New Release ร้อยรัก : กุหลาบร้ายใต้ปีกมาร

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release ร้อยรัก : กุหลาบร้ายใต้ปีกมาร

โพสต์ โดย Gals »

1

กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย
กลางกรุงมอสโกเมืองหลวงของรัสเซียซึ่งเป็นย่านธุรกิจผู้คนเดินขวักไขว่ไปมาดูคึกคักมีชีวิตชีวา สองฟากฝั่งถนนเต็มไปด้วยห้างร้านต่างๆ ประดับประดาแสงไฟหลากหลายสีสันเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้าไปเยี่ยมชม
รถยนต์คันหรูสีดำสามคันวิ่งมาตามถนนที่คับคั่งไปด้วยการจราจรแออัด ร่างสูงสง่าสวมสูทสีดำของลีโอนิค เวล ประธานบริหารหนุ่มไฟแรงของเวลเอ็นเตอร์ไพรท์กรุ๊ป ทายาทตระกูลดังที่ทรงอิทธิพลและมั่งคั่งที่สุดในรัสเซีย และชื่อของเขายังติดหนึ่งในสิบของนักธุรกิจที่มีหลายบริษัทต้องการให้เขาเข้าร่วมทุน โดยเฉพาะในแถบประเทศเอเชีย บริษัทคู่แข่งหลายแห่งพยายามส่งคนเข้ามาสืบความลับและหาทางลดเครดิตของชายหนุ่มอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ถูกจับได้ทุกครั้งไป ส่วนโทษทัณฑ์ที่ได้รับคือธุรกิจถูกบีบจนอยู่ไม่รอดไปตามๆ กัน จนหลายคนไม่กล้ากับเวลเอ็นเตอร์ไพรท์กรุ๊ป
รถของลีโอนิค เวลวิ่งผ่านการจราจรแออัดออกมา เพื่อมุ่งตรงไปยังคฤหาสน์ตระกูลเวลที่ตั้งอยู่แถบชานเมือง สองฟากฝั่งถูกความมืดเข้าปกคลุม มีเพียงแสงไฟจากหน้ารถส่องนำทางที่วิ่งมาด้วยความเร็วพอประมาณ ระยะทางเหลืออีกเพียงสามกิโลเมตรก็จะถึงอาณาเขตของตระกูลเวล เมื่อมาถึงสามแยกที่จะเลี้ยว รถคันหน้าก็เบรกเสียงดังลั่น ทำให้คนขับอีกสองคันที่วิ่งตามมาเบรกเช่นเดียวกัน
เอี๊ยดดดด...ร่างสูงเสียหลักหัวคะมำมาด้านหน้า วิคเตอร์จับอาวุธคู่กายออกมาเตรียมพร้อม สายตามองไปยังรถคันหน้า เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์หน้าตาดุดันหกคน วิ่งตรงมาหาร่างของผู้หญิงที่นอนหมดสติอยู่กลางถนน ลีโอนิคมองร่างบางที่นอนนิ่งอย่างพิจารณา
?ช่วยเธอ? เสียงสั่งทรงอำนาจหลุดออกจากริมฝีปากได้รูปของเจ้านายหนุ่ม วิคเตอร์หัวหน้าบอดี้การ์ดเปิดประตูก้าวลงจากรถ พร้อมกับการ์ดที่อยู่ด้านหลังกรูเข้าหากลุ่มชายฉกรรจ์ที่กำลังจะมาถึงร่างหญิงสาวเคราะห์ร้ายที่นอนไม่ได้สติอยู่บนถนน
?อย่าแตะต้องเธอ? พวกมันชะงักเมื่อได้ยินเสียงเข้มของวิคเตอร์ สายตาพวกมันมองมัจจุราชสีดำที่อยู่ในมือของบอดี้การ์ดหนุ่มอย่างกล้าๆ กลัวๆ ก่อนจะหันไปสบตากัน
?ผู้หญิงไทยคนนี้เป็นของพวกเรา? คนตัวใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงกลางบอกออกมาด้วยสำเนียงภาษารัสเซียชัดเจนพวกมันเริ่มไม่แน่ใจในความปลอดภัยของตัวเอง
?เสียใจ เวลานี้เธอเป็นคนของเวล ห้ามพวกนายแตะต้องเธอเป็นอันขาด...ถอยไป? วิคเตอร์ขยับรุกเข้าไปพร้อมการ์ด พวกมันเห็นท่าทีเอาจริงกับรัศมีดุดันของการ์ดเวลก็พากันชะงัก
?ถ้าพวกนายต้องการก็เอาไป แต่ต้องจ่ายค่าตัวผู้หญิงคนนี้ให้พวกเราก่อน?
?เท่าไหร่? ลีโอนิคก้าวลงจากรถเดินมาหยุดยืนตรงหน้า สายตาคมมองร่างบางที่นอนอยู่กับพื้นถนน แสงไฟจากหน้ารถส่องให้เห็นใบหน้าสวยหวานซีดขาวราวกระดาษ บริเวณหน้าผากมนมีเลือดไหลซึมออกมา
?หนึ่งร้อยดอลลาร์? มันคนหนึ่งบอกแววตาเรืองรอง เพราะจำนวนที่มันบอกออกไปทำให้ได้กำไรหลายเท่าตัว
?จัดการด้วยวิคเตอร์?
ลีโอนิคบอกเสียงห้วนแล้วเดินไปช้อนร่างบางเข้ามาในวงแขน เพียงแค่ได้สัมผัสร่างที่นอนนิ่งบนถนน ลีโอนิคก็รับรู้ถึงความนุ่มนิ่มพร้อมกับกลิ่นหอมกรุ่นจากกายสาวลอยเข้ามาในจมูก เลือดหนุ่มในกายวิ่งพล่านไปทั่วร่างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ชายหนุ่มค่อยๆ วางคนในวงแขนที่เบาะหลังก่อนจะก้าวไปนั่งข้างๆ ดวงตาคมกริบมองหน้าซีดขาวและปัดปรอยผมที่ละใบหน้าไปด้านหลัง วิคเตอร์รีดเอาความจริงจากกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของผู้หญิงไทย จนรู้ว่าเธอมาจากไหน จากนั้นพวกมันต่างได้ความตายเป็นรางวัล จากนั้นเหล่าบอดี้การ์ดเดินมาขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที
ลีโอนิคมองใบหน้าหวานภายใต้เรือนผมดำสลวย จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากจิ้มลิ้มน่ารัก แล้วละสายตาจากใบหน้าซีดเซียวของคนในอ้อมแขนมาสบตาลูกน้องคนสนิทเพื่อต้องการรู้รายละเอียดเกี่ยวกับเธอ วิคเตอร์เหมือนจะรู้ใจเจ้านายหนุ่มจึงไม่ต้องรอให้ถาม
?ผู้หญิงไทยครับ ทำงานที่ผับไหนสักแห่ง พวกนั้นบังคับหิ้วมาอีกต่อหนึ่ง รายละเอียดอื่นๆ พวกมันก็ไม่ทราบครับ? ลีโอนิคพยักหน้าน้อยๆ หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเลือดที่แห้งกรังบริเวณหน้าผากออกให้อย่างเบามือ
?โทร.ตามหมอแอนนามาที่บ้านด้วย?
?ครับบอส? วิคเตอร์รับคำสั้นๆ หยิบโทรศัพท์ออกมากดหาคุณหมอสาวเพื่อนเจ้านาย ในใจสงสัยอยู่ไม่น้อยที่เจ้านายหนุ่มไม่ยอมให้คนพาเธอไปส่งโรงพยาบาล แต่กลับให้ตามหมอแอนนามาดูอาการที่บ้าน
ไม่นานรถก็เลี้ยวผ่านประตูอัลลอยสีขาวบานใหญ่ เข้ามาในอาณาจักรของตระกูลเวล คฤหาสน์หลังงามสีขาวตั้งตระหง่านบนเนื้อที่หลายสิบไร่ ด้านหน้ามีลานน้ำพุพุ่งสลับกันเป็นเส้นสาย เล่นระดับอย่างสวยงาม รถคันใหญ่เคลื่อนเข้ามาจอดหน้ามุขอย่างนิ่มนวล วิคเตอร์ก้าวลงจากรถแล้วเดินไปเปิดประตูให้เจ้านายหนุ่มอุ้มร่างอรชรเข้าไปข้างใน คนรับใช้แต่งตัวด้วยกระโปรงบานสีขาวสะอาดเหมือนกันสามสี่คน ยืนรอรับอยู่หน้าประตูด้วยท่าทีนอบน้อม ร่างสูงอุ้มหญิงสาวเดินขึ้นบันไดตรงไปยังห้องห้องหนึ่งแล้ววางร่างบางลงบนเตียงนอนอย่างนุ่มนวล
?ไปตามนมซูร่ามาดูแลเธอด้วยนะ แล้วหมอมาหรือยัง? ลีโอนิคถามขณะลุกขึ้นไปยืนชิดขอบเตียง
?เกิดอะไรขึ้นคะคุณชาย? ร่างผอมสูงวัยห้าสิบห้าของซูร่า แม่นมของชายหนุ่ม และน้องชายเดินเข้ามาในห้องท่าทางรีบร้อน พอมองเห็นร่างบางนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงก็ยกมือขึ้นทาบอกอย่างตกใจ ?คุณชายทำอะไรเธอคะ?
?ผมไม่ได้ทำหรอกนม คนอื่นเขาทำเลยช่วยมา เป็นคนไทยเหมือนนมนั่นแหละ คงคุยกันรู้เรื่อง ฝากนมจัดการด้วยก็แล้วกัน? เขาเอ่ยเสียงนุ่ม ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากห้อง
?เธอชื่ออะไรคะ? เสียงถามของคนที่เลี้ยงมาทำให้ร่างสูงหันกลับมาส่ายหน้าบอกอย่างไม่รู้แล้วเดินไปที่ห้องทำงานที่อยู่ถัดไป โดยมีร่างสูงสง่าไม่แพ้เจ้านายของวิคเตอร์เดินตามมา
ลีโอนิคเดินไปนั่งไขว่ห้างท่าทางสบายใจอยู่บนโซฟารับแขกตัวสวยที่ตั้งชิดกับกระจกใสบานใหญ่ ดวงตาคมสีน้ำเงินเข้มแข็งกร้าวยากที่คนอื่นๆ จะรู้ว่าเจ้าตัวกำลังคิดอะไร
?ผมอยากให้บอสระวังตัวมากกว่านี้ครับ?
?จากอะไร...? สายตาคมสบตานิ่งลึกของลูกน้องคนสนิท
?พวกนิคาเอล? วิคเตอร์ตอบเสียงเรียบ ริมฝีปากได้รูปของลีโอนิคยกขึ้น สายตามองขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างไม่ยี่หระกับสิ่งที่ลูกน้องคนสนิทบอกออกมา
?เวลกับนิคาเอลเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกันมานาน แต่ก็ไม่มีอะไรรุนแรงมากไปกว่าการกระทบกระทั่งกันทางธุรกิจธรรมดา?
?แต่ตอนนี้นิคาเอลรุกหนักมาก ขยายตลาดการลงทุนไปแถบเอเชียพร้อมกับเรา ผมเกรงว่าพวกนั้นจะเล่นไม่ซื่อ? บอดี้การ์ดหนุ่มพูดด้วยใบหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย
?ขอบใจที่เป็นห่วง? ลีโอนิคลุกขึ้นมาตบไหล่หนาเบาๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า
หลังจากที่พ่อแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกเมื่อหลายปีก่อน เขาและน้องชายช่วยกันสืบทอดธุรกิจของตระกูล ทำให้ต่างมีภาระมากมายจนแทบไม่ได้เจอหน้ากันมาร่วมเดือนแล้ว เนื่องจากแอนโทนี่ น้องชายดูแลธุรกิจเกี่ยวกับอัญมณีต้องเดินทางบ่อยเพื่อตรวจเยี่ยมสาขาที่มีอยู่ทั่วยุโรปและเอเชีย
?เรื่องผู้หญิงไทย บอสจะเอายังไงต่อครับ? บอดี้การ์ดหนุ่มถามออกมาอย่างเกรงใจอยู่ในที
?ยังคิดไม่ออก?
?ตอนนี้เราไว้ใจใครไม่ได้ ผมเกรงว่าเธออาจเป็นนางนกต่อที่ฝ่ายนั้นส่งมา?
ลีโอนิคหัวเราะในลำคอหึ เข้าใจความหมายของลูกน้องคนสนิท พลางนึกถึงนางนกต่อที่ลูกน้องพูดถึง ใบหน้าหวานสวย ริมฝีปากจิ้มลิ้มน่าจูบของหญิงสาว ทำให้เขาอยากทดลองแล้วสิว่าจะหวานสักแค่ไหน ถ้าเธอเป็นนางนกต่อจริง เขาจะทำให้เธอต่อไม่ติดและได้รับบทเรียนแสนแพงที่สุดในชีวิต ที่กล้าต่อกรกับคนอย่างเขา...ใบหน้าคมสันแข็งกระด้างขึ้นมาอย่างน่ากลัว เมื่อคิดถึงคู่แข่งทางธุรกิจอย่างนิคาเอล
***
ภายในห้องนอนที่เย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศราคาแพง ขนตางอนงามที่ปิดสนิทมากว่าค่อนคืนเริ่มกะพริบปริบๆแล้วลืมขึ้นช้าๆ ดวงตากลมโตมองฝ้าเพดานสีขาว คิ้วโก่งสวยขยับเข้าหากัน สายตากวาดมองไปรอบๆ ห้อง ผ้าม่านสีน้ำตาลเข้มปิดกั้นแสงจากภายนอกส่องผ่านเข้ามา ผนังห้องทั้งสี่ด้านมีภาพเขียนติดอยู่อย่างกลมกลืน ร่างบางขยับตัวเล็กน้อยเพื่อบรรเทาอาการเจ็บร้าวตามร่างกาย ใบหน้าหวานนิ่วหน้าเล็กน้อยด้วยความเจ็บ มือบางแตะแผลที่หน้าผากมน สมองครุ่นคิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แล้วต้องหลับตาลงอย่างอ่อนล้า
เสียงประตูเปิดออกพร้อมกับร่างสูงสง่าในสูททำงานสีเข้มก้าวเข้ามา ทำให้ขิมจันทร์ ศิวะกุล ดีดตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ผ้าห่มผืนใหญ่ร่นไปกองที่เอวคอด ดวงตากลมโตจ้องมองร่างสูงอย่างตกตะลึง ลีโอนิคมองใบหน้าสวยภายใต้เรือนผมดำสลวย ละเลื่อนสายตาคมเลื่อนต่ำลงมาที่ทรวงอกอิ่มเห็นเป็นเงาเลือนๆ อยู่ในเสื้อเชิ้ตทำงานตัวใหญ่ของเขา คนถูกมองยกมือปิดสัดส่วนสำคัญของตัวเอง
?คุณเป็นใคร? เธอถามเสียงสั่น ริมฝีปากหยักได้รูปกระตุกยิ้มที่มุมปาก
?ผมควรเป็นฝ่ายถามคุณมากกว่านะ...จริงไหม? สายตาคมกริบของชายหนุ่มมองใบหน้างาม เหมือนต้องการจะค้นหาอะไรบางอย่าง จนทำให้คนถูกมองรู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
?คุณช่วยฉันจากคนชั่วพวกนั้นเหรอคะ?
ลีโอนิคไม่ตอบแต่ก้าวเข้ามาชิดขอบเตียง ร่างบางถอยร่นไปอีกมุมหนึ่ง แววตากลมใสมองเขาหวาดหวั่น
?คุณชื่ออะไร...?
?ขิมจันทร์ค่ะ ขิมจันทร์ ศิวะกุล แล้วคุณล่ะคะเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาสอบสวนฉัน? เสียงหวานถามสวนกลับไป ลีโอนิคหัวเราะเบาๆ ก่อนจะทรุดกายลงนั่งริมขอบเตียง
?ถามเพราะไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้? เขาถามแววตาเย้ยหยัน เพราะไม่มีใครไม่รู้จักเขา ผู้หญิงหลายคนใช้วิธีเรียกร้องความสนใจแบบนี้กับเขาเสมอ
?แล้วคุณคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ขนาดไหนล่ะคะ ฉันซึ่งมาที่นี่ครั้งแรกถึงจะต้องรู้จักคุณ? ประโยคหลังเธอตั้งใจเน้นเป็นพิเศษ ริมฝีปากบางยิ้มบางๆ สบตาเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ
?เก่ง...ตอนเย็นค่อยมาทำความรู้จักกันใหม่ เช้านี้ฉันมีประชุม? เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เตรียมจะก้าวออกจากห้อง ขณะเดียวกันร่างบางสะบัดผ้าห่มออกจากตัววิ่งลงจากเตียงด้วยความรีบร้อนทำให้เท้าเล็กสะดุดกับผ้าห่มเซหัวคะมำไปชนกับร่างสูงที่หันกลับมาโอบร่างเธอเอาไว้ทัน
?ว้าย!? หญิงสาวอุทานออกมาอย่างตกใจ ใบหน้าสวยเงยมองใบหน้าคมสันที่โน้มลงมาใกล้ ดวงตาคมกริบกวาดมองไปทั่วใบหน้างาม ลำแขนรั้งเอวคอดเข้าหาตัว ก่อนจะประกบจูบริมฝีปากอิ่มอย่างรวดเร็วจนเธอไม่มีโอกาสได้ปกป้องตัวเอง ขิมจันทร์ถึงกับตกตะลึงยืนนิ่งให้เขากอดจูบตามอำเภอใจ มารู้สึกตัวเมื่อต้องการอากาศหายใจ
?อือ...อือ...? ลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้าไปหาความหวานในโพรงปากนุ่ม เรียวลิ้นเกี่ยวพันกับลิ้นของเธอ ความวาบหวาม เร่าร้อนทำให้เธอยืนแทบไม่อยู่ วงแขนแข็งแรงกระชับร่างบางเข้ามาแนบชิดมากขึ้นกว่าเดิม ทรวงอกอิ่มเต่งตึงไร้บราห่อหุ้มของหญิงสาวเบียดเสียดกับแผ่นอกกำยำ ยิ่งเธอดิ้นเลือดในกายของลีโอนิคยิ่งวิ่งพล่าน กลิ่นกายสาวทำให้เขาแทบระงับอารมณ์ไม่อยู่
?ปล่อย...ฉัน?? เสียงสั่นของเธอแผ่วเบา ก่อนจะหมดสติในอ้อมแขนของชายหนุ่ม ชายหนุ่มก้มมองใบหน้าซีดเผือดของเธออย่างตกใจ
?คุณ...คุณ...? ชายหนุ่มเรียกเธอพร้อมตบหน้าเธอเบาๆ แต่หญิงสาวก็ยังไม่รู้สึกตัว ชายหนุ่มจึงอุ้มร่างบางไปวางบนเตียงกว้างอย่างเบามือ ก่อนจะให้เด็กไปตามนมซูร่ามาดูอาการของหญิงสาว
?คุณชาย...อาการเธอเป็นยังไงบ้างคะ?
ซูร่าก้าวเข้าไปนั่งริมขอบเตียงถามอาการหญิงสาวอย่างรีบร้อน
?ไม่รู้สินม พอเห็นหน้าผมเธอก็เป็นลมหมดสติไป? คนต้นเรื่องบอกด้วยความครึ้มใจ ซูร่ามองคนตัวใหญ่ที่เลี้ยงมากับมืออย่างไม่ค่อยเชื่อนัก
?ก่อนที่เธอจะหมดสติคุณชายทำอะไรเธอคะ?
?แค่จูบ?
?เฮ้อ?หนีเสือปะจระเข้แท้ๆ แม่หนู?
ซูร่าพึมพำกับตัวเองเบาๆ เพราะนางรู้จักคนที่เลี้ยงมาดี ถ้าลองติดใจแบบนี้ยังไงก็หนีไม่พ้นอยู่ดี นางก็ได้แต่ภาวนาให้หญิงสาวที่เพิ่งรู้จักไม่โชคร้ายจนเกินไปนัก
?ผมไปทำงานก่อนนะครับนม ยังไงฝากนมดูหน่อย เย็นๆ จะกลับมาสอบสวนต่อ?
ลีโอนิคเดินยิ้มออกจากห้องไปเงียบๆ หากในใจเป็นห่วงร่างบางอยู่ไม่น้อย ถ้าไม่ติดว่ามีประชุมสำคัญเขาคงต้องรอสอบสวนต่ออีกแน่ๆ
***
ณ ชั้นบนสุดของตัวอาคารเวลกรุ๊ปที่ตั้งตระหง่านอยู่ในย่านธุรกิจ ลีโอนิคนั่งทำงานด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ชายหนุ่มพยายามทำจิตใจให้จดจ่ออยู่กับงานตรงหน้า เสียงเป่าลมออกจากปากบ่อยครั้งทำให้วิคเตอร์ขมวดคิ้วเข้าหากันหลายครั้งอย่างมีคำถามอยู่ในใจ เมื่อเห็นอาการของเจ้านายหนุ่ม
วันนี้ทั้งวันเขาสังเกตเห็นสายตาคมเหลือบมองนาฬิกาอยู่บ่อยๆ เหมือนรอเวลาอะไรสักอย่าง แต่วันนี้เจ้านายเขาก็ไม่มีนัดที่ไหนนี่นา?
กริ๊ง...กริ๊ง เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานดังขึ้น หากเจ้าของยังคงปล่อยให้ดังอยู่อย่างนั้น วิคเตอร์จึงเดินไปยกหูโทรศัพท์ขึ้นมารับเสียเอง
?สวัสดีครับ? บอดี้การ์ดหนุ่มกรอกเสียงทักทายอย่างสุภาพ
?ฉันเองนะ พี่ใหญ่อยู่ตรงนั้นหรือเปล่า? เสียงแอนโทนี่ดังมาตามสาย วิคเตอร์เหลือบตามองใบหน้าคมเข้มที่กำลังง่วนอยู่กับเอกสารตรงหน้า
?อยู่ครับ?? วิคเตอร์ยื่นโทรศัพท์ให้เจ้านาย ?บอสแอนโทนี่ครับ?
ลีโอนิคเหลือบตามองนิดหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือออกไปรับ
?ว่าไงนายเล็ก?
?ได้ข่าวว่าเก็บไก่หลงข้างทางได้เหรอ? เสียงล้อเลียนของน้องชายแว่วมาตามสาย ทำให้ลีโอนิคมองสบตากับลูกน้องคนสนิท
?สายนายคงโทร.ไปบอกอีกตามเคย? ลีโอนิคมองลูกน้องคนสนิทที่ยืนนิ่งรอรับโทษอยู่ตรงหน้า
?วิคเตอร์เป็นห่วงนายมาก ประวัติคร่าวๆ ของผู้หญิงคนนั้นฉันส่งไปให้นายแล้ว อย่าไว้ใจไก่ตัวนี้ เธออาจกลายร่างเป็นนางนกต่อก็ได้? สิ้นเสียงน้องชาย ลีโอนิคจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ไม่นานภาพของขิมจันทร์ก็ปรากฏขึ้นพร้อมจุดประสงค์ของการเดินทางเข้ามาในรัสเซีย สายตาคมอ่านตัวอักษรทุกตัวอย่างสนใจ
ส่วนคนที่ถูกเรียกว่าไก่หลงข้างทาง เดินลงจากบันไดด้วยท่าทางระแวดระวังภัย ดวงตากลมโตมองไปรอบๆ ห้องโถงใหญ่ พอไม่เห็นใครร่างบางจึงเดินไปที่ประตู
?นั่นคุณจะไปไหน?
สำเนียงไทยดังมาจากด้านหลัง มีผลให้ร่างบางสะดุ้งหันกลับมาทางต้นเสียง พอเห็นใบหน้าและแววตาอ่อนโยนของซูร่า หญิงสาวจึงพนมมือไหว้อย่างนอบน้อม
?เอ่อ...ป้าเป็นคนไทยเหรอคะ? เธอถามเสียงหวาน ซูร่าเดินมาหยุดตรงหน้าหญิงสาวพร้อมกับยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
?จ้ะ...ป้าเป็นคนไทยป้าชื่อซูร่า เป็นแม่นมของคุณชาย?แล้วนี่หนูจะไปไหน หายดีแล้วเหรอ? ซูร่ามองใบหน้าเนียนสวยที่มีเลือดฝาดขึ้นมา แต่ก็ยังดูขาวซีดอยู่ไม่น้อย
?ค่ะป้า ขอบคุณป้ามากเลยนะคะที่ช่วยขิมไว้? หญิงสาวพนมมือไหว้ ดวงตาคู่งามคลอไปด้วยน้ำตา ซูร่าเห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้
?เอาไว้ขอบคุณคุณชายดีกว่านะคะ ป้าก็แค่ทำตามคำสั่งท่านเท่านั้น? นางยิ้มให้อย่างเอ็นดู
?ขิมฝากขอบคุณคุณชายของป้าด้วยนะคะ ขิมต้องไปแล้วเดี๋ยวจะค่ำเสียก่อน?
?แล้วหนูจะไปไหน นี่ก็เย็นแล้วด้วย? ซูร่าถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย ใบหน้างามส่ายไปมาช้า น้ำตาที่คลอออกมาหยดลงบนแก้มนวลเพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะไปไหน หนังสือเดินทางก็ถูกยึดไปตั้งแต่วันที่เธอเข้าไปทำงานในร้านอาหาร
ซูร่าดึงร่างบางเข้ามากอดด้วยความสงสาร เมื่อเห็นสายตาอ้างว้างในดวงตาคู่งาม ในใจอดนึกถึงอดีตที่ผ่านมาของตัวเองไม่ได้ ชีวิตของเธอก็ไม่แตกต่างกับหญิงสาวในอ้อมกอดมากนัก จากเมืองไทยเพื่อมาทำงานแต่สุดท้ายก็ถูกเขาหลอกให้มาลอยแพที่นี่ โชคนางยังดีได้เจอคนดีๆ อย่างสามี ซึ่งเขาได้พามาอยู่กับมาดามเวลจนกลายเป็นแม่นมให้กับคุณชายทั้งสอง แถมตระกูลเวลยังเอ็นดูวิคเตอร์ลูกชายของเธอดุจลูกชายคนหนึ่ง
?ขิมต้องไปแล้วค่ะป้า ลาก่อนนะคะ? ขิมจันทร์ดึงตัวห่างแล้วพนมมือไหว้ ก่อนจะเดินจากไปด้วยหัวใจอ้างว้างและหวาดกลัว เมื่อมาถึงประตูทางเข้าคฤหาสน์ ยามตัวสูงใหญ่เดินออกมาขวางทางเอาไว้ หากเสียงซูร่าดังมาตามเครื่องติดต่อสื่อสารภายในที่ติดอยู่ป้อมด้วยสำเนียงภาษารัสเซียชัดเจนให้เปิดประตู ร่างสูงใหญ่จึงเดินไปกดรีโมทเปิดประตูให้หญิงสาวเดินออกไป
ขิมจันทร์สูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดเพื่อเรียกกำลังใจกับคืนมา ก่อนจะก้าวพ้นประตูออกไปจากอาณาจักรยิ่งใหญ่ของตระกูลเวล ดวงตาคู่สวยคลอไปด้วยน้ำตา ความรู้สึกอ้างว้างว้าเหว่วิ่งเข้ามาเกาะกุมหัวใจ แสงอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า เธอจะทำอย่างไรต่อจากนี้ จะไปไหนเธอเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ มือเรียวสวยยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้มนวล หันกลับไปมองคฤหาสน์หลังงามที่ให้เธอได้พักพิงอีกครั้ง จากนั้นก็ตัดสินใจก้าวไปข้างหน้าด้วยจังหวะที่มั่นคง ถนนที่ทอดยาวอยู่เบื้องหน้าคงพาเธอไปที่ไหนสักแห่ง
เรือนร่างระหงคุ้นตาสวมกางเกงผ้าฝ้ายสีครีมกับเสื้อเชิ้ตสีฟ้า เดินอยู่บนฟุตปาธเบื้องหน้า ทำให้คิ้วหนาของลีโอนิคขมวดเข้าหากันอย่างไม่แน่ใจ พอรถวิ่งเข้าไปใกล้และเห็นคนที่ทำให้เขาไม่มีสมาธิทำงานมาทั้งวันเดินเหม่ออยู่ชายหนุ่มจึงสั่งให้บอดี้การ์ดหยุดรถทันที
?จอด? เร็วเท่ากับคำสั่ง รถยนต์คันหรูชิดเข้าไปจอดริมฟุตปาธตรงหน้าขิมจันทร์ ลีโอนิคเปิดประตูก้าวลงจากรถไปยืนดักหน้าเธอไว้
?คุณ...? ขิมจันทร์อุทานออกมาเบาๆ ถอยหลังสองสามก้าว ก่อนจะหมุนตัวเตรียมวิ่งหนีไปทางเดิมที่เพิ่งจากมา หากมือใหญ่คว้าข้อมือเธอเอาไว้ กระชากร่างบางเข้ามาปะทะอก
?จะไปไหน? ชายหนุ่มถามเสียงลอดไรฟัน ขิมจันทร์สบตาคมอย่างตกใจ ออกแรงดิ้นเต็มที่ ?ผมถามว่าจะไปไหน? เสียงเข้มทรงอำนาจถามขึ้นมาอีกครั้ง ขิมจันทร์เงยหน้าขึ้นสบตากับชายหนุ่ม
?ฉันจะไปตามทางของฉันน่ะสิ?
?รู้แล้วเหรอว่าทางของคุณไปทางไหน?
ร่างบางหยุดดิ้นหลบสายตาคมของเขา?นั่นสินะ แล้วจะไปทางไหนดีล่ะ เธอเองยังไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ส่วนไหนของรัสเซียด้วยซ้ำ
?ถึงไม่รู้ฉันก็ไปเองได้? เธอตอบเสียงห้วน ดิ้นออกจากอ้อมแขนชายหนุ่ม ดวงตากลมโตมองไปรอบๆ สายตาหลายคู่ที่กำลังออกกำลังกายอยู่ในสวนสาธารณะมองอย่างสนใจ
?อย่าอวดเก่งทั้งๆ ที่ไม่รู้ หรืออยากไปอยู่ในซ่องที่คุณหนีมา ผมจะได้เอากลับไปคืนเจ้าของเงินที่ซื้อคุณมา?
?อย่านะคะ ฉันขอร้อง อย่าส่งฉันไปตกนรกที่นั่นนะคะ? เธอขอร้องน้ำตาคลอ
?คุณมีทางเหลืออยู่สองทาง จะกลับไปกับผมหรือว่าจะกลับไปตกนรกที่นั่น? เขาบอกเสียงเข้มคลายอ้อมแขนออกจากร่างบางอย่างเสียดายเพื่อให้เธอได้เลือก ดวงตากลมโตมองหน้าเขาอย่างไม่แน่ใจ
?แล้วทั้งสองทางต่างกันตรงไหนคะ เพราะดูจากเมื่อเช้า เอ่อ...คุณเองก็ไม่ต่างจากผู้ชายพวกนั้น? ผิวแก้มนวลแดงระเรื่อเมื่อคิดถึงจูบเร่าร้อนของเขา ลีโอนิคหัวเราะเบาๆ ในลำคอ มือใหญ่สอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงสแล็คตัวสวยสายตามองไปรอบๆ ตัว ก่อนจะกระซิบข้างหูของเธอ
?อยู่กับผมคุณมีสามีแค่หนึ่ง แต่ถ้ากลับไปอยู่ที่เดิมคุณได้สามีนับไม่ถ้วน หรือว่าชอบแบบนั้น?
?ฉัน...?
?ผมให้เวลาคุณตัดสินใจหนึ่งนาที? ชายหนุ่มยกนาฬิกาบนข้อมือขึ้นจับเวลา ขิมจันทร์ยังไม่ทันได้ตอบคำถามของเขา ร่างบางก็ถูกเขาจับยัดเข้าไปในรถ
?นี่คุณ ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจเลยนะ?
?หมดเวลา? เขาหันไปยิ้มให้เธอ ก่อนจะสั่งลูกน้องคนสนิท ?ออกรถ?
สารถีออกรถตามคำสั่งทันที ร่างบางขยับไปนั่งเสียชิดประตู ดวงตากลมใสมองเขาอย่างระแวงระวัง ไม่นานรถก็วิ่งเข้ามาจอดที่หน้าตึกทางเข้าบ้าน เด็กรับใช้สองคนที่อยู่ใกล้ๆ เดินเข้ามารับกระเป๋าเอกสารจากวิคเตอร์อย่างรู้หน้าที่ ลีโอนิคก้าวลงจากรถโดยไม่ลืมที่จะดึงร่างบางให้ตามลงมาด้วย
?นี่คุณ ปล่อยฉัน ฉันเดินเองได้? ขิมจันทร์สะบัดแขนออกจากมือหนา
?อะไรกันคะคุณชาย? ซูร่าถามออกมาอย่างเป็นห่วงร่างบางที่ถูกมือใหญ่ลากเข้ามาในห้องโถง
?ผมให้เวลาคุณสิบนาที อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วไปพบผมที่ห้องทำงาน? เขาบอกเธอใบหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะหันไปพูดกับซูร่าเสียงนุ่มนวลผิดกับเมื่อสักครู่ ?นมด้วยนะครับ?
ว่าแล้วร่างสูงสง่าก็ก้าวขึ้นบันไดไปยังห้องทำงานที่อยู่ชั้นสอง โดยมีสายตาสามคู่มองตามไปด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน
***
ไม่ถึงสิบนาที ขิมจันทร์ก็ก้าวเข้ามาในห้องทำงานที่มีวิคเตอร์และนมซูร่า รวมถึงเจ้าของห้องนั่งรอเธออยู่ ดวงตาคมกริบมองร่างบางตั้งแต่เดินเข้ามาในห้อง
?ทำไมไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า?
?จะให้ฉันเอาเสื้อผ้าที่ไหนใส่ล่ะ กระเป๋าเสื้อผ้าก็ถูกยึดไว้หมด? เธอบอกด้วยสีหน้าบึ้งตึง
?ป้าว่าหนูนั่งลงก่อนเถอะ? ซูร่าส่งยิ้มให้เธอ หญิงสาวจึงเดินไปนั่งลงข้างๆ รู้สึกอึดอัดเมื่อเห็นสายตาคมที่จ้องมองมา
?คุณมีอะไรก็พูดมาสิคะ?
?ผมแค่จะบอกหน้าที่ใหม่ของคุณเท่านั้น? เขาบอกเสียงเรียบ ยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก คิ้วสวยขมวดเป็นปมอย่างแปลกใจ
?หน้าที่ใหม่เหรอคะ...?
?ใช่จ้ะ...คุณชายรับหนูเข้าทำงานที่นี่แล้ว? ซูร่ายิ้มให้เธอ เลื่อนมือไปกุมมือบางเอาไว้อย่างเอ็นดู
?จริงเหรอคะป้า? ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างดีใจ เขย่ามือยับย่นของซูร่าอย่างตื่นเต้น ?แล้วฉันต้องทำอะไรบ้างคะ? เธอถามเขาอย่างตื่นเต้น แต่คำตอบของชายหนุ่มทำให้รอยยิ้มของเธอหุบลงทันที
?ดูแลผม?
?ดูแลคุณ? เธอถามออกไปอย่างไม่แน่ใจในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เพราะฐานะระดับเขามีคนดูแลมากมายอยู่แล้ว ทำไมหน้าที่นี้ต้องตกมาที่เธอ
?คุยกันเองนะคะ นมขอตัวไปดูเด็กเตรียมอาหารค่ำก่อน?
วิคเตอร์ประคองมารดาเดินออกจากห้อง ร่างบางวิ่งเข้าไปเกาะแขนนางเอาไว้
?เดี๋ยวค่ะป้า อยู่เป็นเพื่อนขิมก่อนนะคะ?
ซูร่ามองหญิงสาวอย่างเห็นใจ นี่เจ้าตัวจะรู้บ้างไหมนะว่าจอมมารอย่างลีโอนิคถูกใจเข้าให้แล้ว
?ไม่มีอะไรหรอก แล้วเจอกันที่ห้องอาหารจ้ะ?
ซูร่ายิ้มให้กำลังใจก่อนจะเดินออกจากห้อง เมื่อไม่มีทางให้เลือก ขิมจันทร์ก็หันกลับมาเผชิญหน้ากับเจ้าของห้อง
?ฉันต้องทำอะไรบ้างคะ?
?ดูแลผมทุกเรื่อง ยกเว้นห้องนี้ ห้ามคุณเข้ามาเวลาที่ผมไม่อยู่ แต่ถ้ามีนมหรือวิคเตอร์อยู่ด้วยก็เข้ามาได้? เขาบอกน้ำเสียงจริงจัง
?หน้าที่แบบนั้นเป็นหน้าที่ของภรรยานะคุณ ฉันคงทำไม่ได้ ขอเป็นแม่ครัวได้ไหม? เธอต่อรอง
?งานครัวนั่นเธอต้องทำอยู่แล้ว? เขาสวนกลับมา เอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างสบายอารมณ์
?แล้วไอ้ทุกเรื่องของคุณฉันต้องไปนอนกับคุณด้วยรึเปล่า? เธอถามออกไปแล้วก็แทบจะกัดลิ้นตัวเอง ดวงตาคมแพรวพราวมองเธออย่างชอบใจ
?ได้ไหมล่ะ??
ร่างสูงเดินอ้อมโต๊ะตัวใหญ่มาหาเธอ ขิมจันทร์รีบถอยไปชนผนังห้อง ดวงตากลมโตมองเขาอย่างหวั่นวิตก
?ไม่ได้ค่ะ ฉันมาทำงานไม่ได้มาขายตัว? เธอรีบปฏิเสธเขาเสียงสั่น เบี่ยงตัวออกมาด้านข้าง หากลำแขนแข็งแรงทั้งสองข้างกักเธอเอาไว้ ร่างแกร่งแนบชิดเข้ามาใกล้ ลมหายใจอุ่นๆ เป่ารดซอกคอขาว มือบางยกขึ้นกั้นเขาไว้อัตโนมัติ
?เคยขายมาแล้วไม่ใช่เหรอ ขายให้ผมอีกคนจะเป็นไร? เขายิ้มนัยน์ตาพราว จมูกโด่งก้มลงมาคลอเคลียใบหน้าสวย
?ฉันไม่เคย...ขะ...?
เธอพูดได้เพียงเท่านั้นริมฝีปากอุ่นก็ฉกวูบลงมาครอบครองริมฝีปากบาง ลำแขนแกร่งลดลงมาเกี่ยวเอวคอดแล้วรั้งเข้ามาแนบชิดกายแกร่งจนเธอไม่มีสิทธิ์ดิ้นหนี ริมฝีปากร้อนผ่าวบดขยี้เรียวปากอิ่มอย่างดูดดื่ม ขิมจันทร์ส่งเสียงร้องอึกอักอยู่ในลำคอ ปลายลิ้นร้อนสอดเข้าไปหาความหอมหวานที่ซ่อนอยู่ข้างใน ซึ่งเขาสัมผัสมาแล้วเมื่อเช้าว่าหอมหวานเพียงใด ร่างบางเริ่มยืนไม่อยู่ วาบหวามไปกับรสจูบเร่าร้อนของชายหนุ่ม ดวงตากลมใสหลับพริ้มอ่อนระทวยในวงแขนแกร่ง
ลีโอนิคจูบไซ้ดูดดื่มความหอมหวานจากริมฝีปากอิ่มเนิ่นนานจนพอใจ ก่อนจะเลื่อนมาซุกซบซอกคอขาวผ่องของเธออย่างหลงใหล มือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วร่างเต่งตึงของกายสาว จนร่างบางสั่นสะท้านส่ายหน้าหนีปากและจมูกอันแสนร้ายกาจของเขา
?บริการผมหน่อย? เขากระซิบบอกเสียงสั่นพร่า สายตาคมมองแก้มเนียนระเรื่อ แล้วฝังจมูกจุมพิตไปทั่วดวงหน้าอย่างเร้าอารมณ์ มือหนาลูบไล้แผ่นหลังบาง ริมฝีปากร้อนวกมาจุมพิตเธออย่างดูดดื่มอีกครั้ง
ขณะที่ปลายนิ้วแกร่งแอบปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่เจ้าตัวก็ไม่รู้ มารู้อีกทีก็ต่อเมื่อฝ่ามือหนาเคล้นคลึงทรวงอกงามที่อัดแน่นอยู่ในยกทรงตัวจิ๋ว หญิงสาวครางออกมาอย่างเสียวซ่านอารมณ์วาบหวามรัญจวนของคนทั้งคู่ ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเคาะประตูจากคนข้างนอก หากชายหนุ่มก็ไม่สนใจ ยังคงซุกไซ้ซอกคอขาวอยู่อย่างนั้น
?พอ...แล้วนะคะ...? เธอบอกเสียงสั่น ดันร่างสูงออกห่าง ลีโอนิคครางออกมาอย่างขัดใจถอนใบหน้าออกจากซอกคอของเธออย่างเสียดาย สายตาคมมองใบหน้าแดงก่ำและริมฝีปากแดงช้ำจากผลงานของตัวเอง ก่อนจะก้มมองทรวงอกอวบอิ่มขาวนวลตรงหน้า เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาอีกครั้งอย่างเกรงใจ
?ปล่อยค่ะ...ฉันจะไปเปิดประตู...?
?เรายังอธิบายหน้าที่กันอยู่เลยนี่นา? เขาบอกเสียงนุ่มลูบไล้แก้มปลั่งเบาๆ
?ไม่ต้องแล้วค่ะ ฉันเข้าใจชัดเจนแล้วและหน้าที่บ้าๆ แบบนี้ฉันก็ไม่ขอทำด้วย? เธอบอกสีหน้าไม่พอใจ
?ลองกล้าขัดคำสั่งสิ จะทำให้ร้องไม่ออก? เขาขู่นัยน์ตาไหวระริก ริมฝีปากได้รูปคลี่ยิ้ม เมื่อได้รับค้อนงามๆ จากเธอ
?ปล่อยค่ะ จะไปเปิดประตู?
?ดูตัวเองก่อนสิว่าน่ามองขนาดไหน หรือชอบโชว์ให้คนอื่นเขาเห็น? เขาบอกเสียงเข้ม ใบหน้าบึ้งตึงขึ้นมาอย่างไม่พอใจนัก มือใหญ่ดันแผ่นหลังบางเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะเดินไปเปิดประตู
วิคเตอร์ยืนสบตานายหนุ่มอยู่หน้าห้อง ใบหน้าคมนิ่งเรียบเหมือนเคย
?บอสแอนโทนี่กลับมาแล้วครับ ตอนนี้รอบอสที่ห้องอาหาร?
?เดี๋ยวฉันลงไป? พูดจบลีโอนิคก็ปิดประตูทันทีเมื่อเห็นขิมจันทร์เดินออกจากห้องน้ำ เพราะไม่แน่ใจว่าเธออยู่ในสภาพเรียบร้อยหรือยัง ร่างสูงเดินตรงเข้ามาหา ขิมจันทร์ตาโต ถอยหนีไปอยู่หลังโต๊ะทำงาน
?อย่าเข้ามานะ?
?อะไรกันแม่คุณ เมื่อกี้ยังแลกจูบกันอยู่เลย ตอนนี้ทำเป็นกลัวไปได้? เขาเอ่ยแววตาล้อเลียน รู้สึกสมองปลอดโปร่งมีความสุขมากกว่าทุกวัน
?ไม่ต้องมาพูดให้อายเลยนะ?
?ไม่เอาน่า ไปทานข้าวกันดีกว่าผมหิวแล้ว?
?คุณหิวก็ไปทานสิ ฉันจะไปทานข้าวกับป้าซูร่า? เธอบอกพลางถอยหนีเขาไปรอบห้อง
?นั่งกินข้าวกับผมก็เป็นหนึ่งในหน้าที่ของคุณ? เขาสั่งพร้อมกับก้าวยาวสองสามก้าวก็ถึงตัวหญิงสาว ขิมจันทร์ส่งเสียงร้องอย่างตกใจดิ้นออกจากวงแขนแกร่ง ทำเอาชายหนุ่มรูปหล่ออีกคนที่นั่งรออยู่ข้างล่างหัวเราะออกมา
?สงสัยลูกชายคนโตของนมคงไม่กินข้าวแล้วมั้ง แต่กินไก่แทน...ฮ่าๆ? แอนโทนี่หัวเราะออกมาอย่างถูกใจ ซูร่าจึงตีลำแขนแกร่งเบาๆ
?คุณชายเล็กจะทานข้าวเลยไหมคะ? ซูร่าเอ่ยถามชายหนุ่มเสียงนุ่มนวล
?ดีเหมือนกัน คิดถึงอาหารฝีมือนมจะแย่อยู่แล้ว นี่ถ้าแต่งงานผมส่งเมียมาฝึกทำกับข้าวกับนมได้ไหม?
?เจอคนที่ใช่แล้วเหรอคะ?
?ยังหรอกนม พูดเผื่อไว้ ผมยังรักชีวิตโสดอยู่ ไม่อยากหาห่วงมาผูกคอเหมือนพี่ใหญ่หรอก? แอนโทนี่ตอบยิ้มๆ พลางตักกับข้าวน่าตาน่าทานเข้าปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
***
ตอนเช้าเด็กรับใช้วิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากห้องนอนทางปีกซ้ายของตัวคฤหาสน์ ซูร่าสบตาขิมจันทร์ที่ยืนจัดโต๊ะอาหารเช้าอยู่ข้างๆ ก่อนจะหันไปถามเด็กสาวที่ยืนตัวสั่นอยู่ที่หน้าประตู
?เกิดอะไรขึ้นลิซ่า?
?คุณชายใหญ่ให้มาตามคุณขิมไปพบค่ะคุณนม? เด็กสาวนามลิซ่าบอกหน้าตาตื่น ขิมจันทร์ถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างอ่อนใจกับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย
?คุณชายใหญ่อาละวาดแบบนี้บ่อยไหมคะป้า? ขิมจันทร์ถามออกมาอย่างเกรงใจอยู่ในที สายตามองขึ้นไปชั้นบนเหมือนจะมองทะลุไปถึงห้องนอนของคนเอาแต่ใจ
?เวลาถูกขัดใจเท่านั้นแหละค่ะ...ป้าว่ารีบไปดีกว่าก่อนที่จะโมโหมากกว่านี้? ร่างบางในชุดกระโปรงบาน มีผ้ากันเปื้อนสีเดียวกับชุดอยู่ด้านหน้าทำแก้มป่องก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป
หญิงสาวเดินมาหยุดหน้าประตูบานใหญ่แกะสลักลวดลายงามวิจิตร แล้วสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดก่อนจะยกมือเคาะประตูขออนุญาตเข้าไปในห้อง
?เข้ามา? เสียงห้วนของคนที่อยู่ข้างในบอกอารมณ์คนพูดได้อย่างชัดเจนว่าไม่พอใจมากเพียงใดขิมจันทร์มองร่างสูงสวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้มยืนเช็ดผมอยู่กลางห้อง เจ้าของห้องชำเลืองมองร่างบางอารมณ์ดีขึ้นกว่าเมื่อสักครู่
?ทำไมถึงชอบขัดคำสั่ง?
?คำสั่งไหนคะ คุณสั่งตั้งหลายอย่างจนฉันจำแทบไม่ได้? เธอบอกหน้าตาย ใบหน้าคมเคร่งขรึมขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
?อย่าแกล้งโง่ในขณะที่คุณเองก็รู้ว่าผมหมายถึงอะไร ถ้าพรุ่งนี้ยังจำไม่ได้ผมจะช่วยทบทวนให้ทั้งคืนเลยดีไหม คุณจะได้ทั้งจดทั้งจำ? เขาขู่แววตาจริงจังจนเธอเริ่มใจไม่ดี กลัวว่าเขาจะทำอย่างที่พูดจริงๆ แล้วเธอจะรอดมือเข้าไปได้ยังไงกัน
?ว้าย...? เธออุทานยกมือปิดหน้าเมื่อชายหนุ่มถอดเสื้อคลุมโยนไว้บนเตียง ลีโอนิคเดินเข้ามาชิดร่างบางก้มลงจูบแก้มแดงระเรื่อแรงๆ
?ลืมตาได้แล้ว ไปหยิบเสื้อในตู้ให้หน่อย? เขากระซิบบอกเสียงนุ่ม ขิมจันทร์ลืมตามองเขา...อีตาบ้า มีผ้าเช็ดตัวอยู่ก็ไม่บอก พวงแก้มอิ่มแดงระเรื่อเมื่อมองมัดกล้ามเป็นลอนๆ ไร้ไขมันของเขาลีโอนิคหัวเราะเบาๆ กับท่าทางกระฟัดกระเฟียดของเธอ มือบางหยิบเสื้อทำงานออกจากตู้ยื่นให้เขา
?ใส่ให้ด้วยสิ? เขาสั่งสั้นๆ หญิงสาวจำต้องจับแขนเขาสอดเข้าไปในแขนเสื้อเชิ้ตแล้วติดกระดุมให้ ลำแขนแข็งแรงพาดไปบนเอวคอด ดวงตาคมก้มมองริมฝีปากอิ่มที่เม้มแน่นจนเขากลัวว่าเธอจะเจ็บ ผิวแก้มปลั่งแดงระเรื่อกลิ่นกายหอมละมุนลอยเข้ามา จนเขาอดใจไม่ไหวก้มไปจูบริมฝีปากอิ่มแผ่วเบาในตอนแรก แล้วกดลงหนักๆ จูบเธออย่างดูดดื่มรับอรุณ ลิ้นสากตวัดพันลิ้นของเธอไปมา หญิงสาวใจเต้นโครมครามหมดเรี่ยวแรงจะต่อต้านเขาอีกจนได้สัมผัสความเร่าร้อนที่แผ่ออกมาจากตัวชายหนุ่ม ทำเอาเธอหนาวๆ ร้อนๆ ราวคนจับไข้
?ไม่เคยจูบรับอรุณหวานขนาดนี้มาก่อนเลยให้ตายสิ? เขาถอนริมฝีปากออกกระซิบบอกเธอเสียงพร่า มือเล็กทุบไปบนอกแกร่งแรงๆ อย่างขัดเขิน
?พรุ่งนี้เช้าถ้าขัดคำสั่งอีก รู้ใช่ไหมว่าจะเป็นยังไง? เขาบอกแววตาพราวระยับ ก่อนจะคลายอ้อมแขนออก หญิงสาวสบตาคมอย่างขัดเคือง
?เจ้าค่ะ...มีอะไรจะสั่งอีกไหมเจ้าคะ...? เธอถามอย่างประชดประชัน
?ถ้ามีเพิ่มจะบอก? เขาหลิ่วตาให้อย่างล้อเลียน ก่อนจะดึงเธอเดินออกจากห้องตรงไปยังห้องอาหารที่อยู่ชั้นล่าง
แอนโทนี่จ้องมองไก่ข้างทางของพี่ชายไม่วางตา
?อรุณสวัสดิ์สาวน้อย? เขายิ้มทักทายอย่างอารมณ์ดี ผิดกับคนเป็นพี่ที่กระแทกก้นกับเก้าอี้แรงๆ เมื่อเห็นหญิงสาวยิ้มหวานส่งให้น้องชาย
?อรุณสวัสดิ์ค่ะ? ว่าแล้วเธอก็เลื่อนเก้าอี้ให้เขาอย่างรู้หน้าที่ ยิ่งทำให้ใบหน้าคมเข้มผิดจากน้องชายบึ้งตึงกว่าเดิม ร่างบางเดินไปรินกาแฟด้วยท่าทางคล่องแคล่ว แอนโทนี่เอียงตัวไปกระซิบถามพี่ชายอย่างครึ้มใจ
?ไก่นาย...สวย...น่ารักมาก ฉันขอได้ไหม?
?ไม่ได้? ลีโอนิคบอกเสียงห้วนสีหน้าบอกบุญไม่รับ
?หวงซะด้วย? แอนโทนี่อมยิ้ม มองใบหน้าหวานของหญิงสาวพลางยกกาแฟขึ้นจิบ
?แล้วจะไปเมืองไทยเมื่อไหร่? ลีโอนิคเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อเบนความสนใจน้องชาย
?พรุ่งนี้เช้า เที่ยวนี้คงไปหลายวัน เพราะมีงานโชว์เครื่องเพชรที่กรุงเทพฯ ด้วย?
?คุณชายเล็กจะไปเมืองไทยเหรอคะ?
?ใช่?คุณจะขอกลับด้วยรึไง? แอนโทนี่ชำเลืองมองหน้าคมเข้มของพี่ชาย
?เอ่อ...ฉันยังไม่มีเงินค่าตั๋วเครื่องบินหรอกค่ะ ฉันแค่อยากฝากจดหมายไปส่งที่เมืองไทยเท่านั้นเอง?
เธอบอกประกายตาเรืองรอง ป่านนี้เกษราน้องสาวของเธอคงไม่สบายใจ ตั้งแต่มารัสเซียเธอยังไม่มีโอกาสส่งข่าวให้รู้เลย ไหนจะเรื่องป้าของเธอที่ติดการพนันชอบสร้างหนี้ ให้เธอและน้องสาวถูกเจ้าหนี้ตามทวงเป็นประจำนั่นอีก



**************************************************************************************************************
?ลีโนอิค? ทายาทตระกูลดังผู้มีชื่อติดอันดับหนึ่งในสิบของบุคคลทรงอิทธิพลในโลก รอบกายเขารายล้อมไปด้วยสาวสวยมากเสน่ห์ที่พร้อมทอดกายและมอบใจให้ ทว่าเขาจะไม่เคยยกย่องสตรีใดเป็นที่หนึ่งในดวงใจเลยจนกระทั่งเขาได้มาพบกับสาวไทยคนนี้ และเขาก็ได้รู้ว่า ?ขิมจันทร์? เป็นนางนกต่อที่ถูกบังคับมาทำลายชื่อเสียงของเขา บทลงโทษคนที่กล้าหยามเขาไม่เคยพ้นจากความตายและขิมจันทร์ก็เช่นกัน ลีโอนิคทรมานหล่อนด้วยพิษรักและแรงปรารถนาที่ลุกโชนตลอดเวลาที่เขาให้หล่อนพูดความจริง ทว่าคำตอบจากหญิงสาวถูกกลืนหายลงไปในลำคอเมื่อริมฝีปากอุ่นบดเคล้าจนแทบละลายเป็นเนื้อเดียวกัน


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”