New Release : DARK RABBIT ผู้พิทักษ์เจ็ดชีวิต 2

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : DARK RABBIT ผู้พิทักษ์เจ็ดชีวิต 2

โพสต์ โดย Gals »

DARK RABBIT ผู้พิทักษ์เจ็ดชีวิต 2 : พักกลางวันที่<ดวงจันทร์>ปรากฏ

บทนำ ท้องฟ้าที่เทพจันทรามองดูนั้นเป็นสีแดง

นั่นคือความชอบพอรึเปล่านะ?
หรือว่าคือความรักกันแน่?

ว่ากันว่ามีกระต่ายอาศัยอยู่บนดวงจันทร์
กระต่ายใจดีได้ย่างร่างกายของตนมอบให้ชายชราผู้หิวโหย เทพเจ้าประทับใจกับความอ่อนโยนนั้นอย่างมากจึงย้ายให้กระต่ายไปอยู่บนดวงจันทร์

?จริงๆ....ความจริงแล้วตัวที่อยู่บนดวงจันทร์น่ะ คืออย่างอื่นที่น่ารังเกียจกว่านี้เยอะ?

แม้พูดอย่างนั้นไปก็ตาม ฉันก็ยังยิ้มให้กับนิทานปรัมปราเรื่องกระต่ายใจดีและเงยหน้ามองดวงจันทร์ จากนั้นก็ลองนึกถึงความรู้สึกของกระต่ายที่ยอมสละชีวิตเผาตัวเองเพื่อชายชราดู
ความรู้สึกที่อยากทุ่มเทให้ทุกอย่างแม้ต้องสละชีวิต นั่นคือความชอบพอรึเปล่านะ?
หรือว่าคือความรักกันแน่?

?ชอบเจ้านั่นเหรอ?? เขาถาม
ฉันหันกลับไปมอง
ใบหน้าที่อ่อนโยนอยู่เสมอของเขา วันนี้กลับกลายเป็นใบหน้าเศร้าสร้อยอย่างมาก
?........?
แต่ไม่รู้เพราะอะไร ฉันถึงสนใจที่ฉายแสงบนท้องฟ้ายามค่ำคืนมากกว่าเขา
ดวงจันทร์ที่เล่ากันว่ามีกระต่ายอาศัยอยู่
ดวงจันทร์ที่มีกระต่ายใจดีอาศัยอยู่
ดวงจันทร์เต็มดวง
ดวงจันทร์เว้าแหว่ง
เมื่อคอยเฝ้ามองปรากฏการณ์ที่ซ้ำซากไม่จบสิ้นพวกนี้ ฉันก็เกิดเศร้าขึ้นมานิดหน่อย เพราะราวกับ....ราวกับมองดูตัวเองที่อยู่ท่ามกลางความโดดเดี่ยวชั่วนิรันดร์
?........?
เขาถามซ้ำอีกครั้ง
?ตอบหน่อย เธอชอบเจ้านั่นใช่มั้ย??
ฉันพยักหน้าตอบคำถามของเขา
?....อื้อ?
ฉันพยักหน้าที่แดงฉ่าตอบรับ พร้อมกับความรู้สึกลังเลเล็กน้อย
พอตอบไปปุ๊บ เขาก็ทำหน้าละห้อยจะร้องไห้อยู่ภายใต้แสงจันทร์
?งั้น?
?........?
?งั้นฉันจะเป็นยังไงต่อล่ะ??
?....เรื่องนั้น?
?จะทิ้งกันรึไง??
?........?
?โกหกใช่มั้ย? ล้อเล่นกันใช่มั้ย? นี่เธอมองเจ้านั่นแบบ....?
?ฉันชอบเขา?
ฉันพูดออกไปชัดๆ อีกครั้ง เป็นการตอกย้ำความรู้สึกให้ตัวเองรับรู้ไปในตัว
เขาเบะหน้าอย่างโศกเศร้า หน้าตาของเขาตอนนี้เหงาหงอยยิ่งนัก ตรงข้ามกับฉันโดยสิ้นเชิง
?ทำไมถึงชอบคนพรรค์นั้น....?
?........?
?มันแค่มนุษย์ธรรมดานะ?
?........?
?แค่มนุษย์โง่เขลา ขี้ปะติ๋วนะ?
?แต่ว่า....?
ฉันตอบไป
?แต่ว่าอย่างน้อยเขาก็แปดเปื้อนน้อยกว่าพวกเรา?
เพราะอย่างนั้นถึงได้หลงรักเขา
เพราะอย่างนั้นเองถึงชอบเขาไงล่ะ
?เธอไม่ได้สกปรกอะไร....?
ทว่าฉันยิ้ม.... ยิ้มขัดก่อนเขาจะพูดจบ ยิ้มแบบคนดูหมิ่นตัวเอง เยาะเย้ยระคนเศร้าอยู่ในที
?....ฮ่ะๆ อ่อนโยนจังนะ เธอน่ะ....อ่อนโยนเสมอ แต่ดูสิ ดูร่างกายที่แปดเปื้อนไปหมดแล้วนี่ให้ดีๆ?
ฉันพูดพลางกางแขนทั้งสองออก อ้าแขนให้อีกฝ่ายเห็นร่างกายของตนเอง
ผมสีลาเวนเดอร์ยาวเฟื้อย ผิวขาวไร้รอยเปื้อน แขนขายาว หน้าอกที่โค้งนูนขึ้นมา
รูปลักษณ์ภายนอกนั้น
?........?
รูปลักษณ์ภายนอกนั้นอาจสวยงามก็จริง
ทว่าภายใน???มันมืดมิด โสมม ถูกกัดกินจนกร่อนไปหมดแล้วหลังอยู่ภายใต้ความเดียวดายอันนานแสนนาน เพราะคำสาปเดินหน้าไปเรื่อย ในทุกรอบที่ดวงจันทร์เต็มดวง และทุกรอบที่ดวงจันทร์เว้าแหว่ง
ดังนั้นจึงได้ยิ้ม....ยิ้มพร้อมน้ำตาคลอเบ้าเต็มดวงตาสีแดงขี้เล่น
?....ฉันทุกข์เหลือเกิน เหงาเหลือเกิน ก็เลย....เลยต้องทำให้มันจบๆ ไปซะทีไงล่ะ บาลสกรา?
ฉันเรียกชื่อเขา
เขาพูดสีหน้าเศร้าๆ
?ฉันอยากอยู่กับเธอจนวาระสุดท้าย?
แต่ฉันส่ายหน้าปฏิเสธ
?คนที่จะอยู่ร่วมกันในวาระสุดท้ายน่ะ....ฉันอยากเลือกเอง?
?แล้วคนคนนั้นก็ไม่ใช่ฉัน??
?ใช่?
?มนุษย์คนนั้นสินะที่เธออยากอยู่ด้วยในวาระสุดท้าย?
?ใช่?
?เธอยอมตายเพื่อเขา....เพื่อมนุษย์คนนั้นเลยเหรอ??
?ใช่?
?ทำผิดนะ?
?คงอย่างนั้น?
?เธอกำลังทำผิดอยู่?
?ฉันคิดเหมือนกันแหละ?
ฉันตอบกลับไปพลางส่งสายตาขี้เล่นและยิ้มให้บาลสกราด้วยสีหน้าอิ่มเอิบมีความสุข
ให้กับผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนรัก
ให้กับผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนสนิท
ให้กับผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบุพการี
ให้กับผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบุตร
ให้กับผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นนาย จากนั้นฉันก็ยิ้มให้เขาแบบสุขปนเศร้า
?แต่ว่านะบาลสกรา ฉันรักเขา....รักไทโตะจริงๆ ถึงขนาดที่....?

<ถึงขนาดที่ร่างกายอมตะนี้จะหายไป ฉันก็ไม่แคร์....>

ดวงจันทร์เต็มดวง
ดวงจันทร์เว้าแหว่ง
แต่ดวงจันทร์นั่นกลับมีสีแดง
แดงฉานประหนึ่งเลือด
ดวงจันทร์ถูกย้อมเป็นสีแดงสดในคราวเดียวอย่างมืดมน อย่างเข้มข้นจนรู้สึกถึงลางร้าย
?........?
เมื่อมองมันทีไร ฉันมักรู้สึกเศร้านิดหน่อยทุกครั้งไป


บทที่ 1 รุกราน

เมื่อมนุษย์เติบโตจนอยู่มัธยมปลาย ย่อมมีอะไรสลักซับซ้อนหลายเรื่อง เช่น แฟนคนแรก จูบครั้งแรก
อ่า~ อะไรครั้งแรกๆ ทั้งหลายแหล่นั่นแหละ
สมัยอยู่มัธยมต้นเคยคิดเรื่อยเปื่อยว่าพอขึ้นมัธยมปลายแล้วชีวิตเราจะเจออะไรทำนองนี้บ้างมั้ยนะ ประมาณว่าเรื่องแบบผู้ใหญ่ๆ ล่ะมั้ง?
มีแฟนแล้วมาโรงเรียนด้วยกัน มีการจู๋จี๋ทำนองว่า นี่เค้าทำข้าวกล่องมาให้ตัวเองนะ กินสิจ๊ะ~ ? หรือวิ่งหยอกล้อหัวร่อต่อกระซิกกันริมหาด
เคยแอบวาดฝันไว้เล็กๆ ถึงชีวิตแบบนี้ จินตนาการนิดๆ หน่อยๆ ว่ามันต้องมีเรื่องสนุกอะไรสักอย่างรออยู่ แต่
?........?
แต่คุโรกาเนะ ไทโตะ
?........?
ไม่เคยนึกฝันแม้แต่น้อยว่าชีวิตมัธยมปลายนั่นจะป่าเถื่อนและตึงเครียดเช่นนี้
เรื่องเกิดตอนพักกลางวัน เหตุการณ์ป่าเถื่อนและเต็มไปด้วยความตึงเครียดที่ว่าเกิดขึ้นตอนพักกลางวันนี่เอง หลังเรียนวิชาคณิตศาสตร์คาบสี่จบ และระฆังดังได้ไม่นานนัก
จู่ๆ เด็กสาวก็ถามเขา
?นี่ๆ ไทโตะ วันนี้จะซื้อขนมปังร้านในโรงเรียนกินเหมือนเดิมรึเปล่า??
ไทโตะหันมองข้างๆ
?อื๋อ??
สาวน้อยคนที่ชวนคุยเมื่อกี้นั่งอยู่โต๊ะติดกันนี่เอง
เด็กสาวผมดำสวยประบ่า ดวงตาส่วนตาดำกลมโต สวมกระโปรงจีบกับชุดนักเรียนปกกะลาสีของโรงเรียนมิยาซากะ
ชิกุเระ ฮารุกะ เพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กของเขา
เขากับเธอเป็นเพื่อนที่ดวงสมพงศ์กันแต่เด็ก อยู่ข้างบ้านกันมาตั้งแต่ ป.6 แถมพอเข้าเรียนที่โรงเรียนมิยาซากะแห่งนี้เมื่อฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาก็ยังได้นั่งข้างกันอีก และฮารุกะคนนั้นทำหน้าตาดีอกดีใจมองเขายกใหญ่ เหมือนกับกำลังวางแผนอะไรไว้ในใจ
?นี่ๆ นี่ๆ?
อีกฝ่ายพูดย้ำจนน่ารำคาญ
?....มีอะไรล่ะ?? ไทโตะเอ่ยปากถาม
?ก็ฉันถามอยู่ไงว่าวันนี้ตอนพักกลางวัน ไทโตะจะซื้อขนมปังโครเกต์ที่ร้านโรงเรียนกินเหมือนเดิมใช่มั้ย?? ฮารุกะพูดอีกหน
?พักกลางวัน??
?อื้อ?
?อ้อ เออเนอะ กะว่าจะซื้อกินอยู่....อ๊ะ หรือเธอจะฝากฉันซื้ออะไรจากร้านด้วย? คิดจิกหัวใช้กันล่ะซี่??
ไทโตะทำหน้าทะเล้นถาม ฮารุกะพยักหน้าตอบรับง่ายๆ
?ถูกต้อง~ เอาล่ะ นายเบ๊ไทโตะคุง ไปซื้อน้ำส้มให้ท่านฮารุกะเดี๋ยวนี้~?
?อ้าว ตกลงใช้ไปซื้อจริงดิ เออเอาเถอะ ไหนๆ ก็จะไปอยู่แล้ว ซื้อให้ก็ได้ งั้นส่งเงินมา?
?เลี้ยงหน่อย!?
?หา? เธออย่ามาพูดเป็นเล่นนาเฮ้ย?
ฮารุกะยิ้มอย่างมีความสุข
?มุกพวกนั้นเบรกไว้ก่อนแล้วกัน?
?งั้นรีบๆ ส่งเงินมาเลย?
?ถึงอย่างนั้นฉันก็ให้เงินไม่ได้ร้อก?
ไทโตะหรี่ตามองเมื่อได้ยินสำเนียงการพูดของเธอที่เปลี่ยนเป็นกวนประสาทฉับพลัน
?เอ่อ อะไร? เธออยากทำอะไรกันแน่??
เธอยิ้มอีกครั้ง แล้วตอบว่า
?เพราะว่าดิฉันเป็นพวกไม่ดื่มน้ำส้มระหว่างรับประทานอาหารเจ้าค่ะ!?
เธออธิบายเรื่องไม่เป็นเรื่องด้วยคำพูดที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนจะเคยโผล่ในโฆษณา เสร็จแล้วยังหยิบกระติกน้ำเล็กๆ จากกระเป๋าออกมาอวดให้เขาดูอีกต่างหาก
?แน่นอนว่าฉันคนนี้อยู่ฝ่ายสนับสนุนน้ำชา!?
?จะรู้มั้ยเล่า?
?เอ๋!? รู้อยู่แก่ใจแท้ๆ แหม~?
?....เอ่อ อ่า~ เป็นเพื่อนกันมาตั้งหลายปี ไอ้รู้มันก็รู้หรอก....แต่ตกลงเธอพูดอะไรตั้งแต่เมื่อกี้แล้วน่ะ? ไม่ได้จะฝากฉันซื้อของจากร้านโรงเรียนรึไง??
?ไม่ใช่ค่ะ?
?งั้นอะไร??
พอไทโตะถามไปปุ๊บ เธอก็ยิ้มอย่างมั่นใจพร้อมแฝงเลศนัยไว้นิดๆ ดวงตากลมดิ๊กสีดำคู่นั้นมองมายังเขา เธอพูดต่อว่า
?เอ่อนี่?
?อื้อ?
?พอดีวันนี้ฉันบังเอิญตื่นเช้า?
?หืม?
?ก็เลยโชว์ฝีมือบรรจงทำข้าวกล่องซะหน่อย แต่ทำเยอะไปนิดนึงน่ะ....?
เมื่อเธอพูดมาถึงตรงนี้ ไทโตะก็ตาโต ตามมาด้วยอาการร่างกายแข็งทื่อ
?........?
นั่นเพราะว่าไทโตะรู้ตัวเข้าแล้ว
ชัดเจนมาก
เขารู้ตัวว่าขณะนี้กำลังเกิดเรื่องใหญ่ร้ายแรงอย่างชัดเจนขึ้นที่นี่
?........?
ที่จริงเขาคิดว่าป่านนี้คนในห้องคงรู้กันหมดแล้วว่าเรื่องใหญ่ร้ายแรงกำลังจะเกิด ก็แหม เพื่อนสาวน่ารักตั้งแต่สมัยเด็กเล่นเปรยเรื่องทำข้าวกล่องเยอะไปให้ฟังตอนพักกลางวัน แบบนี้ท่าจะอันตรายแล้วใช่มั้ยล่ะ? อันตรายมากใช่มั้ยล่ะ? เพราะมาไม้นี้แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปย่อมเป็น???

เอ้านี่ไทโตะ ข้าวกล่องทำเองจ้า
?
คนในห้องพากันแซววี้ดว้ายโห่ฮิ้ว
?
คู่รักบังเกิด!!

เหตุการณ์อะไรทำนองนี้แน่ๆ เท่านั้นไม่พอ ฮารุกะยังเป็นที่ชื่นชอบของพวกผู้ชายในห้องอีกด้วย พวกนั้นจะต้องเข้ามาต่อว่าไม่ให้เหลิงได้ใจและสั่งให้ผู้โชคดีอย่างเขากินอะไรสักอย่าง เช่น ขนมปังยากิโซบะขึ้นราที่ถูกนำมายัดไว้ในโต๊ะ ถึงบ่นกระปอดกระแปดไปว่าการกระทำแบบนี้คือการกลั่นแกล้ง พวกนั้นคงตอบกลับมาว่าเมื่อวานเพิ่งตั้งกฎใหม่ให้สามารถรังแกผู้โชคดียังไงก็ได้! มีโอกาสมากทีเดียวที่เขาจะถูกต่อว่าต่อขานอะไรงงๆ ประมาณนี้ การได้กลุ้มใจเรื่องพวกนั้นแหละคือชีวิตมัธยมปลายแสนสนุก
?........?
สมัยอยู่มัธยมต้น ไทโตะเคยแอบจินตนาการ???ชีวิตมัธยมปลายสนุกสนานไว้
ไทโตะเคยวาดภาพชีวิตมัธยมปลายธรรมดา เฮฮา และหนักอกกับปัญหาไร้สาระ
?........?
แต่มัธยมปลายของจริงนั้นไม่ใช่
ชีวิตมัธยมปลายของจริงนั้นอย่างกับหนังคนละม้วน
ไม่รู้ไปกดปุ่มอะไรตรงไหนพลาด ชีวิตของเขาจึงแหกโค้ง 180 องศาอย่างไม่ทันตั้งตัว ครูดกับตามทางจนผิดปกติไป
?........?
มาถึงตรงนี้ ฮารุกะก็พูดขึ้น เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงน่ารักและมีความสุข ประหนึ่งไม่สังเกตเห็นชีวิตประจำวันที่ผิดปกติไปอย่างเงียบๆ นี้เลย
?ฉันเลยทำข้าวกล่องมาเผื่อไทโตะด้วย~ นึกขอบคุณฉันแล้วกินซะนะ~?
สังคมจะมองผู้หญิงที่ทำข้าวกล่องมาให้ผู้ชายยังไงนั้น สีหน้าของฮารุกะตอนที่กำลังพูดบ่งบอกชัดว่าไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย
คนในห้องพากันอื้ออึง ส่งเสียงแซวโห่ฮิ้วตามคาด หลายคนทำหน้าตัดสินใจแล้วว่าจะเตรียมขนมปังยากิโซบะขึ้นราไว้ต้อนรับ ไทโตะทำหน้าลำบากใจมองไปรอบตัว
?........?
ทว่า
ทว่าทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้นไม่ได้สำคัญกับไทโตะตอนนี้เลย
เพราะเหตุร้ายแรงจริงๆ
?........?
เหตุร้ายแรงจริงๆ กำลังเกิดขึ้นในอีกสถานที่หนึ่ง
สายตาของไทโตะมองไปยังเพดานห้องเรียน
เพดานสีขาวที่ไม่ได้ผิดแผกจากทั่วไป และมีหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ติดอยู่ 4 หลอด
แต่กลับมีเงางูดำขยับเขยื้อนเหมือนกำลังว่ายน้ำอยู่ในนั้น ตัวงูไม่ปรากฏให้เห็น มีเพียงเงาเลื้อยพล่านไปทั่วผิวเพดาน ไม่รู้ว่ามาจากไหนและเมื่อไหร่ มันเข้ามาอยู่ในห้องเรียนอย่างไม่ทันสังเกต เลื้อยส่ายไปมาบนเพดาน และเงานั่นก็ค่อยๆ เคลื่อนจากเพดานลงมาที่ผนัง ไปยังกระดานดำ ลงมาถึงพื้นตามลำดับ และว่ายตัวพลิ้วมาจนกระทั่งถึงใจกลางห้องเรียน
เพียงแวบเดียว มันกระโจนพรวดออกมาจากพื้นแค่แวบเดียวเท่านั้น พุ่งเข้าหาไทโตะกับฮารุกะ
?นี่เดี๋ยวๆ~ สามีภรรยาจู๋จี๋อะไรกันตั้งแต่เมื่อกี้แล้วยะ หยุดเลย~?
เงานั่นปกคลุมทะมึนทั่วร่างของเด็กสาวชื่อซาคาอิ ซาโตมิที่เข้ามาแซวอย่างสนุกปาก ซาโตมิทำหน้าตกใจกำลังจะส่งเสียงกรี๊ด ทว่าเสียงนั้นไม่มีโอกาสได้ดัง เพราะเงาพันม้วนเอาร่างของเธอกลับเข้าไปในพื้นเพียงชั่วครู่เดียว ไม่ทันไรร่างของซาโตมิก็หายไปจากห้องเรียนแล้ว
แต่กลับไม่มีใครสังเกตเห็นเหตุการณ์นี้
เหตุการณ์เกิดขึ้นไวมาก เลยไม่มีใครสักคนมองตามทัน
?อ้าว ซาโตมิล่ะ?? เด็กสาวคนหนึ่งถามขึ้น
?เอ๊ะ? เมื่อกี้ยังอยู่ตรงนั้นหยกๆ....อ้าว ไปเข้าห้องน้ำรึเปล่านะ?
?ไหนบอกว่าจะกินข้าวกล่องด้วยกันแท้ๆ?
?เดี๋ยวก็กลับมาน่า?
แม้บทสนทนาจะดำเนินไปเช่นนั้น แต่ไทโตะรู้ดีว่าหากนิ่งดูดายต่อไป ซาคาอิ ซาโตมิจะไม่มีวันกลับมาอีกเลย
ความจริงไทโตะเห็นงูโผล่มาตั้งแต่ตอนยังเรียนวิชาคณิตศาสตร์คาบสี่เมื่อหลายสิบนาทีก่อนแล้ว
จู่ๆ ก็มีเมลส่งเข้ามือถือของเขาระหว่างกำลังเรียนคณิตศาสตร์อยู่ ผู้ส่งเมลมาคือ คุเรไน เกคโคคุง ท่านประธานนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้ เมลฉบับนั้นเขียนไว้ว่า
?คำสั่งถึงเหล่าทาส ตอนนี้รู้แล้วว่ามีงูพิลึกจากต่างมิติแอบเข้ามาในห้องสภานักเรียนเมื่อคืน เจอเมื่อไหร่ให้รีบจับมันซะ?
ไทโตะตอบเมลกลับไปทันที
?หา? อยู่ๆ เกิดอะไรขึ้นน่ะ??
มีเมลตอบกลับมาหลังจากนั้นไม่นาน
?อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกเหรอ? กระจอกเอ๊ย?
?ว่าใครกระจอกนะ??
?นายไง?
?ฉันไม่เคยอนุญาตให้นายเรียกว่ากระจอก?
?แค่พูดความจริงเฉยๆ?
?อย่ามาลามปาม แล้วทำไมฉันต้องฟังคำสั่งนายด้วยวะ อย่ามั่วนิ่มลากฉันไปเป็นสมาชิกสภานักเรียนตามใจชอบสิ เดี๋ยวฆ่าทิ้งหรอก?
?ฆ่า? พวกกระจอกน่ะนะจะฆ่าฉัน? ฮ่ะๆ อย่าทำให้ขำนักซี่ คิดว่าใครกันที่ช่วยชีวิตเน่าๆ ของนายไว้ ขนาดหมามันยังไม่ลืมบุญคุณ นี่จะทำตัวต่ำช้ากว่าหมาอีกรึไง เจ้าบ้า?
?ฉันขอร้องให้นายช่วยเรอะ เจ้าโง่?
?นายแหละโง่?
?นายแหละ?
?นายต่างหาก?
การโต้เถียงที่ไม่ต่างจากเด็กประถมฯ นี้ยาวต่อเนื่องตลอดคาบคณิตศาสตร์ และนี่คือเมลฉบับสุดท้ายของท่านประธานนักเรียนกวนประสาท
?เอาเถอะ นายจะไม่ช่วยก็ได้ แต่เตือนไว้อย่างนึง งูมันจับคนกินนะจะบอกให้?
คุเรไน เกคโคส่งเมลมาบอกเช่นนั้น และงูพิลึกนั่นก็จับเพื่อนร่วมห้องไปให้เห็นจะจะต่อหน้าต่อตาอย่างที่ในเมลว่าไว้จริงๆ
ภาพเหตุการณ์นี้ไม่มีทางเกิดขึ้นในชีวิตมัธยมปลายปกติธรรมดาหรอก
?....ปัดโธ่ มันกินจริงเหรอเนี่ย?
ไทโตะลุกขึ้นยืน ตั้งท่าจะไล่ตามเงางูตัวนั้นไป
ฮารุกะที่เอาข้าวกล่องออกมาคากระเป๋าอยู่ก็ต้องทำหน้าแปลกใจอุทาน เอ๊ะ? กับท่าทางของไทโตะ ส่วนพวกเพื่อนในห้องที่ห้อมล้อมอยู่ต่างพากันเงียบกริบ ทำหน้าสงสัยว่าพวกตนแซวหนักไปรึเปล่า
ไทโตะแก้ตัวพัลวัน
?....อ้า เอ่อ ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ....เอ อ่า ขะ ขอโทษที ฮารุกะ ฉันมีงานของสภานักเรียนนิดหน่อย ต้องไปห้องสภานักเรียนตอนกลางวัน ไม่มีเวลากินข้าวกลางวันหรอก....?
พอพูดจบ เขาถึงรู้ว่าตัวเองทำพลาดแล้ว พลาดมากๆ ซะด้วย เพราะเมื่อกี้เพิ่งบอกเองแหม็บๆ ว่าจะไปซื้อขนมปังจากร้านโรงเรียน แล้วอยู่ๆ ดันโพล่งว่ามีงานของสภานักเรียนจนไม่มีเวลากินข้าวนี่คืออะไร! อย่างนี้มันก็ฟังเหมือนหาข้ออ้างเพราะไม่อยากกินข้าวกล่องเลยน่ะสิ โง่รึเปล่าวะเนี่ย!
ไทโตะกำลังจะทำหน้ามุ่ย แต่ฮารุกะกลับละห้อยหน้าเศร้าสร้อยก่อนไทโตะจะทันทำหน้ามุ่ยซะอีก สีหน้าของเธอดูเสียใจนิดหน่อย ไทโตะเห็นท่าไม่ดีจึงจะพูดแก้ตัวเพิ่ม แต่ฮารุกะก็กลับมายิ้มดังเดิมเร็วกว่าที่ไทโตะจะทันแก้ตัวใดๆ
ยิ้มแย้มอย่างไม่มีเหตุผล และ....
?อะ อ้อ จริงด้วยเนอะ! ลืมไปเลยว่าไทโตะได้เข้าสภานักเรียนแล้วนี่นา ถ้าเป็นงานของสภานักเรียนก็ช่วยไม่ได้แหละนะ!?
เธอพูดพลางยิ้มแฉ่งแบบไม่ติดใจสงสัยอะไร พร้อมกับยัดข้าวกล่องที่เอาออกมาเมื่อกี้กลับลงไปในกระเป๋า
ตอนนั้นเอง ที่ไทโตะกำลังจะอธิบาย
?ไม่ใช่นะ เธอเข้าใจผิด....?
?ไทโตะอยู่รึเปล่า~??
อยู่ๆ มีเสียงเด็กผู้หญิงดังแทรกขึ้น
สายตาของนักเรียนในห้องมุ่งไปทางเดียวกัน ไทโตะมองตามอีกคน เสียงดังมาจากทางเข้าห้องเรียน เด็กสาวคนหนึ่งโผล่หน้ามาตรงทางเข้า ด้อมๆ มองๆ ภายในห้อง
เด็กคนนั้นสวมชุดนักเรียนปกกะลาสี กระโปรงจีบสีแดงของโรงเรียนมิยาซากะ
ผมยาวสีลาเวนเดอร์ที่เปล่งประกายระยิบระยับเจ็ดสียามต้องแสงนั่นไม่มีทางพบได้ในคนญี่ปุ่นแน่นอน ผิวขาวไร้รอยเปรอะเปื้อนเหมือนเครื่องดินเผาเคลือบ จมูกโด่ง ริมฝีปากสีชมพูสวยมันเงา ร่างกายอ้อนแอ้นทรวดทรงดี และดวงตาสีแดงขี้เล่น
นักเรียนในห้องที่เห็นเธอ ไม่ว่าใครต่างก็หยุดหายใจกับความงามเหนือมนุษย์กันทั้งสิ้น

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?ถ้าคิดจะเลี้ยงแม่มดวิปลาสอย่างไซโตฮิเมอาคนนั้นไว้ล่ะก็....คอยระวังการล่วงล้ำจาก ?ดวงจันทร์? ให้ดี?
จุดเริ่มต้นมาจาก ?ข้อความฝาก? ประโยคเดียวของฮินาตะที่ตายไปแล้วถึงเกคโค ดวงจันทร์สีแดงปรากฏเหนือโรงเรียนมิยาซากะ พร้อมกับมีฝนที่กัดกร่อนร่างกายของพวกไทโตะโปรยปรายลงมาในเวลาเดียวกับที่ข้อความมาถึง
?ข้อความฝาก? นั้นคือกับดักหรืออย่างอื่นกันแน่...ขณะที่ทุกอย่างยังเป็นปริศนา ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่างอีกครั้งกับฮิเมอา....
?ไทโตะ อย่ามองตัวฉัน...ที่แปดเปื้อนอย่างนี้เลยนะ?
ไทโตะจะผิดพลาดซ้ำสองเหมือนเมื่อ 9 ปีก่อนงั้นหรือ?
เรื่องราวแฟนตาซีการคืนชีพในรั้วโรงเรียนที่ขอสาบานว่า ?จะไม่ปล่อยให้เธอโดดเดี่ยวเด็ดขาด?


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”