ตอนที่ 1
เจ้าหญิงฮาน่าเสด็จไปรับ ?พระโอรส? จากโรงเรียนกลับที่ประทับ ซึ่งเป็นเพนท์เฮาส์ราคาสุดแพงของย่านนั้นในอเมริกา...ขณะที่รับพระโอรสกลับมากลางทางนั่นเอง...ยางพระราชรถที่ประทับแตก ทำให้ต้องหยุดเรียกช่างมาเปลี่ยน...
ขณะนั้นมีรถเมล์คันใหญ่แล่นเข้ามาจอดปิดท้ายพระราชรถ ขณะที่รถแวนที่เห็นมันจอดอยู่ไกลค่อยๆ ถอยหลังมาหา...และรถตู้อีกคันก็เข้ามาเทียบด้านข้างอย่างเร็ว...
บอดี้การ์ดร่างใหญ่เห็นเช่นนั้นก็รู้ทันทีว่ามันไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว แต่ก็สายเกินไปเมื่อคนในชุดดำโดดลงจากรถเข้าประกบตัวแล้วยิงหัวทันที...ส่วนคนอื่นๆ ก็แยกย้ายกันดึงร่างเจ้าหญิงออกจากรถพระที่นั่งใส่เข้าไปในรถตู้ที่มาจอดเทียบอยู่อย่างรวดเร็ว...ปฏิบัติการลักพาตัวเจ้าหญิงฮาน่าและพระโอรสก็เสร็จสิ้นโดยเรียบร้อยในเวลาเพียงไม่กี่นาทีต่อมา
?พวกแกเป็นใคร...?
เจ้าหญิงทรงถามอย่างพระทัยเย็นและกวาดตามองร่างในชุดดำ...คลุมหน้าด้วยหมวกไหมพรมดำทุกคน...จนมองไม่เห็นหน้าค่าตา
แทนคำตอบ...ทุกคนต่างถอดหมวกให้เจ้าหญิงได้ทอดพระเนตรเห็นดวงหน้าคล้ำเกรียมแดดและรกไปด้วยหนวดเคราจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร...
?พวกแกเป็นใคร...? คนที่ถูกถามไม่ได้ตอบแต่จ้องนิ่งไปยังพระโอรสเหมือนจะมองให้ชัดๆ
?เราเป็นฝ่ายตรงข้ามของเจ้าชายรามิล รู้มานานแล้วเรื่องพระโอรสพระองค์ถูกลักพา แต่ไม่นึกเลยว่าการคาดเดาของเราจะถูกต้องแม่นยำขนาดนี้...นี่ถ้าเจ้าชายรู้ว่าพระโอรสที่หายไปอยู่ตรงนี้ก็คงวิ่งตามมาทันทีเลยล่ะ...?
เจ้าหญิงทรงพระทัยหายเมื่อคนพูดสามารถเดาได้แม่นยำขนาดนั้น
?แล้วแกต้องการอะไร...?
พระดำรัสถามอีกครั้งทำให้คนถูกถามถอนใจ...
?เราว่าเจ้าหญิงน่าจะต้องการแบบเรานะ...แก้แค้นให้สาสมกับที่เจ้าชายรามิลทำกับเจ้าหญิงไง...?
?แล้วเจ้าชายรามิลทำอะไรให้ท่านแค้นใจถึงกับต้องทำแบบนี้?
?มันฉกชิงผลประโยชน์ของเรากลับคืนไปให้พรรคพวกมันจนหมด...จนเราแทบหมดตัว...ไม่เหลืออะไรเลย...?
คำบอกเล่านั้นทำให้ทรงประทับนั่งนิ่ง...กอดพระโอรสไว้อย่างไม่ยอมปล่อย...
?แล้วท่านต้องการอะไรจากเรา...?
?เราต้องการให้เจ้าหญิงสนับสนุนกองกำลังของเราในทุกด้านเพื่อโค่นบัลลังก์เจ้าชายรามิล ทวงทุกอย่างกลับคืน?
เจ้าหญิงถึงกับถอนพระทัยเมื่อได้ยินเช่นนั้น...มันเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่ายที่สุดในความคิดของพระองค์...
?ด้วยการลักพาเรามาแบบนี้น่ะหรือ?
?อย่าทรงกล่าวหาว่า ?ลักพา? เลย เอาเป็นว่าเชิญมาเพื่อปรึกษากันดีกว่า...?
?ด้วยการยิงหัวบอดี้การ์ดเราทิ้งงั้นหรือ??
?ถ้าเราจะเข้าไปขอให้ทรงสนับสนุนโดยดี...พระองค์จะตกลงด้วยหรือ...?
?ก็ไม่จำเป็นต้องฆ่ากันแบบนี้ มันเหมือนบีบบังคับกันทางอ้อมมากกว่า...เราไม่ชอบ...? เจ้าหญิงทรงดำรัสตอบ แล้วสะบัดพระพักตร์หนี ?ปล่อยเราสองแม่ลูกเดี๋ยวนี้...ไม่งั้นก็ไม่ต้องพูดกันอีก...?
?เสียใจเจ้าหญิง...เราไม่สามารถปล่อยพระองค์ได้ นอกจากจะทรงตกลงสนับสนุนเราด้วยพระราชทรัพย์ที่ทรงมี?
?เราไม่มีอะไร...? ทรงปฏิเสธอย่างเฉยเมย
?อย่าโกหกเราดีกว่า...เจ้าชายรามิลให้เงินสดพระองค์มาถึงหมื่นล้านดอลลาร์...มันมากพอจะทรงใช้ไปสิบชาติก็ไม่หมด...?
รายละเอียดที่ทำเอาเจ้าหญิงทรงขมวดพระขนงอย่างทรงสงสัย...
?นี่...เจ้ารู้ได้ยังไง...!??
?เรารู้ทุกสิ่งที่ควรรู้อยู่แล้ว...แต่ถ้าพระองค์ปฏิเสธ...? มันพูดค้าง แล้วเปลี่ยนสายตาไปยังพระโอรส ?ไอ้เด็กคนนี้จะตายเป็นคนที่สอง...และพระองค์ก็จะไม่รอดเช่นกัน...?
มันจบคำพูดด้วยการจ่อปืนมาที่พระเศียรของพระโอรส...พร้อมกับมองดูเจ้าหญิงอย่างรอคำตอบ
?ทรงเลือกเอาว่าทรงต้องการอะไร...ชีวิต...หรือความตาย...?
?ถ้าเราตาย...เจ้าจะไม่ได้อะไรเลย...?
?ไม่เป็นไร...ชีวิตเราเทียบกับเจ้าหญิงไม่ได้อยู่แล้ว...?
?เจ้าชื่ออะไร...? เจ้าหญิงทางถามเมื่อปิดพระเนตรลง...
?มูอิส...?
?เจ้าทำงานให้ใคร...เจ้าต้องบอกเราไม่งั้นเราจะยอมตาย...?
ทรงถามอย่างเด็ดเดี่ยว...และเอาจริง
?นายของเราคือเจ้าของสัมปทานใหญ่หลายอย่างในซากีสถาน...?
?มิน่าเล่า...สัมปทานของนายเจ้าถูกยึดคืนนี่เอง จึงโกรธแค้นนัก...? เจ้าหญิงทรงรู้เหตุผลของมันทันที ?นายของเจ้าทำยังไงถึงหมดตัวได้...ไม่น่าเชื่อ...คนเหล่านี้ร่ำรวยเสียจนเท้าไม่เคยแตะดิน...แล้วยังจะมาบีบบังคับเอาเงินจากเราได้ยังไง...?
?พระราชทรัพย์ที่เจ้าชายตอบแทนคืนให้พระองค์มันมากมายนัก...?
?พ่อของข้าชิงบัลลังก์คืนให้พระองค์...สิ่งที่พระองค์ให้มายังไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ...?
?เพราะฉะนั้นเราจึงสมควรร่วมมือกันในการโค่นพระองค์...?
?นายของเจ้าคือใคร...? ทรงถามใหม่
?เรากำลังจะไปพบเขากันเจ้าหญิง...แต่ข้าขอเตือนว่าอย่าทรงดื้อรั้น...อยากให้ทรงทำอะไรฉลาดๆ เพื่อให้ทรงมีชีวิตอยู่ดูความพ่ายแพ้ของกษัตริย์รามิลด้วยกัน...?
เหตุผลของมันทำให้ทรงแปลกพระทัยพระองค์เองเหมือนกันว่าทำไมไม่ทรงโกรธแค้นเจ้าชายที่ทำกับพระองค์เท่าที่ควร...ทั้งๆ ที่ทรงกู้บัลลังก์คืนให้แท้ๆ...
แต่แล้วเจ้าหญิงก็ต้องถอนพระทัยเมื่อนึกถึงอดีตที่ทรงบุกไปเอาตัวเจ้าชายออกมาจากบ้านหลังหนึ่ง...โดยทิ้งผู้หญิงคนหนึ่งเอาไว้...
เวลานั้นในความรู้สึกของพระองค์...ผู้หญิงคนนั้นไม่มีค่าอะไรแม้แต่นิดเดียว...
แต่เจ้าชายรามิลกลับรักหล่อนเสียจนไม่ยอมยุ่งเกี่ยวกับพระองค์เลย ทั้งๆ ที่ทรงเข้าพิธีแต่งงานด้วย ทรงมั่นคงกับผู้หญิงไร้ค่าคนนั้นตลอดเวลาที่ทรงอยู่กับพระองค์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ...
ทรงสร้างความเจ็บปวดพระทัยให้จนเหลือจะทรงกล่าว...จนกระทั่งเจ้าหญิงได้ตัวพระธิดามา...บีบบังคับให้เจ้าชายรามิลต้องคุกพระชงฆ์ให้...
วันนั้นเช่นกันที่เจ้าหญิงทรงได้รับรู้ว่า...ผู้หญิงคนนั้นมีความหมายกับเจ้าชายเพียงไหน...วันที่เจ้าชายยอมทำทุกอย่างเพื่อเอาพระธิดาที่เกิดกับผู้หญิงคนนั้นกลับคืน...
เจ้าหญิงทรงชนะในวันนั้น...แต่ก็ทรงแพ้ด้วยเช่นกัน เมื่อทรงรู้ว่าความรักที่แท้จริงเป็นเช่นไร
เจ้าชายรามิลไม่ได้ทรงอยากได้พระราชบัลลังก์คืน...หากแต่ทรงต้องการอยู่กับผู้หญิงที่ทรง ?รัก? ตลอดพระชนม์ชีพต่างหาก...
การได้บัลลังก์คืนแล้วถูกยึดทั้ง ?พระวรกายและพระทัย? ให้แต่งงานกับผู้หญิงที่ทรง ?ไม่รัก? จึงเป็นเหตุให้เกิดทุกอย่างขึ้น...
เจ้าหญิงฮาน่าทรงรู้ดี...และทรงยินยอมรับความพ่ายแพ้นั้น...เมื่อทรงเอาชนะเจ้าชายไม่ได้จนต้องคืนพระองค์ให้แก่ ?เจ้าของ? ที่แท้จริงไป...
และคนที่ลักพาพระองค์มาเหล่านี้ก็เช่นกัน...ตลอดเวลาหลายปีที่ทรงรู้จักเจ้าชายรามิล...ทรงรู้ดีว่าทรงเป็นกษัตริย์ที่ซื่อตรง...โดยเฉพาะพระหทัย...
การเสียสัมปทานอันมากมายนับแสนล้านของคนเหล่านี้ เป็นเพราะพวกเขาฉ้อฉล ดำเนินวิธีการผิดพลาดอย่างแน่นอน...ไม่งั้นสัมปทานคงไม่เปลี่ยนมือแบบนี้...
ในเมื่อเขาเอาแต่จะ ?ได้? แล้วใครจะ ?ให้? ฟรีๆ...
เจ้าชายรามิลทรงไม่ยอมอยู่แล้วเพื่อบ้านเมือง...เจ้าหญิงทรงรู้ดี...แต่ในเวลานี้ถ้าพระองค์ ?ไม่ยอม? ...ก็คงต้องถูกพวกมันฆ่าพร้อมพระโอรสในอ้อมพระกรอย่างแน่นอน...
ทรงก้มลงทอดพระเนตร ?พระโอรส? แล้วถอนพระทัยยืดยาว...จะทรงยอมให้ ?พระโอรส? ที่ทรงขโมยมานี้...เสียพระชนม์ชีพอย่างไร้ค่าได้ยังไง...
ทรงนึกถึงวันคืนที่ทรงนั่งเฝ้ามองทารกน้อยอยู่เพียงลำพังพระองค์เดียว จนกระทั่งทรงตัดสินพระทัยจะดูแลรามิลน้อยด้วยพระองค์เอง...จนเติบโตมาถึงบัดนี้...แล้วจู่ๆ จะให้คนเห็นแก่ตัวเหล่านี้มาทำลายพระชนม์ชีพที่บริสุทธิ์นี้ได้ยังไง...เจ้าหญิงทรงคิดเมื่อรถตู้คันนั้นพาพระองค์เลี้ยวเข้ารั้วสูงสีเทา...แล่นไปตามถนนที่ทอดสู่คฤหาสน์ใหญ่เบื้องหน้า...
ทันทีที่ทรงทอดพระเนตรเห็นชีคมุสตาฟา อับดุลเลาะห์ เจ้าของสัมปทานใหญ่ทุกอย่างในซากีสถานที่ทำทุกอย่างหลุดมือเขาไปหมดแล้วในวันนี้...เจ้าหญิงก็พอแน่พระทัยยิ่งขึ้น...
คนคนนี้อาศัยอำนาจของพระบิดาเข้าหาฉกฉวยผลประโยชน์ตั้งแต่พระบิดายังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่เป็นเวลานาน...จนบัดนี้ถูกยึดทุกอย่างคืน...
ชีคมุสตาฟาทรงรู้จักพระองค์ดี...แต่กลับทำเช่นนี้กับพระองค์ได้ลงคอเมื่อไร้ผลประโยชน์...
?เชิญประทับนั่งลงก่อน...หม่อมฉันยินดีอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับพระองค์อีกครั้ง เราไม่ได้พบกันหลายปีเชียวนะ...?
ชีคมุสตาฟาในชุดขาว...สวมอะกาละสีดำไม่บอกตำแหน่งใดๆ ทับผ้ากุตราสีขาวเช่นเดียวกันออกมาต้อนรับเจ้าหญิง...
เขาเป็นชีคหัวหน้าชนเผ่าในทะเลทรายที่ร่ำรวยขึ้นมาเพราะพระบิดาพระองค์ทรงเมตตาปรานีแท้ๆ แต่วันนี้กลับบังอาจ ?ลักพา? เจ้าหญิงมาบังคับให้ทำตามความต้องการของตน ด้วยการบังคับจะ ?เข่นฆ่า?
ทุกคนมองเห็นความผิดของเจ้าชายรามิล ทั้งๆ ที่เจ้าชายไม่เคยทำร้ายเจ้าหญิงแม้แต่ปลายพระนขา...ไม่เคยเห็นแก่ตัวตามประสาผู้ชายทั้งหลายกับเจ้าหญิงเลยสักครั้ง...
ทรงตอบแทนการชิงบัลลังก์คืนให้ทุกอย่าง...ยกเว้นพระหทัย...ที่ทรงมอบให้หญิงอื่นไปแล้ว...ตรงกันข้ามกับคนที่พระบิดาของพระองค์ทรง ?ชุบเลี้ยง? ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าพระองค์เวลานี้ทุกประการ...
?คนของหม่อมฉันคงบอกเหตุผลที่ไปเชิญเสด็จมาแล้วในวันนี้...ใช่ไหม?
ชีคมุสตาฟาถามด้วยทีท่าของผู้ ?ได้เปรียบ? อย่างแจ่มชัด...
?คราวนี้...เจ้าหญิงจะทรงตอบหม่อมฉันได้หรือยัง...?
?เราต้องการเป็นอิสระ...ตัดสินใจอย่างอิสระอย่างที่เราเคยทำ...?
?โอ้...เพื่อให้เจ้าหญิงกับพระโอรสเสด็จหนีกระหม่อมไปดื้อๆ น่ะหรือ...ไม่มีทาง...?
?เจ้าจะขังเราเอาไว้ แล้วบังคับขู่เข็ญเอาเงินของเรารึไง...?
?ไม่ใช่แบบนั้น...แต่เจ้าหญิงต้องทรงสนับสนุนงานสำคัญของเรา...แล้วประทับอยู่กับหม่อมฉันที่นี่...เป็นต้นไป...?
เจ้าหญิงฮาน่าทรงถอนพระทัยเฮือกทีเดียวเมื่อทรงสดับข้อเสนอนั้น...
?ไม่ได้...ไม่อยู่...?
ทรงปฏิเสธทันที...เป็นผลให้ชีคเฒ่าก้าวเข้ามาดึงพระโอรสไปจากพระหัตถ์ทันที...
เพลานั้น เจ้าชายจัฟฟาน้อยทรงดิ้นรนเต็มที่ แต่ความเป็นเด็ก...ทำให้ช่วยพระองค์เองไม่ได้เลย
?ถ้าทรงปฏิเสธ...กระหม่อมจะยิงไอ้เด็กนี่เป็นคนที่สอง...และพระองค์เป็นคนต่อไป?
?ทั้งๆ ที่พระบิดาของข้าช่วยเจ้ามาตลอดงั้นหรือ...?
?แต่ตอนนี้พระบิดาของพระองค์ทิ้งหม่อมฉันไปแล้ว...จนเป็นแบบนี้ไง...ทรงปล่อยให้เจ้าชายรามิลมาทวงทุกอย่างคืนไปหมด...ซึ่งเจ้าหญิงจะต้องทรงชดใช้แทน...?
เจ้าหญิงฮาน่าทรงสดับฟังแล้วรู้ทันทีว่ายากจะเรียกร้องความยุติธรรมจากคนเหล่านี้ ทรงมองพระโอรสซึ่งถูกตรึงอยู่ในมือของลูกน้องของมัน พร้อมกับปืนที่จ่อมายังพระขมับน้อยๆ นั้น...พร้อมยิงทุกเมื่อ...ทำให้ทรงห่วงใยจนไม่อาจจะทำอย่างใดได้...
เจ้าหญิงทรงตัดสินพระทัยจะเลี้ยงดูพระโอรสด้วยพระองค์เองให้เติบใหญ่...และยึดพระโอรสเอาไว้แทนองค์เจ้าชายรามิลที่ต้องทรงสูญเสียไป แล้วจะทรงปล่อยให้พระโอรสเป็นอะไรไปได้ยังไง...
?ก็ได้...ตกลงเจ้าจะเอายังไงบอกมา...ส่งลูกคืนมาให้เรา...?
เพียงประโยคนี้...ชีคมุสตาฟาก็รู้ทันทีว่าจะบังคับเจ้าหญิงได้ด้วยอะไร...
มันมองไปยังพระโอรส และยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ในทันที...
?นั่น...ต้องอย่างนั้น...แล้วพระองค์และพระโอรสจะปลอดภัยทุกประการ...?
มันตอบพร้อมกับพยักหน้าให้ลูกน้องคืนพระโอรสกลับไปในอ้อมพระกรโดยดี...
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่ว่าชาครีจะจูบลงตรงไหน...จะเคลื่อนมืออุ่นของเขาไป ณ ที่ใด จะวนเวียนจูบซับความหวานหอมแบบไหน หรือจะสัมผัสกับความนุ่มนวลชุ่มชื้นยาวนานเท่าใด ทำให้เจ้าหญิงทรงสะท้านสะเทือนไปทั้งพระองค์...แต่ไม่ทรงดิ้นรนหลีกหนี ยอมให้เขาแสวงหาความสุข ความพอใจได้ตามปรารถนา จนเขาพาพระองค์ผ่านพ้นจากความเป็นสาวบริสุทธิ์ไปเป็นภรรยาเขาโดยครบถ้วน...อย่างเต็มพระทัย เจ้าหญิงจึงทรงได้เรียนรู้ว่ามันแตกต่างกันเพียงใด ระหว่างเมื่อวานกับวันนี้เมื่อทรงเป็นของเขาแล้วโดยสมบูรณ์
