New Release ร้อยรัก : บ่วงแค้นซาตานทมิฬ

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release ร้อยรัก : บ่วงแค้นซาตานทมิฬ

โพสต์ โดย Gals »

1
จุดเริ่มต้นของการสะสางแค้น
ที่ไร่ไกรสูรย์สิริ จังหวัดสระบุรี
ท้องฟ้ามืดครึ้มที่ตั้งเค้าของพายุฝนห่าใหญ่ หากแต่มันไม่ได้สร้างแรงกดดันใดๆ สำหรับบุคคลที่ยืนล้อมนักโทษชาย ซึ่งถูกจับมัดมือไพล่หลังนั่งคุกเข่ากลางพื้นที่ว่างเปล่าเหมาะแก่การขุดหลุมฝังใครสักคนลงไป บรรยากาศช่างเป็นใจเหมือนกับว่าจะช่วยชะล้างกลิ่นคาวเลือดของคนทรยศให้ไหลซึมลงไปใต้ปฐพี
อาคเนย์ ไกรสูรย์สิริ เจ้าของอาณาจักรไร่ไกรสูรย์สิริ หนุ่มหล่อนัยน์ตาดุสีนิลเนื้อดี ใบหน้าที่ดุ.่แฝงความมีเสน่ห์เอาไว้อย่างลงตัว หากแต่หัวใจแกร่งดวงนั้นของเขากลับมีรอยด่างดำมากมายจนนับไม่ถ้วน บางจุดเป็นรอยแผลลึกซึ่งยากจะเยียวยาให้หาย ต่อให้มียาวิเศษปานใดก็ลบล้างรอยแค้นที่ฝังอยู่ในใจไม่ได้
?เอาปืนมา? เสียงมัจจุราชที่ยืนสง่าเอ่ยขึ้น กระแสเสียงนั้นดุดันพานให้ขนลุกเกรียวด้วยความกลัวเกรง พร้อมกับมือหนาตวัดไปคว้าวัตถุสีดำวาววับจากลูกน้องที่ส่งมาให้ เขายกสิ่งนั้นขึ้นมามองด้วยแววตากระหายเลือด คนตรงหน้าคือเหยื่อที่จะถูกซาตานประกาศความเป็นเจ้าชีวิต
?เนย์...ฉันขอโทษ นายให้อภัยฉันเถอะนะ? เสียงสั่นที่วอนขอพร้อมกับมือที่ยกขึ้นมาไหว้ประหลกๆ ทำให้ซาตานหนุ่มแสยะยิ้มที่มุมปาก เขามองคนที่นั่งคุกเข่าเบื้องหน้าด้วยสายตาสมเพช นี่หรืออินทร ศิลาศิลป์ คนที่อวดอ้างตัวเองว่ายิ่งใหญ่ บอกว่าใครก็ไม่อาจทำอะไรได้ หากทว่าตอนนี้กลับหนีเจ้าหนี้บ่อนพนันหลายเจ้าหัวซุกหัวซุน จนต้องมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่มันเคยทรยศ ชายผู้นี้เคยพรากความรักเขาไป แล้วก็ทำร้ายผู้หญิงที่เขารักจนตรอมใจตาย
?แกกล้าเอาทรัพย์สินของฉันไปขาย ทั้งที่เซ็นสัญญาแล้วว่าทุกอย่างในไร่ศิลาศิลป์มีฉันเท่านั้นเป็นเจ้าของ อย่าลืมสิว่าโฉนดที่ดินถูกโอนมาเป็นชื่อฉันแล้ว?
?แต่ที่แปลงนั้นมันไม่ได้อยู่ในโฉนดนะ? นักโทษที่ไม่อาจรู้ล่วงหน้าถึงชะตากรรมของตัวเองเอ่ยท้วงขึ้น และนั่นทำให้ดวงตาคมสีดำล้ำลึกตวัดมองคนหาญกล้าด้วยความไม่พอใจ มือหนากำปืนไว้แน่นจนเส้นเลือดปูดนูนก่อนจะใช้ปลายกระบอกฟาดไปที่ใบหน้าของอินทรเต็มแรง
?อย่ามาเถียง ได้ชื่อว่าของศิลาศิลป์นั่นคือของฉัน แกเซ็นสัญญาเองจำไม่ได้หรือไง ตอนนั้นอยากได้เงินจนตัวสั่นก็ตกปากรับคำ พอมาตอนนี้คิดจะกลับกลอกงั้นเหรอ สงสัยว่าที่ตรงนี้น่าจะเหมาะให้แกนอนสงบที่นี่?
?ไม่นะเนย์ ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว? วอนขอแทบจะกราบกราน ใบหน้าคมสันเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสดจากการลงทัณฑ์ของมัจจุราชเมื่อครู่ ลนลานเข้ามาเกาะขาแกร่งของเพื่อนรัก ซึ่งอาจจะต้องเรียกว่าเคยเป็นเพื่อนเสียมากกว่า เพราะบัดนี้คนตรงหน้าตัดขาดความเป็นเพื่อนตั้งแต่ที่ผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตลง
?อย่ามาเรียกชื่อเล่นฉัน แกไม่มีสิทธิ์ตั้งแต่ที่กลายเป็นลูกหนี้ฉันแล้ว แล้วคำว่าเพื่อนของเราก็จบลงไปตั้งแต่ที่แกพรากชีวิตเธอไป ช่างเถอะ ตอนนี้ฉันไม่อยากพูดเรื่องเก่า เอาเรื่องสดๆ ใหม่ๆ นี้ก่อน จำได้ใช่มั้ยว่าโฉนดที่ดินของศิลาศิลป์เป็นชื่อฉัน งั้นก็เชิญพวกแกไสหัวออกไปจากที่ดินผืนนั้นซะ?
?ไม่นะ ฉันยังไม่มีที่ไป ขอเวลาหน่อยจะได้ไหม น้องสาวฉันเพิ่งเรียนจบ ขอให้เธอหางานทำได้ก่อน? อินทรหมดหนทางจึงอ้างน้องสาวขึ้นมาเพราะเห็นว่าอาคเนย์น่าจะเห็นใจอยู่บ้าง
?อะไรกัน จะเกาะชายกระโปรงน้องงั้นเหรอ แกเป็นพี่ภาษาอะไร ฉันสงสารน้องสาวแกจริงๆ ที่มีพี่ชายเลวอย่างนี้?
อาคเนย์สุดจะทนกับอดีตเพื่อนที่เลวทรามไม่มีที่สิ้นสุด เขาเคยเจอน้องสาวของอินทรเมื่อประมาณสี่ปีที่แล้ว จากนั้นก็ไม่เคยเจออีกเลย พอมาได้ยินอินทรพูดถึงก็นึกอยากจะเห็นหน้าขึ้นมา แต่มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา เพราะยังไงเจ้าหล่อนก็ถือว่าเป็นสายเลือดชั่วเช่นเดียวกับพี่ชาย รวมไปถึงครอบครัวศิลาศิลป์ซึ่งเคยโกงเอาที่ดินส่วนหนึ่งของไร่ไกรสูรย์สิริไป ตอนนั้นเขายังเด็ก...ไม่สามารถไปยุ่งเกี่ยวอะไรด้วยได้ บิดาของเขากับบิดาของอินทรเป็นเพื่อนรักกัน และก็ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจจึงเซ็นสัญญาบางอย่างร่วมกัน โดยที่ไม่เคยรู้เลยว่ามันคือการโอนกรรมสิทธิ์เพราะความรู้น้อยด้อยการศึกษา
เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบิดาจึงตัดสินใจส่งเขาเรียนให้สูงที่สุดเท่าที่สมองเขาจะรับได้ ในขณะเดียวกันท่านก็มุมานะสร้างอาณาจักรขึ้นมาจนใหญ่โตไม่น้อยหน้าใคร ฐานะทางการเงินเทียบชั้นกับคนที่เคยมีมากกว่า กระทั่งในที่สุดก็กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของจังหวัดไปทันที รวมถึงอิทธิพลก็มีมากตามมาด้วย
แม้แต่นายใหญ่อินทัตแห่งไร่ศิลาศิลป์ก็ยังต้องยำเกรง แต่ก็ยังไม่คิดจะยอมคืนที่ดินซึ่งเคยโกงไปให้ จนวันหนึ่งที่ทั้งสองมาตกลงกันแล้วไม่ลงตัว ทำให้นายใหญ่กิตติโกรธมากจนโรคหัวใจกำเริบแล้วสิ้นใจในที่สุด อาคเนย์จึงแค้นพวกศิลาศิลป์เข้ากระดูกดำ ดังนั้นหลังจากที่จบการศึกษาระดับปริญญาโท เขาก็กลับมาบริหารงานของบิดาที่ทิ้งไว้ให้ จากนั้นก็ทุ่มเททุกอย่างและกว้านซื้อที่โดยรอบจนบัดนี้อาณาจักรไกรสูรย์สิริครอบคลุมไปทั้งจังหวัด แต่ที่ที่เขาต้องการก็คือไร่ศิลาศิลป์ แล้วในที่สุดเขาก็ได้มาสมใจ
?ฉะ...ฉันขอร้อง ให้โอกาสฉันอีกสักครั้ง ขอให้หนูอินหางานทำได้ก่อน ขอให้เราหาที่อยู่ได้แล้วเราจะไปจากศิลาศิลป์? อินทรละล่ำละลักพูดออกมาด้วยกลัวว่าตัวเองจะหมดสิทธิ์ได้เอ่ยทุกอย่าง
?เสียใจ? เสียงอำมหิตเอ่ยอยู่เหนือศีรษะคนที่กอดเข่าอ้อนวอนอย่างน่าสมเพช อาคเนย์มองภาพนั้นแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน เขาสะบัดขาออกจากมือทั้งสองข้างของอินทรด้วยความรังเกียจ จนคนถูกกระทำหงายหลังล้มคว่ำไปกับพื้นดิน
?ขุดหลุม!? เอ่ยสั่งลูกน้องที่ตั้งท่าเตรียมพร้อม ทว่าคำสั่งนั้นกลับทำให้นักโทษประหารผวาเฮือกด้วยความเกรงกลัว อินทรหันมองชายฉกรรจ์สองคนที่จับจอบแล้วกระแทกลงไปในเนื้อดินที่แข็งแกร่งทว่าก็ไม่อาจต้านทานพละกำลังที่ส่งผ่านเครื่องมือนั้นไปได้ ใบหน้าซีดเผือดผวาเข้าไปหมายจะวอนขอชีวิต แต่อาคเนย์กลับถอยห่างแล้วให้ลูกน้องกันท่าไว้ เขาไม่ต้องการให้ร่างกายส่วนไหนแปดเปื้อนพวกที่คิดโกงกินของคนอื่น
?เอ้า ขุดเร็วเข้า ฝนมามืดแล้ว วันนี้ฉันต้องได้ฝังคน? คนเป็นนายบอกเสียงห้วนแล้วยืนกอดอกมองภาพที่สะท้อนความสะใจให้เขายิ่งนัก คนอย่างอาคเนย์ถ้าคิดจะทำแล้วไม่เคยมีอะไรมาเปลี่ยนแปลงความคิดได้ ต่อให้สิ่งที่กำลังกระทำมันเป็นเรื่องร้ายแรงและบาปมหันต์ก็ตาม
เวลาผ่านไปไม่นานจนทำให้เขาต้องยืนเมื่อย หลุมขนาดพอดีที่คู่ควรจะให้คนลงไปนอนก็สำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง ชายหนุ่มก้าวอาดๆ ไปยังปากหลุม กะด้วยสายตาจากความลึกก็น่าจะสักสามเมตร กว้างสักเมตรกว่าเห็นจะได้ ซาตานหนุ่มแสยะยิ้มเลือดเย็น ใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรแหงนมองท้องฟ้าที่สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมา
?บางทีลูกกระสุนราคาแพงนี้ไม่สมควรจะฝังลงไปในเนื้อชั่วๆ ของแก จับมันมัดให้แน่นหนากว่านี้แล้วโยนลงไปในหลุม?
อินทรถึงกับหน้าซีดเผือด พอลูกน้องของอาคเนย์ย่างสามขุมเข้ามาหาก็มองซ้ายมองขวาเลิ่กลั่ก เขาไม่มีทางยอมถูกมัด ไม่ยอมที่จะลงไปนอนในหลุมแล้วให้ดินกลบหน้าทั้งที่ยังมีลมหายใจ สู้ยอมตายเอาดาบหน้าเสียดีกว่า สองขายันขึ้นกับพื้นทั้งที่มือถูกมัดจึงค่อนข้างทุลักทุเล เขาวิ่งหนีไม่คิดชีวิตก่อนที่มือของลูกน้องอาคเนย์จะถึงตัว แม้ทางรอดจะยากมากเพราะถูกล้อมไว้ แต่คนที่ไม่คิดจะทิ้งชีวิตด้วยการถูกฝังก็ไม่หวั่น
?เฮ้ย! จับมันไว้?
ปัง!
?เอื๊อก...โอ๊ย?
คิดว่าจะไม่ใช้กระสุนกับคนชั่วที่เนื้อหนังไม่คุ้มกับราคา แต่ในเมื่อเลี่ยงไม่ได้อาคเนย์จึงส่งของกำนัลก่อนตายให้อินทรอย่างเลือดเย็น ร่างของคนทรยศล้มฟุบลงไปบนกอหญ้า หมดสิ้นสภาพความยิ่งใหญ่ที่เคยประกาศใครต่อใครมากมาย ไม่หรอก! อินทรยังไม่ตายเพราะอาคเนย์ตั้งใจยิงเข้าที่ขาเพื่อไม่ให้ศัตรูมีกำลังวิ่งต่อไปได้ เสียงครวญครางราวกับจะขาดใจตายด้วยเพียงแผลเล็กน้อย ทำให้เจ้าชีวิตโคลงศีรษะด้วยความสมเพชเวทนา
ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปใกล้คนที่นอนเจ็บตรงหน้าราวกับเห็นเป็นกองขยะ ดวงตาสีดำสนิทลุกโชนด้วยไฟแค้น เขาไม่คิดจะยิงอินทรให้ตายเพราะมันยังไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดอย่างทรมานเหมือนที่บิดาเขาได้รับ วันที่พ่อถูกโกงที่ดินพ่อเสียใจเป็นที่สุด ท่านเจ็บและแค้น แต่ท่านไม่เคยบอกให้รู้เพราะตอนนั้นเด็กหนุ่มอย่างเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้ ก่อนตายบิดาฝากฝังนักหนาว่าถ้ามีโอกาสต้องเอาของเรากลับมาให้ได้ และเขามีโอกาสแล้ว ทุกสิ่งที่ปรารถนารวมถึงการทรมานลูกคนทรยศมากองตรงหน้าแล้ว ยิ่งได้เห็นเลือดชั่วที่ไหลออกมาเปื้อนเนื้อผ้าก็ยิ่งสะใจ
?จับมันไปลงหลุม? เสียงสั่งเยือกเย็นส่งผลให้ลูกน้องสองคนเดินเข้ามากระชากร่างอินทรให้ลุกขึ้น แม้จะร้องขอชีวิตเท่าไหร่ก็ไร้ผล ต่อให้เจ็บจนไม่มีแรงเดินก็ยังถูกลากไปถึงปากหลุมอย่างไม่ปรานี
?โยนมันลงไป ฉันไม่อยากจะแตะต้องมันให้เสียมือ? อาคเนย์จ้องอดีตคนที่เคยเป็นเพื่อนด้วยสายตาที่ดุดันและน่ากลัว มันเปล่งแสงเรืองรองของความดำมืดอำมหิตออกมา
?ไม่นะ...ไม่!? อินทรแผดเสียงขึ้นเมื่อชีวิตกำลังจะดับสูญ คนใกล้ตายกลัวลนลาน ทว่าไม่อาจหยุดยั้งความน่ากลัวของอาคเนย์ได้
ตุ๊บ!
ร่างของอินทรร่วงลงสู่ก้นหลุมที่ขุดไว้เพื่อใช้เป็นที่ฝังคนชั่ว พร้อมกับที่ก้อนดินปากหลุมถูกเขี่ยลงตามไปเพื่อคร่าชีวิตให้ดิ้นดับ อินทรหมดสิ้นหนทางตะเกียกตะกายขึ้นมาจากหลุม แต่ก็ไม่อาจจะทำได้อย่างตั้งใจเพราะมือที่ถูกมัด ทั้งดินที่กระเด็นเข้าตา ปาก และจมูก สุดท้ายก็ทรุดลงไปกองที่ก้นหลุมตามเดิม รอคอยโชคชะตาที่ฟ้าจะประทานมาให้ น้ำตาของคนกลัวตายพรั่งพรูออกมาไม่หยุด โวยวายร้องวอนขอเท่าที่จะทำได้
สายฝนเริ่มหนาเม็ดขึ้นแล้วสาดเทลงมาห่าใหญ่ ร่างสูงที่ยืนเหยียดยิ้มมองคนที่กำลังจะตายด้วยความสะใจ ต่อให้ฝนจะตกหนักแค่ไหน เขาก็จะยืนอยู่ตรงนี้ ยืนดูปากหลุมที่ปิดสนิท จากนั้นจะเดินไปเหยียบบนปากหลุมให้สาแก่ใจตัวเอง
ขณะเดียวกันที่หน้าไร่ คนงานของอาคเนย์ก็กำลังช่วยกันห้ามสาวสวยคนหนึ่งที่ขับรถมาจอดแล้ววิ่งน้ำตานองหน้าเข้ามา ปากอิ่มตะโกนก้องหาเจ้าของไร่สลับกับชื่อของอินทร ศิลาศิลป์ หญิงสาวอ้างว่าเป็นบุตรสาวคนเล็กของไร่ที่อยู่ถัดไป ไร่ที่ต่อไปมันจะถูกผนวกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของไกรสูรย์สิริ
?ขอร้อง...ให้ฉันเข้าไปเถอะนะ ฉันจะไปขอร้องเจ้านายของพวกคุณให้ปล่อยตัวพี่ชายฉัน? สาวน้อยพร่ำขอทั้งน้ำตา ซ้ำเม็ดฝนก็ซัดสาดมาไม่หยุด ทำให้หยาดน้ำที่ไหลรดบนใบหน้างามมากมายจนไม่รู้ว่าไหนน้ำตาแล้วไหนเม็ดฝน
?พวกเราให้คุณเข้าไปไม่ได้ครับ ไม่มีคำสั่งอนุญาตจากคุณเนย์ พวกผมขัดไม่ได้? คนงานคนหนึ่งเอ่ยบอก ใบหน้าเคร่งขรึมแสดงความเสียใจและเห็นใจออกมาอย่างสุดซึ้ง
?ไม่มีทาง ฉันต้องเข้าไป? สาวน้อยไม่ยอมท่าเดียว ก่อนที่ฮึดสู้ขึ้นมาเมื่อไม่อาจทิ้งระยะเวลาให้มันยาวนานไปกว่านี้ เธอห่วงพี่ชาย กลัวคนใจร้ายจะตั้งตนเป็นมัจจุราชพรากผลาญชีวิตของอินทร เท้าเล็กถอยห่างคนพวกนั้นแล้วหมุนตัวกลับไปที่รถ ก่อนจะกระชากประตูเปิดแล้วดึงเอาปืนพกที่เก็บไว้ในลิ้นชักด้านหน้าออกมา
?ถ้าพวกคุณไม่ให้เข้าไป ฉันจะยิง? สาวน้อยบอกขึ้น แต่แทนที่เธอจะหันกระบอกปืนไปที่เหล่าคนงาน ทว่ากลับวกมาจ่อที่ขมับของตัวเอง ดวงตากลมโตไร้ซึ้งแววของความหวาดหวั่น มันแน่วแน่เสียจนน่ากลัว
?คะ...คุณ ใจเย็นๆ? ชายวัยกลางคนเอ่ยห้าม มือหยาบกร้านยกขึ้นกลางอากาศ ใบหน้าสีคร้ามแดดลมเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ เขาไม่คิดว่าหญิงสาวตัวเล็กๆ จะกล้าบ้าบิ่นขนาดนี้ ท่าทางของเธอดูเอาจริงเอาจัง แววตาเด็ดเดี่ยวน่ากลัวใจเสียเหลือเกิน ทว่าคำสั่งของเจ้านายใครเล่าจะกล้าขัด และคนใจกล้าก็รู้ดีจากสถานการณ์ที่เห็น หากแต่เธอต้องเสี่ยงมากกว่านี้
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดพร้อมกับทุกคนต่างหมอบลงด้วยความตื่นตกใจ เสียงกรีดร้องของคนงานหญิงและสาวใช้ในบ้านที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นก็ดังระงมขึ้นไม่ต่างกัน และจากเสียงกึกก้องที่แทรกผ่านการเทกระหน่ำของเม็ดฝนทำให้คนที่กำลังจะพรากชีวิตศัตรูเอี้ยวหน้ามองไปตามทิศทางของต้นกำเนิดเสียงด้วยความแปลกใจ ชั่วพริบตา ชายฉกรรจ์คนหนึ่งก็วิ่งออกไปดูอย่างรู้หน้าที่พร้อมกับเสียงสั่งตามหลังของผู้เป็นนายว่าพาตัวมือยิงเข้ามา
?ใครที่ไหนมันจะช่วยแกได้? อาคเนย์เปรยขึ้นเสี. ขณะมองลงไปในหลุมที่มีนักโทษของเขาดิ้นรนขอชีวิตอยู่เบื้องล่าง ซาตานหนุ่มแสยะยิ้มสะใจแล้วหันไปพยักหน้ากับคนของตนให้จัดการโกยดินลงไปกลบเสียทีหลังจากเสียเวลากับเสียงปืนเมื่อครู่มาหลายนาทีแล้ว
ทว่า!
?ไม่นะ! พี่อินทร? เสียงที่ร้องดังขึ้นทางด้านหลังเป็นเสียงผู้หญิงที่เต็มไปด้วยกระแสของความเจ็บปวดและตื่นกลัว ทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียวรวมถึงมัจจุราชที่รอคอยวิญญาณอยู่ใกล้ๆ กับปากหลุม ด้านหลังนั้นคือลูกน้องที่วิ่งออกไปเมื่อครู่ ในมือหนามีปืนสั้นสำหรับพกพาติดมาด้วย หากแต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เรียกความสนใจของซาตานหนุ่มได้มากเท่าหญิงสาวร่างเล็กที่วิ่งฝ่าสายฝนซึ่งเทกระหน่ำเข้ามาใกล้และใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งมานั่งคุกเข่าร้องไห้ปานจะขาดใจอยู่ที่ปากหลุม ซึ่งมีอินทรนอนหายใจหอบสะท้านด้วยความกลัวอยู่
?พี่อินทร...พี่อินทรได้ยินอินไหม ลืมตาขึ้นสิ อย่าเป็นอะไรไปนะ? น้ำเสียงของคนที่คุ้นหูทำให้เปลือกตาที่ปิดลงเพื่อรอรับความตายเปิดขึ้นโดยฉับพลัน แม้น้ำฝนจะสาดเทเข้าไปทำให้ดวงตาพร่ามัว แต่ใบหน้านวลใสที่เขารักยิ่งกว่าสิ่งใดก็ยังชัดเจน กระแสเสียงของคนเป็นน้องเขาจำได้ไม่มีวันลืม
?อิน...อินกลับมาแล้วเหรอ พี่ดีใจนะที่พี่ได้เห็นอินเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย?
?ไม่นะ พี่อินทรตายไม่ได้นะ? อินทุวง ศิลาศิลป์ น้องสาวคนเดียวของอินทรร้องไห้ปานจะขาดใจตายตามพี่ชาย ร่างเล็กพยายามยื่นมือลงไปไขว่คว้า ขาเรียวค่อยๆ ขยับจะลงไปหาพี่ชาย แต่ทว่าคนที่จ้องจะเอาชีวิตไม่มีทางให้เธอได้ทำตามใจปรารถนา มือหนากระชากร่างบางขึ้นมาปะทะกับอกกว้างอย่างแรง
?ว้าย!? อินทุวงดิ้นรนพลางทุบตี ร้องไห้ท่ามกลางสายฝนจนไม่รู้ว่าไหนน้ำตาไหนน้ำฝนจากฟากฟ้า
?อยู่เฉยๆ ถ้าไม่อยากตาย? เสียงห้วนตวาดลั่น
?ปล่อยนะคนชั่ว อินจะตายกับพี่อินทร? หญิงสาวไม่ยอมท่าเดียว ดิ้นพยศไม่ต่างจากม้าที่ดื้อด้าน อาคเนย์จึงตวัดรัดร่างบางไว้แน่น เพราะเขาไม่อยากให้ผู้หญิงคนใหม่เป็นเป้าสายตาของใคร
?ผู้หญิงคนใหม่เหรอ? ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในสมองซาตานหนุ่มได้อย่างไร
เธอเป็นลูกสาวของศัตรู เป็นน้องรักที่พี่ชายชั่วๆ หวงแหนนัก นั่นสิ เจ้าหล่อนเป็นดั่งแก้วตาดวงใจ มันจะสะใจกว่าไหมถ้าคนที่เจ็บเจียนตายกับการกระทำชั่วๆ คือคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย
อินทุวงคือแก้วเปราะบางซึ่งคนในตระกูลศิลาศิลป์ปกป้อง
อาคเนย์แสยะยิ้มเลือดเย็น ดวงตาคมกล้ามองพิจารณาเหยื่อสาวคนสวยแล้วนึกพอใจไม่น้อย นี่หรืออินทุวง ศิลาศิลป์ หล่อนสวยถูกใจเขา ตัวเล็กนิดเดียวแต่ความงดงามที่ซ่อนไว้ใต้เนื้อผ้าช่างดูมีน้ำมีนวลนัก ยิ่งอกอวบที่ดุนดันขึ้นมาให้เห็นรำไรเนื่องจากเสื้อผ้าที่เปียกปอนลู่ติดกับผิวกาย มันสร้างแรงพลังบางอย่างจนยากจะข่มให้สงบลง ผิวพรรณที่ขาวเนียนน่าลูบไล้ ถ้ามือเขาไปสัมผัสมันสักนิดคงนุ่มมือราวกับผ้าไหมเนื้อดี ยิ่งช่วงขาเรียวที่โผล่พ้นชายกระโปรงตัวสวยออกมานั้นมันทำให้ใจเขาเตลิดไปไกลจนทนไม่ไหว...ช้อนร่างบางขึ้นอุ้มหน้าตาเฉย
?อุ๊ย!?
?เอามันขึ้นมาจากหลุม?
?นี่คุณ ปล่อยนะ ฉันจะลงไปหาพี่ฉัน? อินทุวงดิ้นรนจะลงจากอ้อมแขนของคนใจร้าย แต่คนอุ้มที่ตั้งใจไว้แล้วมีหรือจะให้สิทธิ์ในการตัดสินใจกับเธอ
?อย่าโวยวายนะแม่ตัวดี การโดนฉันอุ้มเธอน่าจะดีใจนะ อยู่เฉยๆ ดีกว่าคนสวย ถ้าอยากให้พี่เธอรอดชีวิต? เพราะคำบอกนั้นทำให้สาวน้อยหยุดการต่อต้านลงทันที พร้อมกับเอี้ยวหน้าไปมองร่างของพี่ชายที่ถูกฉุดขึ้นมาจากหลุมนรกนั่น สภาพนั้นดูแทบไม่จืดและมันเรียกน้ำตากับเสียงสะอื้นของคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดี
อาคเนย์ก้มหน้ามองคนเจ้าน้ำตาแล้วเบือนหน้าหนี ก่อนจะเอ่ยบอกลูกน้องให้นำตัวนักโทษไปรอเขาที่ลานหน้าบ้าน จากนั้นก็หันหลังเดินดุ่มๆ ออกไปโดยมีแม่สาวน้อยตัวสั่นอยู่ในอ้อมอก ดวงตาคมปราดมองสบกับดวงตาหวานละมุนของอินทุวง เมื่อเจ้าหล่อนเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชิงชังระคนหวาดหวั่น ความกลัวของเธอซ่อนอยู่ในนั้น ซึ่งเขาสัมผัสได้ต่อให้แสดงออกมาว่าใจกล้าแค่ไหนก็ตาม
****************************************************************************************************************
ร่างเล็กถูกวางลงบนพื้นหน้าตู้เสื้อผ้า เมื่อยืนได้มั่นคงแล้วอินทุวงจึงทำท่าจะขยับตัวออกห่าง แต่มือหนาที่รวบเอวบางไว้ออกแรงรัดแน่นยิ่งขึ้น จนไม่อาจจะหลุดพ้นจากพันธนาการนั้นได้ เธอจึงทำได้เพียงส่งเสียงฮึดฮัดออกมาด้วยความไม่ชอบใจ
?นี่คุณ ปล่อยได้แล้ว ฉันจะลงไปหาพี่อินทร แล้วคุณพาฉันขึ้นมาบนนี้ทำไม? อินทุวงแว้ดขึ้นพลางดิ้นให้หลุดออกจากอ้อมแขนแกร่ง
?อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วค่อยคุยกัน เธอยังต้องใช้เวลาในการตัดสินใจอีกเยอะ หรือจะลงไปในสภาพนี้ก็ตามใจ ดีเหมือนกันลูกน้องฉันกำลังกลัดมัน เธอไปอวดเนื้อหนังมังสาให้พวกมันกระชุ่มกระชวยหน่อยก็ดีนะ? เจ้าของห้องกวาดตามองเรือนร่างอรชรที่เผยความอวบอิ่มวับวาวจากผ้าที่เปียกจนติดผิวเนื้อพลางแสยะยิ้มเยือกเย็นใส่
?แล้วทำไมไม่พากลับบ้าน มาที่นี่มันจะมีเสื้อผ้าให้ฉันเปลี่ยนเหรอ? คนสวยถามเสียงรนๆ แล้วเปลี่ยนจากการขัดขืนมาปกป้องเนื้อหนังของตัวเอง เมื่อคนที่อยู่ตรงหน้าดูคล้ายจะเป็นพวกกลัดมันเช่นกัน ดวงตาสีดำสนิทของเขาจ้องมองมาตาไม่กะพริบจนทำให้รู้สึกหนาวยะเยือกขึ้นมา แล้วอินทุวงก็รีบเบี่ยงตัวออกจากวงแขนแกร่งซึ่งเขาก็ยอมแต่โดยดี
อาคเนย์มองคนที่ปกป้องความงดงามที่น่าหวงแหนด้วยมือน้อยทั้งสองข้างแล้วส่ายหน้าไปมา ก่อนจะหันไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดที่แขวนไว้มาถือ จากนั้นก็ก้าวออกไปจากห้องหน้าตาเฉยไม่พูดอะไรสักคำ ปล่อยให้อินทุวงยืนเคว้งหันซ้ายหันขวา
?ตาบ้า เอาไงต่อล่ะทีนี้? หญิงสาวมองในตู้เสื้อผ้าพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อไม่มีทางเลี่ยงและเป็นห่วงพี่ชายแทบขาดใจ จึงไล่นิ้วไปตามเสื้อผ้ามากมายแล้วเลือกตัวที่พอจะอำพรางเรือนร่างจากสายตาจ้องจะกลืนกินของเจ้าของห้องได้ แต่พอจะก้าวเท้าเข้าห้องน้ำประตูห้องก็ถูกเคาะขึ้น ตามมาด้วยเสียงผู้หญิงที่แทนตัวเองว่าป้า จับใจความได้ว่าเอาเสื้อผ้ามาให้เธอเปลี่ยน อินทุวงจึงไม่รอช้าหันไปแขวนชุดนั้นไว้ที่เดิมแล้วรีบไปเปิดประตูให้
ใบหน้าสวยที่มีเม็ดน้ำเกาะพราวอยู่คลี่ยิ้มหวานส่งให้ ศีรษะเล็กโผล่ออกมาจากขอบประตูเพราะกลัวว่าเสื้อผ้าที่แนบไปกับลำตัวนั้น จะทำให้ตัวเองกลายเป็นเป้าสายตาของผู้ที่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงจุดไหนของบ้าน
?ป้าเอาเสื้อผ้ามาให้ค่ะ เพิ่งให้คนไปเอามาจากที่ไร่ศิลาศิลป์? หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นอย่างใจดี อินทุวงจึงยื่นมือออกไปรับแล้วกล่าวขอบคุณ ซึ่งป้าคนดังกล่าวก็ถอยหลังเดินจากไปพร้อมกับรอยยิ้ม คนที่ทำหัวผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ที่บานประตูจึงถือโอกาสกวาดสายตามองหาเจ้าบ้านแต่ไม่เห็นแม้เงา จึงปิดประตูลงแล้วเผ่นเข้าห้องน้ำด้วยความเร็วปานจรวดที่ยิงขึ้นฟ้า
ผ่านไปราวสามสิบนาทีร่างอรชรก็ก้าวออกมาจากห้องน้ำในสภาพเรียบร้อย ชุดกระโปรงลายดอกไม้สีม่วงอ่อนช่วยขับให้ผิวขาวราวกับน้ำนมให้ผุดผ่องยิ่งขึ้น แต่เดินมายังไม่ถึงกลางห้องก็พลันจะให้สะดุดล้มหน้าคะมำเมื่อร่างสูงใหญ่ที่นั่งไขว่ห้างอยู่ที่โซฟาหรูกำลังจ้องมองมาด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา ทว่าเขาเข้ามาได้อย่างไรในเมื่อเธอเป็นคนกดล็อกประตูเองกับมือ แล้วลมหายใจจากความจำยอมก็ถูกผ่อนออกมาเมื่อตระหนักได้ว่าเขาคือเจ้าของบ้าน จะเข้านอกออกในก็คงไม่ยากนักจนต้องไปเดือดร้อนให้ช่างมาทุบมาแงะ
?อาบน้ำนานจริง ป่านนี้พี่เธอตายคาที่ไปแล้วมั้ง? คำพูดประชดประชันฟาดฟันมาให้รู้สึกเจ็บแค้น ก่อนที่คนตัวเล็กจะสะบัดหน้าพรืดใส่แล้วก้าวผ่านไปยังประตูห้อง ทว่ายังไม่ถึงครึ่งทางด้วยซ้ำร่างบางก็ถูกกระชากกลับมาแล้วนั่งแหมะลงบนตักแกร่งที่พานให้ใจสาวหวั่นไหวจนดิ้นรนจะลงเสียให้ได้
?อยู่เฉยๆ ได้ไหม?
?แล้วคุณมายุ่งอะไรกับฉัน? อินทุวงตวัดหางตาขวางขุ่นใส่คนที่โอบกอดเธอไว้ พลางดิ้นรนให้หลุดจากพันธนาการแสนหวามนั้น ดวงตาคมกริบมองร่างเล็กที่นั่งอยู่บนตักด้วยสายตาจาบจ้วงไร้ความเกรงใจ มุมปากถูกยกขึ้นแล้วแสยะยิ้มเยือกเย็นออกมา ดวงตาคมกล้าพราวระยับเมื่อจ้องมองยังดอกบัวคู่สวยที่อวบอิ่มน่าสัมผัส
?ก็เธอมันน่ายุ่งนี่? รอยยิ้มกรุ้มกริ่มระบายไปทั่วดวงหน้า อินทุวงขยับตัวยุกยิกจะลงจากตักอุ่นให้ได้ แต่ท่อนแขนที่โอบรอบเอวนั้นไม่เอื้อให้รอดพ้น ซ้ำยังรู้สึกหวั่นไหวอย่างประหลาด ด้วยไม่เคยจะได้ใกล้ชิดสนิทแนบกับชายใดมาก่อน กับพี่ชายหรือกับบิดานั้นความรู้สึกมันไม่เหมือนกับตอนนี้ ยิ่งเจอกับสายตาร้อนแรงแต่แฝงเร้นความร้ายกาจเอาไว้นั้น พานให้ดวงหน้าหวานร้อนผ่าวราวกับจับไข้
?ปล่อยสิ?
?อยู่เฉยๆ ถ้ายังดิ้นไม่หยุดฉันจะจับเธอไปดิ้นต่อบนเตียงแน่? ข่มขู่ด้วยใบหน้าที่จริงจัง ด้วยบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ภายใต้เนื้อผ้าทำท่าจะลุกฮือขึ้นมาปราบพยศคนสวย
?คุณจะเอายังไงบอกมาเลย แล้วทำไมคุณต้องคิดฆ่าพี่ชายฉันด้วย?
?ทีแรกยังคิดไม่ออก แต่ตอนนี้เหมือนจะคิดออกแล้ว ส่วนเรื่องพี่ชายเธอ...ถ้าอยากรู้ก็ไปถามมันเอาเอง ไป!? ว่าจบก็คว้าข้อมือบางให้ลุกพรวดขึ้นแล้วฉุดกระชากไปยังชั้นล่าง โดยที่สาวเจ้าไม่อาจต้านแรงคนบ้าอำนาจได้เลย
อินทุวงกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามชายร่างสูงที่เธอเพิ่งจะมีโอกาสได้พบหน้าเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี เขาเป็นเพื่อนของพี่ชาย แต่ทำไมความเป็นเพื่อนถึงพังทลายลงแล้วกลายเป็นศัตรูถึงขนาดฆ่าแกงให้แดดิ้นได้นะ
?คุณสองคนทะเลาะเรื่องอะไรกัน ทำไมถึงต้องฆ่าต้องแกงกันด้วย? เธอเอ่ยถามในขณะที่โดนลากไปยังหน้าบ้าน
?ไม่อยากบอก ถ้าอยากรู้ไปหาคำตอบเอาเอง มันไม่ใช่เรื่องของเธอแต่เธอจำเป็นต้องชดใช้แทน? เขาบอกกลับมา ใบหน้าบึ้งตึง
?ไม่ยุติธรรม? อินทุวงแผดเสียงขึ้น พยายามจะบิดข้อมือออกจากมือหนา
?มันไม่ยุติธรรมมาตั้งแต่ต้นแล้ว และเธอก็ไม่ต้องไปมองหาความเมตตาด้วย เพราะมันจะไม่เกิดขึ้นกับชีวิตของเธอนับจากนี้? ว่าจบร่างเล็กก็ปลิวหวือลงไปกองที่พื้นข้างๆ อินทรซึ่งนั่งตัวสั่นด้วยความหนาวเหน็บ หากแต่แววตากลับเต็มไปด้วยดวงไฟของความแค้น
?อินเป็นอะไรหรือเปล่า? อินทรถลาเข้าไปกอดน้องสาวไว้
?ไม่เป็นไรค่ะพี่อินทร อินไม่เป็นอะไร พี่อินทรหนาวไหม...ทำไมเขาไม่ให้พี่เปลี่ยนเสื้อผ้า?คนใจร้าย? คำหลังเธอเหลือบตาไปมองร่างสูงใหญ่ที่ยืนค้ำศีรษะอยู่
คนใจร้ายที่เธอเอ่ยกระทบทำเป็นไม่สนใจแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ใกล้ๆ หันไปพยักหน้ากับลูกน้องสองคน จากนั้นร่างของอินทรก็ถูกหิ้วปีกขึ้นจากพื้น อินทุวงร้องลั่นถลาเข้าไปกอดพี่ชายไว้ มือเล็กปัดป้องมือหยาบกร้านของชายหน้.่ให้ทำอะไรพี่ชายเธอ หากแต่กำลังเพียงเล็กน้อยหรือจะสู้แรงชายที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามไปได้
?อินทุวง!? เสียงนั้นหยุดทุกอย่างลง แต่พี่หน้.็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองโดยการจับตัวอินทรไว้ หากแต่อินทุวงกลับยืนนิ่งไม่เอะอะโวยวายอย่างเมื่อครู่ หญิงสาวหันไปมองเจ้าของบ้านด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ดวงไฟกลุ่มเล็กเพิ่มปริมาณเป็นกองเพลิงราวสุมไว้รอการเผาผลาญ
?อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น เธอไม่มีสิทธิ์?
?ฉันก็ไม่อยากจะมองคุณนักหรอก คนใจร้ายอย่างคุณไม่มีค่าให้มอง?
จบประโยคนั้นร่างของอินทุวงก็ถูกกระชากเข้าไปปะทะกับอกกว้างโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวเลยสักนิด ไม่ทันได้คิดสักนิดว่าความไวของเขาจะเป็นต่อขนาดนี้ ขนาดนั่งเก้าอี้อยู่แท้ๆ ลุกพรวดขึ้นมาอย่างไม่ปี่มีขลุ่ย ซ้ำยังมือยาวพอที่จะดึงร่างเธอเข้าไปใกล้อีก
?ปล่อยนะ? แหวขึ้นเสียงเขียว
?เธอไม่มีสิทธิ์สั่งฉัน ถ้าอยากให้พี่เธอรอดก็รับข้อเสนอของฉันซะ เมื่อกี้เธอบอกว่าคนอย่างฉันไม่มีค่าให้มอง เพราะฉะนั้นฉันจะให้เธอมองหน้าทุกวันเลย ไปเก็บข้าวเก็บของแล้วมาอยู่กับฉันในฐานะนางบำเรอ เพื่อแลกกับชีวิตพี่ชายเธอ ที่ซุกหัวนอนของเธอ และหนี้สินอีกมากมายที่พี่เธอก่อไว้?
อินทุวงเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง ทั้งฐานะใหม่ที่เธอกำลังจะได้รับแล้วไหนจะเรื่องหนี้สิน ชีวิตพี่ชาย ที่ซุกหัวนอน มันหมายความว่าอย่างไร ไร่ศิลาศิลป์เป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียวที่เหลืออยู่ มันคือที่พักอาศัยมาตั้งแต่เกิดจนปัจจุบัน หรือว่ามันถูกแปรสภาพไปเป็นของคนอื่นแล้ว และก่อนที่สาวน้อยจะคิดอะไรไปเองมากกว่านี้ เสียงของอินทรที่ถูกพี่หน้.ุมตัวไว้ก็แผดเสียงร้องขึ้น
?แก! ไอ้ชั่ว แกจะทำแบบนั้นกับน้องฉันไม่ได้ แกคิดจะเอาคืนก็นี่มาลงกับฉัน ฆ่าฉันให้ตายหรือฝังทั้งเป็นก็เชิญเลย?
?สิ่งที่แกพูดมาฉันทำได้ เพราะยังไงศิลาศิลป์ก็ต้องเป็นของฉันอยู่ดี ฉันแค่หาทางเลือกที่ดีให้เท่านั้น ให้น้องสาวแกมาปรนเปรอสวาทให้ฉันสักเดือนสองเดือน...แล้วจะพิจารณาใหม่ว่าจะคืนที่ดินผืนนั้นให้แกดีมั้ย ทั้งนี้มันขึ้นอยู่กับความสามารถของเธอ...อินทุวง?
คนที่ถูกดึงเข้าไปมีส่วนร่วมถึงกับสั่นเทิ้มด้วยแรงโกรธที่สุมอยู่ในอก ความร้อนผ่าววิ่งมาอยู่ที่ดวงหน้าลามไปยังใบหูและลำคอ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจ้องเขม็งไปยังบุคคลที่กอดรัดเธออยู่ มือเล็กกำเข้าหากันแน่นและพร้อมจะยกขึ้นฟาดปากหนาที่จ้องแต่จะสร้างวาจาที่ฟังแล้วบาดหูอยู่ทุกเมื่อ
?ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร แต่ฉันจะไม่ยอมทำตามข้อเสนอของคุณเด็ดขาด? ว่าจบก็สะบัดตัวออกจากอ้อมแขนกำยำแล้วหมุนกายเดินลิ่วๆ ออกไปไม่เหลียวหลัง
?อิน...โอ๊ย!?
เพราะเสียงร้องของพี่ชายทำให้อินทุวงหันกลับมามองแล้วถลาเข้ามายืนตรงหน้าซาตานหนุ่มอีกครั้ง ดวงตากลมโตขวางเขด้วยความไม่พอใจ
?ปล่อยตัวพี่อินทรนะ? สาวน้อยสั่งเสียงขุ่น หลงลืมไปเสียสนิทว่าฐานะของตัวเองไม่สมควรจะทำกิริยาแบบนั้น หากเมื่อนึกได้ก็ถูกมือหนากระชากต้นแขนเข้าหาอกกว้างแล้วบีบเต็มแรงจนหน้าบิดเบี้ยว
?เธอไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งกับฉัน? คนพูดแสดงความน่ากลัวออกมาอย่างไม่ปิดบัง ใบหน้าหล่อคมราวกับเทพบุตรนั้นแดงก่ำด้วยความโกรธ ผู้หญิงตรงหน้าเป็นเพียงที่รองรับความแค้นของเขาเท่านั้น แค่ที่เจ้าหล่อนกล้ามาต่อปากต่อคำกับเขาแทนการสงบเสงี่ยมเจียมตัวก็สุดจะทนแล้ว แต่นี่บังอาจมาสู้ตาแถมยังออกคำสั่ง คิดว่าตัวเองสูงส่งมาจากไหน
?สิทธิ์ของความเป็นคนไง ปล่อยนะ ฉันเจ็บ? อินทุวงไม่ละความอวดดีของตัวเอง เธอยังคงต่อต้านและดิ้นรนขัดขืน มือบางพยายามแกะมือหนาให้ออกจากต้นแขนเรียวที่บัดนี้มันแดงช้ำขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หากต้องรู้สึกแค้นอยู่ในอกเมื่อคนตรงหน้าหัวเราะสะใจอยู่ในลำคอ มันเป็นเสียงหัวเราะที่แสดงถึงความเย้ยหยันจนอยากจะหาอะไรมาตีปากให้ได้เลือด แต่หญิงสาวไม่อาจทำอย่างใจคิดได้นอกจากส่งตาขุ่นเคืองให้พร้อมกับสะบัดแขนแรงๆ ให้หยุดจากพันธนาการของเหล็กกล้านั้น
?สิทธิ์ของความเป็นคน อืมใช่ แล้วเธอจะเรียกร้องสิทธิ์อะไรอีกไหม ตอนนี้ฉันใจปล้ำ แต่หลังจากนี้เธอหมดสิทธิ์แล้วนะ? ว่าพลางปล่อยมือออกจากต้นแขนเล็กโดยง่าย ซ้ำยังผลักไสให้เธอออกห่างราวกับรังเกียจ ก่อนจะปรายตาไปมองทางนักโทษชายที่ถูกผู้คุมยืนขนาบไว้ทั้งซ้ายและขวาพลางสั่งเสียงเข้มดุ ?ปล่อยตัวอินทรไป?
สิ้นคำสั่งนั้น...ผู้ที่เรียกร้องสิทธิ์ก็ถึงกับยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ ก่อนจะถลาเข้าไปหาร่างสูงที่บอบช้ำไปทั่วกาย โดยเฉพาะใบหน้าที่แตกยับ เลือดไหลซึมออกมาช่างน่าเวทนายิ่งนัก ลูกน้องของอาคเนย์ที่ประกบอยู่รีบถอยห่างไปทางด้านหลังเมื่อสบตากับเจ้านายแล้วได้รับคำยืนยันตามที่พูด
?เจ็บมากไหมคะพี่อินทร เรากลับกันเถอะค่ะ?
อาคเนย์มองภาพความรักระหว่างพี่น้องแล้วพานให้รู้สึกสะอิดสะเอียน หากนาทีต่อมาเขาก็ต้องยกยิ้มเย็นใส่คนทั้งสอง ดวงตาสีนิลดำสนิทฉายแววของความร้ายกาจออกมาอย่างเปิดเผย และก่อนที่สองพี่น้องจะช่วยพยุงกายกันขึ้นจากพื้น คำสั่งอันน่าสะพรึงกลัวก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
?พานักโทษและเชลยของฉันไปส่งที่ไร่ศิลาศิลป์ สั่งคนคุมเข้มอย่าให้คลาดสายตา อ๋อ แต่ให้สิทธิ์ทั้งสองเสมือนเป็นนักโทษชั้นดีก็แล้วกัน?
คนที่ถูกยัดเยียดตำแหน่งให้ถึงกับแทบหมดแรงทรุดกองลงพื้น หากต้องพยายามฝืนแข้งขาไว้ไม่ให้มันอ่อนยวบ สองพี่น้องสบตากันแล้วถอนใจยาวเหยียด ต่อให้อินทรถูกปล่อยตัวไปตอนนี้ก็ไม่พ้นจะถูกคุมเข้มทุกฝีก้าวอยู่ดี อย่างนี้จะเรียกว่าปล่อยตัวเห็นจะไม่ถูก แต่คนที่เจ็บช้ำกล้ำกลืนคืออินทุวง เพราะซาตานหนุ่มเหมือนจะปิดทางออกเธอทั้งหมด จนสุดท้ายก็ต้องยอมรับเงื่อนไขที่เขายื่นมาให้อย่างเลี่ยงไมได้ มันช่างเป็นข้อตกลงที่น่าอดสูที่สุดในชีวิต
?พี่เสียใจ?
อินทุวงไม่พูดอะไรออกมาสักคำนอกจากมองหน้าพี่ชายด้วยสายตาว่างเปล่า สองมือเล็กพยุงพี่ชายด้วยความทุลักทุเล แม้อินทรจะพยายามไม่ทิ้งน้ำหนักมามากแต่ความอ่อนล้าของร่างกายบวกกับขนาดตัวที่ห่างชั้นกัน ส่งผลให้อินทุวงแทบทรุดเหมือนกัน ร้อนถึงลูกน้องของอาคเนย์ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยตามคำสั่งของเจ้านายที่ไม่ปริปากบอกแต่ใช้สายตาแทนคำพูด อีกทั้งพวกเขาก็ต้องทำหน้าที่คุมตัวนักโทษอยู่แล้ว ก่อนจะพากันเดินไปยังรถที่เข้ามาจอดรออยู่หน้าบ้าน ทั้งอินทุวงและอินทรถูกพาไปขึ้นรถของไร่ไกรสูรย์สิริ ส่วนรถเก๋งคันงามของหญิงสาวนั้นถูกคนของอาคเนย์ขับกลับไปให้ ทั้งนี้เพื่อกันการหลบหนีนั่นเอง
?พรุ่งนี้ฉันจะไปเอาคำตอบ ถ้าคิดว่าจะไม่ตกลงรับข้อเสนอก็เก็บข้าวของออกจากศิลาศิลป์ไปได้เลย? คำพูดประโยคนั้นอาคเนย์บอกทิ้งท้ายให้สาวน้อยที่เป็นเหมือนหมากในเกมการแก้แค้นครั้งนี้รีบตัดสินใจว่าจะเลือกทางออกทางไหนให้กับตัวเองและคนรอบข้าง
เมื่อรถแล่นผ่านหน้าไปไกลแล้ว ซาตานหนุ่มก็ได้แต่มองตามแล้วส่งสายตาคาดโทษระคนเคียดแค้นไปให้ หากแวบหนึ่งสมองของเขาคล้ายจะกลับไปอยู่ทางสว่างจนต้องรีบสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งแล้วดึงตัวเองลงมาอยู่ในห้วงของความแค้นที่ฝังลึกอยู่ในอกเช่นเดิม

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ที่จริงความแค้นนี้มีมาตั้งแต่รุ่นพ่อที่เพื่อนรักโกงกินที่ดินไปอย่างหน้าไม่อายจนทำให้ ?อาคเนย์? ผู้เป็นลูกชายเพียงคนเดียวคิดยึดครองทุกอย่างของศัตรู ทว่าความโกรธครานั้นยังไม่ทำให้ชายหนุ่มโมโหพล่านได้เท่าสิ่งที่เพื่อนทำ คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนรักกระชากหัวใจทั้งดวงของเขาไปย่ำยีจนเธอหมดลมหายใจ ฉะนั้นอาคเนย์จึงแก้แค้นและลงทัณฑ์ทำโทษอย่างไม่แม้จะปรานีใคร โดยเฉพาะเธอ...ผู้ซึ่งเสมือนแก้วเปราะบางที่ตระกูลศิลาศิลป์หวงแหนนักหนา มันคงสะใจดีแท้ถ้าคนที่เจ็บเจียนตายคือคนที่ไม่รู้ไม่เห็นและไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย ?อินทุวง? กัดฟันยอมรับข้อเสนอหน้าเลือดที่ซาตานร้ายยื่นมาอย่างปวดร้าว มันไม่ใช่การเสียทรัพย์มูลค่านับล้านหากแต่มันคือการเสียตัวให้เขา และอาจจะต้องยื่นหัวใจส่งให้อาคเนย์เพียงฝ่ายเดียวตามบัญชา
?ให้น้องสาวแกมาปรนเปรอสวาทให้ฉันสักเดือนสองเดือน... แล้วจะพิจารณาใหม่ว่าจะคืนที่ดินผืนนั้นให้แกดีหรือไม่?
อาญาจากคนใจทมิฬสั่งมาที่พี่ชายเธอ ก่อนจะหันมาสั่งเธอว่า
?แต่ฉันจะถูกใจหรือไม่มันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเธอ...อินทุวง?

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”