New Release: วิมานซาตาน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release: วิมานซาตาน

โพสต์ โดย Gals »

1

เมื่อผู้ปกครองมารับเด็กอนุบาลคนสุดท้ายไปเรียบร้อย เมธาวี เมธากรก็หมดหน้าที่ของหล่อน หันมาคว้ากระเป๋าถือเดินกลับบ้านที่อยู่ห่างจากโรงเรียนแห่งนั้นไม่ไกล สะดวกที่จะเดินไปกลับได้ทุกวัน ระหว่างทางก็มีอาหารนานาชนิดทั้งคาวหวานให้ซื้อกลับบ้านไปเป็นอาหารเย็น ไม่ต้องทำให้มันวุ่นวายมากมาย
บิดาของเมธาวีเป็นนายทหารมีนามว่า เมธา เมธากร และนางวีรยา เมธากร มารดาของหล่อนก็เป็นครูเช่นเดียวกับเมธาวีนี่แหละ
บิดาของหล่อนตายก่อนขณะที่หล่อนยังเรียนไม่จบ แล้วมารดาก็แต่งงานใหม่กับผู้ชายที่มีชื่อเดียวกับบิดาหล่อน
แต่บิดาเลี้ยงนั้นไม่ได้ดีอย่างที่คิด ติดการพนัน ติดอบายมุขสารพัด และไม่ค่อยจะอยู่บ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าพอใจสำหรับหญิงสาวที่มีความงามสะดุดตาอย่างหล่อน
ทั้งความประพฤติและนิสัยใจคอที่ไม่เหมือนบิดาของหล่อน ทำให้คุณวีรยา มารดาของหล่อนเสียใจนัก หลังจากแต่งงานใหม่ได้ไม่กี่ปีก็ล้มป่วย...และตายตามบิดาไป...ซึ่งเวลานั้นเมธาวีเรียนจบพอดีและได้งานในโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้
พอมารดาตายจากไปแล้ว...นายเมธาพ่อเลี้ยงก็พาตัวเองหายเงียบไปด้วย ไม่กลับบ้านเลยจนกระทั่งเมื่อเย็นวาน...เมธาวีก็กลับไปพบพ่อเลี้ยงนั่งอยู่หน้าบ้าน ทำให้หล่อนต้องยอมให้เขาเข้าบ้าน ทั้งๆ ที่ไม่ได้สบายใจในการกลับมาของอีกฝ่ายสักนิด
หล่อนนึกถึงเมื่อเช้า...ขณะที่เมธาวีเตรียมตัวจะออกจากบ้านไปทำงาน นายเมธาก็เดินโครมๆ ลงมาจากชั้นบนออกไปจากบ้านโดยไม่ทักทายหรือพูดจากับหล่อนสักคำ...
พอมาถึงเย็นนี้...เมื่อเดินกลับบ้าน หล่อนจึงรู้สึกกังวลใจมากพอควร เพราะเวลานี้...ทั้งบ้านมีแต่หล่อนและพ่อเลี้ยงที่ไม่ได้คุ้นเคยกับหล่อนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
นายเมธาเหมือนคนแปลกหน้าสำหรับหล่อน ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในบ้านจนถึงเวลานี้
ถ้าเขามาอยู่กับหล่อนจริงๆ หล่อนจะทำยังไง...เพราะไม่สบายใจที่จะอยู่ร่วมด้วยเลย
หญิงสาวถามตัวเองจนเดินกลับมาถึงบ้าน...จัดการรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้วก็ดูทีวีอยู่พักใหญ่ๆ จึงเดินไปอาบน้ำ แต่งตัวและขึ้นไปไหว้พระในห้องพระที่อยู่ชั้นบนของบ้าน
ขณะนั้นเมธาวีได้ยินเสียงรถที่แล่นเข้ามาจอดลงหน้าบ้าน แล้วไม่นานต่อมาก็ได้ยินเสียงทุบประตูบ้านโครมๆ อย่างไม่เกรงใจใคร...
?เม...นังเม...เปิดประตูให้หน่อย...?
เสียงสั่งที่ดังเข้ามาสลับกับเสียงทุบประตูทำให้เมธาวีวิ่งซอยเท้าลงบันไดมาอย่างรวดเร็ว...
?นังเม...เปิดประตูหน่อย...?
คราวนี้เมธาวีฟังได้ชัดว่าเป็นเสียงใคร ทำให้หล่อนเปิดประตูให้อย่างรวดเร็ว...
พอประตูเปิดกว้าง ร่างของนายเมธาผู้เป็นบิดาก็วิ่งเข้าบ้านและก้าวขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสายตาที่มองตามไปอย่างงงงัน
ใช่แล้ว...เมธาวีงง เพราะนานๆ เขาจะกลับมาบ้านที... ยิ่งเมื่อแม่ตายแล้วแทบไม่กลับบ้านเลยก็ว่าได้
นายเมธาขึ้นไปเก็บข้าวของส่วนตัวที่มีอยู่ไม่มากอย่างรวดเร็ว ก่อนจะวิ่งออกจากห้องลงบันไดมา...
เขาตั้งใจจะออกไปจากบ้านให้เร็วที่สุด...แต่ไม่ทันได้พ้นประตูก็ชะงัก...
เมธาวีซึ่งมองตามพ่อมาอย่างงงๆ...พอเห็นบุรุษแปลกหน้าสองคนที่มาดักอยู่หน้าประตูบ้านก็ตกใจเช่นกัน...
แต่นายเมธาไม่ทันจะได้ขยับตัว...ปลายกระบอกปืนของฝ่ายที่ตามมาติดๆ ก็จ่อเข้ามาที่หน้าอกพร้อมกับกุญแจมือที่สับลงในข้อมือข้างหนึ่งของเขา และผลักทีเดียวนายเมธาก็เซแซดๆ เข้ามาในบ้าน ขณะอีกคนที่มาด้วยกันก็พุ่งเข้ามาหาหญิงสาวพร้อมกับปืนในมือ...
?อย่าขยับ...ไม่งั้นเธอตายแน่...?
เสียงขู่นั้นทำให้เมธาวีหยุดนิ่ง...ทำอะไรไม่ถูก ตัวสั่นขึ้นมาในทันทีด้วยความกลัว
?ไป...กลับไปหานายด้วยกัน...ไม่ต้องคิดหนี...?
นายคนที่จ่อปืนเข้ากลางอกนายเมธากระชากข้อมือของบิดาเมธาวีไปใส่กุญแจอีกข้างอย่างรวดเร็ว โดยที่นายเมธาไม่กล้าต่อสู้เลยแม้แต่น้อย
?พ่อ...นี่มันอะไรกันคะ...?
คำถามของหล่อนทำให้ผู้บุกรุกที่คล้องกุญแจมือพ่อหล่อนหันมามองหญิงสาวทันที
?อ้อ...นี่ลูกสาวรึ...? มันพึมพำและมองหล่อนด้วยสายตาเหมือนจะพิจารณาตัดสินใจอะไรสักอย่าง
?เอามันไปด้วยกันเลยดีกว่าพี่ บางทีมันจะทำให้พ่อมันเปิดปากง่ายขึ้น? คนที่จี้ปืนมายังหล่อนให้ความเห็น
?ก็ดี...ไป...?
ว่าแล้วมันก็กระชากร่างบิดาหล่อนออกไปทันที...แต่เมธาวีไม่คิดจะยอมให้มันเอาหล่อนไปด้วยง่ายๆ
หญิงสาวสลัดตัวห่างออกไปจากเจ้าคนตรงหน้า แต่มันคว้าคอหล่อนเอาไว้ทันและจับหญิงสาวกระแทกข้างฝาเต็มแรง ทำให้เมธาวีเจ็บจนพูดไม่ออกและลากร่างหล่อนตามผู้เป็นบิดาออกไปจากบ้านหลังนั้นทันที...
เมธาวี...พอตั้งสติได้อีกครั้งก็เริ่มดิ้นรนต่อสู้อีก ไม่ยอมให้มันเอาตัวหล่อนไปง่ายๆ และส่งเสียงร้องหมายจะเรียกเพื่อนบ้านออกมาช่วย...
?ช่วยด้วย...ช่วย...?
หล่อนตะโกนได้แค่นั้นก็โดนด้ามปืนตีลงมาบนท้ายทอยเต็มแรง...ทำให้หมดสติไปทันที...


เมื่อหญิงสาวรู้สึกตัวขึ้นอีกครั้ง หล่อนถูกมัดตัวไว้กับเก้าอี้ตัวหนึ่ง...ใกล้ๆ กันนั้นคือนายเมธาผู้เป็นพ่อซึ่งถูกมัดอยู่เช่นกัน...
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นเมื่อรู้สึกตัวเต็มที่และกวาดตาไปรอบๆ ห้องซึ่งปิดประตูมิดชิด...มีโต๊ะตัวเดียวอยู่กลางห้องและเก้าอี้สีฟ้าตัวที่หล่อนนั่งอยู่ นอกนั้นไม่มีอะไรเลยแม้แต่รูปภาพสักรูป...
หล่อนกวาดตาสังเกตไปรอบๆ ห้องเก่าๆ ห้องนั้น มองเห็นฝุ่นหยากไย่แมงมุมที่ชักใยอยู่ตามข้างฝาและมุมห้อง...บอกให้รู้ว่ามันถูกทิ้งไว้โดยไม่ได้ใช้งานมานาน...และไม่รู้ว่าเป็นที่ใด...
ดวงไฟที่ถูกเปิดไว้กลางห้องเพียงดวงเดียวนั้นบอกให้เมธาวีรู้ว่ามันคงเป็นเวลากลางคืน ไม่ใช่กลางวัน...นี่หล่อนหมดสติไปนานเท่าใด...หญิงสาวถามตัวเอง
แต่ยังไม่ทันที่จะคิดอะไรต่อ ประตูห้องนั้นก็เปิดออกพร้อมกับร่างชายสองคนที่บุกเข้ามาเอาตัวพ่อกับหล่อนออกมาจากบ้านนั่นเอง...
ใช่แล้ว...เวลานี้ที่หล่อนได้มีเวลามองหน้ามันทั้งคู่ได้เต็มตา
มันหน้าตาเหมือนกันทั้งคู่...ใช่แล้ว มันเป็นคู่แฝดหน้าตาดี...แต่งตัวเรียบร้อย...เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำซ่อนชายเอวไว้ในกางเกงดำ ผูกเนคไทเรียบร้อยแล้วก็มีเสื้อสวมทับอีกตัว...หล่อนจึงไม่เห็นปืนของมันที่ซ่อนไว้ที่ไหนไม่รู้เวลานี้...
คู่แฝดแต่งตัวเหมือนกันทุกอย่าง...ผิดกับคนที่เดินตามหลังเข้ามาท้ายสุดที่ทำให้หญิงสาวต้องกะพริบตา เมื่อเห็นร่างสูงที่ตามคู่แฝดเข้ามาเป็นคนสุดท้าย...
หล่อนแทบไม่อยากเชื่อว่า ?โจร? มันจะหน้าตาดีได้ขนาดนี้...อาจจะเรียกได้ว่ารูปหล่อซะด้วยซ้ำ...ไม่ว่าจะเป็นเส้นผมที่หวีมัดไปด้านหนึ่งเรียบร้อย...รูปหน้าที่คมคาย สะดุดตาเป็นอย่างมาก...โดยเฉพาะสันกรามและโหนกแก้มที่ทำให้รูปหน้านั้นเด่นสะดุดตา และท้ายสุดดวงตาดำสนิทที่ทอดนิ่งมายังหล่อน ก่อนที่เปลือกตาที่ระบายไปด้วยขนตายาวคู่นั้นจะกะพริบขึ้นลง พร้อมกับคิ้วเข้มได้รูปที่ขมวดเข้าหากัน ร่างสูงเพรียวก้าวมาหยุดลงตรงหน้าหล่อน
?ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร...? ดวงตาคู่นั้นทอดมองหล่อนนิ่ง...นานด้วยความคิดที่ติดตามมา
เสียงถามสั้นๆ ห้วนๆ แสดงให้เห็นทีเดียวว่าคนถามมีอำนาจเหนือคู่แฝดทั้งคู่นั้น โดยไม่เปลี่ยนสายตาที่มองหล่อนนิ่งๆ นั้นไปไหน...
?ลูกสาวของมันครับนาย...?
คู่แฝดคนหนึ่งตอบสั้นๆ ขณะที่คนทั้งสามคนยืนเรียงเป็นแถวอยู่ตรงหน้าเชลยที่จับมาได้...
?อ้อ...หนีไปหาลูกรึ...จะเอาของของฉันไปให้ลูกรึ...เอาคืนมาซะดีๆ...?
ประโยคนี้นายคนตัวสูงแถมรูปหล่ออีกต่างหากพูดกับมองพ่อหล่อน...
เมธาวีหันไปมองพ่อ...แต่นายเมธากลับนิ่งเฉย...เหมือนไม่ได้ยิน...หล่อนจึงถามออกไปว่า...
?พ่อฉันเอาอะไรของพวกนายมา...?
ทั้งเสียงและคำถามของหล่อนทำให้นายรูปหล่อคนนั้นหันมามองหญิงสาวอีกครั้ง...และไม่ได้มองเปล่า
คราวนี้ดวงตาคู่นั้นสำรวจหล่อนไปตลอดตัว...ตั้งแต่เส้นผมสลวยหยักศกที่หยักเป็นลอนใหญ่ๆ ตามธรรมชาติที่กระจายเป็นกรอบรอบดวงหน้าหล่อน ก่อนจะกระจายลงมาตามบ่าไหล่...และความงามตามธรรมชาติของใบหน้าที่ทำให้ผู้ชายทุกคนที่ได้เห็นหล่อนต้องหันมามองอย่างสนใจ...และผู้ชายทั้งสามตรงหน้าก็ไม่ได้อยู่นอกกฎธรรมชาตินั้น...โดยเฉพาะนายตัวสูงตรงหน้าที่ทอดตามองหล่อนนิ่งอย่างมีความหมาย ก่อนที่จะหันไปมองพ่อหล่อน...
?ลูกสาวสวยนะ...?
นายรูปหล่อนั้นพูดกับพ่อหล่อนยิ้มๆ และปรายตามามองเมธาวีอีกครั้ง
?น่าเสียดายว่าหน้าสวยๆ ของเธอจะต้องมีแผลเป็นไปชั่วชีวิต ถ้านายไม่ยอมคืนแหวนของแม่ฉันมา...?
?แหวนของแม่นายเหรอ...ราคาเท่าไหร่...ฉันจะชดใช้ให้...?
?ไม่มีทาง...?
นายคนนั้นหันขวับมามองหล่อนด้วยสายตาของความโกรธกริ้วและบอกต่อไปว่า...
?แหวนวงนั้นเป็นเพชรเม็ดเดียว ราคาร่วมยี่สิบล้านในเวลานี้...น้ำหน้าอย่างเธอไม่มีปัญญาหาเงินขนาดนั้นมาคืนฉันหรอก และข้อสำคัญ ฉันต้องการแหวนคืน...ไม่ใช่เงิน...?
เขาสรุปก่อนจะหันไปมองพ่อหล่อนที่นิ่งเงียบมาตลอดใหม่
?ว่าไง...บอกมาว่าอยู่ไหน...?
เขาถาม...เมธายังนิ่ง เหมือนจะใช้ไม้ดื้อ...ไม่ยอมคืนของที่ขโมยมาให้เจ้าของ
เมื่อพ่อของหล่อนเงียบ ชายคนนั้นก็ถอยห่างไปด้วยสีหน้าแห่งความโกรธขึ้งไม่พอใจ...โดยเฉพาะดวงตาคมที่ทอดมองพ่อหล่อนและเลยมายังหล่อน มันเย็นเยียบเสียจนเมธาวีเย็นวาบไปทั่วสันหลัง...
เขาไม่พูดเลยสักคำขณะที่ถอยห่างออกไป แล้วพยักหน้าให้ลูกน้องของเขาเข้ามาซ้อมพ่อของหล่อน...หมัดแรกเล่นเอานายเมธาหน้าหงาย...แล้วก็หมัดที่สอง สาม สี่ ห้า ที่ประเคนตามลงมาอย่างที่พ่อหล่อนไม่มีทางสู้จนเลือดกบปาก
?พ่อ...? เมธาวีร้องเสียงหลงด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ ?บอกเขาสิพ่อ...คืนของให้เขาไป...?
หล่อนตะโกนบอกพ่อขณะที่คู่แฝดอีกคนเดินเข้ามาลากเก้าอี้ที่หล่อนนั่งอยู่ห่างออกไป แล้วช่วยคู่แฝดของมันซ้อมพ่อหล่อนจนนายเมธาสลบคาเก้าอี้...
เวลานั้นมันคนหนึ่งจึงออกไปหิ้วน้ำจากห้องน้ำใกล้ๆ กันมาสาดโครมใส่พ่อหล่อน...ปลุกให้ฟื้นขึ้นอีกครั้ง...
นายรูปหล่อคนนั้นเดินเข้าไปหาพ่อหล่อนและจิกผมดึงหน้านายเมธาขึ้นมองกันและกัน...
?บอกมาซะ ถ้าแกปากแข็ง...ฉันจะทุบมือแกให้แหลกทั้งสองข้าง...และกรีดหน้าลูกสาวแกซะ...?
ไม่พูดเปล่า...แต่นายรูปหล่อคนนั้นหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องของมันก้าวเข้ามาหานายเมธาอีกครั้ง แล้วแก้เชือกที่ผูกข้อมือด้านหลังออก...ดึงมือนายเมธาขึ้นมาวางบนเท้าแขนของเก้าอี้ทั้งสองข้าง แล้วมัดเอาไว้ด้วยเทปกาวขนาดใหญ่แน่นหนา...
?พ่อ...พ่อคืนเขาไปเถอะ...เขาจะได้ปล่อยเรานะพ่อนะ...?
เมธาวีส่งเสียงบอกพ่อ แต่นายเมธากลับเฉยตามเดิม...เหมือนจะยอมทุกอย่างเพื่อแหวนวงนั้น...
ขณะนั้นนายคู่แฝดต่างก็หันไปหาไม้หน้าสามมาได้คนละอันและเดินตรงมายังนายเมธาอีกครั้ง...แล้วทั้งคู่ก็ต่างตีลงไปบนมือที่มัดไว้แน่นหนานั้น...โดยไม่ฟังเสียงร้องขอของเมธาวีที่กรีดขึ้นก้องในราตรีนั้นเลย...
หล่อนร้องจนนายรูปหล่อทนไม่ไหวต้องเดินเข้ามาหา แล้วดึงผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงออกมาผูกปากหล่อนเอาไว้ ก่อนจะขยับมาหยุดลงตรงหน้าแล้วมองหญิงสาวด้วยสายตาครุ่นคิดแบบเดิม...หลังจากนั้นก็เดินกลับไปหาพ่อหล่อน...
?บอกมาว่าแหวนอยู่ไหน...?
เขาก้มลงถามพ่อหล่อนอีกครั้ง...นายเมธายังเฉย...
?ไม่งั้นฉันกรีดหน้าลูกสาวคนสวยของนายแน่...?
เขาเปลี่ยนวิธีเล่นงานนายเมธาโดยหันมาหาหล่อน...แต่ยังไม่ทันถึงตัวก็ชะงัก เมื่อร่างสูงของนายหนุ่มก้าวเข้ามาลากหล่อนให้ขยับไปด้านหลังชิดข้างฝาห้อง...แล้วตัวเขาก็ก้าวออกไปยืนตรงหน้าพ่อหล่อนอีกครั้ง...
?จะให้ฉันกรีดหน้าลูกสาวแกหรือจะให้แหวนคืนมา...?
หากเมธาก็ยังเฉย...ทำให้คิ้วเข้มของนายรูปหล่อขมวดเข้าหากันอีก...
?นี่แกเห็นว่าแหวนมีค่ามากกว่าลูกรึ...ถ้าหากหน้าสวยๆ นั้นมีแผลเป็น...หล่อนจะทำอะไรไม่ได้อีกชั่วชีวิตนะ...ลูกทั้งคนนะเมธา...?

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?เมธาวี? เป็นครูในโรงเรียนอนุบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งใกล้บ้าน ชีวิตของหล่อนราบเรียบ เงียบเหงา ว้าเหว่ และอ้างว้างขาดที่พึ่ง แต่แล้ววันหนึ่งพรหมลิขิตก็จับหล่อนโยนใส่มือซาตานร้ายผู้นั้น เพียงเพราะพ่อเลี้ยงใจร้ายไปขโมยแหวนมูลค่าเป็นล้านของมารดาเขา ?เปลวตะวัน? เดือดดาลกรุ่นโกรธจนต้องจับลูกเลี้ยงที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เช่นหล่อนมาลงโทษ ซึ่งแหวนวงเดียววงนั้นเช่นกันที่ลงทัณฑ์ให้ เปลวตะวันตกหลุมรักเมธาวีอย่างอยากจะถอนใจ ?เธอ?น่าสงสารจัง?คราวนี้ฉันให้โอกาสเธอร้องดังๆ นะ ให้พ่อใจร้ายของเธอได้ยิน? พูดจบ?ชายหนุ่มก็ดึงผ้าที่ผูกปากหล่อนออก แล้วเมธาวีก็กรีดเสียงร้องออกมาอย่างตกใจสุดขีด เมื่อมือของเขาคว้ามาที่คอเสื้อแล้วกระชากเต็มแรง จนกระดุมทุกเม็ดหลุดกระจาย เผยให้เห็นทรวงอกเปล่าเปลือยเต็มตึงที่ไม่มีอะไรปิดบังไว้อีกแล้ว

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”