New Release : ฝากหัวใจไว้ที่ปลายฟ้า

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : ฝากหัวใจไว้ที่ปลายฟ้า

โพสต์ โดย Gals »

1

ณ ที่นั้น...สนามกว้างหน้าตึกใหญ่สองชั้นของกองราชองครักษ์ แห่งมหานครอัมกาตดาริด้า
ทหารราชองครักษ์ทุกนายที่ผ่านการศึกขึ้นมาเป็นราชองครักษ์เต็มตัวแล้ว พากันไปตั้งแถวกองเกียรติยศเพื่อต้อนรับ เจ้าชายฮัฟซา เอฮัลฟาติ ซึ่งเสด็จกลับมาจากชายแดนเพื่อเลือกราชองครักษ์ชุดใหม่ไปแทนชุดเดิมที่จะเปลี่ยนเข้ามาพักในพระมหานครเป็นการชั่วคราว
เวลานั้น อาดิว่า ลูกสาวคนเดียวของนายพลอับเดอร์ราฮิม ซึงมีอายุเพียงสิบสี่ปีติดตามท่านนายพลมาด้วย...ในเครื่องแต่งกายราชองครักษ์ฝึกหัดซึ่งตนเองชอบนักชอบหนามาตั้งแต่ยังเยาว์
ในงานนี้องครักษ์ฝึกหัดทั้งชายและหญิง จะถูกจัดให้ยืนไกลออกไป แต่อาดิว่าก็ใช้ความเป็นลูกนายพลพาตัวเองเข้าไปใกล้เจ้าชายฮัฟซาจนได้...และยืนมองพระองค์ด้วยความตื่นเต้นพอใจ...
ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะหล่อนเคยได้ยินกิตติศัพท์ของความหล่อเหลาสะท้านหัวใจของพระองค์มาแล้วจากบรรดาสาวๆ ทั้งหลายที่คุยกันไปคุยกันมาตามงานเลี้ยงต่างๆที่สาวน้อยติดตามผู้เป็นบิดาไปได้ยินมา...
พอสิ้นสุดการเสด็จตรวจแถวกองเกียรติยศ เหล่าบรรดานายทหารและราชองครักษ์ต่างพากันรวมกลุ่มติดตามเจ้าชายเข้าไปในห้องประชุมใหญ่ที่จะทรงประทับพักผ่อนพระอิริยาบถ แล้วทรงเลือกราชองครักษ์กลุ่มใหญ่ให้ตามเสด็จกลับไป...
เวลานั้นสาวน้อยอาดิว่า ซึ่งนายทหารราชองครักษ์ส่วนใหญ่รู้จักหล่อนดี พาร่างกลมกลึงงดงามของตัวเองแทรกไปตามร่างสูงของเหล่าบรรดาราชองครักษ์ทั้งหลายจนกระทั่งพบบิดาซึ่งกำลังยืนถวายรายชื่อราชองครักษ์ทั้งหมดให้แก่พระองค์
อาดิว่าโผล่เข้าไปอยู่ระหว่างบิดากับเจ้าชายพอดี...ทำให้ทั้งบิดาและเจ้าชายหันมาทอดพระเนตรเห็นหล่อนพร้อมๆ กัน...
?อาดิว่า...!?...นี่เจ้ามายังไง...!??
ผู้เป็นบิดาอุทนออกมาอย่างตกใจ ก่อนจะหันไปก้มลงถวายบังคมเจ้าชายเป็นการขอพระราชทานอภัยโทษอย่างรวดเร็ว...
?ขอพระราชทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ...ลูกสาวกระหม่อมเอง...อายุเพิ่งสิบสี่เอง...ไม่รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควรพ่ะย่ะค่ะ...?
ท่านนายพลรีบออกตัวอย่างรวดเร็ว...ขณะที่อาดิว่าเงยดวงหน้างามของเด็กสาววัยเพียงสิบสี่ขึ้นมองพระพักตร์เข้มคมของเจ้าชายฮัฟซาอย่างชื่นชม...
หล่อนมองพระองค์นิ่งอย่างพิจารณาตั้งแต่เส้นผมอันดำสนิทค่อนข้างยาวเป็นกรอบรอบพระพักตร์อันคมคาย...คิ้วดำดกหนา...ดวงเนตรคมกริบ...รับกับปลายพระนาสิกโด่งตรง...และสุดท้ายคือริมพระโอษฐ์ได้รูปสีเข้มงดงามไม่แพ้อิสตรี...
พอได้เห็นพระองค์เต็มตา...อาดิว่าก็มองเพลินจนลืมตัว และเจ้าชายก็ทรงก้มลงมองสาวน้อยในชุดราชองครักษ์ฝึกหัดตรงหน้าพระพักตร์นิ่งอยู่นานเหมือนกัน...
?อาดิว่า...มานี่เดี๋ยวนี้...?
ท่านนายพลเตรียมจะลากลูกสาวออกไปแล้วถ้าเจ้าชายไม่ทรงถามขึ้นมาเสียก่อนว่า...
?เป็นราชองครักษ์ฝึกหัดรึ...?
พระดำรัสถามรวมทั้งพระเนตรคมที่ทอดมองมาทำให้ท่านนายพลต้องชะงัก...หันมากราบทูลทันทีว่า...
?ใช่แล้วฝ่าบาท...เพิ่งเข้ามาปีนี้เองพ่ะย่ะค่ะ...?
?เจ้าอยากเป็นราชองครักษ์รึอาดิว่า...?
ประโยคนี้ทรงหันมาถามสาวน้อยซึ่งดึงมือหนีจากบิดามาระวังตรงหน้าพระพักตร์แล้วตอบทันทีว่า...
?เพคะ...?
?ก็ดี...พระราชินี...และเจ้านายฝ่ายหญิงจะได้มีราชองครักษ์เก่งๆ ไว้คอยดูแลนะ...?
?หม่อมฉันอยากออกไปชายแดนกับพระองค์เพคะ...?
คำตอบของอาดิว่าทำเอาทุกคนที่ได้ยินต้องพากันอึ้งไปตามๆ กัน...
?ที่นั่นไม่เหมาะกับผู้หญิงหรอก มันเหนื่อยและหนักเกินไปสำหรับเจ้าง...?
เจ้าชายทรงตอบและทอดพระเนตรมองหล่อนด้วยสายพระเนตรอ่อนโยนลง
?แต่หม่อมฉันยังอยากไปอยู่ดีเพคะ...หม่อมฉันเก่งเรื่องรักษาพยาบาลด้วยนะเพคะ สามารถช่วยเหลือเพื่อนทหารด้วยกันได้อย่างแน่นอน...?
?งั้นเชียวหรือ...? ทรงทำพระสุรเสียงสนพระทัย ขณะที่นายทหารราชองครักษ์ที่ยืนอยู่รอบพระองค์พากันอมยิ้มด้วยขำหล่อน
?ว่าไงล่ะท่านนายพล...จะอนุญาตให้ไปไหมนี่...?
ประโยคนี้ทรงหันไปถามบิดาของหล่อน ขณะที่นายพบมีอาการพูดไม่ออก...
?เห็นไหมอาดิว่า...เจ้าทำให้พ่อของเจ้ากลุ้มใจแล้ว...ผู้หญิงน่ะต้องอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน...เตรียมตัวเป็นภรรยาที่ดีเท่านั้น...แค่ก้าวออกมาเป็นองครักษ์นี่พ่อเจ้าก็คิดมากแล้วแถมจะไปอยู่ชายแดนเสียอีก...ไม่ได้หรอกนะอาดิว่า...?
พระองค์ทรงตรัสและมองสาวน้อยยิ้มๆ อยู่ชั่วขณะก่อนจะหันไปสนพระทัยรายชื่อราชองครักษ์ที่ท่านนายพลส่งมาให้
เวลานั้น...อาดิว่าก็ถูกบิดาดึงออกมาอย่างเร็ว...แล้วดุหล่อนว่า...
?เจ้าทำแบบนี้ไม่ได้นะอาดิว่า...เจ้ารู้ไหมว่าพระองค์ทรงเป็นใคร...ทรงเป็นรัชทายาทอันดับสองเชียวนะ...ไม่ใช่เพื่อนเล่นที่เจ้าจะมายื่นข้อเสนอเอาโน่น เอานี่ได้...?
ท่านนายพลเดินลากลูกสาวห่างไป...เอ็ดตะโรหล่อนไปแต่อาดิว่ากลับหันมามองเจ้าชายอยู่แบบนั้น...ไม่เปลี่ยนสายตา...ส่วนพระองค์ก็ทรงทอดพระเนตรตามมาโดยไม่ทรงเข้าพระทัยว่าต้องทอดพระเนตรตามไปทำไม...

-----------------------------------------------------

ในปีต่อมา...ขณะที่อาดิว่ากำลังอบรมหลักสูตรราชองครักษ์อยู่นั้นหล่อนได้ข่าวการปะทะกันระหว่างทหารของอัมกาดคาริด้า กับทหารต่างชาติตามชายแดนหลายต่อหลายครั้ง
ทุกครั้งที่ได้ข่าวนี้...อาดิว่าจะต้องหยุดฟังข่างอย่างเอาจริงเอาจังด้วยความห่วงใยอันมากมาย...เมื่อนึกถึงพระวรกายสูงตรง...และพระเนตรเข้มคมคู่นั้น...
จนเมื่อข่าวการปะทะกันสิ้นสุดลง...ชัยชนะเป็นของอัมกาดคาริด้า...อาจจะมีทหารที่บาดเจ็บล้มตายลงบ้าง...แต่ในเมื่อบุรุษในความทรงจำของอาดิว่าไม่เป็นอะไร...หล่อนก็รู้สึกโล่งใจและพอใจแล้ว...

-------------------------------------------------------

ในปีต่อมา...มีการผลัดเปลี่ยนชุดราชองครักษ์อีก...แต่คราวนี้เจ้าชายไม่ได้เสด็จเข้ามาคัดเลือกด้วยพระองค์เองแล้ว เพราะสถานะการณ์ชายแดนค่อนข้างตึงเครียด...
บิดาของหล่อน และเพื่อนนายพลด้วยกันต้องจัดการคัดเลือกราชองครักษ์กันเองแล้วส่งออกไป...ท่ามกลางสายตาของอาดิว่าที่มองตามไปด้วยความหวัง...ว่าสักวันหนึ่งหล่อนจะเป็นหนึ่งในองครักษ์เหล่านั้น...

------------------------------------------------------

เวลาค่อยๆ ผ่านไปถึงหกปี...สิ่งที่อาดิว่าหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลาก็เกิดขึ้นเมื่อกองกำลังป้องกันชายแดนของอัมกาดคาริด้าเจอศึกสองด้านเข้ากระหนาบพร้อมๆกัน...คราวนี้ข่าวการบาดเจ็บของเจ้าชายดังมาถึงในพระนคร...พากันวุ่นวายตายไปหมดในพระราชวัง...
อาดิว่าเฝ้าดูการจัดกองทหารออกไปช่วยสู้รบกับข้าศึก...ซึ่งเป็นไปอย่างล่าช้า...และไม่มากตามที่ควรจะเป็น ทำให้หล่อนต้องเข้าไปถามบิดาอย่างไม่เข้าใจ...
?ท่านพ่อคะ...ทำไมกองทหารที่จัดออกไปชายแดนถึงช้านักล่ะคะ...มันจะพ้นไหมคะ...หรือจะปล่อยให้ทางโน้นตายหมดเสียก่อน...ทางนี้ถึงจะส่งทหารไป...?
คำถามของหล่อนทำให้นายพลตอบไม่ได้...และไม่รู้จะตอบลูกว่ายังไง...
?ไม่มีใครห่วงเจ้าชายเลยหรือคะท่านพ่อ...?
คำถามต่อมา...นายพลก็ตอบไม่ได้อีก...ได้แต่ถอนใจ...
?มันเกิดอะไรขึ้นคะท่านพ่อ...ทำไมเป็นแบบนี้...ถ้าชายแดนยังข้าศึกไว้ไม่ได้มันก็ต้องมาถึงเมืองหลวงอย่างแน่นอน...เขาไม่คิดกันหรือคะ...?
ท่านนายพลยังคงยืนเฉย...ไม่สามารถจะพูดอะไรออกไปได้...
?หรือเขาต้องการให้เจ้าชายสิ้นพระชนม์...?
อาดิว่าถามคำถามสุดท้ายที่หล่อนไม่ต้องการได้คำตอบเลย...และนายพลก็ยังเงียบ...
?นี่หมายความว่าเขาต้องการฆ่าเจ้าชายจริงๆ หรือคะ...ท่านรักบ้านเมืองจนพาพระองค์เองไปเหนื่อยยากอยู่ตามชายแดน...ไม่สนพระทัยที่จะเข้ามามีความสุขอยู่ในเมืองหลวง ไม่สนพระทัยที่จะมีฮาเร็มเก็บผู้หญิงมากมายไว้เพื่อความสุขส่วนตัว...ถึงกระนี้แล้วยังมีคนอยากให้เจ้าชายสิ้นพระชนม์หรือเพคะ...เขาไม่รู้หรือเพคะว่าเจ้าชายทรงสำคัญกับบ้านเมืองแค่ไหน...?
?ก็เพราะอย่างนั้นน่ะสิ...ถึงจะทรงอยู่ไม่ได้ไง...?
ในที่สุด...บิดาของหล่อนก็รำพึงออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายหัวใจ...
คำตอบของบิดาทำให้อาดิว่า ซึ่งบัดนี้สำเร็จเป็นราชองครักษ์แล้วเต็มตัว...ต้องถอยไปทรุดนั่งลงอย่างหมดแรง...
?ทำไมล่ะคะท่านพ่อ...ทำไม...?
?มีหนึ่ง...ก็ต้องไม่มีสอง...?
คำตอบของบิดาทำให้บุตรสาวเงียบไปหลายอึดใจอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก...
?ท่านพ่อหมายความว่ายังไงคะ...?
?อย่าถามนักเลย อาดิว่า...ไปทำงานของเจ้าเถอะ...ทิ้งพระชายามานานๆ แบบนี้ไม่ดี...กลับไปซะ...?
?ลูกไม่ได้ทิ้งานนะเพคะ...เป็นการเปลี่ยนกะพอดีต่างหาก...ลูกอยู่ได้อีกเป็นชั่วโมงเลยนะคะ...?
?นั่นแหละ...กลับไปเถอะ...พ่อขี้เกียจตอบคำถามเจ้า...?
?แต่พ่อคะ...?
?เชื่อเถอะอาดิว่า...บางทีไม่รู้ดีกว่ารู้นะลูก...เชื่อพ่อ...?
กล่าวจบ...ท่านนายพลก็เดินออกไปจากห้องนั้เสียเอง...ปล่อยลูกสาวไว้เพียงลำพัง

----------------------------------------------------

อาดิว่ากลับเข้ามาทำหน้าที่ราชองครักษ์ในพระชายาของรัชทายาทอันดับหนึ่ง เจ้าชายอัฟดารอฟในชั่วโมงต่อมา...
เมื่อหล่อนก้าวเข้าไปยืนอยู่ด้านหลังพระชายาซอร่าได้ไม่นาน บานพระทวารห้องที่ประทับส่วนพระองค์กูถูกเปิดออกพร้อมกับพระวรกายสูงใหญ่ ค่อนข้างอ้วนของเจ้าชายอัพคารอฟก็เสด็จผ่านเข้ามา...
นางกำนัลที่อยู่แวดล้อมพระชายาพากันรีบลุกขึ้นหลบไปทางหนึ่งทันทีขณะที่เจ้าชายทรงส่ายพระเนตรตามนางเหล่านั้นไปอย่างสังเกตสังกาทุกคน แล้วมาหยุดที่อาดิว่าเป็นคนสุดท้ายอยู่นานทีเดียว...
?พวกเจ้าออกไปให้หมด...ออกไป...?
เสียงของพระชายาเร่งให้นางกำนัลออกไปจากที่ประทับ...รวมทั้งอาดิว่า...
?เจ้าด้วยอาดิว่า...?
เมื่อนั้นอาดิว่าจึงก้มหัวลงรับพระบัญชาก่อนจะเดินอ้อมพระเก้าอี้ยาวตัวใหญ่นั้นไป...
?เดี๋ยว...?
เสียงของเจ้าชายทำเอาอาดิว่าหยุดชะงักก่อนจะหันมามองพระองค์อย่างสงสัย...
?เปิดหน้าเจ้าให้ข้าเห็นหน่อยซิ...?
เมื่อทรงพระบัญชา...อาดิว่าก็ต้องทำตามอย่างไม่อาจจะปฏิเสธได้...พระเนตรของเจ้าชายอัพคารอฟเปล่งประกายพอพระทัยทันทีที่เห็นหน้าหล่อนชัดเจน...
?นั่นสิ...ข้ายังสงสัยอยู่เลยว่านางกำนัลของเมียข้ามันหางามๆ ไม่ได้สักคนรึไง?
?อาดิว่าเป็นองครักษ์ของหม่อมฉันเพคะ...ไม่ใช่นางกำนัล...ออกไปได้แล้ว...?
พระชายาทรงไล่...อาดิว่าจึงถอยออกไปอย่างรวดเร็ว...
?เธอเป็นลูกสาวของท่านนายพลอับเดอร์ราฮิม ผู้บังคับกององครักษ์เพคะ...?
?งั้นรึ...?
เจ้าชายทรงทำเสียงร้บรู้ในพระศอ...และเสด็จไปทิ้งพระองค์ลงบนพระบรรจถรณ์กลางห้องที่ประทับอันกว้างใหญ่นั้น...
?ดี...ให้รู้เสียอย่างนี้จะได้ไม่ยาก...?
?จะทรงทำอะไรเพคะ...? พระชายาถามอย่างสงสัย
?เปล่า...มานี่ดีกว่ามานั่งใกล้ๆ ข้า...ข้าไม่ได้มาหาเจ้านานแค่ไหนแล้วนี่ง...สามเดือน หรือ สี่เดือน...หรือหกเดือน...?
ทรงตบพระหัตถ์ลงบนพระบรรจถรณ์ แล้วรอจนพระชายาเข้าไปใกล้...
?เจ้ารู้ไม๊ว่าทำไมข้าถึงต้องมา...?
?ทำไมเพคะ...?
พระชายาถามอย่างรู้ดีว่า...ถ้าไม่จำเป็นแล้วพระสวามีจะไม่มีวันย่างเหยียบเข้ามาในตำหนักของพระองค์อย่างแน่นอน...
พระชายาทรงรู้อยู่แก่พระทัยว่า ?ของโปรด? ของเจ้าชายอับคารอฟนั้นคือ น้ำจัณฑ์ และฮาเร็มเท่านั้น...ไม่ใช่พระองค์ที่ไม่มีสิ่งใดให้ ?ถูกพระทัย?...
?วันนี้เสด็จพ่อเรียกข้าไปพูดเรื่องบ้านเมือง...แล้วก็พูดถึงการรบที่ชายแดนและก็เล่นงานข้าอีกหลายเรื่อง...ก่อนจะสรุปว่า ถ้าข้าไม่มีหลานให้พระองค์เสียที จะทรงส่งข้าออกไปแทนไอ้ฮัฟซานั่น...เปลี่ยนให้มันได้เข้ามาอยู่ดีมีสุขบ้างง...จะหาผู้หญิงให้มันแต่งงานเสียที...จะได้มีหลานเพื่อความมั่นคงของราชบัลลังก์...ฮะฮะ...ความมั่นคงทั้งๆ ที่ชายแดนรบกันทุกวัน...?
เจ้าชายหยุดตรัสแล้วหันไปหยิบน้ำจัณฑ์ในขวดเจียระไนรินลงในแก้วเจียรไนราคาแพงที่วางไว้คู่กัน แล้วทรงยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด ก่อนจะหันมาหาพระชายา...
?มา...มาหาข้า...มาทำหน้าที่ของเราให้เสร็จสิ้น...รีบมีลูกให้ข้าเร็วๆ ถ้าเจ้าไม่อยากจะตามข้าไปเฝ้าอยู่ชายแดนที่ไม่มีอะไรให้เจริญหูเจริญตาสักอย่างนอกจากฟ้ากับทราย...?


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?อาดีว่า? ลูกสาวคนเดียวของนายพลอับเดอร์ราฮิมได้พบเจ้าชายในฝันของหล่อนตั้งแต่อายุเพียงสิบสี่ แล้วก็ฝันมาเสมอว่าอยากเป็นองครักษ์หญิงออกไปช่วยพระองค์ ณ ชายแดนที่ทรงบัญชาการรบอยู่ หกปีต่อมาความฝันของหล่อนได้กลายเป็นจริงเมื่อได้ตามไปพบ ?เจ้าชายฮัฟซา เอฮัลฟาติ? พระองค์ทรงทำให้อาดีว่ารู้สึกหวั่นไหวได้อย่างไม่น่าเชื่อ...และรู้สึกตัวว่าเป็นสาวเต็มตัวแล้วในนาทีนี้เอง...หล่อนเงยหน้าขึ้นมองพระองค์...และเจ้าชายก็ทรงทอดพระเนตรมาสบกับดวงตาคู่สวยของหล่อน...ต่างฝ่ายต่างมองกันนิ่งอยู่นาน...กว่าอาดีว่าจะถอนสายตากลับไปได้ มือของหล่อนเริ่มสั่นขณะที่พระองค์ทรงควบคุมพระองค์เองได้ดีกว่า อาดีว่ามาถึงที่นี่แต่ไม่ได้คุ้มกันพระองค์ในฐานะราชองครักษ์เลยสักครั้ง พระองค์ต่างหากที่ต้องคอยดูแลหล่อน...แล้วฝันของอาดีว่าจะเป็นจริงไปได้อย่างไร...
?ข้ารักเจ้า...อาดีว่าของข้า...? เจ้าชายทรงพาหล่อนไปตามกระแสธารของความรักความปรารถนาของพระองค์ โดยที่อาดีว่าไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะสิ้นสุดลงตรงไหน...แต่มันก็ไม่สำคัญอะไรแล้วเมื่อหล่อนรู้แล้วว่าพระองค์คือชีวิตและจิตใจของหล่อน...


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”