New Release: เจ้าพยศ

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release: เจ้าพยศ

โพสต์ โดย Gals »

บทที่ 1
กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ไทยและต่างประเทศ ที่ถูกประดับเป็นช่อไว้ตามระเบียงและตามจุดต่างๆ ของห้องจัดเลี้ยงนั้นดูสวยงามคลอไปกับเสียงเพลงรักหวานไพเราะ ชวนเคลิ้มฝันได้อย่างไม่ยากเย็น
ร่างงามในชุดกระโปรงบานพลิ้วตัวสั้นเผยให้เห็นต้นขาเพรียวขาวผ่องสะดุดตาหนุ่มๆ ในทันทีที่เห็น
หากแต่สาวเจ้าเต็มไปด้วยความมาดมั่น ก้าวฉับๆ เข้าไปภายในงานพร้อมกับรอยยิ้มสวยที่ทำเอาหัวใจหนุ่มๆ พากันละลายไปตามๆ กัน
ร่างโปร่งงามนั้นมิได้ลอดสายตาคมวับที่จับจ้องมองอยู่ด้วยดวงตาคมสีเข้มน่าหลงใหล ใบหน้าหล่อเหลาคมคายนั้นราวกับรูปปั้นสลักของเทพบุตร เป็นที่สะดุดตาไม่แพ้ฝ่ายหญิงเช่นกัน...หากแต่สาวเจ้ากลับไม่แสดงความสนใจบุรุษหนุ่มผู้นั้นแม้แต่น้อย...
ดวงตาคมกริบคู่นั้นหยุดอยู่ที่ร่างเพรียวงามที่มีพลังอำนาจดึงดูดความสนใจของเขาได้อย่างรุนแรง
สำหรับมิลวดีแล้ว หญิงสาวไม่เคยหวั่นไหวต่อเสน่ห์ของเพศตรงข้ามเลยแม้แต่น้อย...หญิงสาวมีปราการควบคุมความปรารถนาของตนเองได้เป็นอย่างดี...
เพราะรูปลักษณ์ที่สวยยวนยั่วใจชายของหญิงสาว ทำให้หล่อนกลายเป็นเป้าสายตาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขณะที่ความคิดแรกของบุรุษหนุ่มที่ผ่านเข้ามาในหัวใจ คือการได้นอนอยู่บนเตียงเดียวกันกับหญิงสาวสวยยั่วใจคนนั้น
หญิงสาวสังเกตเห็นเขาตั้งแต่แรกเช่นกัน...หล่อนทราบดีว่าเขาคือใคร และมีความสำคัญมากแค่ไหน
เห็นได้ชัดว่าเขาจ้องมองหล่อน
แต่มิลวดีเพิกเฉยต่อความสนใจนั้นเสีย หล่อนทราบดีว่าพวกผู้หญิงมักจะแสดงความสนใจเขาจนออกนอกหน้า
เห็นได้จากการที่เขารายล้อมไปด้วยอิสตรีสาวสวยอยู่ในขณะนี้ แต่กระนั้นสายตาคมกริบของเขายังพุ่งตรงมาที่ร่างบางของมิลวดีอย่างจงใจเปิดเผย
จนบรรดาสาวเหล่านั้นหันมามองตามสายตาเขาเป็นตาเดียว พร้อมกับส่งสายตาค้อนคมมายังหญิงสาว
ใบหน้าสวยดูหมกมุ่นขุ่นมัวไม่น้อย
เขาเผยอยิ้มน้อยๆ มิลวดีไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเขาเป็นบุรุษที่สุดแสนเซ็กซี่อย่างที่สุด...ริมฝีปากบางนั้นเคยทำให้หัวใจผู้หญิงหลายต่อหลายคนละลายเป็นขี้ผึ้งมาแล้ว...
รวมทั้งหล่อนด้วย!
มิลวดีเม้มปากอย่างหงุดหงิดใจ
หล่อนพยายามแล้วที่จะควบคุมอารมณ์ตัวเอง ทั้งที่พยายามแล้วที่จะสร้างเกราะกำบังมาตั้งแต่ก้าวลงจากรถ แต่หญิงสาวก็ไม่วายขุ่นใจอยู่ดี
ความว่นุวายใจนั้นส่งผลให้หัวใจหญิงสาวเต้นแรง จนกลัวว่ามันจะระเบิดออกมานอกทรวงอกอวบอุ่นขาวนวลนั้นเสียแล้ว
หญิงสาวเริ่มขยับตัวอย่างไม่สบายใจ บอกตัวเองว่าจะไปแคร์ทำไมกับผู้ชายคนนั้น...หญิงสาวคิดอย่างโกรธตัวเอง
มิลวดีสูดลมหายใจเข้าปอดลึก...
บอกตัวเองว่าหล่อนจะไปแคร์ทำไมว่าเขาจะอยู่กับผู้หญิงอื่น...ในเมื่อเป็นเรื่องปกติของเขาอยู่แล้ว
มิลวดีเมินหน้าไปมองทางอื่น...
พยายามข่มอารมณ์ที่พลุ่งพล่านเอาไว้ ไม่ให้แสดงออกมาให้ใครเป็น
บ้าจริง! เขากล้าดียังไงมาทำแบบนี้ต่อหน้าหล่อน อย่างน้อยเขาก็ควรให้เกียรติกันบ้าง ใครๆ ในงานทราบกันทั้งนั้นว่าหล่อนกับเขาเคยสนิทสนมกันมากแค่ไหน
เพราะเหตุนี้มิลวดีจึงไม่อยากมาร่วมงานนี้
งานที่หล่อนแน่ใจว่าเขาต้องถูกเชิญมาร่วมงานด้วยแน่ๆ เพราะเป็นเพื่อนที่เคยอยู่กลุ่มเดียวกันมาก่อน
หากแต่ศักดิ์ศรีทำให้หญิงสาวไม่อาจปฏิเสธคำเชิญได้
เพราะใครๆ คงเดาออกอยู่แล้วว่าหล่อนจะปฏิเสธกลับไป...ตั้งแต่เกิดเรื่อง หล่อนไม่เคยเผชิญหน้ากับธาริศมาก่อน
จริงๆ แล้วหล่อนไม่ได้ทะเลาะกับเขาหรอก...เพียงแต่เขาไม่เคยติดต่อมานับเดือน จู่ๆ ก็ห่างหายไป
หลังจากเขาผิดนัดครั้งสุดท้ายกับหล่อน ให้หล่อนแต่งตัวรอเก้อ...กลายเป็นสายบัวแต่งตัวค้างให้อับอายขายหน้า
หล่อนโกรธมากๆ
เป็นใครจะไม่โกรธล่ะ...ถ้าเขาจะโทร.มาบอกกันสักนิดว่ามาไม่ได้ หล่อนคงไม่โกรธมากขนาดนี้
เขาหายไปเลยตั้งแต่วันนั้น...
หล่อนโทร.เขาก็ไม่รับสายดื้อๆ หล่อนเลยโกรธมากๆ ...บอกตัวเองว่าคงต้องยุติความสัมพันธ์กันเพียงแค่นี้
หลังจากนั้นจนถึงวันนี้ หล่อนพบว่าตอนนี้เขากลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมท่ามกลางสาวสวยนับไม่ถ้วน
มิลวดีถอนใจเฮือกออกมาทันทีที่ตวัดสายตากลับไป หล่อนยังคงเห็นนัยน์ตาคมกล้าที่ยังมองมา สร้างความประหลาดใจให้แก่หญิงสาวอย่างมิอาจหักห้ามใจได้
ที่ร้ายกว่านั้นก็คือ เขายิ้มโปรยเสน่ห์ส่งมาให้หล่อนอีกต่างหาก ทำให้หญิงสาวแก้มร้อนด้วยความโกรธ
ทันทีที่เขาขยับตัว หญิงสาวตั้งใจจะเดินเลี่ยงไปเสียจากตรงนั้น หากแต่ช้าไปเสียแล้ว เพราะร่างสูงเดินตรงเข้ามาพร้อมกับหยิบแก้วเครื่องดื่มจากถาดที่บริกรยกมาบริการแขกในงาน ตรงมาที่หล่อน
?มิล?
เสียงเรียกนั้นไม่ใช่ค่อยๆ เลย
มิลวดีหน้าแดง...วูบหนึ่งหล่อนคิดจะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน หากแต่เมื่อเห็นสายตานับสิบคู่หันมามองเป็นตาเดียว ทำให้หญิงสาวจำต้องชะงักค้าง พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดเข้าไว้ ก่อนจะปั้นหน้าหันไปฝืนยิ้มออกไป
แววตาคมวับเป็นประกายพราวระยับของเขานั้น ทำให้มิลวดีอดนึกถึงคืนที่หล่อนอยู่กับเขาบนเรือสำราญไม่ได้
บ้าจริง ทำไมต้องไปนึกถึงด้วย...
หญิงสาวปัดความคิดออกไปจากใจ...พยายามไม่นึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดผิวเนื้อหล่อนขณะที่เขาพึมพำเรียกหล่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความรักอันร้อนแรงจากแรงปรารถนา
ให้ตายสิ! เขาจะเข้ามาทักหล่อนทำไมนะ
หญิงสาวรู้สึกอึดอัดและร้อนผ่าวไปหมด เมื่อสบตากับรอยยิ้มหยันในดวงตาคมวับคู่นั้น เขาต้องรู้แน่เลยว่าหล่อนกำลังเดินหนีเขา
ดูท่าทางเขาจะพออกพอใจมากทีเดียว ที่เห็นหล่อนในสภาพไม่มีทางเลี่ยงแบบนั้น
คนผีทะเล ให้ตายสิ!
หล่อนเม้มปากอย่างไม่อาจระงับอารมณ์ขุ่นมัวไว้ได้ ก่อนจะรีบปรับอารมณ์ตัวเองอย่างรวดเร็วภายในชั่วพริบตา ด้วยการยักไหล่สวยใส่เขาอย่างช้าๆ ท่าทางไม่แยแสต่อการทักทายของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
?คุณนั่นเอง?
?สวัสดีครับมิล...?
มิลวดีสบตาเขาอยางท้าทาย
?สวัสดีคุณธาริศ?
หล่อนอดไม่ได้ที่จะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแดกดัน รอยยิ้มบางๆ ที่มุมปากนั้นทำให้หล่อนทราบว่าเขาไม่โง่พอที่จะไม่รู้
ธาริศยิ้มโปรยเสน่ห์กลับมาอีกแล้ว หล่อนเม้มปากอย่างต้านทานเสน่ห์ของเขาอย่างเต็มที่...คราวนี้หล่อนจะไม่ใจอ่อนอีกเด็ดขาด
?ยินดีที่ได้พบคุณอีกครั้ง?
แต่หล่อนไม่ยินดีเลยแม้แต่น้อย มิลวดีตอบในใจ แต่กลับฝืนยิ้มออกไปอย่างไม่แยแสต่อการพบกันครั้งนี้
?เหรอคะ...แต่ฉันไม่ยินดีสักนิด?
ชายหนุ่มยิ้มยวนกลับมา
?ยังโกรธผมอยู่หรือครับ?
มิลวดีแสร้งยิ้มเย้ายวน
?ขอโทษ...ฉันไม่สนใจจำเลยแม้แต่น้อย เพราะถ้าฉันใส่ใจจำคงไม่โผล่มาในงานเดียวกับที่เขาเชิญคุณแน่?
ใบหน้าหล่อนคมคายยั่วยิ้มอย่างเคย
?แน่ใจหรือ?
คำย้อนนั้นทำให้มิลวดีหน้าตึงขึ้นมา
?อย่าสำคัญตัวผิดไปหน่อยเลย คุณไม่ใช่คนสำคัญสำหรับฉันขนาดนั้นหรอก ?หล่อนโต้กลับไป
?ว้า...เสียดายจัง นี่ผมคิดไปเองหรือนี่ แล้วคุณจะเดินหนีผมทำไมกันครับ? เขาถามยั่วๆ กลับมา
?ฉันไม่ได้หนีใคร?
?จริงนะ?
มิลวดีเม้มปากเป็นเส้นตรง
?อย่าหลงตัวไปหน่อยเลย...ถ้าฉันกลัวคงไม่โผล่มางานวันนี้หรอก?
?ผมก็หวังอย่างนั้นเหมือนกัน?
เขาตอบเสียงเรียบ ท่าทางมั่นอกมั่นใจในความคิดตัวเองเสียเหลือเกิน
มิลวดีหน้าแดงด้วยความโกรธ
คนอวดดี...เขามักจะอวดตัวเสมอ มั่นใจในความหล่อของตัวเองอย่างน่าเกลียดที่สุด หล่อนนึกสาปแช่งเขาในใจ
?ฉันก็คิดว่าคุณหวังเช่นนั้นเหมือนกัน? มิลวดีเชิดหน้าพูด
อดกลัวไม่ได้ว่าตัวเองจะหลงไปทำอะไรโง่ๆ ออกมา ให้เขาจับได้ว่าเขามีอิทธิพลต่อหล่อนมากแค่ไหน
?เต้นรำกับผมสักเพลงนะครับ?
นัยน์ตาคู่คมเข้มนั้นมองมาอย่างยั่วยวนให้หล่อนปฏิเสธ หญิงสาวแสร้งยิ้มตอบกลับไปอย่างไม่สะทกสะท้าน
ถ้าเขาคิดว่าหล่อนจะตกหลุมพรางเขาล่ะก็ ฝันไปเถอะ...
หล่อนรู้หรอกว่าเขาต้องการยั่วให้หล่อนเอาชนะเขา
หึ! จะให้ตกอยู่ในอ้อมแขนของเขาอีกครั้งน่ะหรือ เมินเสียเถอะ! หล่อนยอมตายซะดีกว่าจะทำแบบนั้น
?เสียใจค่ะ...บังเอิญคืนนี้ฉันไม่อยากเต้นรำ?
?นั่นไม่ใช่ปัญหา ผมทำให้คุณอยากเต้นรำได้นะ?
น้ำเสียงเขาช่างมั่นอกมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองเหลือเกิน
มิลวดีเหยียดยิ้มหยัน
?ท่าทางคุณมั่นใจเสียเหลือเกินนะคะ?
?คุณเคยปฏิเสธผมได้ด้วยหรือ?
รอยยิ้มเย้ายวนทำให้มิลวดีหน้าแดง ประกายโทสะปรากฏอยู่ในดวงตาคู่สวย หญิงสาวเม้มปากเป็นเส้นตรง
?นั่นมันแค่ความหลงชั่ววูบเท่านั้น? หล่อนตอบโต้ ?ตอนนี้ฉันเลิกโง่แบบนั้นมานานแล้ว...เสียใจด้วยนะคะ?
หล่อนก้าวถอยหลังเพื่อที่จะถอยหนีไปจากเขา
แต่ดูเหมือนชายหนุ่มไม่ยอมให้หล่อนทำแบบนั้นได้ง่ายๆ
?ผมไม่ปล้ำคุณกลางงานหรอกน่า อย่ากลัวไปเลย?
เขาเหยียดยิ้มออกมาแบบที่ทำให้มิลวดีตวัดสายตากลับไปมองเขาอย่างขุ่นมัว
?ฉันไม่ได้กลัว?
?แล้วทำไมต้องปฏิเสธด้วย?
?เพราะฉันไม่อยากเต้นรำกับคุณน่ะสิ?
ถ้าไม่เกรงใจล่ะก็...หล่อนอยากพูดว่าหล่อนรังเกียจเขาน่ะสิ! หญิงสาวทำตาเขียวตอบกลับไป
หล่อนทราบดีว่าเขาคิดจะยั่วให้หล่อนพลั้งเผลอหลุดปากตอบรับออกไปอย่างต้องการเอาชนะ
แต่ไม่ใช่ครั้งนี้...ไม่ใช่ในยามที่หัวใจหล่อนแข็งแกร่งพอที่จะต้านเขาแบบนี้...
หล่อนไม่หลวมตัวง่ายๆ แน่ หญิงสาวรู้ดีว่าเขามีจุดประสงค์อะไร และหล่อนไม่โง่พอที่จะเดินเข้าไปในกับดักที่เขาล่อไว้แน่
?ว้า...เสียดายจัง?
?ไปขอเต้นรำกับคนอื่นโน่น ท่าทางมีคนอยากเต้นรำกับคุณตัวแทบสั่นอยู่แล้วนี่?
หล่อนอดแดกดันกลับไปไม่ได้
--------------------------------------------------------------------------------------------
?มิลวดี? เสียใจนักที่ชายหนุ่มลืมเลือนนัดสำคัญโดยไม่บอกสักคำว่าหายไปไหน และผู้ชายเอาแต่ใจอย่าง ?ธาริศ? ก็มีแต่คิดเองเออเองไม่ถามหรอกว่าหล่อนโกรธอะไร ยิ่งพอเห็นมิลวดีเฉยชาก็เหมารวมว่าคนที่เคยจูงมือและใช้เวลาร่วมกันเป็นผู้หญิงใจง่าย จริงอยู่ที่การนิ่งเฉยและไม่ง้องอนของธาริศจะทำให้หล่อนบอบช้ำในความรู้สึกราวปางตาย ทว่ามันกลับเจ็บน้อยนิดกว่าความแค้นที่เห็นเขาออกมาจากโรงแรมกับสาวสวยแบบสนิทสนม ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาความสัมพันธ์ระหว่างกันสะบั้นหายหากแปลกที่ทั้งสองต่างต้องระงับใจไม่ให้โหยหา อาจเป็นเพราะจุมพิตร้อนที่ซุกไซ้ซอกคอหอมก่อนละเลื่อนมายังทรวงสาวแล้วตุ่มไตก็หลุบหาย ความบาดหมางลบเลือนด้วยห่วงหาที่มาเป่าปัด เหล่าคราบน้ำตาก็ถูกลบเกลื่อนด้วยแรงแห่งรัก ไม่ได้มีแต่มิลวดีที่ยอมยกโทษให้ทว่าธาริศเองก็พ่ายแพ้แววตารัญจวนของร่างเปล่าเปลือยเช่นกัน

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”