New Release ร้อยรัก : ตามรักข้ามมิติ

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release ร้อยรัก : ตามรักข้ามมิติ

โพสต์ โดย Gals »

บทที่ 1 ความลับในกระบี่

กลางสมัยราชวงศ์หนัน ขุนนางกังฉินคิดการใหญ่ เชื่อกันว่าผู้ครอบครองกระบี่ ?หนานซุนหยี่? จะสามารถรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งได้ปกครองเมืองแต่เพียงผู้เดียว
ใต้เท้าฟู่จงซาน ขุนพลฟู่ที่ฮ่องเต้ทรงไว้วางพระทัยสมคบชาวต่างเผ่าคิดก่อการกบฏและต้องการครอบครองบัลลังก์ จึงบงการ ?กู้ซีเจา? ผู้ที่ได้ชื่อเป็นว่าที่ลูกเขยให้ยึดครองกระบี่หนานซุนหยี่มาจากหลี่หลิงนักโทษที่ถูกทางการยัดเยียดความผิดแล้วลอบหนีออกจากคุกหลวงมาให้จงได้ โดยให้ยืมกองกำลังขุนพลปราบศึกจำนวนห้าร้อยนายไปเป็นผู้ช่วย
?ชีเส้าซัง? ชายหนุ่มวัยสามสิบสองปี รูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาคมคาย ผมยาวไล้บั้นเอวถูกรวบไว้ด้วยเชือกถัก สวมชุดหนังสัตว์สีน้ำตาลตัวยาวเท่าความสูง ที่ปกรอบคอหุ้มไว้ด้วยขนสัตว์ประเภทเดียวกัน หัวหน้าใหญ่ค่ายเหลียนอาน ผู้มีฉายาเทพมังกรชียืนนิ่งสงบอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำ
สายตามั่นคงจับจ้องไปยังบริเวณซอกหินปริ่มน้ำอย่างไม่ไหวติง แม้มีปอยผมกลุ่มหนึ่งไหลลู่ลงปกปิดดวงตาคม และถึงแม้จะมีทวนคู่กายปักอยู่ข้างๆ ก็ไม่คิดจะใช้มัน
ทว่า...ต่อให้สายตาดูมั่นคงอย่างไร ก็ยังคงส่อแววลอกแลกอย่างเห็นได้ชัด
ทุกๆ ครั้งยามจับปลาด้วยนิ้วมือสองนิ้วก็ไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง ทว่าวันนี้เหตุการณ์กลับไม่ได้เป็นอย่างเช่นที่ใจคิด
?โธ่เอ๊ย ศิษย์พี่ใหญ่ วันนี้ท่านเป็นอะไรไป พลาดท่าให้เจ้าปลาน้อยอีกแล้ว?
เสียงที่ดังไล่ตามหลัง เมื่อเส้าซังชักมือกลับจากธารน้ำเป็นเสียงของ ?ลู่จูเฮ่า?
จูเฮ่าคือชายหนุ่มวัยยี่สิบห้าปี รูปร่างผอมแห้ง ผมยาวไล้บั้นเอวเช่นเดียวกับเส้าซัง แต่ถักเป็นเปียไว้สองข้างม้วนพันรอบคอนั่งคุดคู้อยู่ข้างกองไฟ เขาเป็นศิษย์น้องคนที่สองของเส้าซัง
เส้าซังเหลือบมองจูเฮ่าด้วยหางตา แอบลอบถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกฮึดฮัดขัดใจตนเองเป็นอย่างยิ่ง
ฝันร้ายเมื่อคืนนี้ทำให้เขาไม่มีสมาธิเอาเสียเลย
...ยามค่ำ เส้าซังดับเทียนลง ถอดเสื้อคลุมขนสัตว์แขวนไว้แล้วเอนกายลงนอน ไม่นานนักหลังจากที่เคลิ้มหลับไป หูที่คุ้นชินกับความไวของเสียงก็กระดิกขึ้นเล็กน้อย
เพียงเสี้ยววินาที ด้ายแดงแม้เส้นเล็กแต่แข็งแกร่งดั่งเหล็กไหลลอยทะลุผ่านช่องหน้าต่างพุ่งตรงมาที่ตน ไม่ทันที่เส้าซังจะรับมือกับด้ายแดงที่เปรียบเสมือนดั่งอาวุธเข็มพิษที่พุ่งตรงมา พลันด้ายแดงแปรเปลี่ยนเป็นผ้าแพรแดงผืนใหญ่ห่อหุ้มตนเอาไว้ทั้งตัว
พอตั้งสติได้อีกทีผ้าแพรผืนนั้นชักพาตนลอยละลิ่วอยู่บนผืนอากาศ ดิ้นขลุกขลักอย่างไรก็ไม่อาจหลุดพ้นจากพันธนาการได้
ถัดมาจึงมีลมหอบใหญ่ ม้วนตัวอยู่เหนือศีรษะตน เส้าซังเบิ่งตาโตงุนงงกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น สายตาคมวาวจ้องมองหลุมอากาศที่ม้วนตัวอยู่เหนือศีรษะอย่างไม่วางตา วินาทีถัดมาตนก็ถูกผ้าแดงที่ห่อหุ้มไว้เหวี่ยงตนขึ้นไปยังหลุมอากาศนั้น
เส้าซังสะดุ้งตื่น เหงื่อกาฬเต็มใบหน้า สายตากลอกไปมาอย่างตื่นกังวล หัวใจเต้นเร็วมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เพราะอะไรเขาถึงได้ฝันแปลกๆ เช่นนี้ ความฝันที่เพิ่งผ่านพ้นทำให้เขานึกถึงตำนานรักด้ายแดงที่เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับพรหมลิขิตชักพาให้คนที่เป็นเนื้อคู่ได้พบเจอกัน ฝันนี้อาจจะเป็นสัญญาณอะไรสักอย่าง
เส้าซังชักสายตากลับ ทำสมาธิเพ่งมองไปยังธารน้ำอีกครั้ง เขาจะเอาชนะฝันร้ายเมื่อคืนนี้ให้จงได้
ชายหนุ่มตั้งสมาธิอีกครั้ง สายตาคมปลาบจ้องมองสายน้ำไม่ไหวติง จับจ้องปลาตัวน้อยที่กำลังพุ่งตรงมาที่ตน
ฉับ!
เพียงเสี้ยววินาที เส้าซังสามารถใช้ดัชนีสองนิ้วที่ฝึกกำลังจนแข็งแกร่งคีบปลาตัวน้อยได้ หลังจากนั้นจึงสะบัดข้อมือครั้งหนึ่งตรงไปยังจูเฮ่า
?ศิษย์พี่ใหญ่ยอดเยี่ยมไปเลย คราวนี้ข้าก็ไม่ต้องแย่งเจ้าปลาน้อยกับ ?จื่อหลัว? และ ?เซียวจ้าว? แล้ว?
จูเฮ่าพูดขึ้นพร้อมทั้งใช้สองมือรับปลาเป็นๆ ที่ศิษย์พี่ใหญ่โยนมาให้
จื่อหลัวที่จูเฮ่าอ้างถึงคือศิษย์น้องคนสุดท้ายของเส้าซัง ชื่อเต็มๆ คือ ?เมี่ยวจื่อหลัว?
จื่อหลัวเป็นหญิงสาววัยยี่สิบเอ็ดปี หน้าตาจัดได้ว่างดงามชวนมอง ใครเห็นก็ติดตาต้องใจ ทว่ามอมแมม ผมเผ้ายุ่งเหยิง แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มีรอยปะชุนอยู่เต็มตัว
เมื่อได้ยินชื่อของตน จื่อหลัวจึงยู่ปากให้กับศิษย์พี่รองครั้งหนึ่ง จากนั้นจึงได้ขบเนื้อปลาย่างต่อ
?ข้าบอกเจ้าแล้ว เป็นพี่ต้องรู้จักเสียสละ?
เส้าซังพูดต่อ จากนั้นก็เบนสายตาไปยังชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง
?เจ้าย่างปลาไป ส่วน ?เซียวจ้าว? เจ้ามานี่?
หวงเซียวจ้าวเป็นศิษย์น้องคนที่สามของเส้าซัง เซียวจ้าวเป็นคนที่มีฝีมือมากที่สุดในบรรดาผู้ที่เป็นศิษย์น้องของเส้าซัง ชายหนุ่มอายุยี่สิบสี่ปี ร่างกายกำยำ แข็งแกร่ง บุคลิกและการแต่งกายดูดีกว่าจูเฮ่าอยู่มาก
เซียวจ้าวพิงหลังกับต้นไม้ใหญ่ ยังคงนั่งหาวหวอดๆ อยู่ดังเดิม ทำหูทวนลมเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่ศิษย์พี่ใหญ่พูดกับตน
ด้วยอารมณ์ที่อยากจะเอาชนะคัดค้านกับฝันร้ายเมื่อคืนนี้ เส้าซังจึงดึงเอาทวนคู่กายขึ้นมาจากที่ปักดินแล้วเหวี่ยงไปทางเซียวจ้าวอย่างเต็มกำลัง
เซียวจ้าวจึงหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง กลิ้งตัวหลุนๆ หลบทวนสายฟ้าที่ศิษย์พี่ใหญ่ตั้งใจเหวี่ยงเข้าหาตน
?ให้ตายเถอะศิษย์พี่ใหญ่ นี่กะจะฆ่ากันให้ตายเลยหรือยังไงกัน!?
เซียวจ้าวบ่นอุบ หันไปหยิบกระบี่ของตนที่ปักอยู่ข้างกายขึ้นมาบ้าง
เส้าซังกระโดดครั้งหนึ่งก็ไปถึงยังต้นไม้ใหญ่ที่เซียวจ้าวนั่งพิงอยู่ในทีแรก ดึงทวนของตนที่ปักอยู่กับต้นไม้ออกมาแล้วรุกไล่เซียวจ้าวต่อ
?ในบรรดาพี่น้องของข้า เจ้าเป็นคนเดียวที่มีฝีมือดีที่สุด ในทางกลับกันก็ขี้เกียจที่สุดด้วยเช่นกัน?
เส้าซังพูดพลางตวัดทวนกระทบกับกระบี่ของศิษย์ผู้น้อง ดูก็รู้ว่าเขาใช้กำลังเพียงไม่กี่ส่วนที่มีอยู่เท่านั้น การได้ใช้กำลังเสียบ้างอาจทำให้เขาหายจากอาการว้าวุ่นใจ
?หากไม่ยอมฝึกปรือซะบ้าง สักวันฝีมือเจ้าจะถูกปล่อยลงเหว?
ชายหนุ่มยังคงพร่ำสอนศิษย์ผู้น้องต่อไป
จูเฮ่ากับจื่อหลัวต่างก็ปรบมือลั่น ปากก็ร้องตะโกนบอกศิษย์พี่ใหญ่อย่าได้รั้งมือเชียว
?พวกเจ้าสองคนนี่แย่ที่สุด เห็นข้าถูกศิษย์พี่ใหญ่รังแกยังไม่คิดจะช่วย?
จูเฮ่าพร่ำบ่น ขณะเดียวกันก็ใช้กระบี่ในมือต้านรับพลังทวนไร้ทิศทางของศิษย์พี่ใหญ่ทั้งที่เหงื่อแตกซิก เพียงไม่กี่กระบวนท่า เส้นผมปอยหนึ่งของเขาก็ถูกเส้าซังเด็ดจนร่วงหล่นไป
จังหวะที่ศิษย์พี่ใหญ่กำลังจะเกี่ยวปอยผมของตนอีก เซียวจ้าวก็ฮึดสุดกำลัง ตวัดกระบี่สองสามครั้งเกี่ยวพู่ทวนไว้และกระชากอย่างแรงจนทวนหลุดจากมือของเส้าซังลอยออกไป แล้วกระโจนตัวเข้าไปยังพุ่มไม้ที่อยู่ด้านหลัง ทว่าเส้าซังก็ใช้วิชาตัวเบาลอยตัวไปคว้าทวนกลับมากระชับในมือได้ใหม่อีกครั้ง
?อ๊าก!?
จังหวะนั้นเสียงของเซียวจ้าวก็ดังลั่นออกมาจากทางพุ่มไม้ เส้าซังที่เพิ่งกระชับทวนได้รีบกระโจนตัวเข้าไปทางพุ่มไม้ตามเสียงร้อง ส่วนจูเฮ่าและจื่อหลัวก็ทิ้งสิ่งของที่อยู่ในมือพร้อมทั้งคว้าอาวุธคู่กายกระโจนตัวตามเข้าไปยังภายในพุ่มไม้ตามหลังศิษย์พี่ใหญ่ของตน
?ศิษย์พี่ใหญ่ดูนี่ ใครมานอนตายอยู่ตรงนี้ก็ไม่รู้?
เซียวจ้าวเอ่ยเมื่อเห็นศิษย์พี่น้องร่วมค่ายกระโจนตามเข้ามา ฟากเส้าซังโค้งตัวลงนั่งยองๆ แล้วผลักร่างที่นอนคว่ำหน้าอยู่ให้หงายหน้าขึ้น หลังจากนั้นจึงแตะนิ้วมือลงที่ปลายจมูกของคนที่นอนไม่ได้สติ
?ยัง เขายังไม่ตาย?
เส้าซังเอ่ย จังหวะนั้น ?หลี่หลิง? จึงได้รู้สึกตัว อารามตกใจก็ลุกพรวดพร้อมทั้งตวัดกระบี่ในมืออย่างไร้ทิศทาง จูเฮ่าหลบไม่ทันจึงโดนกระบี่เฉียดเบาๆ ที่ต้นแขน
?บัดซบที่สุด!?
เซียวจ้าวสบถ ขณะเดียวกันก็เงื้อกระบี่ของตนหมายจะฟาดฟันคนตรงหน้า
?นั่น...มันอยู่ตรงนั้น...ท่านกู้ นักโทษหลี่หลิงหลบอยู่ตรงพุ่มไม้นั่นขอรับ?
จังหวะนั้นก็มีเสียงของนายทหารนายหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลังของหลี่หลิง นักโทษชายหันหลังกลับไปมองที่ด้านหลังและหันหน้ากลับมาใหม่ อาศัยจังหวะที่กลุ่มคนตรงหน้าเผลอกระชากตัวผู้หญิงไว้แล้วใช้กระบี่จี้ที่คอ
?พวกเจ้าต้องช่วยข้า ไม่อย่างนั้นนางผู้นี้ตาย?
พูดยังไม่ทันจบดี หลี่หลิงก็กระอักเลือดออกมา จื่อหลัวจึงใช้จังหวะนั้นกระทุ้งศอกที่หน้าอกคนข้างหลังอย่างแรงจนจุก แล้วหันกลับมายืนฟากเดียวกันกับพวกศิษย์พี่ของตน
เส้าซังเป็นคนฉลาด ดูก็รู้ว่าท่านอาที่กำลังโค้งตัวหอบอยู่ตรงหน้ากำลังถูกไล่ล่า ส่วนคนกลุ่มใหญ่ตรงหน้า หากเป็นพวกผู้ดีจริงก็คงไม่ใช้วิธีการหมาหมู่ในการไล่จับคน
เมื่อคิดได้ดังนั้นเส้าซังจึงไม่ได้สนใจคำของศิษย์น้องทั้งหมดที่ยุยงให้ส่งผู้ร้ายเข้าปากเสือ ตรงกันข้ามกลับตรงเข้าไปดึงตัวหลี่หลิงขึ้นมาแบกไว้บนหลังพร้อมกับออกคำสั่งใส่ศิษย์ผู้น้องทั้งสามคน
?พวกเราล่อคนกลุ่มนั้นเข้าไปในที่ดักสัตว์ของเรา เซียวจ้าว...เจ้ามีหน้าที่คุ้มครองข้า จูเฮ่า จื่อหลัว พวกเจ้าคอยปล่อยกับดักอย่าให้ทหารกลุ่มนั้นตามพวกเราทัน?
ทันทีที่พูดจบเส้าซังก็วิ่งนำศิษย์น้องทั้งสามคนออกไป เมื่อเป็นเช่นนี้ทุกคนจึงต้องทำตามคำสั่งที่ศิษย์พี่ใหญ่มอบหมายให้ไว้
?ตามพวกมันไป!?
ซีเจาออกคำสั่งเสียงเข้มกับขุมกองกำลังของตน
?กู้ซีเจา? คือว่าที่ลูกเขยของใต้เท้าฟู่ ชายหนุ่มอายุสามสิบสี่ปี ร่างกายกำยำแข็งแกร่งและมีส่วนสูงไม่ต่างจากเส้าซัง สิ่งเดียวที่ต่างออกไปคือบนใบหน้าหล่อเหลาเคลือบไปด้.ียมกว่าเส้าซังหลายเท่าตัวนัก
*******************************************************************************************************
การไล่ล่ากลุ่มคนตรงหน้าเป็นไปอย่างทุลักทุเลเนื่องด้วยไม่ชำนาญในพื้นที่และทิศทาง ทำให้ซีเจาต้องนำกำลังของตนคอยหลบกับดักตลอดทั้งเส้นทาง
ไม่ว่าจะเป็นแผงไม้ไผ่เหลาแหลมที่พุ่งพรวดออกมาจากพื้นดินเป็นทางยาวขนาบทั้งซ้ายและขวาทำให้เสียขุนพลกำลังไปนับร้อยนาย หรือกระทั่งตาข่ายฟ้าฟาดที่พุ่งพรวดแหวกอากาศออกมาอย่างไร้ทิศทางทำให้เสียกำลังขุนพลไปอีกกว่าครึ่งหนึ่งที่เหลืออยู่
เส้าซังพาหลี่หลิงวิ่งข้ามเส้นทางน้ำผ่านไปจนถึงอีกฟากหนึ่ง ก่อนจะปล่อยให้หลี่หลิงลงยืนเองและหันหลังมาเตรียมตัวปะทะกับกลุ่มขุนพลตรงหน้าที่ยังคงเหลืออยู่ไม่มาก
ซีเจากางมือออกทั้งสองข้างเบรกฝีเท้ากองขุมกำลังของตน สายตาทอดมองไปตามแนวเส้นทางน้ำตรงหน้าอย่างระแวดระวังและไม่ค่อยไว้วางใจ เพราะเกรงว่าจะมีกับดักที่ถูกซ่อนอยู่ในผืนน้ำโผล่พ้นออกมาตัดขุมกำลังของตนอีก
?วันนี้ถือว่าเจ้าโชคดีหลี่หลิง แต่ข้าไม่หยุดไล่ล่าเจ้าเพียงเพราะเรื่องแค่นี้แน่?
ซีเจาตะโกนก้อง แล้วจึงเบนสายตาไปทางเส้าซัง
?ท่านเทพมังกรชี แท้จริงแล้วเรื่องนี้ไม่สมควรเกี่ยวกับท่าน แต่ในเมื่อท่านทำให้คนของข้าเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก ข้าจะปล่อยให้ท่านมีชีวิตรอดไปอีกหนึ่งวัน พวกเรากลับ?
ซีเจาพูดจบก็หันหลังให้เส้าซัง แล้วเดินนำขุมกำลังของตนออกไป ฟากเส้าซังหันไปอำลากับท่านอาแปลกหน้าก่อนจะหันหลังให้แล้วเดินนำศิษย์ผู้น้องของตนไปหมายกลับค่าย แต่แล้วหลี่หลิงกลับตะโกนตามหลังขึ้นมาเสียก่อน
?ช้าก่อนท่านเทพมังกรชี ท่านคงเคยได้ยินตำนานของกระบี่หนานซุนหยี่ ที่อยู่ในมือของข้าก็คือกระบี่หนานซุนหยี่?
*****************************************************
ยามค่ำ...ที่ค่ายเหลียนอาน
ค่ายเหลียนอานเป็นที่อยู่ของชนเผ่ากลุ่มเล็กๆ ราวสองร้อยคนเศษ ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังหุบเขาติดกับชายแดน แยกตัวออกมาจากดินแดนภาคกลางและไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของการเมืองและวังหลวง เนื่องด้วยหัวหน้าค่ายต้องการดำเนินชีวิตกับคนในครอบครัวอย่างสงบสุข
ภายในกระโจมอันเป็นที่อยู่ของเส้าซังเวลานี้มีศิษย์พี่น้องอีกสามคนและหลี่หลิงรวมอยู่ด้วย
?...หลังจากที่คนแซ่ฟู่รู้ว่ากระบี่อยู่ในมือข้าจึงได้ปั้นเรื่องทูลความเท็จต่อเบื้องบนว่าข้าคิดกบฏ น่าเสียดายที่ฝ่าบาททรงหูเบาเกินไป ไม่ได้สอบสวนความก็รับสั่งนำข้าขังคุกหลวง หลังจากนั้นข้าก็ถูกลูกน้องคนแซ่ฟู่ทรมานทุกวัน พวกมันหมายจะให้ข้าบอกที่ซ่อนของกระบี่หนานซุนหยี่?
แววตาของหลี่หลิงวาวโรจน์ด้วยความคับแค้นใจ
?สำหรับคนที่คิดคดทรยศต่อบ้านเมือง ข้าจะไม่มีวันยอมให้พวกมันได้เสพสุข ถึงพวกมันจะทรมานข้าทุกวัน ข้าก็ไม่เคยปริปากบอกที่ซ่อนของกระบี่ จนกระทั่งข้าหนีออกมาจากคุกได้ เมื่อกลับถึงจวนจึงได้รู้ว่าญาติพี่น้องของข้าถูกลูกน้องของคนแซ่ฟู่ฆ่าตายหมด ข้าแค้นมากแต่ก็ทำอะไรพวกมันไม่ได้ มีเพียงกระบี่หนานซุนหยี่เท่านั้นที่คุ้มกะลาหัวข้าได้ เพราะว่ามันซุกซ่อนความลับสำคัญไว้ เป็นความลับที่สามารถทำให้คนแซ่ฟู่และครอบครัวมันตายตกไปตามกัน มีเพียงข้าและคนแซ่ฟู่เท่านั้นที่รู้ความลับนี้ คนแซ่ฟู่จึงได้คิดสังหารข้า?
เมื่อเล่าความจบหลี่หลิงยิ่งกอดกระบี่หนานซุนหยี่แน่นกว่าเดิม แววตาที่จับจ้องไปยังกองไฟในทีแรกเปลี่ยนเป็นสบตากับเส้าซังมั่น
?ท่านเทพมังกรชี ท่านได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ทรงความยุติธรรมคนหนึ่งในยุทธภพ ลาภยศอำนาจใดๆ ท่านไม่เคยคิดไขว่คว้ามัน มีท่านเพียงคนเดียวที่ข้าจะกล้าบอกความลับในกระบี่ให้ท่านทราบ เพราะข้าไม่แน่ใจว่าข้าจะยังสามารถมีชีวิตรอดอยู่อีกกี่วัน ท่านคือความหวังของข้าและราษฎร ?ชาวหนัน? ที่จะทำให้แผ่นดินนี้ไม่ตกไปอยู่ในมือของคนชั่วอย่างคนแซ่ฟู่นั่น?
หลี่หลิงพูดพร้อมทั้งกวาดสายตาไปทางศิษย์พี่น้องทั้งหมดของเส้าซังอย่างไม่ค่อยไว้วางใจ ฟากเส้าซังก็เหลือบมองตามสายตาของคนแซ่หลี่ก็พอที่จะเข้าใจความหมายของมัน
?เวลานี้ท่านคงเหนื่อยมากแล้ว ท่านจงพักผ่อนในกระโจมของข้า ส่วนข้าจะไปนอนที่กระโจมของศิษย์น้อง?
เส้าซังพูดพร้อมทั้งลุกเดินนำศิษย์น้องจะออกไปจากกระโจม แต่เมื่อกำลังจะเดินออกไปก็ยังหันหน้ากลับมาหาหลี่หลิงอีกครั้งหนึ่ง
?ท่านหลี่ ท่านไม่ควรที่จะไว้ใจใครง่ายๆ ทั้งๆ ที่เราเพิ่งจะได้รู้จักกัน ความลับของท่าน ท่านก็เก็บเอาไว้เองเถิด ข้าไม่สนใจที่อยากจะเกี่ยวข้องด้วย หากถึงพรุ่งนี้เช้าเมื่อไหร่ท่านจงออกไปจากค่ายของข้าซะ แล้วข้าจะเป็นคนนำท่านออกไปเอง ข้าไม่อยากให้คนของข้าต้องเดือดร้อนเพราะการช่วงชิงอำนาจกันของพวกท่าน?
หลังจากนั้นเส้าซังก็เดินนำเหล่าศิษย์น้องออกไปจากกระท่อม ฟากหลี่หลิงกอดกระบี่ในมือด้วยความกลัดกลุ้ม ขนาดผู้ที่ดำรงความยุติธรรมอย่างเทพมังกรชีก็ยังไม่คิดเข้าข้างเขา
************************************************************
ช่วงที่ฟ้าสาง ประชากรของค่ายเหลียนอานต่างดำเนินกิจกรรมของตนตามปกติ ผู้ใดเลี้ยงม้าก็เลี้ยง ผู้ใดซ่อมแซมก็ซ่อม ผู้ใดหาอาหารก็หา
?ท่านหัวหน้าใหญ่ ข้านึ่งปลามาให้ท่าน?
หญิงชรานางหนึ่งยื่นชามปลานึ่งให้เส้าซัง เขารับเอาไว้พร้อมกับกล่าวขอบคุณเบาๆ รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา เมื่อครอบครัวของเขาต่างก็มีความสุขกันถ้วนหน้า เส้าซังก็รู้สึกปลาบปลื้มใจอยู่มาก
หลี่หลิงก้าวออกมาจากกระท่อม ยิ้มเจื่อนเล็กน้อยเมื่อเผชิญหน้ากับเส้าซัง ด้านเส้าซังยื่นชามปลานึ่งให้กับเด็กชายตัวน้อยที่เดินผ่านมาในจังหวะที่หลี่หลิงก้าวเท้ามาหยุดลงตรงหน้าตน
?ท่านหลี่ ท่านจงตามข้ามาเถิด?
เส้าซังเอ่ยแล้วหันหลังให้หลี่หลิงเดินนำออกไป ด้านหลี่หลิงเดินตามเส้าซังไป สายตาก็เหลือบมองไปรอบตัวอย่างระแวดระวังด้วยเช่นกัน
เส้าซังและหลี่หลิงยังไม่ทันจะก้าวเท้าออกจากประตูค่าย ที่ด้านหลังของทั้งคู่ก็มีกองทัพธนูนับร้อยแหวกอากาศพุ่งแทงพี่น้องค่ายเหลียนอานหลายสิบชีวิตที่กำลังดำเนินกิจกรรมของตนอยู่ในพื้นที่โล่ง!
ทั้งสองคนหันหลังกลับมาถลึงตาโตจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง วิ่งฝ่ากองทัพธนูกลับเข้าไปในค่ายโดยใช้อาวุธของตนเองแกว่งปัดป้องลูกธนูที่พุ่งเป็นแผงมาอย่างไม่ขาดสาย จังหวะนั้นพี่น้องที่พอจะเป็นวิทยายุทธ์จึงได้ตามมาสมทบและช่วยปัดป้องลูกธนูด้วยเช่นกัน
ซีเจาที่ยืนอยู่บนยอดเขา ยกมือขึ้นข้างหนึ่งเป็นสัญญาณให้กำลังพลของตนหยุดมือ สายตาจับจ้องไปยังเส้าซังและหลี่หลิงที่กำลังมองมาที่ตนด้วยแววตาแข็งกร้าว
?ท่านเทพมังกรชี ถ้าหากท่านไม่อยากให้พี่น้องของท่านต้องเสียเลือดเนื้อไปมากกว่านี้ก็จงมอบตัวหลี่หลิงมาให้ข้า คุณงามความดีของท่านในครั้งนี้ข้าจะช่วยทูลต่อใต้เท้าฟู่ให้องค์ฮ่องเต้ทรงปูนบำเหน็จให้กับท่านอย่างงาม?
ซีเจาพูดพร้อมทั้งกำมือทั้งสองข้างขึ้นเมื่อเอ่ยถึงองค์ฮ่องเต้
เมื่อได้ยินเช่นนั้นหลี่หลิงจึงหันหน้าไปทางเส้าซัง ชายวัยกลางคนเห็นเพียงใบหน้าด้านข้างของชายหนุ่มที่กำลังขบกรามแน่นด้วยความคับแค้นใจ ส่วนสายตาก็จับจ้องไปทางซีเจาอย่างแข็งกร้าว
?ท่านเทพมังกรชี ข้าขอโทษที่ทำให้พี่น้องของท่านต้องเดือดร้อน ข้าลาล่ะ?
หลี่หลิงกล่าวอำลา ทว่ายังไม่ทันที่จะได้ก้าวเท้าต่อ เส้าซังก็ยกทวนของตนขึ้นขวางหน้าเอาไว้เสียก่อน
?ท่านไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น ข้าไม่ชอบพวกหมาลอบกัด!?
เส้าซังเอ่ยเสียงเข้ม สายตาจับจ้องไปยังซีเจาที่ยืนตระหง่านอยู่บนยอดเขา
ซีเจากระดกมุมปากขึ้นข้างหนึ่ง พยักหน้าอย่างเย้ยเยาะให้กับเส้าซังเมื่อได้เห็นกิริยาต่อต้านของฝ่ายตรงกันข้าม
?เมื่อเป็นเช่นนี้ท่านก็อย่าหาว่าข้าโหดร้ายกับคนของท่านก็แล้วกัน?
พูดจบซีเจาก็ยกสัญญาณมือขึ้นอีกครั้ง เหล่าขุนพลกองกำลังก็ระดมธนูใส่กลุ่มคนตรงหน้าอย่างไม่ปรานี
?พาพี่น้องเข้าไปซ่อนในอุโมงค์!?
เส้าซังออกคำสั่งเสียงเข้ม ขณะเดียวกันก็ใช้ทวนปัดป้องกองทัพธนูที่พุ่งตรงเข้ามาอย่างไม่ขาดสายเป็นทัพหน้าคู่กับหลี่หลิง
ด้านจูเฮ่า เซียวจ้าวและจื่อหลัวเป็นทัพหลังคอยคุ้มกันเหล่าพี่น้องมุ่งหน้าไปทางอุโมงค์ลับ
?อ้าย...เสี่ยวหลิงลูกแม่?
จึ๊ก!!
ร่างสองแม่ลูกร่วงผล็อยไปต่อหน้าของเส้าซังและหลี่หลิง เมื่อกองทัพธนูมีมากเกินกว่าที่คนเพียงไม่กี่คนจะรับมือได้
เส้าซังกัดริมฝีปากตนด้วยความเจ็บปวด ท้ายที่สุดคนที่เหลือรอดผ่านเข้าไปในอุโมงค์ได้มีไม่ถึงห้าสิบคน เมื่อในระหว่างเส้นทางยังมีกองกำลังที่ซ่อนตัวอยู่ตามพุ่มไม้ดึงคนของค่ายเหลียนอานไว้เป็นตัวประกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือเด็กและผู้หญิง
ซีเจาช่างต่ำช้านัก สั่งให้ลูกน้องของตนฆ่าตัวประกันทีละคนเพื่อกดดันให้เส้าซังและหลี่หลิงออกมาจากที่หลบซ่อน เสียงร้องโหยหวนของชาวเหลียนอานทำให้เส้าซังอดกลั้นต่อไปไม่ได้อีก
?จูเฮ่า เซียวจ้าว จื่อหลัว พวกเจ้าพาพี่น้องของเราหนีออกไปยังปลายทางให้หมด หลังจากนั้นก็ปิดทางออกซะ แล้วล่อซีเจากับกำลังของมันเข้ามาในนี้?
เส้าซังออกคำสั่งเสียงเข้ม จากนั้นจึงได้หันหน้าไปทางหลี่หลิงบ้าง
?ท่านหลี่ ท่านจงไปซะกับพี่น้องของข้า ส่วนข้าขอแก้แค้นให้กับพี่น้องของข้าที่เสียเลือดเนื้อไปทั้งหมด?
?ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านคิดจะ...!?
จื่อหลัวพูดขึ้นเสียงแหลม ก่อนจะมองหน้าศิษย์พี่อีกสองคนอย่างขอความเห็น
?มันไม่จำเป็นเลยศิษย์พี่ใหญ่ พวกเราหนีออกไปพร้อมกันทั้งหมดนี่แหละ แล้วค่อยล่อพวกมันเข้ามาตายในนี้ก็ได้?
จูเฮ่าออกความเห็นบ้าง ทว่ากลับถูกเส้าซังตวาดสวนออกไป
?หุบปากเลยจูเฮ่า เจ้ายังไม่เข้าใจความรู้สึกของข้า ค่ายเหลียนอานต้องมาดับด้วยน้ำมือของข้า แล้วข้าจะกล้าสู้หน้าพี่น้องที่ตายไปในยมโลกได้อย่างไร ทางเดียวที่ข้าจะให้คำตอบกับพวกเขาได้คือข้าต้องเด็ดหัวของซีเจาด้วยตัวของข้าเอง ยังไม่รีบออกไปอีก เจ้ายังต้องการให้พี่น้องของเราตายไปมากกว่านี้หรืออย่างไร ขืนชักช้าพวกมันอาจบุกเข้ามาในนี้ก็เป็นได้?
เมื่อไม่สามารถค้านคำสั่งของหัวหน้าใหญ่ได้ ทั้งสามคนจึงต้องทำตามคำสั่งของเส้าซังด้วยความจำใจ แต่ว่าหลี่หลิงไม่ได้คิดหนีไปกับคนของค่ายเหลียนอานอย่างที่เส้าซังต้องการ
?เพื่อนกินนั้นหาง่าย แต่เพื่อนตายนั้นหายาก ท่านเทพมังกรชี แม้เราจะเพิ่งได้รู้จักกันแต่ท่านยังช่วยเหลือข้าถึงเพียงนี้ แล้วอย่างนี้จะให้ข้าปล่อยให้ท่านต้องต่อสู้กับซีเจาเพียงลำพังได้อย่างไร ถ้ายังไงเราก็มาตั้งรับกับพวกมันพร้อมกันเถิด?
มิตรแท้จะได้เห็นน้ำใจกันเมื่อยามยาก เส้าซังซาบซึ้งใจกับน้ำใจที่หลี่หลิงมอบให้ ทั้งสองคนจับมือกันอย่างเป็นมิตร ต่อจากนั้นเส้าซังก็นำทางหลี่หลิงไปยังที่เก็บซ่อนหีบใบใหญ่ที่ข้างในบรรจุเต็มไปด้วยดินระเบิด

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เมื่อกระบี่ตกอยู่ในมือของโจรชั่ว ?กู้ซีเจา? จึงออกตามล่าและจับตัวมารับโทษให้จงได้ หลี่หลิงหลบหนีการตามล่าจนกระทั่งได้พบกับ ?ชีเส้าซัง? หัวหน้าใหญ่ค่ายเหลียนอาน ผู้ได้รับฉายาว่าเทพมังกรชี เส้าซังและซีเจาต่อสู้กันท่ามกลางเสียงฟ้าร้อง ฝนตกหนัก สายฟ้าแลบที่แฉลบถูกกระบี่วิเศษนำพาให้เกิดลมหอบใหญ่ แรงดึงดูดของมันสูบร่างของเส้าซังและซีเจาให้หลบหายเข้าไปในห้วงอากาศอย่างไร้ร่องรอย
เมืองฮ่องกงปีปัจจุบัน ?เสอเสี่ยวซ่าน? คือผู้ที่ช่วยชีวิตของเส้าซังไว้ ส่วนซีเจาได้รับการช่วยเหลือจาก ?สีซีหยวน? หญิงสาวที่ชาญฉลาดและอ่อนโยน วันเวลาผ่านไป เส้าซังเริ่มถอดใจที่จะค้นหาวิธีที่ทำให้ตนเองกลับไปยังแดนเจียงหนันที่จากมา และด้วยปาฎิหารย์ของ ?ด้ายแดง? นำพาให้เขาและเธอได้พบรักกันแม้ทั้งคู่จะอยู่กันคนละห้วงมิติ
...การไล่ล่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่...
...การใช้ชีวิตในดินแดนที่ไม่รู้จักจะเป็นเช่นไร...
ความรักที่มาจากปาฎิหาริย์ของเขาและเธอจะตราตรึงไปในทุกมิติแห่งรัก


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”