?ผู้ครองตำแหน่งมิสเวิลด์โฟโต้จินิกได้แก่...มิสไทยแลนด์...นางสาวมณีจันทร์ สุขชัยศรี?
เสียงผู้ประกาศประกาศผลการประกวดดังกึกก้องเวทีประกวด เสียงผู้ชมในฮอลล์แห่งนั้นปรบมือดังกึกก้อง มันยังก้องอยู่ในหูของมณีจันทร์อยู่จนบัดนี้
มณีจันทร์ไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองจะติดหนึ่งในสิบของการประกวดระดับโลกแบบนี้ หญิงสาวไม่อยากเชื่อตั้งแต่ตัวเองได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนสาวชาวไทยให้มาประกวดนางงามเวทีระดับโลกที่ประเทศแถบตะวันออกกลางเป็นเจ้าภาพแล้ว
มณีจันทร์เป็นแค่เด็กบ้านนอก...มาจากชนบทแท้ ต้องหาบน้ำ เก็บผัก ตกปลากินตามประสาคนจน เธอไม่ได้มาจากเมืองนอกอย่างผู้เข้าประกวดคนอื่นๆ ที่รูปร่างหน้าตาบอกความเป็นผู้ดีให้เห็นเด่นชัด หากแต่มณีจันทร์เพิ่งมาจากบ้านนอก จับพลัดจับผลูเข้ามาประกวดกับเขาอย่างเหลือเชื่อ ทั้งหมดทั้งมวลต้องขอบคุณพี่ต่อ ช่างแต่งหน้าที่ใจดีให้มณีจันทร์ใปช่วยงาน จนมีพี่เลี้ยงนางงามค่ายดังมาเห็นมณีจันทร์เข้า และปิ๊งมณีจันทร์แต่แรกพบ ดึงมณีจันทร์เข้าประกวดนางงามเวทีระดับประเทศ
แม่ติ๊กชุบตัวมณีจันทร์ภายในเวลาเพียงสองอาทิตย์...
มณีจันทร์ไม่มั่นใจเลยแม้แต่น้อย เพราะเพื่อนๆ ที่เข้าประกวดล้วนเป็นคนสวยด้วยกันทั้งนั้น บางคนเคยผ่านเวทีประกวดมาแล้วทั่วประเทศ ขณะที่มณีจันทร์เพิ่งมาจากบ้านนอก ใส่ส้นสูงยังแทบเดินไม่เป็นเลย
มณีจันทร์กลัวตัวเองจะหกล้มอายขายขี้หน้าบนเวที หากแต่ได้กำลังใจจากแม่ติ๊กว่ามณีจันทร์ก็มีสองมือสองเท้าเหมือนกับคนอื่นเขาจะกลัวอะไร...คนอื่นทำได้มณีจันทร์ก็ต้องทำได้ ขอแค่มณีจันทร์เชื่อมั่นและศรัทธาตัวเอง
ขนาดที่เมืองไทยเธอได้เข้ารอบสิบคนสุดท้ายแบบนี้ เธอก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าจะได้ผ่านเข้ารอบสามคนสุดท้าย เพราะคนที่เข้ามาในรอบนี้ล้วนแต่เป็นตัวเก็งทั้งสิ้น
มณีจันทร์ไม่ชอบการประกวด
เธอไม่ชอบโชว์เนื้อโชว์หนังอวดมังสาให้สายตาหื่นกระหายของพวกที่เอากล้องส่องทางไกลจ้องมอง
มณีจันทร์รู้สึกขุ่นเคืองทุกครั้งเมื่อคิดว่าคนพวกนั้นไม่ได้จับจ้องแต่เพียงใบหน้าของเธอ แต่จับจ้องส่วนโค้งส่วนเว้าของมณีจันทร์มากกว่า
มันเหมือนการใช้สายตาข่มขืนกันกลางเวทีชัดๆ เธอไม่อยากคิดเลยว่าพวกหื่นกามในคราบผู้ดีพวกนั้นคงมองจ้องหน้าอกหน้าใจ หรือไม่ก็จ้องเล็งไปยังจุดล่อแหลมที่สุดของผู้หญิงชนิดตาไม่กะพริบ
มณีจันทร์อยากเดินไปกระชากกล้องส่องทางไกลนั่นออกแล้วต่อยตาหื่นกามพวกนั้นให้ลูกตาทะลักออกมาจากเบ้า
แม่ติ๊กขำทุกครั้งที่มณีจันทร์แสดงความโกรธออกมา ก็มันจริงๆ นี่นา ขนาดว่าเธอตื่นเต้นกับการประกวดบนเวที เธอยังมองเห็นพวกเสี่ยร่ำรวยมีเงินซื้อโต๊ะแถวหน้ามาดูการประกวดราคาเป็นแสนเป็นล้านกำลังส่องกล้องมองผู้เข้าประกวดจนแทบน้ำลายหยด
บ้าชะมัดเลย...ตกลงเขาจะมาประกวดความงามกัน หรือจะมาให้ไอ้พวกเสี่ยพวกนี้ข่มขืนพวกเธอทางสายตากันแน่
นี่หรืองานอดิเรกของพวกผู้ดีเขาทำกัน จัดการประกวด ขอสปอนเซอร์ ขายโต๊ะเข้าชมเพื่อหากำไรจากเพศแม่ แต่ผู้เข้าประกวดสาวบางคนก็เหลือเกิน กระดี๊กระด๊ามองเสี่ยหนุ่มๆ หล่อๆ ตาเป็นมัน พากันซุบซิบราวกับจะมาขายเนื้อหนังมังสาที่แม่ให้มาอย่างนั้น
มณีจันทร์ลอบถอนใจเมื่อนึกถึงวงจรอุบาทว์ที่มีแทรกซึมอยู่ในทุกวงการ ทุกคนล้วนเห็นผู้หญิงเป็นของเล่นที่ตีค่าตีราคาเป็นเงินด้วยกันทั้งนั้น มณีจันทร์ยังอดกลัวไม่ได้ว่าถ้าตัวเองไม่ได้รับตำแหน่งนางงามแห่งปี มณีจันทร์อาจได้รับข้อเสนออย่างเพื่อนร่วมประกวดบางคนแล้วก็ได้ จนถึงวันนี้มณีจันทร์ยังแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองจะได้รับคัดเลือกเป็นนางงามประเทศไทยประจำปีนี้
มณีจันทร์มีความสูงถึงร้อยเจ็ดสิบสามเซนติเมตร ซึ่งนับว่าสูงมากสำหรับผู้หญิงไทยทั่วไป อาจเป็นเพราะพ่อแม่ของมณีจันทร์มีโครงสร้างร่างกายที่ผอมสูงอยู่แล้วเลยถ่ายถอดมาถึงมณีจันทร์
เธอมีใบหน้าเนียนนวล ผิวสีแทนละเอียด ผิดกับผู้เข้าประกวดรายอื่นที่แต่ละคนผิวขาวอมชมพู บางคนขาวเนียนราวกับเอาแป้งมาทาไว้ ป้าติ๊กบอกว่าสมัยนี้มียากินยาฉีดแล้วทำให้ขาว ทว่าไม่ได้ขาวธรรมชาติแบบมณีจันทร์เลยมองดูแปลกตา...ขาวเหมือนแป้งมากกว่า แทนที่จะเป็นขาวเหลืองแบบที่สาวไทยควรจะเป็น
มณีจันทร์เห็นด้วย...เพราะพวกเพื่อนๆ นางงามด้วยกันมีสีผิวขาวแปลกๆ บางคนขาวจนน่ากลัว เรียกว่าถ้าไม่แต่งหน้านี่คิดว่าผีจีนเลยทีเดียว มณีจันทร์ไม่ได้ตั้งใจจะว่าใคร แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ
เธอไม่อยากมีผิวขาวแบบนั้น มณีจันทร์ภูมิใจแล้วที่ตัวเองมีผิวสีน้ำผึ้งแบบนี้ มณีจันทร์อาบน้ำคลอง กินน้ำคลอง จะให้ขาวเป็นแป้งแบบนั้นคงเป็นไปไม่ได้
มณีจันทร์สวยแบบสาวไทยแท้
ใบหน้าเรียวรูปไข่รับกับจมูกโด่งรั้นไร้การแต่งเสริมด้วยศัลยกรรมพลาสติกอย่างเพื่อนนางงามทุกคน ที่แทบจะเรียกได้เลยว่าร้อยทั้งร้อยผ่านการศัลยกรรมมาด้วยกันทั้งสิ้น บางคนไปฉีดโบท็อกซ์ ฉีดคอลาเจน ร้อยไหม โอ๊ย...สารพัดจะเสริมความงามกัน จนบางคนหน้าตาเหมือนตุ๊กตายางมากกว่าจะเป็นคนจริงๆ
มณีจันทร์เคยอ่านหนังสือมาว่าคนเสพศัลยกรรมจะเสพแล้วติดเหมือนยาเสพติด ทำแล้วก็อยากทำอีกเรื่อยๆ ไม่รู้จักพอ สุดท้ายก็หน้าเยิน แทนที่จะสวยกลับกลายเป็นแม่มดไปอย่างน่าเสียดาย มณีจันทร์ไม่เอาด้วยหรอก
มณีจันทร์กลัวเข็ม กลัวเจ็บด้วย บอกตรงๆ ว่าไม่ทนหรอก ขอสวยแบบธรรมชาติให้มาอย่างนี้ดีกว่า
แม่ติ๊กบอกว่ามณีจันทร์น่าจะเสริมจมูกให้โด่งกว่านี้ ฉีดโบท็อกซ์ให้แก้มตอบอีกหน่อย รับรองได้ตำแหน่งนางงามโลกแน่
มณีจันทร์ไม่ยอมใครบอกว่าตัวเองกลัวเข็ม มณีจันทร์ขอแค่อาบน้ำแร่แช่น้ำนมขัดผิวก็พอแล้ว...แม่ติ๊กขัดใจอย่างเห็นได้ชัด แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้
?ไม่อยากเป็นหรือไงนางงามระดับโลกน่ะ?
มณีจันทร์ยิ้มซนๆ ให้
?อยากค่ะ แต่จันทร์ไม่อยากเจ็บตัวนี่คะ แค่เห็นก็จะเป็นลมแล้ว จันทร์กลัว ไม่กล้าหรอก? มณีจันทร์ปฏิเสธ
?ดื้อจริงๆ เรานี่ ถ้าไม่ทำจมูกก็ไปฉีดโบท็อกซ์หน่อยแล้วกันนะ?
มณีจันทร์ทำตาเหลือก
?ไม่เอาค่ะ? เธอเอามือกุมแก้มตัวเองเอาไว้ ส่ายหน้าปฏิเสธดิก ?จันทร์ไม่ฉีด จันทร์กลัวเข็ม?
หญิงสาวเผยออกมาโดยไม่รู้ตัวเพราะตกใจ
?โธ่ เข็มเล็กนิดเดียว?
?ไม่เอา จันทร์ไม่ฉีด?
สุดท้ายมณีจันทร์ก็เดินทางมาประกวดยังประเทศเล็กๆ แถบตะวันออกกลางที่ได้รับอนุญาตให้ใช้สถานที่ในประกวดเพราะมีทิวทัศน์สวยงามและกำลังโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เพิ่งค้นพบ
จริงๆ แล้วจุดประสงค์หลักของการประกวดนางงามนี้ไม่ได้เอาสาวงามมาประกวดประชันความงามกันเพียงอย่างเดียว หากแต่ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศที่เป็นเจ้าภาพในแต่ละปีด้วย ซึ่งจะได้รับการหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพในแต่ละทวีปของโลก
ประเทศทางแถบตะวันออกกลางที่มีความเข้มงวดด้านศาสนาและประเพณีจึงมีน้อยมากที่จะส่งนางงามของตนเองเข้าร่วมประกวดประชันขาอ่อนแบบนี้ หากแต่ปีนี้ถือเป็นกรณีพิเศษ แต่ด้วยประการใดนั้นมิอาจทราบได้
สรุปก็คือ...ปีนี้สาวงามทั้งหมดต้องเดินทางมาเก็บตัวที่ประเทศเล็กๆ แถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้
มณีจันทร์คิดว่าเป็นผลดีกับสาวเคร่งวัฒนธรรมอันดีอย่างมณีจันทร์ เพราะเครื่องแต่งกายต่างๆ ดูจะโป๊น้อยกว่าทุกปี ปิดเนื้อหนังมังสามากขึ้น มณีจันทร์ว่าสวยไปอีกแบบ สาวงามทุกคนได้โชว์ความสวยงามที่แท้จริงของตัวเองมากกว่าจะโชว์เนื้อขาวๆ อาจเป็นเพราะแบบนี้ที่ทำให้มณีจันทร์มีความมั่นใจมากขึ้น
หญิงสาวแย้มยิ้มออกมาอย่างเต็มที่ ยิ้มอย่างเปิดเผย แสดงความเป็นมิตร ใครๆ พูดว่ามณีจันทร์ยิ้มสวย...สวยมาก
เวลามณีจันทร์ยิ้มทีหัวใจคนมองเหมือนจะละลายเป็นน้ำ จนมณีจันทร์นึกขำ ไม่คิดว่าตัวเองจะมีอิทธิพลถึงขนาดนั้น มณีจันทร์ไม่ได้ปลาบปลื้มไปกับความสวยของตัวเอง เธออยากเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาที่มีชีวิตเรียบง่าย มณีจันทร์อยากเรียนสูงๆ มากกว่าจะมาเป็นนางงามแบบนี้ แต่ในเมื่อมณีจันทร์เลือกเกิดไม่ได้ เธอก็ต้องเลือกทางเดินทางที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง มณีจันทร์อยากให้พ่อแม่สบาย ไม่ต้องทำนาให้ลำบากอีกแล้ว
เงินที่ได้จากการประกวดที่เมืองไทยมณีจันทร์ให้พ่อกับแม่หมด ไม่ได้เก็บเอาไว้สำหรับตัวเองเลย
หญิงสาวบอกพ่อกับแม่ว่าเธอไม่ได้ใช้อะไร อยู่ที่กองประกวดเขามีให้ทุกอย่าง อย่างดีก็มีเงินติดตัวนิดหน่อยพอให้อุ่นใจเท่านั้น
มณีจันทร์รู้สึกเหมือนฝันไปที่ตัวเองได้รับตำแหน่งขวัญใจช่างภาพในการประกวดเวทีระดับโลกแบบนี้ มีช่างภาพมากมายถ่ายภาพมณีจันทร์จนแสงแฟลชแสบตาไปหมด
หลังการประกวดมณีจันทร์ถูกพาไปที่โน่นที่นี่ ถ่ายภาพลงหนังสือมากมาย ขณะที่เพื่อนนางงามที่ตกรอบพากันเก็บของกลับประเทศกันไปหมดแล้ว เหลือนางงามที่ได้รับตำแหน่งเพียงสี่คนเท่านั้นที่ต้องอยู่ปฏิบัติภารกิจต่ออีกสองอาทิตย์
มณีจันทร์ถอนใจ เหนื่อยใจที่ต้องอยู่ที่นี่ต่ออีกสองอาทิตย์ เธอกับเพื่อนๆ แทบไม่ได้พักเลย กลางวันต้องถ่ายปกนิตยสารฉบับโน้นฉบับนี้ รับเชิญไปออกรายการ ถูกสัมภาษณ์ด้วยภาษาที่ไม่เคยคุ้น เธอต้องอยู่เพียงลำพัง ไม่มีพี่เลี้ยงที่มาจากเมืองไทยอีกแล้ว ทุกอย่างอยู่ในความดูแลของกองประกวดหมด
แรกๆ มณีจันทร์ก็ตื่นเต้น รู้สึกเหมือนฝัน จู่ๆ ฝันที่ไม่น่าเป็นไปได้ก็เป็นจริง หากแต่เวลาผ่านไปวันที่สองวันที่สาม...มณีจันทร์เริ่มคิดถึงบ้าน เธออยากกลับบ้าน ไม่อยากได้ตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้แล้ว
มณีจันทร์เบื่อสายตาทุกคู่ที่มองมาอย่างสำรวจตรวจตาเสียจนเธอแทบจะเดินขาขวิด โดยเฉพาะสายตาผู้ชายบางคนที่มองอย่างชื่นชมเปิดเผย แก้มนวลแดงเป็นสีชมพูเรื่อเมื่อคิดว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่
มณีจันทร์พยายามเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ บอกตัวเองว่าอีกไม่นานก็เสร็จแล้ว ทำยังไงได้ล่ะ เธออยากมาเป็นอาหารตาให้คนพวกนี้เอง...จะโทษใครได้ เธออยากได้เงินรางวัลก็ต้องอดทนรับเงื่อนไขการประกวดให้ได้
โชคดีที่มณีจันทร์พอรู้ภาษาอังกฤษบ้าง มณีจันทร์อาศัยใส่หูฟังและหัดพูดตามเพื่อเรียนรู้ภาษาสากลจึงสามารถสื่อสารกับเพื่อนนางงามจากต่างประเทศได้ มณีจันทร์ไม่หยุดที่จะเรียนรู้
หญิงสาวคิดว่าถ้ากลับไปเมืองไทยหลังหมดจากเงื่อนไขการประกวดหนึ่งปีแล้ว...มณีจันทร์จะเรียนต่อ เงินรางวัลที่ได้รับมากพอที่จะทำให้มณีจันทร์และครอบครัวอยู่ได้อย่างสบาย มณีจันทร์จะเอาเงินก้อนนั้นไปลงทุนซื้อนาให้เพื่อนบ้านเช่า พ่อแม่จะได้เก็บค่าเช่ามากินมาใช้ ครอบครัวของเธอไม่ได้ใช้จ่ายฟุ้งเฟ้อคงสามารถอยู่ได้สบายๆ
มณีจันทร์คิดฝันไว้หลายอย่าง แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่มณีจันทร์ไม่คิดฝันมาก่อน นั่นก็คือการถูกเรียกตัวให้ไปพบบุคคลสำคัญระดับผู้นำประเทศ!
มณีจันทร์เอานิ้วชี้ที่หน้าตัวเองอย่างมึนงง
?ฉันหรือคะ??
?ครับ...มิสสุขชัยศรี?
มณีจันทร์หันรีหันขวางมองหาเจ้าหน้าที่ของกองประกวดที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับเธอ โจนาธานหายไปไหน
ปกติโจนาธานเป็นเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลมณีจันทร์ ซึ่งเพื่อนนางงามอีกสามคนก็มีเจ้าหน้าที่ดูแลแบบตัวต่อตัว แต่ตอนนี้โจนาธานหายไปไหนแล้วก็ไม่ทราบ ปล่อยมณีจันทร์เอาไว้ในห้องแต่งตัวเพียงคนเดียว
จู่ๆ ก็มีบุรุษในชุดอาหรับเดินตรงเข้ามาถามหาเธอ สร้างความงงงวยให้มณีจันทร์เป็นอย่างยิ่ง
?เอ่อ...ฉัน...ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรหรือคะ?? เธอถามอย่างประหลาดใจ
บุรุษอาหรับคลี่ยิ้มน้อยๆ
?นายท่านของผมขอเชิญตัวคุณไปพบครับ?
?ท่าน!?
?ครับ? บุรุษอาหรับผู้นั้นค้อมศีรษะลงเล็กน้อยเป็นเชิงให้เกียรติ หากแต่หญิงสาวยังคงมองเขาอย่างงุนงง สีหน้าฉายแววกังวลเห็นชัด
?เอ่อ...ฉัน...ฉันคิดว่าต้องมีอะไรเข้าใจผิดกันแล้วล่ะคะ เอ่อ...ฉัน...คือ...ฉันคิดว่าคุณควรพบกับโจนาธานจะเหมาะกว่า? มณีจันทร์บ่ายเบี่ยง
ชายอาหรับผู้นั้นอมยิ้มเล็กน้อย
?ถ้าคุณหมายถึงเจ้าหน้าที่ที่ชื่อโจนาธาน สก็อตล่ะก็ เจ้านายผมได้โทร.มาติดต่อเขาไว้เรียบร้อยแล้ว ขอเชิญคุณไปกับผมครับ?
มณีจันทร์งงเป็นไก่ตาแตก หรือว่าภาษาอังกฤษของเธอไม่แข็งแรงพอที่จะสื่อสารกับชายอาหรับผู้นี้รู้เรื่อง!
มณีจันทร์เบิกตากว้างอย่างตกใจ พยายามหาทางแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า เธอทราบโดยสัญชาตญาณว่าจะต้องหนีไปจากชายอาหรับผู้นี้ให้ไกลที่สุด และรีบไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กองประกวดที่ไม่ทราบว่าหายไปไหนกันหมด
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ชีคมหาเศรษฐีออกตามล่าหาตัวนางงามสาวไทยแทบพลิกเม็ดทราย ?มณีจันทร์? เอาชีวิตหนีรอดครั้งนี้มาได้เพราะชายหนุ่มที่เธอเข้าใจผิด หากแต่เวลานี้ทั้งเธอและ ?อซีช? ต้องมาหลบซ่อนอิทธิพลเถื่อนในห้องทึบน่าอึดอัด เล่นเอาเจ้าหล่อนไม่เชื่อว่าเขาคือตำรวจสากลแถมยังปากดีต่อว่าเขาจนอซีชต้องปราบพยศ ซึ่งในนี้ทั้งมืดและแคบขยับตัวไปทางไหนก็เห็นแต่มีเนื้อโนมที่เบียดเสียดสีกัน
ดังนั้นวิธีการทำโทษที่ดีที่สุดคือการฉวยฉกริมฝีปากนุ่มและดุนดันปลายลิ้นร้อนเข้าไปกำราบ มณีจันทร์แทบขาดใจกับการจู่โจมของตำรวจหนุ่มที่ตอนนี้ร่างบางถูกคร่อมไว้ให้หนีไปไม่ได้ นี่โชคชะตาคงเล่นตลกกับหล่อนแน่แท้ราวกับหนีเสือมาปะจระเข้ ตอนนี้มณีจันทร์หนีชีคแก่บ้ากามเพื่อมาเจอผู้ชายในเครื่องแบบยอดนักรักใช่ไหม?
?ผมก็แค่เตือนความจำคุณ ถ้าผมเลว ผมจะช่วยคุณทำไม?
?แต่คุณก็ฉวยโอกาสจูบฉัน? เธอพูดอย่างโมโหไม่หาย
อซีชเปล่งเสียงหัวเราะในลำคอ
?คุณอยากยั่วผมก่อนทำไมล่ะครับ?
