เมื่อนักบวชอ่อนวัยแจ้งว่าอธิการอารามเรียกหา นักบวชอย่างมาร์คจึงขมวดคิ้วด้วยความฉงน
?ท่านบอกหรือเปล่าว่ามีธุระอะไร?
?ขอรับ ดูเหมือนจะมีแขกมา?
?แขก??
ช่วงสิบกว่าปีนับจากเข้ามาอยู่อารามบนภูเขาลึกในรัฐชไวซ์แห่งนี้ ไม่เคยมีแขกคนใดมาเยี่ยมเยือนแม้แต่คนเดียว เขามาที่นี่โดยละทิ้งเรื่องทางโลกจนหมดสิ้นแล้ว
บางทีอาจไม่มีผู้ใดล่วงรู้เรื่องที่เขาอยู่ที่อารามแห่งนี้ด้วยซ้ำ
แม้แต่เรื่องที่เขายังมีชีวิตอยู่ก็เช่นกัน....
แม้จะรู้สึกหวาดหวั่นจนยากที่จะบรรยาย เขาก็ไม่อาจเมินเฉยเสียงเรียกของอธิการอารามได้ มาร์คมุ่งหน้าไปยังห้องอธิการด้วยฝีเท้าหนักอึ้ง
?โอ้ มาร์ค มาแล้วรึ แขกท่านนี้บอกว่ามีธุระกับเจ้า?
เมื่อก้าวเข้าไปในห้อง อธิการก็ต้อนรับมาร์คอย่างอารมณ์ดียิ่งกว่าที่เคย แต่มาร์คกลับไม่อาจมัวสนใจท่าทีของอธิการ
เทวดาที่ยืนอยู่ข้างอธิการสะกดสายตาของมาร์คให้หยุดนิ่ง
ผมสีทองเป็นลอนนุ่มสลวยล้อมกรอบใบหน้าเล็กขาวผ่อง ดวงตาราวแซฟไฟร์เจียระไนอย่างดีจ้องมองมา
ผิวสีน้ำนมราวกระเบื้องสีขาวจากเชียน่า แก้มแดงระเรื่อดุจแต่งแต้มด้วยสีกุหลาบ
ริมฝีปากทอประกายดุจผลเชอร์รี่แม้ไม่แต่งแต้มสีแดง มุมปากเฉียงขึ้นเล็กน้อยทำให้ดูเหมือนเจ้าตัวกำลังคลี่ยิ้ม
ช่างดูราวกับเทวดาในเทพนิยายไม่มีผิด
?ทางนี้คือพระคาร์ดินัลเฟอร์นันโด ท่านคาร์ดินัล นี่คือมาร์คที่ท่านกำลังตามหา?
เมื่อคนงามตรงหน้าได้รับการแนะนำตัว มาร์คจึงรีบโค้งศีรษะลงต่ำ พระคาร์ดินัลนั้นมีสมณศักดิ์สูงรองจากพระสันตะปาปา หลายท่านเป็นถึงว่าที่ผู้ชิงตำแหน่งพระสันตะปาปาองค์ต่อไป ปกติแล้วมาร์คที่เป็นเพียงนักบวชธรรมดาจึงไม่มีโอกาสแม้แต่จะเฉียดใกล้
มาร์คแอบตกใจที่คาร์ดินัลผู้นั้นอ่อนเยาว์ราวกับเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัยสิบกว่า ซ้ำยังรูปงามจนแทบเข้าใจผิดคิดว่าเป็นหญิง แต่แล้ว
?มาร์คสินะ ไม่สิ ควรเรียกว่าท่านมาร์ควาร์ทมากกว่ากระมัง??
มาร์คเบิกตาโตเมื่อโดนเรียกด้วยชื่อที่ละทิ้งไปนานแล้ว
?หรือเรียกว่ามาร์ควิสฮันโนเวอร์จะดีกว่า??
?ทะ ทำไมท่านถึงทราบชื่อนั้น....?
มาร์คเค้นคำพูดออกมาอย่างยากเย็น
?ข้าอยากถามเกี่ยวกับสุภาพสตรีท่านหนึ่งผู้เคยเป็นภรรยาของท่าน.... ไม่สิ แม้แต่ตอนนี้ก็ยังถือเป็นภรรยาทางนิตินัยอยู่ ข้าอยากรู้เรื่องบุตรชายของท่านกับสุภาพสตรีท่านนั้น?
เทวดารูปงามเอียงคอ ผุดยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเอ่ยเช่นนั้น
***
จุดเริ่มต้นมาจากคดีฆาตกรรมหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นในกรุงเวสต์แห่งจักรวรรดิฟาเลน
บารอนเนสผู้มุ่งมาดปรารถนาครองรักกับชู้รักหนุ่มลงมือวางยาพิษสังหารบารอนผู้เป็นสามี
หากฟังแค่นี้คงดูเหมือนคดีฆาตกรรมเพราะเรื่องชู้สาว ทว่าปัญหาอยู่ตรงยาพิษที่ใช้ในการสังหาร
ฝ่ายภรรยามักแวะเวียนไปปรึกษาหมอดูหญิงชราในเมืองที่มีชื่อเสียงเลื่องลือว่าทำนายแม่นยำอยู่บ่อยครั้ง แน่นอนว่านางยังปรึกษาเรื่องของชู้รักกับสามีของตนเองด้วย
เมื่อภรรยาคร่ำครวญอยากแยกทางกับสามี หญิงชราจึงบอกว่า ?จงใช้ยานี้หยดลงในอาหารของสามีวันละหนึ่งหยด? ก่อนมอบขวดใบเล็กบรรจุยาพิษให้
ช่วงแรกๆ ฝ่ายภรรยาผสมลงในซุปที่สามีดื่มทีละหยด แต่ไม่นานก็เริ่มรำคาญใจจนเพิ่มปริมาณขึ้นเป็นสองหยด สามหยด
สภาพร่างกายของสามีที่ห่างวัยราวกับพ่อลูกทรุดโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด จนกระทั่งวันหนึ่ง ภรรยาผู้โง่เขลาเทของเหลวในขวดลงซุปจนหมดโดยตั้งใจจะปิดฉาก
ผู้เป็นสามีหมดสติทันทีที่ดื่มซุปแห่งความตายได้สามอึกก่อนจะจากไปสวรรค์ เมื่อแพทย์ประจำตระกูลที่นึกสงสัยตรวจสอบดู คดีนี้จึงเปิดเผยออกมา
บารอนเนสพร้อมด้วยหญิงชราถูกจับกุมตัวเพื่อเข้ารับการสอบสวนอย่างเข้มงวด ผลปรากฏว่าลูกค้าของหญิงชราไม่ได้มีเพียงบารอนเนส หากแต่ยังรวมถึงภรรยาของขุนนางและชนชั้นกลางในกรุงเวสต์จำนวนมาก
หญิงชราได้มอบยาเสน่ห์และยาเสพติดหลากหลายชนิดให้บรรดาลูกค้า ซ้ำยังเคยจัดพิธีมิสซาดำรวบรวมลูกค้ามาประกอบพิธีกรรมลึกลับ ส่วนบรรดาสามีของลูกค้าหลายรายก็เสียชีวิตอย่างผิดธรรมชาติเช่นเดียวกับบารอนผู้ตกเป็นเหยื่อในคดีครั้งนี้
เรื่องอื้อฉาวของเหล่าภรรยาชนชั้นสูงแห่งฟาเลนกลายเป็นข่าวครึกโครมในหนังสือพิมพ์ซุบซิบทั่วทั้งทวีป ขณะที่ผู้คนกำลังจับตามองนั้นเอง จักรพรรดิแห่งฟาเลนได้เชิญเจ้าหน้าที่สอบสวนคนนอกรีตมาจากลอมบาร์เดียในนามของพระองค์เอง การพิจารณาคดีแม่มดครั้งใหญ่นี้จึงเปิดฉากขึ้น
แต่แล้ว เมื่อการพิจารณาคดีเริ่มขึ้น คำให้การที่ออกจากปากอีเนส หมอดูหญิงชราผู้นั้นกลับทำให้ทั้งเจ้าหน้าที่สอบสวนคนนอกรีต ผู้พิพากษา และเหล่าขุนนางจากทั่วเวสต์ที่มาเที่ยวชมการพิจารณาคดีแห่งศตวรรษต้องตกตะลึง
?เจ้าค่ะ ลูกค้าที่เก่าแก่ที่สุดตอนนี้กลายเป็นคนมีตำแหน่งสูงไม่เบา
ตอนนั้นข้าเดินดูดวงอยู่ในเมือง ทันทีที่เห็นเด็กหญิงผู้นั้นเพียงแวบเดียว ข้าก็รู้ทันทีว่าในอนาคตเด็กคนนี้จะกุมหัวใจของท่านผู้สูงศักดิ์ที่สุดในประเทศนี้และใช้ชีวิตอย่างหรูหราถึงที่สุดในฐานะสตรี
ข้าเรียกแม่ลูกที่ผ่านมาและบอกไปเช่นนั้น แต่ข้าคงโดนมองว่าเป็นหมอดูว่างงานที่แสร้งพูดป้อยอเพื่อหาเงิน มารดาของท่านผู้นั้นจึงโยนเหรียญทองแดงมาให้เหรียญหนึ่งด้วยความสงสาร ใช่แล้ว....
หลังจากนั้นผ่านมาราวสิบปีเห็นจะได้ ระหว่างที่ข้ากำลังทำนายอยู่ตรงที่แห่งเดิม รถม้าหรูหราก็มาจอดลงตรงหน้าข้า
ผู้ที่ปรากฏออกมาคือสุภาพสตรีผู้งดงามราวนางสวรรค์ นางกล่าวกับข้าว่า ?ยังจำข้าได้หรือเปล่า?? แน่นอนว่าข้าจำได้ ข้าไม่ได้อยากโอ้อวดหรอกนะเจ้าคะ แต่ข้าไม่ลืมคนที่เคยเห็นหน้าหรอก หากเป็นคนที่รูปลักษณ์ไม่เหมือนใครก็ยิ่งแล้วใหญ่
ท่านผู้นั้นคือเด็กสาวที่ข้าเคยทำนายไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อนว่าจะมีชีวิตหรูหรามั่งคั่ง นางประสบความสำเร็จจริงตามนั้นและปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าข้า
นางบอกว่าข้าทายอนาคตของตนเองถูกต้องและมอบถุงหนังบรรจุเหรียญทองจนเต็มให้ข้า.... ใช่แล้ว ราวร้อยเหรียญเห็นจะได้ ช่างเป็นคนใจกว้างผิดกับแม่ของนางเหลือเกิน?
?นางชื่ออะไร??เจ้าหน้าที่สอบสวนคนนอกรีตถาม หญิงชราจึงเอ่ยแจ่มชัด
?มาร์ชันเนสฮันโนเวอร์เจ้าค่ะ?
เสียงฮือฮาพลันดังขึ้นทั่วศาล สายตาต่างจับจ้องไปยังมารี.... หรือมาร์ชันเนสฮันโนเวอร์ตรงที่นั่งแขกกิตติมศักดิ์
การพิจารณาคดีครั้งนี้ถูกจับตามองจากทั่วเวสต์ วันนี้มารีจึงสวมสร้อยเพชรและชุดกระโปรงประดับขอบด้วยขนสัตว์ นางนั่งอยู่ตรงที่นั่งพิเศษแถวหน้าสุดของที่นั่งชมการพิจารณาคดีร่วมกับเหล่าขุนนางทั้งหลายโดยแต่งองค์ทรงเครื่องราวกับมาชมละครในโรงอุปรากร
มารียังคงนิ่งเฉยแม้จะตกเป็นเป้าสายตาของผู้คน คำทำนายของอีเนสที่ว่าในอนาคตนางจะกุมหัวใจขององค์จักรพรรดิและได้ใช้ชีวิตหรูหราในฐานะนางสนมนั้นเป็นเรื่องมีชื่อเสียง เนื่องจากตัวมารีได้ใช้ประโยชน์จากคำทำนายนี้เพื่อสร้างตำนานของตนเอง ที่ไต่เต้าจากภรรยาชนชั้นกระฎุมพีขึ้นมาสู่ตำแหน่งสูงสุดของสตรีในจักรวรรดิ
ส่วนอีเนสก็กลายมาเป็นหมอดูชื่อดังในกรุงเวสต์เพราะคำทำนายดังกล่าว เหล่าสตรีชั้นสูงต่างพากันวิ่งแจ้นไปหาหญิงชราผู้นี้เพราะอยากได้รับความรักจากจักรพรรดิบ้าง
กล่าวคือเหตุวุ่นวายคราวนี้ดูเหมือนจะเริ่มมาจากมารี ทว่านับตั้งแต่พบหญิงชราครั้งที่สอง มารีก็ไม่ได้พบนางอีกเลย มารีไม่ใช่พวกเชื่อคำทำนายหรือคาถาอาคม เหตุที่นางไปหาหญิงชราเป็นเพราะทำไปตามอารมณ์เท่านั้น
ไม่มีเรื่องใดที่นางต้องรู้สึกละอาย
มันควรเป็นเช่นนั้น
?หลังจากนั้นเจ้าได้คบค้ากับมาร์ชันเนสต่อหรือไม่??
เจ้าหน้าที่สอบสวนคนนอกรีตถามขึ้น ?เจ้าค่ะ? หญิงชราพยักหน้า
?นางคงเชื่อคำทำนายของข้า หลังจากนั้นนางจึงอุปถัมภ์ข้าเรื่อยมา
ข้าใช้ศาสตร์ลับเพื่อให้ดวงใจของท่านผู้นั้นเกาะกุมอยู่กับนางเรื่อยไปอยู่หลายครั้ง ทั้งยังมอบยาเสน่ห์สำหรับละลายหัวใจและยาตำรับลับสำหรับคงความงามให้ด้วย นั่นทำให้นางงดงามไม่สร่างซา?
เกิดเสียงดังยิ่งขึ้นบริเวณที่นั่งผู้ชม คิ้วได้รูปของมารีกระตุกเล็กน้อย
?ยาตำรับลับสำหรับคงความงามนั้นเป็นอย่างไร??
?ข้าขอละเว้นไม่เอ่ยในที่นี้ดีกว่าเจ้าค่ะ?
หลังจากนั้นก็มีข่าวลือชวนเชื่อแพร่กระจายไปทั่ว ว่ายานั้นทำมาจากสิ่งที่น่าขยะแขยงเกินกว่าจะพูดออกมา ทั้งเลือดคางคก ตัวนิวต์รมควัน ทารกที่ตายในครรภ์ และนำไปตากแห้งก่อนบดเป็นผง เป็นต้น
ส่วนศาสตร์ลับที่หญิงชราใช้กับมาร์ชันเนสฮันโนเวอร์นั้น ลือกันว่าต้องอาบผิวในอ่างบรรจุเลือดสดๆ ของสาวพรหมจารีจนเต็ม ไปจนถึงเรื่องเหลือเชื่ออย่างการรับจิตวิญญาณความเยาว์วัยโดยเสพสังวาสกับเด็กหนุ่มร่างกำยำท่ามกลางชายหญิงที่เปลือยกายกอดก่ายกัน
?สิ่งที่เจ้าทำให้มาร์ชันเนสมีแค่นั้นรึ??
?เปล่าเจ้าค่ะ เจ้าหญิงที่ถือกำเนิดระหว่างนางกับท่านผู้สูงศักดิ์นามว่าเจ้าหญิงเซซิลใช่ไหมนะ เจ้าหญิงองค์นั้นคือแม่มดตัวจริงเสียงจริง?
?ว่าไงนะ! เจ้าบอกว่าเจ้าหญิงเซซิลเป็นแม่มดงั้นรึ!?
?เจ้าค่ะ เจ้าหญิงองค์นั้นเป็นเด็กที่มาร์ชันเนสฮันโนเวอร์ทำสัญญากับปีศาจและยกให้เป็นเครื่องบรรณาการ จึงถือเป็นแม่มดโดยกำเนิด นางสามารถหลอมละลายใจชายได้เหนือกว่าผู้เป็นมารดา สักวันชายที่รับเจ้าหญิงองค์นั้นเป็นเจ้าสาวจะพบกับความพินาศและทำให้ประเทศต้องล่มสลาย?
?โกหก!? มาร์ชันเนสฮันโนเวอร์ในที่นั่งกิตติมศักดิ์ตะโกนขึ้นอย่างหมดความอดทน นางผุดลุกขึ้นอย่างแรงจนสร้อยเพชรต้องแสงวิบวับ และชี้ปลายนิ้วที่ดูแลอย่างดีใส่หญิงชรา
?เจ้าโกหกคำโต! ข้าเคยขอร้องให้คนอย่างเจ้าทำพิธีพิสดารตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!
มิหนำซ้ำยังหาว่าเซซิลลูกสาวข้าเป็นแม่มด! เจ้าต่างหากที่เป็นแม่มด ไร้ยางอาย ไม่สำนึกบุญคุณ!?
?เงียบหน่อย!?
ผู้พิพากษาตะโกน
?มาร์ชันเนสฮันโนเวอร์คำพูดของท่านที่เป็นเพียงผู้ชมการพิจารณาคดีจะไม่ได้รับการยอมรับ กรุณาเงียบด้วย?
?ไม่ค่ะ! ข้าจะพูด! นับตั้งแต่พบกันครั้งที่สอง ข้าก็ไม่เคยเสวนากับยายหมอดูพิลึกคนนี้อีกเลย!
ยิ่งเรื่องที่ว่าใช้ยาพิสดารคงความงามไว้ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้!?
?เรื่องนั้น.... มาร์ชันเนสบอกว่าหมู่นี้กังวลเรื่องรอยเหี่ยวย่นที่หางตา ก็เลยมาหาข้า....?
?หางตาข้าไม่มีรอยเหี่ยวย่น!?
เสียงแหลมสูงของมารีดังก้องทั่วศาล
การพิจารณาคดีครั้งที่หนึ่งจบลงด้วยความสับสนวุ่นวาย
มารีโกรธจัดรีบขอให้จักรพรรดิแวร์นเนอร์ส่งศาลงี่เง่าและอีเนสไปยังกิโยตินทันที แต่เรื่องมันไม่ง่ายดายเช่นนั้น
เพราะถึงอย่างไรเจ้าหน้าที่สอบสวนคนนอกรีตก็มาจากลอมบาร์เดียตามคำสั่งของจักรพรรดิ
ความที่นี่เป็นคดีแม่มดแห่งศตวรรษ กอปรกับชายผู้นี้เป็นคนกระตือรือร้นในหน้าที่ทำให้ยิ่งโชคร้ายไปกันใหญ่ บุรุษนามวิกเตอร์ผู้นี้เคยพิพากษาแม่มดและคนนอกรีตมาแล้วกว่าร้อยคนสามสิบหกคน ในนั้นถูกตัดสินให้เผาทั้งเป็น ถือเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวนคนนอกรีตที่หัวรุนแรงคนหนึ่ง
เขากดดันแวร์นเนอร์ด้วยเสียงแหลมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเสียงที่มาร์ชันเนสฮันโนเวอร์ตะโกนในศาล
?ถึงจะเป็นสนมคนโปรด แต่ถ้ารู้ว่าเป็นแม่มดแล้วจะปรานีไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทโปรดตัดสินให้เปิดพิจารณาคดีในฐานะผู้ปกป้องสันตะสำนักและจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เหนือผู้คนทางโลกด้วยเถอะ!?
ตำแหน่งจักรพรรดิแห่งฟาเลนนั้น มีมาตั้งแต่ราวสองร้อยปีก่อน โดยพระสันตะปาปาในยุคนั้นซึ่งลี้ภัยมาจากเหตุจลาจลในลอมบาร์เดียได้มอบตำแหน่งนี้ให้ ยังผลให้กษัตริย์แห่งฟาเลนซึ่งเดิมทีมีดินแดนกว้างใหญ่แต่ไกลปืนเที่ยง ได้เป็นจักรพรรดิผู้ปกป้องสันตะสำนักจนกลายเป็นมหาอำนาจผู้ยิ่งใหญ่ในทวีป
ในเมื่อสายสัมพันธ์ระหว่างสันตะสำนักและฟาเลนแน่นแฟ้นถึงเพียงนั้น จึงย่อมไม่อาจละเลยความต้องการของอีกฝ่ายได้ หากจักรพรรดิปกป้องสนมด้วยความรู้สึกส่วนตัว ก็จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยการแย่งชิงบัลลังก์เหมือนคราวจักรพรรดิวินด์เบิร์กเมื่อราวแปดสิบปีก่อน ใช่แล้ว พวกเครือญาติและขุนนางรอบตัวจักรพรรดินีที่กลับมายืนหยัดได้อีกครั้งจากการตกที่นั่งลำบากของสนมจักรพรรดิต่างพากันโวยวายขึ้นมา
ในเหตุการณ์ ?การทรมานตนสี่สิบวันของวินด์เบิร์ก? จักรพรรดิที่ขัดแย้งกับสันตะสำนักถูกริบตำแหน่งและถูกพิพากษาขับไล่ออกจากศาสนาก่อนจะเสด็จไปขออภัยโทษที่สันตะสำนักในลอมบาร์เดียด้วยพระองค์เอง ทว่าพระสันตะปาปาเออร์บันผู้ดำรงตำแหน่งในขณะนั้นไม่ยอมให้อภัย เขาปิดประตูสันตะสำนักแน่นหนาไม่ยอมให้จักรพรรดิเสด็จเข้าไปข้างใน เมื่อไม่ได้รับการอภัยก็ย่อมไม่อาจประกาศตนเป็นจักรพรรดิได้อีกต่อไป วินด์เบิร์กกลายเป็นเพียง ?กษัตริย์? คนหนึ่งไม่ต่างจากผู้ปกครองคนอื่นๆ ในทวีป เหตุการณ์ที่วินด์เบิร์กไปยืนนิ่งหน้าประตูบานนั้นทุกเช้าค่ำจึงกลายเป็นเหตุการณ์ที่มีชื่อเสียง
วินด์เบิร์กเคราะห์ดีได้รับการอภัยหลังจากยืนหน้าประตูสี่สิบวัน ทว่าบัดนี้พวกขุนนางฝ่ายจักรพรรดินีกลับยืนกรานไม่ยอมให้ปกป้องแม่มดอีก
?ขืนปล่อยนังแม่มดเอาไว้ในวังมากไปกว่านี้ พระสันตะปาปาอาจพิโรธและขับไล่ฝ่าบาทออกจากศาสนจักรก็ได้พ่ะย่ะค่ะ ไม่สิ! ประเทศที่ปกป้องแม่มดอย่างนี้ คงขับไล่ประชาชนทั้งหมดในประเทศด้วยซ้ำ!?
?ตายจริง! แบบนั้นประเทศนี้ก็ไม่ต่างจากถูกพระเจ้าทอดทิ้ง น่ากลัวเหลือเกินเพคะ! หากตำแหน่งจักรพรรดิซึ่งบ่งบอกความเป็นผู้ปกป้องสันตะสำนักถูกยกให้กษัตริย์คนอื่น จะทำอย่างไรดี? ต่อไปจะเป็นอากิแตน โกธ หรือรุสซี??
?ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ! ขุนนางแห่งฟาเลนผู้สูงส่งอย่างข้าต้องอยู่ต่ำกว่าขุนนางบ้านนอกคนอื่นๆ งั้นรึ! ไม่มีเรื่องใดเสื่อมเสียเกียรติมากไปกว่าการถูกพิพากษาขับไล่จากศาสนจักรอีกแล้ว! ชิงกัดลิ้นตายก่อนโดนประกาศขับไล่ยังดีเสียกว่า!?
บรรดาราชวงศ์และขุนนางพากันโวยวายทำเอาจักรพรรดิแวร์นเนอร์จอมใจเสาะกุมขมับ ส่วนมารีก็จำต้องออกจากวังไปควบคุมความประพฤติเช่นเดียวกับเมื่อครั้งเกิดเหตุวุ่นวายจากจดหมายปิดผนึกก่อนหน้านี้
ทว่าเหตุวุ่นวายนี้กลับกลายเป็นไฟลุกลามไปถึงอากิแตนซึ่งเป็นหัวแถวในรายชื่อผู้สืบทอดตำแหน่งจักรพรรดิด้วย
ดัชเชสแห่งมงฟอรต์ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นแม่มด
***
ออสการ์ทอดมองเด็กหนุ่มรูปงามราวกับรูปสลักเทวดาที่ยืนอยู่ตรงหน้าโดยมิได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ
เขาสวมชุดคลุมนักบวชสีแดงสดอันเป็นเครื่องบ่งบอกยศคาร์ดินัล แม้มองผ่านเสื้อผ้าหลวมๆ นั้นก็รับรู้ได้ว่าผู้สวมมีร่างบอบบางราวหญิงสาว ไม่สิ เรียกว่าเป็นร่างของเด็กหนุ่มก่อนที่จะเติบโตเป็นชายชาตรีคงถูกต้องกว่า
ผมสีทองอ่อนนุ่มดุจปุยเมฆ สัมผัสยามต้องมือคงนุ่มนวลนัก ขนตาสีเดียวกับเรือนผมขยับพะเยิบพะยาบอวดความยาวทุกคราวที่กะพริบตา
ผิวขาวนั้นใช่ว่าเยือกเย็นราวหิมะ หากแต่เป็นดั่งกระเบื้องเคลือบที่ชวนอยากให้สัมผัสโดยไม่รู้ตัว แก้มเลือดฝาดเป็นสีกุหลาบ ดวงตาสีฟ้าใสกระจ่างดุจแซฟไฟร์
ริมฝีปากเป็นสีแดงแม้ไม่แต่งแต้ม ปากนั้นทอประกายดุจอัญมณีเช่นเดียวกับดวงตา มุมปากเรียวเล็กแฝงความงามพิสุทธิ์ดูคล้ายกับยกยิ้มเล็กน้อยแม้ในยามทำหน้าเรียบเฉย
เพียงแค่อยู่เฉย เด็กหนุ่มก็แทบสร้างภาพลวงตาให้เห็นว่ามีปีกสีขาวประดับหลัง
เขาคือคาร์ดินัลเฟอร์นันโด
แต่ออสการ์รู้ซึ้งดีว่าคาร์ดินัลผู้นี้ไม่ใช่แค่เทวดาผู้งดงาม
นามของคาร์ดินัลเฟอร์นันโดเพิ่งเป็นที่เลื่องลือในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เด็กที่เคยเป็นแค่นักศึกษาศาสนาธรรมดากลับได้รับแต่งตั้งเป็นบิชอปทันทีที่สำเร็จการศึกษา ก่อนจะขึ้นเป็นอาร์คบิชอปในหนึ่งปีให้หลัง และได้รับแต่งตั้งเป็นคาร์ดินัลเมื่อครึ่งปีก่อน
หากเป็นแค่คนหนุ่มผู้งดงามและเก่งกาจ ย่อมไม่มีทางก้าวหน้าขนาดนี้
ถึงอย่างไรก็เป็นความจริงที่ว่าความงดงามนั้นนำมาซึ่งข่าวลือว่าเขามีสัมพันธ์ทางกายกับสมเด็จพระสันตะปาปาคาลิกซ์ตุสที่สี่ พระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน หากปราศจากความเสน่หาระดับไม่ธรรมดาที่พระสันตะปาปามีต่อเด็กหนุ่มดังที่ได้ยินในข่าวลือแล้ว ก็คงไม่มีความสำเร็จที่ผ่านมาของเฟอร์นันโดเช่นกัน
แต่สันตะสำนักแห่งนั้นไม่ได้อ่อนหัดถึงขั้นปล่อยให้เขาขึ้นเป็นคาร์ดินัลเพียงเพราะมีใบหน้างดงามกับความสเน่หาของพระสันตะปาปาเป็นอาวุธ
ที่นั่นเป็นแหล่งซ่องสุมของปีศาจเสียยิ่งกว่าราชวังของนานาประเทศในทวีปเสียอีก ลำพังความรู้สึกอยากอุทิศตนรับใช้พระเจ้าอย่างบริสุทธิ์ใจย่อมไม่ทำให้ก้าวหน้า กลับกันแล้ว กลุ่มคนที่ควบคุมที่นั่นล้วนเป็นคนโลภที่ใฝ่หาเงินทองและอำนาจในทางโลก ทั้งยังหลอกลวง หักหลัง และเลื่อยขาเก้าอี้ผู้อื่นเพื่อสิ่งเหล่านั้น
ปีศาจผู้มีใบหน้าราวกับเทวดา
อุปนิสัยที่โดนซุบซิบนินทาลับหลังเช่นนั้นคงไม่ใช่เรื่องโกหก
?ท่านชื่อคาร์ดินัลเฟอร์นันโดสินะ?
ออสการ์ต้อนรับคาร์ดินัลทั้งที่ยังนั่งอยู่กับโต๊ะในห้องทำงาน เขาปล่อยให้อีกฝ่ายยืนอยู่หน้าโต๊ะโดยไม่เชื้อเชิญให้นั่งเก้าอี้
คาร์ดินัลผู้มีสมณศักดิ์รองจากพระสันตะปาปามาเยี่ยมเยือน มิหนำซ้ำคราวนี้ยังเป็นทูตที่มาเพื่อสอบสวนคดีสำคัญทางศาสนาซึ่งเกี่ยวเนื่องกับภรรยาของตน เดิมทีจึงควรต้อนรับอย่างนอบน้อม โดยปกติแล้วกรณีนี้ควรให้อีกฝ่ายเข้าเฝ้ากษัตริย์ในท้องพระโรง มิใช่เข้าพบผู้สำเร็จราชการ
แต่ออสการ์จงใจเมินเรื่องพิธีรีตอง เพื่อพิจารณาท่าทีของอีกฝ่าย
?ท่านคาร์ดินัลมาด้วยตนเองเช่นนี้มีธุระอะไร??
?อย่าทำไขสือเลย ท่านคงทราบดีแล้วว่าข้ามาที่นี่ด้วยธุระอันใด??
เฟอร์นันโดยิ้มอย่างสุขุมไร้ท่าทีขัดเคืองอารมณ์ที่โดนปล่อยให้ยืนโดยไม่ได้รับเชิญให้นั่งเก้าอี้ ลักยิ้มน่ารักพลันปรากฏขึ้นที่แก้มสีกุหลาบ
ผมสีน้ำตาลไหม้จนเกือบดำดกหนา ดวงตาสีน้ำเงินเข้มดุจท้องฟ้าก่อนรุ่งสาง ผู้สำเร็จราชการรูปงามแห่งอากิแตนคราง ?อืม....? ท่าทางคล้ายกำลังครุ่นคิด เขาเอนร่างพิงพนักเก้าอี้พลางไขว้ขาสบายๆ ต่อหน้านักบวชสมณศักดิ์สูง อากัปกิริยาไม่สำรวมนั้นงดงามจนอยากวาดออกมาเป็นภาพ
สาเหตุหนึ่งคงเป็นเพราะคาร์ดินัลรูปงามที่ยืนอยู่ริมโต๊ะข้างๆ นั่นเอง ขณะที่ออสการ์หล่อเหลาสมชายชาตรี เฟอร์นันโดก็ดูราวกับเทวดาไร้เพศ
หากผู้อื่นมาเห็น ทัศนียภาพนั้นคงถือเป็นบุญตา แต่บรรยากาศที่ล่องลอยระหว่างพวกเจ้าตัวกลับแฝงความเสแสร้ง
?ดยุคมงฟอรต์ ข้าอยากถามเรื่องภรรยาของท่าน ท่านคงทราบเรื่องการพิจารณาคดีที่จัดขึ้นในกรุงเวสต์แห่งฟาเลนดีแล้วกระมัง??
มารีใช้อำนาจกดดันให้ปิดคดีแต่กลับไม่เป็นผล การพิจารณาคดียังคงดำเนินต่อมาเช่นเดิม คำให้การใหม่ๆ ชวนให้หน้าแดงซ้ำยังน่ารังเกียจเกินกว่าจะฟัง ออกมาจากปากอีเนสอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นไม่กี่วัน ไม่เพียงแต่ในเวสต์เท่านั้น หากแต่เรื่องนี้ยังล่วงรู้ไปถึงหูผู้คนที่นิยมของแปลกทั่วทั้งทวีป
กรุงอองช์แห่งนี้ไม่ใช่ข้อยกเว้นเช่นกัน เพราะเซซิลที่อีเนสกล่าวหาว่าเป็นแม่มดคือภรรยาของออสการ์ พาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ซุบซิบที่ตีพิมพ์รายวันล้วนมีแต่พาดหัวไร้สาระสะดุดตา
บ้างว่าดัชเชสเซซิลเคยสมสู่กับปีศาจทุกคืนสมัยอยู่ที่กรุงเวสต์
บ้างก็ว่าดัชเชสประกอบพิธีมิสซาดำที่ตำหนักขาวซึ่งได้รับมอบ เพื่อล่อลวงดยุคมงฟอรต์
สุดท้ายถึงขั้นบอกว่าดยุคมงฟอรต์กลายเป็นหุ่นเชิดของดัชเชสเซซิล และกำลังพยายามหันคมเขี้ยวพิษเข้าใส่กษัตริย์เรอเน่ที่ยังทรงพระเยาว์
และยังมีพาดหัวอื่นๆ อีกมากมาย....
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เรื่องราวเริ่มต้นจากคดีแม่มดที่ระอุขึ้นในฟาเลน หญิงชราซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแม่มดให้การว่ามารี มาร์ชันเนสฮันโนเวอร์และเซซิลผู้เป็นธิดาต่างเป็นแม่มด ทางสันตะสำนักในลอมบาร์เดียจึงส่งเฟอร์นันโด คาร์ดินัลรูปงามมาเพื่อสอบสวนเซซิล เสียงกล่าวหาว่าเซซิลเป็นแม่มดเริ่มแพร่หลายในหมู่ประชาชนชาวอากิแตนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ มิหนำซ้ำเฟอร์นันโดยังกุมความลับยิ่งใหญ่ที่เกี่ยวพันกับเซซิลเอาไว้ด้วย...!! เชิญพบกับออสการ์และเซซิลเผชิญวิกฤติที่รุกไล่เข้าหา ในเล่มที่ 8 สุดระทึกใจ!
