สายลมแห่งหัวใจ [Fic.จังหวะร็อค ดนตรีรัก] ตอนที่ 2

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
Ginger ale
โพสต์: 4
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. 05 มิ.ย. 2008 12:07 pm
ที่อยู่: บนโลกร้อนๆ
ติดต่อ:

สายลมแห่งหัวใจ [Fic.จังหวะร็อค ดนตรีรัก] ตอนที่ 2

โพสต์ โดย Ginger ale »

ตอนที่ 2



ห้องทำงานของราล์ฟที่เมโทรเรคคอร์ดถูกตกแต่งให้เหมือนกับห้องทำงานของเขาที่นิวยอร์ค ต่างกันก็เพียงแต่ที่นี่เขาเป็นผู้บริหารสูงสุด งานของเขายังคงยุ่งเหมือนเดิม แม้ว่าจะได้วางมือจากบริษัทแม่ชั่วคราว แต่ก็ต้องทุ่มเทให้กับเมโทรเรคคอร์ดที่เพิ่งก่อตั้ง เป็นเพราะอำนาจเงินและเครดิตของบริษัทเกรเซอร์ทำให้งานต่างๆราบรื่นอย่างที่คิด ดังนั้นแค่ทำไปตามที่วางแผนไว้ อีกไม่นานเมโทรเรคคอร์ดก็คงจะสามารถยึดครองตลาดบันเทิงญี่ปุ่นได้

ราล์ฟมองแฟ้มกองโตบนโต๊ะ แฟ้มเหล่านี้เป็นประวัติของคนที่ได้รับบัตรเชิญให้มางานเลี้ยงฉลองก่อตั้งบริษัทที่จะจัดขึ้นในอีกสามวันข้างหน้า ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าผู้ที่ได้รับเชิญคือคนที่ได้รับความสนใจจากเมโทรเรคคอร์ดและมีโอกาสที่จะได้ร่วมงานกันในอนาคต หนึ่งในนั้นก็คือ วงลูซิเฟอร์ ในสังกัดของจูปิเตอร์โปรดักชัน ซึ่งนักร้องนำ โอโคจิ ซาคุยะ คือคนที่พ่อของเขาอยากพบ

เสียงเปิดประตูห้องทำงานเบาๆทำให้ราล์ฟเงยหน้าขึ้นดู

?คุณราล์ฟครับ เรื่องที่คุณสั่งเมื่อเช้าเรียบร้อยแล้วครับ? นิโคลัสเลขานุการของราล์ฟซึ่งเพิ่งมาถึงเมื่อวานเริ่มทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

?นี่คือรายงานการจัดเตรียมงานเลี้ยงกับเอกสารการประชุมพรุ่งนี้ ส่วนนี่ตั๋วคอนเสิร์ตของวงลูซิเฟอร์ สองใบ แล้วก็คุณดีนโทรมาบอกว่าจะมาพบตอนเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาครับ?

?ขอบใจ? ราล์ฟยื่นมือไปรับเอกสารที่นิโคลัสเอามาให้

?หลังจากนี้ฉันมีกำหนดการอะไรอีกไหม?

?ไม่มีครับ? นิโคลัสตอบโดยไม่ต้องดูสมุดนัดหมาย

?อย่างนั้น ถ้าดีนมาฉันจะออกไปเลยก็แล้วกัน ช่วยทำตารางนัดหมายของสัปดาห์นี้มาให้ฉันพรุ่งนี้ด้วย? ราล์ฟสั่ง

?ครับ? นิโคลัสตอบ ?ขอให้สนุกกับการชมคอนเสิร์ตนะครับ?

ราล์ฟหัวเราะหึๆอย่างมีเลศนัย



ก่อนการแสดงคอนเสิร์ตของลูซิเฟอร์หนึ่งชั่วโมง แฟนเพลงจำนวนมากยืนรออยู่หน้าสถานที่จัดงาน คอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นเพียงมินิคอนเสิร์ต จึงมีแฟนเพลงจำนวนมากไม่สามารถหาบัตรเข้าชมได้และยินดีที่จะซื้อตั๋วผีในราคาสูงลิบ

ชายหนุ่มร่างสูงสองคนในชุดกางเกงยีนเสื้อยืดยืนอยู่บริเวณรอบนอก ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติคงเป็นจุดสนใจของสาวๆที่อยู่ในบริเวณนั้นไม่น้อย แต่ตอนนี้ทุกคนจิตใจจดจ่ออยู่กับคอนเสิร์ตของลูซิเฟอร์ที่กำลังจะเริ่มขึ้น ทั้งสองคนเลยสังเกตการณ์บรรดาแฟนเพลงของลูซิเฟอร์ได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็น

?ท่าทางจะดังจริงนะเนี่ย วงลูซิเฟอร์? ชายหนุ่มคนที่สีผิวเกือบจะกลืนไปกับความมืดพึมพำเบาๆ

?แฟนเพลงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เป็นผู้หญิง แล้วกว่าครึ่งของผู้หญิงก็เป็นเด็กวัยรุ่น? ราล์ฟพูดโดยคาดคะเนจากสายตา

?แล้วไง? ดีนถาม

เขาสงสัยจริงๆว่าทำไมราล์ฟถึงชวนเขามาดูคอนเสิร์ตของลูซิเฟอร์ ถึงจะสนใจวงดนตรีวงนี้ในฐานะสินค้าก็ไม่จำเป็นจะต้องมาดูการแสดงสดด้วยตัวเอง แค่หาเทปบันทึกภาพมาดูก็สิ้นเรื่อง จะว่ามาดูเพราะชอบก็คงไม่ใช่ เพราะราล์ฟชอบแนวคลาสสิคมากกว่า ที่สำคัญก็ไม่น่าจะชื่นชอบวงดนตรีที่มีแต่แฟนเพลงผู้หญิงหรอก

?ก็ไม่มีอะไร เพียงแต่คิดว่าเราคงจะต้องเข้าไปทีหลัง ฉันไม่อยากถูกมองแปลกๆ? ราล์ฟพูดติดตลก

?งั้นจะมาทำไม?

?ฉันสนใจ... ทั้งในฐานะวงดนตรีแล้วก็...? ราล์ฟนิ่งไปค่อนข้างนาน แล้วเมื่อหันไปเจอกับสายตาสงสัยของเพื่อน เขาก็ตัดบทด้วยการดึงหมวกที่สวมอยู่ลงมาปิดหน้ามาขึ้นแล้วพูดว่า ?ไปกันเถอะ ประตูเปิดแล้ว?



ดีนมองเพื่อนที่ทำหน้านิ่งสนิทตั้งแต่ตอนดูคอนเสิร์ตจนกระทั่งกลับมาถึงที่พักด้วยความไม่เข้าใจ เขารู้ว่าราล์ฟต้องการคิดอะไรเงียบๆเพียงคนเดียวจึงลุกขึ้นเพื่อจะกลับห้องของตัวเอง

?เดี๋ยวก่อน ขอถามอะไรนายหน่อย? ราล์ฟโพล่งขึ้นมา

ดีนจึงกลับมานั่งประจันหน้ากับราล์ฟอีกครั้งแล้วรออยู่เงียบๆให้เพื่อนพูดออกมา

?นายคิดว่าวงลูซิเฟอร์เป็นยังไง?

?ทำไมนายถึงต้องมาถามฉัน? ดีนถามกลับ ?นายน่าจะเป็นคนที่ตอบคำถามของตัวเองได้ดีกว่าฉันไม่ใช่หรือ อยากได้ลูซิเฟอร์ใช่มั้ย?

?ใช่ ลูซิเฟอร์ขายได้ และน่าจะไปได้ไกลกว่านี้ แต่ฉันไม่กล้าลงทุนกับลูซิเฟอร์? ราล์ฟตอบ

?หมายความว่าไง ฉันไม่เข้าใจ?

ราล์ฟถอนหายใจ

?หมายความว่าอนาคตของลูซิเฟอร์มันไม่แน่นอนไง ฉันจะเล่าให้นายฟัง? ชายหนุ่มผมทองนิ่งไปอีกครั้ง

?ที่ฉันมาญี่ปุ่นครั้งนี้นอกจากจะมาขยายการลงทุนของบริษัทแล้ว พ่อยังมีงานให้ฉันอีกชิ้นหนึ่งคือให้พา โอโคจิ ซาคุยะ ที่เป็นนักร้องนำของวงลูซิเฟอร์ไปพบพ่อ เพราะว่าหมอนั่นเป็นลูกของพ่อ แล้วหลังจากพาไปพบพ่อแล้วฉันก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง นั่นแหละความเสี่ยงที่ทำให้ฉันไม่กล้าลงทุน?

?เฮ้ย? ดีนอุทานด้วยความตกใจ ?แล้วนายรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

?ก็ก่อนจะมาญี่ปุ่นไม่กี่วัน แต่พ่อน่ะรู้มานานแล้ว ดูจากรายงานของนักสืบที่พ่อจ้างก็คงไม่น้อยกว่า 7-8 ปี? ราล์ฟตอบเนือยๆ

?ท่าทางนายไม่ตกใจเลยนะ? ดีนแปลกใจ

ราล์ฟหัวเราะด้วยความรู้สึกเจ็บใจลึกๆ

?นายก็รู้ว่าพ่อฉันเป็นคนยังไง ที่ไม่มีลูกนอกสมรสออกมาเลยก่อนแม่ตายก็ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์อยู่แล้ว แต่ก็ไม่แน่ ฉันว่าคงจะปิดเรื่องเก่งมากกว่า? ราล์ฟเริ่มแสดงความไม่พอใจออกมาเรื่อยๆ

?ฉันต้องโดนบังคับแทบทุกอย่างตั้งแต่เด็ก กว่าจะได้เรียนวิศวะอย่างที่ชอบก็ต้องสัญญาว่าจะต่อโทบริหารพ่อถึงให้เรียน แต่หมอนั่นกลับได้เป็นตัวของตัวเอง ได้ทำสิ่งที่ชอบโดยไม่มีใครมาบังคับ?

?นายเสียใจที่ยอมทำตามคำสั่งพ่อหรือไง? ดีนถาม

ราล์ฟนิ่งคิดก่อนจะพูดอย่างตรึกตรองดีแล้ว

?ก็ไม่เชิงหรอก ถึงฉันอยากจะเรียนต่อโทวิศวะมากกว่าก็เถอะ แต่เรียนบริหารมันก็ไม่เสียหาย อย่างน้อยที่บริษัทของเราไปได้สวยมันก็เพราะฉันเรียนบริหารแล้วก็ได้ฝึกฝนจากประสบการณ์จริงที่บริษัทเกรเซอร์ ถึงมันจะเอาเวลาของฉันไปเกือบหมดก็เถอะ?

?แล้วนายจะทำยังไงต่อ? ดีนถาม

?ก็ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ มีนายมาช่วยอย่างนี้ ฉันก็สามารถจัดการได้ดีทั้งสองอย่างนั่นแหละ? ราล์ฟพูดอย่างไม่สนใจ

?ฉันว่านายพูดออกมาให้หมดดีกว่า นายต้องมีแผนอะไรแน่ๆ?

ราล์ฟยิ้ม

?ฉันแค่กำลังคิดว่า ถ้าฉันทำลายลูซิเฟอร์ซะแล้วพาหมอนั่นกลับไปหาพ่อ บางทีภาระที่หนักอึ้งที่มีอยู่ตอนนี้อาจจะโยนให้หมอนั่นรับไปทั้งหมดเลยก็ได้ ฉันจะได้เป็นอิสระเสียที แต่พอลองมองดูในฐานะนักธุรกิจแล้วมันก็อดเสียดายลูซิเฟอร์ไม่ได้?

?หมายความว่านายจะยกบริษัทเกรเซอร์ให้โอโคจิ ซาคุยะงั้นเหรอ? ดีนถามด้วยความตกใจ

?เรื่องนั้นไว้ค่อยตัดสินใจตอนได้พบซาคุยะก็แล้วกัน?



...................................................................................

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”