?เสร็จสักที!?
ผมเอ่ยพลางยิ้มกว้างด้วยความดีใจ หลังจากที่การห่อของขวัญวันเกิดให้ใครบางคนอย่างประณีตเสร็จสิ้นลงอย่างสวยงาม ช่อดอกคาร์เนชั่นสีขาวถูกวางไว้เคียงคู่กับกล่องของขวัญ ความหมายของมันสื่อถึงความรักอันบริสุทธิ์ ผมออกจะเขินนิดหน่อยที่จงใจเลือกมาแบบนี้ แต่เพราะความจริงใจที่ผมมีให้พีทมันหมายความตามนั้นจริงๆ
ชื่อของผมคือ ?ทานิยามะ ได? ดูจากชื่อแล้วอาจจะคิดว่าผมเป็นคนญี่ปุ่น แต่จริงๆ แล้วผมมีเชื้อสายเป็นคนไทยอยู่ครึ่งหนึ่งในตัว เพียงแต่พ่อผมสนับสนุนให้ลูกทั้งสามคนใช้ชื่อและนามสกุลเป็นญี่ปุ่นเหมือนแม่
พ่อกับแม่ผมหย่าขาดจากกันหลังจากมีผมได้ไม่นาน อาจจะดูแปลกที่เลิกกันหลังจากมีลูกได้สามคน แต่วิถีชีวิตของทั้งคู่ต่างกันเกินไป จะว่างั้นก็ได้ พ่อผมเป็นเชฟ ต้องเดินทางไปตามที่ต่างๆ อยู่ตลอดแล้วแต่งาน ขณะที่แม่ต้องการชีวิตเงียบสงบแบบครอบครัวซึ่งพ่อไม่สามารถให้ได้ เมื่อมีผมไม่นาน ทั้งคู่ก็ตกลงปลงใจที่จะหย่าขาดและแยกกันอยู่
ผมมีพี่น้องอีก 2 คน พี่คนโตคือ ?ทานิยามะ ยูจิ? เรียนอยู่มหาวิทยาลัยในประเทศไทย กำลังขึ้นปีสี่ เขาเรียนคณะบริหารธุรกิจ และดูเหมือนอนาคตกำลังจะรุ่งโรจน์ เพราะแค่ฝึกงานเดือนแรกก็มีบริษัทยักษ์ใหญ่มาจองตัวเขาไปทันที พี่ชายผมหน้าตาหล่อเหลา อีกทั้งกิริยามารยาทก็ดีไม่แพ้ใคร จึงไม่แปลกที่เขาจะได้รับความสนใจ และพี่ผมก็พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าเขาไม่ได้มีดีแค่หน้าตา ผมเองก็ส่งเมลไปแสดงความยินดีเรียบร้อยแล้ว พี่ท่าทางดีใจมากเลยล่ะ
ส่วนคนที่ 2 พี่สาวจอมแสบซ่าของผม ?ทานิยามะ ยูริโกะ? เรียนอยู่มหาวิทยาลัยในประเทศไทย กำลังจะขึ้นปีสาม ยูริโกะเรียนคณะนิเทศศาสตร์ เอกวารสาร เธอชอบขีดๆ เขียนๆ แถมยังเป็นนักเขียนนิยายแนวชายรักชายด้วย! เธอน่ะช่างจิ้นตัวแม่เลย ยูริโกะหน้าตาสะสวย แต่ไม่เห็นจะยอมมีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที เธอทั้งแสบทั้งซน ผมล่ะตั้งตารอให้คนมากำราบพี่สาวคนนี้สักที แต่ดูเหมือนอีกนานกว่าจะมีผู้โชคร้ายแบบนั้นผ่านเข้ามา
ไม่ต้องห่วงว่าครอบครัวเราจะดราม่าเพราะพ่อแม่หย่าร้าง เรามีความสุขดี ถึงทั้งสองจะเลือกทางเดินของตัวเอง แต่พวกท่านก็ทำหน้าที่พ่อแม่ได้ดีแบบไม่มีขาดตกบกพร่องสักนิด ออกจะยอดเยี่ยมด้วยซ้ำ ไม่ต้องห่วงอะไร
ผมอาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่นกับแม่มาตั้งแต่เด็ก แต่พูดไทยได้ชัดแจ๋วเพราะแม่สอน ภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษผมก็คล่องและใช้การได้ดี ตอนนี้ผมเรียนอยู่มัธยมปลาย กำลังจะขึ้นชั้นปีสอง ซึ่งโรงเรียนที่ผมเรียนคือโรงเรียนมัธยมปลาย K ในโตเกียว ผลการเรียนเยี่ยมทุกอย่างใช้ได้ ส่วนเรื่องที่ดีที่สุดตอนนี้สำหรับผม...
คงไม่พ้นความรัก
ผมไม่อยากจะพูดอะไรมาก แฟนของผมก็คือ ?พีท? หรือชื่อเต็มๆ ของเขาคือ ?แพทริซ รูธ อเล็น? พีทเป็นลูกครึ่งอเมริกันกับฝรั่งเศส มีเชื้อสายเป็นญี่ปุ่นหน่อยๆ จากต้นตระกูล หน้าตาเขามาทางเอเชียมากกว่า เส้นผมสีดำสนิท จมูกโด่งเป็นสันสวย คิ้วเข้มรับกับนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มที่งดงามราวกับน้ำทะเลลึก ริมฝีปากได้รูปของเขาเป็นสีเรื่อตามธรรมชาติ เขาใช้ภาษาอังกฤษได้คล่อง ภาษาญี่ปุ่นก็เยี่ยม แถมยังพูดภาษาไทยได้อีกด้วย เพราะเพื่อนสนิทของเขาหลายคนเป็นคนไทย...
บอกตามตรง ถึงพีทจะหล่อมาก แต่ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะอยากอยู่ใกล้เขา ยังไงดีล่ะ ผู้ชายคนนี้มีรังสีอันตรายอยู่รอบตัว แววตาและการแสดงออกของเขามันบ่งบอกถึงความมีอำนาจ และความป่าเถื่อนสูงในตัวเขาได้ดี ถ้าจะเปรียบเทียบ เขาก็เหมือนเสือ ที่คงความน่าเกรงขามและน่ากลัวอยู่ตลอดแม้ว่าจะไม่ใช่ในช่วงเวลาที่กำลังล่าเหยื่อเลยก็ตาม
ผมไม่เคยคิดว่าผมกับพีทจะลงเอยด้วยกันได้เลย แต่เพราะบังเอิญเราสนใจศิลปะเหมือนๆ กัน และผมก็เป็นคนชอบความเร็ว ทุกครั้งที่ว่างผมมักจะโผล่หน้าไปที่สนามแข่ง G สนามแข่งรถดุเดือดแห่งหนึ่งที่วัยรุ่นสุดเถื่อนมาประลองฝีมือกันคับคั่ง ทั้งผู้หญิง ทั้งเงิน ทั้งรถ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์สินเหล่านี้วนเวียนอยู่ในนี้ เปลี่ยนมือไปเรื่อยตามฝีมือของนักแข่ง
เพราะผมชอบฝีมือในการแข่งของพีท เขาดริฟต์รถได้อย่างมืออาชีพและสง่าเกินกว่าที่ใครจะเลียนแบบได้ ผมชื่นชมและเชียร์เขาอย่างออกนอกหน้า แทบจะทุกครั้งที่มีชื่อพีทลงแข่ง ผมมักจะเสนอหน้าไปที่สนามเสมอ และเฮลั่นทุกครั้งที่เห็นรถลัมโบร์กีนีสีดำปราดเปรียวคันเก่งของเขาเข้าเส้นชัยไปก่อนใครเพื่อน!
เหมือนพีทเห็นผมบ่อยจนเริ่มชาชิน พอเจอกันที่โรงเรียนหรือที่ชมรมเขาก็ทักผมบ้าง และต่อมาก็กลายเป็นความสนิทสนม ผมเป็นคนพูดมาก เขาเป็นคนชอบฟัง เพราะฉะนั้นทุกอย่างมันโคตรจะลงตัว
แล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมาพีทก็เป็นฝ่ายสารภาพรักกับผม เขาไม่ได้พูดจาหวานแหวว แค่พูดแบบเป็นสไตล์ตัวเอง นิ่งๆ มองมาทางผมด้วยสายตาที่ทุกคนมองว่าป่าเถื่อนเหมือนเสือร้ายที่รอขย้ำเหยื่อ!
?คบกันมั้ย??
?พะ พูดเล่นหรือเปล่าเนี่ย?
?ฉันไม่ใช่คนชอบพูดเล่น ยิ่งกับเรื่องของความรู้สึก ฉันไม่เคยล้อเล่น?
หัวใจของผมพองโตเหมือนโดนอัดลมเข้าไปทันทีที่ได้ยินคำพูดแบบนั้น ผมเองก็ชอบพีทอยู่ไม่น้อย ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะเป็นโฮโม แต่การอยู่ใกล้ๆ ผู้ชายที่เร่าร้อนทุกองศาอย่างพีทมันทำให้หัวใจผมเต้นรัวเร็ว ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่เคียงข้างเขา บางทีก็เจ็บปวดที่เห็นเขาได้ผู้หญิงเป็นของเดิมพัน ผมเบือนสายตาหนีทุกครั้งที่พีทต้องออกไปหาพวกเธอ
จนกระทั่งมีความผิดปกติเกิดขึ้นในช่วงหลังๆ พีทไม่ค่อยจะยอมรับผู้หญิงเป็นของเดิมพันสักเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าเขาเกิดเป็นคนดีขึ้นมาหรอกนะ เพราะเขาน่ะมันเสือตัวพ่อในวงการ ใครก็รู้กันอยู่ แต่พีทเปลี่ยนเป็นเงิน ไม่ก็อสังหาริมทรัพย์หรือรถแทน พีทบอกว่าความเปลี่ยนแปลงนั้นสาเหตุมาจากสีหน้าย่ำแย่ของผมเท่านั้นเอง...
เขาไม่ได้บังคับให้ผมตอบรับในทันที แต่ขอให้ผมไปทบทวนถึงความสัมพันธ์ระหว่างเราว่าผมเองจะคิดเหมือนเขามั้ย เพราะเขาไม่ชอบความเจ็บปวด หากผมไม่ได้รู้สึกอะไร เขารับรองว่าเขาเป็นลูกผู้ชายพอที่จะไม่ตามราวีหรือทำแย่ๆ ให้ผมรับรักเขาแน่
ผมกลับไปคิดทบทวนตามที่พีทบอก จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจคบกับเขา ไม่ใช่เพราะสงสารเขา ผู้ชายอย่างพีทไม่เคยเป็นผู้ชายที่น่าสงสาร แต่เพราะผมเองก็ชอบเขา
ครั้งหนึ่งพีทพาผมไปสนามแข่ง หลังจากคว้าชัยชนะมาได้เหมือนเคย เขาพาผมกลับไปที่รถลัมโบร์กีนีคันเก่งของเขาที่ผมเคยมองและรู้สึกชอบจนอยากจะนั่งมันสักครั้ง พีทให้ผมได้ยิ่งกว่าคำว่านั่งอีก!
พีทเข้าไปนั่งที่เบาะข้างคนขับ เขาดึงร่างผมให้ถลาเข้าไปนั่งบนตักเขา จากนั้นก็มอบจูบแสนร้อนแรงให้ผมแทบจะทันที ริมฝีปากของเขาร้อนผ่าว บดเบียดอย่างนิ่มนวลแต่หนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ ปลายลิ้นฉ่ำชื้นไล้เลียไปตามริมฝีปากของผมก่อนจะแทรกเข้ามาอย่างเชื่องช้า กวาดเรียวลิ้นทั่วโพรงปาก บดจูบกลืนกินอย่างเร่าร้อนจนอุณหภูมิในรถคันสวยแทบจะลุกเป็นไฟ!
หลังจากถอนริมฝีปากเขาก็ให้ผมดูสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมต้องยกมือปิดปากด้วยความตกใจ
?ดูนี่สิ? เสียงเข้มว่า
หลังมือขวาของเขามีตัวอักษรสีดำลวดลายงดงามวิจิตรแต่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของลายเส้น มันเป็นรอยสักที่เหมาะกับพีทมากๆ และบอกตามตรงว่าผมช็อก เพราะมันเป็นชื่อของผมเอง!
D A I ก็คือคำว่า ได
?ชอบใช่มั้ย?? พีทถาม ริมฝีปากของเขาเสียดสีกับริมฝีปากของผม ?พูดสิว่าชอบมันรึเปล่า...ได?
เขาถามเสียงแหบพร่า ริมฝีปากร้อนแสนซุกซนเริ่มบดเบียดไปตามลำคอของผม ร้ายกาจ ร้อนแรง แผดเผาให้ผมแทบจะหลอมละลายอยู่บนตักแกร่ง...
ผู้ชายคนนี้อันตรายอะไรขนาดนี้
พีทประสานมือข้างนั้นลงกับมือผมขณะที่ริมฝีปากร้อนพรมจูบทั่วใบหน้า
?พีทรักได...พีทจริงจังกับไดมาก ไดเห็นมั้ย?
?อืม ไดก็รักพีท? ผมกระซิบคำรักใกล้ๆ กับใบหูเขา แม้ว่าใบหน้าจะเห่อร้อนตอนที่พีทป้อนจูบแสนเร่าร้อนให้ผมอีกครั้งก็ตาม
หลังจากเตรียมของขวัญเสร็จ ผมก็หอบมันเข้าสู่อ้อมแขนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ผมกับพีทคบกันมาเกือบปีแล้ว ท่ามกลางเสียงห้ามของผองเพื่อน รวมถึงอุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ อย่างผู้หญิงที่มาตามราวีผมเพราะเธอหวงพีท แต่ผมก็รอดมาได้ เพราะพวกนั้นกลัวพีทจนไม่กล้าทำอะไรผมจริงๆ
ส่วนเพื่อนสนิทผมอย่าง ?ทาคุมะ อากิระ? เขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับการที่ผมตกลงปลงใจคบกับพีท สิ่งที่อากิระกลัวที่สุดคือการที่พีทจะฟันผมแล้วทิ้ง แต่ผ่านมาเป็นปีพีทกลับไม่เคยล่วงเกินผมมากกว่าจูบเลย เพราะผมบอกให้เขารอ ซึ่งเขาก็รักษาสัญญา เขาจะรอจนกว่าผมจะพร้อม ยิ่งทำให้ผมคลั่งผู้ชายคนนี้มากขึ้นไปใหญ่เลย!
ผมเดินทอดน่องออกจากตัวบ้านของตัวเองอย่างไม่รีบร้อน วันนี้แม่ผมไม่อยู่ เห็นบอกว่าจะไปทำธุระที่ต่างจังหวัดสักสองสามวัน ผมก็เลยอยู่บ้านคนเดียว จึงไม่ต้องกังวลกับคำถามว่าผมจะหอบของขวัญกับช่อดอกไม้นี่ไปให้ใคร
ก็วันนี้เป็นวันเกิดพีทนี่นา ถึงจะแพงแต่ก็ต้องทุ่มหน่อยล่ะ เห็นท่าทางป่าเถื่อนแบบนั้นแต่พีทไม่เคยใจร้ายกับผมสักครั้ง เขาใจดีกับผมมากๆ เลยล่ะ
ผมนั่งรถไฟจากสถานีที่ผมอยู่ไปลงที่สถานีใกล้อพาร์ตเมนต์ของพีท ซึ่งใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาที ผมเดินยิ้มร่าไปตลอดทาง ตอนแรกผมว่าจะไปเข้าทางข้างหน้าอพาร์ตเมนต์ แต่เพราะผมกลัวว่าพีทเห็นแล้วมันจะไม่เซอร์ไพรส์ ผมเลยเดินอ้อมไปทางเข้าอีกทางข้างหลังตึกแทน
ตอนที่ผมกำลังจะเลี้ยวไปตรงทางขึ้นบันได ผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ กำลังวิ่งลงบันไดมาตรงนี้
ตึกๆๆๆ
เสียงฝีเท้ารัวเร็วท่าทางรีบร้อนดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ผมค่อยๆ เดินอย่างระมัดระวัง แต่ยังไม่กล้าขึ้นไปตรงทางขึ้นบันไดเพราะกลัวว่าคนที่ลงมาจะเป็นพีท และเมื่อผมชะโงกหน้าขึ้นไปดูก็ต้องตกใจ
พีทจริงๆ!
ผมรีบหลบเข้าข้างตึกเช่นเดิม กะว่าถ้าเขาเดินออกมาผมจะโผล่หน้าไปจะเอ๋ให้ตกใจจนทำหน้านิ่งไม่ออกเลย แค่คิดผมก็แทบกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่แล้ว
?หยุดเดี๋ยวนี้นะ!?
ทว่าเสียงผู้หญิงที่ตามมาทำให้ผมตกใจ นาทีนี้หน้าผมซีดเผือด ผมยืนนิ่งอยู่กับที่ รอยยิ้มบนใบหน้าเริ่มจางหายไป เมื่อแอบชะโงกหน้ามองนิดหน่อยก็เห็นพีทกับผู้หญิงอีกคนที่ผมไม่รู้จักยืนอยู่ตรงที่พักบันไดชั้นบนเหนือผมขึ้นไป ลงบันไดมาอีกแค่ราวๆ หกเจ็ดขั้นเท่านั้นก็จะเลี้ยวมาทางกำแพงที่ผมยืนแอบอยู่
ผมเห็นเธอกระชากแขนพีทไว้ ใบหน้าเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา ทั้งสองคนไม่เห็นว่าผมยืนอยู่ตรงนี้
?นายจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้? เธอขึ้นเสียงทั้งๆ ที่น้ำเสียงสั่นเครือ
พีทสะบัดมือออกอย่างไร้เยื่อใย สีหน้าร้ายกาจเย็นชาของเขาทำให้ผมนิ่งอึ้งยิ่งกว่าเดิม
?หุบปากคาสึมิ...ฉันไม่อยากทำร้ายเธอจริงๆ หรอกนะ?
คาสึมิ?
ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?
ความสงสัยเกิดขึ้นในใจผมทันที เธอเป็นผู้หญิงหน้าตาสวยแบบอ่อนหวาน ผิวพรรณดี ขาวผ่องเหมือนตุ๊กตากระเบื้องที่แตะต้องแรงคงจะแตกหัก น่าทะนุถนอมไว้ในอ้อมอก แทบจะเป็นผู้หญิงในแบบที่ผู้ชายทุกคนอยากได้...
ใจผมหายวูบ...
พีทเคยเป็นเสือผู้หญิง หรือผู้หญิงคนนี้จะเป็นหนึ่งในคนที่มีความสัมพันธ์กับเขา!
เพียงแค่คิดแบบนั้น หัวใจผมก็พลันเจ็บปวด ผมกัดริมฝีปากแน่น ใจหนึ่งอยากจะเดินออกไปประกาศตัวว่าผมอยู่ตรงนี้ ผมฟังอยู่ และขอร้องให้พีทอธิบาย แต่ขามันกลับไม่ขยับ...
ราวกับหวาดกลัวความจริงที่จะออกจากปากผู้ชายคนนั้น
?ทำร้ายงั้นเหรอ หึ!? ผู้หญิงคนนั้นแค่นเสียงใส่ ?แค่นี้นายก็ทำร้ายฉันมากพอแล้ว!?
?เราเลิกกัน เธออย่าโง่ไม่เข้าใจที่ฉันพูดไปหน่อยเลย!?
เสียงตวาดของพีทที่ตอบโต้คาสึมิทำให้ผมสะดุ้งสุดตัว มือที่ถือทั้งดอกไม้และกล่องของขวัญชื้นไปด้วยเหงื่อ
เลิกกัน? หมายความว่าตลอดเวลาที่พีทมีผม เขาคบกับผู้หญิงคนนี้ด้วยงั้นเหรอ
?เราจะเลิกกันได้ยังไง ในเมื่อฉันท้องกับนาย!? คาสึมิขึ้นเสียงอย่างปกป้องตัวเอง
คำพูดของคาสึมิทำให้ผมเบิกตากว้าง ริมฝีปากเผยอค้างอยู่อย่างนั้น เหมือนกับถูกทุบที่หัวใจอย่างแรง เหมือนพีทเหยียบขยี้ความรู้สึกจริงใจทุกอย่างที่ผมมอบให้เขาด้วยปลายเท้า...
ผมเพิ่งเข้าใจว่า ?เจ็บจนร้องไม่ออก? มันเป็นยังไง...
เพราะผมกำลังเป็นแบบนั้นจริงๆ
?เธอไม่ได้ท้องกับฉัน! เด็กนั่นไม่ใช่ลูกของฉัน ไปให้พ้น!!? พีทตวาดกลับ
และคำพูดร้ายกาจของเขาก็ทำให้ผมแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ผมยืนพิงกำแพงอย่างไร้เรี่ยวแรงอยู่ตรงนั้น ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มลงมาช้าๆ ชะล้างความรู้สึกเจ็บปวดที่เกาะกินทั่วหัวใจ
ผมไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะรักพีทมากถึงขนาดนี้ จนในวันนี้ที่ผมได้รู้ว่าเขาทำอะไรไว้ลับหลังผม...
เขาคบกับผู้หญิงอีกคนในระหว่างที่คบกับผม คบสองคนพร้อมกันก็ว่ามันแย่พออยู่แล้ว แต่นี่เขายัง...ทำให้เธอท้อง...
หนำซ้ำเขายังปฏิเสธที่จะรับผิดชอบอย่างไร้เยื่อใย ผมพยายามกลั้นสะอื้นไว้อย่างถึงที่สุดเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมามากกว่านี้ ผมกลัวว่าพวกเขาจะได้ยินว่าผมยืนอยู่ตรงนี้ ทั้งๆ ที่ขาผมแทบจะไร้แรงยืนอยู่แล้ว
ทำไมต้องเป็นแบบนี้... ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ในวันที่ผมรักเขาหมดหัวใจ
?นายมันทุเรศ! จะไม่ใช่ลูกของนายได้ยังไง ในเมื่อฉันคบกับนายเพียงคนเดียวมาตลอด ไหนล่ะ ไหนล่ะที่ว่าจะรักฉัน จะจริงจังกับฉัน นี่เหรอคำตอบที่ฉันได้หลังจากที่ฉันทุ่มเทให้นาย พอฉันบอกว่าท้อง นายกลับบอกว่านายไม่ใช่พ่อเขางั้นเหรอ?
คาสึมิสะอึกสะอื้นแรงจนผมสงสาร
แต่ผมสงสารตัวเองพอกัน ให้ตายเหอะ ได้โปรด รีบไปจากตรงนี้ที ก่อนที่ผมจะทรุดลงปล่อยโฮออกมาเพราะทนไม่ไหว ผมเจ็บจนไม่รู้จะเจ็บยังไงแล้วนะ
?จับสิ ลองจับดูว่าเลือดเนื้อตรงนี้เป็นลูกของนาย? คาสึมิเอ่ย น้ำเสียงแหบพร่าของเธอเกิดจากที่เธอสะอึกสะอื้นอย่างหนัก
?ไม่จับ! ปล่อยฉัน!! ไอ้ก้อนเลือดน่าขยะแขยงนี่มันลูกชู้คนไหนของเธอกันแน่!!? เสียงตวาดลั่นดังตอบมาจากพีท
?นาย!!? คาสึมิโวยวาย เธอร้องไห้ด้วยความเสียใจ
?ปล่อยฉันสิ! ปล่อย!!?
สถานการณ์ของสองคนนั้นตึงเครียดขึ้นทุกขณะ ผมไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะผมเอาแต่ยืนกัดริมฝีปากจนห้อเลือดอยู่ตรงนี้โดยไม่ชะโงกหน้าไปมอง
?กรี๊ด!!?
?คาสึมิ!!?
ตุบๆๆๆๆ
จู่ๆ เสียงกรีดร้องของคาสึมิก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงตะโกนเรียกชื่อเธอของพีท ต่อมาผมก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรหนักๆ กระแทกกับบันไดลงมาอย่างรุนแรง และจากนั้นเสียงทุกอย่างก็เงียบลง ผมยืนตัวแข็งทื่ออยู่ข้างกำแพง กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอและไม่กล้าแม้แต่จะหันไป...
?ช่วยไม่ได้...?
เสียงเย็นเยียบของพีทดังขึ้นอีก ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ เหมือนกำลังวิ่งค่อยๆ ไกลออกไปจากตรงนี้
ผมยืนอยู่ตรงนั้นนานพอสมควร จากนั้นก็รวบรวมความกล้าเฮือกสุดท้ายที่มี ตัดสินใจผละออกจากที่ซ่อนแล้วเดินไปตรงเชิงบันได
!!!
ภาพที่เห็นทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมกินเข้าไปในตอนเช้าแทบจะขย้อนออกมาตอนนั้น! ความรู้สึกหวาดกลัวไหลท่วมบ่าจนร่างกายผมสั่นระริก ผมไม่มีเรี่ยวแรงที่จะประคองทั้งกล่องของขวัญและช่อดอกไม้ที่ถืออยู่ไว้อีกต่อไป
ตุบ!
ข้าวของทุกอย่างในมือผมหล่นร่วงลงกับพื้น...
คาสึมินอนอยู่ตรงนั้น ที่ศีรษะของเธอมีรอยเลือดเป็นวงกว้าง ส่วนที่หว่างขาก็มีเลือดจำนวนมากไหลออกมาจนน่ากลัว
เธอตกเลือด!
เมื่อผมเงยหน้ามองขึ้นไปบนจุดที่เห็นคาสึมิกับพีทคุยกันอยู่ ผมก็ไม่เห็นว่าจะมีใครยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว มันชัดเจนพอ...
พีทหนีไปแล้ว!
ผมรีบวิ่งไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะใกล้ๆ แล้วโทรเรียกรถพยาบาลให้มาที่นี่ทันที โดยโกหกว่าผมแค่จะมาเยี่ยมเพื่อนแต่กลับเจอหญิงสาวที่พลัดตกบันไดนอนจมกองเลือดอยู่ ขอให้รถพยาบาลรีบมารับคนเจ็บด่วน
หลังจากที่โทรเรียกรถพยาบาลเสร็จ ผมก็ไม่อยู่รอให้การอะไร รีบย้อนกลับไปเก็บของที่ทำตกไว้แล้ววิ่งออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ น้ำตาเปรอะเปื้อนใบหน้าจนผมเกือบจะมองไม่เห็นทางข้างหน้า ผมวิ่งไปยังสถานีรถไฟอย่างไร้ความรู้สึก ไม่เหน็ดไม่เหนื่อย
มีแต่หัวใจเท่านั้นที่บอบช้ำและอ่อนล้า ทุกภาพเหตุการณ์ที่ผมกับพีทเคยทำด้วยกันในอดีตไหลวนเป็นฉากราวกับม้วนฟิล์มที่กระจัดกระจาย
ผมทรุดลงตรงที่นั่งในสถานี ร้องไห้ออกมาอย่างหนักโดยไม่สนใจผู้คนที่ผ่านไปมาว่าจะมองผมยังไง ในเวลานี้หัวใจผมอ่อนแอมาก เมื่อรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงแค่เรื่องโกหกที่ผมเข้าใจไปเองคนเดียว มันเจ็บปวดจนเหมือนผมแทบจะกระอักเลือดออกมาได้
ผมได้แต่จิกมือลงไปบนอกข้างซ้าย ราวกับมันจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดนี้ ดอกคาร์เนชั่นและของขวัญถูกผมทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ไยดีหลังจากมาถึงสถานี มันถูกหย่อนลงในถังขยะใบแรกที่ผมเห็นเลยด้วยซ้ำ
ที่มันทำให้ผมเจ็บปวดยิ่งกว่าการที่พีททรยศคือ การที่เขาปฏิเสธเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง ปฏิเสธที่จะรับผิดชอบในผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง คนที่เขาเคยพร่ำบอกว่าจะจริงจังกับเธอและรักเธอ
เหมือนที่เขาเองก็พูดกับผม
พีทเหยียบย่ำหัวใจของคาสึมิจนแหลกเลว เขาเป็นผู้ชายสารเลวคนหนึ่งที่ผมไม่สามารถให้อภัยได้...
แต่นับจากวันนี้ ผมก็ไม่คิดจะให้อภัยตัวเองเช่นกัน...
เพราะผมคือคนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดว่าพีทมีส่วนทำให้คาสึมิตกบันได ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอจะรอดหรือเปล่า!
จากน้ำเสียงเย็นชาของพีทที่พึมพำครั้งสุดท้าย เขาอาจจะเป็นคนผลักเธอก็ได้ นี่มันอาจจะไม่ใช่แค่อุบัติเหตุ...
แต่ผมกลับหนีมาเอาดื้อๆ...
ผมทำร้ายคาสึมิซ้ำหลังจากที่พีททำร้ายเธอจนย่อยยับไปแล้ว...
นั่นก็เพราะผมรักพีทเกินกว่าที่จะบอกใครๆ ว่าผู้ชายคนนั้นอาจจะเป็นฆาตกร
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
"ทานิยามะ ได" ตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดในประเทศไทย ด้วยหวังว่าความอบอุ่นจากครอบครัวที่อยู่พร้อมหน้าจะช่วยลบเลือนเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ได้พบเจอ เขาทิ้งอดีตและใช้ชีวิตกับปัจจุบันโดยมีเพื่อนรู้ใจอย่าง ?แอล? อยู่ข้างกาย ทว่า...การกลับมาของ ?แพทริซ รูธ อเล็น? อดีตคนรัก กลับดึงเอาความทรงจำเลวร้ายที่เริ่มเจือจางให้แจ่มชัดอีกครั้ง ด้านฝ่ายแพทริซนั้น...แม้จะยังมีความรักมากมายซุกซ่อนในหลืบมุมของหัวใจ แต่ความโกรธแค้นที่ถูกเฉดหัวทิ้งอย่างไม่ไยดีก็พอกพูนจนล้นปรี่ หากแต่สัมผัสรักจากร่างอุ่นแสนคุ้นเคยกลับพาให้ใจเขาเตลิดไหว สับสนว่าควรจะสานต่อความรักหรือสลักรอยแค้นไว้ให้สาแก่ใจดี ดูเหมือนโชคชะตาจะไม่ปล่อยให้สายใยบางเบาขาดสะบั้นลงง่ายๆ ถึงได้ขีดเส้นทางของพวกเขาให้มาบรรจบกันอีกครั้ง แล้วความสัมพันธ์ครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร จะจบลงด้วยความเข้าใจ หรือเป็นเพียงโศกนาฏกรรมที่จะฝังใจไม่รู้ลืม!
