รุ่งอรุณในกรุงเทพมหานครยังเป็นอะไรแบบเดิมๆ ที่ทุกคนตื่นเช้ามาด้วยความเร่งรีบแล้วออกไปผจญกับรถติด กว่าจะฝ่าการจราจรถึงที่ทำงานก็พาเอาเหนื่อยหน่าย และทั้งที่เช้านี้ยังเป็นเหมือนทุกเช้า ผู้คนมากมายต่างเร่งรีบ หากแต่สำหรับชายหนุ่มคนหนึ่งนั้น...เช้านี้คือหายนะ
ณ ย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องสถานบันเทิงครบวงจร ในเวลาเช้าๆ เช่นนี้ผู้คนมากมายมักหลับใหล ร้านรวงพากันปิดให้บริการ แต่ในโรงแรมขนาดกลางแห่งหนึ่งกำลังมีเสียงโวยวายดังมาจากห้องพัก
?โอ๊ย!!! เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นวะ!?
เจ้าของเสียงตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวอย่างหนักจนต้องยกมือกุมขมับ ก่อนจะพบว่าตัวเองกำลังนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงนอนที่ยับยู่ราวกับผ่านสมรภูมิร้อนมาค่อนคืน แต่เมื่อหันไปมองที่นอนข้างๆ กลับเหลือเพียง...ความว่างเปล่า
?เมื่อคืนถูกบอกเลิกเลยออกไปกินเหล้ากับพวกไอ้ป๊อป แล้วเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น...? บุรินทร์ หรือบุ๊คพยายามไล่หาความทรงจำสุดท้าย ทว่าพอคิดย้อนกลับไป สิ่งที่เห็นมีเพียงภาพของสาวคนรักที่สลัดรักอย่างไม่ไยดีด้วยเหตุผลเฮงซวย
?ทำไมบุ๊คซื้อกระเป๋าให้เราไม่ได้?
ทวงหาของแบรนด์เนมกับผู้ชายอายุสิบแปดที่ยังต้องแบมือขอเงินพ่อแม่นี่เอาอะไรมาคิดวะเนี่ย!
?ให้ตายเถอะ ถ้าไม่เห็นว่าสวยก็ไม่คิดจะเอาเหมือนกัน แล้วที่ไม่มีปัญญาซื้อให้ก็บอกแล้วว่าแม่สั่งระงับบัตรเครดิต!?
ชายหนุ่มถอนหายใจหนักๆ เมื่อนึกย้อนเหตุการณ์ก่อนถูกสลัดรัก
มารดาสุดที่รักซึ่งอยู่เชียงรายโทรมาด่าเขาชนิดที่หูโทรศัพท์แทบไหม้ เพราะรายการซื้อของยาวเหยียดที่ถูกส่งตรงไปที่บ้าน ทั้งที่ลูกชายสุดสวาทขาดใจเพิ่งจะผละจากอ้อมอกแม่มาเรียนที่กรุงเทพมหานครได้แค่สองเดือน ดังนั้นคุณเธอจึงยื่นประกาศิตว่า...
?ฉันจะระงับบัตรของแกจนกว่าแกจะคิดเป็น แล้วอย่าหวังว่าฉันจะโอนเงินไปให้แกมากกว่านี้ ถ้ายังไม่ถึงสิ้นเดือนอย่าคิดแม้แต่จะโทรมา เข้าใจไหมไอ้ลูกเวร!?
เรื่องมันก็เป็นเช่นนั้นแล
?จากนั้นเราก็หิ้วผู้หญิงมานอน...หรือเปล่าวะ? บุรินทร์ถามตัวเองอีกครั้งอย่างสารภาพตรงๆ ว่าจำไม่ได้ ก่อนจะกวาดตามองไปรอบห้องแล้วพบว่าสภาพของมันเล่าเรื่องราวได้เป็นอย่างดี
หมอนไปทาง ผ้าห่มไปทาง แม้กระทั่งถุงยางอนามัยยังอยู่อีกทาง แถมตั้งสองอันแน่ะ บ่งบอกว่าคงเร่าร้อนถึงใจอยู่หลายรอบ
?เออ ช่างเหอะ อย่างน้อยก็มีคนปลอบใจ แล้วที่จำได้ก็ค่อนข้าง...เด็ด?
ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง เพราะแม้จะจำไม่ได้ว่านอนกับใคร ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ความรู้สึกซ่านในอกยังไม่จางหายไปไหน และเหมือนจะทำให้อาการเจ็บใจจากการถูกทิ้งกระเตื้องขึ้นมาหน่อยจึงลุกขึ้นบิดขี้เกียจ แต่แล้วสายตาก็หันไปปะทะกับ...
?เฮ้ย!!!?
กระเป๋าเงินที่มีเงินก้อนสุดท้ายสำหรับใช้จ่ายเดือนนี้หล่นอยู่ข้างเตียงจนต้องกระโจนเข้าไปหา และเปิดมันออกอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ตอนจับบุรินทร์ก็รับรู้แล้วว่าหายนะของจริงกำลังมาเยือน...
?อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!!!!?
เสียงร้องโหยหวนดังก้องไปทั่วทั้งห้องพัก ขณะที่ชายหนุ่มในสภาพเปลือยเปล่าทรุดฮวบลงไปทุบพื้นดังปังๆ ด้วยความเจ็บใจ น้ำตาลูกผู้ชายที่เขาว่าห้ามไหลก็กำลังปริ่มๆ ตา เมื่อพบว่ากระเป๋าที่เคยมีเงินอยู่เกือบหมื่นเหลือเพียง...แบงก์สีเขียวๆ สองใบ
สี่สิบบาท เหลือเงินอยู่แค่สี่สิบบาท!
บุรินทร์คิดในใจอย่างโกรธจัด พลางขยุ้มกระเป๋าเงินแบนๆ ไว้แน่นยามที่กวาดสายตามองไปรอบห้องอย่างแค้นเคือง
?อย่าให้รู้เชียวนะว่ายัยนี่เป็นใคร จะฆ่าหมกส้วมแล้วเอาไปทำปุ๋ยคอก!!!?
สาวทิ้ง บัตรเครดิตใช้ไม่ได้ นอนกับสาวที่ไหนก็ไม่รู้ แถมยังถูกสาวเจ้าเอาเงินไปหมดตัว...ซวยกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!
?ฮ่าๆๆๆๆ อะไรนะ ว่าอีกทีดิ๊! โดนสาวล้วง โอ๊ย ไอ้บุ๊คเอ๊ยไอ้บุ๊ค ไอ้หนุ่มหล่อประจำมหาวิทยาลัย ตอนนี้ชีวิตช่างน่าสงสาร?
?ขำมากไปแล้ว ไอ้โน้ต?
หลังจากที่ตื่นเช้ามาด้วยสภาพแบบคนเมา (หายนะ) บุรินทร์ก็ได้แต่กลั้นใจโทรตามเพื่อนสนิทให้มาช่วยจ่ายค่าโรงแรมก่อนที่เขาจะออกไปไม่ได้ ซึ่งพอมันรู้เรื่อง มาถึงมันก็มองหน้า...แล้วหัวเราะลั่นชนิดที่เขาแทบเอาหน้ามุดหมอนมุดผ้าห่ม หรือหายตัวไปจากตรงนี้ได้เลย
?โอ๊ย มันขำ มันขำจริงๆ นะไอ้บุ๊ค ขอถ่ายรูปสักใบได้ไหม แล้วเดี๋ยวลงไปจ่ายเงินค่าห้องให้เลย? คนฟังอยากจะด่าให้ แต่เครียดเกินกว่าจะห้ามปรามเพื่อนที่ยกกล้องโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป เขาทำได้แต่ถอนหายใจในสภาพเสื้อผ้ายับยู่เพราะยังใส่ชุดที่มาเที่ยวตั้งแต่เมื่อคืน
กระทั่งเพื่อนสนิทอย่างไอ้โน้ต หรือนฤทธิ์พอใจกับภาพถ่ายสุดอนาถของเขาแล้ว มันก็ก้าวนำลงไปยังชั้นล่าง ตรงดิ่งไปยังฟรอนต์เพื่อพบว่า...
?คุณลูกค้าที่มาอีกท่านจัดการจ่ายให้เรียบร้อยแล้วค่ะ?
?อื้อหือ นางแมวของแกก็ยังมีน้ำใจนะไอ้บุ๊ค?
?กรอด!?
ทว่าคนฟังกลับกำหมัดแน่น โกรธจนใบหน้าหล่อๆ แดงจัด ยิ่งพานให้นึกถึงค่าใช้จ่ายของเดือนนี้ที่หายวับไปกับตา เขาไม่นึกดีใจเลยสักนิดที่สาวเจ้ายอมทำตัวเป็นคนดีจ่ายเงินค่าห้องกับเหลือเงินค่ารถกลับบ้านให้ เพราะแบบนี้รังแต่จะทำให้โกรธจนอยากหักคอจิ้มน้ำพริกซะมากกว่า
?แล้วหลังจากนี้จะเอาอย่างไร? คราวนี้นฤทธิ์หันมาถามให้คนฟังนิ่งไปหน่อย
?กลับหอ เดี๋ยวค่อยว่ากัน อย่างมากก็โทรไปตื๊อแม่อีกที อาจจะได้มาสักพันสองพันไว้กินข้าวกันตาย?
?ฮ่าๆๆๆ งั้นแปลว่าเดือนนี้นายบุ๊คจอมเที่ยวจะไม่เสเพลสินะ? เพื่อนสนิทแซวอย่างขบขัน ทำท่าลูบปลายคางแล้วพยักหน้ากับตัวเอง
?เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันพาไปที่ดีๆ ดีกว่า?
?ไปไหน? คนที่อยากกลับหอใจจะขาดหันมามองเพื่อนด้วยความหงุดหงิด นฤทธิ์จึงตบบ่าอีกฝ่าย พลางยกยิ้มเจ้าเล่ห์และบอกว่า...
?ไปทำให้แกกลับมามีโชคน่ะสิ?
แม้บุรินทร์จะอยากรู้แทบตายว่ามันหมายถึงอะไร ทว่าร่างสูงก็ทำได้แค่เดินตามเพื่อนไปอย่างทำอะไรไม่ได้ เพราะว่า...ถ้าไม่ได้มันที่มีรถพากลับหอ เงินสี่สิบบาทที่จะเหลือไว้กินข้าวเย็นนี้ก็ไม่มีเหลือน่ะสิ
?ที่นี่เนี่ยนะไอ้โน้ต ที่นี่เนี่ยนะ!!!?
เวลานี้ คนดวงหายนะกำลังแหงนคอมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ก่อนจะหันกลับมามองเพื่อนสนิทที่กำลังยิ้มกริ่มอย่างมั่นใจ ทั้งยังทำท่าผายมือไปยัง...ต้นตะเคียนคู่
ไม่ใช่ต้นตะเคียนคู่ธรรมดาด้วยนะ แต่เป็นต้นไม้ใหญ่ที่ผูกผ้าสามสีล้อมรอบ ข้างหน้ามีโต๊ะสักการบูชา พร้อมทั้งควันธูปตลบอบอวลไปทั่ว อีกมุมหนึ่งมีนางรำรับจ้างแก้บนนั่งสงบเสงี่ยมรอลูกค้า แถมทั้งแผงนั้นยังขายของบูชาเจ้านางตะเคียนคู่อีกยาวเหยียด แล้วแบบนี้จะไม่ให้บุรินทร์อึ้งได้อย่างไรล่ะ
?ที่นี่เนี่ยล่ะไอ้บุ๊ค...เจ้าแม่ตะเคียนคู่ ขึ้นชื่อเรื่องหาคู่ให้คน?
?หาคู่!??
ตอนนี้บุรินทร์ทั้งขำทั้งฉิว แต่ไม่รู้ว่าจะแสดงออกอย่างไรดีเมื่อเพื่อนสนิทหน้าตาดูมากหลักการเชื่อ...เอ่อ...อะไรแบบนี้
?เออ แกไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่เชียวนะ ที่นี่แหละ ถ้าแกดวงกุดเพราะผู้หญิง แกก็บอกเจ้าแม่ไปเลยว่าตอนนี้เจอแต่คนเลวๆ ทั้งโลภมาก ทั้งล้วงเงิน ขอคนดีๆ มาทำให้ชีวิตดีก็ไม่เสียหาย...?
?ฉันไม่เชื่อ!?
ยังไม่ทันที่เพื่อนจะพูดจบ บุรินทร์ก็แทรกขึ้นมาทันที ทั้งยังส่ายหน้าแรงๆ มองต้นไม้สองต้นด้วยแววตาไม่เชื่อถือไปจนถึงดูหมิ่นเล็กๆ
?เฮ้ย อย่าดูถูกเจ้าแม่เชียวนะเว้ย แกยิ่งดวงกุดๆ อยู่ เดี๋ยวก็ถูกผู้หญิงที่ไหนขับสิบล้อเสยหรอก?
ตลกมากเลยครับ
บุรินทร์คิดพลางกลอกตาไปมา ตอนนี้รู้สึกทั้งปวดหัว เมื่อยตัว และครั่นเนื้อครั่นตัวเพราะกลิ่นธูปเริ่มเล่นงานจนอยากกลับหอให้เร็วที่สุด ดังนั้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาจึงตัดปัญหาด้วยการยกมือไหว้ท่วมหัว
?ถ้าเจ้าแม่ศักดิ์สิทธิ์จริงหรือไม่จริงก็ช่างเถอะ ขอให้ผมเจอคนดีๆ ที่ทำให้ชีวิตไม่เฮงซวยแบบนี้ก็พอ แน่จริงก็ส่งมาสักคนสิ ผมจะรอดูว่าเจ้าแม่ศักดิ์สิทธิ์แค่ไหน โอมเพี้ยง!!!? ชายหนุ่มว่าด้วยความคะนอง ก่อนหันมาสบตาเพื่อนที่นิ่งอึ้งไปแล้ว
?เฮ้ย ไอ้บุ๊ค ไม่มีใครสั่งใครสอนหรือวะว่าห้ามลบหลู่ นี่ถ้าเจ้าแม่โกรธจะทำไง?
?อ้าว ก็ไหนว่าศักดิ์สิทธิ์จริงไง ถ้าศักดิ์สิทธิ์จริงถึงจะขอแบบไหนก็ต้องช่วยได้สิวะ...แล้วพอใจหรือยัง ฉันอยากกลับหอจะแย่แล้ว?
เมื่อเห็นว่าคนถึงคราวเคราะห์หนักไม่เชื่อ แถมหากยังอยู่ที่นี่อาจจะลบหลู่มากกว่านี้จนชีวิตมีอันเป็นไป นฤทธิ์ก็ถอนหายใจ แล้วเดินนำกลับไปที่รถพลางบอกเจ้าแม่ในใจ
อย่าเล่นมันหนักนะครับ มันไม่ได้ตั้งใจ
ทว่าผู้ชายอีกคนกลับไม่สนใจความห่วงใยของเพื่อน คิดเพียงแค่จะเอาชีวิตรอดอย่างไรในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้ และลืมเลือนเรื่องที่ตัวเองไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เสียสนิท
แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน บุรินทร์ก็ได้รับรู้ว่า...อย่าดูหมิ่นอะไรพล่อยๆ
ฝันที่ 1
แวบ
ใคร...ใครอยู่ตรงนั้น
บรรยากาศรอบด้านมืดสลัวราวกับแสงไฟถูกหรี่ลง ดวงตารู้สึกถึงความพร่ามัวจนมองไม่ชัดเจน อีกทั้งเงาร่างของอะไรบางอย่างที่เดินผ่านหน้าก็ทำให้ต้องสะบัดหน้าไปมอง ก่อนจะเจอเพียงความว่างเปล่า เขารู้สึกหัวสมองมึนงง ริมฝีปากอ้าออกเพื่อเปล่งเสียง แต่กลับไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา
ฟึ่บ
แต่แล้วเงานั้นก็แวบผ่านทางหางตา จนต้องหันกลับไปมอง
ใครกัน...รอด้วยสิ...รอด้วย
สองขาพยายามก้าวตามเงานั้น หากแต่ไร้เรี่ยวแรง เขารู้สึกได้ถึงความไม่มั่นคงในแต่ละก้าว พื้นก็ไหวยวบยาบเหมือนพุดดิ้งนิ่มๆ จนเดินไม่ตรง สองมือพยายามเอื้อมไปตรงหน้าเพื่อไขว่คว้าหาร่างนั้น
อึดอัด หายใจไม่ออก...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
การหายใจแต่ละครั้งช่างยากลำบากจนหัวใจเต้นถี่แรง จิตใต้สำนึกของเขาบอกว่าคนตรงหน้า...เงาตรงหน้าเป็นเพียงอย่างเดียวที่จะช่วยเขาเอาไว้ได้
รอด้วย...รอผมด้วย...อย่าเพิ่งไป...ช่วยผม...
หมับ
ในที่สุดมือของเขาที่ไขว่คว้าออกไปก็จับชายเสื้อของร่างนั้นได้ หากแต่ไม่รู้ว่าเสื้อตัวนี้สีอะไร รู้เพียงว่าได้กลิ่นหอมๆ ลอยมาแตะจมูกทำให้ความอึดอัดบรรเทาลง
เขาไล่สายตาที่พร่ามัวมองขึ้นไปยังสะโพกสวยใต้กางเกงรัดรูป เอวเล็กคอดที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อตัวใหญ่ แผ่นอก...ที่คาดด้วยผ้าสามสี
เฮือก!!!
?เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!?
โครม!!!
?อูยยย~?
ทันทีที่สายตาหยุดลงที่แผ่นอก คนมองก็ผวาเฮือกไปด้านหลังด้วยความกลัว ส่งผลให้ร่างที่นอนอยู่บนเตียงนุ่มกลิ้งหลุนๆ ตกลงมาดังโครม ดวงตาที่ขยุกขยิกมาพักใหญ่ๆ ลืมขึ้น มือยกขึ้นจับหัวด้วยความเจ็บ ปากร้องเบาๆ ยามรับรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
?หอ? บุรินทร์พึมพำออกมาเสียงเบา ลืมตามองเพดานที่เห็นมันมากว่าสองเดือนอย่างงุนงงในยามแรก ก่อนจะพยุงร่างอ่อนปวกเปียกขึ้นมานั่งพลางลูบก้นป้อยๆ สมองเริ่มกลับมาทำงานเพื่อพบว่าเขา...ฝัน
?ฝันบ้าอะไรวะ!?
ชายหนุ่มยังคงจับหัวด้วยความเจ็บ กลัวว่าสมองจะพิการไปพร้อมกับสถานะทางการเงิน ตามด้วยก้มมองสภาพตัวเองซึ่งอเนจอนาถไม่น้อย
นอนละเมอจนตกเตียง...บ้า บ้าไปแล้ว ไอ้บุ๊คเนี่ยนะจะนอนละเมอตกเตียง
หากแต่มีหลักฐานอยู่ชัดเจน คือการที่ตัวเองยังนอนหมดแรงอยู่ข้างเตียง ดังนั้นร่างสูงจึงเริ่มย้อนความทรงจำ
เมื่อวันก่อนไอ้โน้ตมาส่ง แถมยังใจดีเลี้ยงข้าว (แต่หัวเราะเยาะแทบตาย) เพราะรู้ว่าเพื่อนหมดเนื้อหมดตัว จากนั้นก็โทรหามารดาสุดที่รักเพื่อได้ฟังเพียงเสียงเพลงรอสายสมัยสุนทราภรณ์อยู่สิบรอบเศษๆ ก็ยังมีคนใจร้ายไม่ยอมรับสายลูก พอเครียดจัดก็เลยอาบน้ำ นั่งเล่นเกม และพอล้มตัวลงนอนก็...ฝัน
?ฝันบ้าอะไรวะ จำได้แค่ผ้าสามสีเนี่ยล่ะ ความผิดไอ้โน้ตเลยที่พาไปที่อย่างนั้น? ชายหนุ่มส่ายหน้าช้าๆ ปัดไล่ความฝันออกไปจากสมอง แล้วยันตัวลุกขึ้นด้วยความปวดก้นกบ เดินกะเผลกๆ ไปอาบน้ำเพราะว่าวันนี้เป็น...วันจันทร์
มันหมายความว่า...ต้องไปเรียน
?น้องบุ๊คทำเงินหายหรือ แล้วจะทำอย่างไรเนี่ย?
?ครับ ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน?
เวลานี้ ผู้ชายที่ดูไม่ได้เมื่อวานกลับกลายเป็นคนละคน
หากเมื่อวานสภาพเหมือนคนเมายา ตาคล้ำๆ ลึกๆ โหลๆ วันนี้นายบุรินทร์ก็กลับมาแจ่มใสสมกับตำแหน่งเดือนคณะได้อย่างสมภาคภูมิ
นายบุรินทร์ หรือน้องบุ๊คของเหล่ารุ่นพี่ และไอ้หล่อสำหรับรุ่นเดียวกันมีกรอบหน้าคมเข้ม ดวงตาคมที่ปลายชี้ขึ้นหน่อยๆ คิ้วเข้มหนา จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากบางสีแดงจัดชนิดผู้หญิงยังอาย เมื่อกอปรกับร่างสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรและรูปร่างอย่างนักกีฬา ผู้ชายคนนี้ก็ทำให้สาวหลงได้ง่ายๆ
นอกจากนั้น ไอ้นิสัยเพลย์บอยนิดๆ แบดบอยหน่อยๆ ก็ทำให้หลายคนพากันอยากจะพิชิตใจหนุ่มหล่อรายนี้ หากแต่ก็ต้องร้องว้ากันเป็นทิวแถว เมื่อเจ้าตัวดันไปตกลงคบหากับดาวคณะตึกฝั่งตรงข้ามเมื่อเดือนก่อน ทว่าข่าวล่ามาแรงจากฝั่งสาวเจ้าที่ว่า ?ทิ้ง? พ่อหนุ่มหล่อไปแล้ว ก็ทำเอาเหล่าค่างบ่างชะนีพากันกรูมาหาคนกลับมาโสดอีกครั้ง
แล้วพอมีคนกรูกันมาแสดงความเสียใจ บุรินทร์ก็เริ่มต้นเรียกคะแนนความสงสารด้วยการเล่าว่าเมื่อคืนไปกินเหล้าย้อมใจแล้ว...ถูกล้วงเงิน
ตัดความจริงที่ว่าหิ้วสาวไปนอน แล้วถูกสาวล้วงออกไปเถอะ เสียหน้าตายชักเลย
?ผมโดนไปเกือบหมื่น นี่ยังไม่รู้เลยว่าจะหาเงินกินข้าวจากไหน? ชายหนุ่มว่าด้วยใบหน้าเศร้าสลด ให้คนรอบข้างยิ่งพากันสงสาร
?งั้นไปกินข้าวกับพวกเรา เดี๋ยวพวกเราเลี้ยงเอง?
?ไม่ๆๆ ไปกับพวกพี่ดีกว่า น้องบุ๊คอยากกินอะไร เดี๋ยวพี่จัดให้เลยจ้า?
?เฮ้ย บุ๊คไปกับพวกเราดีกว่า เดี๋ยวบ่ายนี้ก็กลับมาเรียนพร้อมกันไง?
หลากหลายเสียงของสาวๆ ที่อาสาขอเลี้ยงข้าวทำให้คนฟังลอบยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่ยังคงเล่นละครเรียกเรตติ้งต่อไป
?จะดีหรือ เกรงใจเปล่าๆ?
?เกรงจงเกรงใจอะไร ไปด้วยกันนี่ล่ะ รุ่นน้องลำบากพี่ต้องช่วยสิ?
?จะดีหรือครับพี่?
?เฮ้ย ไม่ไปนี่โกรธนะ?
?งั้นก็...ตกลงครับ? บุรินทร์ว่าพลางยิ้มกว้างส่งให้ทุกคน ใครจะเลี้ยงข้าวก็ไม่สนล่ะ สี่สิบบาทในกระเป๋านี่เก็บไว้จนถึงคราวจำเป็นจริงๆ เท่านั้น โชคดีเท่าไรแล้วที่เงินค่าหอ มารดาจัดการโอนส่งตรงถึงเจ้าของหอ ก็เลยรอดพ้นวิกฤติไม่มีที่อยู่อาศัย
แม้จริงๆ จะเป็นเพราะแม่ไม่เชื่อว่าเขาจะเอาเงินมาจ่ายค่าหอ แต่เอาไปเที่ยวเตร่แทนก็เถอะ ทว่าก็ถือว่าช่วยได้มากแล้ว
?ตอแหลจริงๆ?
?ยังไม่ชินหรือไง ไอ้บุ๊คก็แบบนี้ประจำ ฉันว่านะที่ทิพย์เลิกกับมันอาจจะไม่ใช่แค่เพราะมันไม่มีปัญญาซื้อของให้หรอก น่าจะเพราะนิสัยมันด้วยเนี่ยล่ะ? ณ อีกมุมหนึ่งนฤทธิ์ก็กำลังคุยกับเพื่อนสนิทอีกคน...กฤษณ์
สองหนุ่มต่างสไตล์ที่สนิทกันได้อย่างไรก็ไม่รู้
ขณะที่นฤทธิ์ใส่แว่นกรอบใสดูคงแก่เรียน หากแต่มีรอยยิ้มติดริมฝีปากอยู่เสมอ กฤษณ์ก็เป็นหนุ่มร่างสูงผิวเข้ม เจ้าของใบหน้านิ่งเฉยเหมือนไม่สนใจโลก
เมื่อบวกบุรินทร์เข้าไปอีกคน ก็กลายเป็นเพื่อนสนิทสามคนสามสไตล์ ที่บังเอิญโคจรมาเจอกันในงานรับน้องจนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุด
เวลานี้สองเพื่อนซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะอีกตัวใต้ตึกวิศวกรรมศาสตร์กำลังมองไอ้คนดวงกุดที่อย่างไรก็ยังมีดวงเรื่องผู้หญิงไม่เคยขาด
?ฉันล่ะสงสัยจริงๆ ว่าไอ้บุ๊คเข็ดหรือยัง เมื่อวานเห็นทำหน้าอย่างกับปลาจวด มาวันนี้กลับมาดี๊ด๊าอีกแล้ว? นฤทธิ์ส่ายหน้าพลางสร้างคำถามให้เพื่อนสนิทที่นั่งเล่นเกมอยู่เหลือบสายตาไปมองคนที่ถูกพูดถึง ก่อนจะพยักหน้า
?อย่างมันไม่เข็ดหรอก เพราะมันยังไม่เคยหลงใคร แต่ฉันว่าถ้ามันหลงสักที มันคงไปไหนไม่รอด?
?อ้าว แล้วทิพย์ล่ะ? ชื่อของแฟนเก่านายบุรินทร์ถูกหยิบยกขึ้นมาในหัวข้อสนทนา ทว่าคนหน้านิ่งเพียงโคลงหัว
?ต่างฝ่ายต่างมีผลประโยชน์...ไอ้บุ๊คได้ชื่อว่าหนุ่มหล่อสุดเพอร์เฟกต์ ที่คบกับสาวสวยดาวมหา?ลัย ก็เพราะควงไปไหนมีแต่คนอิจฉา ส่วนทิพย์...อย่าให้ฉันพูดให้ผู้หญิงเสียเลย เห็นๆ กันอยู่ว่าคบกับไอ้บุ๊คทำไม? คำตอบยาวเหยียดชวนให้คนฟังพยักหน้าอย่างเห็นด้วย พลางนึกถึงแฟนเก่าเพื่อน
ก็สวย...หุ่นดี...เรียนเก่ง แต่นิสัย...ก็ช่างมันเถอะถ้าจะสวยขนาดนั้น
เหตุผลข้อหลังคงเป็นข้อเดียวที่ทำให้ไอ้เพื่อนสนิทเลือกคบกับทางนั้นนั่นแหละ
?ว่าแต่ ตอนนี้บุ๊คก็โสดแล้วน่ะสิ? คำถามนี้ทำให้สองเพื่อนหันไปมองอย่างนึกสงสัยว่าคนถูกถามจะตอบว่าอย่างไร ซึ่งถ้าเดาไม่ผิด มันต้องประมาณว่า...ใช่ครับ ไม่รู้จะมีคนมาดามใจหรือเปล่า
?อืม แต่เรายังไม่อยากคบกับใครหรอกนะ แผลใจมันใหญ่เกินไป?
ไอ้บุ๊คเนี่ยนะแผลใจใหญ่เกิน แผลเท่าแมวข่วนยังไม่มีเลยมั้ง
คน (แอบ) ฟังทั้งสองหันมามองหน้ากัน ก่อนมองเพื่อนที่กำลังเรียกร้องคะแนนเห็นใจว่าตัวเองถูกทิ้งบ้างล่ะ เจ็บมากบ้างล่ะ คงจะมองใครไม่ได้อีกสักพักบ้างล่ะ แล้วแทนที่จะทำให้สาวๆ สลายกลุ่ม ไม่เลย แต่ละคนกลับกรี๊ดกร๊าดชอบใจ บอกว่าเป็นโสดให้แทะต่อไปก็ดี
กระทั่งตกลงนัดหมายหาคนเลี้ยงข้าวได้แล้ว นายบุรินทร์ก็เดินกลับมาหาเพื่อนที่นั่งรอเรียนกันอยู่
?เมื่อกี้ฉันฟังผิดหรือเปล่า แกเนี่ยนะแผลใจใหญ่เกิน...ฉันว่าเสียหน้าเกินรับไหวมากกว่า?
?ชู่ววว เงียบสิวะไอ้โน้ต เบาๆ เดี๋ยวก็รู้กันหมดหรอก!? บุรินทร์ทำท่าจุปาก หันซ้ายหันขวาเกรงว่าจะมีใครได้ยิน พอเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในรัศมีการฟังแน่ๆ เจ้าตัวก็รีบกระซิบกระซาบเสียงเบา
?ขืนมีแฟนตอนนี้ฉันก็ตายน่ะสิ ไหนจะค่าของขวัญ ไหนจะค่าพาไปเลี้ยงข้าว ไหนจะค่าเที่ยว โอ๊ย ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่สี่สิบบาทยังจะเอาตัวเองไม่รอดเลย ใครจะหาเหามาใส่หัวล่ะ...ตอนนี้สะดิ้งให้คนเห็นใจแล้วป้อนข้าวฟรีมาให้ดีกว่า? นั่นคือเหตุผลที่แท้จริงของนายบุรินทร์ที่ทำให้กฤษณ์หัวเราะ
?หึๆ ไม่ต่างจากที่คิดเท่าไร ก็ยังถือว่ามีสมองนะ?
?ไม่ต้องมาด่าฉันโง่ นี่ยังเจ็บใจไม่หาย อย่าให้ฉันเจอยัยนั่นเชียวนะ เงินทั้งเดือนของฉันเลย!? ไม่วายเน้นย้ำถึงเรื่องผิดพลาดเมื่อคืนก่อนอีกรอบ
?แล้วแกจะทำไง ให้คนเลี้ยงข้าวทั้งเดือนหรือไง?
?อืม...?
คำถามนั้นทำให้บุรินทร์หันมามองเพื่อน แล้วก็...ฉีกยิ้มที่ทำให้เพื่อนทั้งสองเริ่มขยับตัวถอยห่าง
?มองพวกฉันทำไม?
?ก็แบบ...พวกแกเป็นเพื่อนรักฉันไม่ใช่หรือวะ?
?เพื่อนไม่ใช่แม่? กฤษณ์เอ่ยขึ้นมาเรียบๆ ให้คนที่กำลังทำตาอ้อนเพื่อนชะงัก มองคนที่เอ่ยชัดเจน เพื่อนไม่ใช่แม่...ไม่มีความจำเป็นต้องออกเงินส่งเสียเลี้ยงดูแม้จะเป็นแค่ข้าวก็ตาม
?หึๆ พูดถูกใจ เดี๋ยวเย็นนี้ฉันเลี้ยงข้าวแกเอง? นฤทธิ์ก็ว่าอย่างขบขัน สะใจ๊สะใจที่เห็นหน้าซีดๆ ของคนไม่มีตังค์กินข้าว บุรินทร์จึงกัดฟันกรอด
?ฉันโทรไปขอเจ๊ก็ได้วะ!?
?ก่อนได้ตังค์คงโดนด่าจนหูยาน? นฤทธิ์ว่าพลางนึกถึงพี่สาวของเพื่อนสนิทที่แต่งงานมาอยู่กรุงเทพมหานคร เขาเคยเจออยู่ครั้งหนึ่ง พี่แกบ่นได้ชนิดไม่หยุดพักหายใจ ขนาดที่ว่าไอ้บุรินทร์ขออยู่หอดีกว่าไปอยู่บ้านพี่ แม้จะอยู่ฟรีกินฟรีก็ตาม
?โดนด่า แต่ไม่ตายก็ช่างมันเถอะ? สุดท้ายคนจนตรอกก็คอตก รู้สึกว่าชีวิตกำลังตกอยู่ในขั้นซวยบรม อย่างที่บอกเลยว่าจะไม่หาใครมาเป็นภาระในชีวิตอีกสักพัก
ไม่สิ จนกว่าแม่จะโอนเงินเดือนหน้ามาให้...ล่ะนะ
?น้องบุ๊ค ทางนี้ๆ?
ภายในโรงอาหาร หลังจากที่บุรินทร์พยายามตื๊อให้เพื่อนมากินข้าวด้วยกันอยู่พักใหญ่ๆ แต่ถูกปฏิเสธอย่างไม่ไยดี เจ้าตัวก็ต้องมาปั้นหน้ายิ้ม ทำตัวเป็นหนุ่มเฟรนด์ลี่ทั้งที่ในใจกำลังอยู่ในช่วงฟูมฟาย เขากวาดสายตามองหารุ่นพี่ที่รับปากว่าจะเลี้ยงข้าว จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกแหลมๆ จากอีกมุมหนึ่งจึงหันไปมอง
พลั่ก
?โอ๊ย!?
ทว่าจังหวะนั้นเองเขาก็กระแทกเข้ากับใครคนหนึ่งซึ่งเดินกลับโต๊ะพร้อมข้าวราดแกงจานใหญ่ จนอีกฝ่ายร้องออกมาอย่างตกใจ แต่คนทางนี้...
?บ้าฉิบ!?
ชายหนุ่มสบถออกมาเบาๆ เมื่อก้มหน้าลงแล้วพบว่าตอนนี้เสื้อนักศึกษามีเศษแกงเขียวหวานไก่กระฉอกมาเลอะจากแรงกระแทกเมื่อครู่ บวกกับความหงุดหงิดที่สั่งสมมาตลอดหลายวัน เจ้าตัวเลยเงยหน้าขึ้นด้วยความไม่พอใจ
?หัดเดินดูทางบ้างสิ!? บุรินทร์ตวาดออกไปพร้อมกับมองอีกฝ่าย แต่แล้วก็เป็นต้องชะงักซะเอง ขณะที่อีกคนสะดุ้งสุดตัว
น่ารักว่ะ
เป็นความคิดที่ทำให้เจ้าตัวสะบัดหัวไล่ความคิดออกไป เพราะคนน่ารักที่เขาเห็นเป็น...ผู้ชาย
?ขะ...ขอโทษ...ขอตัวนะ...?
หมับ
?เฮ้ย ไปกันดื้อๆ แบบนี้หรือ เห็นไหมว่าเลอะไปทั้งตัวแล้ว? พออีกฝ่ายจะหนี คนหงุดหงิดก็ว่าเสียงเข้มขึ้นมาทันที ทั้งยังจับข้อมือคนหนีเอาไว้แน่นจนฝ่ายนั้นถึงกับสะดุ้งโหยงให้เขาต้องขมวดคิ้วมุ่น
จะกลัวอะไรกันนักกันหนา แล้วหน้านี่จะก้มมองหาเศษเหรียญหรือไงวะ
?น้องบุ๊คเป็นไงบ้าง อื้อหือ เลอะเสื้อไปเยอะเลยนะเนี่ย?
แต่ก่อนที่บุรินทร์จะเอาเรื่องมากกว่านี้ รุ่นพี่ที่พุ่งตรงเข้ามาเพราะเห็นท่าไม่ดีก็ร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นสภาพรุ่นน้อง บุรินทร์จึงพยายามปั้นยิ้มกว้าง ในใจท่องเพียง...
ข้าวเที่ยงฟรี ข้าวเที่ยงฟรีโว้ย
?ไม่เป็นไรครับพี่ ล้างก็ออก พวกพี่ไปนั่งกันก่อนเลยดีกว่า เดี๋ยวผมตามไป ส่วนนาย...มานี่เลย? ว่าจบก็ลากคนทำเลอะให้ไปด้วยกัน จนทางนั้นเบิกตากว้าง พยายามจะดิ้นหนีด้วยหน้าซีดๆ หากแต่สู้แรงคนตัวโตกว่าที่ยึดจานใบนั้นไม่ได้ บุรินทร์วางจานลงที่โต๊ะตัวหนึ่งอย่างลวกๆ แล้วกระชากอีกคนให้ไปที่ห้องน้ำชายด้วยกัน
?ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!?
?ไม่...ก็นายทำฉันเลอะ!?
?ใครกันแน่ที่ทำเลอะ นายต่างหากที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ!?
?โห อย่ามาป้ายความผิด ก็เห็นๆ อยู่ว่าใครเป็นคนผิด? คนทางนี้เองก็ไม่ยอม ใส่ร้าย ปรักปรำ ยัดเยียดข้อหาเต็มที่ จนอีกฝ่ายกัดฟันกรอด พยายามดึงมือออกจากการเกาะกุม แต่ก็ทำไม่ได้ กระทั่งถูกลากเข้ามาในห้องน้ำชายได้นั่นแหละ บุรินทร์ถึงยอมปล่อย
?ล้างออกให้เลย!?
ตอนนี้ขอหาที่ระบายความหงุดหงิดก่อนเถอะ!
หากเป็นเวลาอื่น ร่างสูงคงไม่ทำตัวงี่เง่าแบบนี้ แต่หลังจากเจออะไรหนักๆ มาตั้งแต่เมื่อวันก่อน เขาเลยขอทำตัวนิสัยเสีย หาทางทำให้คนอื่นหงุดหงิดตาม แล้วจะมีอะไรดีไปกว่าหาเหยื่อที่ไม่รู้จักมักจี่ ทั้งยังไม่มีผลกับหน้าตาและชื่อเสียงของตัวเอง
หน้าตาแบบนี้ไม่ใช่เด็กวิศวะฯ ชัวร์
จากความคิดที่มั่นใจ ทำให้ชายหนุ่มจัดการดึงชายเสื้อนักศึกษาแล้วยื่นให้คนตรงหน้าที่เม้มปากแน่น ทำท่าเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อเขาไปด้วย
?มองหน้าแบบนี้แปลว่าจะไม่รับผิดชอบ?
?ทีนายยังไม่รับผิดชอบเลย!?
?หืม รับผิดชอบ?...ให้ฉันรับผิดชอบอะไร? คนปากหาเรื่องว่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เพราะเห็นๆ อยู่ว่าใครต้องรับผิดชอบใคร อีกฝ่ายจึงขบกรามแน่น ทำท่าเหมือนอยากจะสวนหมัดเข้าที่หน้าเขาสักทีสองที แต่นั่นไม่ได้ทำให้บุรินทร์รู้สึกว่ามันน่ากลัวสักนิด
ตรงกันข้าม...ผู้ชายจริงหรือเปล่า น่ารักไปนะ
คิดพลางมองคนที่กระชากชายเสื้อเขาตรงไปยังอ่างล้างมือ เปิดน้ำเสียงดังลั่น แล้วแทนที่จะเอาน้ำลูบดีๆ กลับ...
ฟึ่บ
?เฮ้ย เปียกหมด!?
?ก็จะให้รับผิดชอบไม่ใช่หรือไง นี่ไง ทำให้แล้ว!? ไม่ว่าเปล่า ยังออกแรงขยี้เสื้อที่เอาไปสู้กับสายน้ำจนน้ำกระเด็นไปทั่ว และแม้ว่าน้ำจะกระเด็นไปโดนอีกฝ่าย แต่เจ้าตัวกลับไม่สนใจ นอกจากขยี้เสื้อแรงๆ เหมือนแค้นเขามาตั้งแต่ชาติปางก่อน
แต่มองอย่างไร...ก็ไม่เห็นน่ากลัว
บุรินทร์มองคนที่เขาว่าน่ารักตรงๆ...ผู้ชายที่สูงแค่คางของเขา คนที่สวมแว่นตากลมๆ คล้ายตัวการ์ตูนสมัยเด็ก หากแต่มันไม่ได้ทำให้ดูเอ๋อหรือดูไม่ดีเลยสักนิด ตรงกันข้ามเสียอีก ไอ้แก้มใสๆ ปากแดงๆ แบบปากนิดจมูกหน่อยนั่นเข้ากับแว่นกลมได้อย่างน่าประหลาด และมันทำให้ดวงตาดู...อะไรนะ...แบ๊วอย่างไม่น่าเชื่อ
ใช่ๆ ผู้ชายอะไรดูแบ๊วมาก
ซ่าาา
?เฮ้ย นี่มันเปียกมาถึงกางเกงแล้วนะ!!!? แต่แล้วความคิดนี้ก็หลุดลอยไป เมื่อสายน้ำเย็นกระเซ็นมาถึงกางเกงและทำท่าว่าทั้งเสื้อทั้งกางเกงจะเปียกแฉะไปด้วย ทว่าคนที่เป็นตัวการกลับหันมาจ้องเขาอย่างไม่ชอบหน้า
?สมน้ำหน้า!?
?เฮ้ย หาเรื่องกันหรือ?
?ใครกันแน่ที่หาเรื่อง นายต่างหากที่หาเรื่องฉันก่อน!? หนุ่มแว่นว่าเสียงหนัก พร้อมสะบัดชายเสื้อที่ช่วยซักให้ จนมันตีกลับมาที่ตัวของบุรินทร์ พานให้ชายหนุ่มสะดุ้ง เพราะแม้ตอนนี้คราบเขียวๆ จะหายไป แต่มันกลับทิ้งน้ำเย็นๆ เอาไว้ชนิดเปียกโชก
?โอ้โห มีใส่ร้าย?
กึด
บุรินทร์ถึงกับชะงัก เมื่อคนที่พยายามเถียงเขาเริ่มกัดปากตัวเองแน่น สองมือกำเข้าหากัน อีกทั้งดวงตายังปริ่มๆ น้ำให้เขาพอรู้ตัวว่า...ท่าทางจะเล่นมากไป
?พอใจแล้วหรือยัง!!? น้ำเสียงเหมือนจะโมโหจนปรอทแตก ทำให้คนฟังส่ายหน้า
?ยัง...แล้วจะทำอย่างไรกับเสื้อเปียกๆ นี่...?
ตุบ
?เฮ้ย!? พูดไม่ทันจบ อะไรนุ่มๆ ก็ลอยมาปะทะหน้าจนบุรินทร์ร้องเบาๆ และจับมันเอาไว้แทบไม่ทัน พอตั้งตัวได้ อีกฝ่ายก็วิ่งหายลับออกไปจากห้องน้ำแล้ว เขาขมวดคิ้วฉับ ก้มลงมองมือตัวเองแล้วพบ...ผ้าเช็ดหน้า
ผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าสดใสที่นุ่มนิ่มน่าจับเหมือนเจ้าของ
?คิดอะไรออกมาวะ? สุดท้ายบุรินทร์ก็ส่ายหน้าแรงๆ จัดการถอดเสื้อออกแล้วบิดให้หมาดอย่างรวดเร็ว เพราะมันคงง่ายกว่าการเอาผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นมาซับน้ำ กว่าจะแห้ง...คงไม่ได้กินข้าวเที่ยง
จากนั้นก็เอาผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น...เก็บลงกระเป๋า
ทว่าพอบุรินทร์ก้าวออกมาจากห้องน้ำ ตั้งใจจะมองหาคนที่ทำให้เสื้อตัวเองเปียกก็พบเพียงจานอาหารที่ถูกวางทิ้งไว้ที่โต๊ะตัวหนึ่ง แต่เจ้าของข้าวหายวับไปไหนแล้วก็ไม่รู้ จึงยักไหล่แล้วเดินไปหากลุ่มรุ่นพี่ที่กินข้าวไปก่อนแล้ว
?อื้อหือ น้องบุ๊ค ตอนแรกสภาพไม่ได้เป็นอย่างนี้นี่? ก็ตอนแรกเลอะแค่แกง แต่นี่เปียกไปทั้งตัว
?เจอเด็กนิสัยไม่ดีแกล้งน่ะครับ? คนพูดว่าด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายใจ หวังจะได้รับความสงสารมากขึ้น หากแต่คนฟังกลับเอ่ยปากถามไปถึงอีกคน
?หมายถึงคนนั้นหรือเปล่า?
?ครับ หน้าตาก็ดูไม่น่าสู้คน แต่เล่นผมซะขนาดนี้เลย?
?ฮ่าๆๆ นั่นไม่ใช่รุ่นเดียวกับบุ๊คหรอกนะ?
?หืม? บุรินทร์ขมวดคิ้วฉับ มองอย่างไม่เชื่อสายตา หลังจากรุ่นพี่คนหนึ่งเอ่ยปากบอก เขานึกย้อนไปถึง...พ่อหนุ่มอาราเล่จอมแบ๊วคนนั้น
?รุ่นพี่หรือครับ!?
?รู้สึกจะเป็นเด็กกายภาพฯ ปีสามมั้ง พี่เคยเรียนด้วยตอนปีหนึ่งน่ะ...คิดว่าจำไม่ผิดหรอก?
คนฟังถึงกับช็อก ตบกระเป๋ากางเกงที่มีผ้าเช็ดหน้าสีสวยอย่างอึ้งๆ คนแบ๊วคนนั้นน่ะหรืออายุมากกว่าเขา
หน้าตาไม่ให้ หุ่นไม่ให้ แถมนิสัยก็เหมือนจะไม่ให้เลยว่าอายุเกินยี่สิบแล้ว
?หน้าเด็กล่ะสิ ตอนเรียนด้วยยังคิดเลยว่า ม.ปลาย หรือเปล่า ประเภทเรียนพาสชั้นอะไรแบบนั้น แต่เห็นว่าจริงๆ ซิ่วมาแล้วปีหนึ่งนะ ว่ากันตามตรงก็เป็นรุ่นพี่ของพวกพี่น่ะ?
ฮะ?
ยิ่งฟัง คนฟังก็ยิ่งค้าง ไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายคนนั้นอายุมากกว่าเขาตั้งสามปี
?ว่าแต่ เขาชื่ออะไรน่ะพี่?
?อืม ชื่ออะไรนะ เดี๋ยวนะ ติดอยู่ที่ริมฝีปาก หนึ่ง...ไม่สิ ไม่ใช่ ชื่อฝรั่งๆ หน่อย? รุ่นพี่ทำท่าคิดหนัก ขณะที่คนฟังก็มองอย่างตั้งใจ ไม่รู้ทำไมถึงอยากรู้นัก อาจจะเพราะติดใจคนตาโตที่อยากงับหัวเขาเล่นก็ได้ แต่พอคิดไปคิดมา ในเมื่อตอนนี้ไม่มีเงินกินข้าว...
หึๆ ทำเสื้อเราเลอะ แบบนี้ต้องไถตังค์กินข้าว!
เวลานี้ หากใครจะหาว่าเลว บุรินทร์ก็ยอม เพราะระหว่างหน้าด้านกับอดตาย ไอ้บุ๊คคนนี้ขอหน้าด้านแล้วกัน
?เออ นึกออกแล้ว ชื่อเฟิร์ส ไอ้เราก็ติดอยู่นั่น ใช่ๆ เฟิร์สที่แปลว่าแรก แปลว่าหนึ่งนั่นแหละ? และพอได้ชื่อเสียงเรียงนามมา คนฟัง...ก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์
?อ้อ พี่เฟิร์สนั่นเอง?
ในเมื่ออารมณ์หงุดหงิดแบบนี้ ไม่อยากลงกับผู้หญิงให้ถูกด่าลับหลัง งั้น...ขอลงกับผู้ชายก็แล้วกัน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เมื่อใดที่ฝันวาบหวามถึงคนที่ไม่ว่าจะเพ่งมองเท่าไรก็ไม่เห็นหน้าสักที ?บุรินทร์? หนุ่มเพลย์บอยที่กลับกลายเป็นยาจกในช่วงข้ามคืนเพราะถูกแม่ระงับบัตรเครดิต และยังถูกล้วงเงินไปเกือบหมดตัว จะได้พบ ?อริย์ธัส? รุ่นพี่ปีสามต่างคณะเสมอ ยิ่งฝันว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนในฝันมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งได้ใกล้ชิดรุ่นพี่คนนี้มากขึ้นเท่านั้น ราวกับโลกแห่งความฝันและโลกแห่งความจริงเชื่อมโยงถึงกัน หรือว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นคนที่เจ้าแม่ตะเคียนคู่ประชดส่งมา เพราะตั้งแต่เขาไปท้าทายอำนาจว่าให้ส่งคนดีๆ ที่ทำให้ชีวิตเขาไม่เฮงซวยอีกต่อไปมาให้ ความฝันเช่นนั้นก็เริ่มต้นและดำเนินเรื่อยมา
