?พี่คิดว่าผมเกลียดเธอเพราะอะไรงั้นหรือ? คิดว่าผมเกลียดเธอเพราะเธอเป็นแม่เลี้ยงผมหรือไง?
ภูวรินมองพี่ชายด้วยสายตาขุ่นเขียว ก่อนจะชำเลืองมองไปยังร่างโปร่งงามสะดุดตาของสตรีที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยงของตัวเอง ซึ่งกำลังยืนรับแขกอยู่กลางสนามหน้าบ้านเคียงคู่กับผู้เป็นบิดาของเขา
บุรุษหนุ่มใบหน้าหล่อคมบิดปากหมิ่นๆ ยอมรับว่าเขาเกลียดเจ้าหล่อน เกลียดมากที่สุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะพึงเกลียดใครสักคนได้
ไม่ว่าหล่อนจะดูงดงามสักแค่ไหน แต่ภูวรินก็เกลียดหล่อนอยู่ดี...เขาไม่มีวันลืมหรอกว่าหล่อนทำอะไรไว้
ใครจะรู้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้น
ภูวรินหงุดหงิดงุ่นง่าน...ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะกำจัดผู้หญิงคนนี้ออกไปจากบ้านของเขา...แต่ดูเหมือนใครๆ ก็พากันหลงใหลหล่อน
แม้แต่พี่ชายของเขาแท้ๆ
ภูวนาถหวังจะให้เขายอมรับผู้หญิงคนนั้นเป็นแม่เลี้ยง เหมือนที่หล่อนทำให้ภูวนาถยอมรับหล่อน
แต่ไม่มีทางหรอก!
ชายหนุ่มสบถในใจ
เขายอมรับได้ก็บ้าระยำแล้ว...
เขาไม่มีวันลืมช่วงเวลาน่าทุเรศเหล่านั้นได้แน่...
นางจิ้งจอกนั่นสมควรเรียกว่าโสเภณีมากกว่าจะเป็นแม่เลี้ยงเขา...หล่อนฉลาดเป็นกรด...หลอกล่อจนพี่ชายเขายอมรับนับถือ
แต่กับเขา...เจ้าหล่อนกับแสดงธาตุแท้ออกมา
เพราะอะไร?
เขาเคยนึกหาเหตุผล
สุดท้ายเขาก็หาคำตอบให้ตัวเองได้
เพราะเจ้าหล่อนร่านร้อนไงล่ะ...เพราะหล่อนปรารถนาในความหล่อเหลาของเขา และคิดว่าเขาจะหลงเล่ห์กลมารยาของหล่อนด้วยอีกคน
เขาได้แต่สวดมนต์ภาวนา ขออย่าให้ภูวนาถเจอเหตุการณ์เฉกเช่นเดียวกับเขา เขาไม่คิดว่าพี่ชายตัวเองจะทนยอมนับถือผู้หญิงคนนั้นในฐานะแม่เลี้ยงได้อย่างแน่นอน หากเจ้าหล่อนกระทำเฉกเช่นเดียวกันนั้นกับภูวนาถ
ให้ตายสิ!
ใครจะเชื่อหากเขาพูดว่าเกิดอะไรขึ้น.....
ใครจะคิดเล่าว่าแม่เลี้ยงของเขาจะเที่ยวย่องเข้าไปหาลูกเลี้ยงตัวเอง และยั่วยวนจนเขาเกือบลืมตัว...
นั่นแหละคือสิ่งที่บ้าที่สุด!
เขาเหมือนตกนรกทั้งเป็น...รู้สึกตัวว่าเลวสุดใจ ที่ตัวเองเกือบมีความสัมพันธ์กับแม่เลี้ยงตัวเอง...
เขาบอกว่าเขาจะฟ้องพ่อ เจ้าหล่อนหัวเราะออกมา
?ใครจะเชื่อเธอ...หนุ่มน้อย?
ภูวรินมองแม่เลี้ยงตัวเองด้วยสายตาชิงชัง
?นางมารร้าย!?
อภิรดีหัวเราะเสียงสดใสออกมา
?นางมารร้ายหรือจ๊ะพ่อหนุ่ม ไม่เอาน่า...เมื่อกี้เธอไม่เห็นพูดแบบนี้เลย? อภิรดียิ้มเยือนเจ้าเล่ห์
?เอ๋...หรือจะให้ฉันบอกพ่อเธอว่า...เธอกลัดมัน พยายามข่มขืนฉันดีนะ? อภิรดีทำหน้าตาครุ่นคิด
ภูวรินโกรธแทบกระอัก...
ไม่เคยเห็นใครร้ายกาจเท่านี้มาก่อน
เขาเคยหวังว่าเจ้าหล่อนจะเป็นคนดี และให้ความสุขในบั้นปลายของชีวิตบิดาเขาได้ แต่ลับหลังบิดาเขา หล่อนกลับพยายามใช้เสน่ห์มารยาหลอกล่อเด็กหนุ่มวัยสิบหกอย่างเขาให้หลงเพลิดไปกับหล่อน
ภูวรินยังจดจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดี...แม้ว่าเวลาจะผ่านไปห้าปีแล้วก็ตาม
เพราะเหตุนี้เขาถึงตัดสินใจขอบิดาไปเรียนต่อเมืองนอก ขืนอยู่ที่บ้านเขาคงได้ฆ่าคนจริงๆ แน่
ภูวรินย้อนนึกถึงเหตุการณ์สุดแสนอัปยศนั้นอีกครั้ง...
วันนั้นไม่มีใครอยู่บ้าน เขานอนอ่านหนังสืออยู่ในห้อง...เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่เลี้ยงเขากลับมาตอนไหน
จู่ๆ เจ้าหล่อนก็มายืนพิงกรอบประตูห้องนอนเขา...
เขาจ้องดูแม่เลี้ยงตัวเอง ตาไม่กะพริบ...
ตอนนั้นเขายังเป็นเด็กหนุ่ม เพิ่งโตได้ไม่นาน...แต่มีแม่เลี้ยงอายุเพียงยี่สิบปลายๆ เท่านั้น...อภิรดีดูยังสาวยังสวย
ถ้าไม่บอกอายุ...ใครๆ ต้องคิดว่าหล่อนยังเป็นนักศึกษาอยู่เลย
เรื่องความสวยนั้นไม่ต้องพูดถึง หล่อนสวยบาดใจ น่าลิ้มลองเป็นที่สุด...หล่อนยิ่งดูเย้ายวนในชุดแนบเนื้อชวนวาบหวิว...อวดทรวงอกเต่งตึง เอวคอดเล็ก ที่แทบจะเอามือกำรอบได้ เรือนผมหล่อนเป็นเงางาม ถูกจัดทรงสลวยทุกเส้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหล่อนต้องเสียเวลาเข้าร้านเสริมสวยนานแค่ไหน
แต่นั่นแหละ พ่อเขาไม่สนใจหรอก...พ่อเขามีเงิน เมียจะผลาญเงินเท่าไหร่ก็ได้ ขอให้ถูกตาต้องใจพ่อเขาก็พอ...
ความสวยของหล่อนกระทบโสตประสาทเขา...เขาตะลึงเมื่อแม่เลี้ยงเขาเดินนวยนาดเข้ามาในห้อง แถมด้วยการปิดประตูห้องตามหลัง
?คะ...คุณรดีต้องการอะไรครับ??
?อุ๊ย...ตายแล้ว ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคะคุณกลาง...รดีก็เข้ามาดูว่าคุณกลางต้องการอะไรหรือเปล่าน่ะค่ะ คุณกลางอ่านหนังสือหนักขนาดนี้น่าจะหาอะไรผ่อนคลายบ้างนะคะ รดีเป็นห่วง?
แม่เลี้ยงเขาพูด ริมฝีปากขยับด้วยท่าทางยวนยั่ว
เจอเข้าแบบนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเด็กหนุ่มวัยรุ่นแบบเขาจะรู้สึกร้อนรุ่มขนาดไหน เขารีบกลืนน้ำลายลงคอ
?เอ่อ...ผม...ผม...?
เขารีบขยับลุกขึ้นนั่ง...พยายามที่จะปกปิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในร่างกายของตนเองต่อสายตาสตรีตรงหน้า
เลือดในกายหนุ่มฉีดแรง อกใจปั่นป่วนด้วยความรู้สึกที่ต้องสะกดกลั้นอวัยวะสำคัญที่กำลังพองโตขึ้นคับหว่างขาตัวเองอย่างสุดความสามารถ ดูเหมือนว่ามันกำลังทรยศร่างกายเขาด้วยการคิดเตลิดไปไกลถึงไหนต่อไหนแล้ว
ดูเหมือนเจ้าหล่อนจะมองเห็นไปแล้วเรียบร้อย
แม่เลี้ยงเขาหัวเราะเสียงใส
?เป็นอะไรไปคะ?
ภูวรินหน้าแดงก่ำ
?เอ่อ...ผม...คุณต้องการอะไรหรือครับ?
ร่างเย้ายวนเดินทอดน่องเข้ามาที่เตียงของเขา...ชายหนุ่มรีบกระเถิบถอยหนี พลางกลืนน้ำลายลงคอ
?เอ...จะต้องการอะไรดีน้า...ว่าแต่ถ้ารดีต้องการจริงๆ คุณกลางจะทำให้รดีหรือเปล่าล่ะคะ?
เจ้าหล่อนยิ้มหน้าชื่น ก่อนจะเบียดกระแซะเข้ามาใกล้
ร่างสูงเก้งก้างด้วยวัยที่เพิ่งผ่านการแตกหนุ่มมาได้ไม่นานนั้นเริ่มกระอักกระอ่วน...พยายามบังคับสายตาให้มองแต่หน้าสวยของแม่เลี้ยงตัวเองเท่านั้น
ภูวรินขยับตัวหนี...
?คุณรดีจะให้ผมทำอะไรหรือครับ?
ร่างของเขาสั่นระริก เคลิบเคลิ้มไปกับกลิ่นน้ำหอมเย้ายวนใจที่กำจายออกมาจากเรือนร่างยั่วสวาทของเจ้าหล่อน
เขากำมือแน่น...พยายามเลี่ยงหนี แต่แม่เลี้ยงเขากลับขยับเข้ามาจนแทบจะเกยตักแข็งแรงนั้น
ใบหน้าสวยช้อนตามองลูกเลี้ยงด้วยสายตายวนยั่ว
?รดีเหงา คุณพ่อคุณกลางไปไหนก็ไม่รู้?
?เดี๋ยวคุณพ่อก็มาครับ?
?ยังหรอก...วันนี้จะกลับหรือเปล่าก็ไม่รู้ เห็นว่านัดกับคุณใหญ่เอาไว้...คุณกลางไม่รู้หรือคะว่าสองคนนั่นไปไหน?
?ไม่ทราบครับ?
แม่เลี้ยงเขายังรุกไม่หยุด...ขยับมือบอบบางมาวางบนตักของเขา จนเขาเหงื่อกาฬแตกซิกไปหมด
เขารีบขยับขาหนี
?อย่าครับ?
?อย่าอะไรคะ?
อภิรดีใช้สายตาเหลือบขึ้นมองใบหน้าหล่ออย่างลุ่มหลง...นึกในใจว่าผู้ชายอะไรหล่อบาดหัวใจขนาดนี้
นี่ขนาดยังไม่โตเต็มที่ยังหล่อได้ขนาดนี้ แค่มองอภิรดีก็หัวใจแทบจะละลายแล้ว...
อภิรดีแอ่นอกเข้ามาใกล้ จนทรวงอกอวบตึงเสียดสีกับท่อนแขนแข็งแรงนั้น ชายหนุ่มตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก พอได้สติก็รีบขยับตัวหนีอีก จนตัวเองจะหนีตกเตียงอยู่แล้ว...เขาเริ่มใจคอไม่เป็นส่ำ
?เอ่อ...ผม...ผมว่าเราออกไปคุยกันข้างนอกดีกว่าครับ?
ดูเหมือนใจฝ่ายดีของเขาจะกำลังต่อสู้กับอำนาจดำกฤษณ์นั้น หากแต่ดูเหมือนเจ้าหล่อนจะไม่ยอมให้เขาตั้งตัวได้ง่ายๆ
?ไม่เอาล่ะ...คุยในนี้น่ะดีแล้ว ขี้เกียจเป็นขี้ปากคนใช้ คุณกลางกลัวอะไรคะ หรือว่ากลัวรดีจะปล้ำ?
อภิรดีหัวเราะเสียงใส
เขารีบปฏิเสธออกไปทันที เด็กหนุ่มอย่างเขาไม่ยอมเสียหน้าเพราะกลัวผู้หญิงตัวนิดเดียวแน่
ภูวรินกลืนน้ำลายลงคออย่างกระอักกระอ่วน
?เอ่อ...คุณรดีมีอะไรหรือเปล่าครับ ผมจะได้ขอตัวอ่านหนังสือต่อ?
เขาว่า เลือดในกายยังไม่วายฉีดพล่าน
ก็จะไม่ให้เลือดเขาฉีดพล่านได้ยังไง ในเมื่อเจ้าหล่อนจงใจโน้มตัวต่ำลงมาเพื่ออวดเนินทรวงขาวสล้างต่อหน้าต่อตาเขาแบบนั้น
ภูวรินบังคับสายตาให้ละจากทรวงอกขาวผุดผาดอย่างสุดความสามารถ เหลือบไปมองประตูอย่างหวั่นวิตก
เขาเกรงว่าจะมีใครเปิดประตูเข้ามาเห็นเข้า และเอาภาพที่เห็นไปฟ้องบิดา ไม่อยากคิดเลยว่าบิดาจะโกรธมากแค่ไหน
ภูวรินมีสีหน้าไม่สบายใจ
ตอนนั้นถามตัวเองว่าจะทำยังไงดี ท่าทางแม่เลี้ยงของเขาจะไม่ยอมออกจากห้องเขาง่ายๆ เสียแล้ว
?ตายแล้ว...นี่จะไล่รดีเหรอ...ใจร้ายจัง รดีไม่มีเพื่อนนี่นา ขอรดีอยู่คุยด้วยไม่ได้เหรอ รดีไม่กวนหรอก คุณกลางจะอ่านหนังสือก็อ่านไปสิคะ รดีขออยู่เงียบๆ ก็ได้?
อภิรดีช้อนตามองลูกเลี้ยงอย่างเย้ายวน
ชายหนุ่มทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
?เอ่อ...ผม...ผม...?
ร่างบอบบางนั้นเบียดกระแซะมากยิ่งขึ้น...
ถ้าเขาไม่ขยับหนีคงได้นั่งเกยตักเขาไปเรียบร้อยแล้ว...ภูวรินว้าวุ่นใจ กำลังคิดว่าจะทำยังไงดี
ถ้าเขาลุกหนี จะกลายเป็นว่าเขากลัวหล่อนอีก
ภูวรินในตอนนั้นยังเป็นเด็กหนุ่มเกินจะมีความคิดรอบคอบอย่างผู้ใหญ่ ถ้าเป็นตอนนี้เขาคงผลักแม่เลี้ยงกระเด็นไปแล้ว
แต่ตอนนั้นเขากลับหวั่นเกรงสารพัด คิดแต่ว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่สุภาพบุรุษพึงกระทำต่อผู้หญิงแม้แต่น้อย
?อุ๊ย...ติดอ่างอยู่ได้ ร้อนเหรอคะ เหงื่อออกเยอะเชียว มานะ...ให้รดีเช็ดเหงื่อให้?
อภิรดีเบียดตัวเข้ามา...คราวนี้ร่างบางเกยขึ้นมาทับร่างสูง...ภูวรินเบี่ยงหนี แต่หล่อนกลับยื่นใบหน้าเข้ามาประทับที่คางหล่อเหลานั้น
?น่ารักจัง?
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?พลอยรัศมี? ได้รับคำสั่งที่เธอตะขิดตะขวงใจไม่อยากทำ หล่อนต้องไปยั่วสวาทป่วนหัวใจให้เพลิงกามาของชายคนหนึ่งลุกโชน ทว่าคำบัญชาลึกลับนั้นมีการซ่อนปมให้พลอยรัศมีเป็นเพียงไม้กันหมา หากแต่แรงพิศวาสที่หล่อนไม่ได้ตั้งใจก่อให้เกิดดันไปถูกใจเขาเข้าอย่างจัง โนมเนื้ออกอิ่มอุ่นของหล่อนนั้นทำให้ ?ภูวริน? ยอมเป็นคนโง่เดินตามแผน ความหอมละมุนของสาวเจ้าที่เขาได้สัมผัสและดื่มด่ำกับจุมพิตลึกซึ้งนั้นราวกับกายสาวเต่งตึงตรงหน้าทำให้ภูวรินคิดได้ว่าเขาควรมีเมียเป็นของตัวเองสักที และแล้วภูวรินก็ยกดวงใจให้ไปทั้งดวงเมื่อพลอยรัศมีทรยศตัวเองด้วยการแอ่นขึ้นรับให้เขาทำตามใจปรารถนา...สอดประสานอย่างพร้อมเพรียง
