ในโรงเรียนฟุมิสึกิที่พวกเราอยู่ก็เริ่มมีการเตรียม ?งานเซย์เรียว? อันเป็นกิจกรรมแรกของปีการศึกษาใหม่นี้
บางห้องก็เริ่มดัดแปลงห้องเรียนให้กลายเป็นบ้านผีสิง บางห้องก็จัดหาเครื่องมือปรุงอาหารมาเพื่อทำยากิโซบะ บางห้องก็จัดแสดงเกี่ยวกับ ?ระบบเรียกอสูรการสอบ? ที่มีเฉพาะโรงเรียนนี้ ในเวลาโฮมรูมยาวเพื่อการเตรียมงานโรงเรียนนั้น ไม่ว่าจะดูห้องเรียนไหนก็เปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวา
และเมื่อพูดถึงห้อง F ของพวกเราแล้ว....
?โยชิอิ! เข้ามาเลย!?
?มาดวลกัน ซึงาว่าคุง!?
?ฉันจะหวดลูกของนายให้ปลิวออกไปนอกสนามเลย!?
ไม่ยอมเตรียมงาน แต่มาเล่นเบสบอลอยู่ในสนามโรงเรียน
?ปากดีนักนะ!? เมื่อเป็นอย่างนี้ ผมจะไม่ยอมให้ตีถูกได้เด็ดขาด!?
ผมใช้เท้าเกลี่ยดินตรงเนินขว้างลูกดังแซ่ก และคอยสัญญาณจากยูจิที่กางถุงมือรอรับลูกอยู่ นั่นเป็นเพื่อนซี้ของผม ผู้เคยมีมันสมองยอดเยี่ยมขนาดถูกเรียกว่าเด็กยอดอัจฉริยะ เขาจะต้องออกคำสั่งที่ทำให้ปราบซึงาว่าคุงได้สบายๆ อย่างแน่นอน
?ลูกต่อไป?
สัญญาณจากยูจิมาแล้ว เราตกลงกันว่าคำสั่งเรื่องรูปแบบของลูกจะมาเป็นอันดับแรก เอาล่ะ จะให้ขว้างลูกแบบไหนดี?
?ขว้างลูกโค้ง?
อืมๆ ต่อไปให้ขว้างลูกโค้ง....
?ไปที่หัวแบตเตอร์?
?นั่นมันผิดกฎไม่ใช่เหรอ!??
จริงอยู่ว่าลูกอาจจะไม่โดนหวดออกนอกสนาม แต่แบบนั้นมันมีบางอย่างผิดไปสินะ!?
ผมตั้งใจจะเมินคำสั่งของยูจิ แล้วขว้างลูกถนัด แต่ทันใดนั้นเอง
?นี่พวกเธอ โดดการเตรียมงานโรงเรียนมาทำอะไรกันอยู่!?
?ซวยแล้ว! คนเหล็กมา!?
อาจารย์นิชิมุระ (สมญานาม คนเหล็ก) ที่เป็นครูประจำชั้นของพวกเรา วิ่งออกมาจากตึกเรียนอย่างกราดเกรี้ยว ถ้าถูกจับได้ก็ต้องโดนอัดจนน่วมด้วยกำปั้นที่ได้รับการขัดเกลามาเป็นอย่างดีของเจ้านั่นแน่! ตอนนี้ต้องพยายามหนีให้พ้นก่อน!
?โยชิอิ! เธอเป็นตัวการให้โดดงานสินะ!?
?มะ ไม่ใช่นะครับ! เพราะอะไรถึงมองผมในแง่ร้ายเสมอเลยล่ะครับ!??
ทั้งที่วิ่งสุดฝีเท้าแล้ว แต่ก็สลัดไม่หลุดเลย สมกับเป็นพวกนักกีฬาที่มีไตรกีฬาเป็นงานอดิเรก....อ๊ะ นี่ไม่ใช่เวลามาชื่นชมสักหน่อย!
?ยูจิครับ! ตัวแทนห้อง ซาคาโมโตะ ยูจิเป็นคนเสนอให้มาเล่นเบสบอลครับ!?
คนที่ชวนมาเล่นเบสบอลในเวลาสำหรับกำหนดเนื้อหาการออกร้านก็คือยูจิ เขาจะต้องรับผิดชอบด้วยการยอมถูกลงโทษอย่างแน่นอน!
พอผมคิดอย่างนั้นแล้วมองไปทางยูจิ เจ้านั่นก็ส่งสายตาบอกผมว่าอย่างนี้
?ขว้างลูกฟอร์ค ไปที่หว่างขาคนเหล็ก?
?ไม่ใช่แล้ว! ตอนนี้ผมไม่ได้ถามรูปแบบของลูกหรือทิศทางนะ! ยิ่งกว่านั้น ขืนทำอย่างนั้น ผมก็แค่โดนโกรธเท่านั้นเองสินะ!??
ที่สำคัญ มีความหมายอะไรที่จะใช้ลูกเปลี่ยนทิศด้วยเหรอ
?ทุกคนกลับไปเข้าห้องเรียนซะ! ห้องที่ถึงตอนนี้แล้วยังกำหนดหัวข้อการออกร้านไม่ได้น่ะ มีแต่ห้องเราเท่านั้นนะ!?
เสียงตวาดของคนเหล็กดังกึกก้องเหมือนจะส่งตรงถึงวิญญาณ จากนั้นพวกเราก็ถูกเอาตัวกลับห้องเรียนอันซอมซ่อ
?เอาล่ะ ถึงช่วงเวลาที่เราต้องกำหนดหัวข้อการออกร้านในงานเซย์เรียวที่เป็นงานโรงเรียนประจำฤดูใบไม้ผลิแล้ว....?
หลังจากที่การเล่นเบสบอลต้องยุติลง ยูจิผู้เป็นตัวแทนห้อง F ได้ประกาศเช่นนั้น ขณะที่มองลงมายังพวกเราซึ่งเอาเสื่อปูนั่งบนพื้น
?ก่อนอื่น ฉันจะขอมอบหมายให้ใครบางคนเป็นผู้ดำเนินการประชุม กับกรรมการจัดงาน และจะให้อำนาจทั้งหมดกับคนคนนั้นด้วย ดังนั้นฝากที่เหลือด้วยล่ะ?
ยูจิมีท่าทีไม่ใส่ใจอย่างที่สุดเลย เห็นทีเจ้าบ้านั่นคงคิดจะยัดเยียดงานให้คนอื่นทั้งหมดแล้วไปนอน เพราะว่าไม่สนใจล่ะสิ? เขาเป็นคนเสนอให้เล่นเบสบอลในเวลาเตรียมงานด้วย นับเป็นท่าทีซึ่งต่างจากเมื่อตอนสงครามอสูรสอบลิบลับเลย
?โยชิอิคุง ซาคาโมโตะคุงเขาไม่ค่อยชอบงานโรงเรียนเหรอคะ??
คนที่มาพูดกับผมด้วยเสียงแผ่วเบาจนไม่เป็นการรบกวนการหารือก็คือเพื่อนร่วมชั้นชื่อฮิเมจิ มิสึกิซัง วันนี้รอยยิ้มอันงดงามกับหน้าอกที่ใหญ่โตก็ดูเจิดจ้าในสายตาผมอีกเช่นเคย
?ผมไม่ได้ฟังมาโดยตรง ก็เลยไม่รู้เหมือนกัน แต่ท่าทางจะไม่ได้ตั้งตาคอยนะ เพราะถ้าเขามีความสนใจ ก็น่าจะเป็นตัวตั้งตัวตีในการดำเนินงานมากกว่านี้?
?อย่างนั้นเหรอคะ.... น่าเศร้าจังค่ะ....?
ใบหน้าของฮิเมจิซังที่ดูสดใสอยู่เสมอปรากฏแววหม่นหมองขึ้นเล็กน้อย
?โยชิอิคุงก็ไม่สนใจเหรอคะ??
ฮิเมจิซังก้มหน้านิดๆ แล้วเหลือบมองผม นะ น่ารัก....
?อือ ไม่รู้เหมือนกันนะ ผมไม่ได้อยากทำอะไรสักอย่างมากถึงขนาดนั้นซะด้วย?
นี่เป็นความรู้สึกแบบตรงไปตรงมาของผม ถึงจะนึกดีใจที่จะไม่มีการเรียนการสอน แต่ก็ไม่มีเป้าหมายว่าอยากทำอะไรเป็นพิเศษในงานโรงเรียน
?ฉัน....อยากสร้างความทรงจำในงานโรงเรียนร่วมกับโยชิอิคุงนะคะ?
?เอ๋??
ถ้อยคำแฝงความนัยของเธอทำให้ผมเผลอส่งเสียงโง่ๆ ออกมาโดยไม่รู้ตัว
?เอ่อ โยชิอิคุงรู้เรื่องนี้มั้ยคะ....? คนลือกันว่างานโรงเรียนของโรงเรียนเราจะสร้างคู่รักแสนสุขได้ง่าย....แค่กๆ?
พูดได้แค่นั้นอยู่ๆ ฮิเมจิซังก็เอามือป้องปากแล้วเริ่มไอ หน้าก็แดงนิดๆ ด้วย เป็นหวัดรึเปล่านะ?
?ไม่เป็นไรนะ??
?คะ ค่ะ ขอโทษนะคะ....?
อาจจะเพราะรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย เธอเลยดูมีน้ำตาคลอ จะว่าไป หมู่นี้ผมเห็นฮิเมจิซังไอบ่อยจัง
ตอนนี้เครื่องใช้ได้ถูกลดขั้นลงไปจากเสื่อทาทามิเปื่อยๆ แล้ว ในห้องเรียนจึงมีแค่เสื่อโทรมๆ กับกล่องส้มเท่านั้น เมื่อเทียบกับโต๊ะเก้าอี้แล้ว มันทำให้อ่อนล้ากว่ากันเยอะ แล้วก็ยังไม่ดีต่อสุขภาพด้วย หากเธอผู้มีร่างกายอ่อนแอจะไม่สบาย ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร เป็นเรื่องธรรมดาด้วยซ้ำไป
?ต้องหาทางทำอะไรสักอย่างโดยเร็วล่ะนะ....?
สภาพแวดล้อมที่ถูกสุขอนามัย และเครื่องใช้ที่ไม่สร้างภาระต่อร่างกาย ผมรู้สึกว่าถ้าไม่หาสองอย่างนี้มา สักวันฮิเมจิซังก็จะต้องล้มหมอนนอนเสื่อไป กว่าจะถึงสงครามอสูรสอบครั้งหน้าก็ยังอีกราวๆ 2 เดือน ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากหาทางแก้ไขให้ได้เร็วๆ
?งั้นเอาเป็นว่าให้ชิมาดะเป็นกรรมการจัดงานโรงเรียนได้มั้ย??
คำพูดของยูจิที่ลอยมาเข้าหูแบบไม่ได้ตั้งตัวทำให้ผมนึกสถานการณ์ในตอนนี้ออก จริงสิ เรากำลังหารือเกี่ยวกับงานโรงเรียนกันอยู่นี่นา
?เอ๊ะ? จะให้ฉันเป็นเหรอ? อือ.... ฉันจะเข้าร่วมการประลองอสูรนะ คงไม่ไหวมั้ง?
คนที่กำลังลนลานเพราะถูกระบุชื่ออย่างกะทันหันก็คือชิมาดะ มินามิซัง เด็กสาวผู้เติบโตมาในเยอรมัน เธอเป็นสาวน้อยที่มีจุดเด่นตรงดวงตาที่ดูเด็ดเดี่ยว กับผมทรงหางม้า
?ยูจิ ฮิเมจิซังน่าจะเหมาะที่จะเป็นกรรมการจัดงานมากกว่ามินามิไม่ใช่เหรอ??
?เอ๋? ฉันเหรอคะ??
ฮิเมจิซังทำท่างงๆ ที่ถูกพูดถึง แต่ผมคิดว่าให้ฮิเมจิซังที่อ่อนโยนเป็นจะดีกว่ามินามิที่แข็งกร้าว เพราะคงไม่ทำให้การหารือดุเดือดขึ้นมา
?ฮิเมจิน่ะไม่ไหวหรอก ระหว่างที่มัวตั้งใจรับฟังความเห็นของทุกคนอยู่ เวลาคงหมดก่อนน่ะสิ?
ตัวแทนห้องของเราตอบมาด้วยท่าทางง่วงๆ
พอได้ฟังแบบนั้นแล้ว ยูจิก็พูดถูกจริงๆ นั่นล่ะ ฮิเมจิซังจะต้องละทิ้งเสียงส่วนน้อยไม่ได้แน่ๆ ปกติแล้วนั่นเป็นข้อดีก็จริง แต่ในเวลาแบบนี้มันคงจะกลายเป็นผลเสียไป
?ไม่ใช่แค่นั้นนะอาคิ มิสึกิก็จะเข้าร่วมการประลองอสูรเหมือนกัน?
?เอ๊ะ? งั้นเหรอ??
?ค่ะ ฉันตั้งใจจะเข้าร่วมโดยจับคู่กับมินามิจังน่ะค่ะ?
ฮิเมจิซังพูดพลางบีบมือเล็กๆ ของตัวเองจนแน่น
?นั่นเป็นกิจกรรมที่เหมือนการโฆษณาโรงเรียนแท้ๆ ทั้งคู่นี่ชอบอะไรแปลกๆ นะ?
โรงเรียนฟุมิสึกิที่พวกเราอยู่นี้ มี ?ระบบเรียกอสูรการสอบ? ซึ่งกำลังได้รับความสนใจในระดับโลก และดูเหมือนปีนี้จะมีการจัด ?การประลองอสูรการสอบ? ภายในงานเซย์เรียว เพื่อที่จะเปิดเผยระบบที่ได้รับความสนใจนั่นต่อสังคม แต่ผมไม่สนใจเลยสักนิดนะ
?ฉันเป็นฝ่ายถูกมิสึกิชวนน่ะนะ มิสึกิเขายืนกรานจะแสดงความสามารถให้คุณพ่อเห็นให้ได้น่ะ?
?แสดงความสามารถให้คุณพ่อเห็นเหรอ??
?อืม เห็นว่าตอนอยู่บ้านโดนว่ามาหลายอย่าง เลยโกรธจนบอกว่า ห้อง F โดนดูถูกด้วยค่ะ! ฉันยอมไม่ได้หรอก!?
?โห แปลกมากเลยนะที่ฮิเมจิซังโกรธ?
?ก็แหม ทั้งที่ไม่รู้เรื่องของทุกคนเลยสักนิด แต่มาดูถูกกันด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นห้อง F เท่านั้นเองนะคะ ยอมไม่ได้หรอกค่ะ?
?......?
ขอโทษนะ แม้แต่ผมที่รู้จักทุกคนเป็นอย่างดีก็ยังคิดว่าห้อง F เป็นแหล่งรวมคนโง่เลย
?ดังนั้นเธอก็เลยจะจับคู่กับฉันที่อยู่ห้อง F แล้วคว้าตำแหน่งชนะเลิศในการประลองอสูรให้คุณพ่อต้องอึ้งไงล่ะ?
อย่างนี้นี่เอง ถ้าฮิเมจิซังที่มีความสามารถจริงเป็นที่ 2 ของชั้นปี มาจับคู่กับมินามิซึ่งขอเพียงอ่านคำถามออกก็จะทำคะแนนได้ดีพอควร การที่จะชนะเลิศก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้นะ
?ทั้งสามคน ฉันขอพูดต่อได้มั้ย??
?อ๊ะ โทษทียูจิ กำลังพูดเรื่องที่จะให้มินามิเป็นกรรมการจัดงานสินะ??
?ก็บอกแล้วไงว่าฉันจะเข้าร่วมการประลองอสูรน่ะ?
?ถ้างั้นเดี๋ยวจะเลือกรองกรรมการจัดงานมาช่วยสนับสนุนเธอก็แล้วกัน แบบนั้นตกลงมั้ย??
ระหว่างพูด ยูจิชำเลืองมองมาทางผมด้วย คิดจะใช้ผมเป็นเครื่องสังเวยงั้นเรอะ? แต่แค่หาคนช่วยให้ มินามิจะยอมรับงานยุ่งยากมาทำรึเปล่านะ
?อือ.... นั่นสินะ ถ้าฉันพอใจรองกรรมการจัดงานนั่น จะยอมเป็นก็ได้....?
?งั้นเหรอ ถ้างั้นก่อนอื่นฉันจะให้ทุกคนเสนอชื่อคนที่เหมาะจะเป็นรองกรรมการจัดงานมา จากนั้นชิมาดะก็เลือก 2 คนมาลงคะแนนอีกทีดีมั้ย?
ยูจิถามความเห็นชอบจากเพื่อนร่วมชั้นทุกคน แล้วจึงเริ่มมีเสียงเสนอชื่อจากตรงนั้นตรงนี้ภายในห้องเรียน
?ฉันคิดว่าโยชิอิเหมาะจะเป็นนะ?
?ฉันว่าซาคาโมโตะควรจะเป็นมั้ง??
?อยากแต่งงานกับฮิเมจิซังจัง?
?งานนี้ให้ซึงาว่าเป็นจะดีกว่า?
น่าจะได้เวลาหาตัวไอ้คนที่คอยออกปากฝากรักอย่างเร่าร้อนให้ฮิเมจิซังอยู่เรื่อยให้เจอแล้วมั้ง
?ฉันคิดว่าอาคิฮิสะเหมาะสมกว่านะ?
คนที่ออกเสียงให้ผมก็คือฮิเดโยชิ สาวน้อยแสนสวยที่ชอบใช้คำพูดแบบตาแก่นั่นเอง แม้ว่าจริงๆ แล้วภายในจะเป็นผู้ชายก็เถอะ
?นี่ ฮิเดโยชิ ถ้าเป็นไปได้ ผมก็ไม่อยากรับหน้าที่ยุ่งยากแบบนั้นหรอกนะ?
?คนอื่นๆ ต่างก็คิดแบบนั้นเหมือนกันหมดล่ะ เมื่อเป็นเช่นนั้น ให้ผู้ที่เหมาะสมมาเป็นจะดีกว่าใช่มั้ยล่ะ??
?อุ๊.... มันก็จริงอยู่หรอก....?
ไม่รู้หรอกนะว่าผมจะเหมาะสมหรือเปล่า แต่เขาพูดเรื่องสมเหตุสมผล ผมเลยเถียงไม่ออก
แต่ก็เอาเถอะ เพิ่งจะถูกเสนอชื่อเท่านั้นเอง ยังไม่แน่นอนสักหน่อย ต้องให้มินามิเลือกคนที่เหมาะมา 2 คน แล้วทำการลงคะแนนก่อนถึงจะเป็นที่แน่นอนนี่นา
?ดีล่ะ งั้นชิมาดะก็เลือก 2 คนจากพวกที่ถูกเสนอชื่อมาเมื่อกี้เลย?
?นั่นสินะ ถ้างั้นก็....?
เมื่อมีชื่อถูกเสนอมาถึงระดับหนึ่งแล้ว มินามิก็เขียนชื่อผู้เข้ารับการลงคะแนนลงบนกระดานดำที่ทรุดโทรม
?คนที่ 1....โยชิอิ?
อ๊ะ นึกแล้วว่าต้องเป็นผม
?คนที่ 2....อาคิฮิสะ?
อ๊ะ นี่ก็ผมอีกเหมือนกัน
?เอาล่ะ เลือกได้เลยว่าต้องการคนไหนในสองคนนี่?
?นี่ ยูจิ ไม่คิดว่าการเสนอชื่อของมินามิมันแปลกอย่างเห็นได้ชัดบ้างเหรอ??
?เอาไงล่ะ? อยากได้คนไหน??
?นั่นสินะ.... จะคนไหนก็สวะเหมือนกันซะด้วย....?
?เดี๋ยวเถอะ! อย่ามาแกล้งทำเป็นคิดหนักจริงๆ นะ! แล้วก็การที่มาเรียกเพื่อนร่วมชั้นเป็นสวะอย่างหน้าตาเฉยแบบนี้ พวกเธอต่างหากที่เป็นเดนมนุษย์!?
ให้ตายสิ มโนธรรมของคนห้องนี้มันยังไงกันนะ
?เร็วๆ เข้าอาคิ อย่าเพิ่งสนเรื่องนั้นเลย เป็นอันว่าฉันกับนายต้องรับหน้าที่แล้วนะ ออกมาข้างหน้าแล้วเริ่มประชุมสิ?
?รู้สึกเหมือนผมจะถูกจับให้รับบทซวยแบบนี้เสมอเลย....?
เมื่อถูกมินามิเร่งเร้า ผมก็ลุกจากที่นั่งแล้วออกไปข้างหน้าอย่างเสียไม่ได้
?งั้นก็ฝากที่เหลือด้วยนะ ฮ้าว....?
ว่าแล้วยูจิก็เดินสวนกลับไปนั่งที่ ดูท่าไม่คิดจะอดกลั้นการอ้าปากหาวด้วย ออร่าเฉื่อยชาถูกส่งออกมาจากทั่วตัวเลย
?ฉันจะดำเนินการประชุมเอง อาคิช่วยจดเนื้อหาลงบนกระดานให้หน่อยนะ?
?อืม รับทราบ?
ผมไปยืนตรงหน้ากระดานดำโทรมๆ แล้วคว้าชอล์กที่เหลือสั้นนิดเดียวมาถือไว้ในมือ ไม่ไหวแฮะ เครื่องใช้ย่ำแย่จริงๆ เลย แบบนี้ไม่เหมาะจะนั่งเรียนแล้ว
?เอาล่ะ รีบๆ มากำหนดกันเลย ใครมีอะไรอยากทำในการออกร้านของห้อง ช่วยยกมือขึ้นได้มั้ย??
พอมินามิเอ่ยปากออกไปก็มีหลายคนยกมือขึ้น ดูเหมือนจะไม่ได้ไม่มีไฟกันไปหมดทุกคนนะ
?เอ้า สึจิยะ?
?....(ลุก)?
คนที่ลุกขึ้นยืนเมื่อถูกเรียกชื่อก็คือสึจิยะ โคตะ หนึ่งในเพื่อนของผมเอง แต่ชื่อมุสสึลินี อันมีที่มาจากจอมลามกเงียบ อาจจะโด่งดังกว่าชื่อจริงนะ
?....สตูดิโอภาพถ่าย?
?สตูดิโอภาพถ่ายที่สึจิยะเป็นคนพูดนี่ ทำให้สังหรณ์ใจถึงอันตรายมากเลยนะ?
มินามิทำหน้ารังเกียจสุดขีดเชียว
จริงอยู่ว่าในสายตานักเรียนหญิงแล้ว รูปที่มุสสึลินีถ่ายอาจจะน่ารังเกียจ แต่สำหรับนักเรียนชาย สตูดิโอภาพถ่ายนั่นเรียกได้ว่าเป็นขุมสมบัติทีเดียว แต่ก็อาจเรียกว่าเป็นห้องถ้ำมองได้ด้วย
?อาคิ ถึงยังไงนั่นก็เป็นความเห็นล่ะ ช่วยเขียนลงกระดานดำให้ทีได้มั้ย??
?ได้จ้า?
เอ่อ ข้อเสนอของมุสสึลินีคือ
[ข้อเสนอ 1 สตูดิโอภาพถ่าย ?ห้องถ้ำมองลับ?]
?ต่อไป เอ้า โยโกมิโสะ?
?อยากจะบอกว่าเมดคาเฟ่อยู่หรอกนะ แต่น่าจะใช้กันจนเกร่อแล้ว คราวนี้ขอเสนอเวดดิ้งคาเฟ่ที่แปลกใหม่ดีก็แล้วกัน?
?เวดดิ้งคาเฟ่? มันเป็นยังไงเหรอ??
?ก็เป็นร้านกาแฟธรรมดานั่นแหละ แค่มีสาวเสิร์ฟสวมชุดแต่งงานเท่านั้นเอง?
ภายในเป็นร้านกาแฟธรรมดา แต่ชุดที่ใส่ต่างกันสินะ แล้วก็คงจะทำให้บรรยากาศในร้านเหมือนกับพิธีแต่งงานด้วย อาจจะน่าสนใจดีเหมือนกัน
?แปลกใหม่ดีนะ?
?น่าจะมีพวกผู้หญิงชื่นชอบเยอะเลยด้วย?
?แต่ชุดแต่งงานน่ะใส่แล้วเคลื่อนไหวลำบากออกไม่ใช่เหรอ??
?การจะหามาก็เป็นเรื่องใหญ่เลยนะ?
?ยิ่งกว่านั้น พวกผู้ชายจะไม่ชอบใจเอารึเปล่า? ว่ากันว่าเป็นสุสานของชีวิตเลยนี่นา?
ความเห็นเหล่านั้นทำให้ในห้องเกิดเสียงจอแจขึ้นเล็กน้อย
?เอ้า อาคิ เขียนความเห็นเมื่อกี้ลงบนกระดานสิ?
?อ๊ะ อืม?
เมื่อถูกมินามิเร่งมา ผมก็หันหน้าเข้าหากระดานดำอีกครั้ง
เอ่อ ข้อเสนอของโยโกมิโสะเมื่อกี้คือ....
[ข้อเสนอ 2 เวดดิ้งคาเฟ่ ?สุสานของชีวิต?]
แย่ชะมัด ชอล์กนี่เขียนยากจริง อยากได้เครื่องใช้ที่มันเป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ นั่นแหละ
?เอาล่ะ มีความเห็นอื่นอีกมั้ย....เอ้า ซึงาว่า?
?ฉันเสนอคาเฟ่แบบจีน? ซึงาว่าคุงพูดพลางลุกขึ้นยืน
?คาเฟ่แบบจีนเหรอ? จะให้ใส่ชุดกี่เพ้ารึไง??
?เปล่า ไม่ใช่ คาเฟ่แบบจีนที่ฉันเสนอ เป็นร้านที่ขายชาอู่หลงแบบดั้งเดิมกับติ่มซำอย่างง่ายน่ะ ไม่ได้ใช้การแต่งตัวเตะตาแบบนั้นมาหาเงินเข้าร้าน ที่สำคัญ การที่มีคำพูดที่ว่าต้นกำเนิดของอาหารอยู่ที่ประเทศจีน ก็ทำให้รู้แล้วว่าไม่มีวัฒนธรรมด้าน ?การกิน? อันไหนจะลึกล้ำเท่ากับอาหารจีนอีกแล้ว ถึงแม้พักหลังนี่จะเห็นการทำลายอาหารจีนโดยวัฒนธรรมยูโรเปี้ยนในสังคม แต่เดิมทีสิ่งที่เรียกว่าอาหารนั้น....?
อะ อะไรกัน? ถึงจะไม่ค่อยรู้เรื่องนัก แต่ซึงาว่าคุงกำลังแจกแจงอย่างเร่าร้อนมาก มีความยึดติดมากเป็นพิเศษเลยรึเปล่านะ? แต่ผมไม่เข้าใจเนื้อหาที่เขาพูดเลยสักนิด
?อาคิ เอาเป็นว่าช่วยเขียนความเห็นของซึงาว่าลงบนกระดานด้วยได้มั้ย??
?อ๊ะ อืม?
....ลำบากล่ะสิ ซึงาว่าคุงพูดถึงเรื่องอะไรกันนะ? เพราะข้อความยาวเฟื้อย และมีศัพท์ยากๆ ปนมาด้วย เนื้อหาเลยไม่เข้าหัวสักนิด บอกตามตรงแล้วผมไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรลงบนกระดานดำดี
?เป็นอะไรไป? รีบๆ เขียนเข้าสิ?
?ระ รับทราบ?
ยังไงก็เขียนคำศัพท์ที่ยังค้างอยู่ในหัวไปก่อนเถอะ
[ข้อเสนอ 3 คาเฟ่แบบจีน ?ยูโรเปี้ยน?]
ตอนที่ผมเขียนเสร็จนั้นเอง ประตูห้องเรียนก็เปิดออกพร้อมเสียงดังครืด แล้วชายผู้มีร่างกายบึกบึนกำยำกับใบหน้าที่รับกันดีก็ปรากฏตัวขึ้น
?ทุกคน กำหนดหัวข้อการออกร้านในงานเซย์เรียวได้รึยัง??
คนเหล็กหรืออาจารย์นิชิมุระ ครูประจำชั้นห้อง F ที่ไปไล่ต้อนพวกผมมาเมื่อกี้นั่นเอง
?ตอนนี้มีข้อเสนอ 3 อย่างเขียนไว้บนกระดานดำค่ะ?
พอได้ฟังที่มินามิพูด คนเหล็กก็ค่อยๆ หันมามองกระดานดำที่มีตัวหนังสือของผมเขียนเอาไว้
[ข้อเสนอ 1 สตูดิโอภาพถ่าย ?ห้องถ้ำมองลับ?]
[ข้อเสนอ 2 เวดดิ้งคาเฟ่ ?สุสานของชีวิต?]
[ข้อเสนอ 3 คาเฟ่แบบจีน ?ยูโรเปี้ยน?]
---------------------------------------------------------------------------------------
ในที่สุดก็จะถึงงานโรงเรียนแล้ว! ซึ่งในงานจะจัดการประลองอสูรการสอบที่มีเฉพาะโรงเรียนฟุมิสึกิด้วย นับตั้งแต่พ่ายแพ้ในสงครามครั้งก่อน แต่ละคนในห้อง F ของพวกอาคิฮิสะก็ต้องทนใช้เครื่องใช้สุดอนาถาอย่าง ?กล่องส้ม? กับ ?เสื่อ? มาตลอด พ่อของมิสึกิรู้สึกสิ้นหวังต่อสภาพแวดล้อมอันย่ำแย่ และชั้นเรียนของพวกหัวขี้เลื่อย จึงแนะนำให้ลูกสาวย้ายโรงเรียนไป พออาคิฮิสะได้ฟังเรื่องนั้นจากมินามิก็วางแผนจะหาเงินทุนจากการออกร้านในงานโรงเรียนแล้วเอามาซื้อเครื่องใช้ในระดับปกติ อีกทั้งตั้งเป้าจะชนะเลิศในการประลองอสูรด้วย เพื่อที่จะหยุดยั้งการย้ายโรงเรียนของมิสึกิที่เขาหลงใหล!? พบกับผลงานที่ได้รับรางวัลพิเศษของกองบรรณาธิการ ในงานประกาศ Enterbrain Entertainment Awards ครั้งที่ 8!!
