New Release : FULL METAL PANIC! ANOTHER VOL.4

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : FULL METAL PANIC! ANOTHER VOL.4

โพสต์ โดย Gals »

บทนำ

เสียงฝนเขตร้อนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนักดังเล็ดลอดเข้ามาถึงในห้อง
(ให้ตายสิ ตกหนักจริงๆ)
เบอร์นาร์ด เบอร์ทรันด์ ร้อยเอกประจำกองทัพบกของฝรั่งเศสนั่งจ่อมอยู่บนโซฟารับแขก พลางมองออกไปนอกหน้าต่าง ใบหน้าที่รอคอยการกลับมาของเจ้าบ้าน ฉายแววของความร้อนรนให้เห็นอย่างชัดเจน
กาแฟที่ชงโดยคนรับใช้ที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาดีเย็นชืดไปแล้ว ในสภาพที่ยังไม่มีร่องรอยของการจิบเลยแม้แต่น้อย
และทันใดนั้นเอง เสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดของประตูห้องรับแขกก็ดังขึ้น
?โอ้ โทษทีที่ทำให้นายต้องรอนะ เบล!?
?ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ?
เบอร์ทรันด์หันหลังกลับไปทางต้นเสียง เป็นเสียงทักทายอย่างสุภาพกับเสียงตะโกนทักทายอย่างเป็นกันเอง
เจ้าของเสียงเป็นชาย-หญิงวัยหนุ่มวัยสาวที่สวมใส่ชุดทหาร พันตรีมาโฮเมด ซัมลา กับซาร่า ซัมลาผู้เป็นน้องสาว
บนใบหน้าที่ดูมีเสน่ห์สมวัยของทั้งคู่ผู้มีเชื้อสายเบอร์เบอร์ (แอฟริกาเหนือ) ปรากฏรอยยิ้ม
?ไงมาโฮเมด นี่ก็ตั้งปีหนึ่งแล้วนะที่ไม่ได้เจอกับนาย ส่วนซาร่า ดีใจด้วยนะที่เธอได้เป็นทหาร?
เบอร์ทรันด์จับมือทักทายพร้อมกับโอบกอด ก่อนจะจูบที่แก้มของซาร่าเบาๆ ทำเอาใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง
มาโฮเมดยิ้มเล็กยิ้มน้อยให้น้องสาวซึ่งกำลังเขินอาย
?จริงๆ เลย แกนี่ จะมาฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ แต่หัดโทรบอกกันล่วงหน้าหน่อยสิ พวกฉันจะได้เตรียมต้อนรับได้ทัน?
?โทษที พอดีมันมีเหตุจำเป็นนิดหน่อยน่ะ?
?ยิ่งพักหลัง นานๆ ทีพวกฉันถึงจะออกไปซื้อของกินของใช้มาตุนใหม่ เพราะงั้นทั้งเหล้าทั้งกับข้าวก็ตามสภาพที่เห็น จริงๆ จะออกไปกินข้างนอกก็ได้ แต่ร้านที่พวกเราเคยไปเมื่อก่อนมันก็เจ๊งไปเยอะแล้ว ร้านที่พ่อของนายเคยชมนักชมหนาตอนนี้ก็ปิดไปแล้ว?
?มาโฮเมด ที่ฉันมาที่มาลัมปาคราวนี้ ไม่ได้มาเพื่อจะสังสรรค์กับเพื่อนเก่าอย่างพวกนายเป็นหลักเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา?
?โฮ่?
?ฉันมีเรื่องอยากคุยส่วนตัวกับนาย?
ใบหน้าของมาโฮเมดดูตึงเครียดขึ้น เหมือนเขาจะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างจากสีหน้าของเบอร์ทรันด์
?เข้าใจแล้ว คุยที่ห้องฉันดีมั้ยล่ะ??
?อือ ต้องขอโทษที่มารบกวนนายโดยพลการ?
?อะไรกัน ฉันกับแกเป็นเพื่อนกันนะเฟ้ย?
ต่างฝ่ายต่างหยอดคำพูดใส่กัน และแล้วทั้งคู่ก็เดินออกจากห้องรับแขก
?ถ้างั้น ไว้คุยกันที่หลังนะ เบล?
ซาร่าพูดพร้อมกับยิ้มส่งให้เบอร์ทรันด์ เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้แสดงออกถึงความกลุ้มใจแต่อย่างใด

แม้จะเลยเที่ยงคืนไปแล้ว แต่เสียงของฝนก็ยังไม่ซาลง
?มีใครบางคนวางแผนจะทำรัฐประหารที่มาลัมปางั้นรึ....? อืม แต่จากสภาพการเมืองในเวลานี้ ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้?
มาโฮเมดพึมพำ เนื้อตัวของเขาเริ่มชุ่มไปด้วยเหงื่อ
?ในเมื่อแกมีหลักฐานมายืนยันถึงขั้นนี้ ก็คงจะต้องยอมเชื่อตามนี้ล่ะนะ?
มาโฮเมดเงยหน้าขึ้นจากเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ จ้องไปที่เบอร์ทรันด์ด้วยแววตาที่ดูไม่สบอารมณ์อย่างมาก
?แต่ยังไงก็เถอะ ไม่นึกเลยว่าคนนอกประเทศจะเป็นฝ่ายรู้ทันก่อน นี่แกทำตัวเป็นสปายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน??
?จริงอยู่ว่านี่ไม่ใช่หน้าที่ของฉันโดยตรง แต่ถ้ามองในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสกับมาลัมปา นี่ถือเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ ถึงแม้นายจะรู้สึกไม่พอใจที่ถูกคนนอกประเทศมาตรวจสอบเรื่องในประเทศก็เถอะ?
เบอร์ทรันด์พยายามพูดชี้แจง ทว่ามาโฮเมดกลับแสดงอาการฉุนเฉียวไม่พอใจ
?หึ แล้วแกจะให้ฉันทำไง??
?ฉันอยากได้ความร่วมมือจากนาย ถึงฉันจะคุ้นเคยและพอมีเครือข่ายในมาลัมปา แต่การตรวจสอบจากภายนอกยังไงมันก็มีข้อจำกัด ณ ตอนนี้ยังหาตัวผู้บงการหลักไม่ได้ ฉันจึงอยากได้ความร่วมมือจากคนภายใน?
?....เข้าใจล่ะ?
มาโฮเมดตอบกลับข้อเสนอของเบอร์ทรันด์อย่างรวดเร็ว
?ฉันจะเริ่มหาเบาะแสตั้งแต่วันพรุ่งนี้?
?ขอบใจนะ มาโฮเมด?
?แต่จากนี้ไป ขอให้ถือว่านี่เป็นปัญหาของคนมาลัมปา พวกฉันจะจัดการกันเอง ส่วนแกก็กลับฝรั่งเศสไป เพราะยังไงแกก็ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองกลางใช่มั้ยล่ะ?
?เดี๋ยวสิ ถึงฉันจะไม่ได้มาในนามทางการ แต่ฉันก็มาตามหน้าที่นะ ที่สำคัญที่นี่สำหรับฉันแล้วเหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง เพราะฉะนั้นจะให้ฉันนิ่งดูดายกับเรื่องนี้ไม่ได้หรอก?
?อ้อ เป็นอย่างนี้นี่เอง....?
มาโฮเมดกอดอก หลับตา พลางใช้ความคิดก่อนจะเริ่มพูดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งช่วงเวลาที่เงียบไปนี้ยาวนานมากเสียจนเบอร์ทรันด์รู้สึกหวั่นใจ
?....งั้นก็ ช่วยไม่ได้?
?โล่งอกไป เอาล่ะ เดี๋ยวฉันมีนัดเจอกับเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวอยู่ ต้องไปรายงานเรื่องพวกนี้ให้ทราบ รวมถึงเรื่องของนายด้วย ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนล่ะ?
?อื้อ โชคดี ไว้เจอกัน....?
มาโฮเมดพูดพร้อมกับจับมือเบอร์ทรันด์ที่ลุกขึ้น
?โทษทีนะ ที่เอาเรื่องยุ่งๆ มาให้กับนาย เอาเป็นว่าเสร็จงานนี้เมื่อไหร่เราสามคนมาดื่มฉลองด้วยกันนะ?
?ถึงตอนนั้นนายต้องเป็นคนเลี้ยงนะ?
?ฮะฮะ ได้อยู่แล้ว ล้างคอรอได้เลย?
พูดจบ เบอร์ทรันด์ก็มุ่งหน้าไปทางประตูห้อง แต่ในขณะที่มือกำลังจะแตะลูกบิดนั่นเอง
?แล้วก็ เรื่องซาร่า....?
เบอร์ทรันด์หันหลังกลับไปเพื่อกะว่าจะถามอะไรบางอย่างต่อสักหน่อย แต่เขาก็นิ่งตัวค้างแข็งกับภาพที่เห็นตรงหน้า
ปากกระบอกปืนสีดำสนิทถูกเล็งมาทางเขา สีหน้าที่เปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมราวกับใส่หน้ากากของผู้เป็นเพื่อนซึ่งถือปืนกระบอกดังกล่าวตราติดอยู่ที่ดวงตาทั้งสองดวงของเบอร์ทรันด์
?มาโฮเมด อย่างบอกนะว่านาย....?
?เอามือไขว้ไว้ที่ท้ายทอยซะ ร้อยเอกเบอร์ทรันด์ นายถูกจับแล้ว?
คำพูดของผู้เป็นเพื่อนเย็นชาอย่างที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิต แต่ ณ เวลานี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น
?นี่อย่าบอกนะว่านายคือผู้บงการวางแผนทำรัฐประหาร?
มาโฮเมดเงียบ ไม่ตอบคำถามที่ทราบดีอยู่แล้วว่าต้องตอบว่าอะไร
?ทำไมนายถึงทำแบบนี้??
มาโฮเมดยังคงเงียบต่อไป เขาเดินเข้ามาใกล้ตัวของเบอร์ทรันด์
?แล้วซาร่ารู้เรื่องนี้หรือเปล่า!??
พอได้ยินคำพูดดังกล่าว สีหน้าของมาโฮเมดก็เริ่มเปลี่ยนไป เขาหลบแววตาที่มีอาการสั่นไหวไปทางอื่น
?....ยัยนั่น ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น?
?งั้นรึ....?
สิ้นเสียง เบอร์ทรันด์ก็อาศัยจังหวะตอนที่มาโฮเมดกำลังรำพึงรำพัน ทิ้งร่างที่สูงยาวของเขาไปกับพื้น
?แก!??
มาโฮเมดตกใจไปพักหนึ่ง ก่อนจะนิ่วหน้าพลางสอดนิ้วเข้าไปยังโกร่งไก เสียงปืนดังขึ้น ทว่ากระสุนนั้นพลาดเป้า ทำได้แค่ทิ้งรอยไหม้สีดำไว้บนพรม
เบอร์ทรันด์กลิ้งตัวหลบไปอยู่หลังโซฟา เขานั่งชันเข่าข้างเดียวพร้อมกับชักปืนพกออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะสไลด์เพื่อขึ้นลำ
?ทิ้งปืนซะ มาโฮเมด!! ถ้าตอนนี้ยังทัน!?
?ฉันถอยไม่ได้อีกแล้ว.... และไม่คิดที่จะถอยด้วย!?
มาโฮเมดตอบปฏิเสธเสียงแข็ง
?ประเทศนี้ต้องได้รับการเปลี่ยนแปลง ต้องมีใครสักคนหนึ่งที่ทำ?
?ซาร่าจะเสียใจก็ช่างเหรอ!??
?....หุบปาก!?
มาโฮเมดเลือดขึ้นหน้า ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดออก
?เกิดอะไรขึ้น เสียงปืนเมื่อกี้....?
เบอร์ทรันด์กับมาโฮเมดหันไปทางต้นเสียงพร้อมกัน และพบว่าคือซาร่าที่กำลังยืนตกตะลึง ในดวงตาสีดำซึ่งเบิกกว้างของเธอสะท้อนเป็นภาพของพี่ชายและเพื่อนซึ่งกำลังหันปืนเข้าหากัน
การปรากฏตัวของเธอนำมาซึ่งจุดจบของเหตุการณ์
เสียงปืนดังขึ้นพร้อมกัน
?อัก....?
แรงปะทะและความเจ็บปวดสุดคณานับแล่นขึ้นมาที่หัว
ภาพที่ปรากฏอย่างเลือนรางอยู่ตรงหน้าของเบอร์ทรันด์ คือภาพของมาโฮเมดที่ล้มลงไปพร้อมๆ กับปืนที่ยังถืออยู่ในมือ
?พี่!?
ซาร่ากรีดร้องลั่นพลางพุ่งเข้าคว้าร่างมาโฮเมด ในขณะที่เบอร์ทรันด์เองก็พยายามฝืนพาร่างที่หนักของเขาเดินเข้าไปหา
?เบล....?
มาโฮเมดเงยหน้าขึ้น บริเวณช่วงอกของชุดทหารที่เขาสวมอยู่มีรอยกระสุนปืนซึ่งเปรอะไปด้วยสีแดงฉานของเลือดที่พุ่งทะลักออกมา
?ซาร่า....ซาร่า....ยังไม่รู้ความจริงของเรื่องนี้ เธอไม่เกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้น....?
?อือ เข้าใจแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันจะรีบรักษานายเดี๋ยวนี้....?
ยังไม่ทันพูดจบ มาโฮเมดก็ส่ายหน้าปฏิเสธ เขายื่นมือไปลูบผมของผู้เป็นน้องที่กำลังสะอื้นไห้
?ซาร่า.... พี่ขอโทษ....?
สิ้นเสียง มือของมาโฮเมดก็หมดแรงห้อยตกลงไปที่พื้น
?ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจ? นี่มันเรื่องอะไรกัน??
ซาร่ายืนขึ้นอย่างโซเซ ใบหน้าที่ซีดเผือดเหมือนซากศพของเธอจ้องมาทางเบอร์ทรันด์ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
?ทำไม ทำไมเบลต้องยิงพี่ด้วย!??
ซาร่าตะโกนพร้อมกับวิ่งเข้าหา และใช้มือทั้งสองข้างขยำเสื้อบริเวณช่วงอกของเบอร์ทรันด์
คำพูดของซาร่า กับความจริงที่เขาฆ่ามาโฮเมดทำให้เบอร์ทรันด์รู้สึกทรมานใจ
?ตอบฉันสิเบล!! ตอบฉันมาสิ!!?
แสงสว่างจากสายฟ้า ฉายภาพฉากของโศกนาฏกรรมเป็นสีดำบนพื้นขาวราวกับละครเงา



ตอนที่ 1 ชีวิตนี้แสนสั้น....

1

อิจิโนเสะ ทัตสึยะลงจากห้องคาร์โกของเครื่องบินขนส่งมาอยู่บนลานจอด ก่อนจะบิดคอไปมาเป็นเสียงดังกร็อบๆ
?เยี่ยม ในที่สุดก็ขนเสร็จสักที?
เขาเงยหน้าขึ้นไปดูท้องฟ้าของฤดูใบไม้ร่วงที่มีเมฆอยู่จางๆ ท้องฟ้าในฤดูนี้ไม่ว่าจะโตเกียว หรือแคลิฟอร์เนียก็ดูไม่ต่างกัน
ที่ที่เขาอยู่ ณ ตอนนี้เป็นค่ายฝึกของบริษัททหารรับจ้าง D.O.M.S. ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทีมผู้ฝึกสอน AS หน่วย 3 (หรือในชื่อเรียก OTHILA) ของพวกเขา จะต้องเดินทางไปทำภารกิจครั้งใหม่
ซึ่งที่หมายในครั้งนี้คือสาธารณรัฐมาลัมปา ประเทศเล็กๆ ที่อยู่ทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา
?ช้ากว่าแผนไปตั้งสี่นาทีแล้วนะ?
ทัตสึยะหันหลังกลับไปหาต้นเสียง เจ้าของเสียงเป็นเด็กผู้หญิงหุ่นเพรียวสวมชุดเครื่องแบบสีฟ้า ผมทรงหางม้าสีทองพลิ้วไหวไปมาเป็นจังหวะ เธอผู้นี้คืออเดลีน่า เคเรนสกาย่า สมาชิกหน่วย 3 เช่นเดียวกับเขา ใบหน้าของเธอยังคงไม่ชวนเสวนาเช่นเคย
?ไม่เห็นเป็นไรเลย แค่สี่นาทีเอง?
?แค่สี่นาที....งั้นรึ? จะชะล่าใจมากเกินไปแล้วนะ ในสงคราม แค่หนึ่งนาที หรือแค่วินาทีเดียวก็ชี้เป็นชี้ตายได้แล้ว ถึงมีแค่สี่นาที แต่ถ้าใช้ให้ดีก็ทำคัพราเม็งได้ จะเอามายองเนสมาราดแถมลงไปอีกก็ยังทันนะรู้มั้ย??
?....เอ่อคือ ถ้าแค่คัพราเม็งอะไรนั่นยังพอว่านะ แต่เอามายองเนสราดลงไปด้วยนี่จะดีเหรอ??
?ดีสิ มายองเนสน่ะ ไม่ว่าจะเป็นทงคตสึราเม็งที่น้ำซุปเข้มข้น มิโสะราเม็งที่น้ำซุปกลมกล่อม หรือชิโอะราเม็งที่น้ำซุปซดแล้วคล่องคอ ก็เข้าได้หมดแหละ?
?....เอางั้นเลย?
?เธอเองก็ควรจะลองสักครั้ง จริงสิ งั้นเดี๋ยวเราไปลองกับโชยุราเม็งด้วยกั....?
?ขอบคุณ แต่ครั้งนี้ขอผ่านละกัน?
ทัตสึยะชักสยอง เขารีบส่งเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาที่ถืออยู่ให้อเดลีน่า
เมื่อสักครู่เขาได้เช็กความเรียบร้อยของหุ่นที่เตรียมขนไปทำภารกิจ ตั้งแต่รุ่น จำนวน รวมไปถึงอาวุธที่ติดตั้ง
ไรเฟิล BK-545 จำนวน 10 กระบอก กระสุนสี 5,000 นัด เครื่องเทอร์มินัลทุกประเภทสำหรับใช้ในระบบมัวริสต์ (ระบบใช้เพื่อจำลองการรบเสมือนจริงของ AS) เช่น LTM101 LTM103
(ขั้นตอนการเตรียมพวกอุปกรณ์สำหรับใช้ในการสู้รบนี่ เอาจริงก็ดูไม่ค่อยต่างกับพวกงานก่อสร้างเลยนะ)
ทัตสึยะนึกถึงเรื่องบ้านของตนซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้าง เป็นจังหวะเดียวกับที่อเดลีน่าถามขึ้นเบาๆ
?เป็นอะไรไป ทำหน้าซะเอ๋อเชียว"
?ว่าไปนั่น ฉันก็แค่นึกถึงเรื่องที่บ้านก็เท่านั้นเอง?
?....งั้นรึ?
อเดลีน่าหลุบตาลงเล็กน้อย พูดตอบด้วยเสียงเบาๆ
?ไม่เป็นไรแน่นะ??
?หมายถึงเรื่องอะไร??
?ก็เรื่องการเรียนของนาย ภารกิจคราวนี้ค่อนข้างจะนานเอาเรื่องนะ?
?อ๋อ.... สบายมาก เมื่อไม่นานนี้ฉันลองคำนวนดูแล้ว เวลาเรียนของฉันมีพอ ถ้าไม่ปิ้วในการสอบปลายภาคก็น่าจะจบได้ไม่มีปัญหา?
?งั้นรึ?
อเดลีน่าพยักหน้ารับเบาๆ ทัตสึยะชำเลืองดูสีหน้าของเธอด้วยความสงสัยเล็กน้อย
(ว่าแล้วเชียว ตั้งแต่ ?เรื่องคราวนั้น? เป็นต้นมา ยัยนี่ก็แปลกไป....)
ก็ไม่รู้ว่าหยั่งรู้ความคิดของทัตสึยะได้เองหรือยังไง ทันทีที่อเดลีน่ากวาดสายตาดูเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาเสร็จ เธอก็ยื่นหน้าเข้าไปให้ทัตสึยะ
(วะ เหวอ!?)
ผมสีทองสลวยของเธอสัมผัสโดนที่แก้ม เล่นเอาทัตสึยะตกใจ นัยน์ตาสีเทาอมฟ้าของเธอมองมาทางเขา
?เรื่องที่ล็อกตัวหุ่นกับผนังยังไม่ได้เช็กเลยไม่ใช่รึไง?
เธอตวาดใส่ด้วยน้ำเสียงเย็นชา
?อะ เอ๋!??
?นี่ไง ดูให้ดีสิ ยังตกหล่นหัวข้อนี้ไปอยู่?
?แล้วกัน จริงด้วยแฮะ ฮะฮ่ะฮ่ะ โทษที?
?ไม่ต้องมาหัวเราะกลบเกลื่อนเลยนะ เจ้าบ้า?
ท่าไม้ตายถูกซัดเข้าที่ทัตสึยะหนึ่งเปรี้ยง
เป็นเวลานานแล้วที่เขาไม่โดนท่าดีดหน้าผากสุดโหด การโจมตีครั้งนี้รุนแรงเสียจนเขาฟุบลงไปโดยแทบไม่ทันได้ร้องสักแอะ
?เรากำลังจะขนเครื่องจักรที่หนักเกือบสิบตันจำนวนมากอยู่นะ ความประมาทเพียงเล็กน้อยของเธอจะก่อให้เกิดหายนะครั้งใหญ่ได้ เธอยังขาดความตระหนักในเรื่องของอันตรายอยู่มากเลย....?
อเดลีน่าพร่ำสอนทัตสึยะที่ยังคงทรุดอยู่เสียชุดใหญ่

?เจ้าพวกบ้านั่นมัวทำอะไรกัน?
ที่บันไดขึ้นเครื่องในสนามบินเดียวกัน ยูซุฟ อัล เกตรีซึ่งดูทั้งคู่อยู่พึมพำขึ้นมา
บนใบหน้าอันหล่อเหลาแสดงให้เห็นถึงความเอือมระอาอย่างสุดซึ้ง
?ท่านอเดลีน่ายังเคี่ยวกับท่านทัตสึยะไม่เปลี่ยนไปเลยนะครับ?
?....ซึนโดระ ??
พันโทฮัสซัน บิน จาซิม กับซามิร่า บินท์ ฮัสซัน ผู้เป็นลูกสาวพูดขึ้นตามกัน ทั้งคู่เป็นคนใกล้ชิดที่คอยปรนนิบัติยูซุฟอย่างซื่อสัตย์ตั้งแต่เขายังเด็ก
?ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ ฝ่าบาท?
?....ขอให้พระเจ้าคุ้มครองท่าน?
?อื้อ?
ยูซุฟพยักหน้าให้ทั้งสองด้วยความรู้สึกขอบคุณ
?ฝากจัดการเรื่องประเทศของเราด้วย?
?คะ ครับ ด้วยความยินดีครับ?
ยูซุฟเป็นองค์ชายลำดับที่สามของราชอาณาจักรราชิด ประเทศชั้นแนวหน้ารายใหม่ในแถบตะวันออกกลาง เขาคือเชื้อพระวงศ์ผู้เคยได้รับแต่งตั้งจากกษัตริย์มูฮัมหมัดผู้เป็นพ่อ ให้ดำรงตำแหน่งเป็นพันเอกแห่งกองทัพบก
แต่ด้วยความที่เขาต้องการศึกษาศาสตร์การต่อสู้ด้วย AS บวกกับฝีมือของเขาไปสะดุดตาประธานบริษัท D.O.M.S. เข้า สุดท้ายเขาเลยกลายมาเป็นหนึ่งในผู้ฝึกสอนของบริษัทไปแทน
สำหรับยูซุฟแล้ว เขามองว่าการตัดสินใจครั้งนี้คือสิ่งที่ถูกต้อง เพราะนอกจากจะได้ขัดเกลาทักษะการขับ AS แล้ว ความรู้เหล่านี้ยังสามารถนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศในอนาคตได้ อย่างไรก็ตามการกระทำของเขาในครั้งนี้ก็ส่งผลให้เกิดคลื่นใต้น้ำขึ้นในราชิด
ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงต้องให้พวกฮัสซันไปชี้แจงให้คนทางโน้นได้รับทราบข้อเท็จจริง
?อย่างไรก็ตามนะครับฝ่าบาท ประเทศมาลัมปาที่ฝ่าบาทจะเดินทางไปในครั้งนี้ ก็กำลังมีเหตุความวุ่นวายขึ้น ถึงแม้ภารกิจครั้งนี้จะไม่ได้ไปรบ แต่กระผมก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายๆ ขึ้นกับฝ่าบาท?
ฮัสซันพูดด้วยสีหน้าที่ตึงเครียด
?นายต้องการพูดอะไรแน่??




++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สาธาณรัฐมาลัมปา ประเทศเล็กๆ ทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา ครั้งนี้เหล่าหน่วย 3 ของ D.O.M.S. ของทัตสึยะต้องมาทำการฝึกสอนการรบด้วย AS ในที่แห่งนี้ ซึ่งเป็นประเทศที่ปกครองโดยทหารและกำลังเกิดสงครามกลางเมือง ท่ามกลางประชาชนผู้ได้รับผลจากสงคราม ทว่ากองทัพและรัฐบาลกลับไม่เคยคิดที่จะเหลียวแลพวกเขาเหล่านี้ ใครคือฝ่ายผิด ใครคือฝ่ายถูก สภาพของสงครามจริงที่ได้เผชิญเป็นครั้งแรกในชีวิต ได้เข้าสั่นคลอนสภาพจิตใจของทัตสึยะอย่างหนัก
ทว่าไม่ได้มีเพียงทัตสึยะเท่านั้นที่ต้องเผชิญกับมรสุมทางใจ อเดลีน่า ยูซุฟ หรือแม้แต่เบอร์ทรันด์ต่างก็ต้องเผชิญกับการทดสอบครั้งสำคัญ พวกเขาไม่นึกมาก่อนว่าภาพในอดีตของตน จะส่งผลตามมาถึงปัจจุบัน ณ ที่แห่งนี้....
และทันใดนั้นเอง ?ชายผู้นั้น? ก็ปรากฏตัวขึ้น....!?
นวนิยายแอคชั่นสงครามไซไฟที่ตัวเอกได้ตะลุยไปตามที่ต่างๆ ในโลกกว้าง พร้อมเปิดฉากขึ้นแล้ว!!


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”