New Release : เมื่อผมจับพลัดจับผลูต้องมาเป็นครูในชุดเดรส

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : เมื่อผมจับพลัดจับผลูต้องมาเป็นครูในชุดเดรส

โพสต์ โดย Gals »

บทที่ 1
เหตุผลที่ผมต้องกลายมาเป็นสาวน้อยอัจฉริยะในชุดเดรส

?โอ! เธอผู้นั้นคือมิสกลินด้า หญิงสาวอัจฉริยะผู้เก่งกาจรอบด้านงั้นหรือ?
เสียงชื่นชมดังเซ็งแซ่ไปทั่วท้องพระโรงของปราสาท
?ในจักรวรรดิวิสทอเรียซึ่งเป็นจักรวรรดิแห่งวิชาการและศิลปะ เธอคือผู้รอบรู้ที่เปรียบดั่งสมบัติอันล้ำค่าของจักรวรรดิเลยล่ะ!?
?ไม่อยากเชื่อเลยว่าองค์จักรพรรดิแห่งวิสทอเรียจะยอมมอบหญิงผู้เพียบพร้อมเช่นนี้ให้กับอาณาจักรของเรา!?
?องค์จักรพรรดิแห่งวิสทอเรียเป็นคนที่ใจกว้างและเชื่อถือได้ นี่เป็นหลักฐานอย่างดีว่าจักรวรรดิวิสทอเรียต้องการจะเป็นพันธมิตรกับอาณาจักรเอเลนของเรายังไงล่ะ?
ทั้งที่เป็นเวลากลางคืน แต่แสงจากเทียนไขจำนวนมากซึ่งลุกโชติช่วงอยู่บนโคมไฟที่ห้อยลงมาจากเพดานอันสูงลิบลิ่วนั้นทำให้ห้องดูสว่างไสวราวกับเวลากลางวัน
เหล่าคนใหญ่คนโตในอาณาจักรเอเลนต่างตื่นเต้นกับการปรากฏตัวของกลินด้า สาวน้อยอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์รอบด้าน ท่ามกลางสายตาของพวกเขาเหล่านั้น ?ผม? ซึ่งอยู่ในชุดเดรสแสนสวยกำลังเดินเกร็งพลางห่อตัวราวกับหนอนด้วยสีหน้าอันซีดเผือด
?เคยได้ยินคำเล่าลือว่ามิสกลินด้านั้นเป็นสาวงามผู้มีผมสีทองเจิดจรัส ดวงตาสีฟ้าเปล่งประกายดั่งเปลวเพลิง และต้นคออันงดงามราวกับหงส์ขาว แต่พอได้เห็นตัวจริงแล้วกลับรู้สึกว่าเธอดูไม่ต่างอะไรจากเด็กสาวน่ารักวัย 17 ปีธรรมดาคนหนึ่งเลยนะนี่?
?ไม่หรอก อย่าให้รูปลักษณ์ภายนอกที่เห็นหลอกเอาได้สิ! เพราะมิสกลินด้าเพียงคนเดียวก็มีความรู้เท่ากับนักวิชาการ 100 คน มีความสามารถเท่ากับพ่อค้า 1,000 คน และเก่งกาจเท่ากับทหาร 10,000 นายเชียวนะ?
คำพูดต่างๆ ที่คนในห้องโถงพูดออกมานั้น ผมเคยได้ยินบ่อยๆ ตั้งแต่สมัยเด็กจนชินแล้ว
ใช่ หากพูดถึงมิสกลินด้า ดอยล์แห่งจักรวรรดิวิสทอเรียแล้วล่ะก็ เธอคืออัจริยะผู้มีความสามารถรอบด้านจริงๆ นั่นแหละ
เธอสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยหลวงแห่งจักรวรรดิวิสทอเรียด้วยวัยเพียง 7 ปีเศษ และยังได้คะแนนเต็มทุกวิชาอีกด้วย
เมื่ออายุ 12 ปีก็ได้เป็นศาสตราจารย์
หลังจากนั้นในปีถัดไปก็ได้เข้าเฝ้าฯ จักรพรรดิโดยตรงที่สถาบันวิจัยประจำสำนักพระราชวัง และในปีเดียวกันนั้นก็ได้รับตำแหน่งผู้ช่วยอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรมควบคู่ไปด้วย
ปัจจุบันเธออายุได้ 17 ปี ซึ่งพรสวรรค์ของเธอมิได้มีเพียงเฉพาะด้านวิชาการเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง ศิลปะ หรือการทหาร เธอก็มีความเชี่ยวชาญโดดเด่นไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะรอบด้านราวกับปีศาจเลยทีเดียว
ทั้งหมดนี้มิใช่การกล่าวโอ้อวดหรือโฆษณาเกินจริงแต่อย่างใด
เพราะเรื่องราวอันน่าพรั่นพรึงของกลินด้าที่เล่ามาทั้งหมดนั้นเป็นความจริงทุกประการ
ทว่าปัญหาใหญ่ก็คือมิสกลินด้าสุดยอดอัจฉริยะตัวจริงนั้นมิได้อยู่ในท้องพระโรงแห่งนี้ แต่บุคคลที่กำลังถูกสายตาของเหล่าคนใหญ่คนโตแห่งอาณาจักรเอเลนจับจ้องอยู่จนแทบจะฉี่ราดนั้นคือน้องชายฝาแฝดของเธอ ซึ่งเป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง นามว่าเชอร์ล็อค ดอยล์ หรือก็คือผมคนนี้นั่นเอง
เฮ้ออออออ ทำไมผมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยล่ะเนี่ย

เหตุการณ์ทั้งหมดมันเริ่มขึ้นเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน
ช่วงนั้นผมยังเป็นเด็กซิ่วและช่วยเหลืองานบ้านอยู่ที่สวานีลซึ่งเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิวิสทอเรีย
ในวันเกิดเหตุ ผมเพิ่งจะอกหักจากฟลอรี่ สาวน้อยซึ่งทำงานที่ร้านขนมปังในเมือง จึงร้องไห้เสียใจกลับมา ทว่าพอมาถึงที่อพาร์ตเมนต์ผมก็พบกับคนคนนั้น
?ไง กลับมาแล้วเหรอครับ เธอคือชาร์ลสินะ??
ทั้งที่ตอนออกไปข้างนอกผมน่าจะล็อกกุญแจไว้เรียบร้อยแล้วแท้ๆ แต่กลับมีชายคนหนึ่งเข้ามาอยู่ในบ้าน อย่างไรก็ตาม ท่าทางของชายคนนี้ดูเป็นผู้ดี ไม่เหมือนกับขโมยเลยสักนิด เขานั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกพลางส่งยิ้มให้ผม
เขาเป็นชายที่มีรูปร่างสูงเพรียวดูสง่า เสื้อสูท เสื้อกั๊ก กางเกงและถุงมือที่เขาสวมอยู่ล้วนแล้วแต่เป็นสีดำ ทรงผมซึ่งปาดไปด้านหลังก็เป็นสีดำเช่นกัน ดวงตาสีฟ้าเข้มของเขาส่องประกายแลดูเป็นมิตรและน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ยังรู้สึกว่าเขาน่าจะเป็นคนที่มีสติปัญญาเฉียบแหลมอีกด้วย
ชาร์ลคือชื่อเล่นของผมนั่นเอง
พ่อของผมเป็นพ่อค้าซึ่งมีบ้านเกิดอยู่ในอาณาจักรออแลนด์ทางตะวันตก ส่วนแม่นั้นเกิดที่อาณาจักรโรมันเซียทางตอนใต้ สมัยเด็กพ่อแม่จะเรียกผมว่าชาร์ล ด้วยเหตุนี้คนที่สนิทกับผมจึงไม่ได้เรียกผมว่าเชอร์ล็อคหรือชาร์ลี แต่เรียกผมว่าชาร์ลมาโดยตลอด
แต่เด็กซิ่วที่แม้แต่คอร์สเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีนี้ก็ยังสอบตกอย่างผมคงไม่มีเพื่อนที่ดูเหมือนคนเก่งระดับหัวกะทิแบบนี้อยู่แล้วล่ะ
จะว่าไปผมเพิ่งอกหักมาหมาดๆ พอได้เห็นคนที่ดูดีและน่าจะเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ มายืนยิ้มอยู่ต่อหน้าแบบนี้มันก็รู้สึกหงุดหงิดเหมือนกัน
?นายเป็นใครน่ะ?
เมื่อได้ยินผมเอ่ยถามด้วยท่าทีระแวดระวัง เขาก็ยิ้มหวานยิ่งกว่าเดิม
?อ้อ ต้องอภัยที่แนะนำตัวช้านะครับ ผมชื่อเฮลมุท ดัลเบิร์ก เป็นนักการทูตและเพื่อนร่วมงานของพี่สาวเธอน่ะครับ?
ชิ เป็นคนรู้จักของกลินด้าจริงๆ ด้วยสินะ นักการฑูตงั้นเรอะ? ก็แสดงว่าเป็นข้าราชการระดับสูงเลยนี่นา ถึงจะเข้ามาในห้องตามอำเภอใจและทำท่าทีสนิทสนมก็เถอะ แต่เขาคงไม่ใช่แฟนของกลินด้าหรอกมั้ง เพราะถึงจะหน้าตาดีขนาดไหน แต่คนอย่างกลินด้าคงไม่มีทางไปหลงรักผู้ชายหน้าไหนอยู่แล้วล่ะ
?ตอนนี้กลินด้าน่าจะอยู่ที่สถาบันวิจัยประจำสำนักพระราชวัง หรือไม่ก็กรมส่งเสริมวัฒนธรรมน่ะครับ เธอไม่ค่อยจะกลับมาที่บ้านหรอก สัปดาห์หน้าเธอก็จะย้ายไปเอเลนแล้วล่ะครับ เพราะองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เธอไปเป็นอาจารย์สอนหนังสือให้แก่พระราชโอรสและพระราชธิดาของกษัตริย์แห่งเอเลน เรื่องนี้ได้ลงข่าวหน้าหนึ่งบนหนังสือพิมพ์ด้วย คุณก็คงรู้สินะครับ?
เอเลนนั้นเป็นอาณาจักรบนเกาะเล็กๆ ทางตะวันตก ในอดีตเอเลนเป็นอาณาจักรที่ปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอก ไม่ติดต่อกับอาณาจักรอื่นมาเป็นเวลานาน ทว่าช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ กษัตริย์องค์ปัจจุบันของเอเลนซึ่งผู้คนกล่าวขานกันว่าเป็นกษัตริย์ผู้กล้าหรือกษัตริย์แห่งเทพนั้นได้ประกาศเปิดอาณาจักรสู่โลกภายนอก และทำการติดต่อกับอาณาจักรอื่นๆ เพื่อเปิดรับวัฒนธรรมต่างๆ อย่างเต็มที่
ในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ จักรพรรดิของจักรวรรดิวิสทอเรียจึงตัดสินใจส่งกลินด้า หญิงสาวอัจฉริยะผู้เป็นความภาคภูมิใจของจักรวรรดิไปเป็นอาจารย์พิเศษให้แก่พระราชโอรสและพระราชธิดาของกษัตริย์แห่งเอเลน เพื่อเป็นเครื่องหมายในการเชื่อมความสัมพันธ์และเป็นพันธมิตรใหม่ร่วมกัน
เอาเถอะ ยังไงผมมันก็แค่คนธรรมดาไม่มีอะไรเด่น เป็นน้องชายที่เอาแต่พึ่งพี่สาว แม้แต่คอร์สเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังสอบตก โดนสาวหักอก แถมยังแอบคิดในใจว่าจะเป็นเด็กซิ่วว่างงานแบบนี้ต่อไปดีไหมนะ คนอย่างผมคงไม่มีโอกาสได้ไปสัมผัสชีวิตในโลกที่กลินด้าอยู่หรอก
?ผมมาที่นี่เพราะมีธุระกับเธอต่างหากล่ะครับ ชาร์ล?
?กับผม? ไม่ใช่กับกลินด้าหรอกเหรอ??
?ขอโทษนะครับ ชาร์ล?
ชายที่ชื่อเฮลมุทยื่นนิ้วอันเรียวยาวมาถอดแว่นของผม จากนั้นก็แก้ที่มัดผมซึ่งยุ่งไม่เป็นทรง และเอามือเชยผมปรกหน้าที่ยาวกระเซอะกระเซิงของผมขึ้นมาดู
?ยะ อยู่ๆ ทำอะไรของนายน่ะ!?
ขณะที่ผมกำลังตกใจอยู่นั้น นักการทูตหนุ่มหล่อก็จ้องมาที่ใบหน้าของผม และพยักหน้า
?อื้ม น่าจะโอเคแหละ?
?อะ โอเคเรื่องอะไรน่ะ?
?ชาร์ล มองเห็นไหมครับว่านี่กี่นิ้ว??
หนุ่มนักการทูตยกนิ้วขึ้นมาพลางเอ่ยถามโดยไม่ใส่ใจคำพูดของผมเลยสักนิด
?สองนิ้ว?
?แล้วคราวนี้ล่ะครับ??
เขาถอยไปด้านหลังเล็กน้อย
?สามนิ้ว?
?ดูเหมือนสายตาก็ปกติดีนี่ครับ ทำไมถึงต้องใส่แว่นด้วยล่ะ?
?เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับนายสักหน่อย! คืนแว่นมานะ?
ผมยื่นมือออกไปหมายจะหยิบแว่นคืน ทว่านักการทูตหนุ่มก็เอี้ยวตัวหลบ พลางส่งรอยยิ้มที่ดูมีอัธยาศัยและจริงใจกลับมาให้ผม
?ชาร์ล เธอนี่น่าประทับใจจริงๆ ทั้งดวงตา จมูก ริมฝีปาก ต้นคอ แขน ขา เอวอันผอมบาง ผิวขาวกระจ่าง รูปร่างที่ดูเตี้ย และเสียงสูงๆ นั่น ทุกอย่างมันสมบูรณ์แบบจริงๆ ครับ! คงไม่มีเด็กหนุ่มคนไหนที่เหมาะจะสวมชุดเดรสของกลินด้าไปมากกว่าเธออีกแล้วล่ะ?
?พูดอะไรของนายเนี่ย?
ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที
มาบอกว่าผู้ชายอย่างผมเหมาะที่จะสวมชุดเดรส เจ้านี่มันเป็นโรคจิตรึไงฟะ? หรือบางทีอาจจะเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน?
ขณะที่ผมกำลังก้าวถอยหลังไป นักการทูตโรคจิตคนนั้นก็ถอนหายใจยาวออกมา
?ความจริงตอนนี้กลินด้าหายตัวไปน่ะครับ?
?หา??
หายตัวไป? กลินด้าน่ะเหรอ?
?เมื่อ 2 วันก่อน บนโต๊ะในห้องทำงานของเธอที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม มีข้อความเขียนทิ้งไว้บนกระดาษโน้ตว่า ?กลินด้า ดอยล์ขอเลิกปฏิบัติหน้าที่ทั้งหมดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และไม่ขอรับรู้เรื่องต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้? น่ะครับ?
กลินด้า ดอยล์คนนั้นขอเลิกทำงานงั้นเหรอ....?
ผมเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง จากนั้นชีพจรของผมก็เริ่มเต้นแรง และเหงื่อเริ่มแตกพลั่ก
?อะ เอ่อ! บางทีเธออาจจะแค่อารมณ์แปรปรวน หรือแค่แกล้งหยอกเล่นก็ได้นะ....เพราะกลินด้าน่ะมักจะคิดอะไรไม่ค่อยเหมือนคนปกติ....ไม่สิ ต้องเรียกว่าคิดอะไรต่างจากคนปกติสุดๆ เลยล่ะ?
ใช่ ถึงจะเป็นกลินด้าก็เถอะ แต่ตอนนี้ข่าวที่เธอจะถูกส่งไปอาณาจักรเอเลนนั้นได้แพร่สะพัดไปทั่วแล้ว การที่เธอจะหายตัวไปจนทำให้ผู้คนแตกตื่นแบบนี้คง ?ไม่มีทาง? เป็นไปได้หรอก ทว่าผมรู้จักนิสัยของเธอดี จึงยังไม่สามารถพูดได้เต็มปาก
เนื่องจากกลินด้าเป็นคนอารมณ์แปรปรวนชอบเปลี่ยนใจง่าย ไม่สนใจเรื่องของคนอื่น หยิ่งทะนง และไม่คิดจะลดราวาศอกให้ใคร แม้จะเป็นคำสั่งของจักรพรรดิ เธอก็อาจจะไม่แคร์เลยสักนิดก็ได้....
จะว่าไป มันก็มีความเป็นไปได้จริงๆ นั่นแหละ! มีความเป็นไปได้สูงเลยด้วย! แค่คิดผมก็รู้สึกกลัวจนตัวสั่นแล้ว
?แต่ถ้าเป็นกลินด้าล่ะก็ บางทีเธออาจจะกลับมาโดยที่พวกเราไม่ทันได้คาดคิด พร้อมกับทำสีหน้าเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยก็ได้นะครั???!?
ผมพูดในขณะที่กำลังยืนเหงื่อแตกพลั่กจนร่างเปียกชุ่ม ราวกับคางคกที่ถูกจับให้มองกระจก ทว่าเฮลมุทนักการทูตหนุ่มก็กล่าวแทรกขึ้นมาด้วยสีหน้าซีเรียสว่า
?ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็คงดีหรอกครับ แต่ช่วงสองวันมานี้ ถึงแม้หน่วยสืบราชการลับขององค์จักรพรรดิจะพยายามทุ่มกำลังทั้งหมดออกตามหาก็ยังไม่พบตัวกลินด้าเลยน่ะสิ?
?หน่วยสืบราชการลับงั้นเหรอ....?
นี่มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นแล้วเหรอเนี่ย!
ผมรู้สึกอยากเป็นลมขึ้นมาทันที
แล้วแบบนี้จะทำยังไงล่ะ กลินด้า!
?กำหนดการที่จะเดินทางไปเอเลนคือวันพรุ่งนี้ ดังนั้นพรุ่งนี้เช้าไม่ว่ายังไงก็ต้องพากลินด้าไปขึ้นเรือที่จะเดินทางไปเอเลนให้ได้ นี่เป็นปัญหาสำคัญที่ต้องรีบแก้ก่อนน่ะครับ?
?ยะ อย่ายื่นหน้าเข้ามาใกล้สิ....เอ่อ ถ้าแจ้งอาณาจักรเอเลนว่าขอเลื่อนกำหนดการเดินทางโดยหาข้ออ้างดีๆ เช่น โรคประจำตัวของมิสกลินด้ากำเริบกะทันหันอะไรแบบนั้นได้มั้ยครับ?
?ไม่ได้หรอกครับ?
เขาตอบกลับโดยพลัน
?เพราะตอนนี้อาณาจักรอื่นๆ กำลังเฝ้าจับตาการเดินทางไปเยือนเอเลนของมิสกลินด้าอยู่ นี่ถือเป็นปัญหาด้านการเมืองระดับชาติ เราจะปล่อยให้เกิดรอยร้าวในความสัมพันธ์กับเอเลนไม่ได้เด็ดขาดครับ?
?ยะ อย่ายื่นหน้ามาใกล้แบบนี้เซ่! งั้นจะให้ทำยังไงล่ะ!?
ลางสังหรณ์อันน่าสะพรึงกลัวเริ่มคืบคลานเข้ามาในใจผม
ผมเป็นเพียงแค่คนปกติธรรมดาคนหนึ่งที่มีญาติเป็นคนโด่งดังเท่านั้น เด็กซิ่วว่างงานที่ถูกสาวหักอกอย่างผมน่ะไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นได้หรอก....
ในหัวผมเริ่มคิดถึงเรื่องที่เคยอ่านจากหนังสือเล่มโปรด มันเป็นหนังสือชื่อ ?บันทึกเรื่องตลกขบขันในประวัติศาสตร์? ในหนังสือเล่มนี้มีเรื่องขำขันต่างๆ เช่น เรื่องของสิบแปดมงกุฎที่แสร้งปลอมตัวเป็นธิดาลับๆ ของดยุค และไปแต่งงานกับองค์ชายของอาณาจักรอื่นจนได้เป็นองค์หญิง หรือเรื่องของไคน์ลูค ผู้กล้าแห่งอาณาจักรออแลนด์ซึ่งถูกขนานนามว่าเทพนักรบแดง ความจริงเขาเป็นคนหัวขี้เลื่อย แต่ก็แอบให้คนอื่นเข้าไปทำข้อสอบแทนจนได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย เป็นต้น
ตอนที่อ่านเรื่องเหล่านั้นผมรู้สึกขำ และคิดว่า ?เรื่องแบบนั้นมันจะเป็นไปได้ยังไงกันล่ะ? ทว่า....
ในตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหนูน้อยน่าสงสารที่ถูกแมวไล่ต้อนติดขอบผนังของอพาร์ตเมนต์แคบๆ จนตัวสั่นริกๆ และแล้วนักการทูตหนุ่มในชุดสูทสีดำก็พูดกับผมด้วยรอยยิ้มอันสดใสจนน่าตกตะลึงว่า
?ชาร์ล เธอช่วยปลอมตัวเป็นกลินด้า และไปเป็นอาจารย์สอนพระราชโอรสกับพระราชธิดาของกษัตริย์แห่งเอเลนหน่อยนะครับ?
ในหัวของผมกลายเป็นสีขาวโพลนไปชั่วขณะหนึ่ง
?ไม่ได้หรอก! เรื่องแบบนั้นมันเป็นไปไม่ได้แน่ๆ!? ผมปฏิเสธเสียงแข็ง ?ถึงจะเป็นฝาแฝดกัน แต่กลินด้าเป็นผู้หญิง ส่วนผมเป็นผู้ชายนะ!?
?เรื่องนั้นผมทราบดี แต่เมื่อเทียบกับปัญหาระดับชาติแล้ว มันก็เป็นแค่เรื่องหยุมหยิมน่ะครับ?
?อย่าพูดด้วยสีหน้าจริงจังแบบนั้นเซ่! มันใช่เรื่องหยุมหยิมที่ไหนกันเล่า! ผู้หญิงกับผู้ชายน่ะมันต่างกันคนละเรื่องเลยไม่ใช่เรอะ!?
?หืม ตรงไหนเหรอครับ??
เฮลมุทมองดูตัวผมตั้งแต่หัวจรดเท้า และทำท่าเอียงคอสงสัย มันช่างเป็นท่าทีที่ดูไม่มีมารยาทเอาซะเลย
?ก็ผมไม่มีหน้าอกไงเล่า!?
?กลินด้าเองก็ไม่ใช่คนหน้าอกใหญ่นี่ครับ ถ้าเอาฟองน้ำมายัดใส่ลงไปแทนก็หมดปัญหาแล้วล่ะ?
?ตะ แต่ตอนนี้ผมอยู่ในช่วงที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโตนะ จากนี้ไปก็คงสูงขึ้น เริ่มมีกล้ามเนื้อ มีหนวดเฟิ้ม และเสียงก็คงแตกทุ้มกว่าตอนนี้แน่! ถ้าเวลาผ่านไปสัก 2 ปีมีหวังความแตกแหงๆ! นอกจากนี้คนที่อายุ 17 ปีแล้ว แต่แค่คอร์สเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังสอบตกอย่างผม จะไปทำหน้าที่แทนอัจฉริยะที่ได้คะแนนสูงสุดในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งแห่งจักรวรรดิวิสทอเรียซึ่งมีชื่อเสียงเลื่องลือด้านวัฒนธรรมตั้งแต่อายุ 7 ขวบได้ไงกันล่ะ!?
การจะให้คนที่มีความสามารถด้อยกว่าไปแทนที่น่ะมัน ?เป็นไปไม่ได้!? หรอก
ถึงกระนั้นนักการทูตเฮลมุทก็ยังกล่าวว่า
?เอาเถอะ จะได้หรือไม่ก็ต้องลองดูก่อนแหละครับ?
เมื่อพูดจบ เขาก็ลากตัวผมไปขึ้นรถม้าด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มไร้ซึ่งความกังวล และพามายังคฤหาสน์แห่งหนึ่ง จากนั้นก็เอาคอร์เซ็ตมารัดที่เอวผม เอาฟองน้ำมาเสริมที่หน้าอก ให้ใส่ชุดเดรส หวีผมอย่างประณีต เอาน้ำหอมกลิ่นกุหลาบมาทาจนทั่วตัว และจัดแต่งทรงผมให้ใหม่โดยเกล้าผมไว้ด้านบน
?เอาล่ะ ดูสิครับ! ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนเห็นกลินด้ามายืนอยู่ตรงหน้าจริงๆ เลยล่ะ?
ภาพที่สะท้อนอยู่บนกระจกบานใหญ่คือภาพของสาวน้อยผมทองในชุดเดรสผ้าไหมที่มีริบบิ้นและจีบระบายเต็มไปหมด???
ใช่ ผมดูคล้ายกับกลินด้าจริงๆ นั่นแหละ!
แม้พวกเราจะมีใบหน้าที่คล้ายกันมากจนแทบจะเหมือนคนเดียวกันก็เถอะ แต่เพราะไม่อยากได้ยินคนอื่นพูดว่า ทั้งที่เป็นน้องชายแท้ๆ แต่กลับดูเหมือนคนธรรมดา ไม่มีความโดดเด่นแบบพี่สาวเลยสักนิด ผมจึงใส่แว่นและไว้ผมปรกหน้ายาวๆ เพื่อปิดบังใบหน้าไว้
อ๊าาาาาา อุตส่าห์หวังว่าพออายุ 17 ปีแล้วตัวเองจะดูสมชายขึ้นบ้างแท้ๆ นี่ผมดูคล้ายกลินด้าขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมผิวของผมมันถึงต้องเนียนนุ่มขนาดนี้ด้วยนะ ดวงตาก็กลมโต แถมยังมีขนตายาวอีก! นอกจากนี้ริมฝีปากก็ยังเป็นสีชมพูอีกต่างหาก ถึงตอนนี้ตัวเองจะกำลังโดนรุกไล่จนตัวสั่นริกๆ อยู่ก็เถอะ แต่ตัวผมก็ดูเหมือนสาวน้อยน่ารักที่ดูอ่อนแอน่าทะนุถนอมจริงๆ นั่นแหละ
ว่าแต่นี่ผมจะมาหลงเสน่ห์ตัวเองทำไมฟะเนี่ย! ระหว่างที่ผมกำลังกลุ้มใจอยู่นั้น เฮลมุทก็เอามือมาแตะไหล่ผมด้วยท่าทางสนิทสนม พร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวลว่า
?สมบูรณ์แบบจริงๆ ครับ ชาร์ล เท่านี้เธอก็สามารถเป็นตัวแทนของกลินด้าได้แล้วล่ะ แถมคนในสังคมก็แทบจะไม่มีใครรู้เลยว่ากลินด้ามีน้องชายฝาแฝดอยู่ด้วย นับว่าโชคดีจริงๆ ครับ นอกจากนี้พระราชโอรสองค์โตของกษัตริย์แห่งเอเลนซึ่งจะเป็นรัชทายาทคนต่อไปก็ยังอายุแค่ 11 ปี ส่วนพระราชโอรสองค์เล็กสุดก็เพิ่งจะอายุได้ 5 ขวบเท่านั้น ดังนั้นเนื้อหาวิชาที่จะสอนก็เป็นแค่ระดับพื้นฐานง่ายๆ เช่น คณิตศาสตร์ชั้นต้นแบบที่เด็กประถมในโรงเรียนละแวกนี้เรียนกันเท่านั้นเอง ลองคิดว่ามันเหมือนกับการทำงานพิเศษที่มีค่าตอบแทนสูงก็ได้ครับ และแน่นอนว่าในช่วงนั้นหน่วยสืบราชการลับชั้นยอดซึ่งขึ้นตรงกับจักรพรรดิวิสทอเรียก็จะออกตามหาตัวกลินด้าอย่างสุดความสามารถ คาดว่าคงใช้เวลาไม่นานหรอกครับ น่าจะประมาณครึ่งเดือน ไม่สิ ถ้าพิจารณาจากฝีมือ ประสบการณ์ และสติปัญญาของพวกเขาล่ะก็ คงแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้นแหละ ทนเอาหน่อยแล้วกันนะครับ?
?ไม่นะ ปล่อยผมกลับบ้านทีเถอะ! นายมันพวกโรคจิตวิปริต นี่มันลักพาตัวกันชัดๆ ใครก็ได้ช่วยแจ้งตำรวจทีคร้าบ?
อย่ามาล้อเล่นนะ ถ้าต้องอยู่ในสภาพน่าอับอายแบบนี้ตลอด 1 สัปดาห์ล่ะก็ ผมไม่เอาด้วยหรอก
เมื่อเห็นผมมีท่าทีอิดออดและดิ้นไปมาเหมือนเด็ก เฮลมุทก็กล่าวว่า
?ถ้าหากหลบหนีไปโดยไม่ฟังคำสั่งขององค์จักพรรดิแบบนี้ล่ะก็ กลินด้าจะต้องถูกจับเข้าคุกในข้อหากบฏนะครับ?
?อ่ะ?
?มิหนำซ้ำ ถ้าหากเรื่องนี้เป็นสาเหตุให้เกิดสงครามระหว่างจักรวรรดิวิสทอเรียกับอาณาจักรเอเลนขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็ ไม่เฉพาะกลินด้าเท่านั้น แต่คนในครอบครัวอย่างเธอก็จะถือว่าเป็นกบฏ และต้องถูกจำคุกด้วยนะครับ?
?อึก?
?ไม่สิ อาจถูกจับแขวนคอทั้งพี่ทั้งน้องเลยก็ได้?
?!?
นักการทูตจอมเจ้าเล่ห์ขู่ผมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มราวกับคนใจดีที่ไม่เคยฆ่าแมลงเลยสักตัว
?จะว่าไป กลินด้าเองก็เป็นอัจฉริยะ อาจจะหาทางหนีจนสำเร็จก็ได้ แต่หากเป็นแบบนั้นจริงๆ ทางจักรวรรดิก็ต้องปิดข่าวนั้นไว้ เพราะมันจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งในกรณีนั้นเธอก็จะต้องถูกจำคุกและรับโทษในฐานะกลินด้าแทน ถ้าจะให้เลือกระหว่างการเป็นกบฏ กับการได้ใช้ชีวิตหรูหราในปราสาทที่มีการต้อนรับอย่างดีในฐานะแขกของอาณาจักร เธอจะเลือกแบบไหนล่ะครับ? ชาร์ล ถึงเธอจะเป็นแค่คนธรรมดาก็คงฉลาดพอนะครับว่าควรเลือกแบบไหนถึงจะดีกว่ากัน?
เมื่อกี้เพิ่งบอกเองไม่ใช่เรอะว่าหน่วยสืบราชการลับชั้นยอดของวิสทอเรียต้องหาตัวกลินด้าเจอในเร็ววัน แล้วทำไมถึงกลายเป็นว่าผมต้องถูกจับเข้าซังเตแบบนี้ล่ะ มันไม่ขัดแย้งกันไปหน่อยเรอะ
แต่ถึงกระนั้นผมก็ทำได้เพียงยืนตัวสั่นริกๆ ไม่อาจโต้แย้งอะไรได้อยู่ดี
สงคราม!
ติดคุก!
โดนจับแขวนคอ!
คำพูดเหล่านั้นวนเวียนอยู่ในหัวผม แถมยังรู้สึกอึดอัดแน่นท้องอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน (ซึ่งผมเพิ่งจะมารู้ความจริงภายหลังว่ามันเป็นเพราะคอร์เซ็ตที่รัดเอวอยู่ต่างหาก)
?อะ....อือ....ขะ ขอฝากตัวด้วยครับ?
วันรุ่งขึ้น ผมก็ขึ้นเรือมุ่งหน้าสู่อาณาจักรเอเลน ภายใต้การคุมเข้มดูแลของเฮลมุทจอมเจ้าเล่ห์ ซึ่งยังคงแสดงสีหน้าสดชื่นยิ้มแย้มอยู่เช่นเคย
ผมเพิ่งจะนั่งเรือเป็นครั้งแรก การนั่งเรือที่โคลงเคลงแบบนี้มันเป็นอะไรที่เลวร้ายสุดๆ เลย
ช่วง 1 สัปดาห์ที่ต้องอยู่ในเรือ ผมเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง คลื่นไส้อาเจียนทุกวัน จนรู้สึกว่าถ้าอาเจียนของที่อยู่ในท้องออกไปเรื่อยๆ แบบนี้ อีกไม่นานร่างกายตัวเองอาจจะกลวงโบ๋และแห้งเหี่ยวจนกลายเป็นมัมมี่ไปเลยหรือเปล่า
เมื่อเรือเทียบท่าแล้ว พวกผมก็นั่งรถม้าไปจนถึงปราสาทเอเลนซึ่งล้อมรอบด้วยกำแพงสูงตระหง่านซ้อนกันหลายชั้นอย่างแน่นหนา ช่วงระหว่างทางเดินจนถึงตัวปราสาทก็มีทหารคุ้มกันถือหอกยืนเรียงรายกันอยู่
ภายในตัวปราสาทเองก็มีทหารคุ้มกันยืนเรียงรายเป็นแถวยาวอยู่บริเวณผนังห้อง ถ้าพวกผมเกิดทำพฤติกรรมน่าสงสัยอะไรล่ะก็ ทหารเหล่านี้คงจะรีบกรูเข้าใส่พวกผมทันทีเลยกระมัง ระหว่างที่เดินผ่านทหารเหล่านั้นผมจึงรู้สึกเกร็งเป็นอย่างมาก จนในที่สุดผมก็เดินเข้ามาถึงกลางห้องโถงใหญ่ซึ่งเป็นท้องพระโรง
ขณะนี้ผมกำลังยืนอยู่ในท้องพระโรง ในชุดเดรส และในฐานะหญิงสาวอัจฉริยะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++
?กลินด้า ดอยล์ ขอเลิกปฏิบัติหน้าที่ทั้งหมดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป? อยู่ๆ ?กลินด้า หญิงสาวอัจฉริยะผู้เก่งในทุกด้าน? ก็ทิ้งข้อความดังกล่าวไว้ และหายตัวไปโดยละทิ้งภารกิจสำคัญที่จะต้องไปเยือนอาณาจักรพันธมิตร หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปต้องเกิดปัญหาระหว่างอาณาจักรขึ้นแน่ ด้วยเหตุนี้ ชาร์ล น้องชายฝาแฝดของกลินด้าจึงถูกเลือกให้มาทำหน้าที่แทนเธอ ซึ่งคนคนนั้นก็คือผมนั่นเอง ไม่นะ ไม่ไหวหรอก! ผมเป็นผู้ชายน้า! แถมยังเป็นแค่เด็กซิ่วว่างงานต่างจากพี่สาวที่เป็นอัจฉริยะลิบลับเลยด้วย! ทว่าสุดท้ายผมก็ถูกบังคับให้แต่งเป็นหญิงโดยมิอาจขัดขืน และถูกส่งไปเป็นอาจารย์สอนพิเศษให้พวกเด็กๆ ในราชวงศ์ของอาณาจักรพันธมิตรจนได้....!? ขอเชิญพบกับนิยายแฟนตาซีคอมมิดี้ของอาจาร์สอนพิเศษที่ทุกท่านรอคอยกันได้เลย!

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”