New Release Bly แปล : Vega ยามสายฝนโปรยรัก

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release Bly แปล : Vega ยามสายฝนโปรยรัก

โพสต์ โดย Gals »

1

แสงตะวันสีเหลืองส่องตรงเข้ามาในห้องเรียนหลังหมดคาบเรียนวันนั้น
ฟุมิโตะนั่งมองไปนอกหน้าต่างอยู่ตรงโต๊ะข้างหน้าต่าง
เด็กสาวชมรมกรีฑากำลังวิ่งบนลู่สีเขียวในสนาม วากาโอะเปรยว่าสาวคนที่วิ่งข้ามรั้วเมื่อกี้น่ารัก ชิมาโมโตะตอบว่าสาวชมรมกรีฑาก็งั้นๆ ฉันว่าสาวชมรมเคนโด้ดีกว่าอีก อ๋อ ฉันเข้าใจ ชุดฮากามะนี่ดีเนอะ ทั้งคู่คุยกันไปเรื่อย
?ฟุมิโตะล่ะ??
วากาโอะเอ่ยถามขณะฟุมิโตะฟังบทสนทนาของทั้งสองเงียบๆ
?หมายถึงอะไร?
?ชอบแบบไหน?
?อืม~ ไม่มีแบบที่ชอบเป็นพิเศษ นิสัยดีก็พอแล้ว?
ฟุมิโตะตอบแบบปลอดภัยไว้ก่อนโดยระวังไม่ให้ห้วนจนเกินไป
?เอาอีกแล้ว คำพูดของพวกกินพืช นายน่าจะกระตือรือร้นให้สมเป็นลูกผู้ชายอีกนิดนะ?
ระหว่างที่ตนยิ้มขำวิธีพูดเช่นนั้น
?ไม่หรอกๆ ฟุมิโตะแค่ไม่พูด แต่ความจริงมีแอบไว้ใช่ไหมล่ะ?
ชิมาโมโตะก็ยิ้มมองตนอย่างมีเลศนัย
?วันก่อนฉันเห็นนะ?
?เห็น??
หัวใจเร่งจังหวะเต้นตุ้บขึ้นมา
?นายเลือกดีวีดีอยู่กับผู้หญิงที่ร้านเช่าตรงสถานีอาโอบะไดไม่ใช่เหรอ?
?หมายความว่าไง ฟุมิโตะมีแฟนแล้วเหรอ?
พอโดนถามเชิงตำหนิ ตนร้อนรนปฏิเสธว่ามีที่ไหน
?ชิมาโมโตะ ผู้หญิงคนที่ว่าไว้ผมยาวดัดนิดหน่อยใช่หรือเปล่า?
?ใช่ ดูนุ่มนวลน่ารักสุดๆ?
?นั่นพี่สาวฉันเอง?
ชิมาโมโตะร้องเอ๊ะทำตาโต
?ถึงนายจะบอกน่ารักก็เถอะ แต่อายุยี่สิบสี่แล้วนะ?
?ยี่สิบสี่??
ชิมาโมโตะอ้าปากค้างก่อนไหล่ทรุดฮวบอย่างโอเวอร์ว่าถูกตนหลอก ฟุมิโตะยิ้มตอบว่าอย่ากล่าวหากันสิ ตอนนั้นเองแฟนของชิมาโมโตะเปิดประตูห้อง โผล่หน้าเข้ามาพอดี
?รุ่นพี่ ขอโทษที่ช้านะ ประชุมกรรมการนักเรียนเสร็จแล้วล่ะ?
?โอ้ งั้นพวกนาย ฉันไปก่อนนะ?
ชิมาโมโตะหยิบกระเป๋าแล้ววิ่งไปหาหล่อนอย่างเริงร่า ตอนจะกลับหล่อนค้อมศีรษะนิดๆ ให้อีกสองคน ฟุมิโตะกับวากาโอะจึงโบกมือให้ด้วยรอยยิ้ม แฟนของชิมาโมโตะเป็นเด็กมัธยมสี่ รุ่นน้องพวกเขาสองปี
?ก็ช่างคบกับสาวเพิ่งเรียนจบมัธยมต้นหมาดๆ ยังเด็กกะโปโลอยู่เลย?
วากาโอะยักไหล่เมื่อเหลือกันตามลำพัง
?ความรู้สึกเหมือนพวกชอบโลลิ ฉันไม่เอาด้วยหรอก?
?ถ้าพวกเจ้าตัวพอใจ ก็ไม่มีปัญหาน่า?
?ก็จริง?
วากาโอะมองมาทางนี้เหมือนมีเรื่องอยากพูด
?นายนี่เยือกเย็นเรื่องความรักจริงๆ นะ?
?เยือกเย็น??
?เวลาพวกเราโหวกเหวก นายก็ฟังเงียบๆ ไม่ว่าพวกเราจะแยกทางหรือเริ่มคบใคร นายก็ไม่ค่อยมีปฏิกิริยาร่วมด้วยสักเท่าไร หรือความจริงนายมีประสบการณ์เยอะแยะโดยที่พวกเราไม่รู้?
?ไม่ใช่แล้ว เพราะไม่มีเลยร่วมวงด้วยไม่ได้ต่างหาก?
?จริงเร้อ รู้สึกน่าจะมีชอบกล?
ฟุมิโตะยิ้มตอบเอออออย่างอ่อนใจ ก่อนเบนสายตาหนีไปทางสนามแบบเนียนๆ
เริ่มตระหนักมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้นแล้วว่า ระหว่างตนกับเพื่อนมีเส้นล่องหนขีดกั้น เวลาล้อมวงสนทนากับเพื่อนฝูง ต้องพยายามไม่ให้ใครสังเกตว่าตัวเองอยู่นอกวงคนเดียว จนชักจะยิ้มเป็นธรรมชาติไม่ออกมากขึ้นทุกที

คืนนั้นอากาศแจ่มใสอย่างหาได้ยากในฤดูฝน ฟุมิโตะยกเก้าอี้เอนหลังมาตั้งตรงระเบียงบ้าน แหงนมองฟากฟ้ายามราตรี
กลุ่มดาวมากมายเปล่งประกายบนม่านสีกรมท่า
กลุ่มดาวพิณ เวกา กับ กลุ่มดาวนกอินทรี อัลแทร์ สองกลุ่มในสามเหลี่ยมฤดูร้อน
ตรงนั้นคือดาวเจ้าหญิงทอผ้า ส่วนนี่ดาวคนเลี้ยงวัว ทั้งคู่สนิทสนมกันมาก แต่เจอกันได้แค่ปีละครั้งเพราะมีแม่น้ำสวรรค์พาดกั้น ฟุมิโตะเกิดวันที่ 7 กรกฎาคม แม่จึงเล่าเรื่องนั้นให้ฟังสมัยยังเด็ก พอลูกชายวัยเยาว์เอ่ยว่างั้นพายเรือไปก็ได้นี่นา ผู้เป็นแม่ยิ้มตอบว่าไม่มีเรือหรอกจ้ะ
เด็กเล็กไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวอันแสนเศร้าของคู่รัก แต่การได้รู้ว่าดาวแต่ละดวงมีตำนานของมัน ทำให้ท้องฟ้ายามรัตติกาลกลายเป็นสิ่งใกล้ตัวเหลือเกิน
ระหว่างไล่สายตาตามเส้นของกลุ่มดาวที่ตอนนี้ไม่ปรากฏให้เห็น จู่ๆ รอยยิ้มของรุ่นพี่ผู้จบการศึกษาเมื่อเดือนมีนาคมก็แวบเข้ามาในสมอง รุ่นพี่เป็นกรรมการห้องสมุดเช่นเดียวกับฟุมิโตะ ให้อารมณ์เป็นผู้ใหญ่กว่าวัย ที่ผ่านมาฟุมิโตะใช้บริการห้องสมุดบ่อยอยู่แล้ว แต่นับจากนั้นถ้าวันไหนรุ่นพี่อยู่เวร ตนมีอันต้องไปให้ได้
?ชอบดาวเหรอ?
ครั้งเดียวที่อีกฝ่ายชวนคุย
ขณะมัวตกใจตัวแข็งทื่อ รุ่นพี่ก็ใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ดบนการ์ด จากนั้นร้องเอ้าพร้อมส่งหนังสือมาให้
ความยินดีปนกระวนกระวายใจดำเนินไปอีกหลายวันหลังจากนั้น ลองจำลองสถานการณ์หลายครั้งเพื่อคราวหน้าจะได้ตอบชัดถ้อยชัดคำเวลาอีกฝ่ายเอ่ยทัก ทว่าตอนเจอกันในห้องสมุดครั้งถัดมา ท่าทางรุ่นพี่ลืมแล้วด้วยซ้ำว่าเคยทักฟุมิโตะ ถึงแม้จะผิดหวังแต่ขณะเดียวกันก็โล่งใจว่ามันก็อย่างนี้แหละ
ความรู้สึกต่อรุ่นพี่จืดจางไปหลังจบการศึกษา แต่ฟุมิโตะก็ต้องวิตกยามความตราตรึงใจที่หลงเหลือเบาบางรื้นขึ้นมาแบบไม่คาดคิด
ผู้ชายอย่างตนมีความรู้สึกแบบนี้กับรุ่นพี่ผู้ชาย หากทุกคนล่วงรู้ถึงความคิดคำนึงที่เก็บกักไว้เฉพาะในใจละก็...
ฟุมิโตะหายใจแรงขึ้นนิดหน่อย ทรมานเมื่อแตะถูกความลับในใจ
ตอนกัดริมฝีปากแน่นนั้นเอง โทรศัพท์มือถือก็แจ้งเมลเข้าซึ่งถูกส่งต่อมาจากคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอีกที ปกติเพื่อนที่โรงเรียนจะส่งเมลเข้าโทรศัพท์มือถือ คนส่งเข้าคอมพิวเตอร์มีเพียงคนคนนั้น
<ผมไปดูดาวมาครับ altair-xxx@gmail.com>]
จาก ?อัลแทร์? จริงด้วย เมลของเขาเริ่มต้นด้วยการทักทายอย่างมีมารยาทว่าสวัสดี ให้บรรยากาศละมุนต่างจากเพื่อนวัยเดียวกัน ใจที่กระวนกระวายกลัดกลุ้มจึงสงบลงได้
อีกฝ่ายเขียนเมลมาเล่าว่าไปดูดาวในเมืองริคุเบ็ตสึโจช่วงเสาร์-อาทิตย์ ได้ลิ้มรสความรู้สึกผ่อนคลายที่ไม่ได้สัมผัสมานาน จากนี้ไปคงพยายามได้อีกพักใหญ่ ก่อนปิดท้ายด้วยการถามว่าช่วงนี้ทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ฟุมิโตะพิมพ์ตอบทันที
[ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ <vega-xx@infoseek.jp>]
เขาเขียนอย่างซื่อตรงว่า น่าอิจฉาจังที่ได้ไปท่องเที่ยวดูดาวช่วงหน้าฝน ทางนี้ฝนตกทั้งเสาร์และอาทิตย์ คืนนี้ท้องฟ้าแจ่มใสอย่างหาได้ยาก แต่มีเรื่องครุ่นคิดมากมายจนไม่มีสมาธิดูท้องฟ้าพร่างดาวอันล้ำค่า
ปลายนิ้วพิมพ์ตัวหนังสือเข้าประเด็นสำคัญโดยไม่ลังเล
เรื่องเพื่อนบอกว่าตนเยือกเย็นกับความรัก เรื่องว่าที่เพื่อนพูดไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย แต่จะชี้แจงเหตุผลก็ไม่ได้ เรื่องกลัวที่ตนแตกต่างจากคนอื่น จากนั้นฟุมิโตะหยุดคิดเล็กน้อย ลบประโยคหนึ่งก่อนส่งไป

[ผมรู้สึกเหมือนว่า วันที่ตัวเองจะได้คบหากับคนที่ชอบคงไม่มาถึงชั่วชีวิต]

ส่งเสร็จก็ถอนหายใจ ปล่อยให้คำพูดที่ลบทิ้งตกตะกอนอยู่ภายใน
?อัลแทร์? ...เป็นชายซึ่งพบกันทางอินเตอร์เน็ตเมื่อสองปีก่อน
ฟุมิโตะรู้ตัวว่าเป็นพวกรักเพศเดียวกันประมาณมัธยมสอง สาเหตุจูงใจก็อย่างที่พบได้บ่อยคือรู้สึกสนใจผู้ชายในทางเพศมากกว่าผู้หญิง ทั้งประหลาดใจและเกลียดชังตัวเองที่เป็นแบบนั้น จึงภาวนาจากใจให้เป็นเรื่องเข้าใจผิด
ตอนเพื่อนฝูงคุยกันเรื่องนิวฮาล์ฟซึ่งเริ่มเป็นประเด็นฮือฮาในขณะนั้น ตนหวาดหวั่นจนชาวาบทั้งตัว แม้หัวเราะตามหมู่เพื่อนผู้ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว แต่ทั้งใบหน้า ร่างกาย และจิตใจกลับเกร็งตัวอย่างผิดธรรมชาติไปหมด ใครรู้เข้าต้องรังเกียจแน่นอน ดังนั้นห้ามให้ใครรู้ และระหว่างคุมตัวเองเข้ม หัวใจก็ถูกดันลึกเข้าไปในเกราะกำบังอย่างรวดเร็ว
ยิ่งถูกดันลึกเข้าไป ลึกเข้าไปจนจับตัวเป็นก้อนขนาดเล็ก ฟุมิโตะก็ยิ่งพึ่งอินเตอร์เน็ตเพื่อหาทางออก พอลองค้นหาด้วยคำแนวว่ารักเพศเดียวกันหรือเกย์ เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องก็ออกมาเป็นภูเขาเลากา ส่วนใหญ่เป็นเว็บลามก เสี้ยววินาทีที่เปิดหน้าเพจด้วยความรู้สึกอยากยึดเหนี่ยวเป็นที่พึ่ง กลับเจอแต่ร่างเปลือยของเพศเดียวกันกระแทกตาให้เหนื่อยใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
อยู่มาวันหนึ่ง เห็นคนใช้นามแฝงว่า ?อัลแทร์? ลงข้อความในกระดานข่าวสำหรับคนรักร่วมเพศอย่างค่อนข้างจริงจัง ปกติคนอื่นจะโฆษณาเกี่ยวกับรูปลักษณ์ตัวเองหรือคนประเภทที่ตัวเองชอบ แต่ ?อัลแทร์? กลับเขียนสิ่งธรรมดาสามัญอย่างยิ่งว่าชอบดาวกับอวกาศ และอยากคุยสนุกกับคนมีงานอดิเรกคล้ายกัน ด้วยความที่เว็บไซต์นี้ค้นหาแยกตามภูมิภาคได้ด้วย ตนจึงเกิดความรู้สึกใกล้ชิดกับเขาเหมือนกำลังดูดาวบนฟ้าเดียวกัน
อยากคุยกับอีกฝ่ายแต่รวบรวมความกล้าไม่ค่อยได้ ที่ผ่านมาตนเคยเป็นฝ่ายทักคนอื่นก่อนหลายครั้ง ทีแรกก็สนทนากันบรรยากาศกำลังดี ทว่าไม่ทันไรช่วงเวลานั้นก็จบลง เพราะอีกฝ่ายเริ่มขอเจอตัว เจอกันก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่ข้อความที่เต็มไปด้วยนัยทางเพศนี่สิทำให้รู้สึกรังเกียจ
คนคนนี้อาจเป็นแบบนั้นด้วยก็ได้
พอคิดแบบนั้นเลยไม่กล้าทัก ?อัลแทร์? และหันไปใช้วิธีลงข้อความเกี่ยวกับดาวโดยใช้นามแฝงว่า ?เวกา? แทน ที่ตั้งใจใช้ ?เวกา? ในกลุ่มดาวพิณซึ่งถูกกำหนดให้เป็นดาวเจ้าหญิงทอผ้า ก็เพื่อให้สอดรับกับ ?อัลแทร์? ในกลุ่มดาวนกอินทรีซึ่งถูกกำหนดเป็นดาวคนเลี้ยงวัวในตำนานทานาบาตะ
?อัลแทร์? ส่งเมลมาในวันรุ่งขึ้นหลังได้ชมฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่ พอฟุมิโตะที่ลงข้อความไว้ตอนกลางดึกว่าตื่นเต้นกับภาพดาวที่พุ่งตามกันมาติดๆ ตื่นนอน ก็เจอเมลจาก ?อัลแทร์? ซึ่งส่งมาทิ้งไว้ก่อนแล้ว
[ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณเวกา ผมอ่านเรื่องดาวที่คุณเขียนด้วยความเพลิดเพลินเสมอ]
ท่าทางอีกฝ่ายจะได้ดูฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่เช่นกัน เพราะเขียนบอกว่าระทึกใจที่ดาวมีจำนวนมากกว่าทุกปี จากนั้นบอกด้วยว่าอยากคุยกับ ?เวกา? ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว
วิธีเขียนมีมารยาทหากก็ไม่เป็นพิธีรีตองจนเกินไป ฟุมิโตะอุ่นใจกับข้อความดูบริสุทธิ์ใจ จึงตอบกลับทันที
เขาคนนี้รู้เรื่องดาวละเอียดกว่าตนหลายเท่านัก ถามอะไรก็ช่วยตอบให้ แถมคำอธิบายยังเข้าใจง่ายทุกครั้ง เคยถามไปว่า <เป็นครูสอนที่โรงเรียนหรือครับ> อีกฝ่ายตอบคลุมเครือทั้งที่ปกติไม่ค่อยเป็นว่า <ประมาณนั้นล่ะครับ>
แม้สนิทกันแล้ว อีกฝ่ายก็ยังรักษาระยะคงที่ ถึงไม่ให้ความรู้สึกว่าเป็นคนเจ้าความลับ แต่ท่าทางจะรักษาขอบเขตการคบหาบนอินเตอร์เน็ต เลยไม่บุกรุกพื้นที่ส่วนตัวของฟุมิโตะสุ่มสี่สุ่มห้า และแน่นอน ไม่มีการขอเจอตัวด้วย
ความระแวดระวังค่อยๆ คลายไป จึงเริ่มเปลี่ยนจากคุยสัพเพเหระเรื่องดาว เป็นการเปิดใจเกี่ยวกับความกลัดกลุ้มเรื่องเพศสภาพ รู้สึกอุ่นใจแต่แรกแล้วเพราะอีกฝ่ายเป็นคนรักเพศเดียวกันเช่นกัน จึงคุยเจาะลึกถึงเรื่องซึ่งไม่มีทางพูดกับเพื่อนที่โรงเรียนได้
เขาตอบกลับแบบมีมารยาทเสมอ ไม่ได้ให้คำแนะนำว่าควรทำนั่นหรือนี่เป็นพิเศษ เพียงสานต่อบทสนทนาไปถึงว่าช่วงวัยสิบกว่า เขาเคยกลุ้มใจเรื่องเพศสภาพเหมือนกัน รวมถึงว่าตอนนั้นคอยระมัดระวังคำพูดและปรารถนาที่จะหนีทุกคนไปอยู่คนเดียวเวลาความเหนื่อยล้าเพิ่มพูน
มีคนกลัดกลุ้มในสิ่งเดียวกับตน
เป็นความต้องการอันเรียบง่าย แต่ฟุมิโตะก็อยากได้ ?ความรู้สึกร่วม? เช่นนั้นมากที่สุด
ยามได้แลกเปลี่ยนบทสนทนากัน ตนรู้สึกปลอดโปร่งเหมือนสูดหายใจลึก แม้ไม่เคยพบหน้ากันสักครั้ง กลับเหมือนได้พี่ชายมาหนึ่งคน ตอนนั้นพวกเขาห่างจากกระดานข่าวโดยอัตโนมัติ หันมาคุยกันผ่านเมลแอดเดรสส่วนตัวแทน
ขนาดฟุมิโตะเห็นอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่สมบูรณ์แบบ แต่กระทั่งตอนนี้เจ้าตัวก็ดูจะยังเครียดสะสมกับเรื่องต่างๆ รวมถึงแนวโน้มทางเพศของตัวเอง และในเวลาแบบนั้นเขาจะไปดูดาวคนเดียวเสมอ แม้จะไปมาหลายที่แล้วแต่เขาชอบเมืองริคุเบ็ตสึโจในฮอกไกโดเป็นพิเศษ
ตนรู้อยู่แล้วว่าที่นั่นได้รับการขนานนามว่าเมืองแห่งท้องฟ้าพร่างดาว ฤดูหนาวยังมองเห็นแม่น้ำสวรรค์ ไม่เคยไปมาก่อนแต่คิดว่าอยากไป พอเขียนส่งไปเช่นนั้น ก็คาดหวังนิดหน่อยว่าอีกฝ่ายจะชวนไปด้วยกัน ทว่าเขายังคงเป็นเขาคนเดิม

[ที่นั่นสวยมากครับ สักวันลองไปให้ได้นะครับ]

น่าอายที่เผลอคาดหวังแปลกๆ ถึงกระนั้นความสัมพันธ์อย่างตอนนี้ก็ดีแล้ว โชคดีแล้วที่มันไม่พังทลาย อีกฝ่ายกลายเป็นคนสำคัญขนาดไม่อยากสูญเสียไปด้วยอารมณ์เพียงชั่ววูบ นี่คือ ?อัลแทร์? คนผู้เดียวในโลกซึ่งตนแสดงให้เห็นตัวตนที่แท้จริงได้ แม้เป็นเพียงทางอินเตอร์เน็ตก็ตาม
เขาเคยบอกมาว่าอายุเกือบสามสิบ นอกนั้นไม่ค่อยรู้แล้ว
ตอนนั้นค้นข้อมูลแยกตามภูมิภาค เจ้าตัวน่าจะอาศัยอยู่ไม่ไกลนัก และก็เพราะอย่างนั้นจึงอาจล่วงรู้ตัวจริงของกันและกันได้ด้วยเหตุเล็กน้อย เรื่องนี้ทำให้รู้ว่าแม้เขาไม่ถึงกับหวาดระแวง แต่ก็เป็นคนระมัดระวัง ไม่รู้ทำงานอะไร อาศัยอยู่ที่ไหน อาจใกล้กันกว่าที่คิด บางทีอาจเคยเดินสวนกันก็ได้
?ฟุมิโตะ คานะอบเค้กแน่ะ มากินสิจ๊ะ?
แม่โผล่หน้ามาจากหน้าต่างระเบียงบ้าน ฟุมิโตะรับคำแล้วลุกขึ้น
เข้าไปในห้องนั่งเล่นก็ได้กลิ่นหอมหวานอบอวล พ่อกำลังชงชา ส่วนคานะผู้เป็นพี่สาวกำลังใช้มีดตัดเค้กชิฟฟอน
?ฟูดีเชียวล่ะ?
แม่ค่อยๆ โปะครีมสดลงบนเค้กสีทองที่ตัดมาชิ้นใหญ่ จานของแม่ผู้ชอบของหวานกับฟุมิโตะใส่ครีมเต็มที่ ของพ่อแค่นิดหน่อยเพราะเป็นห่วงเรื่องความดันโลหิต ตอนนั้นเองคานะรีบห้าม
?แม่ ของหนูไม่เอาครีมนะ?
?ทำไมล่ะ?
?ไดเอทอยู่น่ะสิ?
คานะตอบพลางยกฝาพลาสติกคลุมปิดเค้กที่เหลือ
?ไม่เห็นจำเป็นเลย สาวๆ ท้วมนิดหน่อยสิกำลังน่ารัก?
?มันคนละยุคกับสมัยพ่อแล้วนะ?
คานะโต้ จากสายตาฟุมิโตะ หล่อนไม่อ้วนไม่ผอม รูปร่างที่ผู้ชายเห็นว่ากำลังดี ท่าทางผู้หญิงจะคิดว่าอ้วน
?แฟนบอกให้ลดความอ้วนหรือไง?
หล่อนส่ายศีรษะตอบคำถามพ่อ
?ไม่ต้องห่วง เขาไม่พูดแบบนั้นหรอก บอกว่าอ้วนอีกนิดน่าจะดีด้วยซ้ำ ถึงได้เผลอกินตามใจปากไงล่ะ แต่เดี๋ยวจะเข้าฤดูร้อนของจริงแล้ว?
คานะโปะครีมที่เหลือลงบนเค้กของฟุมิโตะ
?พี่ เยอะไปแล้ว เดี๋ยวได้ล้นพอดี?
?ฟูจังชอบของหวาน แค่นี้สบายมาก?
หล่อนยื่นจานให้ ตนรับมาด้วยสีหน้าไม่รังเกียจรังงอนอะไรนัก มือหยิบส้อมจิ้มโดยระวังไม่ให้ครีมหกเลอะเทอะ จากนั้นตัดพอดีคำพร้อมตวัดครีมที่ติดมาเพียบเข้าปาก ครีมหวานเข้ากันดีกับเค้กชิฟฟอนเนื้อเบาน้ำตาลน้อย
?อืม อร่อย?
คานะยิ้มถามว่า ?จริงเหรอ? หล่อนอายุมากกว่าฟุมิโตะถึงแปดปี แต่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ตรงข้ามกับน้องชายที่ดูผู้ใหญ่กว่าวัย เวลายิ้มคนจึงชอบนึกว่าเป็นนักเรียนมัธยมปลาย นิสัยนุ่มนวล จบมหาวิทยาลัยก็เข้าทำงานบริษัทคนรู้จักของพ่อ เป็นไข่ในหินของแท้
?พรุ่งนี้ฝนตกอีกแล้วสินะ?
แม่เปรยระหว่างดูพยากรณ์อากาศ
?หลายปีมานี้ฝนตกวันทานาบาตะทุกที อุตส่าห์เป็นวันเกิดฟุมิโตะ?
?ของแบบนี้ช่วยไม่ได้ กลับกันนะ วันเกิดของคานะอากาศแจ่มใสทุกปี?
พ่อยิ้มเฝื่อน คานะเกิดวันที่ 7 สิงหาคม ห่างกับฟุมิโตะหนึ่งเดือน ทุกปีครอบครัวจะมีธรรมเนียมไปฉลองวันเกิดที่บ้านพักตากอากาศในนางาโนะ
?ว่าแต่น่าจะเลิกฉลองวันเกิดให้ผมได้แล้วมั้ง?
ฟุมิโตะร้องทุกข์ลอยๆ อายุตั้งสิบเจ็ดแล้ว เป็นธรรมดาที่จะเขิน
?มีนัดกับแฟนหรือไง?
แม่ทำตาเป็นประกายอย่างคาดหวัง กระทั่งคานะกับพ่อยังมองมาทางนี้
?ก็ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก?
เสียงเลยแผ่วลงโดยอัตโนมัติ
?งั้นก็ไม่เห็นเป็นไร ให้ครอบครัวฉลองจนกว่าจะมีแฟนเถอะนะ?
คำพูดของแม่ทำให้รู้สึกเหมือนมีคนเขวี้ยงก้อนกรวดเข้ามาในใจ พอพึมพำอืมอย่างคลุมเครือ แม่ก็เอื้อมมือไปหยิบห่อกระดาษของห้างสรรพสินค้าแล้วหยิบของข้างในออกมา มันคือกระดาษเขียนคำอธิษฐาน ทำจากกระดาษญี่ปุ่นดูสวยงาม ใช้ประดับในวันทานาบาตะ เป็นธรรมเนียมตั้งแต่ฟุมิโตะยังเด็ก
?เอ้า ตั้งใจเขียนคำอวยพรเข้านะ?
?ฟุมิโตะ เขียนไปเลยสิว่า ?ปีนี้แหละ ขอให้มีแฟนกับเขาสักที? ?
พ่อกระเซ้า แม่จึงปรามเบาๆ ว่า ?คุณละก็?
?แต่ไม่เข้าใจเลยแฮะ ฟุมิโตะน่าจะเนื้อหอมแท้ๆ?
?ฟูจังดังสุดๆ ในหมู่เพื่อนหนูตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วนะ?
?อาจจะเลือกมากเกินไปก็ได้จ้ะ?
กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อตกเป็นเป้าของหัวข้อสนทนาที่เกลียดที่สุด
ตั้งแต่ตระหนักถึงแนวโน้มทางเพศของตน ฟุมิโตะก็ไม่อาจคุยสบายๆ กับใครได้อีก ทั้งเครียดไม่อยากให้เพื่อนกับครอบครัวรู้ และรู้สึกผิดที่เหมือนกำลังหลอกลวง มีเยื่อบางซึ่งมองไม่เห็นล้อมรอบตน แต่เพราะไม่กล้าพอจะฉีกมันออก จึงทำได้เพียงสงบปากสงบคำมากขึ้นเรื่อยๆ
?ขอบคุณสำหรับขนม ผมไปอาบน้ำล่ะ?
ฟุมิโตะยกข้ออ้างเพื่อหนีจากที่ตรงนั้น แต่ไหนๆ แล้วจึงถือโอกาสตรงไปห้องอาบน้ำเลย
เมื่อเปิดประตูห้องอาบน้ำ จมูกก็ได้กลิ่นหอมกุหลาบโชยมาพร้อมไอกรุ่น ผงอาบน้ำกลิ่นนี้แม่กับคานะชอบ กลิ่นหอมดีแต่ตนไม่ชอบให้กลิ่นติดตามผมหรือร่างกาย จึงล้างตัวด้วยฝักบัวก่อนออกจากห้องอาบน้ำเสมอ
ฟุมิโตะเอนศีรษะพิงกับขอบอ่าง เหม่อมองไอน้ำลอยขึ้นเพดาน
ปีนี้จะเขียนคำอธิษฐานวันทานาบาตะว่าอะไรดีหนอ
?ปีนี้แหละ ขอให้มีแฟนกับเขาสักที?
ตนก็ปรารถนาเช่นนั้นเหมือนกัน ไม่ได้ต้องการความพิเศษอันใดเลย แค่อยากคุยเรื่องภาพยนตร์หรือหนังสือที่ชอบกับคนที่ชอบ อยากมองตากัน อยากยิ้มให้กัน อยากสัมผัสและรับสัมผัสโดยไม่ต้องกลัวอะไร ช่างน่าขันที่ตัวเองปรารถนาแรงกล้าในเรื่องเล็กน้อยแบบนั้น
เพื่อนรอบข้างทุกคนมีแฟน หรือถึงตอนนี้ไม่มี แต่อย่างน้อยก็เคยมี
ตนอาจไม่ได้คบหากับใครไปตลอดชีวิตเลยก็ได้
อาจไม่ได้จูบหรือมีเซ็กซ์กับใครเลยก็ได้
ปกติพยายามไม่คิดเรื่องนั้น
เพราะคิดแล้วกลัว อยากเล่าความกังวลนี้ให้ใครสักคนฟังจนทนไม่ไหว แต่หากรู้ว่าตนรักได้แต่เพศเดียวกัน ครอบครัวกับเพื่อนฝูงจะมีปฏิกิริยาอย่างไร จะรังเกียจไหม จะเสียใจไหม ทุกคนจะตีตัวออกห่างหรือไม่
อยากร้องไห้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก จึงวักน้ำอุ่นสีชมพูนมแปะหน้าดังซ่า

หลังหมดปิดเทอมฤดูร้อน นักเรียนพากันคึกคักกับงานเทศกาลวัฒนธรรมและงานแข่งกีฬาเพราะเป็นช่วงสุดท้ายของชีวิตมัธยมปลายแล้ว คู่รักถือกำเนิดไปทั่ว มีบางคนมาสารภาพรักกับฟุมิโตะเช่นกัน
?ขอโทษ?
พอปฏิเสธสั้นๆ ไหล่ของเด็กสาวที่ก้มหน้าอยู่ก็สั่นเบาๆ
ความเงียบชวนอึดอัดดำเนินอยู่ในมุมหนึ่งของอาคารเรียนไร้ผู้คน ระหว่างรู้สึกว่าแต่ละวินาทีช่างยาวนาน เด็กสาวก็เงยหน้า
?มีคนที่ชอบอยู่แล้วเหรอ?
?...ก็ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก?
บอกไปว่ามีน่าจะสบายกว่าแท้ๆ สุดท้ายจึงเอ่ยขอโทษอีกครั้งเพราะไม่รู้ว่าควรตอบเช่นไร เด็กสาวส่ายศีรษะสองสามที
?ไม่เป็นไร ขอโทษที่เรียกออกมานะ?
หล่อนพูดรัวเร็วก่อนหันหลังวิ่งจากไป เสียงรองเท้าแตะวิ่งตึกๆ บางเบาค่อยห่างออกไปทางระเบียงปูเสื่อน้ำมันซึ่งสะท้อนแสงแดดยามบ่าย
ทั้งที่ทางนี้เป็นฝ่ายปฏิเสธ แต่กลับรู้สึกว่าตนต่างหากที่ถูกทิ้ง ไม่เพียงเด็กสาวคนนั้น เหมือนทั้งเพื่อนและบางสิ่งอันยิ่งใหญ่กว่านั้น เป็นต้นว่าโลกทั้งใบทอดทิ้งเขา
หลังหมดปิดเทอมฤดูหนาว เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ นักเรียนมัธยมหกจะมาหรือไม่มาโรงเรียนก็ได้ ฟุมิโตะลงสอบทั้งมหาวิทยาลัยที่หมายตาและมหาวิทยาลัยสำรอง โรงเรียนกำหนดจัดพิธีจบการศึกษาก่อนผลสอบเข้าจะประกาศ มีนักเรียนหญิงมัธยมสี่ซึ่งตนไม่เคยเห็นหน้ารวมทั้งไม่รู้จักชื่อมามอบดอกไม้ให้ ในทางกลับกันกระดุมจากเครื่องแบบของตนก็โดนดึงไปเม็ดแล้วเม็ดเล่า
?ฟูจังเนื้อหอมดีนี่?
คานะแซวตอนรับประทานอาหารมื้อเย็น ฟุมิโตะทำปากยื่นเถียงว่าไม่ใช่แบบนั้นหรอก
?มีแต่เด็กผู้หญิงเป็นฝ่ายมาสารภาพก็เท่านั้นแหละ?
พ่อทำหน้าเวทนา
?ฟุมิโตะคิดจริงจังนะคะ ดีกว่าเล่นๆ ไม่ใช่หรือไง?
แม่ช่วยพูด ทว่าพ่อยังแย้งอย่างไม่ยอมรับว่า ?แต่ในฐานะลูกผู้ชาย...?
ฟุมิโตะกินข้าวต่อเงียบๆ พลางภาวนาให้เปลี่ยนหัวข้อสนทนาโดยเร็ว
แล้วคืนนั้นก็ได้รับเมลจาก ?อัลแทร์?
[ยินดีด้วยที่จบการศึกษา <altair-xxx@gmail.com>]
ชั่วขณะที่เห็นหัวข้อก็รู้สึกยินดีว่าอีกฝ่ายจำได้ด้วย จึงขยับท่านั่งบนเก้าอี้ให้ดีก่อนอ่านเมลฉบับนั้นโดยละเอียด
ตอนส่งเมลหากันครั้งแรก เธอยังมัธยมสี่อยู่เลย แต่นี่จบการศึกษาแล้ว เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ เข้ามหาวิทยาลัยแล้วต้องเจอเพื่อนที่เปิดใจพูดความรู้สึกแท้จริงได้แน่ ผมเจอเพื่อนที่คบกันโดยอีกฝ่ายรู้เกี่ยวกับเพศสภาพของผมก็สมัยมหาวิทยาลัยนี่แหละ เนื้อความอ่อนโยนไม่เคยเปลี่ยนบอกเล่าเช่นนั้น สุดท้ายเขาแสดงความยินดีเรื่องจบการศึกษาอีกครั้ง แล้วสานต่อว่าจากนี้ไปขอฝากตัวด้วย
ไม่ใช่คำให้กำลังใจอันทรงพลังหรือเรื่องน่าซาบซึ้งเป็นพิเศษแท้ๆ แต่รู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาดทุกครั้งที่อ่านเมลจากอีกฝ่าย อาจเพราะตนชอบจังหวะการเขียนแบบนี้ก็ได้
ฟุมิโตะปิดไฟแล้วเปิดโคมข้างเตียง เม็ดแสงผุดเรืองรองในห้องสลัว พอตาคุ้นชินจะเริ่มเห็นเค้าโครงแสงเด่นชัดเป็นดวงดาวนับไม่ถ้วนเต็มห้อง โคมไฟท้องฟ้าจำลองนี้ได้รับจากพ่อแม่เป็นของขวัญวันเกิดสมัยมัธยมต้น ฟุมิโตะลากนิ้วผูกรูปร่างของกลุ่มดาวไปทีละกลุ่มจากหมู่จุดแสงราวหมื่นจุด มากมายกว่ามองเห็นด้วยตาเปล่ายิ่งนัก
ดาวดวงไหนหนอที่เชื่อมกับตน
ฟุมิโตะยื่นแขนทั้งสองเข้าหากลุ่มแสงกลุ่มแสงในความมืดมิด
แม้ตอนนี้ยังไม่เห็น แต่สักวันต้องได้พบดาวดวงนั้นแน่ ?อัลแทร์? บอกเช่นนั้น
จริงน่ะหรือ พอเขาเป็นคนพูด ตนชักจะเชื่อตาม
?อัลแทร์? เคยบอกว่า เวลาความเหนื่อยเพิ่มพูนจะไปดูดาว สักวันถ้าได้ไปด้วยกันคงดี...อยากลองคุยกับเขาจริงๆ สักครั้งภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คนผู้เดียวที่นักเรียนมัธยมปลายอย่างฟุมิโตะเปิดใจให้ คือชายหนุ่มอายุมากกว่าซึ่งรู้จักกันผ่านอินเตอร์เน็ตและใช้ชื่อว่า ?อัลแทร์? ทั้งสองรู้สึกสบายใจที่ได้ส่งอีเมลหากัน โดยเชื่อมโยงกันด้วยงานอดิเรกคือการดูดาว หลังพิธีจบการศึกษา ฟุมิโตะช้ำใจหนักกับคำพูดของเพื่อน อัลแทร์จึงเร่งรุดมาหา นั่นเป็นครั้งแรกที่ได้พบกัน และฟุมิโตะก็ยิ่งหลงใหลชื่นชมนิสัยใจคอของอีกฝ่าย ทว่าสุดท้ายก็ต้องขาดการติดต่อกันไปทั้งที่ยังไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามอันแท้จริง จากนั้นหลายเดือนต่อมาพี่สาวก็พาคู่หมั้นมาแนะนำให้รู้จัก เขาคืออัลแทร์?

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”