ณ ตึกอำนวยการใหญ่ของ ?ควีน? บริษัทเอกชน รับจ้างทั่วไป
ปรียาดา วิริยะถูกเรียกตัวมาพบผู้อำนวยการใหญ่ทันทีที่กลับเข้ามาถึงกรุงเทพฯ
ร่างโปร่งแต่ไม่บาง กลมกลึงงดงาม...สูงขนาดร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร...ประกวดนางงามได้สบายเลยทีเดียว ด้วยขนาดรูปร่าง สามสิบหก ยี่สิบสอง สามสิบหกของหล่อน
วันนี้ปรียาดาซ่อนตัวเองอยู่ในชุดซาฟารีสีน้ำตาลอ่อนจาง ทั้งกางเกง เสื้อ ส่วนรองเท้าบูทเป็นสีน้ำตาลเข้ม พร้อมกับเป้สะพายหลังบรรจุสัมภาระส่วนตัวสีเดียวกันกับเสื้อผ้า
หล่อนส่งสัมภาระส่วนใหญ่ที่ขนกลับมาจากแอฟริกาไปยังคอนโดฯ ที่เช่าอยู่แล้ว ก่อนที่ตัวเองจะมาที่นี่ตามโทรศัพท์ที่เรียก ?ด่วน? ไปทันทีที่จบงานทางโน้น...
?มาแล้วเหรอ...?
ญาดา บริรักษ์ ผู้อำนวยการใหญ่หันมาทักทายทันทีที่หญิงสาวตัวเด่นเดินเข้าไป...
?นั่งสิ...? ญาดาผู้บริหารใหญ่วัยห้าสิบ...วางซองเอกสารสีน้ำตาลลงตรงหน้าลูกน้องมือหนึ่งอีกคนที่จองตัวลงมาทำงานพิเศษชิ้นนี้...
ปรียาดาเอื้อมมือไปดึงซองเอกสารนั้นมาเปิด หยิบรูปโปสการ์ดขนาดใหญ่ ถ่ายขยายชัดเจนทั้งหน้าตรง...ด้านข้าง...และอีกหลายมุมมองออกมาดู...
?ชีคอับดุลรามิล...?
?ใครคะ...? หล่อนเงยหน้าขึ้นถามผอ.ใหญ่
?คนที่เธอจะต้องตามเฝ้าดูพฤติกรรมของเขา แล้วรายงานด่วนกลับมาเป็นระยะ...?
ญาดาตอบ พร้อมกับทอดตามองสาวงามตรงหน้าด้วยความรู้สึกกังวลที่เกิดขึ้นในใจเงียบๆ...
ความจริงหล่อนไม่อยากส่งปรียาดาไปทำงานนี้เท่าไหร่...แต่ตอนนี้ไม่มีใครนอกจากผู้หญิงตรงหน้า
?เขาสำคัญยังไงคะ...?
?ความจริง คนที่จ้างเราเขาไม่ได้บอกหรอกนะ...แต่เราก็สืบรู้มาว่าแต่เดิมน่ะ ชีคอับดุลรามิลคนนี้มีตำแหน่งเป็นถึงมกุฎราชกุมาร จะต้องได้ขึ้นครองราชย์บัลลังก์ แต่ทำไปทำมา...เขากลับกระเด็นออกมาอีท่าไหนไม่รู้ ไปอยู่อเมริกามาพักใหญ่ ก่อนจะมาหยุดอยู่ในกรุงเทพฯ ได้สักประมาณปีหนึ่งแล้ว...?
?แล้วคนที่ต้องการรู้ความเคลื่อนไหวของเขาล่ะคะ...คิดว่าคงไม่ใช่คนที่ครองบัลลังก์อยู่ตอนนี้นะคะ...?
คำถามของปรียาดาทำเอาผอ.ใหญ่ต้องมองหน้าลูกน้องอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนตอบว่า...
?คิดว่าน่าจะใช่...?
แล้วคนสองคนก็มองหน้ากัน ก่อนที่ผู้อ่อนวัยกว่าจะลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วบอกว่า
?งั้นหนูรู้แค่นี้ดีกว่า...แค่ติดตามดูพฤติกรรมตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วกัน...แต่...?
?อะไร...? ญาดาถามทันที
?รูปถ่ายทุกรูป...ไม่ยิ้มเลย...หน้าขรึมจนดุเลยนะคะ...บางรูปดวงตาดุดันน่ากลัวทีเดียว...?
?เธอก็รู้เหตุผลอยู่แล้วนี่...จากพระราชา...ลงมาอยู่แค่สามัญ...และอาจจะตายได้ทุกนาทีถ้าไม่ระวังตัว...จะยิ้มออกได้ไง??
?นั่นสินะ...น่าเสียดาย...หล่อดีแต่ดุไปหน่อย...? ปรียาดาพูดยิ้มๆ
?อย่าไปติดใจเข้าแล้วกัน...หมู่นี้ไม่รู้เป็นไง...ส่งคนสวยๆ ไปทำงานทีไร...ไปติดเบ็ดเขาหมดเลย...?
ญาดาพูดพลางส่ายหน้า...
?ก็แหม...นานๆ จะมีรูปหล่อๆ ผ่านเข้ามาสักทีนี่คะ...หนูไปอยู่แอฟริกากับตายายคู่นั้นเป็นปี ไม่มีอะไรให้น่าดูน่าชมเลย...แล้วก่อนไปอยู่แอฟริกาก็ไปเป็นบอดี้การ์ดนักธุรกิจขี้หลีอีกหลายเดือน หมอนั่นเล่นเอาต้องระวังตลอดเวลาเลยนะคะ...ถ้าไม่หมดสัญญาหนูก็ไม่คิดจะอยู่ต่อหรอกค่ะ ไม่ไหว...เครียด...?
?เอาเถอะๆ...จะเอายังไงก็ไม่ว่ากัน...ขอให้ไปได้ดีเป็นพอ...ได้แต่งงาน ได้อยู่กับคนที่ตัวรัก พี่ก็สบายใจด้วยแล้ว...เรื่องคน...เราหาใหม่ได้...ฝึกใหม่ได้...เด็กรุ่นใหม่ๆ ไฟแรงมีเยอะ...?
ญาดาตัดบทพร้อมกับเสียงโทรศัพท์ที่ดังเข้ามาพอดี...เป็นโอกาสให้ลูกน้องสาวเดินออกจากห้องทำงานใหญ่แห่งนั้นไปเงียบๆ...
*************************************************************************************************
รามิล...พาร่างสูงเพรียวออกมาจากไนท์คลับหรูหราราคาแพงทันทีที่อดีตราชองครักษ์เข้าไปกระซิบให้รู้ว่ามีข่าวมาจากแดนไกล...
ดวงตาดำใหญ่ค่อนข้างเครียดจนดูดุ แต่กลับทำให้ดวงหน้าคมคายนั้นน่ามองอย่างไม่น่าเชื่อ
ชายหนุ่มเดินตรงมาจนถึงเมอซิเดสสีดำสนิทอันเป็นพาหนะส่วนตัว ขณะที่อยู่ในประเทศไทย เวลานั้นคนขับมาเตรียมเปิดประตูรถด้านหลังรอไว้ให้แล้ว...พอเขาก้าวเข้าไป ประตูรถก็ปิดตามไปอย่างระมัดระวัง...
เขาไม่รู้เลยว่าทันทีที่ก้าวออกจากผับใหญ่แห่งนั้น...ดวงตาคู่หนึ่งก็มองตามมาเงียบๆ...
ปรียาดากำลังจะก้าวลงจากรถคันเล็กความเร็วสูงที่หล่อนเลือกเอามาใช้อยู่แล้ว ถ้าไม่เห็นบุรุษที่หล่อนจ้องมองภาพถ่ายของเขาจนจำได้ขึ้นใจไม่ก้าวออกมาเสียก่อน...
หล่อนมองดูร่างสูงในสูทสีดำทำให้เด่นเป็นสง่า เตะสายตาคนทุกคนที่ได้เห็น ก้าวยาวๆ ออกจากประตูผับราคาแพงไปยังรถที่จอดรออยู่อย่างรวดเร็ว...
พอรถคันนั้นเคลื่อนออกจากที่จอด หล่อนก็ตามไปทันทีโดยทิ้งระยะพอสมควร...
เมื่อขึ้นนั่งเรียบร้อยบนรถ โทรศัพท์มือถือก็ถูกส่งให้ถึงมือแข็งแรงได้รูป สามารถมองเห็นใบหน้าผู้ที่กำลังพูดด้วยอย่างชัดเจน...
?ว่าไงอุสมัน...?
?ได้เรื่องแล้วครับผม...?
?ว่ามา...?
?กษัตริย์จะเสด็จไปต่างประเทศเดือนหน้า มีการประชุมสำคัญที่ซาอุครับผม...?
แม้จะเป็นแค่ข่าวสั้นๆ...แต่มันก็มีความหมายมากมายสำหรับคนฟังอย่างไม่น่าเชื่อ...
ดวงตาสีดำคมกริบขยับไปมาอย่างครุ่นคิดทันที...
?อีกเดือนหนึ่งสินะ...?
?แล้วมีอะไรอีกไหม...? รามิลถามกลับไป
?ไม่มีแล้วครับผม...?
?งั้นเลิกติดต่อ...? ชายหนุ่มตัดสัญญาณรับส่งทันทีแถมปิดเครื่อง ไม่ให้ใครตามหาตำแหน่งที่เขาอยู่ได้อีก...
?เดือนหนึ่ง...เรามีเวลาพอสมควรนะครับ?
อามิน...ราชองครักษ์พึมพำอยู่ข้างๆ คนขับพร้อมกับหันมองหน้าผู้เป็นนาย...
ความจริง...เขาอยากใช้ราชาศัพท์ให้เหมาะสมกับผู้ที่ประทับอยู่เบื้องหน้านัก...แต่ในสถานการณ์พลัดบ้านพลัดเมืองแบบนี้...อามินถูกสั่งให้วางอดีตลงให้หมด แม้ราชาศัพท์ที่เคยใช้ก็ห้ามใช้...ทำให้เขารู้สึกอึดอัดและสงสารอยู่เป็นกำลังจนกระทั่งเวลานี้...
?แล้วอาวุธล่ะ...? ชายหนุ่มถามผู้เป็นผู้ช่วยทุกเรื่องอยู่ในเวลานี้
?เรียบร้อยครับผม...กำลังจะลำเลียงเข้าไปทันทีที่มีโอกาส...?
?แล้วกองกำลัง...?
?เราใช้ทหารรับจ้างทั้งหมด...เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วที่ถูกฝึกมาสำหรับการโจมตีแบบนี้โดยเฉพาะ...?
อามินบอกรายละเอียด ขณะที่รถแล่นไปด้วยความเร็วปกติรอบกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้...
?ตอนนี้เหลืออย่างเดียวคือ...รอเวลา...?
อามินบอกกับเจ้าชีวิตของเขาแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก...
ปรียาดาตามรถที่แล่นไปรอบพระนครอย่างไม่มีจุดหมายปลายทางที่แน่นอนอยู่พักใหญ่ก็พอจะเดาออกว่าภายในรถคันนั้นจะต้องมีอะไรสักอย่าง...แต่หล่อนไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรเท่านั้น
หญิงสาวขับรถตามไปเรื่อยๆ...ช้าๆ ไม่ให้อีกฝ่ายจับได้ หล่อนไม่รู้หรอกว่าเวลานั้นรามิลรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างตามมาเบื้องหลังจึงหันไปมองโดยอัตโนมัติ...แล้วก็หันมามองจากกระจกส่องหลังให้แน่ใจอีกครั้ง ก่อนจะสั่งคนขับว่า...
?เลี้ยวซ้าย...? พลขับทำตามคำสั่งทันทีโดยไม่มีข้อแม้
?เลี้ยวขวา...? เขาสั่งอีกครั้งเมื่อถึงทางแยก พร้อมกับมองกระจกส่องหลังอย่างจริงจัง
อามินหันมามองเจ้านายแล้วหันไปมองทางด้านหลังทันทีตามสัญชาตญาณ
?มีคนตามมาหรือเจ้านาย...?
?คิดว่างั้น...ไปที่โกดังท่าเรือ...? รามิลสั่งใหม่...และรถคันนั้นก็มุ่งสู่ท่าเรือทันที...
ปรียาดาขับรถตามไปช้าๆ จนเข้าเขตท่าเรือ หล่อนก็เบรกโดยอัตโนมัติ...รออยู่ตรงนั้นชั่วขณะ...
มันเปลี่ยวเกินไป...ถ้ามันเห็นต้องรู้ทันทีว่าถูกตาม...แล้วจะเอายังไงดี...หล่อนถามตัวเองแล้วก็ตอบตัวเองว่า...วันนี้เอาแค่นี้ก่อน...หล่อนไม่ตามจนถึงที่สุดเพราะรู้กำลังตัวเองดีอยู่ว่าทำได้แค่ไหน...
หญิงสาวถอยรถออกจากตรงนั้น แล้วคิดว่าพรุ่งนี้เขาจะต้องไปที่ผับนั่นอีก...
พรุ่งนี้ค่อยเจอกันใหม่...
รามิลจอดรอรถที่ตามมาอยู่หลายอึดใจ...แต่ไม่มีวี่แววสักทีก็สั่งให้คนรถถอยกลับไปตามทางใหม่...ไม่ให้ใครตามได้ถูกอีก
**********************************************************************************************************
คืนวันต่อมา...ชายหนุ่มไม่ได้ไปไหน...เขาออกจากเพนท์เฮ้าส์ราคาแพงที่เช่าเอาไว้ชั่วคราว ไปยังผับเดิมที่ชอบบรรยากาศของมัน...
รามิลนั่งอยู่ในห้องส่วนตัว มีอาหารและบริกรคอยเสิร์ฟพร้อม แต่ไม่มีผู้หญิง...เขาจะนั่งอยู่ในนั้นโดยมีอามิน องครักษ์คอยดูแลอยู่นอกประตู จะเข้าไปปรากฏกายให้เห็นก็เมื่อถูกเรียกทางโทรศัพท์เท่านั้น...
คืนนี้ปรียาดาแต่งตัวมาเปรี้ยวจี๊ด...เตรียมตัวเต็มที่ที่จะเข้าไปในผับแห่งนั้น...และทำความรู้จักกับนายหน้าดุคนนั้นสักที...หล่อนสวมเดรสเกาะอก ฟิตเปรี๊ยะสั้นจู๋ อวดปลีขายาวเรียวใต้ถุงน่องดำสนิท?.
ความจริง หล่อนยังคิดไม่ตกหรอกว่าจะทำความรู้จักกับคนคนนั้นเลยหรือไม่ เพราะถ้าเขาจำหล่อนได้...การลอบติดตามเขาก็จะเกิดปัญหาขึ้นทันที...เพราะฉะนั้นอาจจะยังไม่ทำตัวให้เป็นที่รู้จัก...
หล่อนคิดและเดินเข้าไปภายในผับที่มืดๆ นั้น...ปล่อยให้สายตาปรับเข้ากับความมืดชั่วขณะ...พร้อมกับกวาดสายตาไปโดยรอบ...
ข้างนอกก็เหมือนผับทั่วไป...มีคนมานั่งดื่มอยู่จำนวนหนึ่งที่มองแล้วไม่มีใครรูปหล่อเหมือนคนที่หล่อนตามหาสักคน ถ้าอามินจะไม่ออกมาปรากฏตัวให้เห็น...
ลักษณะของเขาแตกต่างไปจากคนไทยโดยสิ้นเชิง...ยิ่งสวมสูทโก้แบบนั้นยิ่งมองเห็นได้ชัด...
ปรียาดาก้าวตามอามินไปทันทีที่อีกฝ่ายสั่งอาหารกับบ๋อยเรียบร้อย แล้วเดินกลับเข้าไปภายในที่มีห้องพิเศษสำหรับแขกพิเศษจริงๆ
หล่อนเกือบจะก้าวตามเข้าไปแล้ว ถ้าไม่เตือนตัวเองว่า ?อย่า?
อย่าปรากฏตัวให้เขาเห็น...
หญิงสาวจึงสะดุดหยุดกึก แล้วก็ตกใจเมื่อมีมือมือหนึ่งเอื้อมมาดึงแขนหล่อนให้หันไปเผชิญหน้ากัน...
?ว่าไงจ๊ะหนู...มายืนรอใครอยู่ตรงนี้...ไปกับพี่ไหม...?
พร้อมคำถามใบหน้าของคนที่ถามก็ยื่นเข้ามาแทบจะชนแก้มหล่อน...ทำเอาหญิงสาวหลบแทบไม่ทัน...
?ไม่ไปค่ะ...? หล่อนตอบแล้วดึงแขนหนีทันที...
แต่อีกฝ่ายดูท่าจะเมาจนไม่ฟังอะไรแล้ว...ไม่สนใจอาการผลักไสของหล่อน จะกอดให้ได้ท่าเดียว จนหญิงสาวตัดสินใจยกเข่าขึ้นกระทุ้งห้องเครื่องเอาเต็มแรง...
ทำให้คนที่พยายามจะกอดถึงกับตัวงอลงไปด้วยความเจ็บปวดและทรุดลงไปกองที่พื้นในที่สุด...
หญิงสาวปลดมือที่เหนี่ยวแขนหล่อนไว้แน่น หลุดออกไปจากตัว แล้วถอยไปชนร่างร่างหนึ่งเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ... หล่อนหันขวับไปตามสัญชาตญาณและเผชิญหน้ากับอามินพอดี
องครักษ์หนุ่มจ้องมองหล่อนด้วยสายตาแห่งความพึงใจ...ขณะที่คิดถึงผู้เป็นเจ้านายในห้อง...อะไรหลายอย่างในตัวหญิงสาวตรงหน้าบอกให้อามินรู้ว่า...เจ้านายต้องพอใจหล่อนแน่...
ขณะที่ปรียาดาสบตากับองครักษ์ของรามิลอยู่นั้น...อะไรหลายอย่างบอกให้หล่อนถอย...ถ้าอยากจะติดตามคนเหล่านี้ต่อไปโดยไม่ให้เขารู้ตัว...
หล่อนตัดสินใจในนาทีนั้นว่าจะยอมให้ใครเห็นหล่อนไม่ได้...เท้าของหญิงสาวไวเท่าความคิด...
ร่างกลมกลึงได้สัดส่วนงดงามไปทั้งตัวถอยทันที...แต่ช้าไปกว่าอามินที่เอื้อมมาดึงหล่อนเต็มแรง...หญิงสาวใช้ส้นรองเท้าปลายแหลมเปี๊ยบกระทืบลงไปบนเท้าของอีกฝ่ายเต็มแรงเช่นกัน เล่นเอาอามินถึงกับร้องลั่น...มือที่ดึงแขนหล่อนยังรั้งไว้แน่น...แต่มือที่เอื้อมไปสไลด์ประตูให้เปิดออกตกลงด้วยความเจ็บปวด...
เวลานั้น...รามิลที่นั่งอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมองมาทันที...
หล่อนมองเห็นเขาเต็มตา เช่นเดียวกับที่ชายหนุ่มมองเห็นหล่อนเต็มตาเช่นกัน แล้วหญิงสาวก็สะบัดตัวออกจากมืออามิน...วิ่งตรงไปยังประตูผับ เปิดออกไปอย่างรวดเร็ว...
เวลานั้น...ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นตรงมาหาองครักษ์แล้วประคองกันเข้าไปถาม...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?ปรียาดา? สาวไทยที่เป็นตัวแทนของบริษัท Queen ซึ่งรับจ้างอารักขาคนดังทั่วโลก หล่อนถูกจ้างให้ติดตามการเคลื่อนไหวของ ?ชีครามิล? และดูแลเขาให้ปลอดภัย เพราะเขาคืออดีตมกุฎราชกุมารแห่งมูบีนา...นครแห่งความหวังที่ถูกพรากบัลลังก์ไป พระองค์กำลังลี้ภัยอยู่ในประเทศไทยและรอวันทวงอำนาจมหาศาลกลับคืน ชีครามิลต้องเอาตัวรอดจากคมเขี้ยวกระสุนที่ฝ่ายตรงข้ามกระหน่ำให้เขาตาย บอดี้การ์ดสาวปกป้องพระองค์จากภยันตรายได้ทุกรูปแบบ ทว่าหล่อนดันพลาดอยู่เรื่องหนึ่ง...เมื่อเขารู้ตัวว่าถูกติดตามแล้วตลบหลังเอาตัวหล่อนไปแทน แถมคนเจ้าเล่ห์ยังไม่ยอมปล่อยให้ปรียาดาหนีไปไหนด้วยการมัดไว้ด้วยหัวใจชีค
