ยกตัวอย่างเช่น ?ประเทศมหาอำนาจ? อันเก่าแก่และกว้างใหญ่อย่างพาลเมเนียศักดิ์สิทธิ์กับจักรวรรดิฟอคแลนด์
?ประเทศหลากหลายเชื้อชาติ? ของชนเผ่าซึ่งอพยพย้ายถิ่นมาจากทวีปตะวันออกอย่างอดีตเอเซรอนผู้ยิ่งใหญ่กับคาเรียโคเรีย
กลุ่มประเทศมอร์ทาเนียถูกฟอคแลนด์กับพาลเมเนียขนาบจนเกิดการแบ่งแยกการปกครองในช่วงหลายร้อยปีมานี้ ด้วยสภาพภูมิประเทศที่ยังมีภูเขาไฟปะทุและแร้นแค้นที่สุดในแผ่นดินใหญ่จึงเป็นกลุ่มประเทศขนาดกลางและขนาดย่อมที่มหาอำนาจยังเมิน
เอเดรียประเทศพ่อค้าที่เพิ่งทิ้งระบอบประชาธิปไตยแบบนครบาลอันยาวนานและค่อยๆ พัฒนารูปแบบเป็นราชอาณาจักรในที่สุด
และประเทศราชของมหาอำนาจ อย่างซีเรเจียกับแกรนด์อาณาจักรอาร์คดยุคอเจนเซน
?แต่ออซมาเนียของเราไม่อยู่ในกลุ่มนั้น?
....ชายคนนั้นพูดพลางเช็ดปากด้วยผ้าไหมที่จัดเตรียมไว้บนโต๊ะ
มันคือโต๊ะอาหารสุดหรู
ผลไม้สดๆ จากต้นพูนถาดเงิน ทั้งผลไม้จำพวกส้มหายากในภาคเหนือ ทั้งดอกไม้หลากสีของประเทศทางใต้ที่ปลูกในเรือนกระจกควบคุมอุณหภูมิ ทุกอย่างล้วนเป็นของชั้นเลิศที่สามัญชนไม่เคยเห็นและลิ้มลอง
ที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าคือน้ำพุยักษ์กลางโต๊ะ หมู่ปลาแหวกว่ายอย่างเชื่องช้าไปรอบโต๊ะดูระยิบระยับราวกับมีอัญมณีจมอยู่ในน้ำ
หากเป็นปัญญาชนคงรู้ทันทีว่ามันคือสไตล์เอเซรอน อดีตมหาอำนาจทางตะวันออก ทั้งหัตถกรรมเชือกสานสารพัดที่ห้อยจากเพดาน ทั้งม่านที่ถักด้วยลูกไม้ ส่วนใหญ่เป็นวัฒนธรรมที่หาดูไม่ได้ในพาลเมเนียหรือฟอคแลนด์
?แต่สิ่งนี้แหละคือเครื่องพิสูจน์ว่าออซมาเนียของเราคือประเทศอย่างแท้จริง ออซซี่? เขาพูดต่อ ?เรามีชนเผ่าและวัฒนธรรมของตัวเอง มีอุตสาหกรรมเพียงพอกับการส่งออก มีกองทัพกับเส้นทางคาราวาน เราไม่ได้มีมันอย่างเดียว สิ่งสำคัญคือความสมดุล อย่างเอเดรียที่เก่งแต่ค้าขายจนมั่นใจเกินเหตุว่ากำไรคือจุดแข็งของประเทศ ดูสิว่าตอนนี้เป็นยังไง การบริหารประเทศมันไม่ง่ายเหมือนปากพูดสักหน่อย?
ถึงอย่างนั้น การที่ประเทศเล็กๆ ทางเหนืออย่างออซมาเนียรักษาเกียรติในฐานะประเทศมาจนถึงตอนนี้ได้ คงเพราะครอบครองเหมืองแร่เหล็กชั้นเลิศจนได้อีกชื่อหนึ่งว่า ?ประเทศแห่งเหล็ก?
?สังคมโลกยกให้วิสตันเซียร์เป็นประเทศแห่งช่างฝีมือ แต่จริงๆ แล้วออซมาเนียของเราต่างหากที่คู่ควรมากกว่า แต่กลับ....?
?ก็ชาวออซมาเนียไม่เอาถ่านนี่พ่ะย่ะค่ะ?
ผู้ที่ตอบอย่างไม่แยแสและเริ่มปอกเปลือกส้มคือเด็กหนุ่มที่เห็นได้ชัดว่าเป็นทายาทของชายคนนั้น
โดยเฉพาะผมที่คล้ายกับชายที่หมุนส้อมเงินเล่นตรงหน้า
คล้ายแต่ไม่เหมือน
ชายคนนั้นมีผมสีน้ำตาลแดงดุจเหล็กร้อนจี๋ นัยน์ตาสีครามดุจท้องฟ้า ทว่าของเด็กหนุ่มมีสีซีดราวกับเจือจางด้วยน้ำจำนวนมาก โดยผมของเขามีสีน้ำตาลอ่อนดุจเหล็กร้อนแช่น้ำ กับนัยน์ตาสีเทาดุจน้ำแข็งขุ่นมัว และผิวขาว ซึ่งผิดปกติสำหรับชาวออซมาเนียชนเผ่าแห่งเหล็กเจ้าของผิวสีน้ำตาลเข้ม
?ว่ากันว่าถ้าตอนนี้ไม่มีเมืองพลอยสีฟ้าศิลามณี เขตอุตสาหกรรมของวิสตันเซียร์ พวกเราคงไม่ได้แต่งองค์ทรงเครื่องกัน คนเงอะงะ หยาบกระด้าง ป่าเถื่อนอย่างชาวออซมาเนียไม่มีทางสู้พวกเขาได้อยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ?
เด็กหนุ่มซึ่งเป็นชาวออซมาเนียจอมเงอะงะ หยาบกระด้าง ป่าเถื่อนอย่างไม่ต้องสงสัยเช่นกันเอ่ย
แน่นอนว่าภาชนะบนโต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่ก็เป็นของวิสตันเซียร์ ทั้งช้อนส้อมทั้งเหยือกน้ำก็เป็นงานฝีมือชั้นเยี่ยมของวิสตันเซียร์ทั้งสิ้น
ชายคนนั้นเรียกชื่อลูกตัวเองด้วยความเคือง
?ออซซี่ ลูกพ่อ?
?อะไรพ่ะย่ะค่ะ ท่านพ่อ?
ทั้งคู่สบตาสีเดียวกัน
?เจ้าไม่พอใจที่เกิดเป็นชาวออซมาเนียรึ พ่อเสียใจนะ?
?หามิได้ ลูกแค่ทูลตามความจริงเท่านั้น?
เด็กหนุ่มนามออซพูดต่อ
?ในความเป็นจริง คนในโรงงานผลิตโลหะของเราก็มีแต่ช่างฝีมือชาววิสตันเซียร์ทั้งนั้น ต่อให้เอาความเงอะงะงุ่มง่ามไปสู้กับประเทศนั้นเอาป่านนี้ ประวัติศาสตร์กว่าพันปีก็จะพิสูจน์ความพ่ายแพ้ให้เราเท่านั้นเอง?
พ่อเห็นพายุหนาวเหน็บพัดโหมอยู่ด้านหลังลูกชายกับตา
กษัตริย์ผู้นี้มีนามว่า เซตาฮาท
ส่วนเจ้าชายมีนามว่า ออซ
ชื่ออย่างเป็นทางการคือมาท เซตาฮาท เจนกูบลาๆๆ กับนาจาริส ออซ ชินบลาๆๆ ยาวเฟื้อยจนมีแต่มหาดเล็กกับเลขาธิการที่จำได้ ดังนั้นพวกเขาจึงให้บรรดาหญิงคนสนิทเรียกตัวเองสั้นๆ ว่าเซตี้กับออซซี่แทน
ใช่ ที่นี่ไม่ใช่ที่ไหนนอกจากราชวังทองโดห์ราฮาน ในกรุงบันคุชแห่งราชอาณาจักรออซมาเนีย
และทั้งคู่คือผู้อาศัยอยู่ที่นี่อย่างถูกต้อง
ราชวังโดห์ราฮานแห่งออซมาเนียซึ่งสร้างเป็นแนวโค้ง
?โดห์ราฮาน? เป็นภาษาโบราณ หมายถึงคันธนู สมัยก่อนกองธนูเหล็กของออซมาเนียได้รับการยกย่องว่าแข็งแกร่งที่สุด จึงจัดวางราชวังให้เป็นทรงธนู
ออซมาเนียเป็นประเทศที่ปกครองโดยเหล็กเพื่อเหล็กและรุ่งเรืองด้านการค้าขายมาตั้งแต่อดีต โดยเฉพาะกรุงบันคุชซึ่งเป็นนครเก่าแก่ที่มั่งคั่งในฐานะเมืองแห่งแหล็กอยู่แล้ว
เหล็กทำให้มหานครรุ่งโรจน์และแข็งแกร่ง
เพราะเหล็กนั้นหาง่าย สามารถนำมาผลิตเสื้อเกราะกับรถถังได้ในราคาถูก ออซมาเนียจึงกลายเป็นประเทศที่มีความแข็งแกร่งทางการทหาร บุรุษเพศถูกสั่งสอนให้เป็นดั่งเหล็ก จึงถูกเลี้ยงให้เป็นช่างโลหะ พ่อค้าเหล็ก บ้างก็อัศวินเหล็ก
ชายชาวออซมาเนียคือบุรุษเหล็ก
แสนยานุภาพอันแข็งแกร่งกับทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ทำให้ออซมาเนียไต่เต้าจากมหานครเป็นประเทศ และผงาดขึ้นมาเป็นหนึ่งในมหาอำนาจจนได้ฉายาเสือแห่งภาคเหนือ
ออซมาเนียไม่ถูกประเทศอื่นกลืนเพราะมีเหล็ก แสนยานุภาพ และเทือกเขาซันคีรีอันสูงชันตั้งตระหง่านสกัดกั้นความทะเยอทะยานของพาลเมเนียอยู่ทางใต้นั่นเอง
ทว่า....
?เราถูกวิสตัสเชียร์แซงหน้าไปแล้ว!?
กษัตริย์เซตี้ใช้ส้อมทิ่มส้มตรงหน้าไม่ยั้งราวกับมันคือวิสตันเซียร์
?จากรายงานของเหล่าทูตที่ไปสำรวจ วิสตันเซียร์มีเงินคงคลังคล่องตัว การค้ากับมหาอำนาจเหนือใต้ก็รุ่งเรือง ปริมาณการส่งออกมีแต่จะเพิ่มขึ้นทุกปี ให้ตายสิ ไม่นึกว่าออซมาเนียของเราจะแพ้วิสตันเซียร์ที่ด้อยกว่าทั้งอาณาเขต วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์....?
แทนที่จะกินส้มกลับใช้ส้อมแทงไม่หยุด
หลายปีมานี้ คู่แข่งตัวฉกาจของออซมาเนียคือวิสตันเซียร์ เพื่อนบ้านที่ได้รับการยกย่องให้เป็นประเทศแห่งช่างอัญมณีเครื่องประดับและเครื่องเงิน
เนื่องจากกษัตริย์นักปฏิรูปเมื่อหลายรุ่นก่อนให้การต้อนรับเหล่าช่างฝีมือและให้เขตอุตสาหกรรมปกครองตนเอง จึงมีช่างฝีมือชั้นยอดมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก และการที่ประเทศตั้งอยู่ใกล้ฟอคแลนด์และพาลเมเนีย เหล่าขุนนางที่คลั่งไคล้การแต่งตัวจึงพากันอยากได้เครื่องประดับฝีมือประณีตของประเทศนี้
ยิ่งตั้งแต่มีอุปกรณ์แม่นยำที่เรียกว่านาฬิกาถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้ ปริมาณการส่งออกจึงเพิ่มขึ้นไม่หยุด
ว่ากันว่ากษัตริย์นานาประเทศต่างสั่งให้ชำแหละชิ้นส่วนนาฬิกาออกมาดูกลไลหวังจะผลิตเลียนแบบ แต่ไม่สำเร็จสักราย เพราะมันเป็นนาฬิกาที่ออกแบบมาให้คนมือเบาอย่างชาววิสตันเซียร์ผลิตโดยเฉพาะ
?โธ่เว้ย โธ่เว้ย ไอ้กษัตริย์วิสตันเซียร์วิปริต ทั้งที่เป็นพวกตัณหากลับไม่สนทั้งผู้หญิงผู้ชาย แต่พอเป็นเรื่องหาเงินกลับกระตือรือร้นชะมัด!?
กษัตริย์ออซมาเนียผู้รักร่วมสองเพศแทงส้มไม่ยั้งด้วยความเจ็บใจสุดขีด
?ได้ยินว่าในวังหมอนั่นมีเสือหายากจากตะวันออกเอย เหยี่ยวปีกสีฟ้าเอย หนูตัวใหญ่เท่าหมูเอย เดินอาดๆ เพ่นพ่านไปทั่ว หมอนั่นเป็นพวกคลั่งไคล้สัตว์ป่าหายากเลยรักสัตว์มากกว่าคนซะอีก?
?ถ้าท่านพ่อเสด็จไปราชวังชีลันเชลินก็น่าจะเป็นที่รักเหมือนกันนะพ่ะย่ะค่ะ?
?........?
พายุหิมะก่อตัวขึ้นมาเฉยๆ อนึ่ง ออซมาเนียอยู่กลางฤดูร้อน
แต่ผู้เป็นพ่อก็ไม่ยอมแพ้
?พ่อไม่ใช่สัตว์ป่าหายากนะ!?
พ่อโกรธจัดจนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกแหย่เล่น
?ตอนอยู่ในวัง หมอนั่นแทบไม่ใส่อะไรเลยนะ โอ้ว ช่างไร้อารยธรรมและวิปริตอะไรอย่างนี้ พ่อว่าพวกที่ยกวิสตันเซียร์เป็นประเทศแห่งความรู้และศิลปะต้องไม่รู้ความจริงข้อนี้แน่!?
?เรื่องที่เขาเดินล่อนจ้อนกับการที่ท่านพ่อทรงเคลือบทองทั้งตัว มันตัดสินยากนะพ่ะย่ะค่ะว่าใครวิปริตกว่ากัน?
ออซพูดเสียงเยือกเย็นตรงข้ามกับพ่อที่เดือดจนปรอทแตก
พ่อเขาใช้ทองคำเปลวเคลือบตัวทุกวันเพราะมันช่วยบำรุงผิว มีบางครั้งที่เขาอ่านเอกสารผ่านๆ บ้าง พบท่านทูตบ้างทั้งที่ตัวยังเป็นสีทอง เจ้าตัวจึงไม่รู้ว่าตัวเองถูกเรียกลับหลังว่า ?กษัตริย์ชุบทองแห่งออซมาเนีย?
(เร่าร้อนแต่เช้าเหมือนเดิม)
ในฐานะลูกชาย แม้พ่อเลือดร้อนของตนได้ฉายาว่ายอดกษัตริย์และกษัตริย์ชุบทองในเวลาเดียวกัน เขาก็ไม่เกี่ยง เพราะมันเป็นความเป็นจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ไปเสียแล้ว
เพียงแต่เขาไม่เข้าใจ
(ข้าก็ไม่อยากเข้าใจหรอก)
ออซ มกุฎราชกุมารแห่งออซมาเนียได้ชื่อว่าเป็นเจ้าชายผู้สุขุมและปราดเปรื่อง ตรงข้ามกับพ่อผู้เลือดร้อนและหลุดโลก แต่ออซรู้ดีว่าคำชื่นชมนั้นผิดประเด็น
เพราะเขาไม่สุขุมเยือกเย็น แค่ไม่แยแสต่างหาก
(ไม่สิ ไม่ใช่เลย ถ้าอยู่กับพ่อที่เพี้ยนขนาดนั้นตลอดเวลา ไม่ว่าใครก็เป็นเหมือนกัน เพราะมันเป็นวิธีเดียวที่จะรักษาความสงบของจิตใจได้ ข้าปกติดี แค่ไม่สนใจการมีชีวิตอยู่แม้แต่น้อยเฉยๆ....)
อย่างไรก็ตาม ลูกชายผู้มีนิสัยตรงข้ามกับตนทั้งที่มีสายเลือดเดียวกันถือเป็นยอดคนดังของออซมาเนีย ไม่สิ เรียกว่าเป็นของขึ้นชื่อเลยก็ว่าได้ ในความเป็นจริงออซเองก็รู้ว่าตนถูกล้อในกระดานข่าวกลางเมืองว่า หากพ่อเลือดร้อนบวกกับลูกเย็นชาจะกลายเป็นคนปกติ
รวมทั้งเรื่องที่ตนถูกเรียกว่า ?เจ้าชายลูกเห็บ?....เพราะความหนาวเหน็บมาพร้อมคำพูดของเขา
?แต่ๆๆๆ!?
แม้ถูกลูกชายหยามหน้าชัดเจน เขาก็ไม่ยอมแพ้
?พ่อจะล้มตรงนี้ไม่ได้ พ่อจะไม่ยอมแพ้ ต้องทำอะไรสักอย่างให้การค้าของออซมาเนียรุ่งเรืองไม่แพ้วิสตันเซียร์ เอาเป็นว่าพ่อไม่อยากแพ้มัน!?
กษัตริย์ผู้เร่าร้อนร้อนกว่าลูกเท่าตัวพูดก่อนงับส้มตัวแทนกษัตริย์วิสตันเซียร์ที่แสนเกลียด
?ประเทศเรามีเงินสะพัดตลอดพันปีเพราะเหล็ก แต่เหล็กมันมีขีดจำกัด ระยะหลังมานี้พริกไทยกับเกลือทะเลชั้นดีจากประเทศทางใต้ สิ่งทอฝีมือประณีตสารพัดกับเครื่องเคลือบลายครามจากทวีปตะวันออกขายได้ราคาดีกว่าเหล็กเสียอีก ในยุคที่สงครามลดลง ทหารรับจ้างบานเบอะ มีแต่การค้าเท่านั้นรึที่ช่วยประคับประคองประเทศได้...?
แววตาผู้รอบรู้ฉายอยู่ในดวงตากษัตริย์เซตี้
ต่อให้เขาแปะทองคำเปลวทั้งตัว เรียกคนทุกเพศทุกวัยมาปรนเปรอความใคร่ตั้งแต่เด็กหญิงวัยหกขวบไปจนถึงบุรุษเฒ่าวัยหกสิบแปด ใช้ริบบิ้นพันร่างเปลือยเปล่าให้บรรดาคู่ขาปลดเปลื้อง มันอาจฟังดูวิปริต แต่คนรุ่นหลังจะจดจำเขาในฐานะผู้ทำให้ออซมาเนียเฟื่องฟูที่สุด
และยังพูดได้ว่าการที่เขาไม่ใช่พวกกามวิตถารอย่างเดียว ทำให้เหล่านายทหารกับนักวิชาการมีชื่อมากมายคอยถวายการรับใช้ ออซมาเนียจึงรักษาภาพลักษณ์มหาอำนาจทางการทหารไว้ได้เหมือนเดิม
(ใช่ ถ้าเป็นแค่โรคจิตคงถูกลอบสังหารไปนานแล้ว....)
ออซคิดในใจ
(ออซมาเนียเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนมาแต่ไหนแต่ไร กษัตริย์ไร้น้ำยาไม่มีทางอยู่ได้นานอยู่แล้ว รอบตัวท่านพ่อมีแต่นายทหารรุ่นเก๋า และมีราชนิกุลยั้วเยี้ยผิดกับอเจนเซนที่ผงาดขึ้นมาโดยแทบไม่มีใครเลย ท่านพ่อมีพี่น้อง 21 คน แถมมีลูกนอกสมรสตั้ง 10 คน ไม่ต้องห่วงเรื่องผู้สืบทอดเลย....)
นอกจากนี้ลูกชายคนโตและมกุฎราชกุมารอย่างออซจะเป็นคนทำให้พ่อสละบัลลังก์เอง เขาอายุย่าง 13 แล้ว มีสิทธิ์สืบทอดราชสมบัติอย่างถูกต้องทุกประการ
แต่ถึงอย่างนั้น ที่ออซนับถือพ่อและอยากเรียนรู้การบริหารประเทศเคียงข้างพ่อแม้จะอ่อนใจกับพฤติกรรม เป็นเพราะกษัตริย์เซตี้รับมือทุกคนได้อย่างชาญฉลาดในทุกแง่มุม
ต่อให้กษัตริย์ยอดเยี่ยมแค่ไหนก็ทำให้ประเทศมั่งคั่งไม่ได้ เพราะคนคือตัวการทำให้ประเทศตายผ่อนส่ง และนำความมั่งคั่งมาให้ในเวลาเดียวกัน และไม่ใช่คนเดียวแต่หลายคน
พ่อของเขาเป็นคนฉลาดหลักแหลมถึงเป็นผู้นำได้
การคัดเลือก เฟ้นหา พิจารณาและตัดสินใจด้วยตัวเอง ออซคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในฐานะว่าที่กษัตริย์รุ่นต่อไป
ดังนั้นการเผชิญหน้าและมองเกมอีกฝ่ายให้ขาดคงเป็นวิธีที่ดีที่สุด เขาเรียนรู้สิ่งเหล่านั้นจากพ่อ พ่อคือต้นแบบทางการเมืองของเขา แม้พ่ออยากให้ลูกเอาอย่างกระทั่งรสนิยมส่วนตัว แต่กลับถูกปฏิเสธอย่างน่าเศร้า
?ออซเอ๋ย ขืนปล่อยไว้แบบนี้ ออซมาเนียคงถูกตราหน้าเป็นประเทศหลังเขาที่ยึดติดกับประวัติศาสตร์ของเหล็กอย่างเดียว ต้องทำยังไงแผ่นดินใหญ่ถึงจะยอมรับเราในฐานะประเทศที่มีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและทางทหารอีกครั้ง?
ออซจุ่มนิ้วเลอะน้ำส้มลงในอ่างเงินสำหรับล้างมือขณะพ่อพูดเช่นนั้น
?แปลกจังพ่ะย่ะค่ะ ที่ท่านพ่อทรงกลัดกลุ้มเรื่องพวกนี้? ออซพูด
เซตี้ได้ชื่อว่าชอบความหรูหราฟู่ฟ่าและชอบทำให้ผู้คนตกใจเป็นที่สุด
ซึ่งเหตุการณ์ที่ยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำคือ ทันทีหลังเขี่ยพี่ชายคนโตจากบัลลังก์และได้รับเลือกเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป เขาทำให้ทุกคนตกตะลึงด้วยการห่อหุ้มราชวังนองเลือดด้วยทองคำเปลว โดยมีจุดประสงค์หลักๆ สองข้อ
ข้อแรก เพื่อขจัดความเน่าเฟะของการแย่งชิงบัลลังก์ออซมาเนีย
และอีกข้อ เพื่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ให้ออซมาเนียซึ่งไม่มีของเชิดหน้าชูตานอกจากเหล็กเลย
ช่วงแรกผู้คนรุมประณามในความไร้รสนิยมของราชวังเคลือบทองระยิบ แต่ขณะเดียวกันมันช่วยให้ผู้คนลืมความวุ่นวายภายในราชวงศ์ออซมาเนียด้วย
ชาวออซมาเนียพากันหลั่งไหลมายลโฉมราชวังไร้รสนิยมแห่งนี้ บรรดาพ่อค้าหัวใสเห็นหนทางโกยกำไรจึงลงทุนอ้อมโลกมาแวะที่โดห์ราฮาน
ราชวังทองโดห์ราฮานมีประสิทธิภาพในการเรียกนักท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างน่าเหลือเชื่อ ราชวังโดห์ราฮานในยุคสมัยเซตี้กลายเป็นหัวข้อซุบซิบทั่วแผ่นดินใหญ่ ส่วนคนที่เคยเห็นมันกับตาก็กลายเป็นจุดศูนย์กลางบทสนทนาทันที
ผู้คนแห่กันมาดูราชวังทองเพื่อให้หายสงสัยและกลับไปอย่างพอใจพร้อมด่าความไร้รสนิยมของกษัตริย์ไปด้วย
พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่ามันอยู่ในแผนการอันแยบยลของเซตี้ทั้งหมด
ออซเฝ้าดูสิ่งที่พ่อทำอย่างใกล้ชิดในฐานะลูกคนโต สิ่งที่ดูเผินๆ เหมือนทำไปส่งเดชมีจุดประสงค์ซ่อนอยู่เสมอ (แน่นอนว่าการเคลือบผิวด้วยทองคำเปลวกับเปลือยกายผูกริบบิ้นเป็นแค่รสนิยมส่วนตัว)
เพราะเหตุนั้นเขาจึงพอรู้เลาๆ ว่าพ่อคิดจะทำการใหญ่ในไม่ช้า
ออซมาเนียในตอนนี้ติดภาพประเทศล้าหลังที่พึ่งแต่การผลิตเหล็กอย่างที่พ่อเขาพูด
ในเมื่อถูกวิสตันเซียร์แซงหน้า ก็ต้องเรียกร้องความสนใจครั้งใหญ่ให้ผู้คนรู้ว่าออซมาเนียนี่แหละที่เป็นจุดศูนย์กลางวัฒนธรรมแผ่นดินใหญ่
?ยิ่งตอนนี้อเจนเซนเมืองขึ้นของพาลเมเนียก็กำลังผยองได้ใจ เพราะโครงการสร้างทางหลวงตัดใหม่ผ่านอเจนเซนกำลังดึงดูดบรรดาพ่อค้าเข้าเพิร์ลเอม และดูเหมือนอาร์คดยุคลูซีโด้จะระดมงบประมาณมหาศาลได้จากศาสนจักรแองเกเลียนนั่นด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ?
?ใช่ ไอ้อเจนเซนบ้านนอกคอกนาไร้อารยธรรมนั่น!? เซตี้ด่า ?เป็นแค่ประเทศเล็กๆ กลางภูขาที่มีแต่ม้าป่า แต่อวดดีคิดจะสร้างทางหลวง ทั้งที่เซตี้ผู้นี้ยังต้องชะลอโครงการไว้เพราะเสียงบเยอะแท้ๆ?
?เพราะการเงินของเราในช่วงนั้น แค่ปิดทองโดห์ราฮานทั้งหลังก็หืดขึ้นคอแล้ว?
?การปิดทองทั้งวังกับการเวนคืนดินแดนส่วนหนึ่งจากพวกขุนนางเพื่อตัดถนนผ่าน มันใช้เม็ดเงินต่างกันลิบลับ ไม่ว่าจะตัดผ่านที่ไหนพวกขุนนางก็บ่น แค่เจรจาอย่างเดียวก็หมดแรงแล้ว ในจุดนั้น วังนี้เป็นของข้าคนเดียว แค่ปิดทองมันเรื่องจิ๊บจ๊อย แต่....?
ลูซีโด้แห่งอเจนเซนสามารถผลักดันโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่จนคนกล้าได้กล้าเสียอย่างเขายังต้องถอย
?มิหนำซ้ำคราวนี้คิดจะปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรเรอะ!? พื้นที่แห้งแล้งมีแต่หินทางเหนือมันจะปลูกอะไรขึ้น?
เดิมทีเพิร์ลเอมเมืองหลวงของอเจนเซนเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องไข่มุกชั้นดีจากทะเลสาบเอม แม้แต่ตอนนี้ไข่มุกเหล่านั้นก็ถูกส่งไปแปรรูปที่เมืองพลอยสีฟ้าศิลามณีของวิสตันเซียร์นครแห่งอัญมณี ผ่านทางหลวงซึ่งตัดผ่านทางเหนือของแผ่นดินใหญ่ และมันก็ทำให้ออซมาเนียตกกระป๋องอย่างสิ้นเชิง เซตี้จึงไม่ชอบใจ
ยิ่งกว่านั้น ลูซีโด้ยังคิดค้นแผนปฏิรูปบ้าบิ่นซึ่งเป็นงานถนัดของเซตี้ออกมาเรื่อยๆ จึงช่วยไม่ได้ที่คนชอบเป็นจุดเด่นอย่างเขาจะกระทืบเท้าโกรธแค้นเมื่อถูกขโมยซีน
?โธ่เว้ย เจ้าเด็กเมื่อวานซืน เจ้าอาร์คดยุคโถส้วม พอได้เจ้าหญิงเมริลโรสเป็นชายาก็ชูคอได้ใจใหญ่ ทั้งที่ข้าหมายตานางเอาไว้ก่อน แถมส่งของกำนัลไปให้ตั้งหลายครั้ง ส่งทูตเป็นสิบไปประจำที่พาลเมเนียเพื่อประจบเอาใจกษัตริย์โซลทาค แต่กลับเลือกเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนั่น!?
?ดูเหมือนลูซีโด้กับเมริลโรสจะรู้จักกันมาแต่เด็ก รักแรกของทั้งคู่สมหวังก็ดีแล้วไม่ใช่รึพ่ะย่ะค่ะ มันหายากในราชวงศ์ของเราจะตายไป?
?ใครว่า ไอ้ลูกชาย พ่อรักแม่ของเจ้านะ แม่เป็นรักแรกและเป็นรักบริสุทธิ์ด้วย!?
?ท่านพ่อเอาแต่ตรัสแบบนี้ จนผ่านมาเจ็ดปีแล้วถึงยังไม่มีมเหสีใหม่กับเขาสักที?
ลูกชายพูดอย่างเย็นชาราวกับฤดูหนาวมาเยือน
?ต่อให้พวกท่านรักกันดูดดื่มจนลงเอยกันและได้ทายาทเร็วเหลือเชื่อ แต่จะปล่อยให้ตำแหน่งมเหสีออซมาเนียอันน่ายกย่องว่างตลอดไปไม่ได้ ที่สำคัญท่านพ่อยังไม่ถึงสามสิบด้วยซ้ำ เพราะทรงเก็บตัวอยู่ตั้งสองปีหลังท่านแม่จากไป ลูซีโด้ถึงแซงหน้าไปแบบนี้ ให้ตายสิ ท่านพ่อในตอนนั้นเอาแต่สั่งซื้อของเข้าวัง....จนลูกเตรียมใจไว้แล้วว่าคงต้องลอบสังหารท่านพ่อแล้วขึ้นครองราชย์แทน?
ลูกชายพูดปร๋อโดยไม่สนหัวอกพ่อเลย
?ตะ แต่ลูกพ่อ พ่อ....?
?ลูกไม่ฟัง ท่านพ่อแหละต้องฟัง ทรงปลดรูปเหมือนของท่านแม่ลงจากผนังห้องซะ แล้วหามเหสีใหม่เสียที และกรุณาเลือกเจ้าหญิงประเทศรวยๆ ที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์และเขตแดนมหาศาลเป็นสินเดิมด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ ห้ามเลือกที่หน้าตาเด็ดขาด?
?โธ่....?
พ่อหน้าเบ้อยากร้องไห้
?ก็พ่อชอบคนสวยนี่?
?ลูกทราบ เพราะลูกก็ชอบเหมือนกัน?
?ถะ ถ้ามเหสีพ่อหน้าตาดูไม่จืดจะทำยังไง!?
?เงินสำคัญที่สุดในโลกพ่ะย่ะค่ะ?
พ่อแพ้ราบคาบ แต่คราวนี้เล็งส้อมไปที่ทาร์ตปลาบด
?....ได้ยินว่าเมริลโรสงามหาใดเปรียบไม่ใช่รึ?
พลางดูดส้อมอย่างเสียดาย
?ใครจะไปคิดว่าเจ้าชายอเจนเซนที่ถูกจับเป็นเชลยตอนนั้นจะพลิกกลับมาคว้าธิดาคนเดียวของพาลเมเนียไปครอง ต่อให้เป็นเพื่อนวัยเด็ก แต่การแต่งงานของสองราชวงศ์เป็นเรื่องการเมือง พ่อไม่เข้าใจเลยว่าทำไมกษัตริย์โซลทาคถึงยอมยกลูกสาวคนเดียวให้อเจนเซน...??
?เขาตัดใจจากลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนได้หรือถูกใจลูซีโด้กันแน่ เขาอาจคิดเอาเป็นเขยทั้งๆ อย่างนั้นเลยก็ได้ เพราะอเจนเซนยังมีลิโดริสแฝดน้องอยู่ทั้งคน มิหนำซ้ำถ้าเกิดความขัดแย้งภายในหลังลูซีโด้กลับไปอเจนเซน ก็มีความไปได้ที่พาลเมเนียจะคอยหนุนหลังลูซีโด้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ?
แวบหนึ่งเซตี้มองลูกชายอย่างพอใจที่สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้เกินเด็ก
เขาดีใจมากที่ทายาทของตัวเองมีความสามารถ พ่อแม่ใจแคบบางคนมักอิจฉาลูกและทำให้บัลลังก์ตัวเองต้องแปดเปื้อน แต่เขาไม่มีทางทำเช่นนั้น
เขามั่นใจว่าออซจะกลายเป็นกษัตริย์ที่ยอดเยี่ยม เพราะถึงยังไงออซก็เป็นลูกในไส้ของเขา
?....ยังไงก็ตาม กรุณาตั้งพระทัยฟังเรื่องการดูตัวที่พวกทูตนำกลับมาเสนอและทรงเลือกคนคู่ควรเสียที อีกอย่าง ลูกได้ยินว่าขนาดกษัตริย์วิสตันเซียร์ผู้นั้นยังพาหญิงงามหยาดเยิ้มเข้าฮาเร็มเลยนะพ่ะย่ะค่ะ?
เมื่อได้ยินลูกชายพึมพำเช่นนั้น
?ว่าไงนะ!??
พ่อเบิกตาโตอย่างไม่เชื่อหู
?บ้าน่า หมอนั่นเป็นไอ้เฮงซวยที่สนใจแต่สัตว์ป่าหายากนะ?
เซตี้แทบลมใส่ ลูกชายทำหูทวนลมไม่ได้ยินประโยคไม่น่าฟังตอนกลางวันแสกๆ นั้น
?ออซ เป็นความจริงรึ?
?มันเป็นข่าวล่าสุดจากทูตวิสตันเซียร์พ่ะย่ะค่ะ ประเทศนั้นมีเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านการเฟ้นหาหญิงงามจากทั่วโลกมาถวายเพราะกษัตริย์ไม่สนใจผู้หญิงเลย ดูเหมือนหนึ่งในนั้นจะถูกใจเขาเข้าพอดี ว่ากันว่ากษัตริย์วิสตันเซียร์โปรดปรานหญิงที่นำมาถวายมากจนตอนนี้ก็ยังไม่เบื่อ ดูเหมือนนางจะงามมากจนพวกรัฐมนตรีพูดกันว่าคงได้รัชทายาทในไม่ช้า?
?เหลือเชื่อ ทั้งที่พ่อมั่นใจว่าราชวงศ์วิสตันเซียร์จะสิ้นสุดลงที่เจ้าวิปริตนั่นซะอีก?
เซตี้ถึงขั้นพูดแช่งคนอื่นโดยไม่สนใจใครทั้งนั้น
เขาอยากเป็นจุดเด่น อยากให้โลกหมุนรอบตัวเองเสมอ เพราะเหตุนั้นลูซีโด้จึงถูกยกย่องให้เป็นกษัตริย์นักปฏิรูป มิหนำซ้ำยังถูกกษัตริย์วิสตันเซียร์จอมวิปริตแซงหน้าไปอีก ไม่แปลกที่เขาจะอารมณ์เสีย
?ยังไงก็ตาม ขืนปล่อยไว้อย่างนี้คงถูกเด็กอมมืออย่างลูซีโด้แย่งพาลเมเนียไปพอดี ถ้าอเจนเซนรวมหัวกับวิสตันเซียร์ และได้สิทธิ์สืบทอดพาลเมเนียเมื่อไหร่ ประเทศเราจะถูกปล่อยเกาะอย่างสิ้นเชิง....ต้องรีบทำอะไรสักอย่าง?
?ลูกมีความคิดดีๆ? ออซพูด
พ่อประสานมือที่เพิ่งล้างเสร็จก่อนชันศอกกับโต๊ะฟังแผนการของลูกชาย
?อะไร ไหนพูดมาซิ?
?เราจะเปิดการประชุมที่โดห์ราฮานพ่ะย่ะค่ะ?
เด็กรับใช้ที่หลบอยู่ข้างๆ รีบนำผ้าแห้งมาให้เซตี้เช็ดมือ แต่เขาโบกมือไม่เอา
?ประชุมรึ??
?พ่ะย่ะค่ะ ฉากหน้าเป็นการประชุมสร้างพันธมิตร อ้างว่าเพื่อความสงบสุขของสังคมโลกหรือเพื่อระดมทุนเชื่อมต่อทางหลวงก็ได้?
สองพ่อลูกเอื้อมมือไปหยิบลูกองุ่นสีมรกตที่กองพูนตรงหน้าแทบพร้อมกัน
?แต่แค่มอบอำนาจให้ทูตจัดการก็จบแล้วนี่ พ่อว่ามันไม่เห็นช่วยอะไรได้เลย?
?ไม่พ่ะย่ะค่ะ เราจะเปิดประเทศจัดงานเทศกาลดักไว้ก่อน สิ่งสำคัญคือการเชิญกษัตริย์แต่ละประเทศมายังโดห์ราฮานเพื่อแสดงให้เห็นว่าเราเป็นศูนย์กลางของโลก ถ้าเราเป็นเจ้าภาพการประชุมได้ ผู้คนย่อมให้การยอมรับโดยปริยาย?
?แต่ว่า ลูกพ่อ?
พ่อทำหน้าเครียด
?พ่อเข้าใจเจตนาของเจ้า แต่พวกกษัตริย์จะลงทุนมาหาเราด้วยตัวเองเหรอ ทั้งที่เราส่งบัตรเชิญไปแต่ฝ่ายนั้นดันส่งลูกน้องมาแทน เราจะไม่กลายเป็นตัวตลกรึ?
?เราจึงต้องใช้เหยื่อล่อไงพ่ะย่ะค่ะ เหยื่อชั้นยอดที่เรียกว่าการอภิเษกสมรสของท่านพ่อ?
ออซทำหน้าจองหองอย่างร้ายกาจ
?การแต่งงานของพ่อเรอะ!??
?พ่ะย่ะค่ะ โชคดีที่ตำแหน่งมเหสีออซมาเนียยังว่าง ไม่มีกลยุทธ์ไหนปลอดภัยกว่าการแต่งงานแล้ว ถ้าทรงประกาศว่าจะเลือกมเหสีในการประชุม คงไม่มีใครส่งลูกน้องมาแน่ หรือว่าไม่จริงพ่ะย่ะค่ะ??
ออซโยนองุ่นเข้าปากเหมือนกำลังกินอัญมญี
?ทั้งวิสตันเซียร์ กลุ่มประเทศมอร์ทาเนีย เอเซรอน แน่นอนว่าพาลเมเนียก็คงอยากได้เหล็กของเราจนตัวสั่น เพราะอย่างนั้นก่อนเริ่มการประชุม เราควรปรับลดปริมาณการผลิตลงและเพิ่มราคาเหล็กขึ้น เพื่อให้พวกนั้นคิดว่าถ้าญาติตัวเองได้เป็นมเหสีออซมาเนียก็จะได้สิทธิประโยชน์นั้นด้วย การที่กษัตริย์หรือทูตมา ทำให้เรารู้ด้วยว่าประเทศนั้นเห็นเราอยู่ในระดับไหน ถ้าจำเป็นจริงๆ จะประกาศรับสมัครเจ้าสาวให้ลูกพร้อมกันเลยก็ได้?
เมื่อลูกชายพูดว่าจะยอมใช้การแต่งงานของตัวเองเป็นเหยื่อล่อ พ่อจึงโยนองุ่นที่ปอกเปลือกค้างไว้เข้าปากก่อนปรบมือให้ลูกเต็มที่
?เป็นแผนที่ไม่เลว สมเป็นลูกพ่อ ทั้งเยือกเย็นและสมเหตุสมผล?
?ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ?
ออซยักไหล่เล็กน้อยแทนการคำนับ
?พ่อจะสั่งให้พวกรัฐมนตรีส่งแผนการประชุมทันที เราจะส่งบัตรเชิญไปให้นานาประเทศเพื่อกระตุ้นความอยาก แล้วมาแบ่งไก่งวงยักษ์ที่ปรุงรสด้วยการแต่งงาน การสร้างพันธมิตร สิทธิประโยชน์ต่างๆ และปัญหาพรมแดนกัน!?
เซตี้พูดอย่างฮึกเหิม แต่จู่ๆ ก็ขมวดคิ้วจ้องลูกชายที่เคี้ยวอาหารกร้วมๆ
?แต่ออซเอ๋ย คิดจะส่งบัตรเชิญให้อเจนเซนรึ? ถึงจะส่งให้นานาประเทศ แต่จะปฏิบัติกับเมืองขึ้นและอาณาจักรดยุคเหมือน ?ประเทศหนึ่ง? รึ ดีไม่ดีมันจะเป็นการยั่วยุมหาอำนาจนะ?
?มันก็จริงนะพ่ะย่ะค่ะ....?
ออซเงียบไปเมื่อถูกชี้ประเด็นอย่างเฉียบแหลม
อเจนเซนที่ได้ชื่อว่ามาแรงที่สุดในขณะนี้เป็นประเทศราชซึ่งส่งเครื่องราชบรรณาการให้พาลเมเนียมานานหลายปี หากเชิญมาในฐานะเดียวกับพาลเมเนียอาจสร้างความไม่พอใจได้
?....จริงสิ?
เขาตบมือดังป้าบ
?ถ้าเป็นอเจนเซน เราจะเชิญทั้งอาร์คดยุคและอาร์คดัชเชส ถ้าเจ้าหญิงแห่งพาลเมเนียมาร่วมงาน ต่อให้นั่งร่วมกับกษัตริย์พาลเมเนียก็ไม่น่ามีปัญหา?
?อย่างนี้นี่เอง ความคิดดีนี่?
แต่พ่อยังยิงคำถามที่ยังค้างคาต่อ
?อ๊ะ ว่าแต่อาร์คดยุคอเจนเซนจะมีเจ้าหญิงที่เหมาะจะมาเป็นเมียพ่อมั้ยนะ ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะเหลือน้องชายคนเดียว?
?เจ้าหญิงลูกพี่ลูกน้องที่เขาว่าสวยก็มีข่าวลือว่าตายแล้วด้วย?
ออซกุมคางครุ่นคิดอีกครั้ง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
กรุงเพิร์ลเอมของอเจนเซนกำลังคึกคักกับเทศกาลเสี่ยงโชคที่มีครั้งเดียวในรอบสิบปี ผู้คนต่างใส่ชุดแฟนซีสวมหน้ากากเพื่อปกปิดตัวตนและสนุกกับการพนันเสี่ยงโชค ส่วนจิลกับลูซีโด้ก็หลงเสน่ห์เทศกาลแปลกประหลาดที่ว่ากันว่าเป็นแหล่งรวมภูตผีวิญญาณ ทั้งคู่ต่างแอบหลบออกจากวังแฝงตัวเข้าไปในงานเทศกาลยามค่ำคืน....ในช่วงนั้น ออซ เจ้าชายหนุ่มจากออซมาเนียประเทศแข็งแกร่งทางเหนือก็บุกมาที่วัง และแม้กระทั่งจิลก็ถูกข้อเรียกร้องของออซปั่นหัวไปด้วย....!? ความรักในราชวังของคู่รักจำแลงมาถึงเล่ม 4 แล้ว!!
