New Release ร้อยรัก : สัจจะรักมนตราฟาโรห์

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release ร้อยรัก : สัจจะรักมนตราฟาโรห์

โพสต์ โดย Gals »

บทนำ

ดินแดนแห่งนี้มีแม่น้ำไนล์เป็นเส้นเลือดคอยหล่อเลี้ยงให้อุดมสมบูรณ์ และเป็นอีกหนึ่งดินแดนที่มีอารยธรรมที่อุดมสมบูรณ์เกือบถึงที่สุดในยุคแรกๆ ทั้งยังเป็นดินแดนที่ถือว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของโลก เพราะลักษณะที่เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำ สามารถทำนายเวลาเพาะปลูกได้ และไม่เพียงเป็นดินแดนที่เก่าแก่เท่านั้น แต่ยังมีอารยธรรมที่เก่าแก่ไม่แพ้กัน นั่นคือ...ดินแดนไอยคุปต์หรืออียิปต์โบราณ
อียิปต์...ดินแดนที่เปรียบเสมือนร่างกายของมนุษย์ มีแม่น้ำไนล์คือสายน้ำแห่งชีวิต...แห่งแผ่นดินของอียิปต์ สายน้ำที่เปรียบได้ดั่งเส้นเลือดหล่อเลี้ยงชีวิตของแผ่นดิน ประทานชีวิต ลมหายใจ และสร้างสรรพสิ่งทุกประการบนแผ่นดิน
อียิปต์แบ่งออกเป็นอียิปต์สองส่วนคือ...ส่วนอยู่บริเวณส่วนบนของอียิปต์ และส่วนอยู่บริเวณส่วนล่างของอียิปต์ ซึ่งมีแม่น้ำไนล์ไหลผ่านเป็นแนวยาว จากดิอัลฟาในเขตซูดานจนถึงไคโร ปากน้ำแยกออกเป็นสองแถวไหลงลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เกิดแผ่นดินรูปสามเหลี่ยมเรียกว่าอียิปต์ต่ำ ส่วนที่อยู่ใต้เมืองไคโรเรียกว่าอียิปต์สูง
ดวงตะวันเคลื่อนผ่าน...ดวงเดือนหมุนไป...เวลาที่ผ่านพ้นไป สายน้ำยังดำรงอยู่คู่แผ่นดินแห่งอารยธรรมเก่าแก่ ดินแดนที่ก่อกำเนิดอารยธรรมอันงามสง่าในยุคแรกๆ
ยุคก่อนราชวงศ์หรือยุคสมัยก่อนประวัติศาสตร์นั้น บริเวณแถบนี้ไม่ได้รวมกันเป็นปึกแผ่นเข้มแข็งแต่อย่างใด มีการแบ่งตัวออกเป็นเมืองเล็กเมืองน้อย โดยพัฒนาขึ้นจากชุมชนเล็กๆ มีผู้ปกครองสังคมเป็นผู้นำหมู่บ้าน โดยผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำนั้นจะมีบ้านหลังใหญ่โตเพราะมีความแข็งแรง ซึ่งบ้านหลังใหญ่นั้นแสดงออกถึงความสมบูรณ์ อำนาจบารมี เป็นความหมายในเชิงสัญลักษณ์
และเมื่อขยับขยายเป็นชุมชนเมืองที่ใหญ่ขึ้น บ้านหลังใหญ่ก็อาจเปลี่ยนไปเป็นพระราชวัง มีการปกครองที่ละเอียดขึ้น...ซับซ้อนขึ้น มีคนทำหน้าที่ในตำแหน่งและชนชั้นที่ต่างกัน เพื่อบริหารบ้านเมืองที่ใหญ่โตกว่าเดิม มีผู้นำที่อยู่ในตำแหน่งกษัตริย์
ฟาโรห์องค์แรกคือเมเนส พระองค์สามารถรวมอียิปต์เป็นหนึ่งเดียว พระองค์จึงเป็นฟาโรห์องค์แรกที่ทรงมงกุฎสองแผ่นดิน นี่คือราชวงศ์แรกแห่งดินแดนอียิปต์
อารยธรรมอียิปต์เริ่มปรากฏให้เห็นชัดในยุคสมัยราชวงศ์ที่สาม ซึ่งมีการสร้างมัมมี่และพีระมิด อันเป็นการแสดงถึงการเข้าสู่ยุคอาณาจักรเก่าของอียิปต์ ทว่าความรุ่งเรืองมักจะมาควบคู่กับความเสื่อมถอย เมื่อมีความรุ่งเรืองก็ย่อมมีความเสื่อม ความขัดแย้งจากการเปลี่ยนราชวงศ์ทำให้บ้านเมืองระส่ำระสายจนเป็นเหตุให้ราชวงศ์ล่มสลาย และสิ้นสุดยุคสมัยอาณาจักรเก่าเพื่อเข้าสู่ยุคสมัยอาณาจักรกลาง
ในช่วงรอยต่อของยุคสมัยอาณาจักรเก่าและอาณาจักรกลางนั้นเป็นยุคมืดยุคแรกของอียิปต์ จากนั้นเข้าสู่ยุคสมัยอาณาจักรกลางซึ่งได้มีการบูรณะและทำนุบำรุงบ้านเมือง มาถึงยุคสมัยนี้...มักมีประวัติไม่ชัดเจนนัก ด้วยถูกทำลายจากฟาโรห์ในช่วงปลายราชวงศ์ที่สิบแปด จึงไม่ทราบแน่ชัดว่ามีฟาโรห์กี่พระองค์ แต่ยุคสมัยนี้ได้เกิดยุคมืดอยู่หลายครั้งเพราะไร้สกุลสืบบัลลังก์กษัตริย์ วิเซียร์ที่เป็นที่ปรึกษาของฟาโรห์แก่งแย่งอำนาจ ก่อให้เกิดสงคราม การแบ่งฝ่าย แบ่งพรรคแบ่งพวก เป็นเหตุให้ประชาชนลำบาก แผ่นดินระส่ำระสายเพราะความไม่มั่นคง จนกระทั่งเข้าสู่ราชวงศ์ที่สิบแปด และเริ่มยุคสมัยใหม่ของอียิปต์คือยุคอาณาจักรใหม่
ในช่วงยุคอาณาจักรใหม่นี่เองที่มีองค์ฟาโรห์มหาราชพระองค์เดียวแห่งอียิปต์นั่นคือ...ฟาโรห์ราเมเซสที่สอง ฟาโรห์พระองค์ที่สามแห่งราชวงศ์ที่สิบเก้า...ชายผู้ได้ชื่อว่าเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่ ด้วยพระปรีชาสามารถต้องพระทัยบิดาตั้งแต่พระชนมายุเพียงแปดชันษา และได้รับสถาปนาเป็นเจ้าชายรัชทายาทตั้งแต่พระชนมายุสิบชันษา ทั้งยังแสดงพระปรีชาสามารถในสงครามกับซีเรีย ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ต่อสายพระเนตรของฟาโรห์เซติที่หนึ่ง ผู้เป็นพระราชบิดา จึงได้รับเกียรติให้ร่วมปกครองอาณาจักรอียิปต์ไปพร้อมๆ กับพระบิดา ทั้งที่เจ้าชายราเมเซสอายุเพียงสิบสี่ชันษาเท่านั้น!
ทว่า...แม้จะเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่หรือเป็นมหาราชหนึ่งเดียวแห่งอาณาจักรอียิปต์ ทว่าฟาโรห์ราเมเซสมหาราชกลับมีชะตารักที่น่าเศร้านัก ความรักของพระองค์มิสามารถทำให้พระนางอันเป็นที่รักเชื่อพระทัยได้เลย นั่นเป็นเพราะอำนาจที่ล้นฟ้า บารมีที่ล้นแผ่นดิน ธรรมเนียมและประเพณีดั้งเดิม อันเป็นเหตุให้ความรักต้องหมองหม่นอยู่เสมอ ทำให้นางอันเป็นที่รักมิอาจเข้าใจถึงหน้าที่ ซึ่งมิได้เป็นไปตามพระทัยที่พระองค์ปรารถนา
เมื่อพระทัยและหน้าที่ของพระองค์สวนทางกัน ความรักของมหาราชผู้มีชัยชนะเหนือผู้ใดจะเป็นอย่างไร? ต้องฟันฝ่าอุปสรรคเพียงใด นางผู้เป็นที่รักจึงจักเห็นถึงพระทัยที่มั่นคงของพระองค์ได้

บทที่ 1

1290 ปีก่อนคริสตศักราช...

เสียงอึกทึกของงานรื่นเริงจากชัยชนะในสงครามซีเรีย นั่นทำให้เจ้าของพระพักตร์รูปไข่และพระเกศาสีน้ำตาลแดงของเจ้าชายรัชทายาทซึ่งแสดงพระปรีชาสามารถในศึกสงครามที่สามารถเอาชนะมาได้ ทั้งที่พระองค์ทรงมีพระชนมายุเพียงสิบสี่ชันษาเท่านั้น จึงจัดงานรื่นเริงเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จในครั้งนี้
เสียงดนตรีที่เปลี่ยนไปทำให้เจ้าชายราเมเซสผินพระพักตร์จากการสนทนาอย่างทรงพระสำราญกับพระราชบิดามาสนพระทัยนางรำที่พากันมาเต้นรำในงานรื่นเริง หากแต่นางรำนุ่งน้อยห่มน้อยที่เห็นจนชินตาไม่ได้ทำให้องค์ฟาโรห์เซติสนพระทัยได้ ในขณะที่เจ้าชายราเมเซสกำลังทอดพระเนตรด้วยความประทับใจ
?สนใจนางรึลูกชายข้า?
เจ้าชายราเมเซสมิได้ตรัสตอบพระราชปุจฉาของพระราชบิดา ทว่าสายพระเนตรที่จับจ้องนั้นตกตะลึงไปชั่วครู่เมื่อนางรำคนหนึ่งพาร่างบอบบางของตัวเองออกมาร่ายรำและแสดงลีลาอ่อนช้อยประกอบดนตรี สามารถสะกดสายตาคนทั่วท้องพระโรงได้อย่างไม่ยากเย็น
พระโอษฐ์หนายกขึ้นจนเป็นรอยแย้มยิ้มอย่างทรงพอพระทัยกับการร่ายรำของหญิงสาวตรงหน้าเป็นอย่างยิ่ง แม้พระพักตร์คมเข้มจะยังคงสงบนิ่งไม่ต่างจากทุกครั้ง ทว่าสายพระเนตรแพรวพราวยามนางเยื้องกายเข้ามาใกล้ ทำให้พระวรกายของเจ้าชายราเมเซสเต้นไปตามจังหวะของดนตรี เฉกเช่นเดียวกับพระทัยของพระองค์ที่เต้นจนได้ยินเพียงเสียงพระทัยของพระองค์เอง
ดวงหน้ารูปไข่ จมูกโด่งเล็ก ริมฝีปากเป็นกระจับที่ยามแย้มยิ้ม ทำให้พระองค์มิสามารถละสายพระเนตรจากนางได้เลย สะโพกงอนงามของร่างอรชรอ้อนแอ้นยามโยกไปตามจังหวะเสียงดนตรี แค่เพียงแรกพบสบตาก็ทำให้พระทัยของพระองค์สั่นไหว
นางมิใช่สตรีคนแรกที่พระองค์พานพบ มิใช่หญิงสาวงดงามคนแรกที่พระองค์เคยใกล้ชิด ทว่านางกลับเป็นสตรีงดงามเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถพิชิตใจบุรุษชาญณรงค์องอาจในสนามรบเช่นพระองค์ได้ เพียงครั้งเดียวที่ได้เห็น...นางก็ติดตรึงอยู่ในพระทัยของพระองค์เสียแล้ว
?เจ้ามีนามว่าอะไร?
สิ้นพระสุรเสียงของเจ้าชายรัชทายาท คนถูกถามได้แต่เงยหน้ามองพระพักตร์คมเข้มที่สมเป็นบุรุษผู้พิชิตชัยชนะ คงมิมีสตรีคนใดในดินแดนอียิปต์จะหาญกล้าปฏิเสธความปรารถนาที่พระองค์ประสงค์ หากได้เอื้อนเอ่ยออกจากพระโอษฐ์นั่นแล้วก็ย่อมเป็นดั่งคำสั่งที่ต้องกระทำตาม เช่นเดียวกับที่นางจะต้องตอบคำถามของพระองค์
?เนเฟอร์ตารี...เนเฟอร์ตารี เมริทมุต เพคะ?
?เนเฟอร์ตารี...ไพเราะมาก งดงามสมกับเจ้าจริงๆ?
ใบหน้างามก้มลงเมื่อเห็นสายพระเนตรที่ถูกทาเปลือกพระเนตรให้เป็นสีเขียวซึ่งกำลังจับจ้อง ทำให้สตรีที่กำลังถวายสร้อยทองคำรูปแมลงวันซึ่งถือว่าเป็นเหรียญกล้าหาญที่เหล่านักรบจะได้รับหลังสงครามเสร็จสิ้นรู้สึกเขินอายนัก
?เหรียญกล้าหาญนี้เป็นของเจ้า พ่อให้แม่ของเจ้าคัดเลือกนางรำที่งามที่สุด เพื่อให้นางมอบมันให้แก่เจ้า?
เจ้าชายราเมเซสรับสร้อยคอทองคำซึ่งมีจี้เป็นรูปแมลงวันสามตัวเรียงกัน ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบว่าแมลงวันนั้นไล่ตอมไม่เลิก เช่นเดียวกับนักรบที่ยืนหยัดต่อสู้อย่างไม่ท้อถอย ทหารโดยส่วนมากจะได้รับเฉกเช่นเดียวกับเจ้าชายรัชทายาท หากแต่วันนี้พระองค์ไม่เพียงได้รับเหรียญกล้าหาญเท่านั้น ยังทรงได้รับความไว้วางใจจากพระราชบิดาอีกด้วย
?เจ้าพึงพอใจนาง...ปรารถนานางยิ่งกว่าสตรีใดในดินแดนนี้รึ?
?พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ นางงดงามมาก...มากเสียจน...?
สายพระเนตรร้อนแรงทอดพระเนตรตามร่างงดงามอรชรอ้อนแอ้น สายพระเนตรที่ไม่เพียงมีความปรารถนาร้อนแรงไปด้วยความใคร่ ทว่ากลับมีความอ่อนโยนที่ทอประกายอยู่ในนั้น
?หากปรารถนานาง พ่อจะจัดการให้เป็นของขวัญแห่งชัยชนะของเจ้า และเจ้าคงมิปฏิเสธสิ่งที่พ่อหยิบยื่นให้?
เจ้าชายราเมเซสไม่เพียงปีติในพระทัย ทว่ายังแสดงออกด้วยแววพระเนตรขอบพระทัยที่พระราชบิดาทรงพระราชทานของขวัญล้ำค่าแด่พระองค์
ผู้เป็นพระราชบิดาทรงพระสรวลด้วยความปลาบปลื้มนักที่หาคู่ครองได้ต้องพระเนตรต้องพระทัยพระราชบุตรของพระองค์ ซึ่งจะก้าวขึ้นเป็นองค์กษัตริย์ในภายภาคหน้า
พระวรกายแกร่งผุดลุกแล้วเยื้องย่างออกจากท้องพระโรง ให้เหล่าบริวาร นางกำนัล ขุนนาง และเหล่าทหารผู้กล้าครื้นเครงกับงานเฉลิมฉลองที่พระราชบิดาของพระองค์เองทรงมีรับสั่งให้จัดขึ้น
?ท่านพี่ทรงแน่พระทัยแล้วหรือเพคะที่จะให้ลูกชายของเรา...?
?ราเมเซสได้เลือกแล้ว พี่ไม่คัดค้าน และน้องก็คงคิดเหมือนพี่...มิใช่หรือ?
?เพคะ หากนั่นคือสิ่งที่รัชทายาทของท่านพี่ได้เลือกแล้ว น้องก็มั่นใจในสิ่งที่ลูกชายของน้องเลือกเช่นกันเพคะ?
แม้เจ้าชายราเมเซสจะยังทรงพระเยาว์นัก ทว่าก็ถึงเวลาแล้วที่เจ้าชายรัชทายาทจำต้องมีคู่ชีวิตเพื่อแสดงถึงอำนาจ เพราะหากไร้ซึ่งคู่ครอง...บัลลังก์และราชวงศ์อาจจะสั่นคลอน ด้วยขุนนางที่มักใหญ่ใฝ่สูงหวังจะล้มราชบัลลังก์เพื่อสถาปนาตนเองเป็นฟาโรห์และตั้งราชวงศ์ขึ้นใหม่
เจ้าชายรัชทายาทที่ไร้คู่ครองนั้นก็เปรียบเสมือนนักรบที่ไร้อาวุธ แม้จะมีพละกำลังมากมายเพียงใด ทว่าการไร้ซึ่งอาวุธคู่กายที่เปรียบดั่งเพื่อนยากย่อมไม่สามารถฟาดฟันหรือเอาชนะเหล่าอริราชศัตรูได้ เฉกเช่นเดียวกับการบริหารบ้านเมือง หากไร้ซึ่งคู่คิด ที่ปรึกษา และกำลังใจ ยามเกิดปัญหาต้องเผชิญความท้อแท้...ใครเล่าจะช่วยพยุงผู้ปกครองแผ่นดินและเรียกกำลังใจของบุรุษผู้ซึ่งเป็นเจ้าชีวิตของทุกคนในดินแดนอียิปต์กลับคืนมาได้หากไม่ใช่คู่ชีวิตแล้วไซร้
พระวรกายแข็งแกร่งเยื้องย่างอย่างสง่างาม สายพระเนตรที่ถูกวาดเส้นขอบพระเนตรเป็นสีดำกำลังจับจ้องร่างอรชรที่ตราตรึงพระทัยเพียงแรกพบ พระพักตร์คมเข้มปรากฏรอยยิ้มพึงพอพระทัย แม้มิเคยประทับใจสตรีใดตั้งแต่แรกเห็น ทว่านางที่ยืนมองดวงดาวบนท้องฟ้าบนระเบียงเบื้องพระพักตร์ทำให้พระองค์มิสามารถละสายพระเนตรได้เลยสักนิด
สายพระเนตรที่จับจ้องมาตลอดเวลาทำให้เจ้าของร่างอรชรได้แต่นิ่งงัน ขนลุกเกรียวแทบจะทั้งร่าง ก่อนจะยืดกายเต็มความสูง ไม่กล้าที่จะผินหน้ามองยุพราชแห่งแผ่นดินอียิปต์
?อย่ากลัวข้า ข้ามิเคยทำร้ายสตรี ยิ่งสตรีที่งดงามเฉกเช่นเจ้า...ข้ายิ่งมิคิดทำร้าย? เอ่ยพลางแย้มพระโอษฐ์ ประทับเคียงสตรีที่ทรงหมายปอง
?งานเฉลิมฉลองในวันนี้ องค์ฟาโรห์ทรงมีรับสั่งให้จัดขึ้นเพื่อฝ่าบาท แล้วเหตุใดพระองค์จึงได้มาประทับด้านนอกงานรื่นเริงเช่นนี้ล่ะเพคะ?
?แล้วนางรำแสนสวยอย่างเจ้าเล่า...เนเฟอร์ตารี?
สายพระเนตรแพรวพราวก้มทอดพระเนตรร่างอรชรที่เงยหน้ามามองพระองค์เพียงครู่ ก่อนจะเสสายตามองไปยังดวงดาวพร่างพราวบนฟากฟ้าที่มืดมิด
?ดวงดาวในคืนมืดมิดงดงามมากเพคะ หม่อมฉันชื่นชอบดวงดาวนัก ให้มองทั้งคืนก็มิเบื่อเพคะ?
?ดวงดาวหรือจะงดงามสู้ความงามของเจ้าได้? ยุพราชแห่งอียิปต์ไม่ละสายพระเนตรจากร่างเล็กที่ยืนเคียงข้าง
เนเฟอร์ตารีคงมิรู้ตัวเลยว่าแสงดาวบนฟากฟ้าดำมืดนั้นพราวระยิบเปล่งแสงได้ไม่เท่าความงดงามของตัวนางเอง มิรู้เป็นเพราะสิ่งใดหรืออะไรที่ทำให้พระองค์ประทับใจ มิว่าเทพหรือเทพีองค์ใดได้เนรมิตสร้างนางขึ้นให้มีรูปลักษณ์งดงามและสง่าถึงเพียงนี้ พระองค์นึกขอบพระทัยเทพหรือเทพีองค์นั้นยิ่งนัก
?ความงดงามของเจ้าเปล่งแสงแข่งกับดวงดาวเหล่านั้น...มีหรือข้าจะมิเห็นความงามของเจ้า และแสงแห่งความงามของเจ้าก็ทำให้ข้าปรารถนาจะมีเจ้าเป็นคู่คิด...และคู่ชีวิตของข้า?
เจ้าชายราเมเซสเชยใบหน้างดงามของเนเฟอร์ตารีให้นางสบกับสายพระเนตรคมเข้ม เพียงได้สบกับสายพระเนตร เนเฟอร์ตารีก็รู้แล้วว่ากำลังได้รับสิ่งใดที่สตรีใดหรือใครจะปฏิเสธพระประสงค์ขององค์ยุพราชผู้เกรียงไกรผู้นี้ได้
หากสิ่งใดที่พระองค์ต้องการแล้วล่ะก็...ไม่มีวันที่ใครจะปฏิเสธได้อย่างแน่นอน!
พระพักตร์คมเข้มและพระราชดำรัสหวานหูจะมีสตรีใดหามิหวั่นไหวไม่...แม้แต่เนเฟอร์ตารีเองที่ได้แต่วาดฝันว่าจะมีโอกาสได้เห็นพระพักตร์คมเข้มใกล้ชิดสักครั้ง แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มากกว่าที่วาดฝัน เมื่อพระองค์มิใช่เพียงพระราชทานความใกล้ชิด หากยังทอดพระเนตรนางด้วยความปรารถนาเฉกเช่นบุรุษที่พึงมีต่อสตรีที่หมายปอง
?เจ้าเป็นนางรำที่งดงามมากในสายตาของเหล่าบุรุษ แต่ข้าเห็นแก่ตัวเกินกว่าจะให้บุรุษใดได้ยลความงามของเจ้า โดยเฉพาะท่วงท่ายามเจ้าร่ายรำเข้ากับจังหวะ ข้ายิ่งมิปรารถนาให้มันผู้ใดได้เห็น?
?พระ...พระองค์...หม่อมฉัน...?
?อย่าปฏิเสธความงามของตัวเจ้า...เนเฟอร์ตารีของข้า?
พระพักตร์คมเข้มโน้มมาจุมพิตหน้าผากหอมกรุ่นของสตรีที่พระองค์ทรงหมายปอง ราวกับจะตีตราจองให้นางได้รู้ว่า...จากนี้ไปจนนิรันดร์ นางจะเป็นสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่ในดวงหทัยของพระองค์
เนเฟอร์ตารีชะงักนิ่ง จากที่เคยอยู่ในตำหนักของนางรำ ไม่เคยมีโอกาสได้ร่ายรำในงานพิธีใดๆ ไม่เคยได้ใกล้ชิด หรือได้แสดงฝีมือที่ถูกฝึกมาอย่างหนัก ทว่าเพียงได้แสดงฝีมือท่วงท่าร่ายรำที่ถูกฝึกตั้งแต่ยังเยาว์ ด้วยบิดามารดานำนางมาทิ้งหน้าพระราชวัง เป็นเหตุให้นางมาอยู่ในการดูแลของพระราชวังและถูกฝึกปรือให้เป็นผู้ที่มอบความสำราญในงานเฉลิมฉลองในท้องพระโรง ทว่าตอนนี้...ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป
ชะตาแห่งชีวิตของเนเฟอร์ตารีกำลังเปลี่ยนไป เพียงเพราะ...พระราชดำรัสเดียวขององค์ยุพราชแห่งอียิปต์
*********************************************************************************************
เจ้าชายราเมเซสได้รับพระราชภารกิจให้มีส่วนร่วมในการปกครองอาณาจักรอียิปต์ไปพร้อมๆ กับพระราชบิดา แม้จะมีภารกิจหน้าที่เต็มไม้เต็มมือเพียงใด พระองค์ก็มิลืมว่าดวงหทัยของพระองค์นั้นเลือกสตรีใดมาเป็นคู่คิด เป็นกำลังใจ เฉกเช่นที่พระราชมารดาได้ทรงประทับเคียงข้างพระราชบิดาของพระองค์
แม้วันพระราชพิธีอภิเษกสมรสได้กำหนดวันเวลาแล้ว หลังพบหน้าเนเฟอร์ตารีในพระราชพิธีเฉลิมฉลองเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว ทว่าสำหรับบุรุษผู้ปรารถนาจะได้เคียงนางที่หมายตาในเร็ววันก็ดูจะช้าเกินไป แม้เนเฟอร์ตารีจะย้ายจากตำหนักนางรำมายังตำหนักของพระราชมารดาเพื่อเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ภายในพระราชวัง เพื่อเป็นพระชายาในเจ้าชายรัชทายาทแห่งอาณาจักรอียิปต์ และพร้อมที่จะเป็นพระราชินีเคียงข้างองค์ฟาโรห์ในภายภาคหน้า
?มาแล้วรึราเมเซส เดี๋ยวนี้แวะมาหาแม่ทุกวัน คงมิใช่เพราะตัวของแม่กระมัง คนบางคนที่นี่สินะที่ทำให้เจ้าชายรัชทายาทมาหาแม่ได้ทุกวัน?
?เสด็จแม่น้อยใจข้ากระนั้นหรือ?
?ใครจะไปบังอาจน้อยใจองค์รัชทายาทได้เล่า?
เจ้าชายราเมเซสแย้มพระโอษฐ์ให้พระราชมารดาของพระองค์ ก่อนประทับบนตั่งไม้อย่างดีที่ปูพรมขนสัตว์เนื้อนุ่ม สตรีที่เจ้าชายรัชทายาทปรารถนาจะมาพบเจอ และปลูกความรักความสัมพันธ์ให้นางคุ้นชินกับพระองค์เสียที เนเฟอร์ตารีเดินออกมาจากด้านใน นั่งลงทำความเคารพผู้มีศักดิ์สูงกว่าอย่างเคารพ
?เสด็จแม่เสร็จงานแล้วหรือ?
?จะไล่แม่ทางอ้อมรึราเมเซส? สบพระเนตรพระราชบุตรเพียงคนเดียวด้วยรอยแย้มพระโอษฐ์เจ้าเล่ห์ ?เหตุใดลูกมิชวนนางไปเดินเล่นในสวนสักหน่อยเล่า?
?ข้ามิเคยทราบมาก่อนเลยว่าพระราชินีทูยาจะทรงมีความคิดให้ลูกชายเช่นนี้?
?มิโปรดที่แม่เสนอหรือราเมเซส?
?โปรด แต่ลูกสัญญากับเนเฟอร์ตารีว่าจะเล่นเซเนตกับนางในวันนี้?
?เซเนตรึ? ชอบเล่นเซเนตเหมือนกันรึเนเฟอร์ตารี?
พระสุรเสียงเอ็นดูของพระราชินีทูยาทำให้อดีตนางรำยิ้มและพยักหน้าน้อยๆ พลางรับคำ แว่วเสียงรับคำหวานจับพระทัยคนฟังและคนรอคำตอบยิ่งนัก
?เจ้าไปเอากระดานเซเนตมาซิ? สุรเสียงทรงอำนาจของยุพราชแห่งอียิปต์ออกคำสั่งกับนางกำนัลซึ่งวางเครื่องดื่ม และของว่างยามบ่าย
?เพคะ?
?หม่อมฉันไปเอามาเองจะดีกว่าเพคะ ให้นางได้ถวายงานพระราชินี หม่อมฉันเองก็เสร็จงานแล้วด้วย?
?ไม่ต้องหรอกเนเฟอร์ตารี เจ้าควรรู้ตัวว่านี่คือหน้าที่เจ้าหรือไม่?
เนเฟอร์ตารีได้แต่ชะงักเมื่อถูกพระราชินีทูยาตำหนิตรงๆ เจ้าชายราเมเซสสบพระเนตรกับองค์ราชินี สตรีซึ่งไม่เพียงเป็นพระราชินีของฟาโรห์เซติทั้งยังทรงเป็นพระราชมารดาของพระองค์อีกด้วย และพระองค์ทรงทราบดีอยู่แล้วว่างานฝ่ายในเป็นหน้าที่ของพระราชินีขององค์ฟาโรห์ซึ่งดูแลอาณาจักรในเวลานั้นๆ และเวลานี้...พระราชบิดาของพระองค์ทรงเป็นองค์ฟาโรห์แห่งอียิปต์ หน้าที่ดูแลงานฝ่ายในจึงตกเป็นของพระราชมารดาของพระองค์...พระราชินีทูยา
?เพคะพระราชินี?
เนเฟอร์ตารีทรุดกายลงนั่งบนที่นั่งซึ่งต่ำกว่าองค์ยุพราชที่กำลังทอดพระเนตรสตรีเบื้องพระพักตร์ด้วยสายพระเนตรที่นับวันจะร้อนแรงมากขึ้นทุกที...ทุกที...
?เสด็จพ่อของลูกยังตรากตรำทรงงานอยู่รึเปล่าราเมเซส?
?เห็นจะมิใช่ เสด็จพ่อเสด็จกลับพร้อมลูก น่าจะพักผ่อนในห้องบรรทมพ่ะย่ะค่ะ?
?แม่จะไปดูพ่อของลูกเสียหน่อย เล่นเซเนตให้สนุก แล้วอย่ากลับตำหนักของลูกค่ำมืดนัก แม่จะมิยอมให้ผู้ใดกล่าวหาสตรีผู้จะมาเป็นพระมเหสีขององค์รัชทายาท หรือเอาไปนินทาลับหลัง เข้าใจคำพูดของแม่ใช่หรือไม่ราเมเซส?
?พ่ะย่ะค่ะเสด็จแม่?
?กระดานเซเนตเพคะองค์รัชทายาท?
?มาเถอะเนเฟอร์ตารี ข้าให้เจ้าเริ่มก่อน?
เนเฟอร์ตารียิ้มกว้างเมื่อการเดินกระดานไปเรื่อยๆ จนสามารถขวางการเดินตาต่อไปของเจ้าชายราเมเซสได้ ด้วยตัวเดินของเธออยู่ในช่องเดียวกันทั้งสามแถว
?แล้วข้าจะเดินต่อได้อย่างไร?
?พระองค์ทรงยอมให้หม่อมฉันชนะสิเพคะ?
?แบบนี้มันจะเป็นการเล่นชิงไหวพริบได้อย่างไรเล่า แล้วจะให้บุรุษแพ้สตรี ข้ายิ่งมิเห็นสมควร?
?นี่คือการละเล่นมิใช่สงครามนะเพคะ จะยอมอ่อนข้อให้หม่อมฉันเพียงนิดก็มิได้หรือเพคะ?
น้ำเสียงและรอยยิ้มที่เหมือนจะอ้อนขอในทีทำให้บุรุษผู้ได้ฟังต้องยอมรับความจริงที่ว่ามันทำให้รู้สึกปิติ และปรารถนาจะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่นางต้องการ
?แต่บุรุษจะมิยอมพ่ายแพ้เพียงเพราะคำหวานของสตรี ยิ่งเป็นบุรุษนักรบยิ่งมิควร?
?พระองค์จะมิทรงยอมอ่อนข้อให้หม่อมฉันหรือเพคะ เช่นนั้น...หม่อมฉันขอนำพระองค์ไปก่อนหนึ่งตัวนะเพคะ?
ตัวเดินตัวแรกของเนเฟอร์ตารีออกจากกระดานอย่างง่ายดาย ยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิในฝีมือของตัวเอง เจ้าชายราเมเซสทอดพระเนตรรอยยิ้มของนั่นก่อนจะแย้มพระสรวลตามอย่างไม่รู้พระองค์เอง ยิ่งทรงได้เห็นว่านางสนุก พระองค์ก็ทรงสนุกตามไปด้วย
?ข้าดีใจที่เจ้าสนุก กล้าที่จะหยอกล้อข้าเช่นนี้?
เนเฟอร์ตารีเอียงคอมองพระพักตร์คมเข้มอย่างไม่มั่นใจนักว่าพระองค์จะทรงโปรดจริงหรือไม่ หรือมิได้รู้สึกเช่นไรอย่างที่นางเคยเห็นมาตลอด ทว่าพระพักตร์ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มทำให้นางกล้าที่จะขยับเข้าใกล้พระองค์อีกนิด แม้เป็นเพียงความรู้สึกแต่ก็มากพอแล้วที่จะเอ่ยถามอะไรบางอย่างที่ค้างคาใจ
?หม่อมฉันมีเรื่องอยากจะถามพระองค์ จะทรงตอบหม่อมฉันหรือไม่...หม่อมฉันมิบังอาจเพคะ?
?เจ้ากำลังจะมาเป็นมเหสีของข้า จะเกรงใจพระสวามีของเจ้าในเวลาส่วนตัวเช่นนี้ ข้ามิคิดว่านั่นคือสิ่งที่มเหสีของข้าควรกระทำ หากสิ่งใดที่เจ้าค้างคาใจและเป็นเรื่องส่วนตัวที่มิเกี่ยวข้องกับราชกิจบ้านเมือง...ก็ถามมาเถอะ?
สุรเสียงสบายๆ ทั้งยังทอยกระดูกข้อนิ้วเพื่อเดินหมากของพระองค์เองนั้นทำให้คนที่ลอบสังเกตยิ้มกว้าง นางยอมรับว่าหากไม่เพราะท่าทางสบายของพระองค์ นางคงมิกล้าจะเปิดปากถามเรื่องนี้กับองค์ยุพราชแห่งอียิปต์เป็นแน่
?พระองค์ทรงโปรดหม่อมฉัน และประสงค์ให้หม่อมฉันเป็นของพระองค์แต่เพียงผู้เดียวตั้งแต่วันแรกที่พระองค์ทอดพระเนตรหม่อมฉันหรือเพคะ?
?ใช่ ข้าเป็นถึงองค์รัชทายาท พูดแล้วมิคืนคำ?
สายพระเนตรสบแน่นิ่งที่ใบหน้าคนถามด้วยความจริงจัง เนเฟอร์ตารีสบตอบก่อนจะก้มหน้าหลบสายพระเนตรอย่างเอียงอายเมื่อเห็นว่าพระองค์ไม่เพียงแต่จริงจังในคำพูดเท่านั้น ทว่ายังแฝงไปด้วยความหมายบางอย่างที่เข้าใจได้มิยาก
เมื่อพระองค์คือบุรุษ และนางคือสตรีที่บุรุษอย่างพระองค์ปรารถนา แล้วสิ่งใดกันเล่าที่บุรุษประสงค์จากสตรีที่พระองค์ทรงโปรดและพึงปรารถนา เพียงเท่านี้...นางก็หมดแล้วซึ่งข้อสงสัย ไม่มีคำถามใดๆ อีกต่อไป
การเป็นที่ทรงโปรดของเจ้าชายรัชทายาทก็เหมือนชะตาชีวิตได้พลิกผัน ไม่มีทางปฏิเสธได้และไม่มีสตรีใดที่คิดจะปฏิเสธ หากปฏิเสธพระราชพิธีอภิเษกสมรส สตรีผู้นั้นก็มิพ้นการลงทัณฑ์ประหารชีวิต ใครจะหาญกล้าปฏิเสธ และไม่ใช่เพราะรักตัวกลัวตายหรือเพราะต้องการยศถาบรรดาศักดิ์ สำหรับนางแล้ว...บุรุษตรงหน้านั้นยากจะเอื้อมถึง
สำหรับเนเฟอร์ตารี นางอาจไม่มั่นใจในพระทัยของพระองค์ว่าจะทรงโปรดนางไปอีกนานเท่าไหร่ หรือพระองค์จะทรงมิโปรดนางเมื่อใด ทว่าการที่พระองค์ทรงปรารถนานางเป็นจุดเริ่มต้น และทรงพยายามที่จะซื้อใจนางด้วยการพากเพียรมาหา เพียงเท่านี้...ก็ทำให้นางยินยอมที่จะเป็นพระมเหสีของเจ้าชายรัชทายาทแห่งอาณาจักรอียิปต์แล้ว
?ค่ำมืดป่านนี้แล้ว ข้าคงต้องกลับเสียที หาไม่แล้ว...เสด็จแม่คงได้กริ้วที่ข้าทำให้เจ้าเสียชื่อ?
?เพคะ? รับคำพร้อมรอยยิ้มหวานที่ประทับและตราตรึงหทัยของพระองค์ยิ่งนัก
?เนเฟอร์ตารี...จงเชื่อคำข้า ข้ารอวันที่จะได้มีเจ้ามาเคียงข้าง และหากวันนั้นมาถึง...ข้าจะเปิดใจของข้าให้เจ้าได้ล่วงรู้ว่าข้านั้นรักเจ้าเพียงใด?
ถ้อยคำหวานหูมิเท่าจุมพิตหลังมือที่อ่อนโยน...อ่อนหวานจนคนได้รับได้แต่ก้มหน้าด้วยความเอียงอาย พระหัตถ์แกร่งเชยหน้าของเนเฟอร์ตารี สบนัยน์ตากลมใสที่ราวกับจะเปล่งแสงของนางด้วยความหลงใหล จุมพิตหน้าผากเนียนหอมกรุ่น
?วันนี้...ข้าทำได้เพียงเท่านี้ แต่วันหน้า...อย่าห้ามข้าที่จะแสดงความรักของข้าแก่เจ้า?
เจ้าชายราเมเซสได้แต่ตัดพระทัยปล่อยนางแล้วเสด็จกลับพระตำหนัก กลัวความรู้สึกและพระทัยของพระองค์เองมิน้อย มิเคยมีสตรีคนใดที่จะทำให้พระองค์ร้อนรุ่มทั้งพระวรกายและพระทัยได้เท่านาง มิมีสตรีใดที่จะงดงามในสายพระเนตรของพระองค์ได้เท่านาง
น่ากลัวยิ่งนัก! หากพระราชพิธีอภิเษกสมรสยังมิเกิดขึ้นในเร็ววัน พระองค์อาจมิปรีชาสามารถหักห้ามพระทัยของพระองค์เองเป็นแน่
กรุ่นกลิ่นนางยังคงติดตรึงไปทั้งพระวรกายและพระทัย แม้จะหลับพระเนตร...พระองค์ยังคงเห็นหน้านวลผ่องของนาง ยังคงได้ยินเสียงหวานหูของนาง ยังคงรู้สึกถึงผิวเนียนนุ่มของนาง อีกนานเท่าไหร่...พระองค์จึงจะได้แอบอิง...มีนางมาอยู่เคียงข้างและพระองค์จะได้บรรทมพร้อมเนเฟอร์ตารี...นางอันเป็นที่รัก
**************************************************************************************************
ผู้คนคลาคล่ำไปทั้งพระราชตำหนักของพระราชินีทูยาตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อทำให้สตรีผู้ที่ได้เป็นเจ้าสาวในพระราชพิธีอภิเษกสมรสงดงามที่สุด...สวยที่สุดตามพระบัญชาของพระราชินีในองค์ฟาโรห์ที่สองของราชวงศ์ที่สิบเก้าแห่งอาณาจักรอียิปต์ ซึ่งเป็นผลให้นางกำนัลทุกคนเร่งมือทำทุกอย่างเพื่อให้ออกมาดั่งพระราชประสงค์ของพระราชินี
พระราชพิธีอภิเษกสมรสยิ่งใหญ่สมพระเกียรติองค์ยุพราชแห่งอียิปต์ เจ้าชายราเมเซสทรงพระองค์เต็มยศ ทรงประดับด้วยเครื่องประดับทำจากทองคำ ทั้งมงกุฎเจ้าชายรัชทายาท เครื่องประดับรัดพระพาหาและข้อพระหัตถ์ รอบพระศอประดับด้วยเวเซคห์อันเป็นเครื่องประดับคอชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นแผ่นประดับคอขนาดใหญ่ซึ่งประดับด้วยอัญมณีหลากสีบนพื้นโครงที่ทำด้วยทองคำโดยเรียงเป็นแถวห้าแถวรอบพระศอทับบนฉลองพระองค์ยาวถึงข้อพระบาทซึ่งเป็นผ้าลินินสีขาวงาช้าง แขนสั้นคลุมข้อพระพาหา (ข้อศอก) ซึ่งเป็นการนุ่งพระภูษาหลายชั้นซ้อนกัน แต่สั้นยาวลดหลั่นกัน บนสุดฉลองพระองค์ที่ยาวถึงข้อพระบาท ด้านในสุดคือพระสนับเพลา
พระพักตร์คมเข้มตกแต่งเพียงพระเนตรคมเข้มเท่านั้น ซึ่งมีการวาดพระขนงและเขียนเส้นขอบพระเนตรบนและล่างยาวเกินพระเนตรเพื่อเน้นให้คมยิ่งขึ้น เปลือกพระเนตรทาให้เป็นสีเขียวเห็นได้อย่างชัดเจน
เจ้าชายรัชทายาทยังคงประทับนิ่งบนตั่งที่นั่งของพระองค์เอง แม้พระพักตร์จะนิ่งเรียบเพียงใด ทว่าสายพระเนตรคอยแต่จะเฝ้ารอการปรากฏตัวของสตรีอันเป็นที่รัก เมื่อเสียงดนตรีบรรเลงการปรากฏตัวของสตรีที่กำลังจะมาเคียงข้าง องค์ยุพราชได้แต่ทอดพระเนตรนิ่งไปยังทางเข้า
เมื่อร่างระหงอ้อนแอ้นของเนเฟอร์ตารีเยื้องย่างผ่านพระทวาร สายพระเนตรคมเข้มจับจ้องร่างอรชรอย่างพึงพอพระทัยนัก ทั้งใบหน้างดงามที่ซุกซ่อนในม่านลูกปัดซึ่งปกคลุมเส้นผมยาวสลวยสีดำของนาง ร่างระหงที่อยู่ในชุดทูนิคยาวกรอมเท้า ประดับด้วยเครื่องประดับลูกปัดและทองคำ ผ้าลินินปักดิ้นลายด้วยด้ายทองนั้นงดงามนักเมื่ออยู่บนร่างของสตรีผู้โชคดีที่ชีวิตกำลังจะพลิกผัน
จากเนเฟอร์ตารีซึ่งเป็นเพียงนางรำธรรมดากลายเป็นพระนางเนเฟอร์ตารี...พระมเหสีในองค์รัชทายาทแห่งอียิปต์
พระราชพิธีอภิเษกเริ่มต้นขึ้นเมื่อสตรีผู้เป็นเจ้าสาวในพระราชพิธีเยื้องกรายเข้ามายืนเบื้องพระพักตร์ของเจ้าชายรัชทายาท ในมือของนางถือพานทองคำซึ่งเป็นสัญลักษณ์ในการถวายตัวเป็นพระชายาของเจ้าชายรัชทายาท ซึ่งภายในพานทองคำนั้นมีพลอยเทอร์คอยส์ซึ่งเป็นพลอยสีท้องฟ้าที่มีส่วนประกอบของอะลูมิเนียมฟอสเฟตและทองแดงผสมอยู่ด้วย มีความเชื่อกันว่าเป็นการแสดงถึงความซื่อสัตย์และจงรักภักดีที่พระนางจะมอบให้แก่พระสวามีของพระนาง
เจ้าชายราเมเซสจับพระพาหาของพระนางเนเฟอร์ตารีให้พระนางทรงลุกขึ้นประทับเคียงข้างพระองค์ พระนางได้แต่ประทับนิ่งรอรับพระพรจากองค์ฟาโรห์และพระราชินี ก่อนจะรอรับคำอวยพรของบรรดาขุนนาง
เมื่อผ่านพ้นการอวยพร...การเฉลิมฉลองจึงเริ่มต้นขึ้นจากเสียงพิณ และเหล่านางรำที่ต่างพากันออกมาร่ายรำด้วยท่วงท่าที่งดงาม
?เห็นเหล่านางรำแล้วหวนให้คิดถึงเมื่อครั้งที่ข้าเจอเจ้า?
พระนางเนเฟอร์ตารีเงยพระพักตร์สบสายพระเนตรคมก่อนจะแย้มพระสรวล ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะเป็นสตรีผู้โชคดีที่องค์รัชทายาทจะทรงเลือกมาประทับเคียงข้าง บางครั้งยังคงคิดว่านี่คือความฝัน ที่หากตื่นเมื่อใด...พระองค์ก็จะพบว่ามันเป็นเพียงความฝันที่แสนยาวนานของพระองค์
?ข้าคงมิขอเจ้ามากเกินไป หากจะขอให้เจ้ามอบดวงใจของเจ้าให้แก่ข้า ไม่เพียงแต่ความซื่อสัตย์และภักดี ข้าคงมิเห็นแก่ตัวสำหรับเจ้ามากเกินไป?
?หม่อมฉันมิกล้ากล่าวหาฝ่าบาทเช่นนั้นหรอกเพคะ พระองค์คือองค์ยุพราช หม่อมฉันก็แค่สตรีตัวเล็กๆ จะหาญกล้าปฏิเสธได้อย่างไรเพคะ?
?หากมิติดว่าอยู่ต่อหน้าขุนนางมากมาย ข้าจะทำโทษเจ้ากับปากที่ช่างเจรจาของเจ้า?
?ฝ่าบาทจะลงโทษหม่อมฉันได้ลงหรือเพคะ?
องค์ยุพราชได้แต่แย้มพระสรวลอย่างนึกขัน ทว่าเสียงดนตรีที่ค่อยๆ เงียบลงพร้อมเหล่านางรำที่จากไป ทำให้เจ้าชายรัชทายาทรู้หน้าที่ของพระองค์เอง พระองค์ประทับยืนเป็นการให้เกียรติสตรีที่จะมาเคียงคู่พระองค์ ปล่อยให้พระนางเนเฟอร์ตารีเยื้องพระวรกายผ่านพระองค์ตามพระราชินีทูยาที่ทรงพระดำเนินนำพระนางเนเฟอร์ตารีและปิดท้ายด้วยเหล่านางกำนัล
***********************************************************************************************************
กลิ่นน้ำมันหอมจากห้องพระบรรทม ทำให้พระนางเนเฟอร์ตารีที่ถูกส่งตัวเข้ามาได้แต่ยืนนิ่งอยู่กลางห้อง สูดกลิ่นหอมติดตรึงพระนาสิก ซึ่งไม่เพียงจะช่วยทำให้ผ่อนคลาย หากว่ายังช่วยปลุกอารมณ์ปรารถนาทางกาย และนี่คือเหตุผลที่มีการจุดน้ำมันระเหยให้หอมทั่วทั้งห้องหอ
เสียงหับพระทวารทำให้พระวรกายโปร่งระหงหันตามเสียง ก่อนจะแย้มพระโอษฐ์เมื่อทอดพระเนตรพระวรกายแกร่งที่ทรงพระดำเนินเข้ามาหา พระหัตถ์แกร่งจับพระพาหาของพระนางเนเฟอร์ตารีให้ประทับนั่งเคียงกันบนแท่นพระบรรทม
กลิ่นหอมที่กำจายอยู่ทั่วห้องปลุกเร้าอารมณ์และความปรารถนาของทั้งสองให้มีความต้องการมิต่างกัน หากว่าความต้องการนั้นมิได้รุนแรงเร่าร้อน...แต่ค่อยเป็นค่อยไป พระโอษฐ์หนาได้รูปกดย้ำบนพระโอษฐ์รูปกระจับหวานของพระนางเนเฟอร์ตารี...ดั่งภมรหนุ่มกำลังชิมความหวานจากดอกไม้งาม
?เจ้าช่างหวานนัก?
พระพักตร์หวานของพระมเหสีแดงปลั่งด้วยความเขินอาย นี่คือจุมพิตแรกที่พระองค์ทรงได้รับจากพระสวามี จากบุรุษที่พระองค์ทรงรัก ทว่าไม่ทันได้เตรียมองค์เอง พระโอษฐ์หนาจุมพิตอีกครั้ง ครั้งนี้ดูดดื่มยิ่งกว่า ลึกซึ้งยิ่งกว่า และหวานล้ำยิ่งกว่าครั้งแรกนัก
จุมพิตหนักเรียกพระโลหิตของพระนางให้ไหลมารวมตัวอยู่บนพระปรางเนียนจนร้อนเห่อ พระหัตถ์แกร่งไล้ไปตามพระพักตร์เนียนสวย ลากพระโอษฐ์จุมพิตจากพระพักตร์งดงามสู่พระศอระหง ก่อนจะปลดฉลองพระองค์ตัวยาวให้หลุดพ้นจากพระวรกายงามระหง
?ฝ่าบาท...?
?ราเมเซส...เรียกข้าสิเนเฟอร์ตารี?
?ราเมเซส...?
พระโอษฐ์หนาแย้มพระสรวลอย่างเปรมปรีดิ์ พึงพระทัยกับพระสุรเสียงหวานของพระมเหสียามเรียกขานพระนามของพระองค์ พระโอษฐ์หนาจุมพิตพระอังสากลมกลึง พระฉวีหอมกรุ่นดั่งสายน้ำลึกของแม่น้ำไนล์ ยิ่งทำให้องค์ยุพราชมิสามารถถอนพระพักตร์จากพระฉวีของพระนางได้เลย พระหัตถ์บอบบางของพระนางช่วยพระองค์ปลดพระภูษา ฉลองพระองค์และพระสนับเพลาให้เหลือเพียงพระวรกายที่เผยกล้ามพระมังสาทุกสัดส่วน
พระพักตร์คมรูปไข่เรียวยาวขององค์รัชทายาทซุกซบกับพระอุระของพระนาง พระองคุลีสัมผัสยอดพระถันอย่างหยอกเอิน พระเนตรหวานล้ำปรือทอดพระเนตรพระพักตร์คมเข้มที่สนพระทัยเพียงพระถันและพระฉวีของพระนาง นั่นเป็นเหตุให้พระนางเนเฟอร์ตารีอุทธรณ์ขอ
พระโอษฐ์หนาทาบกับพระโอษฐ์ของพระนางเพื่อปิดคำร้องขอ ปล่อยให้พระหัตถ์ของพระองค์ลากไปตามพระฉวีนวลผ่อง สัมผัสพระวรกายงาม พระนางสะดุ้งเพียงนิดเมื่อดอกไม้งามถูกเก็บไว้เป็นความลับนั้นกำลังถูกเชยชม พระพักตร์หวานแดงก่ำด้วยพระโลหิตที่หล่อรวมกันบนพระพักตร์ของพระนาง
?เจ้างามมากเนเฟอร์ตารีของข้า? ตรัสก่อนจะลากพระโอษฐ์จุมพิตไปทั่วพระวรกายงาม
เพียงพระโอษฐ์แตะถูกกลางพระวรกาย พระนางได้แต่เอียงพระพักตร์ซุกกับพระเขนย พระดำริว่างเปล่าอย่างที่มิเคยทรงเป็นมาก่อน พระชิวหาร้อนผ่าวของเจ้าชายรัชทายาทหยอกล้ออย่างมิยอมให้พระนางได้พัก เพียงความฉ่ำชื้นมาเยือน องค์ยุพราชแย้มพระโอษฐ์อย่างพึงพอพระทัยที่สามารถปลุกเร้าให้พระนางพร้อมสำหรับพระวรกายแกร่งของพระองค์
พระนางเนเฟอร์ตารีร้องลั่นพลางกัดพระทนต์แน่น ความรู้สึกเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั่วพระสรรพางค์ องค์ยุพราชจุมพิตซับพระอัสสุชลที่รินหลั่งเพราะความเจ็บปวด พระหัตถ์ลูบไล้พระฉวีผ่อง สัมผัสยอดพระถันอย่างอ่อนโยน ดูดซับพระถันของพระนาง ปลุกความปรารถนาให้หลงลืมความเจ็บปวดเสียสิ้น ก่อนจะเริ่มบรรเลงเพลงรักนำพาพระนางให้ร่ายรำไปกับจังหวะและท่วงทำนองที่ทรงเสกสรรขึ้นเพื่อความรักของพระองค์
เมื่อท่วงทำนองแห่งความรักบรรเลงใกล้ถึงบทสุดท้าย พระสุรเสียงขององค์ยุพราชและพระมเหสีก็ดังสอดคล้องรับกับราวเป็นบทเพลงที่เทพีบาสต์เป็นผู้บรรเลง ก่อนที่ความสุขจะมาเยือนพระวรกายทั้งสองซึ่งเต็มไปด้วยพระเสโท
?ข้ารักเจ้า...เนเฟอร์ตารี? ตรัสพร้อมจุมพิตพระโอษฐ์บางของพระนางอันเป็นที่รัก
ความรักที่เจ้าชายราเมเซสทรงมีให้พระมเหสีนั้นมากมายเสียจนมิสามารถปล่อยให้พระนางห่างพระวรกายของพระองค์ได้แม้แต่ราตรีเดียว ไม่เพียงแต่ทรงพระดำริเท่านั้น...พระวรกายแกร่งแนบเคียงพระวรกายหอมกรุ่นดั่งสายน้ำของพระนางเนเฟอร์ตารีไว้อีกครา


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แม้ ?ฟาโรห์ราเมเซส? จะเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวแห่งอาณาจักรอียิปต์ ทว่ามหาราชผู้นี้กลับมีชะตารักที่น่าเศร้านักเพราะธรรมเนียมดั้งเดิมแห่งราชบัลลังก์ พระองค์ทรงมีอำนาจล้นฟ้าบารมีล้นแผ่นดินแต่มิสามารถทำให้พระนางอันเป็นที่รักเชื่อใจได้เลย เมื่อพระทัยและหน้าที่ของฟาโรห์ราเมเซสสวนทางกันแล้วโดยสิ้นเชิง ความรักของผู้มีชัยชนะเหนือผู้ใดคงต้องประจักษ์ได้ด้วยสัจจะมั่นคงต่อ ?พระนางเนเฟอร์ตารี? เท่านั้น จนกระทั่งพระนางหนึ่งเดียวในพระทัยหมดสิ้นลม...พระองค์ก็ยังถือสัตย์ในคำมั่นนั้นตราบจนชีวิตหาไม่เช่นกัน ระยะเวลาพ้นผ่านไปแล้วถึงสามพันปีหากแต่สัญญารักก็มิได้เสื่อมคลายหายไปกับสิ่งที่ล่วงเลย กลับยิ่งเพิ่มพูนสายใยแห่งความผูกพันให้คนทั้งสองได้กลับมาเจอกันอีกสักครา ณ ปัจจุบัน
ชะตาพัดพาให้ฟาโรห์มหาราชคือ ?รัญจน์? คุณหมอหนุ่มที่ไม่เคยสัมผัสคำว่ารักจากสาวใด ได้มาเจอกับนักโบราณคดีสาว ?ทิพานัน? ผู้ที่ฝันถึงอดีตอันเจ็บปวดเพราะเธอคือพระนางเนเฟอร์ตารี เมื่อเรื่องราวจากความฝันของรัญจน์และทิพานันถูกนำมาปะติดปะต่อกันแล้วนั้น ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้หญิงสาวต้องหาวิธีคลี่คลายปมปริศนาที่ถูกเก็บซ่อนของอดีตให้ได้ และแม้ความลับที่ถูกปกปิดมานานอาจจะมิได้ถูกเผยแพร่สู่สาธารณชนให้รับรู้ หากแต่ปมที่ค้างคาก็ถูกคลี่คลายจนกระจ่างใจผู้กลับชาติมาเกิดทั้งสองให้ได้รักกันอีกครั้ง...ตลอดไป


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”