?การถีบผู้อื่นให้ร่วงไปเพื่อผลประโยน์ นับเป็นการกระทำที่แน่นอนในฐานะสิ่งมีชีวิตนี่นา?
คาเรโนะ เคียวอิจิโร่เอ่ยแนวคิดที่ผู้ใหญ่โดยทั่วไปไม่มีทางพูดกับเด็กอย่างเด็ดขาดออกมาเสมือนหนึ่งไร้ซึ่งชีวิตจิตใจ
ดึกสงัด เราอยู่กันสองคนบนเวทีของโรงพละศึกษาที่มืดทึมและน่าขนลุก ม่านดึงลงมาจนสุด พอเป็นเช่นนั้นแล้วพื้นที่ซึ่งปิดทึบอยู่แห่งนี้ก็ชวนให้รู้สึกอึดอัดยิ่งกว่าห้องกรรมการนักเรียนเสียอีก
เวทีที่ปิดม่านลงมาจนสุดช่วยป้องกันเสียงได้เป็นอย่างดี จริงอยู่ที่มันเหมาะกับการพูดคุยกันอย่างลับๆ แบบนี้ แต่ไอ้ความรู้สึกอึดอัดนี่เองก็เลวร้ายไม่แพ้กัน
คงเพราะเตรียมการสำหรับงานวัฒนธรรมอยู่ล่ะมั้ง ด้านข้างเวทีถึงได้มีข้าวของจุกจิกสำหรับการแสดงไม่ก็เครื่องดนตรีที่วงดนตรีจะใช้กันกระจัดกระจายมั่วซั่วไปหมด ถึงอย่างนั้น มีเพียงบนเวทีเท่านั้นที่ดูใหม่เอี่ยมอ่อง ราวกับว่าที่นี่เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ที่จะไม่ยอมให้มีมลทินมาแปดเปื้อนยังไงยังงั้น
ด้วยความที่พื้นที่กว้างขวางก็เลยยิ่งขับเน้นความมืดและความเงียบสงัดให้มากขึ้นไปอีก มีเพียงแสงไฟสีโทนอุ่นดูมัวๆ ซึ่งติดตั้งไว้บนเวทีเท่านั้นที่สาดส่องมายังพวกเราราวกับเป็นยามอาทิตย์อัสดง
ฉันไม่โต้ตอบถ้อยคำของเขาเลยแม้แต่คำเดียว....ทำได้เพียงนิ่งเงียบอยู่เท่านั้น
ตรงกันข้าม คาเรโนะ เคียวอิจิโร่อารมณ์ดีน่าดู
นั่นมันก็แหงล่ะ....
ก็เพราะวันนี้ซึ่งเป็นวันก่อนงานวัฒนธรรม ฉัน....ตัวปัญหาที่ชื่อสึงิซากิ เคนจะต้องออกจากโรงเรียนไปไงล่ะ
....ในฉากไคลแมกซ์ของเรื่องราวช่วงครึ่งปีนี้ของฉันนี่เอง อยู่ดีๆ ฉันก็นึกถึงเรื่องที่แล้วๆ มาขึ้นมาได้ จะบอกว่าเป็นเหมือนการหวนรำลึกเรื่องราวที่ผ่านมาในวินาทีก่อนตายก็ออกจะพูดเกินไป แต่พอมีสถานการณ์ร้ายแรงมาจ่ออยู่ต่อหน้าแล้ว มันก็ทำให้คิดอะไรหลายๆ อย่างขึ้นมาจริงๆ
ไอ้เรื่องกิจการหรือคาเรโนะอะไรนั่น บอกตามตรงว่าจะยังไงก็ช่าง ไม่อยากนึกถึงมันด้วย
เรื่องของโรงเรียนเฮคิโย เรื่องเพื่อนฝูง เรื่องเด็กผู้หญิง....เรื่องกรรมการนักเรียน
สนุกชะมัด ปีที่แล้วทั้งปีซึ่งฉันเกิดความรู้สึกคับข้องใจและดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตายเนี่ยมันก็เต็มที่ดีอยู่หรอก แต่ครึ่งปีนี้หลังจากเข้ามาในคณะกรรมการนักเรียนแล้วนั้น ฉันพึงพอใจกับมันชนิดที่ว่าพอย้อนคิดดูเองแล้วยังตกใจเลย
ถึงแม้ว่าฉันจะต้องเผชิญกับวิกฤตเสี่ยงตายเข้าจริงๆ ก็เถอะ แต่ขอแค่มีความทรงจำนี้อยู่ ฉันก็มั่นใจว่าฉันจะสิ้นลมหายใจด้วยใบหน้ายิ้มแย้มได้ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่น่าสังเวชสักเพียงใดก็ตาม
ที่เขาว่ากันว่าชีวิตประจำวันซึ่งไม่ได้มีอะไรมากมายเลยต่างหากถึงจะมีคุณค่าอะไรนั่นน่ะ แม้แต่ตอนนี้ฉันก็ยังไม่คิดไปถึงขั้นนั้นหรอก อย่างเช่นชีวิตประจำวันแสนอลหม่านในตอนที่ฉันสะลึมสะลือระหว่างเล่นเกมลามกอยู่ที่บ้านจนทำเครื่องดื่มหกใส่ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์เต็มๆ และหน้าจอม่องเท่งไปน่ะ ฉันไม่อาจนึกได้เลยสักนิดว่ามันจะมีค่าอะไร
แต่ว่า....
ครึ่งปีที่ได้ใช้ชีวิตในโรงเรียนแห่งนี้มีคุณค่าอันยากจะหาสิ่งใดมาทดแทนได้อย่างแท้จริง
สมมติว่าแม้จะมีระบบที่สามารถซื้อขายความทรงจำกันได้ก็ตาม แต่มีเพียงความทรงจำนี้เท่านั้นที่ฉันมั่นใจว่าจะไม่ขายไม่ว่าจะสั่งสมมันไว้มากเพียงใดก็ตาม ต่อให้อยู่ในสถานการณ์ที่จวนจะอดตาย ต่อให้มีแต่ต้องขายสิ่งนั้นไปเท่านั้นถึงจะมีชีวิตรอดได้ก็เถอะ แต่ก็เพียงความทรงจำนี้เท่านั้นที่ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้มันหลุดมือไป
ครึ่งปีนี้มันคือชีวิตของฉัน
เพราะอย่างนั้นนี่แหละ
ฉันถึง
สบตาคาเรโนะ เคียวอิจิโร่เขม็ง
แล้วก็....หลังจากนิ่งเงียบอยู่เนิ่นนาน ฉันก็เค้นเสียง....หัวเราะออกมา
?การถีบผู้อื่นให้ร่วงไปเพื่อผลประโยชน์เนี่ย มันก็ของแน่ล่ะนะ?
ฉันละทิ้งสิ่งสำคัญไป
[ตอนที่ 1 ~กรรมการนักเรียนสร้างคาแรกเตอร์~]
?การขัดเกลาเอกลักษณ์ของตัวเองนี่แหละที่จะเป็นทางลัดไปสู่ความสำเร็จ!?
ประธานแอ่นอกเล็กๆ ของตนแล้ววางมาดพูดเรื่องที่อ่านจากหนังสืออะไรสักเล่มอีกตามเคย
ฉันฟังผ่านๆ พร้อมจิบชาเขียวไปพลาง ....เอาล่ะ ล่วงเลยเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงมากขึ้นแล้ว เป็นช่วงที่ของร้อนๆ อร่อยได้ที่เลยทีเดียวเชียว ขนาดฉันคนนี้ผู้เป็นถึงตัวแทนแห่งราคะ....ผู้เชี่ยวชาญด้านเกมลามก สึงิซากิ เคน ยังอยากจะปล่อยตัวตามสบายในช่วงเวลานี้เลย....ถึงขนาดที่ว่าชักจะไม่สนใจแล้วด้วยซ้ำว่าผู้อ่านจะได้อ่านนี่เมื่อไหร่
พอเป็นแบบนั้นแล้ว แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ฉัน แต่วันนี้ทุกคนต่างก็กำลังจิบน้ำชากันอย่างเอื่อยเฉื่อยกันทั้งนั้น
?ฟู่....มาฟุยุจะสงบใจได้มากกว่าในช่วงฤดูกาลที่อากาศหนาวจริงๆ ด้วยล่ะค่ะ?
แม้แต่มาฟุยุจังที่ปกติจะเอาแต่ฟุ้งซ่านเรื่องบอยส์เลิฟอย่างหนักหน่วงเอง วันนี้เธอก็ยังปล่อยตัวตามสบาย นึกแล้วเชียวว่าคนที่ผิวขาว ดูเปราะบาง และมีบรรยากาศโดยรวมดู ?นุ่มนวล? อย่างมาฟุยุจังเนี่ยเหมาะที่จะแสดงอารมณ์แบบนี้เหลือเกิน
?ชาเขียวซึมซ่านไปทั่วร่างกายที่เย็นเฉียบเลยล่ะ....?
แม้แต่มินัตสึ สาวน้อยผมทวินเทลผู้ชื่นชอบกีฬาและเป็นพี่สาวของมาฟุยุจัง ตอนนี้ก็ยังใช้สองมือถือถ้วยชา แล้วปล่อยลมหายใจออกมาดังฟู่
?ชวนให้รู้สึกอ่อนโยนขึ้นมายังไงไม่รู้เนอะ....ฤดูใบไม้ร่วงเนี่ย?
ในที่สุด แม้แต่จิสึรุซัง สาวงามมาดนิ่งผู้แสน S และมีแนวคิดในเชิงทำลายล้างก็ยังสุขสบายใจไปด้วย
แต่ว่า....
?....ไม่ใช่แล้ววววววววววววววววว!?
ประธานโลลิ ซากุระโนะ คุริมุผู้ดูจะเป็นคนเดียวที่ไม่พอใจสถานการณ์นี้กระตุ้นพวกเราพร้อมทำท่าเหมือนกับจะคว่ำโต๊ะ (ไม่กล้าพอจะคว่ำจริง)
หลังจากจิบน้ำชาเขียวอีกอึกหนึ่ง ฉันก็รับมือประธานอย่างเอื่อยเฉื่อย
?มีอะไรไม่ใช่งั้นเหรอครับ?
?ไม่ต้องมาอะรงอะไรเลย! นี่มันอะไรกันน่ะ! กรรมการนักเรียนที่ไม่มีชีวิตชีวาเลยนี่มันอะไรกัน!?
?ก็เหมือนปกติไม่ใช่เหรอครับ ประธานเองก็กินขนมแล้วทำตัวตามสบายอยู่บ่อยๆ นี่นา?
?มะ มันก็ใช่อยู่หรอก! แต่นี่มันออกจะต่างไปนิดหน่อยนะ! มันแห้งเหี่ยวแล้ว! แทนที่จะบอกว่าขี้เกียจ ต้องบอกว่าแห้งเหี่ยวไปแล้วมากกว่า!?
?เสียมารยาท ไม่ว่าเมื่อไหร่ผมก็มีความต้องการทางเพศเต็มเปี่ยมอยู่เสมอแหละครับ....ซู้ดซู้ดซู้ด ฟู่?
?มะ ไม่มีแรงทะเยอทะยานเอาซะเลย สึงิซากิ! ลักษณะความเป็นคาแรกเตอร์ลามกขั้นหนักหน่วงแบบทุกทีจางหายไปแล้วนะ!?
?ไม่เป็นแบบนั้นหรอกคร้าบ อยากขยำหน้าอกจิสึรุซังจังเลย?
พอฉันพูดไปแบบนั้น จิสึรุซังที่อยู่ตรงหน้าก็มองฉันพร้อมพูดว่า ?ตายจริง?
?ถ้าแค่นิดหน่อยล่ะก็ไม่มีปัญหาหรอกจ้ะ คีย์คุง?
?สำเร็จ ดีล่ะ....ฮือ มือยืดไปไม่ถึง เพราะงั้นวันนี้ไม่เอาก็ได้ครับ?
?แหม งั้นเหรอ ฮึฮึฮึ?
?แหะๆ?
?ฮึๆ?
?เหลาะแหละเป็นบ้าาาาาาาาาาาาาาาาาา!?
ประธานตะโกนสุดเสียง
?สะสะ สถานการณ์นี้มันอะไรกันน่ะ! ทั้งสึงิซากิทั้งจิสึรุเหลาะแหละเกินไปแล้ว! เข้าสู่ ?โหมดกรรมการนักเรียนแสนอบอุ่น? ยิ่งกว่าปกติอีก!?
?ตายจริง อากาจัง ความสงบสุขเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมเหนือสิ่งอื่นใดเลยไม่ใช่เหรอ เรามาพยายามสร้างบรรยากาศแบบฮิดามาริ สเก็ตช์ ไม่ก็ ARIA กันเถอะ?
?จิสึรุ เป็นอะไรไปน่ะ! ไม่สมเป็นเธอเลย! แบบนั้นมันไม่ใช่คาแรกเตอร์จิสึรุซะหน่อย!?
?ขอให้โลกสงบสุขไปตลอดด้วยเถิด?
?เอ๋!??
ประธานช็อกและนั่งแหมะลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง ก็จริง เป็นคำพูดที่ไม่สมกับจิสึรุซังเอาเสียเลย....อืม แต่ตอนนี้ที่สำคัญกว่านั้น ชาเนี่ยอร่อยชะมัดเลย เฮ้อ สงบใจจังเลยแฮะ
ข้างๆ ฉัน พี่น้องชีนะเองก็ทำตัวตามสบายอยู่เหมือนกัน
?วันนี้พอกลับบ้านไปแล้วฉันเองก็จะขอแช่อ่างอาบน้ำสบายๆ แล้วพอตอนกลางคืนก็อ่านหนังสือบนเตียงดีกว่าแฮะ....?
?เยี่ยมเลยค่ะพี่ มาฟุยุเองก็....วันนี้จะไม่เล่นเกมหรือเขียนนิยายมากนัก แต่จะปล่อยตัวให้หมกมุ่นอยู่กับดนตรีคลาสสิกพร้อมกินขนมไปพลางค่ะ?
?ฮะๆ?
?ฮึๆ?
?......?
ประธานชำเลืองมองการโต้ตอบของทั้งสองแล้วก็แสดงอาการเหนื่อยหน่าย
?ขืนเป็นแบบนี้....ไม่ได้การแหง?
ประธานพึมพำอะไรบางอย่าง จากนั้นหลังจากที่พึมพำอยู่คนเดียวได้สักพัก....อยู่ดีๆ เธอก็ลุกพรวดขึ้นสุดแรงเกิด!
?ตอนนี้แหละ พวกเราจำเป็นต้องสร้างลักษณะคาแรกเตอร์ให้มันเข้มข้นกว่านี้!?
?ลักษณะคาแรกเตอร์??
ประธานตอบกลับคำถามของฉันว่า ?ใช่แล้วล่ะ!? อย่างมั่นอกมั่นใจเสียเต็มประดา
?อย่างเช่นตอนนี้ ถ้าเอาความหื่นออกไปจากสึงิซากิแล้วก็ไม่เหลืออะไรเลยใช่มั้ยล่ะ?
?คำพูดโหดร้ายนั่นมันอะไรกันน่ะ?
?เช่นเดียวกัน ในตอนนี้ที่มาฟุยุจังไม่มีนิสัยฟุ้งซ่าน มินัตสึไม่เลือดร้อน และจิสึรุไม่มีจิตวิญญาณความ S แล้ว พวกเราแต่ละคนก็เลยจำเป็นต้องแสวงหาบุคลิกแบบใหม่ไงล่ะ!?
?เข้าใจล่ะ เพราะงั้นไม่ว่าจะทำตัวตามสบายสักแค่ไหน ส่วนประกอบที่เรียกว่าความ ?โลลิ? ของประธานก็ไม่มีวี่แววว่าจะหลุดหายไป เลยมีแต่ประธานคนเดียวที่ยังร่าเริงดีเหมือนปกติสินะครับ?
?กะ การวิเคราะห์แบบนั้นน่ะช่างมันเถอะ! เอาเป็นว่าทุกคนควรจะสร้างคาแรกเตอร์แบบใหม่ติดตัวกันเอาไว้นะ!?
?อาวุธป้องกันเนี่ย ถ้าไม่สวมใส่ก็ไม่มีความหมายหรอกนะค้า~?
อยู่ดีๆ มาฟุยุจังก็พึมพำเรื่องแบบนั้นออกมาอย่างเหม่อลอย....วิญญาณหลุดออกจากร่างมากไปจนกลายเป็นชาวบ้านในเกม RPG ไปซะแล้ว.... ก็จริงล่ะนะ ถ้าเอกลักษณ์เฉพาะตัวจืดจางไปขนาดนั้นก็คงจะแย่จริงๆ ล่ะมั้ง
เมื่อเห็นว่าช่วยไม่ได้ ฉันก็เลยตัดสินใจให้ความร่วมมือกับประธานด้วยคน
?แต่บุคลิกมันไม่ใช่สิ่งที่จะสร้างติดตัวกันได้ในเวลาชั่วข้ามคืนนี่นา....?
?ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย อย่างเช่นเรื่องที่ว่าแค่ใส่คำอะไรสักอย่างเติมท้ายประโยคไปก็จะช่วยให้คาแรกเตอร์เข้มข้นขึ้นในอึดใจเดียวเนี่ย ได้รับการยืนยันจากศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยชื่อดังแล้วนะ!?
?ก็สงสัยอยู่หรอกว่าศาสตราจารย์คนนั้นคือใคร แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน ใส่คำเติมท้าย....เหรอครับ?
?ใช่แล้ว! ถ้าสึงิซากิล่ะก็....อย่าง ?กั๊บ? เนี่ยน่าจะเหมาะนะ?
?มันดูโหดร้ายยังไงอยู่นะกั๊บ?
?โอ้! เหมาะเหม็งกว่าที่คิดเอาไว้ซะอีกแน่ะ สึงิซากิ!?
?ไม่เห็นจะดีใจตรงไหนเลยกั๊บ รู้สึกเหมือนผมกลายเป็นคาแรกเตอร์อ้วนฉุไว้หนวดสุดๆ ไปเลยล่ะกั๊บ?
?อื้มๆ ยิ่งฟัง ความแคระแกร็นของสึงิซากิก็ยิ่งแสดงออกผ่านข้อความมากขึ้น เยี่ยมไปเลย?
?งั้นคำเติมท้ายประโยคของประธานใช้เป็นคำว่า ?เมี้ยว? เถอะกั๊บ?
?นั่นน่ะ ผู้เบิกทางเขายิ่งใหญ่เกินไป ไม่ได้หรอก?
?ถ้างั้นก็หมายความว่าต้องคิดหาคำเติมท้ายประโยคที่มันฟังดูโมเอะคำใหม่ๆ สินะ....อ๊ะ กั๊บ?
?ถูกใจคำว่ากั๊บเกินคาดเลยนะ ถ้างั้นฉันจะเติมคำอะไรต่อท้ายดีล่ะ?
?นั่นสินะกั๊บ....ถ้าคิดถึงความแปลกใหม่แล้ว....เอาเป็น ?ฮับ? ที่ดูทอมนิดๆ ดีมั้ยล่ะกั๊บ?
?ไม่ค่อยจะเข้าใจการรับรู้โลกของสึงิซากิสักเท่าไหร่เลยฮับ!?
?โอ้! เหมือนโดนยิงทะลุเข้าที่กลางใจทะแม่งๆ ยังไงไม่รู้เลยล่ะกั๊บ! ความโมเอะแบบใหม่กั๊บ!?
?ไม่อยากโดนเจ้าคนที่พูดกั๊บๆ ตกหลุมรักหรอกนะฮับ!?
?กะ ก๊าบ?
?อ๊ะ จริงด้วย มินัตสึด้ง!?
?เพิ่งจะเคยมีคนมาใช้คำว่า ?ด้ง? เรียกให้เกียรติฉันเป็นครั้งแรกนี่แหละ....?
แม้แต่มินัตสึเองก็โดนลากเข้ามาเอี่ยวด้วย
?จะขอมอบคำเติมท้ายประโยคเป็นของขวัญให้มินัตสึด้วยนะฮับ!?
?แทนที่จะบอกว่าเป็นของขวัญ ฉันรู้สึกว่าก็แค่โดนบังคับให้เข้าไปเอี่ยวด้วยเท่านั้นเองนะ?
?สำหรับมินัตสึก็....นั่นสินะ ขอมอบ ?เคอะ? ให้ฮับ!?
?เป็นคำเติมท้ายที่ดึงความนิยมชมชอบลงเห็นๆ เลยนี่นา!....คะ เคอะ?
อา มินัตสึกลายเป็นคาแรกเตอร์ที่ดูเลวร้ายไปแล้ว เปลี่ยนไปเป็นคาแรกเตอร์ที่น่าจะทำให้แฟนๆ ลดฮวบลงเลยทีเดียว
?คำเติมท้ายประโยคฉันน่ะ ขออันอื่นได้มั้ยเคอะ?
?เป็นคาแรกเตอร์ที่ไม่รู้เลยนะกั๊บว่าพูดหยาบคายหรือสุภาพกันแน่?
?ช่วยพอๆ กันสักทีเถอะนะเคอะ?
?ร่าเริงเข้าไว้เถอะกั๊บ?
?ใช่แล้วล่ะ มินัตสึเพิ่มความมีชาติตระกูลเข้าไปเลยนะฮับ?
?อึก เคอะ?
?....ภาพการพูดคุยที่ห่างไกลจากความเป็นจริงนี่มันอะไรกันคะ?
มาฟุยุจังเฝ้ามองพวกเราด้วยสีหน้าเกร็งเขม็ง....ลองเป็นงี้แล้วล่ะก็ จะลากมาฟุยุจังเข้ามายังนรกขุมนี้ด้วยเลยคอยดู
?มาฟุยุจัง พยายามให้มีแต่ตัวเองเท่านั้นที่อยู่รอดปลอดภัยงั้นเหรอ ไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นหรอกนะกั๊บ?
?พอคนที่พูดกั๊บๆ พูดจาแบบนั้นแล้ว ยิ่งดูเป็นคนชั่วช้าของจริงเลยนะคะ!?
?คึคึคึ....จะทำให้เจ้าแปดเปื้อนเลยกั๊บ....?
?รุ่นพี่ ดูเหมือนตัวร้ายสุดๆ เลย! ไม่เคยเจอพระเอกแบบนั้นมาก่อนเลยค่ะ!?
?เพราะงั้นนะมาฟุยุจัง....ขอมอบ ?ซะเมื่อไหร่? ให้นะกั๊บ?
?คะ คำเติมท้ายที่ลักษณะดูต่างออกไปนิดหน่อยนั่นมันอะไรกันคะ ไม่เอาหรอกค่ะ! ....ซะเมื่อไหร่?
?ถ้าคิดกันตามปกติแล้วก็ดูจะเป็นคำเติมท้ายที่ดีออกนะกั๊บ?
?อึก! นะ นี่มันพูดยากออกนะคะ! ซะเมื่อไหร่!?
?น้ำเสียงเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เลยนะกั๊บ?
?ฮึก แง้! ซะเมื่อไหร่!?
?อา น้องสาวฉันกลายเป็นคาแรกเตอร์ที่ดูทะแม่งๆ ไปซะแล้วสินะเคอะ....?
รู้สึกว่าบทสนทนามันชักจะมั่วซั่วขึ้นเรื่อยๆ แล้วแฮะ เอาเถอะ ถึงฟังแวบเดียวแล้วรู้เลยก็เถอะว่าใครเป็นคนพูดอยู่ แต่ถ้าตัดเรื่องนั้นออกไปแล้วก็มีแต่เสียกับเสียอยู่ดี เลวร้ายชะมัด
แต่ลองเป็นแบบนี้แล้ว ไม่มีทางยอมปล่อยให้มีแค่คนเดียวรอดตัวไปได้ตลอดหรอก
ประธานเผยรอยยิ้มที่ดูซุกซน
?ฮึฮึฮึ....จิสึรุด้ง ฉันจะขอมอบคำเติมท้ายให้เธอด้วยเหมือนกันฮับ!?
?เฮ้อ....กะแล้วว่าต้องมาถึงฉันด้วย?
คงเพราะจิสึรุซังคาดการณ์ไว้แล้วล่ะมั้งว่าสถานการณ์จะเป็นแบบนี้ ก็เลยรับได้โดยไม่มีท่าทีตกใจมากนัก
ประธานใช้ความคิดอย่างหนัก....และแล้วก็เปิดปากพูดด้วยใบหน้ายิ้มแสยะ
?จะขออาจหาญมอบ ?ม้อกคิว? ที่แสนน่ารักให้แก่จิสึรุก็แล้วกันฮับ!?
?....เป็นคำที่ไม่เหมาะกับฉันเห็นๆ เลยนะม้อกคิว?
นะ นี่มันอะไรกัน จิสึรุซังพูด ?ม้อกคิว? เนี่ยนะ....
?นะ น่ารักเกินไปแล้วกั๊บ!?
?ค่ะ! รู้สึกเยี่ยมไปเลยล่ะค่ะรุ่นพี่อากาบะ! ซะเมื่อไหร่!?
มาฟุยุจังใช้คำว่า ?ซะเมื่อไหร่? ได้อย่างช่ำชองเป็นครั้งแรก
จิสึรุซังหัวเราะ ?ฮึๆ?
?ส่วนตัวฉันน่ะ ไม่ว่าจะคำเติมท้ายแบบไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละม้อกคิว?
?อูว....ความนิยมชมชอบเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผิดกับของฉันเลยนะเคอะ?
ก็จริง ของมินัตสึน่ะต่อให้กระเสือกกระสนยังไงก็ไม่มีวี่แววว่าจะน่ารักขึ้นได้เลย
ประธานตัดบทว่า ?เอาล่ะ!?
?ไหนๆ ก็กำหนดคำเติมท้ายของแต่ละคนได้แล้ว งั้นเรามาประชุมเพื่อสร้างคาแรกเตอร์กันต่อเถอะนะฮับ!?
?ดูแมนขึ้นเรื่อยๆ เลยนะกั๊บ ประธาน?
?รู้สึกว่าคาแรกเตอร์ของเคนจะเลวร้ายที่สุดเลยนะเคอะ?
?การประชุมวันนี้ มาฟุยุไม่ค่อยอยากพูดสักเท่าไหร่เลยค่ะ....ซะ ซะเมื่อไหร่?
?ฉันถูกใจคำเติมท้ายนี่ออกนะม้อกคิว?
ดูเหมือนว่านอกจากจิสึรุซังแล้วไม่มีใครดูจะเหมาะเหม็งเลย....แต่ก็เอาเถอะ ขืนเปลี่ยนอีกก็มีแต่จะย่ำแย่หนักเข้าไปใหญ่เท่านั้นเอง
ประธานเริ่มเสนอธีมต่อไป
?ต่อไปคือรูปลักษณ์นะฮับ! โดยเฉพาะตัวละครในไลท์โนเวลที่ภาพประกอบถือเป็นสิ่งสำคัญน่ะ รูปลักษณ์ภายนอกจะควบคุมความนิยมได้มากเลยล่ะฮับ!?
?รูปลักษณ์....งั้นเหรอกั๊บ แต่นั่นมันก็ไม่ใช่อะไรที่ปุบปับจะเปลี่ยนกันได้....?
?จริงอยู่ เรื่องที่เป็นรากฐานเลยเนี่ยมันเปลี่ยนกันไม่ได้ง่ายๆ หรอกฮับ?
?ครับ เรื่องนั้นประธานที่มุมานะดื่มนมทุกวันเองนั่นแหละกั๊บที่ช่วยพิสูจน์ให้เห็น?
?ไม่ต้องพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ได้ฮับ! อะ เอาเป็นว่าถ้าเปลี่ยนร่างกายไม่ได้ เราก็เปลี่ยนแฟชั่นซะสิฮับ! อย่างเช่นเสื้อผ้า ทรงผม ไม่ก็เทรดมาร์ค?
?เข้าใจล่ะ ประมาณว่าพูดถึงมาริโอ้แล้วก็ต้องมีหนวดอะไรงี้สินะ?
?อย่างนั้นแหละ งั้นก่อนอื่นเลย สึงิซากิน่ะ....?
ตอนที่ประธานพูดไปถึงตรงนั้น อยู่ดีๆ มินัตสึก็ยกมือขึ้น จากนั้นมินัตสึก็เอ่ยปากพูดทั้งๆ ที่ไม่ได้โดนถามเลยแท้ๆ
?คิดว่าหัวหนามคงเข้าท่าดีนะเคอะ!?
....ด้วยเหตุนี้ สามนาทีให้หลัง
?....โอ๊ส ข้าคือสึงิซากิ! วันนี้ก็จะต่อสู้กับเจ้าคนที่มันแข็งแกร่งนะกั๊บ!?
?สะ สุดยอด คุมคาแรกเตอร์ไม่อยู่เลยสักนิด ถือกำเนิดชายผู้สำคัญตนผิด....นะเคอะ?
?น้ำเสียงฟังดูกระจอกแท้ๆ มีแต่รูปลักษณ์กับท่าทีเท่านั้นเองนะฮับที่ดูแข็งแกร่ง?
?....ไปเป็นเจ้าบ่าวใครไม่ได้แล้วกั๊บ?
ฉันร้องไห้กระซิกๆ ทั้งที่หัวยังเป็นหนามอยู่ นี่มันช่างเป็นการล่วงเกินทางจิตใจที่โหดร้ายเหลือเกิน
แม้แต่ในระหว่างที่ฉันกำลังหดหู่อยู่ การประชุมก็ยังคงดำเนินต่อไป
?งั้นเราจะกำหนดรูปลักษณ์ของมินัตสึเองนะฮับ?
?ขะ ขอแบบเพลาๆ มือหน่อยนะเคอะ?
?นั่นสินะ....ดีล่ะ งั้นสวมมงกุฎพระราชาของเล่นแสนน่ารักที่ยืมมาจากชมรมการละครนี่ลงไป....?
และแล้ว คาแรกเตอร์ของมินัตสึก็เสร็จสมบูรณ์
?....โอ๊ะโฮะโฮะ ถ้าไม่มีน้ำก็ดื่มไวน์แทนซะสิเคอะ?
?โอะ โอ้....รู้สึกว่าคาแรกเตอร์ที่ชื่อชีนะ มินัตสึของแท้หายไปจากโลกนี้โดยสิ้นเชิงแล้วล่ะฮับ?
?นางเอกแบบนี้ไม่ค่อยอยากพิชิตใจเลยล่ะกั๊บ?
?ธะ โธ่เว้ย....นะเคอะ!?
มินัตสึเองก็ร้องไห้กระซิกๆ ไปด้วย....ถึงจะมาพูดเอาป่านนี้ก็เถอะ แต่แผนงานนี้เนี่ย จริงๆ แล้วไม่ใช่ว่าเรากำลังทำเรื่องโหดร้ายเหลือทนกันอยู่แน่นะ ในอีกแง่ก็นับเป็นการล้างสมองได้เลยทีเดียว
แต่ในเมื่อทำกันมาถึงขั้นนี้แล้วก็หยุดไม่ได้แล้วล่ะ
จะให้โดนเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียวมันก็น่าเจ็บใจ ดังนั้นฉันเลยตัดสินใจลากมาฟุยุจังเข้ามาเอี่ยวด้วย
?เหอะเหอะเหอะ....พอข้าจินตนาการถึงการเปลี่ยนคาแรกเตอร์ของมาฟุยุจังแล้วก็ตื่นเต้นเหลือเกินเลยล่ะกั๊บ!?
?อึก รุ่นพี่ ทำไมถึงลากแต่มาฟุยุเข้าไปพัวพันอยู่เรื่อยเลยล่ะคะ! ซะเมื่อไหร่!?
?ไม่เห็นเป็นไรไปเลยนี่กั๊บ เราต่างฝ่ายต่างก็ชอบพอกันนี่กั๊บ?
?....มาฟุยุ ชักจะไม่เข้าใจแล้วล่ะค่ะว่าหลงชอบรุ่นพี่คนนี้ที่ตรงไหน ซะเมื่อไหร่?
ก็จริง ฉันเองก็ไม่เข้าใจ ผู้ชายที่ทำหัวหนามไม่เข้ากับตัวแถมยังพูดกั๊บๆ เนี่ยมันมีส่วนที่ชวนให้หลงใหลอยู่ตรงไหนกันเหรอ....แต่ตอนนี้เรื่องพรรค์นั้นน่ะจะยังไงก็ช่าง
?งั้นมาฟุยุจังก็....จะขอให้แต่งหน้ากันกุโระและสวมชุด ?คอสเพลย์สาวแกลรุ่นก่อน? นี่ แล้วทำตัว (ให้อิมเมจ) เป็นสาว ม.ปลาย ชาวกรุงผู้สุดแสนจะจัดจ้านนะ?
?อึก เลวร้ายที่สุดเลยค่ะ! ซะเมื่อไหร่!?
แม้จะพูดแบบนั้น แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้ถึงได้มีบรรยากาศแบบที่ว่าถ้าโดนบอกให้ทำ ยังไงซะก็ต้องทำอยู่ดี
สามนาทีผ่านไปหลังจากขอให้เธอเปลี่ยนชุดในห้องกรรมการนักเรียนในระหว่างที่ฉันออกไปข้างนอก และเมื่อฉันกลับเข้าไปในห้อง สิ่งที่เข้ามาในสายตาก็คือ....
?มะ มาฟุยุ รู้สึกคึกคะนองสุดหูรูดไปเลยอ่า กรรมการนักเรียนเนี่ยมันน่าเซ็งเป็ดชะมัด พวกรุ่นพี่เองก็ชวนให้เพลียจิตซะจริงจริ๊ง ซะเมื่อไหร่?
เด็กสาว ม.ปลาย สุดคึกคะนองที่ไม่เหลือเค้าของมาฟุยุจังอีกต่อไปแล้ว!
?เก่าชะมัด! ภาพลักษณ์เป็นแบบวัยรุ่นยุคเก่าถึงขนาดที่น่าจะเก็บเป็นฟอสซิลได้เลยล่ะกั๊บ! แต่แบบนั้นแหละที่กลับชวนให้รู้สึกดี๊ดี!?
?ก็จริงนะฮับที่ว่าให้ความรู้สึกแปลกใหม่สุดๆ ไปเลย?
?น้ำเสียงที่ดูเจือความเขินอายนั่นก็น่ารักเอาการเลยล่ะม้อกคิว?
?อา น้องสาวฉันทำตัวไม่ดีซะแล้วนะเคอะ....?
?....ฮือ รู้สึกเวรี่แบดสุดๆ ไปเลยล่ะค่า ซะเมื่อไหร่?
มาฟุยุจังเองก็ร้องไห้ไปด้วยคน....การปรับคาแรกเตอร์ช่างน่ากลัวยิ่งนัก บั่นทอนกำลังใจผู้คนไปนักต่อนักแล้ว นี่มันน่าจะเอาไปใช้เป็นวิธีการทรมานแบบใหม่ตามองค์กรอย่างพวกสำนักข่าวกรองได้เลยนะเนี่ย
เมื่อสาวแกลกันกุโระผู้แสนบริสุทธิ์นั่งที่แล้ว สายตาของพวกเราก็พุ่งไปยังนักเรียนปีสามทั้งสองคน ประธานที่ดูท่าว่าคงจะรู้สึกได้ถึงวี่แววความไม่สงบสุขรีบชิงตัดหน้าก่อน
?ตะ ต่อไปเราจะเปลี่ยนรูปลักษณ์จิสึรุกันล่ะนะฮับ!?
ส่งตัวเพื่อนสนิทมาให้แล้วก็เปิดแน่บไปซะงั้น....เอาเถอะ ยังไงซะ ประธานเองก็มีชะตากรรมที่จะต้องเป็นแบบนี้เหมือนกันนั่นแหละ
เอาเป็นว่าจะคิดเรื่องการแปลงโฉมจิสึรุซังตามข้อเสนอของประธานก่อนก็แล้วกัน
?กรณีของจิสึรุซังเนี่ย มีบรรยากาศแบบที่ว่าถึงสวมชุดแบบไหนไปก็ไม่น่าแปลกทั้งนั้นเลยนะกั๊บ....?
?ใช่น่ะสิฮับ การจะเอาให้เหนือความคาดหมายเนี่ยมันยากน่าดูเลยล่ะฮับ?
?ก็แม้แต่คำว่าม้อกคิวยังใช้ได้คล่องแคล่วเลยนี่เคอะ?
?งั้นนะงั้น แบบว่ามาฟุยุอยากจะขอเสนอบ้างอะค่า ซะเมื่อไหร่!?
มาฟุยุจังยกมือพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ชวนให้รู้สึกขัดแย้งกับบุคลิกเสียเหลือเกิน จิสึรุซังส่งยิ้มนุ่มนวลไปให้
?ตายจริง หายากนะมอกคิ้ว ก็ดีนะม้อกคิว นานๆ ทีจะขอเอาจริงเพื่อรุ่นน้องผู้แสนน่ารักก็แล้วกันนะม้อกคิว?
?ฮึฮึฮึ คำพูดนั้น....อ๊ะ เอ่อ อย่าได้ลืมเชียวนะค้า ซะเมื่อไหร่?
หลังจากมาฟุยุจังเอ่ยคำพูดที่ราวกับว่าคลังศัพท์ ?สาวแกล? ของตนหมดเกลี้ยงแล้ว เธอก็เข้าประชิดตัวจิสึรุซังพร้อมทำมือขยำๆ ไปด้วย
จากนั้น....
?....มอกคิ้ว ม้อกคิวคิวคิ้ว?
?....สร้างตัวแทนแห่งความโมเอะเสร็จสมบูรณ์ค่ะ อ๊ะ ซะเมื่อไหร่?
มาฟุยุจังปาดเหงื่อ หน้าที่แต่งแบบกันกุโระไว้หลุดนิดหน่อย แต่ว่าพวกเราไม่มีอารมณ์มาจู้จี้เรื่องแบบนั้นแล้ว สายตาของทุกคนล้วนพุ่งไปยังจิสึรุซัง....ไม่สิ สิ่งมีชีวิตสวมชุดตุ๊กตาแสนน่ารักด้วยความเอ็นดู
?พะ พลังทำลายล้างสูงอะไรเยี่ยงนี้กั๊บ....?
ฉันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ตอนนี้จิสึรุซังอยู่ในสภาพที่ห่อหุ้มไปด้วยชุดตุ๊กตารูปสิ่งมีชีวิตที่ดูคล้ายแกะปุกปุยทั้งตัว มีแค่หน้าโผล่ออกมาเท่านั้น และเพื่อให้สมกับคาแรกเตอร์ เธอก็เลยถูกห้ามพูดคำอื่นนอกเหนือจาก ?ม้อกคิว? ....แม้แต่จิสึรุซังเองก็คงจะเขินกับเรื่องนี้ล่ะมั้ง แก้มเธอถึงได้เป็นสีแดงระเรื่อ และนั่นก็ยิ่งไปเร่งเครื่องให้น่ารักหนักขึ้นไปอีก
?การที่จิสึรุแต่งตัวแบบนี้เนี่ย....นับเป็นปาฏิหาริย์เลยล่ะฮับ?
แม้แต่ประธานเองก็โดนความน่ารักนั่นขโมยหัวใจไป ใช่แล้วล่ะ จริงอยู่ที่ว่าชุดนี้ไม่ว่าใครสวมก็น่ารักทั้งนั้น แต่พอเป็นจิสึรุซังสวมแล้วยิ่งให้ความรู้สึกหายากมากขึ้นไปอีกขั้น....จิสึรุซังที่ปกติจะดูเยือกเย็น และบางครั้งยังดูน่ากลัวเลยด้วยซ้ำ....กลับสวมชุดตุ๊กตาแล้วพูดม้อกคิวๆ อยู่เชียวนะ ไม่น่าจะมีมนุษย์หน้าไหนบนโลกนี้ที่ไม่เคลิ้มกับสถานการณ์นี้หรอก
(ภาพประกอบหน้า 25) ปุกปุย นุ่มฟู
?อา....อยากจะกอดให้เต็มไม้เต็มมือ....นะเคอะ?
มินัตสึหลงใหลจิสึรุซังถึงขนาดลืมคาแรกเตอร์ไปเลย ความรู้สึกนั้นฉันเองก็เข้าใจซึ้งถึงแก่นเหมือนกัน
มินัตสึเดินโงนเงนย่างกรายเข้าไปใกล้จิสึรุซังอย่างอดรนทนไม่ไหว
?โมะ ม้อกคิวมอกคิ้ว??
จิสึรุซังที่รู้สึกได้ถึงอันตรายร่นถอยไปเหมือนหวาดหวั่นอยู่นิดหน่อย....แต่ท่าทีแบบนั้นก็กลับยิ่งไปเหนี่ยวไกหนักกว่าเก่า น่ารักเกินไปแล้ว มินัตสึสูญเสียการควบคุมตัวเอง แล้วก็....พุ่งตัวเข้าใส่จิสึรุซังสุดแรงเกิด! จากนั้นก็ใช้ทั้งตัวคลอเคลียจิสึรุซังอย่างสมกับเป็นเธอ!
?นะ นุ่มฟูชะมัดเล้ย....ไม่ใช่สิ นะเคอะ!?
?ม้อกคิวม้อกคิ้ว! โมะ ม้อกคิวม้อกคิวคิ้ว!?
?อา ยิ่งต่อต้านยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่นะเคอะ! ม้วฟ?
?ม้อกคิว....?
พลังแขนของมินัตสึทำเอาจิสึรุซังถึงกับตาลายหมุนติ้ว พร้อมหันมาขอความช่วยเหลือจากฉัน
........
....ไม่ได้ เลือดกำเดาจวนจะกระฉูดแล้ว ขอโทษทีนะจิสึรุซัง มองตรงๆ ไม่ได้เลย
?ม้อกคิว!? ม้อกคิว ม้อกคิว!?
ฉันเมินเสียงร้องโอดครวญ (?) ด้วยความโศกเศร้าเจียนขาดใจ ขอโทษครับ....จิสึรุซัง ขืนผมหันไปทางนั้นตอนนี้ล่ะก็ มีหวังควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้วจู่โจมเข้าใส่แหงเลย ผมต้องก่ออาชญากรรมแน่ๆ เลยครับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ห้องกรรมการนักเรียนแห่งโรงเรียนเอกชนเฮคิโย...ที่นั่นเป็นทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์และวิมานซึ่งจะสามารถเข้าไปได้เฉพาะผู้ที่ได้รับเลือกเท่านั้น แล้วไงเหรอ?
อ๊าก รอก่อนสิคุณลูกค้า ถึงหน้าปกจะเป็นสึงิซากิก็เถอะ แต่ก็อย่าเลิกซื้อเลยน้า...!! ยังไงซะก็เป็นถึงหนุ่มหล่อ (อ้างตัวเองได้อย่างสุดจะน่าบาดใจ) ของเราเชียวนะครับ!
เอ้า ถ้าถือหนังสือเล่มนี้เดินไปถึงเครื่องคิดเงินล่ะก็ จะเกิดเรื่องมหัศจรรย์ขึ้นนะ คุณจะเข้าใจความรู้สึกของนากาเมงุโระ โยชิกิได้นิดหน่อยไงล่ะ...อ้าว เรื่องนั้นมันน่าดีใจตรงไหน! ปล่อยมุกตบมุกเองคนเดียวมันช่างเหงาจับใจ!
แต่เนื้อหาสุดยอดไปเลยนะ น้องสาวของคนคนนั้นโผล่มาบ้างล่ะ ถึงเวลาที่เรื่องนั้นจะยุติลงบ้างล่ะ...เอ๊ะ หาว่าทุกทีก็พูดงี้เหมือนกันงั้นเหรอ ฮะ เฮอะ ต่อให้มาเสียใจเอาภายหลังมันก็สายเกินแก้แล้วนะจะบอกให้!
