?จี! ถอยออกไปก่อน? ร่างเล็กยันมือเข้าที่อกแกร่งของคนตรงหน้าพยายามรวบรวมกำลังที่มีเพียงน้อยนิดทั้งผลักทั้งดันให้เขาถอยออกห่าง
หากแต่ร่างสูงก็ทำเพียงแค่หัวเราะในลำคอและกวาดสายตาที่มีนัยน์ตาสีเทาเข้มมองไปทั่วทั้งดวงหน้าหวานเกินชายของคนที่อยู่ในอ้อมกอด
?เร็น!! ฉันรักนายนะ? สายตาชวนวาบหวามนั้นทำเอาคนถูกมองถึงกับอายม้วน
?อย่าพูดบ้าๆ นะจี นายจะรักผมได้ยังไง นายเป็นผู้ชายและผมเองก็เป็นผู้ชาย?
?แต่ฉันรักนาย ?? เขายังคงเน้นย้ำคำพูดเดิม ต่างตรงที่คราวนี้เขาคลายอ้อมกอดและใช้มือยันกำแพงเพื่อกักร่างบางไว้ในอาณัติ ใบหน้าหล่อคมคายเลื่อนเข้ามาใกล้จนปากของทั้งคู่สัมผัสกันในที่สุด
ผู้ถูกกระทำจำต้องหลบตาหน้าตาหูเหอแดงเถือกจนจีเนียสยิ้มขำ และดูเหมือนว่าเขาจะพอใจมากเลยทีเดียวที่เห็นเร็นเขินอายขนาดนี้ ร่างสูงยังคงเบียดร่างเข้ามาใกล้ มือที่เคยยันกำแพงจนสุดแขนบัดนี้เปลี่ยนเป็นใช้ท่อนแขนยันกำแพงเอาไว้แทน
ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นทำให้เร็นจำต้องก้มหน้าลงอย่างจำนนเพราะรู้ดีว่าไม่มีทางสู้รบปรบมือกับคนตรงหน้าได้เลย แต่ถึงกระนั้นความพยายามก็ไม่ได้หายไปหมดซะทีเดียว เร็นยังคงพยายามพูดโน้มน้าวจิตใจจีเนียสไปเรื่อยๆ และได้แต่หวังว่าเขาจะปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระสักที
?พอเถอะจีเนียส ผม...?
?ผม?? จีเนียสกระซิบถามเสียงเบาที่ข้างหู พลางกดจูบลงบนลำคอระหงของคนในอ้อมแขน เร็นถึงกับตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก คำพูดที่กลั่นกรองเพื่อจะโน้มน้าวคนตรงหน้าหายไปจนหมด
?(_///_)?
?ฉันบอกว่ารักก็คือรักนะเร็น และเมื่อรักแล้วก็ไม่มีทางยอมปล่อยมือง่ายๆ? มือหนาประสานเข้ากับมือเรียวเล็กเป็นเชิงบ่งบอกว่าเขาไม่มีทางปล่อยเร็นไปจริงๆ
?แต่...? เร็นเองก็รู้สึกดีไม่แพ้กัน เพียงแต่เขาไม่แน่ใจกับความรักระหว่างชายกับชายเลยสักนิด
?ไม่มีคำว่าแต่...สำหรับความรักหรอกเร็น?
จีเนียสพามือเร็นที่เขากอบกุมเอาไว้มาวางลงบนอกด้านซ้ายตำแหน่งที่มีก้อนเนื้อขนาดเท่ากำมือเต้นอย่างบ้าระห่ำ สายตาเชื่อมปรอยทำให้คนถูกมองต้องก้มหน้าหลบตาอีกครั้ง
หัวใจของเร็นเองก็เต้นแรงไม่แพ้จีเนียสเลย ราวกับว่าหัวใจทั้งสองดวงกำลังเต้นในจังหวะเดียวกัน เต้นอย่างบ้าระห่ำจนเจ้าของเองก็แทบจะบ้าตามไปด้วย
?(_///_)?
?มองหน้าฉันสิเร็น?
ไม่พูดเปล่า มือเรียวยาวอีกข้างยื่นไปสัมผัสใบหน้าและเชยคางคนร่างบางที่เอาแต่หลบตาให้เงยหน้าขึ้นสบตากัน เขายิ้มใส่ดวงตาก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาใกล้ ริมฝีปากเม้มจนเป็นเส้นตรงเมื่อใบหน้าหล่อเข้มอยู่ในระยะประชิด แต่ก่อนที่ริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มจะถูกครอบครอง เสียงเล็กๆ ก็เปล่งออกมาจากลำคอซะก่อน
?ดะ เดี๋ยวก่อน O_O?? เร็นเบิกตากว้างแล้วดันแผงอกจีเนียสให้เขาถอยห่าง
?ทำไมล่ะ เรารักกันไม่ใช่เหรอ? คนดีของจี?
พอเจอคำพูดแบบนั้นเข้าไป คนร่างเล็กก็เหมือนกับหมดแรง มือที่ดันเขาออกห่างเงียบสงบลงและเปลี่ยนเป็นโอบกอดร่างสูงเอาไว้
?ฉันรักนาย ?? คนตัวสูงพูดย้ำก่อนจะพรมจูบลงบนแก้มเนียนใส
?ไม่เอาน่าจีเนียส ผมอาย และที่ตรงนี้มันเป็นที่สาธารณะนะ ถ้ามีคนมาเห็นเข้าจะทำยังไง (_///_)?
?ก็ดีสิ! เขาจะได้รู้ไงว่าเรารักกัน? ว่าจบจมูกโด่งก็จรดลงบนแก้มขาวอีกข้างอย่างถือสิทธิ์
?นายเอาเปรียบผมอีกแล้ว?
?ฉันอยากเอาเปรียบนายไปตลอดชีวิต?
?บ้าเหรอ (_///_)?
?นายน่ารักมากเลยนะรู้ตัวรึเปล่า?
ใบหน้าเนียนสวยค่อยๆ เงยขึ้นสบตาคนตัวสูงกว่า นัยน์ตาเชื่อมปรอยทำให้เขาไม่กล้าสบตาคู่นั้นนาน แต่พอจะหลบกลับถูกคนตรงหน้าล็อกท้ายทอยเอาไว้ ใบหน้าหล่อคมเข้มโน้มมาใกล้ ปลายจมูกของคนทั้งคู่สัมผัสกันแผ่วเบา จีเนียสหยุดทุกอย่างไว้เพียงเท่านั้น รอยยิ้มแพรวพราวผุดขึ้น เนิ่นนานที่คนทั้งคู่สบตากัน
?นายแน่ใจแล้วเหรอจีเนียส? เร็นเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาอย่างคนไม่มั่นใจ
?นายอยากให้ฉันพิสูจน์มั้ยล่ะ?
?พิสูจน์??
แทนคำตอบทั้งหมด ใบหน้าหล่อเข้มฉายแววเจ้าเล่ห์ค่อยๆ โน้มลงมาเอียงใบหน้าจนได้องศาที่ต้องการ เขายิ้มใส่ดวงตาคนที่ยืนตะลึงงันทำอะไรไม่ถูกราวกับว่าถูกสะกดไว้ด้วยเวทมนตร์ของเมดูซ่าอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่ใบหน้านั้นจะเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง ริมฝีปากบางเคลื่อนเข้าใกล้ริมฝีปากเล็กน่ารักของคนตรงหน้า ก่อนจะ...
?ยัยอิ๊งค์!!!! ตื่นได้แล้ว?
อ๊ากกกกก =[]=!!!!
?แม่อ่ะ!! ขัดตลอดเลย?
ฉันบ่นเสียงเบาด้วยอารมณ์หงุดหงิด นิยายวาย* สุดเลิฟของฉันกำลังจะถึงจุดไคลแมกซ์อยู่แล้วเชียว อีกนิดเดียวพระเอกกับนายเอกจะได้ลิ้มรสริมฝีปากกันอยู่แล้ว
แม่นะแม่!! ขัดถูกเวลาตลอดเหมือนรู้ทัน แล้วแบบนี้เมื่อไหร่ฉันจะได้เป็นนักเขียนนิยายวายชื่อดังกันล่ะ ?
ชีวิตอิ๊งค์คนนี้มันช่างยากลำบากจริงๆ ค่ะ T^T มันผิดมากรึไงนะที่เด็กสาววัยละอ่อนอย่างฉันจะชอบเขียนนิยายวาย ไม่สิ! ไม่ใช่แค่ชอบสักหน่อย ฉันมุ่งมั่นจะเอาดีด้านนี้เลยก็ว่าได้ เพราะอะไรน่ะเหรอ แน่นอนว่ามันต้องมีแรงบันดาลใจบางอย่าง แม่ฉันเป็นนักเขียน พ่อฉันก็ด้วย ท่านทั้งคู่เป็นนักเขียนค่ะ งานเขียนของแม่ได้รับความนิยมมากถึงขั้นถูกซื้อไปทำละครทีวีจนโด่งดังเป็นพลุแตก ส่วนงานเขียนแนวสืบสวนสอบสวนของพ่อก็ได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่ากัน ได้ยินแว่วๆ มาว่ามีค่ายหนังขอซื้อนิยายของพ่อไปสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วยล่ะ แต่ทั้งหมดก็ยังคงอยู่ในขั้นตอนของการเจรจาอ่ะนะ แต่ฉันในฐานะผลผลิตของนักเขียนผู้โด่งดังคงไม่เดินตามรอยท่านทั้งสองซะทีเดียวหรอก บอกตรงๆ ไม่อยากซ้ำ เพราะงั้นฉันถึงได้มุ่งมั่นที่จะเขียนนิยายวาย และตั้งใจจะเขียนให้ดังกว่านิยายชายหญิงธรรมดาๆ ของท่านทั้งสองเลยด้วย วะฮะฮ่า ^O^
แต่ก็อย่างนี้ทุกที พออารมณ์ฉันกำลังมาก็มักจะมีอะไรมารบกวนตลอด T^T เพราะเป็นอย่างนี้นิยายของฉันจึงไม่ไปไหนสักที และไหนจะหน้าที่การเป็นนักเรียนอีกล่ะ ยิ่งเรียนมัธยมปลายปีสุดท้ายแล้วด้วย มันเป็นไปไม่ได้เลยที่นักเรียนโรงเรียนนานาชาติไวส์ หรือที่ใครๆ เรียกสั้นๆ ว่า WIS จะไม่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ที่นี่น่ะขึ้นชื่อเรื่องการจัดการเรียนการสอนที่ดีเลิศ และมีคุณครูที่ยอดเยี่ยม รวมทั้งมีอุปกรณ์การเรียนรู้ที่ครบครัน เพราะเป็นแบบนี้ในหนึ่งวันของฉันตลอด 17 ปีที่ผ่านมาจึงมีแต่นิยายกับการเรียน การเรียนกับนิยาย เท่านี้จริงๆ
?อิ๊งค์!!! เรียกไม่ได้ยินเหรอ แม่บอกให้ตื่นไง? คราวนี้นอกจากเสียงแม่แล้วยังมีดนตรีประกอบเป็นเสียงเคาะกระทะอีกต่างหาก เห็นทีต้องรีบลงไปรายงานตัวแล้วล่ะ ถ้าขืนช้าอีกหน่อยมีหวังได้เจอวิทยายุทธ์กระทะบินแน่ๆ
?มาแล้วค่า!!!?
ฉันวิ่งลงบันไดมาอย่างไวกว่าแสง พ่อนั่งอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ตะวันตกอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ในขณะที่แม่ยืนตีหน้ายักษ์อยู่ในครัว พอสบตาแม่เท่านั้นแหละขนลุกซู่เลย เวลาแม่ฉันโกรธน่ากลัวมากนะจะบอกให้
?เขียนนิยายวายจนดึกจนดื่นอีกแล้วใช่มั้ย และทำไมยังใส่ชุดเมื่อวาน =_=++?
แน่ะ! รู้ทันอีกแล้ว ทั้งๆ ที่ฉันไม่ได้บอกอะไรเลยนะเนี่ย นอกจากจะไม่บอกแล้วยังอุบเงียบอีกด้วย
แต่...ชุดเมื่อวาน (-_-?) หมายความว่าไง
?เปล่านะ! อิ๊งค์ไม่ได้เขียน แล้วอะไรของแม่เนี่ย เมื่อวานอะไรแม่ เมื่อวานก็วันเสาร์ไง และวันนี้ก็วันอาทิตย์สีแดง?
?วันอาทิตย์บ้านแกเหรอ วันนี้วันจันทร์ และแม่ก็ได้ข่าวว่าแกเปิดเทอมวันนี้ด้วย =_=?
?อย่ามาอำ ไม่ตลกเลยแม่ วันจันทร์อะไร วันนี้วันอาทิตย์ชัดๆ? ฉันยังคงตั้งหน้าตั้งตาชี้แจงอย่างไม่ลดละ มั่นใจมากเลยนะว่านี่มันวันอาทิตย์ชัดๆ และอีกเดี๋ยวฉันจะดูวู้ดดี้เกิดมาคุยแล้วด้วย
?สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับท่านผู้ชมเข้าสู่เรื่องเล่าเช้านี้ เช้าวันจันทร์ที่ XX เดือน XX ปี XXXX?
พ่อที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเปิดทีวีเสียงดังจนฉันต้องหันไปมอง (-_-)( -_-)
ตายล่ะหว่า นั่นมันคุณลุงสรยุทธ์กับพี่ไบร์ทคนสวยนี่หว่า และเมื่อกี้พี่แกบอกว่า ?ขอต้อนรับท่านผู้ชมเข้าสู่เรื่องเล่าเช้านี้ เช้าวันจันทร์ที่ XX เดือน XX ปี XXXX?
เช้าวันจันทร์ =[]=!!!
?ทำไมแม่ไม่เตือนอิ๊งค์ล่ะ T[]T? ฉันหันไปเบะปากบีบน้ำตาใส่แม่ที่ยืนทำกับข้าวสบายใจอยู่ในครัว
?ถ้าแกไม่เอาแต่เขียนนิยายวายจนไม่ดูเดือนดูตะวัน แกก็คงไม่ลืมคืนลืมวันแบบนี้หรอก?
?ทำอย่างกับตัวเองไม่เคย ??
?ยังจะมายืนเถียงแม่อีก เดี๋ยวก็เขวี้ยงด้วยแครอทเลย? แครอทหัวโตๆ ถูกยกขึ้นเหนือหัว T_T แม่ทำท่าเหมือนจะทำร้ายลูกสาวเพียงคนเดียวจริงๆ อย่างนั้นแหละ
?แม่อ่ะ T_T ก็อิ๊งค์อยากเป็นนักเขียนเหมือนพ่อกับแม่นี่นา?
?ไปได้แล้ว ชิ่วๆ?
แม่อ่ะ ? ไล่ลูกสาวอย่างกับหมาเลย เชอะ!! ไม่น่าเชื่อเลยว่าฉันจะเขียนนิยายจนลืมวันลืมคืน ลืมนอนด้วยซ้ำ มิน่าล่ะตอนที่นั่งเขียนอยู่นั้นถึงรู้สึกว่าหนังตามันหน่วงๆ พิกล
ฉันน่ะ...ท่าจะเป็นเอามากจริงๆ น่ะเนี่ย
1
ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะโก๊ะขนาดนี้ ไม่สิ! เขาเรียกว่าคนมีความมุ่งมั่นสูงมากกว่า มุ่งมั่นในการเขียนนิยายจนลืมวันลืมคืน นี่ถ้าสมองของฉันแล่นฉิวเหมือนเมื่อคืนนะ ความฝันก็คงเป็นจริงได้ไม่ยาก แต่...มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นตลอดน่ะสิ บางทีฉันควรจะหาหนุ่มคนใหม่มาจิ้นกับเร็นดีมั้ยนะ เพราะกับจีเนียสน่ะมันไม่มีอะไรที่น่าจิ้นอีกต่อไปแล้วล่ะ =_=
ถึงจีเนียสจะหล่อเหลาและมีหุ่นที่แสนจะเพอร์เฟกต์ แต่เขาก็เอื่อยเฉื่อยเกินไปและค่อนข้างจะเก็บตัว แถมยังไม่ค่อยคุยกับใครอีก เขาแทบจะไม่คบเพื่อนเลยด้วยซ้ำ วันๆ เอาแต่จมอยู่กับตำราเรียนและคู่มือการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เพราะเป็นแบบนั้นตลอดสองปีนิดๆ ที่เรียนห้องเดียวกันมาฉันจึงแทบไม่ได้คุยกับเขาเลย บางทีฉันก็เผลอคิดไปว่า ถ้าฉันต้องการจะคุยกับเขาจริงๆ ไม่ต้องแปลงร่างเป็นหนังสือก่อนรึไงถึงจะเข้าใกล้เขาได้
?หายเข้าไปอยู่ในโลกของตัวเองอีกแล้วสินะ? พรพิมที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเรียนข้างๆ กันเอ่ยขึ้นเมื่อฉันเอาแต่นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
?ฉันแค่กำลังหาแรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องต่อไปต่างหาก? ฉันตอบเสียงเนือยก่อนจะทอดสายตามองไปที่สนามหญ้า
?เรื่องเก่าจบรึยังเหอะ?
ดูมัน! นอกจากจะไม่ให้กำลังใจแล้วยังบั่นทอนกันอีก ฉันไม่เถียงหรอกนะว่าตั้งแต่เริ่มเขียนนิยายมาเกือบ 5 ปี ยังไม่มีนิยายสักเรื่องที่มีคำว่า The end แปะในไฟล์เวิร์ด แต่ฉันผิดเหรอที่อยู่ๆ ก็ไม่มีอารมณ์จะเขียนเรื่องนั้นแล้ว ก็คนมันไม่มีอารมณ์นี่นา ขืนดันทุรังเขียนไปก็ได้กลับมาเพียงแค่นิยายสั่วๆ เท่านั้นแหละ
?เฮอะ! แกไม่เข้าใจหรอกพรพิม?
?ฉันก็ไม่อยากจะเข้าใจหรอก?
?นิยายวายน่ะมันมหัศจรรย์จะตายไป แกน่ะมันพวกตาไม่ถึงของ?
?แกน่ะมันพวกวิปริต?
แรงอ่ะ TOT พรพิมหาว่าฉันเป็นพวกวิปริตอ่ะ เจ็บจี๊ดๆ นะ
?ไอ้พิม!! แกอยากตายใช่มั้ย? ฉันตะโกนเสียงดังพร้อมกับคว้าการ์ตูนวายที่เพิ่งซื้อเมื่อเช้าขึ้นมาชูเหนือศีรษะเตรียมฟาดสุดแรง หากแต่พิมไหวตัวทันวิ่งหนีไปซะก่อน
ฮึ่ม! ฉันไม่มีทางยอมแพ้แกหรอกนะ มาหาว่าฉันเป็นพวกวิปริตมันต้องโดนจัดหนักๆ
เราทั้งคู่วิ่งไล่กันไปทั่วทั้งชั้น ชนคนนู้นบ้างคนนี้บ้างก็ช่างประไร เพราะตอนนี้คนเดียวที่ฉันต้องการตัวคือพิม ยัยเพื่อนปากเสียของฉัน
แฮ่กๆๆ เหนื่อยอ่ะ ทำไมพิมมันถึงได้วิ่งเร็วนาดนี้นะ ไม่ไหวแล้วล่ะ ฉันยกธงขาวยอมแพ้และยืนหอบตัวโยนเกาะขอบประตูในขณะที่พิมแลบลิ้นปลิ้นตาเยาะเย้ยฉันอยู่ตรงระเบียงสุดทางเดิน
ฝากไว้ก่อนเถอะยัยเพื่อนบ้า
?แก!!! คนหล่อมา >O<? มิกะ...สาวลูกครึ่งญี่ปุ่นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนของฉันวิ่งดี๊ด๊าหน้าตาตื่นมาหยุดตรงหน้าฉัน ในมือถือของพะรุงพะรังอย่างกับเธอเพิ่งไปช๊อปปิ้งตลาดเช้ามาเลยล่ะ
?ใครหล่อ?? ฉันพยายามเค้นเสียงพูดด้วยความเหนื่อยหอบ
?ฉันไง ^^?
หะ หา O_o?
?เร็น!!!? ฉันแทบจะกระโดดขี่คอคนที่ปรากฏตัวที่หน้าห้องเรียน เร็นเพื่อนรักของฉันยืนยิ้มกว้างอยู่ตรงนั้น ฉันปรี่เข้าไปหามันพลางจับไม้จับมือและหมุนตัวมันไปมา
เร็นน่ะตั้งแต่เด็กแล้วที่เรารู้จักกัน และตั้งแต่ตอนนั้นที่ฉันมักจะรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าเขาเสมอ ก็ดูใบหน้าสวยๆ ดวงตากลมโต ริมฝีปากรูปกระจับ จมูกโด่งได้รูป ผิวขาวอย่างกับหิมะของเขาสิ ไม่มีส่วนไหนเลยที่ไม่เหมือนผู้หญิง แต่ดูเร็นตอนนี้สิ ปิดเทอมหน้าร้อน 3 เดือนกับการที่เร็นได้ไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ทำให้เขาดูมีกล้ามเนื้อมากขึ้น สังเกตจากกล้ามแขนที่โผล่พ้นแขนเสื้อสีขาวประทับตราโรงเรียนและส่วนสูงที่เหมือนจะเพิ่มขึ้นนั่นสิ
?ถ้าแกจะมองฉันขนาดนี้ล่ะก็ ให้ฉันแก้ผ้าเลยป่ะ??
?ดีๆๆ ^O^?
?ไอ้หื่น =.,=?
?แกไปทำอะไรกับผมมา? ฉันเอ่ยถามพลางยื่นมือสัมผัสเส้นผมสีบลอนด์เงินระต้นคอที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสีดำมาก่อน
?ก็ไปย้อมมา เบื่อ อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้าง? ว่าจบมือเรียวยาวก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบอะไรบางอย่าง ฉันมองเขาอย่างมีความหวัง บางทีสิ่งที่เร็นกำลังจะเอาออกมานั้นอาจจะเป็นของขวัญจากต่างประเทศสำหรับเพื่อนรักอย่างฉันก็เป็นได้
เร็นหยิบบางอย่างออกมาก่อนจะรวบผมและมัดเป็นหางม้า ผมด้านหน้าถูกตัดเป็นหน้าม้าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเขารวบผมไว้แบบนี้ เร็นในเวลานี้ดูเหมือนผู้หญิงจนฉันตกใจ ปัดโถ่!! เมื่อกี้เพิ่งแอบชมไปเองนะว่าเขาดูแมนขึ้น
O_O!!! เมื่อก่อนสภาพมันก็ยิ่งดูเคะ** แต่ตอนนี้ที่เร็นทำผมแบบนี้มันสุดยอดของความเคะเลย ขอบอก!!!
?อย่าทำหน้าหื่นได้ป่ะ ขนลุกว่ะ?
?ก็แกสวยนี่นา ^-^?
?ฉันหล่อต่างหาก สวยที่ไหนกัน =_=?
ณ จุดนี้สีหน้าเร็นดูเซ็งมาก นี่มันยังไม่ชินกับความสวยบนใบหน้าตัวเองอีกรึไง
?สวยตรงหน้าฉันนี่ไง? ฉันบอกออกไปพลางยิ้มกว้าง ?เร็นจ๋า แล้วของฝากอิ๊งค์ล่ะจ๊ะ? ฉันแบมือไปตรงหน้าอย่างมีความหวัง
?=_= ว่าแล้วเชียวมันต้องถามหาของฝาก? เร็นทำหน้าเซ็งหนักแล้วตั้งท่าจะเดินกลับห้องเรียนตัวเองที่อยู่ถัดจากห้องฉันไปสองห้อง
?เดี๋ยวก่อนเพื่อนรัก แกจะไม่รอเจอแฟนแกก่อนเหรอ? ถ้าจีเนียสปรากฏตัวตอนนี้คงดี บางทีอาจจะมีอะไรให้ฉันเก็บไปจิ้นบ้างอะไรบ้าง
?แฟน O_o? ใครแฟนฉัน? เร็นทวนคำและจ้องหน้าฉันเขม็ง
?ก็...? ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบประโยค แฟน (ในจินตนาการ) ของเร็นก็เดินเข้ามาพอดิบพอดี อะไรมันจะเหมาะเจาะขนาดนั้นนะ ?จีเนียส!?
O_o? หมอนั่นทำหน้าเหรอหราภายใต้กรอบแว่นแล้วหยุดยืนตรงข้างๆ เร็น แหม~ ไหล่สัมผัส เห็นแล้วมันชวนจิ้น =.,= จะว่าไปถ้าหากสองคนนี้มีโอกาสใกล้ชิดกันอีกสักหน่อยล่ะก็นะ มันคงช่วยทำให้ต่อมจิ้นของฉันทำงานได้ง่ายกว่านี้ และนิยายของฉันก็คงคืบหน้ากว่านี้อีกเยอะเลย
สงสัยล่ะสิว่าฉันจับสองคนนี้มาจิ้นกันได้ยังไง ฉันเองก็ยังแปลกใจเลย อาจจะเพราะเคมีของเด็กเรียนมันเข้ากันล่ะมั้ง จีเนียสก็เรียนเก่งมากตามชื่อเขาน่ะแหละ ส่วนเร็น...ไม่อยากจะบอกเลยว่าหมอนี่มันเรียนเก่งมาก แบบว่าในสมุดผลการเรียนไม่มีเกรดอื่นเลยนอกจาก A
?สวัสดี? ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มน้อยๆ และแค่ชั่วพริบตารอยยิ้มนั้นก็หายไปราวกับไม่เคยปรากฏบนใบหน้านั้นสักครั้ง ก่อนดวงตาสีเทาเข้มภายใต้กรอบแว่นที่มองใบหน้าฉันก่อนจะหันไปมองเร็น ?สวัสดีนายด้วยนะ?
จีเนียสโค้งตัวลงทักทายก่อนจะเดินผ่านเราไป ฮึ้ย! คู่นี้มันชวนให้ต่อมจิ้นระเบิดซะจริงๆ =.,=
?ไอ้อิ๊งค์ = =++? มือเรียวกุมใบหน้าฉันที่หันตามจีเนียสให้กลับมามองหน้าเขา สายตาเร็นตอนนี้เหมือนมันกำลังโกรธฉันมากเลย แต่ช่างปะไร ฉันไม่แคร์
?อะไร? แกหึงเหรอ ฉันแค่มองไม่ได้อยากเป็นเจ้าของสักหน่อย? ฉันยังคงแกล้งเย้าเร็นต่ออย่างสบายอารมณ์
?แกเลิกจับคู่ให้ฉันกับผู้ชายสักทีได้มั้ย มันขนลุกเข้าใจป่ะ?
?มีอารมณ์อ่ะเด่ะ? ฉันพูดเสียงกวนประสาทและตบบ่าเร็นป้าบนึง
?เออ!! ฉันมีอารมณ์? ฮั่นแน่ะ! ยอมรับหน้าตาเฉยซะด้วย
?มีอารมณ์อยากเตะแกไง?
เหวย!! O_O ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ตั้งตัว เร็นก็ก้าวเข้ามาหาพลางยกขาขึ้นสูง นั่นมันจะเตะฉันจริงๆ งั้นเหรอ ถ้ามันจริง อิ๊งค์ก็ขอลาล่ะจ้า~
พักกลางวัน
ก็พอจะรู้และทำใจได้แล้วหรอกนะกับโรงอาหารที่แสนจะวุ่นวายในช่วงพักกลางวันน่ะ แต่วันนี้มันวุ่นวายมากเกินไปรึเปล่า ฉันนั่งเท้าคางอย่างไม่สบอารมณ์พลางสอดส่ายสายตาไปทั่วเพื่อมองหามิกะที่บอกว่าจะไปซื้ออาหารตั้งแต่เมื่อ 20 นาทีก่อน จนป่านนี้หล่อนก็ยังคงไม่กลับมา ไม่ทราบว่าไปช่วยแม่ค้าเกี่ยวข้าวอยู่รึไงกัน
?แก ฉันได้ยินมาว่าปี 3 ห้อง A มีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามาด้วย เขาบอกว่าหล่อบรมเลยนะจ๊ะ?
ตายยากชะมัด นึกถึงปุ๊บก็โผล่มาปั๊บเลยทีเดียว
?แกสนใจฉันบ้างสิอิ๊งค์ =_=++? นอกจากพูดแล้วยัยมิกะยังเรียกร้องความสนใจจากฉันด้วยการดึงหนังสือนิยายที่ฉันกำลังอ่านไปเก็บไว้ที่ตัวอีกต่างหาก
?มีใครหล่อกว่าเร็นเพื่อนฉันอีกเหรอ? ฉันถามเสียงเนือยก่อนจะยื้อหนังสือของตัวเองกลับมา
?อาจจะไม่หล่อกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าความหล่อบนใบหน้าเด็กใหม่จะน้อยกว่าเร็นนะ?
?จะหล่อสักแค่ไหนกันเชียว?
สงสัยคำพูดสบประมาทของฉันคงไปสะกิดต่อมโมโหของยัยมิกะเข้า หล่อนจึงแย่งหนังสือของฉันไปอีก แต่คราวนี้มันเล่นยัดเข้าไปในเสื้อนักเรียนอีกต่างหาก ถ้ามิกะเป็นผู้ชายฉันคงไม่ลังเลเลยที่จะล้วงเข้าไปในนั้นแล้วแย่งของของฉันกลับมา =.,= แต่ตอนนี้ติดตรงที่หล่อนเป็นผู้หญิงไง
?นั่นไงแก คนนั้นแหละ O///O? ดวงตาแบ๊วของยัยมิกะเบิกโพลง เธอลุกขึ้นยืนแล้วชี้เข้าไปในกลุ่มเพื่อนห้องเร็นที่ฉันคุ้นหน้าดี ในกลุ่มพวกนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งเพิ่มขึ้นมาจริงๆ ด้วย แต่น่าเสียดายที่เขาหันหลังให้เรา =_=
?ก็หล่อดีนะแก ^_^? พิมว่าพลางบิดตัวไปมา
?เห็นแค่แผ่นหลังก็ประเมินได้แล้วเหรอว่าเขาหล่อ?
?บอกว่าหล่อก็หล่อสิ =_=+++?
?ใช่ๆ มิณทร์หล่อมากๆ เลยขอบอก? ดวงตามิกะแวววาวเป็นประกาย ใบหน้านี่แบบเคลิ้มอย่างกับเขาคนนั้นมายืนอยู่ต่อหน้ายังไงยังงั้น
โดนรุมซะแล้ว =_=
?คนนั้นชื่อมิณทร์เหรอ? ยัยพิมตาวาวเอ่ยถามมิกะที่นั่งเชิดทำตัวเยี่ยงผู้รู้
?ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เหมือนได้ยินเพื่อนเขาเรียกอ่ะ?
?อะโธ่ เราก็นึกว่ารู้จริง?
?ถ้าแกแน่จริงก็สืบประวัติเขามาให้พวกฉันสิ?
?ทำไมฉันต้องทำอะไรแบบนั้น ไร้สาระชะมัด สู้เอาเวลาว่างไปจิ้นเร็นกับหนุ่มๆ ไม่ดีกว่าเหรอ >///<? ฉันวางท่าไม่ใส่ใจแต่ในหัวกำลังคิดอะไรดีๆ บางอย่าง
บางทีถ้ามิณทร์หล่อจริงๆ เขาอาจจะเป็นแรงบันดาลใจใหม่ในการเขียนนิยายของฉันก็ได้นะ
ฉันเลิกสนใจยัยพวกนั้นแล้วตั้งหน้าตั้งตากินก๋วยเตี๋ยวที่อืดเต็มชามอย่างตั้งอกตั้งใจ เหลือเวลาอีกไม่นานแล้วสำหรับช่วงพักกลางวันแสนสุข เราต้องรีบทำเวลา ฮึบๆ
?ฉันไปนะ ฝากเก็บด้วย?
หลังจากเลื่อนชามก๋วยเตี๋ยวอันว่างเปล่าไปไว้ใกล้ๆ ยัยพวกนั้นแล้วฉันก็รีบคว้าหนังสือนิยายของฉันที่ยัยมิกะวางไว้บนโต๊ะก่อนจะสาวเท้าวิ่งไปหาเร็นที่ห้องเรียนอย่างเร่งรีบ
ใครบอกกันว่าฉันไม่สนใจจะเห็นหน้านักเรียนใหม่ อันที่จริงฉันสนใจมากๆ เลยด้วย อยากเห็นว่าจะหน้าตาดีสักแค่ไหนกันเชียว และถ้าเขาหน้าตาดีอย่างที่มิกะโม้ไว้จริงๆ ล่ะก็ นิยายเรื่องใหม่ของฉันจะได้ถือกำเนิดสักที
ตึกๆๆๆ
ฉันหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้อง 3A มือข้างหนึ่งเกาะขอบประตูเอาไว้แล้วชะเง้อคอมองหานักเรียนใหม่ที่ว่า แต่ไม่มีเลย ห้องเรียนแทบจะว่างเปล่าด้วยซ้ำ บนเก้าอี้ตัวหนึ่งข้างหน้าต่างมีใครบางคนฟุบหลับอยู่ตรงนั้น เรือนผมสีบลอนด์เงินที่สะท้อนแสงแดดนั่นไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร
?เร็น? ฉันสะกิดเขาเบาๆ เมื่อเดินเข้าไปใกล้
?หือ? คนนอนหลับงัวเงียลืมตาขึ้นมา เขากะพริบตาถี่มองหน้าฉันก่อนใบหน้าสวยจะแลดูเหมือนเซ็งจัด =_=
?ถามอะไรหน่อยดิ? ฉันส่งสายตาอ้อนวอนแบบที่ไม่เคยทำกับเร็นมาก่อนเผื่อว่าการกระทำเช่นนี้จะทำให้เร็นยอมเล่าอะไรดีๆ ให้ฉันฟังบ้าง
?ถามอะไร? ไม่ให้ถาม คนจะหลับจะนอน? น้ำเสียงเร็นหงุดหงิดมาก แต่ฉันไม่ถอดใจหรอกนะ ขอบอก
?เขาบอกว่าห้องแกมีนักเรียนย้ายมาใหม่ จริงเหรอ??
?จริง? ว่าจบก็ฟุบหน้าลงที่โต๊ะอีกครั้ง
?แล้วหน้าตาเป็นไง หล่อมั้ย?? ฉันคะยั้นคะยอถามพลางเขย่าแขนเร็นอย่างแรง
?ฉันไม่รู้?
?แกจะไม่รู้ได้ยังไงก็แกอยู่ห้องเดียวกับเขานี่นา? ฉันเพิ่มแรงเขย่าแขนเร็นอีกจนหมอนั่นตัวสั่นไปหมด สุดท้ายแล้วเขาก็ทนไม่ได้ลุกขึ้นนั่งตัวตรงแล้วส่งสายตาพิฆาตใส่ฉัน
?ฉันเป็นผู้ชาย ฉันจะมองว่าผู้ชายหล่อได้ยังไงวะ?
?อ้าวเหรอ =O= ฉันคิดมาตลอดว่าแกเป็นผู้หญิง?
โป๊ก!
?ไอ้บ้านี่ TT^TT!? มะเหงกลงหัวฉันลูกเบ้อเร่อเลย เจ็บแปลบบบบบ~ ?ฉันแค่ล้อเล่นน่า ก็แค่คิดว่าแกเป็นผู้ชายที่เหมือนผู้หญิงม้ากมาก ยิ่งทำผมแบบนี้ยิ่งเหมือนผู้หญิงเข้าไปอีก?
?ฉันว่าแกกลับไปก่อนที่ฉันจะมีอารมณ์ดีกว่านะ =_=+++? เร็นกัดฟันกรอด ดูเหมือนว่ามันกำลังจะโกรธฉันจริงๆ แล้ว
?ก็มันความคิดฉันนี่นา ไม่ได้ไปยืมสมองแกคิดซะหน่อย ว่าแต่...? ทะเลาะกับเร็นจนเกือบลืมไปเลยว่ามาที่นี่ด้วยเรื่องอะไร ?นักเรียนใหม่หน้าตาดีมั้ย พอที่ฉันจะจับมาจิ้นกับแกได้ป่ะ??
?แกไปเลยนะ จะไปไหนก็ไปเลยไป? คราวนี้ไม่บอกแค่ลมปาก เร็นยังลุกขึ้นยืนแล้วจับหมับเข้าที่ต้นแขนฉันอีก
อ๊ากกกก TOT ไอ้เคะรังแกฉัน
?ฉันไม่ไปจนกว่าแกจะตอบ >O<? ฉันบอกพลางเกาะขอบประตูเอาไว้เมื่อเร็นพยายามลากฉันออกจากห้องเรียนเขา ยังดีหน่อยที่ตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวัน นักเรียนจึงอยู่นอกตึกกันหมด ไม่อย่างนั้นล่ะก็...อายตายเลย =///=
?ก็บอกไปแล้วว่าไม่รู้ แกนี่มันตื๊อเก่งจริงๆ นะ?
ฮึบๆๆ TOT
เร็นยังคงพยายามยื้อยุดฉุดกระชากแคะแงะฉันออกจากประตูอย่างไม่ละความพยายาม เพื่อนฉันมันความพยายามสูงขั้นเทพจริงๆ แต่ความพยายามของฉันเองก็สูงพอๆ กันนะ ไม่อยากโม้ ยิ่งเร็นพยายามดึงฉันก็ยิ่งเกาะขอบประตูไว้อย่างแน่นเหนียวยิ่งกว่าตุ๊กแกซะอีก
?ถ้างั้นแกก็บอกฉันสักทีสิว่านักเรียนใหม่หล่อแค่ไหน >O<? ฉันตะเบ็งเสียงออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน แรงใกล้จะหมดเต็มทนแล้ว
ฮะ เฮ้ย O_o!! อยู่ๆ เร็นก็ปล่อยมือฉันซะอย่างนั้น เล่นเอาคนที่ยังไม่ทันตั้งตัวอย่างฉันทรงตัวไม่อยู่ ขาอ่อนพับนั่งลงที่พื้นทันที แง TT^TT เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
?จะปล่อยมือก็ไม่ยอมบอก T_T? ฉันบ่นงึมงำพลางลุกขึ้นปัดกระโปรงโดยที่ยังไม่มองหน้าคนที่เพิ่งทำร้ายร่างกายฉัน เฮอะ! งอนแล้ว
?อิ๊งค์?
?=_=? เฮอะ! ไม่ต้องมาง้อเลย งอนแล้ว
ฉันยังคงยืนกอดอกหันหลังให้เร็นอย่างไม่สบอารมณ์ แบบว่าอารมณ์เสีย
?แกอยากรู้ไม่ใช่เหรอว่านักเรียนใหม่หน้าตาเป็นไง?
?=_=? ใจอ่อนนิดๆ เพียงเพราะได้ยินเร็นพูดถึงนักเรียนใหม่ แต่...ไม่ๆ ฉันจะไม่ยอมใจอ่อนง่ายๆ เด็ดขาด
?ไอ้อิ๊งค์?
?O_o? เร็นจับไหล่ฉันแล้วหมุนให้หันไปเผชิญหน้ากัน
โอ้วยาโอย =O= ฉันมองผ่านเร็นไปที่ชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน ดวงหน้าเรียวสวยขาวผ่อง ปากนิด จมูกหน่อย ริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อน่าสัมผัสกำลังยกยิ้มส่งผลให้ดวงตาตี่สีดำสนิทแทบจะปิด เขายิ้มให้ฉัน นายคนนั้นยิ้มให้ฉันล่ะ >///<
?อิ๊งค์! อิ๊งค์!? เสียงเร็นเรียกสติฉันให้กลับมา ฉันกะพริบตาถี่ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้คนทั้งคู่อีก
ดวงตาสีดำของฉันจ้องหน้าคนนั้นทีคนนี้ทีจนนายหน้าตี๋เริ่มจ้องกลับด้วยใบหน้าที่แสดงออกถึงความสงสัย (- -?)
อ่า (*-*) สองคนนี้ยิ่งมองยิ่งชวนจิ้น เร็วเท่าความคิด มือทั้งสองข้างของฉันจับหมับเข้าที่มือของทั้งสองหนุ่มก่อนจะนำมาประสานกันไว้ ฉันจ้องหน้าพวกเขาอีกแล้วฉีกยิ้มกว้าง ^___^
?ไม่ต้องห่วงนะ ต่อไปนี้ฉันจะสร้างสรรค์ความรักที่สวยงามให้พวกนายสองคนเอง ??
?หืม (O_o)? ทั้งสองหนุ่มเบิกตากว้าง เร็นสะบัดมือฉันออกในขณะที่นักเรียนใหม่ยังยืนนิ่ง เขาเอียงคอมองฉันด้วยความสงสัย
สงสัยว่า...
เออ!! ฉันก็สงสัย สงสัยว่าตัวเองทำอะไรลงไป บ้าไปแล้ว ฉันไปพูดแบบนั้นต่อหน้าพวกเขาได้ยังไง มันควรจะเป็นความลับที่ฉันรู้เพียงคนเดียวเซ่ โฮ TOT แล้วแบบนี้ฉันจะสู้หน้าพวกเขาได้ยังไงกัน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เพื่อนร่วมห้องคนใหม่ที่ชื่อ ?มิณทร์? นี่นอกจากจะหล่อออร่าแรงแล้ว ยังกวนประสาทได้โล่อีกต่างหาก ถ้าไม่ใช่เพราะ ?อิ๊งค์? อยากได้เขาเป็นแบบสำหรับเขียนนิยายเรื่องใหม่ล่ะก็ อย่าหวังว่าเธอจะเสวนาด้วยเลย (-*-) แต่ยิ่งเข้าใกล้ก็รู้สึกว่าหมอนี่ดูมีลับลมคมในแปลกๆ โดยเฉพาะกับรุ่นพี่สุดหล่อที่ชื่อ ?อังเดร? นั่น ฉันว่าสองคนนี้ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรกันแน่ๆ เพราะต่อมความอยากรู้ทำงาน สุดท้ายฉันก็เข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้จนได้ แต่อ๊าย! >O< ไอ้เรื่องที่ได้รู้นี่มัน!! โฮ~ อย่าทำอะไรสาวน้อยตาดำๆ อย่างฉันเลยนะ สัญญาว่าจะไม่เอาความลับระดับชาติของพวกนายไปบอกใครแน่นอน! >X<
