New Release : GOSICK ?สาวน้อยยอดนักสืบ-

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : GOSICK ?สาวน้อยยอดนักสืบ-

โพสต์ โดย Gals »

บทนำ จงปล่อยกระต่ายป่าให้ออกวิ่ง!

มีอะไรบางอย่างที่ดำและใหญ่.... วิ่งผ่านไป
เด็กน้อยเห็นว่ามันคือหมา หมาตัวใหญ่สีดำสนิท ราวกับจะกลืนหายไปกับความมืดยามค่ำคืน ขาทั้งสี่ของมันล้วนดำสนิท สองตาของมันเปล่งประกายราวกับเปลวเพลิงที่ส่องสว่างท่ามกลางความมืด
เด็กน้อยได้เดินผ่านป่ามา จนมาถึงถนนที่จะเข้าหมู่บ้าน ด้วยตอนนั้นเป็นเวลาดึกมากแล้ว เด็กน้อยอยากรีบกลับบ้านไปผิงเตาผิงอันอบอุ่นสักทีจึงได้ใช้ทางลัด เดินผ่านสวนของคฤหาสน์แห่งหนึ่งที่อยู่นอกหมู่บ้านไปด้วยตัวคนเดียว และตอนนั้นเองที่เด็กน้อยได้พบกับหมาล่าเนื้อตัวนั้น
เด็กน้อยตกใจจนถอยกลับมาหลายก้าว
....แผละ
เด็กน้อยรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่น่าขยะแขยงที่ฝ่าเท้า เขาได้เหยียบอะไรบางอย่างที่อ่อนนุ่มและมีของเหลวอุ่นๆ อยู่ภายในเข้าซะแล้ว พอก้มลงมองที่เท้า เขาก็พบกับก้อนเนื้อชิ้นเล็กๆ ในสภาพเละเทะอยู่ที่พื้น ก้อนเนื้อสีแดงฉานนั้นมีเลือดหยดติ๋งๆ และมีขนสีน้ำตาลหลงเหลืออยู่ในบางจุด พร้อมกับมีใบหูยาวที่ดูนุ่มนิ่มยื่นออกมาจากก้อนเนื้อนั้นด้วย ดวงตากลมใสราวกับลูกปัดที่อยู่ในนั้นสะท้อนภาพท้องฟ้าอันมืดมิดอย่างไร้ชีวิตชีวา
....เด็กน้อยจึงได้รู้สึกตัวว่ามันคือกระต่ายป่า
เขาเงยหน้าขึ้น และพบว่าที่ปากของหมาล่าเนื้อมีเลือดหยดเป็นทาง หยดลงสู่พื้น
เด็กน้อยรู้ทันทีว่าเจ้านี่เป็นคนฆ่ากระต่ายนี่เอง....!
เด็กน้อยกลัวจนหมดแรง ขวดเหล้าองุ่นที่กำแน่นอยู่ในมือร่วงลงสู่พื้นแตกกระจาย จนของเหลวสีแดงเข้มที่อยู่ในนั้นกระเด็นไปโดนหมาล่าเนื้อด้วย
หมาล่าเนื้อตัวนั้นแลบลิ้นออกมา.... และเลียเหล้าเข้าไป
พริบตานั้นเองก็มีเสียงสายฟ้าฟาดดังกึกก้อง
แสงจากฟ้าแลบเผยให้เห็นสภาพของคฤหาสน์แห่งนั้น คฤหาสน์ที่น่าจะร้างไม่มีใครอยู่แห่งนี้กลับมีเงาของใครบางคนนั่งอยู่บนระเบียงของคฤหาสน์
เด็กน้อยเบิกตาโพลง
เงาคนนั้นคลุมผ้าลินินสีแดงเอาไว้ และนั่งอยู่บนเก้าอี้ พอผ้าคลุมนั้นเปิดออก ส่วนที่อยู่ในตำแหน่งที่น่าจะเป็นหัวกลับดูมืดมิดราวกับโพรงที่ว่างเปล่า นอกส่วนที่ผ้าคลุมไว้นั้นมีเพียงมือที่แก่ชราอย่างที่สุด เหี่ยวแห้งราวกับกิ่งไม้แห้งยื่นออกมาเพียงข้างเดียวเท่านั้น
มือข้างนั้นกำกระจกที่ส่องประกายสีทองเอาไว้แน่นและสั่นกึกๆ อยู่ตลอด
พร้อมกับมีไหเงิน ไหทองแดง ไหแก้ว.... วางเอาไว้สามใบ ส่องประกายอย่างน่าสยดสยอง
และแล้วก็มีเสียงแหบแห้งของคนแก่ดังขึ้น
?อีกไม่นาน ชายหนุ่มคนหนึ่งจะตายลง....!?
เด็กน้อยกลั้นหายใจด้วยความกลัว เพราะรู้สึกราวกับว่าสิ่งร้ายๆ ที่หญิงแก่พูดอยู่นั้นจะเป็นจริงขึ้นมาได้จริงๆ แล้วเสียงนั้นก็พูดต่อ
?ความตายของเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง ก่อให้เกิดผลกระทบใหญ่หลวงต่อโลกใบนี้?
และแล้วก็มีเสียงของผู้ชายจำนวนมากดังขึ้นมาจากระเบียงที่น่าจะไม่มีใครอยู่นั้น เด็กน้อยตกใจและพยายามเพ่งมองที่ระเบียงนั้น แต่ระเบียงที่สว่างขึ้นมาเพียงพริบตาด้วยแสงจากฟ้าแลบนั้น บัดนี้กลับสู่ความมืดมิดอีกครั้งแล้ว
?ทำยังไงดี....?
?นี่พวกเราควรจะทำยังไงดี....?
?ท่านร็อกซาน!?
?....จงเตรียมสวนกล่อง?
เสียงของหญิงแก่ดังขึ้นอีกครั้ง
?จงจัดเตรียมสวนกล่องมาซะ สวนกล่องที่ใหญ่ยิ่งกว่าสวนแห่งนี้ และจงนำมันไปลอยเหนือผิวน้ำ จากนั้น....?
???เปรี้ยง!
เสียงฟ้าผ่าดังสนั่น
แสงสว่างวาบสาดส่องมาที่ระเบียงอีกครั้ง
และภาพที่เด็กน้อยได้เห็นจากแสงสว่างวาบนั้นทำให้เขากลัวจนทรุด พร้อมกับกรีดร้องออกมาไม่เป็นเสียง
บนระเบียงนั้นมีหญิงแก่ชุดสีแดง และคนอื่นๆ อยู่รายล้อมเธอ คนเหล่านั้นทุกคนคลุมผ้าสีขาว ทุกคนยื่นมือออกไป และเดินไปมาบนระเบียงด้วยท่าทีเลื่อนลอยราวกับวิญญาณ
และในสวนแห่งนั้น....ก็มีบางอย่างที่เป็นสีน้ำตาลวิ่งไปมาอยู่ทั่ว กระต่ายป่านับสิบตัวพากันวิ่งหนีอลหม่าน และหมาล่าเนื้อตัวก่อนหน้านี้ก็กำลังวิ่งไล่ขย้ำกระต่ายเหล่านั้นอยู่ ที่พื้นมีซากศพตัวเล็กๆ กระจายไปทั่ว ทำให้เลือดที่ไหลออกมานองจนเต็มพื้น
พริบตาต่อมาฟ้าแลบฟ้าร้องก็หยุดลง ทำให้คฤหาสน์และสวนกลับสู่ความมืดมิดอีกครั้ง
ไร้ซึ่งเสียงใดๆ
จนในที่สุดก็มีเสียงของหญิงแก่ดังขึ้นมา
?จากนั้น.... จงปล่อยกระต่ายป่าให้ออกวิ่ง!?

บทที่ 1 ภูตสีทอง

1

10 ปีหลังจากนั้น....
ณ ราชอาณาจักรเซาวิลล์ ประเทศเล็กๆ แห่งหนึ่งในยุโรป
ที่มุมหนึ่งของอาคารหินที่สร้างอย่างเลิศหรู ในโรงเรียนเซนต์มาร์เกอริตซึ่งเป็นโรงเรียนชื่อดังที่ตั้งอยู่ที่ตีนเขาในประเทศแห่งนั้น....

?....แล้วก็นะ พอทีมกู้ภัยทางทะเลไปถึงก็พบว่าบนเรือนั้นยังมีอาหารถูกจัดใส่จานและยังอุ่นๆ อยู่เลย เตาผิงก็ยังมีไฟติดอยู่ และบนโต๊ะก็ยังมีการ์ดเกมวางทิ้งเหมือนเล่นค้างไว้อยู่ แต่ว่า....แต่ว่านะ กลับไม่มีใครอยู่เลยสักคนเดียว ทั้งผู้โดยสาร ทั้งลูกเรือ ทุกคนหายไปหมดเลย.... มันก็มีห้องที่มีรอยเลือดหรือร่องรอยการต่อสู้อยู่หลายห้องอยู่หรอก แต่ยังไงก็ไม่เจอใครเลยสักคนเดียว....?
?อืมๆ งั้นเหรอ?
นักเรียนสองคนนั่งคุยกันอยู่ที่แปลงดอกไม้หลังอาคารเรียน
ตัวอาคารนั้นเป็นรูปร่างเหมือนเส้นสี่เหลี่ยมที่ถูกตัดออกไปด้านหนึ่ง และประตูที่เชื่อมจากอาคารนั้นไปสู่สวนดอกไม้ก็ถูกเปิดค้างไว้ โดยมีนักเรียนสองคนนั่งอยู่บนบันไดขั้นที่สอง จากทั้งหมดสามขั้น เบื้องหน้าทั้งสองคนนั้นมีมวลหมู่บุปผาบานสะพรั่ง พลิ้วไหวไปตามสายลมเย็นสบายในฤดูใบไม้ผลิที่พัดผ่านมา
นักเรียนคนหนึ่งเป็นเด็กหนุ่มชาวตะวันออก ตัวเล็กและท่าทางมีนิสัยเอาจริงเอาจังมากๆ ส่วนอีกคนเป็นเด็กสาวผิวขาวผมสีทองสวยงาม ตัวเด็กหนุ่มนั้นเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากประเทศเกาะในแดนตะวันออก ชื่อคุโจ คาซึยะ ส่วนเด็กสาวนั้นเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากอังกฤษ ชื่ออาวริล แบรดลีย์ ทั้งสองคนเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ด้วยความที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเหมือนกันจึงสนิทกันและคุยกันได้ถูกคอเป็นพิเศษ
อาวริลนั้นกำลังตั้งใจเล่าเรื่องอย่างเต็มที่จนตาดำกลอกเข้าหากัน ทำให้หน้าตาสะสวยนั้นดูแล้วน่าขำขันน้อยๆ ผมสั้นสีทองของเธอพลิวไหวไปตามแรงลม
?....แต่ว่านะ?
?อืมๆ?
?ตอนที่ทีมกู้ภัยกำลังสำรวจภายในห้องอยู่แล้วบังเอิญไปจับแจกันเข้า.... ก็มีลูกศรจากหน้าไม้พุ่งออกมาจากไหนก็ไม่รู้ ทำเอาเขาหวิดได้ไปโลกหน้าเลยทีเดียว?
?....มันหมายความว่ายังไงนะ? มีการวางกับดักไว้ที่แจกันเหรอ รึว่าจะมีใครซ่อนอยู่แล้วแอบยิงลูกศรออกมาตอนที่จับแจกันพอดีกันแน่ รึอาจจะเป็น....?
คาซึยะทำหน้าตาจริงจังพร้อมกับเริ่มตั้งสมมติฐานต่างๆ และพูดออกมาเรื่อยๆ โดยไม่ทันสังเกตเลยว่าอาวริลเริ่มไม่พอใจจนทำแก้มป่องแล้ว จนในที่สุดอาวริลก็ยกมือขาวๆ ของเธอขึ้นมาและยื่นไปปิดปากเขาเอาไว้
?....อุ๊บ??
?ฟังอยู่เฉยๆ ก่อนเถอะน่า จากนี้ไปจะเป็นส่วนสำคัญแล้วนะ คุโจคุงนี่ล่ะก็ จริงจังเกินไปแล้ว ไม่สนุกเลย?
?....ขอโทษครับ งั้นเล่าต่อสิ อาวริล?
คาซึยะนั้นยังทำใจรับไม่ได้ว่าตัวเองผิดตรงไหน แต่ด้วยความที่อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงก็เลยเผลอขอโทษไปจนได้
?ฟังนะ หลังจากทีมกู้ภัยได้แจ้งตำรวจแล้ว และกำลังจะเริ่มสำรวจเรือ ที่ท้องเรือก็มีรอยรั่วจนน้ำไหลเข้ามา ทำให้ไม่มีเวลาได้สำรวจเรือให้ละเอียดเลย และแล้วเรือลำนั้น.... เรือ QueenBerry ก็ได้จมลงสู่ก้นทะเลอย่างรวดเร็ว เรือจมก่อเกิดคลื่นน้ำกระเซ็น เกิดเป็นเสียงที่ฟังแล้วน่าสยดสยอง พร้อมกับค่อยๆ จมลึกลงสู่ก้นทะเลอันมืดมิด....!?
?งั้นก็แย่เลยสินะ?
?แต่ว่านะ....?
อาวริลเริ่มท้อกับเสียงตอบอันไร้ซึ่งอารมณ์ร่วมจากคาซึยะ แต่ก็พยายามเน้นเสียงเพื่อสร้างบรรยากาศ
?เรือ QueenBerry ที่ควรจะจมไปตั้งแต่ 10 ปีก่อนนั้นกลับยังปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง?
?จะมาได้ไงเล่า ก็จมไปแล้วไม่ใช่เหรอ??
?หนวกหูน่า ฟังเงียบๆ เถอะ คาซึยะ?
?....ขอโทษครับ?
?ในคืนที่มีพายุ เรือลำนั้นจะปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งจากอีกฟากของสายหมอก พร้อมกับคนบนเรือที่น่าจะหายตัวกันไปหมดแล้วด้วยนะ โดยพวกเขาจะพยายามหลอกล่อคนที่ยังมีชีวิตอยู่ให้ขึ้นเรือไป เพื่อใช้เป็นเครื่องสังเวย แล้วทุกคนก็จะ....?
อาวริลเริ่มทำเสียงเบาลงไป ทำให้คาซึยะกลั้นหายใจรอลุ้นว่าจะมีอะไรต่อ
แล้วอยู่ๆ ตาสีฟ้าของอาวริลก็เบิกโพลง พร้อมกับ
?....จมลงไปพร้อมกับเรือทั้งหมดเลย! กรี๊ดดดดดดดดดดด!!?
?ว้ากกกกก!!?
?ฮ่ะๆๆๆๆ คุโจคุงติดกับจนได้ ร้องซะดังเลย เป็นผู้ชายแท้ๆ เป็นลูกทหารแท้ๆ แต่กลัวเรื่องสยองขวัญจนร้องเสียงดังเชียว ฮ่ะๆๆๆ!?
อาวริลหัวเราะเยาะอย่างชอบใจ ส่วนคาซึยะทำเสียงกัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ
ระหว่างที่คาซึยะกำลังคิดเจ็บใจที่ตัวเองเผลอร้องออกมานั้น อาวริลก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับปัดฝุ่นที่ก้นตัวเอง กระโปรงจีบซึ่งเป็นชุดเครื่องแบบสะบัดขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นเรียวขายาวขาวสวยชั่ววูบ
ท้องฟ้าแจ่มใสและมีแสงส่องมาถึงบันไดหินที่หลังอาคารเรียนนี้อย่างเต็มที่ ทำให้คาซึยะต้องหรี่ตาเล็กน้อยเพราะแสงจ้า
แล้วอาวริลก็พูดขึ้นมาด้วยท่าทางร่าเริง
?เอาล่ะ กลับห้องเรียนกันดีกว่าเนอะ แต่ว่าน้า คุโจคุงเนี่ยขวัญอ่อนผิดคาดเลยนะเนี่ย เกรดก็ดี แถมยังทำหน้าตาเอาจริงเอาจังอยู่ตลอด ดูแล้วสมเป็นลูกตระกูลทหารสุดๆ ไปเลยแท้ๆ แต่ผิดคาดจริงๆ เลยน้า?
พอเห็นอาวริลเยาะเย้ยเอาแบบนี้ก็ยิ่งทำให้คาซึยะเจ็บใจมากขึ้นไปอีก
?สรุปว่าฉันชนะแล้วสินะ ยะฮู้!?
อาวริลพูดพร้อมกับเดินลิงโลดเข้าไปในอาคารเรียน ส่วนคาซึยะที่มองดูภาพนั้นอยู่ก็ได้ตั้งปณิธานกับตัวเองอย่างแน่วแน่ว่า
?หน็อย เดี๋ยวจะต้องหาเรื่องสยองขวัญที่น่ากลัวกว่านี้มาแก้เผ็ดอาวริลคืนให้ได้ เอาให้ร้องกรี๊ดดังๆ ไปเลย แค้นนี้ฉันจะชำระคืนแน่ๆ ขอเดิมพันด้วยชื่อลูกชายคนที่สามของทหารแห่งจักรวรรดิ!?
คาซึยะคิดในใจพร้อมกับเดินตามอาวริลเข้าไปในอาคารเรียน

???พอเข้าไปในห้องเรียนก็พบกับภาพที่เหมือนทุกที คือมีแต่ลูกขุนนาง ผิวขาว อายุ 15 อยู่เต็มไปหมด
ในห้องมีโต๊ะเรียนอย่างหรูที่ทำจากไม้โอ๊กชั้นดีตั้งเรียงราย และก็มีคนนั่งประจำอยู่คนละโต๊ะ โดยฝ่ายเด็กผู้ชายแต่ละคนใส่เสื้อและเข็มติดเนคไทอย่างดีดูแพงสุดๆ ส่วนเด็กผู้หญิงก็มีการแต่งผมแต่งเล็บมาเป็นอย่างดี ทุกคนมีผิวสีขาว และนั่งด้วยหน้าตาสงบเรียบร้อยทุกคน
พอมาอยู่ในห้องนี้แล้ว เด็กหนุ่มชาวตะวันออกที่เอาจริงเอาจังอย่างคุโจ คาซึยะคนนี้ก็ดูแปลกแยกจากคนอื่นไม่น้อยเลย แถมพอคาซึยะเข้าห้องมา ทุกคนก็ถอยห่าง ทำท่าเหลือบมองคาซึยะแล้วเริ่มซุบซิบกัน
?ยมทูตนี่นา....?
?มันกลับมาแล้ว....?
พอได้ยินพวกเขาซุบซิบกันว่าแบบนั้นด้วยภาษาฝรั่งเศสที่ฟังดูมีชาติตระกูลแล้วก็ยิ่งทำให้คาซึยะรู้สึกแย่ขึ้นไปอีก

ขณะนั้นเป็นปี ค.ศ. 1924....
ณ ประเทศเล็กๆ แห่งหนึ่งในยุโรปที่ชื่อว่าราชอาณาจักรเซาวิลล์
ฝั่งที่อยู่ติดชายแดนสวิตเซอร์แลนด์นั้นเป็นเทือกเขายาวและที่ราบสูง ส่วนฝั่งที่ติดชายแดนฝรั่งเศสนั้นเต็มไปด้วยไร่องุ่นมากมาย และฝั่งที่ติดชายแดนอิตาลีนั้นมีเมืองท่าอันจอแจซึ่งอยู่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประเทศที่มีรูปร่างเรียวยาวแห่งนี้นั้นมีด้านหนึ่งถูกห้อมล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์ ส่วนอีกด้านติดกับอ่าวลียงซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะที่พักร้อนของพวกขุนนาง แม้ประเทศเซาวิลล์แห่งนี้จะห้อมล้อมไปด้วยชาติมหาอำนาจ แต่ก็ยังเอาตัวรอดผ่านสงครามโลกมาได้ เป็นประเทศที่มีภูมิอากาศน่าอยู่ ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ และมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันเก่าแก่ยาวนาน
หากจะเปรียบอ่าวลียงเป็นประตูหน้าบ้านอันสวยงามของราชอาณาจักรแห่งนี้แล้วล่ะก็ เทือกเขาแอลป์ก็เปรียบได้กับห้องใต้หลังคาซึ่งเป็นจุดที่อยู่ลึกและลับที่สุดของบ้านนั่นเอง และที่ตีนเขานั้นก็มีโรงเรียนที่ถึงแม้จะไม่เก่าแก่เท่าประวัติศาสตร์ของประเทศนี้ แต่ก็มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมากอยู่ นั่นคือโรงเรียนเซนต์มาร์เกอริต เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศในฐานะโรงเรียนสำหรับลูกหลานของชนชั้นสูง ตัวโรงเรียนมีภูมิอากาศเย็นสบาย ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติ และมีอาคารเรียนรูปร่างเหมือนเส้นสี่เหลี่ยมที่ตัดด้านหนึ่งออกไป สร้างด้วยหินดูแล้วมีมนต์ขลัง ซึ่งภายในโรงเรียนนั้นจะมีเพียงนักเรียนซึ่งเป็นลูกหลานของชนชั้นสูง และอาจารย์เท่านั้นที่เข้าออกได้ ส่วนคนทั่วไปจะไม่สามารถผ่านประตูใหญ่เข้ามาได้เลย
แต่หลังสงครามโลกในครั้งก่อน.... สงครามโลกครั้งที่ 1 นั้นจบลง โรงเรียนเซนต์มาร์เกอริตแห่งนี้ก็เริ่มเปิดรับนักเรียนแลกเปลี่ยนที่มีความสามารถจากประเทศพันธมิตรด้วย
ซึ่งคุโจ คาซึยะ อายุ 15 ปี ผู้มาจากประเทศเกาะในตะวันออกไกลคนนี้ ก็เป็นผู้มีผลการเรียนดีเยี่ยม และเป็นลูกคนสุดท้องของครอบครัวทหาร มีพี่ชายที่อายุห่างกันอยู่ 2 คน คนหนึ่งเป็นนักวิชาการ ส่วนอีกคนก็เป็นว่าที่นักการเมืองไปแล้ว ซึ่งทางโรงเรียนก็พิจารณาตรงจุดนั้น จนทำให้ได้รับเลือกเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน และเดินทางมาที่เซาวิลล์นี้ด้วยตัวคนเดียวตั้งแต่เมื่อครึ่งปีก่อน
แต่สิ่งที่คาซึยะซึ่งเดินทางมาโดยตั้งความหวังไว้มากได้พบที่โรงเรียนแห่งนี้กลับเป็นการดูถูกจากลูกหลานชนชั้นสูง และเรื่องลึกลับที่มีแพร่กระจายอยู่ทั่วโรงเรียน
บรรยากาศที่ดูเคร่งขรึมกดดันของคาซึยะนั้นมาจากนิสัยเอาจริงเอาจังและเป็นคนดีของเขาเองแท้ๆ แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้โดนจับไปโยงกับเรื่องลึกลับเข้าซะได้ ทำให้ตลอดครึ่งปีมานี้เขาต้องลำบากไม่น้อยเลยทีเดียว ....แต่เรื่องนั้นขอยกไปไว้โอกาสหน้าก็แล้วกัน

เสียงกระดิ่งสัญญาณเริ่มเข้าเรียนดังขึ้น คาซึยะจึงรีบไปนั่งที่โต๊ะเหมือนกับคนอื่นๆ จากนั้นก็หันไปมองโต๊ะว่างที่อยู่ริมหน้าต่าง
ตลอดครึ่งปีมานี้ เขาไม่เคยเห็นเจ้าของโต๊ะตัวนั้นมานั่งที่โต๊ะเลยสักครั้ง มันจึงว่างมาตลอด แต่ทุกคนในห้องกลับพร้อมใจกันไม่ไปยุ่งกับโต๊ะตัวนั้น ไม่เข้าใกล้ ไม่นั่ง ไม่วางของบนโต๊ะเลยสักนิด ราวกับว่าหวาดกลัวอะไรบางอย่างอยู่
แต่เมื่อเวลาผ่านมาจนถึงตอนนี้คาซึยะก็ได้รู้แล้วว่าพวกเขาหวาดกลัวอะไรกัน
???แล้วอาจารย์ประจำชั้นก็เดินเข้ามา เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็ก หน้าเด็ก สวมแว่นตากลมอันใหญ่ ผมสีดำดูนุ่มนิ่ม เธอมักจะถือหนังสือหรือเอกสารอะไรสักอย่างแนบอกอยู่เสมอ พร้อมกับเอียงคอไปมาราวกับลูกสุนัข
อาจารย์ประจำชั้นคนนั้น ???อาจารย์เซซิล เดินขึ้นไปยืนบนแท่นสอน จากนั้นก็ถอนหายใจหนึ่งเฮือก
(....อ้าว?)
คาซึยะรู้สึกได้ทันทีว่าอาจารย์ไม่ค่อยสดชื่นเลย
แล้วก็มีกระดาษที่ถูกขย้ำเป็นก้อนกลมถูกโยนมาจากโต๊ะข้างหลัง กระทบกับหัวเขาดังตุบ พอลองหยิบมาเปิดดูก็เห็นอักษรภาษาอังกฤษเขียนอยู่ในนั้น
<ถึงคุโจคุงคนขวัญอ่อน คืนนี้จะกล้าไปห้องน้ำคนเดียวรึเปล่านะ? จากอาวริลจัง>
พอหันไปดูก็เห็นอาวริลโบกมือให้ด้วยท่าทางอารมณ์ดีสุดๆ.... นี่เป็นวิธีการแสดงความรู้สึกดีๆ ด้วยแบบหนึ่งรึไงกันนะ?
???หลังจบคาบเรียน ตอนที่อาจารย์เซซิลกำลังจะเดินออกจากห้อง อยู่ๆ เธอก็ชะงักเท้า
?คุโจคุง มานี่เดี๋ยวสิ?
คาซึยะที่ถูกเรียกจึงได้ลุกขึ้นยืนและเดินตามอาจารย์ออกไปที่ระเบียงทางเดิน พร้อมกับกังวลว่าที่อาจารย์เรียกมาแบบนี้เป็นเพราะเกรดตกรึเปล่า ระหว่างนั้นเอง
?ครูว่าจะฝากให้ไปส่งไอ้นี่หน่อยน่ะ เอ้า?
สิ่งที่เธอยื่นให้คือชีทที่ใช้ในคาบเรียนเมื่อสักครู่นี้เอง จากนั้นอาจารย์เซซิลก็ชี้นิ้วผ่านหน้าต่างห้องเรียนไปยังโต๊ะที่ว่างอยู่ตลอดตัวนั้น
?ขอโทษนะที่ต้องรบกวนอยู่เรื่อยเลย เอ้า ฝากเอาไปให้คุณวิคตอริก้าด้วยนะจ๊ะ?
?ครับผม.... เข้าใจแล้วครับ?
ขณะที่คาซึยะตอบรับนั้นก็มีเงาของใครบางคนเดินมาหยุดยืนข้างๆ เขา พอหันไปดูก็พบกับหน้าตาจิ้มลิ้มของอาวริล ผมสั้นสีทองของเธอสะท้อนแสงอาทิตย์จากหน้าต่างจนส่องประกายระยิบระยับ
เธอก้มลงมองชีทใบนั้น
?เอ่อ.... อาจารย์คะ วิคตอริก้าคุงคนนี้เนี่ย หมายถึงคนที่ไม่ยอมมาเรียนเลยคนนั้นสินะคะ??
?ใช่จ้ะ แต่ว่าเธอก็มาโรงเรียนอยู่นะจ๊ะ ใช่มั้ย คุโจคุง??
คาซึยะพยักหน้ารับด้วยท่าทางกำกวม
ส่วนอาวริลก็เอียงคอด้วยท่าทีประหลาดใจสงสัย
?หมายความว่ายังไงกันนะ? ถ้างั้นแล้วเขาไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ??
?....ที่สวนพฤกษศาสตร์?
?เอ๋? โรงเรียนนี้มีอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ ไอ้สวนพฤกษศาสตร์เนี่ย....??
?มันก็มีน่ะสิ?
คาซึยะมีสีหน้าหม่นหมองลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ แล้วตอบอาวริลที่กำลังแปลกใจไปว่า
?อยู่บนที่ที่สูงมากเลยล่ะ....?
?พูดอะไรไม่รู้เรื่อง? นี่ แล้ววิคตอริก้าคุงเนี่ยสนิทกับคุโจคุงเหรอ??
อาจารย์เซซิลพยักพยักตอบคำถามของอาวริลด้วยท่าทางดีใจมากๆ แต่คาซึยะกลับเอียงคอด้วยท่าทีกำกวม จึงยิ่งทำให้อาวริลสับสนขึ้นไปอีก
?สรุปแล้วสนิทรึเปล่าน่ะ??
?คือแบบว่าฉันเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันแหละ....?
?พูดจาให้มันชัดเจนหน่อยสิ แล้วเป็นผู้ชายแบบไหนล่ะ??
?คือไม่รู้จะว่าเป็นคนน่ากลัวดี.... หรือจะว่าไม่แคร์คนอื่นดี.... หรือจะว่าใจร้ายดีนะ....?
อาวริลเอียงคอสงสัย แต่ก็พึมพำว่า ?เอาน่ะ ช่างมันเถอะ? แล้วก็เดินตัวปลิวเข้าห้องเรียนไป

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เรื่องราวของวิคตอริก้า เด็กสาวลึกลับที่ชอบสูบไปป์ และใช้สติปัญญาอันหลักแหลมแก้คดีต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย เธอมีรูปร่างหน้าตาสะสวยราวกับตุ๊กตา แต่กลับมีนิสัยเอาแต่ใจตัวเองสุดๆ!? และคุโจ คาซึยะ เด็กหนุ่มนักเรียนแลกเปลี่ยนที่โดนเธอลากไปพัวพันกับเรื่องวุ่นวายอยู่เสมอ... แต่อยู่มาวันหนึ่งทั้งสองคนก็ถูกดึงเข้ามาพัวพันกับคดีฆาตกรรมบนเรือสำราญ โดยมีความตายของหมอดูคนหนึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่อง และในขณะที่ผู้โดยสารของเรือทยอยล้มตายกันไป ความจริงอันน่าตกตะลึงที่พวกเขาค้นพบคือ...!? นิยายสืบสวนที่มีเด็กสาวอัจฉริยะเป็นตัวเอกเรื่องนี้เปิดฉากขึ้นแล้ว!!

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”