมากกว่านี้สักนิด ต่อให้ไม่ย้อมผมก็คงหาแฟนได้อยู่แล้ว
เพียงแต่ถ้าจะถามว่า เขาเป็นประเภทที่คนเรียกกันว่าพวกหน้าตาหล่อเหลามั้ย ตรงจุดนั้นก็ยังถือว่ามีปัญหาใหญ่หลวงอยู่เหมือนกัน
เอาเถอะ มาตรฐานการลงความเห็นว่ารูปงามหรือเปล่า มันแตกต่างกันมากโขตามแต่ประเทศและเผ่าพันธุ์ซะด้วย
?....ถึงงั้นก็ไม่เห็นต้องถึงกับใส่คอนแทคฯ สีแล้วปล่อยออร่าอยากเนื้อหอมเลยก็ได้นี่นา? อีกอย่าง ที่ที่นายเรียนอยู่เป็นโรงเรียนชายล้วนด้วยใช่มั้ยล่ะ ขืนเปิดเรียนไปแล้วได้แฟนหนุ่มมาแทนแฟนสาวจะทำยังไง?
?เรื่องตอนนั้นมันก็ส่วนตอนนั้นสิ ฉันจะรับผิดชอบคบกับเขาเอง!?
มุราตะกำหมัดทั้งสองข้างแน่น ถ้าพูดจริงก็แมนน่าดู
?ทางฉันน่ะไม่ว่ายังไงก็อยากเนื้อหอมให้ได้นี่นา แต่คนแบบนายที่พอขึ้นรถไฟจากอิเคะบุคุโระทีไรเป็นต้องไปโผล่โตเกียวโดมแทบทุกครั้งเนี่ย คงไม่เข้าใจความรู้สึกนี้ไปชั่วชีวิตเลยมั้ง ให้ตายสิ ทั้งๆ ที่ชื่อชิบุยะ กำไร ฮาราจูกุ ขาดทุนแท้ๆ แต่กลับออกจากบ้านไปโคระคุเอ็นสเตเดียม ไม่ก็ไปลงหน้าสนามเบสบอลเซบุตลอดเลย?
?บางครั้งก็ลงที่ซุยโดบาชิ เหมือนกันนะ....ว่าแต่สถานที่ที่ฉันลงรถ กับชื่อฉันไม่เห็นเกี่ยวกันเลยนี่นา!?
ใช่แล้ว ชื่อของผมคือชิบุยะ ยูริที่แปลว่ากำไร ไม่ใช่ยูริที่แปลว่าดอกลิลลี่ หรือยูริที่แปลว่าทอดยาว และไม่ใช่คำย่อของยูไตริดัตสึที่แปลว่าการถอดจิตออกจากร่างด้วย เพราะมีชื่อแบบนี้ ทำให้ตลอดสิบหกปีนับแต่เกิดมาผมต้องเจอเรื่องยากลำบากมากมาย....เอาเป็นว่าผมตัดสินใจจะลืมเรื่องแบบนั้นไปแล้ว พอถึงวันคล้ายวันเกิดอายุสิบหกปี ในที่สุดผมก็เริ่มคิดว่ามันช่วยให้อธิบายง่ายและสะดวกดีเหมือนกัน แถมส่วนใหญ่เวลาแนะนำตัวก็มักบอกแค่นามสกุลอย่างเดียวเองด้วย
?....ว่าก็ว่าเถอะ ไอ้เรื่องจะหาแฟนได้ระหว่างทำงานพิเศษที่ร้านริมทะเลในช่วงปิดเทอมหน้าร้อนเนี่ย แม้แต่ในการ์ตูนสมัยนี้ยังทำไม่สำเร็จเลย มุราตะฝันเฟื่องกับเรื่องสาวๆ มากไปแล้ว?
?งั้นถ้าเล่นเบสบอลมือสมัครเล่นใต้ฟ้าแดดเปรี้ยงไปแล้ว จะมีเด็กผู้หญิงมากรี๊ดกร๊าดบอกว่าเท่ดีหรือไง? ชิบุยะฝันเฟื่องกับเบสบอลมากไปแล้ว?
?ไม่ได้ฝันอะไรเอาสะดวกเข้าตัวแบบนั้นซะหน่อย?
?จะยังไงก็เถอะ ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นา ยังไงซะถึงอยู่บ้านไปก็ได้แต่ดูเบสบอล ม.ปลาย เท่านั้นเองนี่นา? งั้นมาอาบแสงอาทิตย์กลางหน้าร้อน แล้วทำงานดีต่อสุขภาพที่ชายหาดยังจะดีซะกว่า ไหนจะหาเงินค่าใช้จ่ายส่วนที่จำเป็นสำหรับทีมได้ด้วย แถมยังได้ลบรอยเกรียมแดดจากเครื่องแบบที่นายกังวลแทบแย่ได้อีกต่างหาก?
ผมหยิบกระป๋องสีฟ้าในตู้ขายน้ำอัตโนมัติที่ประตูเปิดอยู่ออกมากระป๋องหนึ่ง โดยถือว่านี่เป็นสิทธิ์ที่ผมควรจะได้รับอยู่แล้ว เครื่องดื่มเกลือแร่ที่ขายไม่ออกมาตั้งหลายชั่วโมงแล้วชืดเกินไปจนรสหวานหายไปหมด สินค้าจากลังกระดาษที่ถูกเติมลงเครื่องผ่านมือของมุราตะกลิ้งไหลลงไปตามๆ กันในเส้นทางเดียวกัน ผมจ้องมองกระดูกสะบักที่ยื่นออกมาพลางคิดว่ายังไงๆ มันก็ผิดไปจากที่เขาว่านิดหน่อยอยู่ดีนั่นแหละ
รอยเกรียมตั้งแต่คอขึ้นไปและบริเวณต้นแขนซึ่งเป็นผลมาจากเครื่องแบบอันเป็นหลักฐานของการเป็นเจ้าหนูเบสบอลเนี่ย มันไม่ใช่อะไรที่น่าโอ้อวดสักเท่าไหร่ ร่างกายท่อนล่างที่ขาวไปจนถึงข้อเท้าได้อย่างงดงาม ทำให้ตอนอยู่ริมหาดผมต้องตกเป็นเป้าสายตาในแง่อื่น ในบรรดาสมาชิกตัวจริงของทีมเบสบอลมือสมัครเล่นที่ผมตั้งขึ้นเอง มีคนถึงกับได้รับชื่อเล่นที่ไม่เห็นจะน่าปลื้มใจอย่างชื่อ ?กางเกงรัดรูป? มาด้วย
แต่ตอนนี้พวกเรากำลังจะได้ลวดลายใหม่มาแทนกันแล้ว
คู่รักที่เดินผ่านไปต่างหันมามองด้านข้างแล้วกลั้นหัวเราะกันใหญ่ นั่นเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นเลยว่าพอมองจากสายตาคนอื่นแล้วมันดูตลกจริงๆ
?พอคิดว่าแขนกับหลังจะได้เกรียมแดดไปด้วย....ก็ปรากฏว่าทีนี้ดันมีแค่ด้านหน้าอย่างพวกหน้าอก ท้อง และต้นขาเท่านั้นที่ดูขาวจั๊วะซะงั้น แบบนี้มันโดราเอม่อนรูปคนชัดๆ อย่างกับโดนจับแต่งตัวเหมือนพวกตัวประหลาดยังไงยังงั้นเลย?
เครื่องแบบของร้านริมทะเลคือ ให้สวมชุดว่ายน้ำกับผ้ากันเปื้อน ถ้าสาวน่ารักๆ เป็นคนใส่ก็คงเพลินตาดีอยู่หรอก แต่นี่กลับมีแต่พวกผู้ชายไม่ได้เรื่องทั้งนั้น ไม่มีอะไรจะน่าขนลุกมากไปกว่านี้อีกแล้ว ถึงจะได้ยินมาว่าได้รับความชื่นชอบในหมู่ลูกค้าผู้หญิงสาวๆ พอสมควรเลยก็เถอะ แต่ขืนโดนมองแต่หลังและก้นอยู่ตลอด ก็ทำเอาผมนึกสงสัยขึ้นมาเหมือนกัน ว่านี่นับเป็นการล่วงละเมิดทางเพศแบบหนึ่งได้หรือเปล่า
ผมที่สวมกางเกงแบบที่ใส่เล่นโต้คลื่นยังพอทำเนา แต่มุราตะที่สวมกางเกงว่ายน้ำแบบบิกินีน่ะอยู่ในสภาพ ?ผ้ากันเปื้อนบิกินี? เต็มๆ เลย เป็นศัพท์ใหม่ที่แปลตรงตัวได้ว่าสวมผ้ากันเปื้อนทับบนกางเกงในแบบบิกินี ถึงจะไม่ใช่เรื่องของตัวผมเอง แต่สายตาที่มองมามันชวนให้เจ็บปวดชะมัด
ผมเองก็ปวดตาด้วยความสิ้นหวังเหมือนกัน
เกิดมาเพิ่งเคยเห็น (อะไรคล้ายๆ) ผ้ากันเปื้อนเปลือยเป็นครั้งแรก แต่ทำไมถึงต้องเป็นมุระเคนด้วยล่ะ
เนื่องจากนี่มันเป็นเหมือนเสื้อผ้าสำหรับสวมออกงานแสดง ไม่ก็ชุดคอสตูมมากกว่าจะเป็นเครื่องแบบร้าน เพราะงั้นคิดว่าคงจะโดนพวกมาดามเอาไปฟุ้งซ่านอะไรสักอย่างอยู่แหงๆ
?จะโดนเอาไปฟุ้งซ่านหรือไม่ก็ช่าง แต่เอาเป็นว่าวันคืนที่มีแฟนสาวอยู่ด้วยเอ๋ย จงกลับมาได้แล้ว หน้าร้อนตอนอายุสิบหกมีแค่ครั้งเดียว แถมยังสั้นแสนสั้น เพราะงั้นไอ้เรื่องแต่งหล่อเพื่อแสวงหาการพบพานเนี่ย ขนาดนกยูงยังทำเหมือนกันเลย?
?นกยูงไม่ได้สวมชุดบิกินีลายพรางซะหน่อย?
?อะไรกันล่ะ ท่าทางนายดูไม่พอใจเครื่องแบบร้านเราซะเหลือเกินนะ แต่ทั้งๆ อย่างนั้นกลับปรับสีหมวกให้เข้ากับผ้ากันเปื้อนซะดิบดีเชียว แล้ว....หินที่ห้อยคออยู่เป็นประจำนั่นก็ด้วย อีกอย่าง นี่มันอะไรกันน่ะ สวมหมวกเบสบอลที่ชายหาดได้ยังไง! สมัยนี้ไม่มีใครเขาเอาหมวกแก๊ปเบสบอลมืออาชีพมาสวมกันแล้วนะ เดี๋ยวก็เรียกว่าเจ้าหมวกยักษ์ ไม่ก็เจ้าคาเคฟุ ซะเลยนี่?
?ทางนายนั่นแหละ ขืนไม่สวมหมวกเดี๋ยวก็ได้เป็นลมแดดล้มพับไปพอดี ถ้าเล่นใช้แรงงาน 3R อย่างสาหัสต่อเนื่องกันแบบนี้น่ะ?
3R ที่ว่าเนี่ยก็มาจากสามประโยคคือ ไรเนี่ยเล่นสกปรกชะมัด เรื่องพรรค์นี้ไม่เห็นเคยได้ยินได้ฟังมาก่อน ระวังโดนแอบถ่ายล่ะ หลังจากขว้างกระป๋องเปล่าที่ดื่มจนเกลี้ยงลงถังขยะไป ผมก็ใช้มือข้างเดียวกันนั้นกุมศิลาที่ห้อยเอาไว้อยู่บริเวณอก
สีครามอันแกร่งกล้านั้นเข้มเสียยิ่งกว่าสีท้องฟ้า
ศิลามารสีไลออนส์บลูรับแสงอัลตราไวโอเลตเข้าไปจนร้อนขึ้นมานิดหน่อย แถมสีก็อ่อนลงด้วย ผมยังคาใจเรื่องความคิดคำนึงของผู้ที่มอบสิ่งนี้ให้และความโศกเศร้าของเจ้าของเดิมอยู่เลย ถึงเขาจะบอกว่าเป็นเหมือนเครื่องรางก็เถอะ แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะคู่ควรกับคนที่เป็นแค่ไอ้ไก่อ่อนอย่างผม
?....ทั้งๆ ที่มัวแต่หมกตัวอย่างเสียเปล่าอยู่ในที่แบบนี้แท้ๆ....?
?ฮึ้ย หนวกหูชะมัด เสียเปล่าอะไรกันฮึ เสียเปล่าอะไร ประสบการณ์สมัยหนุ่มๆ มันถือเป็นทรัพย์สมบัติล้ำค่าเชียวนะ ยังไงซะก็ไม่รู้นี่นา ว่าในอนาคตพอเป็นผู้ใหญ่แล้วจะทำงานแบบไหน ถ้าเรียนรู้เรื่องกิจการเพนชั่นเอาไว้ก็อาจจะกลายเป็นทางเลือกหนึ่งไปเลยก็ได้?
แต่ก็มีนักเรียน ม.ปลาย บางคนเหมือนกันที่กำหนดอาชีพได้แล้วตอนอายุสิบหก
ผู้ที่ดูภายนอกแล้วเหมือนพวกเสพติดเบสบอล และไม่ยอมมองความเป็นจริงตามตรง ทว่าแท้จริงแล้วกลับเป็นนักเรียนผู้ใช้แรงงานหนักหน่วงสุดขั้ว
นั่นคือตัวผมเอง
ชิบุยะ ยูริ เจ้าหนูเบสบอลแบบที่มีให้เห็นอยู่ทุกหนทุกแห่ง อยู่มาวันหนึ่งกลับกลายเป็นเจ้าของหนึ่งประเทศ หนึ่งปราสาทไปเสียได้ แถมยังไม่ใช่ราชาแบบที่เห็นได้ทั่วไปอีกต่างหาก ถึงการวางตัวประมาณว่า ?ตัวฉันช่างเลอเลิศ? ของซูเปอร์สตาร์ เดอะ ร็อกจะยอดเยี่ยมดีเหมือนกันก็เถอะ แต่ตำแหน่งที่ผมเป็นอยู่ก็สุดยอดเอาการเหมือนกัน ทั้งๆ ที่ส่วนสูงและรูปร่างธรรมดาสุดๆ แถมระดับมันสมองก็เทียบเท่านักเรียนชาย ม.ปลาย ตามค่าเฉลี่ยแท้ๆ....
แต่ผมคนนี้กลับเป็นราชาปีศาจแหละครับ
ณ ปลายทางผมที่ลอยเท้งเต้งไปจากสถานที่ที่บรรยากาศไม่เข้าท่าเอาซะเลย ก็คือโลกแฟนตาซีที่น่าจะใช้เป็นฉากในเกม RPG ได้ ที่นั่นผมถูกห้อมล้อมด้วยกองทหารรูปงามแบบที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนบนโลกนี้ แล้วก็โดนยัดเยียดว่าตั้งแต่วันนี้ไปคุณคือราชาปีศาจ ลองเจอแบบนั้นไม่ว่าใครก็ต้องคิดว่านี่เป็นความฝันอยู่แล้ว
แต่ทั้งหมดมันคือความจริง
เรื่องดวงจิตอะไรยังไงน่ะผมไม่รู้ด้วยหรอก แต่ทั้งเรื่องที่ผมได้รับหน้าที่เป็นราชาแห่งอาณาจักรปีศาจ เรื่องที่สถานการณ์ระหว่างเผ่าปีศาจกับมนุษย์กำลังตึงเครียด เรื่องที่ใครสักคนต้องแก้ไขปัญหาที่กองสุมเป็นภูเขาเลากาเนี่ย ทั้งหมดล้วนเป็นความจริงที่ผมเลือกเองทั้งนั้น
บางครั้งก็มีบ้างเหมือนกันนั่นแหละที่อยากจะหนีไปให้พ้นๆ แถมอยู่ดีๆ ก็เคยกังวลขึ้นมาเฉยๆ เหมือนกันว่าใครมันจะไปแบกรับภาระหนักอึ้งแบบนั้นได้ ที่ยังพออดทนอยู่ได้เนี่ยก็เพราะเพื่อนร่วมทีมที่คอยหนุนหลังผมอยู่ล้วนแต่เก่งกาจกันทั้งนั้นนั่นเอง
?นี่ พวกเธอเป็นคนของเพนชั่นสีแดงตรงนั้นสินะ?
ผมที่สอดส่ายสายตาอย่างเลื่อนลอยอยู่เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงที่ดูเหมือนจะกำลังเดือดร้อนอยู่
ทั้งสองคนผู้ดูท่าทางคงจะเป็นนักศึกษาสาวอายุมากกว่าพวกเราเล็กน้อย เดินกอดไหล่ตัวติดกันเข้ามาใกล้พวกเราด้วยสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ มุราตะหยุดมือที่คอยหยิบกระป๋องใส่ตู้และตอบรับด้วยรอยยิ้มหวาน
?ใช่แล้วครับ มีอะไรเหรอ โดนแมงกะพรุนกัดมาหรือเปล่า??
แม้ว่าเสน่ห์เย้ายวนจะหนักหน่วงเกินไปจนเด็กหนุ่ม ม.ปลาย วัยกำลังฟิตปั๋งไม่อาจจ้องมองตรงๆ ได้ แต่ก็เห็นว่าหนึ่งในหญิงสาวสองคนนั้นใช้สองมือปิดหน้าอกเอาไว้ ระหว่างสองเต้าที่ท่าทางนุ่มนิ่มนั่นมีร่องแห่งความฝันอยู่ นี่มันสถานการณ์แบบไหนกันเนี่ย!?
?ชุดว่ายน้ำมันลอยไปใกล้ๆ ถ้ำตรงโน้นน่ะ ถึงจะติดอยู่ตรงที่ที่มองเห็นก็เถอะ...แต่พวกเราไปหยิบไม่ไหวหรอก?
สีกรมท่าที่มีลายเส้นแถบขวางสีแดงเล็กๆ กับสีเหลืองเลมอนที่มีเชือกอยู่ทั้งสองข้าง นั่นมันอะไรน่ะเหรอ ก็สีของบิกินีไงล่ะ หญิงสาวคนที่สวมชุดที่มีลายเป็นเส้นๆ และผิวเกรียมแดดมากกว่าซึ่งเขย่าไหล่เพื่อนผู้ร้องไห้อยู่ มีผิวสีข้าวสาลีและเจาะรูสะดือด้วย
อา ถ้าเป็นชุดว่ายน้ำแบบนั้น มันก็คงหลุดไหลตามน้ำไปได้นั่นแหละนะ ผมรับมุกแบบนั้นแค่ในใจ ถ้าไม่ได้ใช้ชุดชั้นในแบบผูกเชือกอยู่เป็นประจำก็คงจะไม่เข้าใจถึงความอันตรายนั้นหรอก อนึ่ง ผมมีเหตุผลทำให้เคยมีประสบการณ์มาแล้ว
?ไม่เป็นไรหรอก เนอะ เด็กสองคนนี้บอกว่าจะช่วยไปเอามาให้นี่นา?
?เอ๊ะ!??
เธอคนที่เจาะสะดือปลอบใจอย่างหนักแน่น ทั้งๆ ที่ยังไม่ทันได้ไหว้วานหรือสัญญากันเลยแท้ๆ แต่กลับกำหนดว่าเป็นแบบนั้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ทั้งผมและมุราตะต่างก็คิดในใจว่าซวยแล้วไง ทว่าตอนนี้เราสองคนไม่ใช่ลูกค้าที่มาเล่นน้ำทะเล แต่เป็นพนักงานชั่วคราวของ ?ครอบครัวตัว M? เมื่ออยู่ต่อหน้าลูกค้าผู้กำลังลำบากถึงที่สุด จะให้ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก็ใช่ที่
ถ้าเพื่อลูกค้าแล้วละก็ ต่อให้ต้องลุยเข้าไปในถ้ำหรือป่าทึบก็ยอมทำทั้งนั้นนั่นแหละ พวกเราต่างฮึกเหิมกันใหญ่ ไม่ใช่เพราะว่าทั้งสองคนนั้นน่ารักอย่างเด็ดขาด
?ดีล่ะ ไปเลย ไปคามาคุระโลด ?
?ไม่ใช่แล้ว ชิบุยะ ต้องไปเลย ไปถ้ำหินต่างหาก?
โพรงถ้ำเจ้าปัญหาขนาดใหญ่กว่าที่คิด และก็มืดจนน่าจะเป็นจุดเหมาะสำหรับการมาเดทสุดๆ ตอนนี้น้ำขึ้นมาถึงราวๆ เอวแล้ว เพราะงั้นถ้าไม่ยอมเปียกสักนิดก็จะไปไม่ถึง แต่ถ้าน้ำลงก็คงจะพอเดินข้ามไปได้ อีกฟากของโขดหินตะปุ่มตะป่ำมีวัตถุสีเลมอนติดอยู่
แต่ปัญหาก็คือตรงผิวน้ำทะเลบริเวณหน้าสถานที่นั้นมีธงสีแดงผุดลอยเอื่อยเฉื่อยอยู่
?คุณลูกค้าครับ ตรงนี้เขาห้ามว่ายน้ำนะ มาลอบนัดเจอในที่อันตรายแบบนี้ก็ลำบากแย่น่ะสิคุณหนูๆ?
ด้วยความที่ระอามากเกินไป ผมเลยพูดในสไตล์มิโน มงตะ ออกมา
?อืม ราวๆ....ยี่สิบเมตรล่ะมั้ง ว่ายไหวสินะ ชิบุยะ?
?ฉันเรอะ? ตะ แต่เขาห้ามว่ายน้ำนะ!??
?นายถนัดเรื่องว่ายน้ำในที่ที่เขาห้ามไม่ใช่เหรอ? เอ้า ก็อย่างในสระโลมานั่นไง?
ไม่มีอะไรจะเถียงกลับเลยครับ
ผมหย่อนเท้าลงไปอย่างช่วยไม่ได้ น้ำทะเลซึ่งเย็นกว่าที่คิดไหลเข้ามาถึงข้างในรองเท้าผ้าใบ ผมเลิกผ้ากันเปื้อนเดนิมขึ้นแล้วใช้พื้นรองเท้าเช็กสัมผัสของโขดหิน พร้อมกับมุ่งหน้าไปช่วยผีเสื้อสีเหลืองที่ถูกทิ้งเอาไว้ในถ้ำอันมืดมิด ถึงจะเป็นบิกินีก็เถอะ
?ชิบุยะ ท่าทางไหวมั้ย??
ตอนที่มาจนถึงธงสีแดง ระดับน้ำก็สูงจนถึงตำแหน่งหน้าอก ถึงจะลึกกว่าที่คาดไปหน่อย แต่เท้ายังแตะพื้น เพราะงั้นก็คงจะนับว่าสบายดีอยู่แหละมั้ง ผมย่างเท้าอย่างระมัดระวังไปจนถึงที่หมายและยื่นมือไปยังผ้าสีเหลืองน่าปวดตา
?....นี่มันบิกินีแบบสดๆ ครั้งแรกในชีวิตเลยแฮะ....?
พริบตาที่นิ้วเอื้อมไปถึงได้ ผมก็คิดเรื่องที่ชวนให้สุขภาพฟิตปั๋งในบางแง่ไปด้วย ผ้าที่ชื้นและอุ่นนิดหน่อยเพราะน้ำทะเลเข้ามาอยู่ในมือขวาอย่างว่าง่าย
ในโอกาสนี้เนี่ย ถ้าแค่ลองสวมดูโดยถือซะว่านับเป็นรางวัลจะได้รับการยกโทษให้มั้ยนะ ไม่สิ ถึงการเอาสวมหัวแล้วพูดว่า ?คาเอรุซาง? มันออกจะเกินไปสักหน่อยก็เถอะ แต่อย่างน้อยถ้าแค่เอามาสูดดมละก็
?ชิบุย้า รีบๆ กลับมาเร็วเข้า กลับเพนชั่นด้วยกันเถอะ?
ผมระดมความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่มีอยู่น้อยนิดอย่างสุดกำลัง ก่อนจะเอาวัตถุสีเหลืองเลมอนที่คว้าได้มาพาดไหล่ขวาเอาไว้ มุราตะโบกมือให้ซะโอเวอร์เชียว
?หนวกหูชะมัด ถึงไม่ต้องบอกฉันก็....กลับ....?
ปลายเท้าที่ย่ำลงไปเพื่อจะก้าวต่อกลับมีสิ่งมีชีวิตแห่งท้องทะเลตั้งหลักปักฐานอยู่
?ไหงคุณปูมาอยู่ในที่แบบนี้เนี่ย!??
ถ้าย่ำปูที่ยังเป็นๆ อยู่จะมีโม่บดตกลงมาจากฟ้า เด็กญี่ปุ่นมากมายถูกพร่ำสอนมาแบบนี้เมื่อสมัยยังเล็กๆ
ศัตรูชูกรรไกรสีน้ำตาลขึ้นแล้วข่มขู่ทางนี้ใหญ่ ผมตั้งใจจะหนีในฉับพลัน ทว่ากลับล้มหงายหลังจนร่างจุ่มลงในน้ำทั้งตัว บิกินีที่แค่วางพาดเอาไว้ลอยน้ำแล้วตั้งท่าจะไหลหนีไปต่อหน้าต่อตา
?รอเดี๋ยวสิเฟ้ย!?
ผมรีบร้อนยื่นมือไปเพื่อจะคว้ามันเอาไว้ใหม่ แต่มันก็จมไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ผมเอื้อมมือไปด้วยคิดว่าไม่ยอมปล่อยให้หลุดลอยไปตรงนี้หรอก แต่มือนั้นกลับโดนดึงลึกลงไป
ดึง
?....กึ๋ย?
ร่างกายของผมโดนดึงลงไปด้วยพลังที่ใหญ่หลวงกว่านั้น
?มะ มุราตะ หมึกยักษ์มัน....?
ที่หาดทราย ทั้งสามพร้อมใจกันเอามือขึ้นแนบหูแล้วทำท่าโพสเหมือนจะถามว่า อะไรน้า? อย่างพร้อมเพรียง
ด้วยทิฐิที่ตั้งใจจะไม่ปล่อยให้บิกินีซึ่งอุตส่าห์คว้ามาได้ออกห่างตัวไปเป็นอันขาด ทำให้มือขวาของผมเริ่มจมลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ น้ำทะเลขึ้นมาถึงจมูกจนหายใจไม่ออก สิ่งที่พยายามจะดึงคนลงไปยังก้นทะเลเนี่ยก็มีพวกอุมิโบซึ ไม่ก็ผีคนตายในทะเล ถ้าเป็นตัวผมเมื่อสี่เดือนก่อนคงจะร้องไห้โวยวายด้วยกลัวว่าจะโดนฆ่าล่ะมั้ง แต่ตอนนี้ผมกลับสงบใจได้มากเอาการ
ก็เนี่ย สงสัยว่าผมจะโดนเรียกตัวอีกแล้วล่ะมั้ง?
วิธีการที่ผมจำติดตัวผ่านการสั่งสมจากประสบการณ์จริงก็คือ ในเวลาแบบนี้อย่าร้อนรนตะเกียกตะกาย ต้องทำตัวตามสบายและหายใจลึกๆ เท่าที่จะทำได้....ซวยแล้ว พอหายใจลึกๆ แล้วฮอนดะวาระ (สาหร่ายทะเล) กลับเข้ามาในปากแทนอากาศซะงั้นแน่ะ!?
ที่เหลือก็คือ การทัวร์จักรวาลที่แค่จะเล่าก็ไม่มีอะไรให้เล่าแล้ว
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ระหว่างทำงานพิเศษที่ทะเลท่ามกลางฤดูร้อน ผม ชิบุยะ ยูริผู้ยึดอาชีพราชาปีศาจ ก็ลอยเท้งเต้งไปจนถึงอาณาจักรปีศาจที่คุ้นเคยดีเช่นเดียวกับทุกครั้งทุกครา
ทว่าพวกคอนราดที่ช่วยมารับผมกลับมีท่าทีผิดแผกไป ดูเหมือนว่าตอนนี้จะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นที่โลกฝั่งนี้เข้าจนได้ แล้วที่ผมโดนเรียกตัวมาเนี่ยก็เห็นว่าเป็นเพราะแผนการร้ายนั้นนั่นแหละ....ว่าแต่ระหว่างพูดอยู่นี่ ผมกลับโดนส่งเข้าไปอยู่กลางอาณาจักรศัตรูเฉยเลย! เฮ้ยๆ นี่มันชักจะขำไม่ออกแล้วนะ!? เรื่องราวแฟนตาซีสุดเฟี้ยวมาถึงจุดเปลี่ยนอันน่าตกตะลึง!
