รัฐบาฮาร์บู
ในความมืดมิดของราตรีกาล แสงดาวนับล้านดวงส่องสว่างระยิบระยับเหนือพื้นทรายกว้าง สายลมประจำถิ่นอย่างฮามัตตาร์พัดพลิ้วโลมเลียพื้นทรายให้เคลื่อนย้ายและเปลี่ยนรูปร่าง ก่อเกิดเส้นสายลายคลื่นลดหลั่นตามความสูงของภูเขาทราย ความหนาวเหน็บของอากาศยามค่ำคืนส่งให้หลายคนหลับใหลใต้ผ้าห่มผืนโต
หากแต่เหนือหมู่บ้านบาฮาร์รานซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงบาฮาร์บูออกมาไม่ไกลนัก กลับมีชายชุดดำสี่คนแฝงกายในเงามืดเพื่อรอเวลาทำภารกิจบางอย่าง ดวงตานิ่งลึกจ้องมองบ้านหลังเล็กที่ตั้งอยู่ใกล้โอเอซิส เมื่อแสงสว่างภายในบ้านดับลง ทุกคนก็ขยับตัวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจสำคัญ
นิลวดี อัลญา อลิฟชามาล ในชุดคลุมสีดำอาศัยความคุ้นเคยเดินไปนั่งริมเตียงนอนเล็กที่ตั้งอยู่ติดหน้าต่าง ดวงตาคมสวยเหม่อมองท้องฟ้าด้วยแววตาเศร้าหมอง
หลังจากการเสียชีวิตของนายพลดาจิม ผู้เป็นบิดา เธอและซานี พี่เลี้ยงวัยชราก็หนีออกมาอยู่ที่นี่ เพราะชาวเมืองไม่พอใจการกระทำของบิดาจึงพากันขับไล่เธอออกจากเมือง ตอนนี้หญิงสาวไม่เหลือใครอีกแล้วในโลกใบนี้นอกจากพี่เลี้ยงชราเพียงคนดียว
สมบัติของบิดาก็ถูกทางการยึดไปทั้งหมด มีเพียงบ้านหลังเล็กหลังนี้ที่พอจะให้ลูกกบฏอย่างเธอมีที่ซุกหัวนอน หยดน้ำเล็กๆ ไหลรินออกมาตามร่องแก้มเมื่อคิดถึงบิดา
สายลมพัดวูบไหวหอบเอาความเย็นเข้ามาปะทะกาย ทำให้คนสิ้นไร้ไม้ตอกอย่างเธอหนาวเหน็บไปถึงหัวใจ คงมีเพียงผ้าห่มเก่าๆ ผืนนี้ที่จะช่วยเธอคลายความหนาวเย็นทางกายได้ มือเรียวสวยยกขึ้นเช็ดน้ำใสๆ ออกจากแก้มก่อนจะลุกไปปิดหน้าต่าง แต่แล้วร่างบางก็ต้องผงะถอยกลับเข้ามาในห้องเมื่อผู้บุกรุกชุดดำสี่คนพังประตูเข้ามาในห้อง ใบหน้าสวยซีดเผือดตกใจแต่ก็พยายามตั้งสติหาทางเอาตัวรอด
?อย่าเข้ามานะ พวกแกเป็นใคร?
นิลวดีถอยหลังวนไปรอบห้อง ขณะที่ชายชุดดำปิดบังใบหน้าด้วยหมวกใบพรมสีเดียวกับชุดย่างสามขุมเข้าไปหาช้าๆ
?พวกเราไม่ต้องการทำร้ายท่านหญิง เราต้องการเพียงสมุดบันทึกของนายพลดาจิมเท่านั้น? หนึ่งในสี่บอกเสียงแข็ง
?สมุดอะไร...ฉันไม่รู้เรื่อง สมบัติทุกอย่างก็ถูกทางการยึดไปหมดแล้ว?
ริมฝีปากหนาที่โผล่ออกมายกขึ้นอย่างเย้ยหยัน แววตาแข็งกร้าวจนนิลวดีกลัวจับใจ
?พวกเราไปค้นที่บ้านหลังนั้นทุกซอกทุกมุมแล้วก็ไม่เจอ...จนต้องตามมาหาที่นี่?
?สมุดบันทึกของพ่อฉันไปเกี่ยวอะไรกับพวกแก?
เธอถามกลับไปบ้าง ชายร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงกลางมองไปรอบห้องนอนเล็กเพื่อหาสิ่งที่ต้องการ
?ค้นให้ทั่ว? ชายชุดดำสามคนต่างช่วยกันรื้อค้นทันทีที่ได้รับคำสั่ง
นิลวดียืนมองข้าวของที่กระจัดกระจายด้วยแววตาตื่นตระหนก ในใจภาวนาให้พี่เลี้ยงชรากลับมาจากกระโจมของหัวหน้าหมู่บ้านเร็วๆ ด้วยเถอะ และคำขอของนิลวดีก็บังเกิดผลเมื่อซานีถือไม้ขนาดเหมาะมือเข้ามาและตีลงบนร่างใหญ่ของคนที่ยืนสั่งการอยู่กลางห้องอย่างไม่ยั้งมือ
?นี่แน่ะคนชั่ว จะรังแกกันไปถึงไหน?
มือกร้านแดดจับไม้ที่ฟาดลงมาสะบัดเต็มแรง ทำให้ร่างซานีถลาไปกระแทกผนังดิน
?พี่ซานี? นิลวดีร้องเรียกอย่างตกใจ วิ่งเข้าไปประคองลุกขึ้น ?พี่ซานีเป็นยังไงบ้างคะ?
หญิงสาวร้องไห้อย่างสงสารพี่เลี้ยงชราที่ต้องมาลำบากกับเธอ มือยับย่นจับมือบางบีบแรงๆ
?ท่านหญิงไม่เป็นไรใช่ไหมเจ้าคะ?
เสียงแหบพร่าถามออกมาอย่างเป็นห่วง เมื่อทุกคนรื้อค้นจนหมดทุกซอกมุมแล้วก็มารวมตัวกันที่เดิม
?ไม่พบครับ? เมื่อลูกน้องรายงานเสร็จ คนร่างใหญ่พยักหน้าน้อยๆ แล้วหันไปมองเจ้าของบ้านที่กอดประคองพี่เลี้ยงไว้อย่างห่วงใย ความคิดใหม่ของมันก็แวบเข้ามา
?เอาตัวคนแก่มา?
ชายคนหนึ่งเข้าไปกระชากร่างพี่เลี้ยงซานีออกจากอ้อมแขนนิลวดี แม้จะพยายามกอดร่างพี่เลี้ยงไว้แน่นก็ไม่สามารถรั้งเอาไว้ได้
?ว้าย! อย่านะ อย่าทำอะไรพี่ซานีนะ?
?เราจะไม่ทำอะไรพี่เลี้ยงท่านหญิง ถ้ายอมให้สิ่งที่เราต้องการ? มันแสยะยิ้ม เดินไปบีบคางหญิงชราจนหน้าบิดเบี้ยว นิลวดีน้ำตาไหล สงสารพี่เลี้ยงจับใจ
?ฉันบอกแล้วไงว่าไม่มี และไม่รู้เรื่องสมุดบันทึกอะไรนั่น ถ้าพวกแกอยากได้ก็เข้าไปค้นในบ้านอีกรอบสิ?
ร่างใหญ่เหยียดยิ้มและใช้สันมือทุบลงบนไหล่ของซานีจนทรุดลงไปกองกับพื้น
?ว้าย! พี่ซานี?
นิลวดีร้องเรียก วิ่งเข้าไปประคองแต่ถูกจับไว้ หญิงสาวพยายามดิ้นเต็มแรงก็ไม่หลุด ได้แต่ยืนมองพี่เลี้ยงถูกพวกมันทำร้ายจนใบหน้าบวมเป่งอย่างน่าสงสาร
?โอ๊ย?
ซานีร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อถูกหมัดหนักๆ ต่อยเข้าที่ท้อง นิลวดีได้แต่ยืนร้องไห้อย่างเสียใจ ความเจ็บและสภาพของพี่เลี้ยงทำให้ร่างงามทรุดกายนั่งลงตรงหน้าพวกมัน
ซานีเห็นคนที่เลี้ยงมาซึ่งมีศักดิ์เป็นถึงท่านหญิงที่สืบเชื้อสายจากผู้ครองรัฐคนเก่านั่งคุกเข่าให้กับคนชั่ว นางถึงกับคลานเข้าไปหา
?อย่านะคะท่านหญิง อย่าทำแบบนั้น?
นิลวดีจับมือยับย่น น้ำตาไหลออกมาอย่างปวดร้าวกับชะตากรรมที่กำลังเผชิญ หรือจากนี้ชีวิตของเธอจะไม่มีแม้กระทั่งที่ยืนในบาฮาร์บูอีกแล้ว
พวกมันยืนมองท่านหญิงตกยากและพี่เลี้ยงชราอย่างสมเพช
?พี่ซานีเจ็บมากไหม...ฮือๆ?
?ซานีไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ท่านหญิงลุกขึ้นนะเจ้าคะ อย่ายอมก้มหัวให้พวกคนชั่วนะเจ้าคะ? ซานีบอกเสียงสั่น ใบหน้าบวมเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโต ลมหายใจขาดหายเป็นช่วงๆ จนนิลวดีใจไม่ดี กลัวว่าซานีจะทนความเจ็บปวดไม่ไหวแล้วจากเธอไปอีกคน
?ว่ายังไงท่านหญิง จะให้เราดีๆ หรืออยากให้พี่เลี้ยงแก่ๆ อย่างซานีตายไปต่อหน้า?
?อย่านะ ฉันยอมบอกแล้ว?
หญิงสาวรีบบอกทันทีเมื่อเห็นชายคนหนึ่งเข้ามากระชากร่างท้วมของซานีไป เมื่อได้คำตอบเป็นที่น่าพอใจพวกมันก็แสยะยิ้ม แววตาแพรวพราวเมื่อคิดถึงเงินที่จะลอยมาเข้ากระเป๋า ถ้านำสมุดบันทึกของนายพลดาจิมไปให้กับกลุ่มผู้ค้าอาวุธสงครามที่อยู่อีกฟากของทะเลทราย
หลายคนเชื่อกันว่านายพลดาจิมมีรายชื่อของกลุ่มผู้ค้าอาวุธพวกนี้อยู่สองสามกลุ่มในสมุดบันทึก เพราะนายพลชราได้จดรายชื่อลงในสมุดบันทึกทุกครั้งที่ทำการซื้อขาย จนพวกนั้นกลัวว่าหลักฐานพวกนี้จะถึงมือตำรวจสากล พวกมันจึงต้องตามหาให้พบ
?เอามาให้เราท่านหญิง?
?มันไม่ได้อยู่ที่นี่?
ร่างใหญ่ย่างสามขุมเข้าไปหาก่อนจะกระชากร่างเธอจนติดมือขึ้นมา แววตามองใบหน้าเนียนละเอียดอย่างกระหายจนเธอรู้สึกกลัว
?ถ้าตุกติกชีวิตจะไม่เหลือแน่ท่านหญิงคนสวย ฉะนั้นบอกมาดีๆ ว่ามันอยู่ที่ไหน?
?อยู่ในห้องสมุดที่บ้านหลังนั้น?
นิลวดีรีบบอกทันควันเมื่อมันโน้มใบหน้าลงมาชิด จนเธอต้องเบนตัวหนีอย่างรังเกียจ ชายลึกลับหัวเราะ มองหญิงสาวอย่างเสียดาย
?อย่าโกหกดีกว่าท่านหญิง เราไปหาจนทั่วแล้วแต่ไม่พบ ถ้าอย่างนั้นท่านหญิงต้องพาเราไปหามันแล้วล่ะ? มันจับแขนกลมกลึงและกระชากเข้าไปใกล้ แววตาดุดัน
ซานีพยายามจะเข้าไปหาท่านหญิงของนาง แต่ลำพังตัวนางก็ยืนแทบจะไม่อยู่...ได้แต่ยืนมองด้วยความสงสาร
?ได้...แต่พวกเจ้าต้องปล่อยตัวพี่ซานีก่อน แล้วเราจะพาไปเอาสมุดบันทึกเล่มนั้น? นิลวดีต่อรอง มองพี่เลี้ยงวัยชราด้วยความสงสาร
?อย่ายอมพวกมันนะเจ้าคะท่านหญิง อย่าก้มหัวให้ความชั่วนะเจ้าคะ...โอ๊ย?
นางบอกได้เท่านั้น ชายร่างใหญ่ที่จับตัวนางไว้ก็ฟาดฝ่ามือลงมาบนใบหน้ายับย่นจนร่างท้วมเซไปกระแทกผนังห้อง เลือดไหลออกมาจากปาก
?พี่ซานี อย่านะอย่าทำ ฉันจะพาไปเดี๋ยวนี้?
พวกมันยิ้มและฉุดกระชากลากถูนิลวดีออกจากบ้านไปขึ้นรถที่จอดอยู่ด้านนอก ซานีคลานเข้าไปจับขามันไว้ เท้าใหญ่ก็กระแทกเข้าที่หน้าท้อง นางจุกจนพูดไม่ออก
?พี่ซานีหนีไป ไม่ต้องห่วงฉัน หนีไปให้ไกลเลยนะ?
พวกมันมองหน้ากันก่อนจะหันไปมองซานีด้. แล้วมันหนึ่งในนั้นก็ดึงมีดพกออกจากเอว จวงแทงเข้ามาที่ท้องของซานีอย่างเลือดเย็น
?พี่ซานี ไม่!?
นิลวดีตะโกนร้องเรียกพี่เลี้ยงเสียงหลง มองร่างพี่เลี้ยงชราอย่างสงสาร ร่างระหงดิ้นเต็มแรงเพื่อจะให้หลุดจากพันธนาการเลวร้ายนั้น
ซานียกมือที่เปื้อนไปด้วยเลือดเอื้อมไปหาแต่สุดท้ายก็ตกลงอย่างหมดแรง พวกมันลากนิลวดีขึ้นรถและขับออกไปโดยไม่สนใจร่างของซานีที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้น
***************************************************************************************
ภายในวังหลวงของบาฮาร์บู
เอเมียร์ชาจีฟนั่งพักผ่อนอยู่ในห้องโถงใหญ่กับชีคคาธารธาราและพยัคฆ์ ซึ่งถูกใบสั่งจากมารดาให้มาเยี่ยมน้องสาวที่ตั้งครรภ์ได้สองเดือน และมีอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงเพราะอยากทานองุ่นหวานอร่อยจากไร่ในเมืองไทย แม้เอเมียร์ชาจีฟจะหาซื้อองุ่นพันธุ์ที่ดีที่สุดมาให้ก็ไม่ถูกใจ สุดท้ายก็เลยต้องเดือดร้อนไปถึงพี่เมีย อดีตผู้พันฝีมือดีของกองทัพไทยอย่างพยัคฆ์ ต้องนั่งเครื่องข้ามน้ำข้ามทะเลเอาองุ่นจากไร่มาให้น้องสาว
?อร่อยไหมน้ำตาล? พยัคฆ์ถามน้องสาว ตามองมือเรียวขาวสะอาดที่หยิบผลองุ่นเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ชาจีฟก็คอยหยิบส่งให้
?น้ำตาลจ๋า พอก่อนดีไหม ลูกต้องดื่มนมแล้วก็ทานอาหารอย่างอื่นบ้างนะครับ?
ชาจีฟบอกอย่างเป็นห่วงทั้งลูกและแม่ของลูก มือหยิบผ้าเช็ดริมฝีปากให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน ธารธาราวางมือบนหน้าท้องที่เริ่มนูนขึ้นแล้วเงยหน้าขึ้นมองสามีและพี่ชาย
?แต่น้ำตาลยังไม่อิ่มนี่คะ? เธอทำแก้มป่อง เอเมียร์ชาจีฟโอบประคองชีคคาแนบอกและลูบลำแขนกลมกลึงอย่างอ่อนโยน
ขณะที่ในห้องโถงใหญ่เต็มไปด้วยความอบอุ่น แต่ทว่าหน้าประตูทางเข้าวังหลวงกลับมีร่างโชกเลือดของซานีเดินโซซัดโซเซเข้าไปหาทหารเวรที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู ทหารแม้จะไม่รู้จักนางแต่ก็เข้าไปช่วยประคอง
?ท่านป้า ท่านป้า ใครทำร้ายท่านครับ?
ทหารถามพลางประคองซานีเข้าไปนั่งข้างกำแพง ริมฝีปากขาวซีดพยายามจะขยับขอความช่วยเหลือ
ขณะนั้นรถคาดิลแลคแบบทหารกำลังวิ่งผ่านประตูเข้าไปในเขตวัง ฟาร์มานนั่งอยู่ในรถมองออกมา แม้ใบหน้าของซานีจะถูกทำร้ายจนบวมช้ำ แต่ฟาร์มานก็จำแม่นมของท่านหญิงนิลวดีได้
?จอดรถ?
ทหารพลขับทำตามคำสั่งทันที ร่างสูงสง่าในชุดพรางทหารเปิดประตูก้าวลงจากรถตรงไปที่ร่างซานีอย่างร้อนใจ ทหารสองคนลุกขึ้นยืดตัวทำความเคารพผู้บังคับบัญชา แต่ฟาร์มานไม่สนใจ เข้าไปประคองซานีทันที
?ซานีเกิดอะไรขึ้น แล้วท่านหญิงนิลวดีล่ะครับ?
ซานียิ้มน้อยๆ ใบหน้าซีดเผือดมีรอยยิ้มบางๆ ปรากฏอยู่บนใบหน้าอย่างดีใจ
?ช่วย...ท่านหญิงนิล...ด้วย ช่วยท่านหญิงนิลด้วยท่าน...อง...คะ...รักษ์?
ลมหายใจของซานีขาดหายเป็นช่วงๆ ก่อนจะสูดลมเข้ายาวๆ เพื่อขอยืดเวลาของลมหายใจตัวเองให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฝ่ามือแดงไปด้วยเลือดจับท่อนแขนแข็งแรงไว้แน่น ดวงตายับย่นพร่าเบลอ เสียงฝีเท้าของคนกลุ่มใหญ่วิ่งมาทำให้ซานีและฟาร์มานหันไปมอง
เอเมียร์ชาจีฟ ชีคคาธารธารา และพยัคฆ์มองพี่เลี้ยงของญาติผู้น้องอย่างตกใจ
?เกิดอะไรขึ้นซานี?
ร่างสูงของชาจีฟนั่งบนส้นเท้าใกล้ร่างโชกเลือดของซานี พยัคฆ์เข้าไปประคองน้องสาวที่ซวนเซและใบหน้าซีดขาวเมื่อได้กลิ่นคาวเลือด
?ช่วยท่านหญิงนิลด้วย พวกมันพาท่านหญิงไปหาสมุดบันทึกของท่านนายพล...ที่บ้าน?
พอสิ้นเสียงมือที่จับอยู่บนต้นแขนของฟาร์มานก็ตกลงข้างตัว ดวงตายับย่นของพี่เลี้ยงวัยชราหลับลงช้าๆ
?ฟาร์มาน ไปที่คฤหาสน์ของนายพลดาจิม ช่วยนิลวดีเร็ว?
ทหารเวรเข้าไปรับร่างไร้วิญญาณของซานี ฟาร์มานและทหารอีกหกคนที่เพิ่งเข้ามาจึงรีบขึ้นรถตามคำสั่งนายเหนือหัวอย่างไม่รีรอ
?ผมขอไปด้วยได้ไหม?
เอเมียร์ชาจีฟพยักหน้า เข้าไปประคองภรรยา พยัคฆ์วิ่งไปนั่งเบาะหลังข้างฟาร์มาน ทั้งสองยิ้มให้กันเพราะคุ้นเคยกันดี เอเมียร์ชาจีฟและชีคคายืนมองท้ายรถจนกระทั่งวิ่งพ้นประตูวังไป ชาจีฟจึงพาชีคคาเข้าไปพักผ่อน
***********************************************************************************************
รถยนต์วิ่งฝ่าความมืดของราตรีกาลพานิลวดีมาที่คฤหาสน์หลังใหญ่ที่เธอเคยอาศัยมาตั้งแต่เล็กจนโต แต่มาวันนี้ทรัพย์สินทุกอย่างของบิดาตกเป็นทรัพย์สินของชาติทั้งหมด ยกเว้นคฤหาสน์หลังนี้ที่ยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ทางรัฐจึงได้จัดเวรยามเฝ้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
รถจอดนิ่งข้างกำแพงที่กั้นระหว่างตัวคฤหาสน์กับโลกภายนอก ดวงตาคมโตมองทหารสองคนยืนเฝ้าหน้าประตูใหญ่
?เอาไงดีวะดาร์เลาะ ทหารเฝ้าเต็มเลย? พวกมันสี่คนปรึกษากัน ตามองไปข้างหน้า
?มีทางอื่นอีกไหมท่านหญิง...?
ชายร่างใหญ่ชื่อดาร์เลาะหันไปถามนิลวดีที่นั่งอยู่เบาะหลังจนเธอสะดุ้ง มองพวกมันในความมืด
?ไม่มี?
?ไม่น่าเชื่อว่านายพลดาจิมจะไม่มีทางลับหนีศัตรู บอกมา...ทางลับอยู่ที่ไหน?
มือกร้านแดดยกขึ้นไปจับคางมนบีบแรงๆ จนเธอน้ำตาไหลด้วยความเจ็บ
?ไม่มีจริงๆ เพราะท่านพ่อไม่เคยบอกไว้?
ชายร่างใหญ่อีกคนผลักร่างบางกระแทกกับเบาะรถอย่างไม่ปรานี มือบางพยายามแกะมือที่บีบปลายคางออก
?ถ้าอย่างนั้นเราคงต้องเป็นครอบครัวเดียวกันเสียก่อนใช่ไหม ท่านหญิงถึงจะยอมบอกทางลับเข้าไปในตัวคฤหาสน์?
นิลวดีถึงกับผงะ หน้าซีดเผือดอย่างตกใจ พวกมันสี่คนหัวเราะเสียงต่ำในลำคอ หญิงสาวเย็นยะเยือกไปทั่วสันหลัง มือกร้านดำยื่นไปลูบไล้ลำแขนและยุ่มย่ามอยู่กับเนื้อตัวของเธอ สายตาที่มองเธอหื่นกระหาย นิลวดีดิ้นหนี ปัดมือที่รุกรานร่างกายเธอ น้ำตาไหลออกมาเป็นทางยาว สุดท้ายเธอก็ต้องยอมให้กับความเลวร้ายที่จ้องทำร้ายด้วยหัวใจอาดูร
?บอกแล้ว ฉันบอกแล้ว...ทางเข้าอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ข้างกำแพงด้านหลัง?
พวกมันยิ้มกริ่มอย่างสมหวังและรู้สึกเสียดายเนื้อนุ่มๆ แต่ได้สมุดบันทึกมาแล้วค่อยจัดการก็ยังไม่สาย ถ้าจะให้เลือกความสุขชั่วครั้งชั่วคราวกับเงินก้อนโต...พวกมันขอเลือกอย่างหลังมากกว่า
?ไปพวกเรา?
พวกมันเปิดประตูรถและกระชากร่างบางให้เดินนำไป ดวงตาคมโตมองนายทหารสองนายที่ยืนตัวตรงอยู่หน้าประตู หญิงสาวสวดภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้าให้พวกเขาหันมาด้วยเถอะ แต่ความหวังก็หมดลงเมื่อพวกมันใช้มีดจี้แผ่นหลังบางและบังคับให้เธอเดินไป
นิลวดีพาพวกมันไปหยุดข้างต้นไม้ใหญ่ริมกำแพง คนร่างใหญ่ก็เดินไปแหวกพงหญ้าเพื่อมองหาทางเข้า ไม่นานดวงตาแข็งกร้าวก็วับวาว รีบเดินไปขยับแผ่นคอนกรีตหนาที่ปิดทางเข้าเอาไว้
?เจอแล้วดาร์เลาะ?
?แกนำทางไปเลย เร็ว...เราเสียเวลามากแล้ว?
ชายร่างใหญ่หยิบไฟฉายออกจากกระเป๋าแล้วหย่อนตัวลงไปก่อน ตามด้วยนิลวดีและพวกมันอีกสามคน อากาศภายในอุโมงค์ดินค่อนข้างอับชื้นจนหญิงสาวแทบหายใจไม่ออก พวกมันดุนหลังเธอให้เดินเรื่อยๆ จนกระทั่งทะลุเข้ามาในห้องสมุดใหญ่ ไฟฉายเล็กในมือของพวกมันส่องกราดไปรอบห้องเพื่อสำรวจหาอันตรายที่อาจแฝงอยู่
?สมุดบันทึกอยู่ที่ไหนท่านหญิง?
นิลวดีมองชั้นวางหนังสือที่ตั้งอยู่หลังโต๊ะทำงานของบิดาอย่างกังวล
?อย่ายืดเวลาท่านหญิง ไม่มีประโยชน์...?
?มืดขนาดนี้ใครจะมองเห็น...? เธอพยายามถ่วงเวลา คนถือไฟฉายเดินเข้าไปกระชากแขนเธอลอยมาชิด ริมฝีปากหนาดำคล้ำกระตุกที่มุมปาก
?มาใกล้ๆ ข้าดีกว่าท่านหญิง ข้าจะส่องนำทางให้เอง? มันหัวเราะเบาๆ ในลำคอ แววตามองเธออย่างหื่นกระหาย แต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะถูกหิ้วไปที่ชั้นวางหนังสือ แสงไฟจากประตูใหญ่ก็สว่างวาบขึ้นพร้อมกับเสียงรถสองคันที่วิ่งเข้ามา
พวกมันรีบวิ่งหาที่กำบังเพราะแสงไฟอาจทำให้เห็นความผิดปกติได้ ดาร์เลาะใช้ปลายนิ้วแหวกชายผ้าม่านออกเพื่อมองคนมาใหม่ ขณะนั้นฟาร์มานก็หันมามองคฤหาสน์พอดี ดาร์เลาะจึงรีบเบี่ยงตัวไปหลบแนบกับผนังห้อง
?หัวหน้าองครักษ์ฟาร์มาน?
พอได้ยินชื่อคนคุ้นเคย นิลวดีแอบยิ้มในเงามืด ใจชื้นขึ้นมาและพยายามตั้งสติหาวิธีบอกฟาร์มานว่าเธออยู่ที่นี่เช่นกัน เร็วเท่าความคิด นิลวดีอาศัยที่พวกมันหวาดหวั่นสะบัดตัวเต็มแรงจนคนที่จับเธอล้มลง ร่างบางก็รีบวิ่งไปเปิดไฟในห้องจนสว่างวาบขึ้น ดาร์เลาะถลาไปกระชากแขนเธอและกดร่างบางให้นอนราบกับพื้น พวกมันคนหนึ่งรีบปิดไฟทันที
แสงไฟที่สว่างวาบขึ้นและดับลงในเวลาไล่เลี่ยกันทำให้อดีตผู้พันหนุ่มมือหนึ่งแห่งกองทัพไทยและหัวหน้าองครักษ์หันมาสบตากัน ฟาร์มานถามทหารเวรที่ยืนอยู่ใกล้เป็นภาษาพื้นเมือง พอได้คำตอบสีหน้าของหัวหน้าองครักษ์ก็เครียดขึ้น ดวงตาคมมองขึ้นไปบนชั้นสองแล้วเดินนำเข้าไป มือก็ส่งปืนขนาดจุดสามห้าแปดให้พยัคฆ์และยิ้มให้กัน
?คุณคงได้ใช้มัน?
ฟาร์มานบอกก่อนจะหยิบปืนคู่ใจออกมาจากเอว และก้าวยาวๆ ขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของคฤหาสน์ เสียงฝีเท้าของคนกลุ่มใหญ่ทำให้คนที่หลบอยู่ในห้องหวาดหวั่น ใบหน้าชุ่มไปด้วยเหงื่อ พวกมันมองหน้ากันและยิงไปที่ประตูอย่างไม่ยั้งมือ
ปังๆๆๆๆ ...
พยัคฆ์และฟาร์มานกระโดดหลบก่อนจะยิงผ่านประตูเข้าไป แสงไฟจากปลายกระบอกปืนระยิบระยับช่างน่ากลัว นิลวดีถูกดาร์เลาะลากไปหลบหลังโต๊ะทำงาน เสียงปืนเงียบไปชั่วครู่เพื่อประเมินสถานการณ์ของกันและกัน
?ใครอยู่ข้างใน มอบตัวซะ ยังไงก็หนีไม่รอดหรอก?
ฟาร์มานตะโกนบอกและออกคำสั่งด้วยภาษามือ ทหารติดตามพยักหน้ารับรู้ หยิบระเบิดลูกเล็กที่ใช้ระเบิดสิ่งกีดขวางออกมาแล้วขว้างเข้าใส่ประตู
บึ้ม!
แรงระเบิดทำให้บานประตูกระเด็นออก จากนั้นเสียงปืนก็ตามมาติดๆ อีกหลายนัด นิลวดีอาศัยจังหวะที่มันยิงโต้ตอบเพื่อเอาตัวรอดนั้นเอื้อมมือไปหยิบกรอบรูปครอบครัวของเธอที่ตั้งอยู่บนโต๊ะไปกอดไว้
พยัคฆ์มองหาตัวประกันที่ถูกพามา พอเห็นมือเรียวขาวโผล่ขึ้นมา เขาก็หันไปสบตาฟาร์มาน องครักษ์หนุ่มจึงยิงเปิดทางเพื่อให้ร่างสูงเคลื่อนกายเข้าไปในห้อง ไฟในห้องสว่างพึ่บขึ้นทันที
พวกมันระดมยิงเข้าใส่แต่ก็ช้ากว่าปืนในมือของพยัคฆ์ที่ยิงสวนกลับไปถูกศีรษะพวกมันคนหนึ่งเลือดพุ่งกระจายตายอยู่ตรงนั้น ส่วนอีกคนก็ถูกปืนของฟาร์มานตายไปอีกหนึ่ง
ดาร์เลาะเห็นสถานการณ์ตกเป็นรองจึงเข้าไปล็อกตัวเธอไว้
?องครักษ์ฟาร์มาน ถ้าเจ้าไม่ปล่อยพวกข้าไป ท่านหญิงนิลวดีก็ต้องตายพร้อมกับข้าด้วย?
ฟาร์มานยกมือห้าม เสียงปืนก็สงบลง ดาร์เลาะเหยียดยิ้มมองหน้าเพื่อนร่วมขบวนการอีกคนและออกจากที่ซ่อนไปประจันหน้ากับฟาร์มานอย่างเป็นต่อ ปลายกระบอกปืนทุกกระบอกเล็งไปที่คนร้าย
?วางปืนฟาร์มาน และเปิดทางให้ข้า?
?อย่านะฟาร์มาน อย่าก้มหัวให้คนชั่ว ยิงมาเลยไม่ต้องห่วงฉัน?
นิลวดีบอกพลางสบตาฟาร์มานอย่างจริงจัง พยัคฆ์หลบอยู่หลังนาฬิกาเรือนใหญ่ยืนสังเกตการณ์เพื่อรอจังหวะ พวกมันไม่รู้ว่าเขาหลบอยู่ที่นี่จึงไม่ทันระวังด้านข้าง เลยกลายเป็นเป้านิ่งให้ชายหนุ่ม
พยัคฆ์เล็งปืนไปที่ดาร์เลาะอย่างใจเย็น ดวงตาคมรีนิ่งลึกและสมาธิดีเยี่ยมก่อนจะลั่นไก กระสุนเจาะขมับซ้ายทะลุถึงขมับขวาแม่นยำราวจับวาง ดาร์เลาะยืนนิ่ง ริมฝีปากสั่นระริก พยายามจะหันไปมองคนยิงแต่ลมหายใจก็ขาดเสียก่อน คนร้ายที่เหลือตกตะลึงอย่างคาดไม่ถึงว่าจะมีมือที่สาม พอได้สติก็ตวัดปืนไปหาแต่ก็ช้ากว่าฟาร์มานที่ยิงเข้าใส่สามนัดซ้อน ล้มลงไปนอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นอย่างอนาถ
ร่างบางยืนตัวแข็งทื่อ ช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนสติดับวูบ ทรุดกายลงกับพื้น ไม่รับรู้ความเคลื่อนไหวภายในห้องโดยปริยาย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สายลมทะเลทรายยามค่ำคืนพัดวูบไหวพาความหนาวเย็นมาสู่คนสิ้นไร้ไม้ตอกเช่นเธอ ?นิลวดี อัลญา อลิฟชามาล? คิดถึงบิดาแล้วน้ำตาไหลพรากในชะตาเลวร้าย โจรทมิฬออกตามล่าตัวหญิงสาวเพื่อที่จะเอาสมุดบันทึกจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน ก่อนที่จะฟื้นจากสลบและลืมตาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองอยู่ที่ประเทศไทย อดีตทหารหนุ่มช่วยเหลือเธอไว้และตอนนี้เขาโน้มตัวลงมาราวกับจะแนบทั้งตัวให้ติดกัน การกระทำเช่นนี้ส่งผลให้ประกาศิตต่อมาคือที่เธอต้องอยู่ที่บ้านหลังนี้ในฐานะคู่หมั้นคู่หมาย ทั้งๆ ที่นิลวดีและนายพยัคฆ์ร้ายจอมฉวยโอกาสนี่ไม่ได้รักกันแม้แต่จะหน้าเขาเธอยังไม่อยากมอง จำเลยเช่นเธอต้องจำนนด้วยความจำยอมเมื่อมาตกอยู่ในอุ้งมือเสือร้ายอย่างเขา แม้ชายหนุ่มจะปล้นจูบเอาบ้างจู่โจมรวบรัดเอาร่างบางมากกกอดไว้บ้างก็ตาม แต่ ?พยัคฆ์? ก็ปกป้องนิลวดีด้วยชีวิตเพราะหัวใจกระตุกวาบทุกครั้งที่ได้ดึงเธอมาอยู่ในอ้อมแขน เขาพาเธอฝ่าฟันหลบหลีกคมกระสุนจากศัตรูที่ตามอาฆาตได้ทุกครั้ง ทว่าทั้งสองกลับไม่อาจต้านทานแม้แต่เศษเสี้ยวแรงปรารถนาที่มีต่อกันได้เลย สายลมที่ไร่ปลายฟ้าเหน็บหนาวไม่ต่างจากดินแดนสีทองที่หญิงสาวจากมา หากแต่ที่แห่งนี้มีความรักจากสามีที่ไม่ได้ตั้งใจจะมีโอบอุ้มไออุ่นให้ระอุซ่านไปทั้งกายทั้งใจ
