New Release ร้อยรัก : ละอองทรายใต้ตะวัน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release ร้อยรัก : ละอองทรายใต้ตะวัน

โพสต์ โดย Gals »

บทนำ

ลูกไฟดวงโตแดงก่ำจับขอบฟ้าตะวันตกค่อยเคลื่อนตัวลาลับจากท้องฟ้าไป ในขณะที่ม่านราตรีกำลังเปิดฉากเริ่มต้นขึ้น เม็ดทรายจำนวนมหาศาลทอดตัวนิ่งสงบกินอาณาบริเวณสุดลูกหูลูกตายังต้อนรับสายลม...หากแต่ภาพซ้ำซากจำเจที่เห็นจนชินตากลับทำให้ผู้เสพถึงกับลอบผ่อนลมหายใจ
บุรุษหนุ่มวัยยี่สิบตอนปลายในชุดพื้นเมืองประณีตสีขาวสะอาดตา สวมผ้าโพกหน้าบ่งบอกฐานะ ?ผู้นำ? ยืนกอดอกอยู่ใต้ต้นปาล์ม ทอดสายตาไปยังเนินทรายใหญ่โตเบื้องหน้า แม้นเม็ดทรายในครานี้จักไม่ระยิบระยับตาเหมือนช่วงกลางวัน ทว่า...ยังไม่ทิ้งมนต์เสน่ห์ของตนเอง
ในความเงียบสงบจนได้ยินเสียงสายลมลูบผ่าน สิ่งนี้เองที่ปลุกห้วงอณูความรู้สึก ?ถวิลหา? ใครบางคนให้ตื่นขึ้นมาได้
?ข้ามีค่าแค่ฝุ่นทรายเท่านั้น มิคู่ควรและไร้ประโยชน์ใดๆ ที่จักอยู่ในฮาเร็มนี่ต่อ อีกอย่างท่านชีคฮาดาลปลดพันธนาการเสน่หาให้ข้าแล้ว ใยท่านถึงกักขังอิสรภาพแห่งข้าอีก?
ถ้อยคำกรีดใจนี้ยังติดตรึงไม่เคยลบเลือนจากหัวใจคามินสักครา เขามีอำนาจ มีทุกอย่างในมือ มีตำแหน่งเป็นถึงนายเหนือหัวของชาวจามอลทั้งอาณาจักร แต่อำนาจของเขากลับไม่สามารถกักขังหญิงงามตัวเล็กๆ เอาไว้ได้
?ข้าในฐานะท่านชีคแห่งจามอล ขอออกคำสั่งให้เจ้าอยู่ที่นี่?
?ข้าเชเรญ่า...ในฐานะอดีตสนมเอกของท่านชีคฮาดาล ขอคัดค้านไม่รับคำสั่งนี้? นางปฏิเสธเสียงแข็ง วงหน้างามเชิดขึ้นอย่างท้าทายอำนาจ ดวงตาเย็นเยือกสีน้ำผึ้งนิ่งสงบ
?ทำไม??
?ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นฐานบ้านเกิดของข้า?
?หึ มันจะใช่... และใช่ที่สุดถ้าเจ้าอยู่ที่นี่? ชีคหนุ่มเค้นเสียงเย็นลอดไรฟันอย่างเอาแต่ใจเมื่อแม่สาวงามเชเรญ่ายั่วอารมณ์ให้เขาโกรธสุดๆ
?ไม่! ดินแดนแห่งนี้ไม่ใช่บ้านข้า ไม่ว่าท่านจักจองจำข้าด้วยวิธีใด ข้าจะออกไปจากที่นี่ให้จงได้?
?เจ้าเป็นสมบัติของข้า ข้าไม่มีวันปล่อยเจ้าไปไหนเด็ดขาดเชเรญ่า หรือต่อให้เจ้าอยู่ไกลลับตา จนมิอาจเห็นเม็ดทราย ข้าก็จะนำตัวเจ้ากลับมาอยู่ที่นี่ให้จงได้?
?ก็ลองดู...?
เป็นน้ำเสียงท้าทายมากที่สุดเท่าที่คามินเคยรู้จักอิสตรีมา แต่สุดท้ายแล้วเจ้าเม็ดทรายน้อยๆ ของเขาก็ถูกสายลมแห่งอิสรภาพพัดปลิวไปไกลแสนไกลจนได้
?เชเรญ่า? ชีคหนุ่มรำพันเสียงแผ่ว ทุกอณูความรู้สึกอัดแน่นด้วยสิเน่หาเต็มเปี่ยมหัวใจ จนมิสามารถหาสตรีนางไหนมาบรรเทาสิ่งเหล่านี้ได้ นานวันเข้า...คามินจึงประจักษ์แล้วว่าเขาโหยหานางผู้นี้ถึงเพียงใด โหยหาถึงขนาดต้องรีบตามหาตัวนางอย่างเร็วที่สุด เพราะเชเรญ่ามิได้ขโมยหัวใจของเขาไปอย่างเดียว แต่นางยังหายตัวไปพร้อมกับสมบัติชิ้นสำคัญของชาวจามอลด้วย!
ระหว่างคิดอะไรเพลินๆ ชีคหนุ่มจึงเตะเม็ดทรายเล่นเรื่อยเปื่อย แต่เมื่อเสียงฝีเท้าบดลงผืนทรายของใครบางคนดังขึ้น เขาจึงหยุดกิริยานั้นแล้วปรายตาไปมอง
?มีอันใด??
?เรียนท่านชีค ยูนุคทั้งห้าได้คัดเลือกนางงามจำนวนยี่สิบนางเสร็จเรียบร้อยแล้วขอรับ มิทราบว่าราตรีนี้จะให้นำตัวพวกนางเข้าปรนนิบัติรับใช้เลยหรือไม่??
ชีคหนุ่มมีสีหน้าครุ่นคิด ขณะปรายตาไปมองผู้รายงาน ก่อนพยักหน้ารับ
?จัดเข้ามาในกระโจมใหญ่ สัก...? คามินลูบปลายคางที่มีหนวดขึ้นปกคลุมเสริมให้ใบหน้าดูคมเข้มและน่าเกรงขาม ?ห้านาง?
?ห้านางเลยหรือขอรับ?!? องครักษ์ผู้ติดตามเผลออุทานออกมาด้วยความตกใจ แต่พอเจอสายตาไม่พอใจของผู้เป็นนายจึงค้อมศีรษะลง ?ขอประทานอภัยขอรับ?
?ตกใจอันใดกัน??
องครักษ์ผิวหมึกเลือกที่จักก้มหน้าลงไม่ตอบคำถาม
?เจ้ามีอะไรก็ไปทำเถอะ ข้าอยากอยู่คนเดียวเงียบ ๆ?
โดนท่านชีคเอ่ยปากไล่ดื้อๆ องครักษ์ผิวหมึกจึงจากไปแต่โดยดี หากแต่ห่างออกมาจากใต้ต้นปาล์มใหญ่แล้วก็ยังมิวายรำพันในใจว่า...คนอะไรใช้นารีเปลืองชะมัด!

บทที่ 1
วุ่นวาย

ร่างสูงใหญ่สง่างามสวมอาภรณ์พื้นเมืองสีน้ำเงินเข้ม ตัดเย็บจากผ้าไหมงดงามแลภูมิฐานสมฐานะชีคผู้ปกครองจามอลนครมีสีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เมื่อได้ยลโฉมของเหล่านางงามทั้งห้าที่องครักษ์ผิวหมึกผู้ติดตามนำตัวเข้ามาส่งให้ถึงกระโจมใหญ่ในราตรีนี้
?นี่หรือสตรีที่พวกเจ้าเรียกขานว่านางงาม?? เสียงทุ้มทรงอำนาจนั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง คราได้ยลโฉมของเหล่านางงามที่บรรดายูนุคขันทีทั้งห้าต่างใช้เวลาคัดเลือกร่วมสัปดาห์ ก่อนส่งตัวมาให้
?ขอรับ จากการออกตะเวนไปยังหมูบ้านและโอเอซิสต่างๆ ซึ่งห่างไกลจากที่พัก เรากวาดต้อนสาวงามมาได้เพียงยี่สิบนางเท่านั้น?
?เฮ้อ เห็นทีดินแดนแห่งนี้คงเข้าขั้นวิกฤตแล้วล่ะ แม้นแต่นางงามยังมิมีให้ได้ยล อูฐของข้ายังงดงามเสียกว่า?
ชีคคามินบ่นในลำคอก่อนโบกมือไล่องครักษ์ผิวหมึกให้ออกจากกระโจมไป ส่วนเขา...ผู้เรียกร้องหาสาวงามจึงได้แต่นั่งขัดสมาธิปลงตกกับเหล่านางงามที่อยู่ตรงหน้า แต่ก็นั่นล่ะ เพราะจุดประสงค์ของเขาที่เรียกหาสาวงามต่างจากบุรุษหนุ่มทั่วไป คามินจึงไม่เดือดร้อนอยู่แล้วหากในราตรีนี้ต้องอยู่ร่วมกระโจมกับเหล่านางงามเหลือน้อยเหล่านี้
เพราะความจำเป็นบางอย่างจากทางราชสำนักจามอลที่บีบบังคับ อีกทั้ง ?เรื่องส่วนตัว? กับอดีตนางสนมเอกของท่านชีคฮาดาลนาม ?เชเรญ่า? ที่เปิดเผยให้ใครรับรู้มิได้ จึงเป็นเหตุให้ชีคคามินต้องใช้แผนการแยบยลตามหาเชเรญ่ามารับโทษชนิดแทบพลิกผืนแผ่นดินทราย โดยที่ชีคหนุ่มหยิบประเด็นที่ว่าต้องการคัดเลือกนางงามผู้เหมาะสมมาเป็น ?ชีคคา? ด้วยตนเองมาเป็นข้ออ้าง
นี่เองจึงเกิดคำเล่าลือแลซุบซิบนินทาไปต่างๆ นานา ถึงหูคามินตลอดว่าเขาเจ้าชู้บ้างล่ะ ใช้สตรีเปลืองบ้างล่ะ เป็นปีศาจล่าพรหมจรรย์บ้างล่ะ ทั้งที่ความจริงเขาแทบมิได้แตะต้องพวกนางเหล่านี้เลย ถึงมีบ้างเรื่องนี้ก็เกิดจากความเต็มใจของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น ซึ่งหลังจากข้ามพ้นราตรีนั้นไป เขาจักมอบค่าตอบแทนให้นางผู้นั้นอย่างงามเพื่อแลกกับความพึงพอใจที่ได้รับ
แต่หลังจากมีข่าวเรื่องที่เขาออกตามหาชีคคาคู่บัลลังก์กระจายออกไป บรรดาสาวงามต่างก็พร้อมใจเข้าพิธีแต่งงานกันหมด แม้นแต่สาวแก่แม่หม้ายก็ยังพลอยเป็นไปด้วย หากจักเหลือให้ชื่นชมก็แต่สาวที่... ?งามเพียงน้อยนิด? เท่านั้น ที่พอเหลือให้เขาได้เลือกสรร ซึ่งทั้งหมดก็นั่งตัวสั่นงึก หน้าจ๋อย จ้องหน้าเขาอยู่นี่ล่ะ
?ข้ามิใช่ปีศาจ เลิกมองข้าด้วยสายตาเช่นนั้นเถิดเหล่านางงาม? คามินบอกเสียงห้วนเมื่อเห็นแต่ละนางร่ำไห้ราวกับถูกพาตัวมายังลานประหาร ยิ่งได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นก็ยิ่งสร้างความหงุดหงิดให้ชีคหนุ่มมากนัก หากแต่คำห้ามปรามห้วนห้าวกลับทำให้สตรีทั้งห้านางพากันขดตัวเข้าหากัน แล้วลอบมองเขาด้วยสายตาหวาดหวั่น เหมือนเผชิญหน้ากับนักฆ่าผู้.ั้นล่ะ
?ให้ตายเถอะ ข้าไร้ซึ่งอำนาจแม้นจักออกคำสั่งกับพวกเจ้าเลยหรือนี่? เจ้าของดวงตาสีน้ำมันดิบเท้าเอวขณะกวาดสายตามองเพื่อนร่วมกระโจมทั้งห้าที่มีกิริยาหวาดกลัวอย่างมิสบอารมณ์ จากนั้นร่างสูงสง่างามแฝงฝังความสบายๆ ตามบุคลิกประจำตัว จึงสาวเท้าไปยังบริเวณที่นอนขนสัตว์ของตนเอง พร้อมเปิดหีบใบน้อยหยิบบางสิ่งขึ้นมา แล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าสาวงามทั้งห้าอีกครั้ง
?ที่เกณฑ์ตัวมาที่นี่มิได้ให้พวกเจ้ามาทำหน้าที่นางสนมของข้าหรอก แต่ที่เรียกตัวมาเพราะอยากสอบถามบางสิ่งจากพวกเจ้าเท่านั้น?
คำชี้แจงนั้นหาได้ทำให้เหล่านางงามทั้งห้าคลายความหวาดหวั่นได้เลย ซ้ำพวกนางยังพากันส่งเสียงกรีดร้องเมื่อชีคหนุ่มมานั่งชันเข่าอยู่ตรงหน้า ซึ่งเสียงกรีดร้องอย่างพร้อมเพรียงราวนัดแนะของนางงามทั้งห้านางที่ดังไปถึงข้างนอกนี้เอง จึงทำให้องครักษ์ผู้ดูแลความปลอดภัยอยู่หน้ากระโจมถึงกับหูผึ่ง แลขนลุกในเสียงที่ได้ยิน เมื่อจินตนาการพาให้พวกเขาคิดเลยเถิดไปไกล
?หากพวกเจ้ายังไม่เลิกส่งเสียงกรีดร้องชวนให้เส้นขนข้าลุกชันอีก ข้าจักสั่งลงโทษให้หมดเลยคอยดู?
น้ำเสียงจริงจังกับสายตาดุดันที่บ่งบอกว่าเขาเอาจริง ทำให้หญิงสาวทั้งห้าพากันปิดปากเงียบ ชีคคามินจึงยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจเมื่อสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ แล้วทิ้งตัวนั่งขัดสมาธิกลางวงหญิงสาวอย่างไม่ถือตัว พร้อมคลี่ภาพวาดลายเส้นเสมือนจริงให้กับผู้ได้รับเชิญมาเที่ยวกระโจมได้ยล
?งดงาม และทรงเสน่ห์ใช่ไหมล่ะ? คามินกอดอกยิ้มน้อยๆ อย่างภาคภูมิใจ แต่ก็ไม่มีใครตอบรับคำถามของเขา
?คะ... ใครเจ้าคะ?? ใครคนหนึ่งในกลุ่มซึ่งมีความกล้ามากสุดเอ่ยปากถาม
?ภาพที่พวกเจ้าเห็นคือนางงามแห่งข้า แต่มีเหตุบางประการที่ทำให้นางหายไปจากอ้อมกอดของข้า ข้าจึงอยากถามพวกเจ้าว่ามีใครเคยพบเห็นนางบ้างไหม??
ผู้รับเชิญให้มาเป็นแขกพิเศษในกระโจมทั้งห้านางต่างพุ่งสายตาไปยังภาพวาดเสมือนจริงอย่างพินิจพิจารณา จากนั้นจึงพากันส่ายหน้าอย่างพร้อมเพรียง และคำตอบที่ได้รับซึ่งมิแตกต่างจากสตรีทั้งสามนางเมื่อราตรีก่อน ก็ทำให้คามินต้องถอนหายใจออกมา
?สักนิด ก็ไม่เลยหรือนางงาม??
?ไม่เจ้าค่ะ ข้ามิเคยพานพบนางงามในภาพวาดนี้จากที่ไหนมาก่อน?
คำยืนยันนั้นทำให้เจ้าของกระโจมได้แต่กรอกตาไปมาอย่างเหนื่อยระอากับการควานหาตัวเชเรญ่า ก่อนดีดตัวลุกขึ้นยืนกะทันหัน ซึ่งกิริยาพรวดพราดนี้เองที่ทำให้สตรีทั้งห้าถึงกับสะดุ้งพากันส่งเสียงร้องออกมาพร้อมกันอีก
?ช่างขวัญอ่อนเหลือเกิน บอกแล้วไงว่าข้าไม่คิดทำอันใดพวกเจ้า อ้อ ไม่คิดแตะต้องด้วยนะ? เจ้าของดวงตาสีน้ำมันดิบกวาดตามองเหล่าสาวงามอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนถอดเสื้อตัวนอกไปโยนไว้บนหีบไม้ และกิริยาที่ไม่สอดคล้องกับคำพูดนี่เองที่ทำให้บรรดาหญิงสาวทั้งห้าซึ่งถูกบังคับมารับใช้งาน อีกทั้งถูกยัดความกลัวเข้าไปในสมองถึงกับพากันปิดตาพร้อมเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น
?พับผ่าสิ! เชื่อเลยจริง ๆ? งึมงำเสร็จคามินจึงล้มนอนบนผ้าห่มขนสัตว์ผืนนุ่มในอิริยาบถแสนสบาย จากนั้นจึงกางภาพวาด ?เกือบเหมือน? ของเชเรญ่าออกดูอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย มิว่ารูปหน้า คิ้วคาง ดวงตา จมูก ริมฝีปาก หรือเรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นจักแค่ ?คล้าย? กับสตรีที่เขาตามหา แต่สิ่งนี้ยิ่งดูก็ยิ่งอยากพบหน้านางซะเหลือเกิน แต่เมื่อนึกได้ว่าสายตาทั้งห้าคู่จ้องมองเขาอยู่ คามินจึงดีดตัวลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง
?เกือบลืมบอกไป รอให้ตะเกียงดวงนั้นหมดน้ำมันก่อน แล้วพวกเจ้าค่อยออกไปรับรางวัลที่หน้ากระโจม อ้อ ถ้าใครได้ความอันใดเกี่ยวกับนางงามแห่งข้า สามารถแจ้งข่าวที่ข้าได้ หากข้าหาตัวนางในภาพวาดพบ ข้าจักมอบรางวัลอย่างงามให้กับผู้ให้ข่าวข้า? คามินกวาดสายตามองบรรดาสตรีทั้งห้านางอีกครั้งเป็นการทำความเข้าใจ ก่อนเอนหลังลงในอิริยาบถแสนสบายเช่นเคยโดยมิหันไปสนใจพวกนางทั้งห้าอีก
พอตะเกียงน้ำมันดับลงแล้วนั่นล่ะ ผู้ซึ่งถูกบังคับขู่เข็ญ พรากตัวมาจากครอบครัวเพื่อมาปรนนิบัติรับใช้ชีคคามิน จึงพากันวิ่งตัวปลิวออกนอกกระโจมในทันที ซึ่งปฏิกิริยานั้นทำให้ชีคหนุ่มต้องถอนหายใจออกมายาว ด้วยมิเข้าใจว่าเหตุใดเหล่าอิสตรีที่เข้าใกล้เขาถึงมีกิริยาหวาดกลัวเหมือนกันหมดเช่นนี้
?เฮ้อ ข้าเป็นจอมโจรล่าสวาทก็ว่าไปอย่าง แต่กาลนี้ข้าคือชีคคามินปกครองจามอล เหตุใดพวกเจ้าต้องกลัวเกรงข้าขนาดนั้นด้วยเล่า??
มิมีใครสักคนหันมาตอบคำถามของเขา คามินจึงได้แต่ไหวไหล่ไม่ยี่หระ
พอกระโจมใหญ่กลับมาเงียบสงบ ผู้ซึ่งเป็นถึงอดีตหัวหน้าจอมโจรจิ้งจอกทะเลทรายอันลือเลื่องจึงพ่นลมหายใจออกจากปาก ตอบตนเองไม่ได้เช่นกันว่าทำไมเขาถึงรู้สึกขวางหูขวางตากับปฏิกิริยาของเหล่าหญิงสาวที่ถูกเรียกตัวมาใช้งานนัก คงเป็นอารมณ์ตกค้างสืบเนื่องมาจากคำพูดท้าทายของเชเรญ่าผู้เยือกเย็นมากกว่าละมั้ง ที่ทำให้เขานั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วยความหงุดหงิด และนำมาซึ่งการออกตามหาตัวนางชนิดแทบพลิกผืนทรายแห่งนี้ แต่จนแล้วจนรอดเกือบขวบปีมาแล้ว เขายังไม่ได้ข่าวใดๆ ของนางเลย
?เจ้าหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนนะเชเรญ่า...? หากเป็นความสิเน่หาในตัวนางเพียงอย่างเดียว คามินบอกตนเองเลยว่าเขาคงใช้ความพยายามตัดใจจากนางไปเรียบร้อยแล้ว แต่เพราะทำไม่ได้ไงเล่า เขาจึงต้องปวดหัวกับเรื่องนี้มาเกือบปี
ก่อนอดีตผู้ปกครองจามอลนครผู้เป็นบิดาจักเสียชีวิตลง ชีคฮาดาลจึงมอบสนมเอกเชเรญ่าให้ดูแลปรนนิบัติรับใช้คามินเพราะปฏิเสธอันใดมิได้ และไม่คิดว่าตนเองจักอยู่บนบัลลังก์ของจามอลไปตลอดชีวิต คามินจึงรับเชเรญ่ามาเป็นสนมของตนแบบขอไปที ซึ่งชีคหนุ่มมารู้ในภายหลังเกี่ยวกับเชเรญ่าเมื่อไม่นานมานี้เอง
เชเรญ่าคือหลานสาวของมหาเสนาวาฮิดผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งนางเคยจ่ายค่าจ้างให้อย่างงาม เพื่อให้เขาพาตัวนางหนีจากห้องเก็บสมบัติ ทว่ากาลนั้นเขาเลือกที่จักปฏิเสธซ้ำยังลวนลามนางเข้าอีก จึงไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเชเรญ่าจึงมิอยากเฉียดใกล้ คงพอๆ กับเขานั่นล่ะที่สนใจในตัวนางแต่ก็ไม่แสดงออก นอกจากทำเป็นเพิกเฉยมิไยดีในตัวนาง
ตลอดเวลาที่คามินขึ้นปกครองนครจามอล เขามิเคยแตะต้องเชเรญ่าด้วยซ้ำ จักเฉียดใกล้ผ่านเงาของนางก็ยังไม่เคย แม้นแต่ปลายเส้นผมก็ยังมิได้แตะต้องสัมผัสถือสิทธิ์พึงมี นอกจากชื่นชมความงามของนางราวดอกไม้ประดับสวนเท่านั้น คงเพราะความเยือกเย็นของนาง รวมถึงการวางตัวเป็นผู้ใหญ่เกินวัยด้วยกระมัง จึงเป็นปราการด่านสำคัญกลางกั้นมิให้ใครเข้าถึงตัวตนแท้จริงของนางง่ายๆ
จนกระทั่งคามินเบื่อหน่ายกับการครองบัลลังก์ทองคำ และพร้อมหวนคืนสู่วิถีแห่งการเป็นจอมโจรจิ้งจอกทะเลทรายนั่นล่ะ เรื่องเหนือการคาดหมายจึงเกิดขึ้น จู่ๆ อดีตสนมเอกเชเรญ่าได้ขอเข้าพบและร้องขออิสรภาพจากเขา มิรู้ว่าสิ่งใดดลใจในกาลนั้นเขาถึงปฏิเสธนาง ทั้งๆ ที่มิเคยคิดครอบครองให้นางเป็นสมบัติถาวรของเขา
เหตุนี้ล่ะ สตรีแสนงามผู้เย็นชาจึงโกรธเขาหนักหนา ซ้ำยังทำตัวเป็น ?นางโจร? หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยพร้อมกริชฮาละซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าของชาวจามอล เหตุวุ่นๆ สืบเนื่องจากเรื่องนี้เอง จึงทำให้เขายกบัลลังก์ให้กับผู้เหมาะสมคนใหม่ปกครองจามอลมิได้
จะโทษใครไม่ได้เลยนอกจากความสะเพร่าของตนเองที่เก็บกริชฮาละเอาไว้ไม่ดี และเขาในตอนนี้ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ชาวเมืองยึดถือปฏิบัติมาช้านานได้ ด้วยจารีตตามความเชื่ออย่างหนึ่งของชาวจามอลที่ถือปฏิบัติมาช้านานมีอยู่ว่า ผู้ครองบัลลังก์จามอลทุกคนต้องใช้อำนาจแห่งกริชฮาละปกครองบ้านเมือง เพราะชาวเมืองต่างเชื่อมั่นศรัทธาว่ากริชทองคำศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้ จักนำความอุดมสมบูรณ์มาสู่นคร อีกทั้งปกป้องการคุกคามของอำนาจชั่วร้าย
และจารีตที่ถือปฏิบัติมาช้านานนี้เอง จึงทำให้ชีคแห่งจามอลทุกรุ่น ต้องส่งมอบกริชทองคำเล่มนี้ให้แก่ชีคคนใหม่ต่อหน้าประชาชน เพื่อประกาศให้ชาวเมืองได้รับรู้ และยอมรับผู้ปกครองคนใหม่ก่อนที่เขาจะโบกมืออำลาจาบัลลังก์ทองคำนั่นเอง
แต่นั่นล่ะเขามิสามารถกระทำสิ่งนั้นได้เลย และการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของเชเรญ่านี่ล่ะจึงนำปัญหามากมายมาให้เขาต้องปวดหัว ผู้ที่มีอิสระกับการใช้ชีวิตในแบบจอมโจรธรรมดาตั้งแต่เล็กจนโต ซ้ำยังถูกฝึกฝนให้มีความชำนาญกับศาสตราวุธและเล่ห์อุบายการปล้นต่างๆ แต่ต้องมาเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ของตนเป็นผู้ปกครองนครอย่างกะทันหันเพียงเพราะโชคชะตาเล่นตลก คิดแล้วช่างน่าขันสิ้นดี
เขาเป็นเพียงอดีตหัวหน้าจอมโจรจิ้งจอกผู้ไร้ความรู้พื้นฐานการปกครอง มิเคยอ่านตำราการปกครองด้วยซ้ำ วันๆ ขลุกตัวอยู่กับแผนการปล้น และคิดหาเล่ห์อุบายในการปล้นเหยื่อเท่านั้น ความรู้ทางการทูตเพื่อเจรจาค้าขายกับนครอื่นยิ่งไม่เป็นเข้าไปใหญ่ แล้วจักเอาความรู้แขนงไหนมาปกครองจามอลนครได้เล่า
อย่าว่าจักปกครองดินแดนแห่งนี้เลย แม้นแต่สถานที่สำคัญของจามอลนครมีกี่แห่ง และมีความสำคัญเช่นไรคามินยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ เต็มที่วันๆ ก็ได้แต่นั่งบนบัลลังก์ทองคำ ทนกัดฟันกรอดๆ ฟังบรรดาขุนนางแก่บ่นนั่นบ่นนี่ให้ฟังเท่านั้นว่าพื้นที่ตรงนั้นแห้งแล้ง พื้นที่ตรงนี้ขาดแคลนน้ำ พื้นที่ตรงนั้นถูกโจรทะเลทรายบุกปล้น พื้นที่นี้มีชนเพับผ่าเร่ร่อนบุกรุก แล้วเขาก็แก้ไขสถานการณ์ตามความรู้ที่ประชาชนคนหนึ่งคิดได้เท่านั้น
?พื้นที่ตรงนั้นแห้งแล้งนัก ก็ย้ายถิ่นฐานให้ชาวเมืองมาทำมาหากินยังพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ซะ ส่วนพื้นที่ไหนขาดแคลนน้ำ มิสามารถอพยพย้ายถิ่นฐานมาได้ก็ให้นำน้ำไปแจกจ่าย แล้วให้เปลี่ยนจากการเลี้ยงแพะเลี้ยงแกะ เป็นเลี้ยงอูฐ หากว่ามีปัญหาเรื่องมูลอูฐก็รับซื้อมาทำเชื้อเพลิงซะจักได้สิ้นเรื่อง?
เมื่อจัดการกับปัญหาเรื่องความแห้งแล้งไปได้ ปัญหาใหม่ก็เรียงหน้ามาให้ได้ปวดหัวอีก แต่ที่แย่ที่สุดเห็นจักเป็นปัญหาเรื่องจอมโจรจิ้งจอกนี่ล่ะที่ทำให้ชีคคามินปวดหัวไม่มีสิ้นสุด เพราะมิรู้ว่าจักรับมือเช่นไรในเมื่อจอมโจรจิ้งจอกทะเลทรายก็คือคนของเขาเช่นกัน
ระหว่างคิดอะไรเพลินๆ กระโจมผ้าจึงเปิดออกพร้อมกับ ?แขกพิเศษ? ในยามวิกาล เพียงเห็นหน้าสหายเก่าผู้มากับความมืดโดยมิมีการบอกกล่าวล่วงหน้า คามินซึ่งจมอยู่กับความเหนื่อยหน่ายจึงยิ้มกว้างอวดฟันซี่ขาวทันที
?โอ้...สหายอาหมัด ไม่สิ ข้าต้องเรียกเจ้าว่าท่านหัวหน้าถึงจักถูก เจ้ามาพบข้าในเวลาที่ข้าต้องการใครสักคนเพื่อปรับทุกข์อยู่พอดีสหายแห่งข้า?
มิเพียงคำทักทายตามประสาหนุ่มเจ้าสำราญ คามินยังรีบผละจากที่นอนขนสัตว์มาหาสหายรักด้วย ทว่าชีคหนุ่มต้องหยุดชะงักพร้อมยกมือขึ้นในท่ายอมแพ้ทันที เมื่อจู่ๆ มีดสั้นของอาหมัดยื่นมาจี้อยู่ที่ปลายจมูกโด่งเป็นสันของเขา
?ไม่เจอหน้าตั้งนาน สบายดีใช่ไหมสหายรัก??
มือหนาปัดปลายมีดสั้นแหลมคมออกไปจากปลายจมูกอย่างระมัดกระวัง กระนั้นสายตาของผู้มาเยือนจริงจังเคร่งขรึมยิ่งกว่าเดิม เมื่อตวัดปลายมีดมาจี้ปลายจมูกของอดีตหัวหน้าจอมโจรจิ้งจอกอีกครั้ง
?เลิกเล่นได้แล้วชีคคามิน ข้ามาพบท่านในครั้งนี้เพราะสะสางเรื่องบาดหมางระหว่างเราโดยเฉพาะ? อาหมัดผู้ซึ่งได้รับเลือกเป็นหัวหน้าจอมโจรจิ้งจอกทะเลทรายสืบต่อจากคามินบอกเสียงกร้าวแทบจักเป็นตวาดเสียงใส่
หากแต่ผู้สนุกกับการใช้ชีวิต และมิเคยยึดติดกับสิ่งใดกลับเลิกคิ้วขึ้นสูง
?เรื่องบาดหมางเลยรึ พูดซะจริงจังน่ากลัวเชียวอาหมัด ข้าว่าเจ้าเก็บมีดก่อนดีกว่าไหม หวาดเสียวเหลือเกินว่ามันอาจเสียบทะลุลำคอของข้า?
คำหยอกเย้านั้นแทนที่จักผ่อนคลาย แต่กลับทำให้อาหมัดถึงกับแก้มกระตุก
?สำหรับท่านอาจเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับพี่น้องชาวจิ้งจอกทะเลทราย สิ่งนี้มันยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดทั้งหมด?
?สีหน้าจริงจังของเจ้าทำข้าอารมณ์บูดไปด้วยนะอาหมัด เรื่องสำคัญเหรอ??
คามินมิวายเลิกคิ้วถาม แล้วหมุนตัวหลบปลายมีดสั้น ก่อนหันหน้ามาเผชิญหน้ากับสหายรักอีกครั้ง ส่วนผู้ซึ่งบุกเดี่ยวเข้ากระโจมชีคคามินเพียงลำพังอย่างกล้าหาญจึงลดมีดสั้นลง พลางกรอกลูกตาไปมาอย่างอ่อนใจ กับพฤติกรรมที่มิเคยเปลี่ยนไปของอดีตผู้นำจอมโจรจิ้งจอก
?วันๆ เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการออกล่าตามหาสาวงาม ชมการแสดงระบำหน้าท้อง สมองอันชาญฉลาดของท่านเคยรับรู้เรื่องของพี่น้องจิ้งจอกทะเลทรายบ้างไหมอะเมีย??
ผู้ถูกต่อว่าไหวไหล่ ?ก็เพราะไม่รู้เรื่องใดๆ ไงเล่า ข้าถึงต้องถามจากเจ้า?
อาหมัดสูดลมหายใจเข้าจมูก แล้วพ่นลมหายใจออกมายาวจนเกิดเสียงกับกิริยาคล้ายทองไม่รู้ร้อนของชีคคามิน
?คนของท่านสังหารพี่น้องจิ้งจอกของข้าจำนวนสิบเจ็ดศพ ตอนปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยให้ขบวนสินค้าที่ถ้ำผาขาด?
น้ำเสียงจริงจังของหัวหน้าจอมโจรจิ้งจอกทะเลทรายคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นสหายสนิท มีผลต่อสีหน้าของคามินขึ้นมาทันที
?ล้อเล่นแรงขนาดนี้เชียวหรือสหายข้า?
?หน้าตาของข้าบอกท่านเช่นนั้นรึ? ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้ ข้าคงไม่เหยียบกระโจมให้ท่านลากตัวข้าเข้าห้องขังเหมือนที่ทำกับพี่น้องของเราหรอก? อาหมัดแยกเขี้ยวใส่ ดวงตาวาววับกว่าเดิมที่อีกฝ่ายเห็นเรื่องร้ายแรงนี้เป็นเรื่องเล่นๆ ไป
?เรื่องบ้านี่เกิดขึ้นได้อย่างไร?? พอเห็นอาหมัดหัวเสีย คามินจึงปรับน้ำเสียงนั้นกลายเป็นจริงจัง
?นั่นเป็นคำถามที่ข้าต้องใช้ถามท่านมากกว่า เราเคยตกลงกันแล้วมิใช่หรือ ถึงท่านจักรับตำแหน่งเป็นผู้ปกครองจามอลนคร เราจักไม่ก้าวก่ายหน้าที่ของกันและกัน แล้วเหตุใดท่านถึงตระบัดสัตย์ไม่รักษาสัจจะเช่นนี้?
?ข้ามิเคยรู้เรื่องนี้?
?นั่นไม่ใช่คำแก้ตัวที่ดีนะชีคคามิน!? มิเพียงถ้อยคำต่อว่า อาหมัดยังผลักอกกว้างของชีคหนุ่มเป็นการระบายโทสะอีกด้วย ?ทหารจามอลหลายสิบนายสังหารพี่น้องของเราราวผักปลา ทั้งๆ ที่เหล่าสาวกจิ้งจอกคอยช่วยเหลืองานของทางการมาตลอด นี่คือผลตอบแทนความดีที่พวกเราจักได้รับงั้นหรือ?
อาหมัดเค้นเสียงเย็น ดวงตาของชายผิวหมึกจรัสแสงวาวโรจน์ด้วยความโกรธ ก่อนจักกระชากเสื้อผ้าไหมเข้าหาตัวแล้วเสยหมัดลุ่นๆ เข้าไปที่ใต้คางของคามินจนผู้ไม่ได้ตั้งหลักเซล้มลงไปบนที่นอน
?ท่านก็รู้ว่าพี่น้องชาวจิ้งจอกทะเลทรายไม่เคยฆ่าใคร หากท่านลืมความเป็นพี่น้องของเราแล้วก็มิน่าสั่งคนไปสังหารพวกเขาอย่.่นนี้?
ถ้อยคำตัดพ้อนั้นกรีดลึกลงในใจคามินได้ดีนัก แต่เขาก็เมาหมัดจนพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
?เจ้าทำบ้าอันใดรึอาหมัด เจ้ามาที่นี่เพื่อชกหน้าข้าแล้วต่อว่าข้าโดยไม่ถามไถ่จากปากสักคำหรือเจ้าบ้า!?
พอหายมึนตั้งหลักได้แล้วคามินจึงชกหน้าอาหมัดกลับไปหนึ่งหมัด แต่ก็ถูกอาหมัดสวนกลับมา จากนั้นทั้งสองจึงเข้าต่อสู้แลกหมัดกันนัวเนียจนข้าวของกระจัดกระจาย กระทั่งหมดแรงนั่นล่ะ ทั้งสองจึงล้มตัวแผ่หลาในกระโจม
?สารภาพตามตรงนะ ว่าข้าไม่รู้เรื่องที่เจ้าพูดถึงสักนิด และไม่เคยคิดด้วยว่าทหารของจามอลจักกล้ากระทำเช่นนั้นกับพี่น้องของเราด้วย?
ผู้นอนหอบหายใจแรงมองใจกลางของกระโจมเบือนหน้ามายังผู้ปกครองจามอลด้วยสายตาไม่ชอบใจเช่นเดิม
?พูดพล่อยๆ อย่างนี้น่าเอาอีกสักหมัดนะ?
?พอแล้ว ข้าจุก? คามินมิวายปราม ซึ่งถ้อยคำนั้นทำให้อาหมัดอดยิ้มมุมปากออกมาได้
?สิ่งแวดล้อมเปลี่ยน ใจคนก็เปลี่ยน ท่านอยู่แต่ราชสำนักนานๆ คงมิได้สนใจโลกภายนอก หรืออาจสนใจแต่มิได้ใส่ใจจึงมิรู้ว่าพี่น้องจิ้งจอกถูกทหารจามอลข่มเหงรังแก และฆ่าทิ้งราวผักปลา?
?ก็บอกแล้วไงว่าข้าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ให้สาบานต่อหน้าองค์เทวีแห่งแสงสว่างเลยก็ได้ ว่าข้ามิรู้เห็นเรื่องนี้... ข้าเสียใจกับข่าวร้ายที่เกิดขึ้นกับพี่น้องของเรานะอาหมัด?
?ท่านก็พูดได้แค่นี้ เสียใจแล้วช่วยให้อันใดให้ดีขึ้นเล่าชีคคามิน?
คามินมิได้โต้ตอบถ้อยคำเหน็บแนม นอกจากปิดปากเงียบรับฟังความคิดเห็นของสหายรัก อาหมัดจึงทรงตัวลุกขึ้นพร้อมจับเสื้อผ้ามอซอซึ่งมิต่างจากขอทานของตนเองให้เข้าที่เข้าทาง
?ข้าเดินทางมาที่นี่ก็เพื่อพูดคุยเรื่องท่านนี่ล่ะ หากมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นกับพี่น้องของเราอีก เห็นทีความสัมพันธ์อันยาวนานของพวกเราคงขาดสะบั้นลง ท่านเองก็อย่ากล่าวหาว่าพวกข้าใจร้ายกับชาวเมืองจามอลเลยนะ หากเราชาวจิ้งจอกจักใช้วิธีของจิ้งจอกเล่นงานผู้ที่รังแกย่ำยีศักดิ์ศรีพวกเรา?
คามินพยักหน้ารับ พลางดีดตัวลุกขึ้นนั่ง
?ตกลงๆ ข้ารับปากจักไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นกับพี่น้องชาวจิ้งจอกอีก ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นข้าจักสั่งสอบสวนลากตัวผู้อยู่เบื้องหลังมารับโทษให้จงได้?
?ดี ข้าจักอยู่เมืองนี้รอดูท่านแก้มือ อ้ออีกสิ่ง เกรงว่าท่านนั่งอยู่บนบัลลังก์ทองคำมานานจักลืมกฎอันเคร่งครัดของเรา จอมโจรจิ้งจอกทะเลทรายถือสัจจะเป็นใหญ่ อย่ากลับคำง่ายๆ ล่ะชีคคามิน มิเช่นนั้นข้าพาสาวกจิ้งจอกมาถล่มฮาเร็มของท่านเป็นแน่?
?ชีคคามินเช่นข้ายึดถือสัจจะเป็นใหญ่เฉกเช่นกัน ข้าไม่ลืมคำมั่นที่ให้ไว้หรอก ท่านหัวหน้าอาหมัด?
อาหมัดสบตากับเจ้าของดวงตาสีน้ำมันดิบอีกครั้ง แล้วยื่นมือไปตีมือกับคามินแทนคำตกลง ก่อนกลับออกจากกระโจมหลังใหญ่ที่เละเทะไปทั้งหลังด้วยฝีมือของเขาและชีคคามิน
เมื่อความสงบหวนกลับมา เจ้าของกระโจมจึงต้องนั่งเท้าคางอย่างหนักใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่น้องจอมโจรจิ้งจอกทะเลทรายอีกครั้ง พร้อมคำถามที่ว่าเขาต้องมาเจ็บตัวด้วยกำปั้นหนักๆ ของอาหมัดเพียงเพราะฝีมือผู้อื่นงั้นหรือ?
?ได้เวลาสืบหาความจริงแล้วคามิน? ชีคหนุ่มบอกตนเองด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ดวงตาเป็นประกายระยับ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จอมโจรจิ้งจอกเจ้าเล่ห์...ผู้ซึ่งไม่เคยอ้าแขนรับคำว่าพ่ายแพ้หรือเสียเชิงให้แก่ผู้ใด ทว่า ?ชีคคามิน? กลับต้องมาเสียรู้ให้กับนางสนมเอกเพียงเพราะท่าทางยวนเย้ากระเส่าให้รัก หากแต่ ?เชเรญ่า? มิได้รักเขาแต่นางต้องการตลบหลังจอมโจรด้วยการเป็นโจรเสียเอง และแล้วนางสนมเอกก็อันตรธานหายไปพร้อมกับของสำคัญคู่บ้านคู่เมือง
ณ เวลานั้นชีคคามินก็รู้สึกเสมือนมีผู้คนทั้งโลกชี้นิ้วใส่หน้าเขา เพื่อเหยียดหยามจอมโจรร้ายให้จมดินที่เสียท่าง่ายดายให้ผู้หญิงบอบบางคนหนึ่ง ซึ่งนั่นเป็นการนำพาความแค้นให้แก่ชีคคามินจนสุดจะทน แต่ที่แค้นอย่างไรก็ไม่หายก็คือนางสนมแสนสวยฉกฉวยหัวใจของเขาไปทั้งดวงอย่างทารุณ...ปล่อยให้เขาพร่ำเพ้อคิดถึงนางอยู่ทุกเช้าค่ำทั้งๆ ที่แรกเริ่มเดิมทีเขาหาได้ปรารถนานางไม่ แต่บัดนี้...ชีคคามินต้องการเพียงแค่เชเรญ่านางสนมยั่วสวาทเท่านั้น


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”