*:*:*: Dream in Love my Friend *:*:* Part 10

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
ajinkazuya_love
โพสต์: 25
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 27 ก.พ. 2008 2:26 pm
ที่อยู่: in kamenashi conankong

*:*:*: Dream in Love my Friend *:*:* Part 10

โพสต์ โดย ajinkazuya_love »

มาริสาได้ลงมาจากด่านฟ้าบนอาคารหลังจากที่ตนลืมกระเป๋าไว้บนนั้นโดยมีเกตต์รออยู่ด้านล่าง พร้อมกับคำถามในใจมากมายที่ต้องถามมาริสาว่าเกิดอะไรขึ้นกับมาริสาที่ทำให้พวกแคธีเข้ามายุ้ง ถ้าเธอมาช้ากว่านี้มาริสาจะเป็นอย่างไร
...เพราะฉันแท้ ๆ เลยไม่งั้นเธอคงไม่ต้องลำบากใจอย่างนี้หรอก เธอไม่ควรที่จะมายุ่งกับฉันตั้งแต่แรกแล้ว...
?ไปทำอะไรบนนั้นถึงได้ลืมกระเป๋า?เกตต์ถามขณะที่มาริสานำกระเป๋าลงมาพอดี
?คือ...ฉันขึ้นไปวาดรูปมา?
?ไปวาดรูปข้างบนแล้วทำไมตัวเธอยังอยู่ข้างล่างล่ะ?
?ก็...ฉัน?
...จะตอบว่าอะไรดีล่ะ...
มาริสาอ่ำอึ้งไม่รู้จะแก้ตัวอะไรออกไปดี มันเหมือนมีทางตันอยู่รอบ ๆ หาทางออกไม่ได้เลย สักพักสายตาที่มองไปรอบ ๆ อยู่นั้น ก็เหลือบไปเห็นรูปภาพที่อยู่ในมือที่จะนำมาให้เคน มาริสาก็คิดออกทันที
?อ่อ...นี่ไงฉันลืมอยู่บนห้องเรียนนะก็เลยไปเอา?เธอพูดพรางยกรูปภาพของเธอขึ้นมาให้เกตต์ดู แต่เกตต์กลับมองข้ามมันไป แถมยังดันรูปภาพที่เธอวาดลงด้วย สีหน้าเกตต์ตอนนี้บอกไม่ถูกเลยว่าคิดอะไรอยู่ คงจะไม่โกธรเธอหรอกนะ
?เป็นอะไรหรือเปล่า?มาริสาถามเกตต์ด้วยความเป็นห่วง เพราะเกตต์ดูเงียบ ๆ ไปตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว
?หรือว่าไม่สบาย เอาอย่างนี้ไหมฉันมียา เดี๋ยวฉันจะ...?
?พอเถอะ!!?เกตต์ส่งเสียงดังใส่มาริสา จนคำพูดเมื่อครู่ถูกกลืนลงไปในคอ
?เลิกยุ่งกับฉันสักที?เกตต์พูดออกไปอย่างเลือดเย็น จนมาริสาถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูก
?ทำไม...ทำไมเธอพูดแบบนี้ล่ะ?มาริสาทำสีหน้างวยงง เหมือนคนฟังอะไรไม่ได้ยินจนทำให้เกตต์มองไปที่อื่นเพื่อละสายตาอันเศร้าของมาริสา
...ทำไมล่ะ? บอกเหตุผลที ฉันทำให้เธอโกธรอย่างนั้นเหรอ...
มาริสาคิดไปต่าง ๆ นานา แต่ในความคิดของเกตต์ตอนนี้ ก็สับสนกับคำพูดของตนเองไม่น้อย แต่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าขืนเธอคบกับฉัน เธอก็จะต้องโดนรังแกอีก
...ฉันไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นแน่...
?ฉันเบื่อเธอมากเลย รู้ไหมว่าเธอน่ารำคาญขนาดไหน ต่อไปนี้อย่ามายุ่งกับฉันอีก?เกตต์พูดออกไปโดยไม่ตรงกับใจของตัวเอง เพราะไม่อยากให้มาริสาเดือดร้อน แค่นี้เธอก็เกรงใจมาริสามากพอแล้ว ถ้าวันหนึ่งเค้าเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก มาริสาจะรู้สึกยังไง ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองคิดผิดหรือยังล่ะ ที่มายุ่งกับฉัน
มาริสาสับสนในตัวเองว่าตัวเองทำผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ เกตต์จึงผลักไสไล่เธอแบบนี้ เกตต์พยายามไม่สบตาของมาริสาเพราะไม่อยากใจอ่อน ทันทีที่เธอนิ่งไปสักพัก สุดท้ายจึงตัดสินใจเดินออกไปทันที โดยไม่สนใจเสียงเรียกของมาริสาเลย
?เกตต์...เกตต์!!?มาริสาตะโกนเสียงเรียกเกตต์ แต่เรียกเท่าไรเกตต์ก็ไม่สนใจ หรือว่าสิ่งที่เคยรวมกันมาจะจบลง ณ ตรงนี้แล้ว
...ทำไมถึงพูดแบบนี้ เธอเป็นอะไรไป...

เกตต์เดินมายังที่จอดรถของตนเอง เฝ้าคิดว่าเธอทำผิดหรือเปล่า สีหน้ามาริสาในตอนนั้นดูเศร้า เหมือนกำลังจะร้องไห้ แล้วทำไมถึงมาร้องไห้เพื่อเธอด้วย เกตต์เองไม่เข้าใจเลยจริง ๆ เธอเองก็รู้สึกกระวนกระวายใจเช่นกัน กับคำที่เธอได้พูดกับมาริสา และโทษตัวเองด้วยว่าทำไมจะต้องทำให้คนอื่นร้องไห้ ทำไมจะต้องเสียใจที่ตนจะไม่ได้พูดคุยกับมาริสาเช่นเคย อาการแบบนี้เกตต์ไม่เคยรู้สึกมาก่อน หรือว่านี่มันคือความรู้สึกของการสูญเสียสิ่ง
...ที่เรียกว่าเพื่อน...
ช่วงเวลาที่เราได้พูดคุย ได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน รอยยิ้มที่ไม่เคยมอบให้ใคร เรื่องบางเรื่องที่ไม่อยากให้ใครได้รับรู้ มาริสากลับรับรู้และได้รับจากเกตต์ไปหมด ทำไมกันนะ ทั้งที่ไม่คิดว่าจะมีคนที่เข้าใจ หรือมีความรู้สึกดีใจ เสียใจไปพร้อม ๆ กัน ตอนนี้กลับรู้สึกว่ามันดูแปลกไปที่จะต้องไม่มีเพื่อน ไม่สิถึงไม่มีเราก็อยู่ได้ ที่แล้วมาเรายังอยู่คนเดียวในโรงเรียนโดยไม่มีเพื่อนได้ ตอนนี้มันก็แค่กลับมาเป็นเหมือนวันเก่า เราต้องชินกับมันสิ
...ไม่ใช่เสียดายมัน...
เกตต์คิดอะไรอยู่คนเดียว สักพักก็มีเสียงโทรศัพท์ของเกตต์ดังขึ้นมา เธอจึงรีบรับทันที
?ฮัลโหล?
{เกตต์...แกรับโทรศัพท์ได้แล้วเหรอ สองวันแล้วนะแกหายหัวไปไหนเนี้ยห๊ะ}
?ขอโทษค่ะคือว่า...?
{ไม่ต้องมาคือ ฉันรู้นะว่าแกเลิกเรียนแล้ว ช่วยเอาของไปส่งให้ฉันเลย วันนี้ก็ไม่มีใครเข้าเลย}
?...?
{มาเดี๋ยวนี้เลยนะ}
คนที่คุยกับเกตต์ทางโทรศัพท์พูดเป็นชุด ๆ โดยไม่มีบทที่จะให้เกตต์พูดเลย แถมเสียงยังดังมากจนทำให้เกตต์ต้องเอาโทรศัพท์ออกจากหูโดยด่วน
?โอเค...จะไปเดี๋ยวนี้เหละ?
...ให้ตายเถอะโทรมาว่ากันนี้น่า กระเทยเนี้ยอารมณ์ร้อนจัง...

เมื่อได้รับคำสั่งจากหัวหน้าเพื่อให้เข้าสำนักงานด่วน เกตต์จึงขับมอเตอร์ไซค์ไปสำนักงานที่เธอทำงานอยู่ทันที สำนักงานของเธอเป็นสำนักงานที่เล็กไม่ใหญ่โตมากนัก จะทำหน้าที่รับส่งเอกสารหรือของสำคัญที่ลูกค้าให้เอาไปส่งซึ่งกฎหลักของการทำงานที่นี้คือต้องส่งของต่าง ๆ ให้ทันเวลาไม่ว่าจะเป็นวิธีการใดก็ตาม สำนักงานนี้จะมีหัวหน้าสุดเซ็กซี่และกำยำคือ แจ้หยกนั้นเอง แจ้หยกนั้นเป็นชายก็ไม่ใช่หญิงก็ไม่เชิงเรียกอีกอย่างก็คือกระเทยนั้นเหละ
เกตต์เปิดประตูสำนักงานเข้าก็พบกับกองเอกสารที่ใส่ซองสีน้ำตาลไว้และรายการของที่ต้องไปรับแล้วนำไปส่งกับลูกค้าอีกสิบกว่ารายอีก
?มาแล้ว...มีอะไรล่ะ?เกตต์เห็นแจ้หยกทำงานอย่างขมักเขม่น
?เอ่อค่ะ...อย่าเพิ่งรีบร้อนนะค่ะ เดี๋ยวจะให้ลูกน้องไปส่งให้ทันทีเลยนะค่ะ?เมื่อแจ้หยกเห็นเกตต์เดินเข้ามาในห้อง จึงหันมามองแล้วหันไปคุยกับลูกค้าอีกครั้ง
?เดี๋ยวรอสักครู่นะค่ะ?ทันใดนั้นแจ้หยกก็มองมาทางเกตต์แล้วลุกขึ้นไปหยิบกองเอกสารที่ท่วมหัวอยู่นั้นยื่นให้เกตต์ทันที
?อะไรแจ้?
?ก็เอาไปส่งไง นี้...ที่อยู่ทั้งหมดเอาไปด้วยส่งให้เสร็จล่ะ?แล้วแจ้หยกก็ส่งกระดาษที่อยู่ของลูกค้าให้
?เยอะขนาดนี้เลยเหรอ?
?ใช่...แกไม่ได้ทำงานให้ฉันตั้งสองวัน ดังนั้นแกต้องเอาไปส่งให้หมด?

จากนั้น เกตต์จึงเดินออกจากบริษัท นำเอกสารทั้งหมดไว้ที่ตระกร้าหน้ารถพร้อมกับนำเชือกยืดรัดไว้ เพื่อให้การส่งเป็นไปอย่างสะดวก
เกตต์ขับรถออกจากสำนักงานแล้วมุ่งหน้าไปยังที่อยู่ตามกระดาษของแจ้หยก เกตต์ไปตามบ้าน โรงงาน และที่ทำงานต่าง ๆ แล้วส่งเอกสารให้ไป ซึ่งตอนนี้ก็ใกล้จะมืดแล้วเกตต์ก็ยังส่งเอกสารที่เหลือยังไม่เสร็จเลย
ขณะที่เกตต์กำลังขับรถเลี้ยวตรงทางโค้งอยู่ ทันใดนั้นเองก็มีรถคันใหญ่ปาดหน้ารถของเกตต์ทำให้เกตต์เซถลาล้มลงข้างทาง
?โอ๊ย...บ้าจริง?แต่เกตต์ก็ยังดีที่มีหญ้าขึ้นอยู่ข้างทางป้องกันไว้เกตต์ตอนที่เกตต์ล้มลงไปกับพื้น จึงทำไม่เป็นอะไรมาก มีเพียงรอยถลอก และรอยช้ำเท่านั้น แต่ที่เจ็บเห็บจะเป็นจิตใจมากกว่า
...บ้าเอ้ย ขับรถภาษาอะไรนะ
คนที่ขับรถปาดหน้าเกตต์ถึงกับตกใจจึงรีบลงมาจากรถเพราะกลัวว่าเกตต์จะเป็นอะไรไปเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นคนที่ขับรถก็จะเดือดร้อน
?เป็นยังไงบ้างครับ ผมพาไปโรงพยาบาลไหม?จากนั้นคนที่ขับรถปาดหน้าเกตต์ก็เข้าไปพยุงร่างของเกตต์ซึ่งเจ็บตัวอยู่นั้นให้ลุกขึ้นมา ทันใดนั้นก็มีชายคนหนึ่งซึ่งนักอยู่ในรถได้ออกมา เพราะต้องการรู้เหตุที่เกตต์ขึ้นว่ามันเกิดอะไร
?ใครเป็นอะไรน่ะ?เกตต์ได้ยินเสียงนั้นถึงกับตกใจขึ้นมาทันที
...นี่มันเสียงของ...
?เธอ/นาย?ทั้งสองคนอุทานพร้อมกันทันทีเพราะไม่นึกเลยว่าจะเจอกันอีก ซึ่งคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เรียวนั้นเอง
...เจอกันที่โรงเรียนไม่พอ ยังมาพบนายที่นี้อีก เจอนายทีไรฉันซวยทุกที...
?เออนี่...เพื่อนคุณชายเหรอครับ?คนขับรถของเรียวถามเพราะว่าทั้งสองคนทำท่าทีเหมือนเคยรู้จักกัน แถมยังจะใส่ชุดนักเรียนโรงเรียนกันอีก
?ไม่ใช่!!?เรียวและเกตต์ก็พูดพร้อมกันอีกเป็นครั้งที่สอง เหมือนกับนัดกันมา
...ใครเค้าจะอยากเป็นเพื่อนกับนาย...
ทันใดนั้นเกตต์ก็ลุกขึ้นมาเหมือนกลับไม่เป็นอะไรเลยทำให้คนขับรถของเรียวถึงกลับอึ้ง
?นี่เธอไม่เป็นอะไรจริงเหรอเนี้ย?
...ให้ตายเถอะแข็งแรงจริง ๆ...
?อ้อ...ใช่ ไม่เป็นไรแล้ว?เกตต์พูดจบก็เดินไปยกรถของตัวเองที่ล้มไม่เป็นถ้าอยู่ข้างทาง สภาพก็ยังดูได้อยู่ ขัดก็แต่สีที่มันถลอกออกนิดหน่อย เกตต์ยกรถขึ้นมาแล้วก็กำลังขับรถออกไปจากที่ตรงนั้นเสียงของเรียวก็ตัดบทขึ้น
?เดี๋ยว...?เกตต์ได้ยินดังนั้นจึงหยุดเดิน แล้วหันมามองหน้าเรียวอย่างไม่เป็นมิตร ทันใดนั้นเรียวก็หยิบกระเป๋าสตางค์ในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบเงินออกมาจำนวนหนึ่ง
?อ่ะนี่...เอาไปซิ...ค่าเจ็บตัวของเธอ?เรียวยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้ซึ่งมันก็มากอยู่พอสมควรที่พอจะซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่แพง ๆ เครื่องหนึ่งได้เลยทีเดียว เกตต์เห็นเงินที่อยู่ในมือเรียวก็ทำให้เกตต์โมโหและโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จากนั้นเกตต์จึงทิ้งรถแล้วเข้ามาใกล้เรียว เธอมองเงินในมือเรียวพร้อมกับมองหน้าเรียว เธอยิ้มมุมปากก่อนที่จะปล่อยหมัดหนักให้เรียวไป ทำให้เรียวล้มลงไปกองกับพื้นดินอย่างทุลักทุเล
?คุณชาย?เสียงยะที่ตกใจสุดขีด เมื่อคุณชายของตนล้มลงไปต่อหน้าต่อตา กับหมัดของหญิงสาวเมื่อครู่
...นายนี่น่าขยะแขยงที่สุด บังอาจเอาเงินมาฟาดหัวฉัน...
?จำไว้นะ ถึงฉันจะจนแค่ไหน...ก็ไม่มีวัน รับเงินสกปรกจากนายเป็นอันขาด?เกตต์พูดจบก็เดินไปทีรถแล้วขับออกไปจากที่ตรงนั้นทันที คนขับรถซึ่งเห็นเหตุการณ์ถึงกับตะลึงว่ามีคนกล้ามากที่เข้ามาชกเรียวหน้าตาเชยโดยไม่เกรงกลัวกับอำนาจของเรียวเลย จากนั้นคนขับรถของเรียวก็รีบรุดเข้ามาพยุงร่างของเรียวขึ้น และรู้สึกว่าคุณชายของตนก็รู้สึกโกรธผู้หญิงคนนั้นเช่นกัน
?คุณชายเป็นยังไงบ้างครับ?ผู้ที่รับใช้รีบตรงเข้ามาตรงร่างโปร่งที่ล้มลงไปทันที แต่ในใจก็ยังคิดสงสารสาวน้อยที่เพิ่งโดนคุณชายของตนกระทำซะจนเธอเสียศักดิ์ศรี
?แต่คุณชายก็ทำเกินไปนะครับเอาเงินฟาดหัวผู้หญิงคนนั้นไป เหมือนกับว่าคุณชายดูถูกเค้า ที่เค้าไม่เอาเรื่อง ถือว่าคุณชายเนี้ยก็...?คนขับรถของเรียวยังพูดไม่ทันจบก็ต้องชะงักเพราะสายตาที่เรียวจับจ้องมองมาทางเค้า
?พูดจบหรือยัง?
...เราพูดมากไปเหรอว่ะเนี้ย...
?ผมขอโทษครับ?เรียวพยายามถามคำถามกับตัวเองว่าทำไมเกตต์ถึงไม่รับเงินจากเค้า เป็นครั้งแรกที่เรียวโดนผู้หญิงต่อยหน้า แล้วไม่ยอมรับเงินจากเค้า มันทำให้เค้าเสียหน้ามาก ไม่ใช่การถูกผู้หญิงต่อยหน้า แต่ทว่ามันเป็นเรื่องที่เงินของเค้า ถูกเกตต์ทิ้งขว้างอย่างไม่ใยดี
อยากรู้จริง ๆ ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ในเมื่อเธอหลอกตีสนิทกับแซมก็เพราะเงิน แต่ทำไมถึงมองข้ามเงินของฉัน ถือว่าเธอกล้ามากที่ปฏิเสธเงินของฉันไป แต่ทำไมตอนนี้ฉันถึงไม่มีความรู้ สึกโกรธเธอมากขึ้นเลย มันสมควรจะโกรธไม่ใช่เหรอที่มีคนทำกับเราแบบนี้ แล้วนี่ฉันจะยิ้มทำไม ต้องโกรธสิถึงจะถูก หรือว่าใบหน้านั้นอีกแล้วใช่ไหมที่ทำให้เค้ายิ้ม ใบหน้าที่ไม่เคยยอมคน สู้ได้ทุกสถานการณ์แม้ว่าจะเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ก็ตาม ให้ตายเถอะ ความรู้สึกที่ฉันเจอกับเธอครั้งแรกมันกลับมาอีกแล้ว ตกลงตัวตนที่แท้จริงของเธอเป็นยังไงกันแน่
...ฉันอยากรู้จริง ๆ...
จากนั้นคนขับรถของเรียวก็พาเรียวขึ้นไปบนรถ แล้วกำลังจะออกรถเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน
?นี่...ยะ?เรียวเรียกคนขับรถของตัวเอง
?ครับ?
?นายช่วยไปสืบเรื่องของผู้หญิงคนเมื่อกี้ให้ที?
?อยากรู้ไปทำไมเหรอครับ?ยะถามกลับผู้เป็นนาย แต่เมื่อเห็นสายตาของเรียวแล้วจึงไม่กล้าถามอะไรอีก
?เออ...หึหึ...ก็ได้ครับ?จากนั้นรถก็ค่อย ๆ เคลื่อนออกไป พร้อมกับความคิดที่เรียวอยากจะเอาชนะและชำระความแค้น โดยไม่รู้ว่าความรู้สึกของตัวเองเลยว่ารู้สึกดีใจหรือแค้นใจกลับการที่เกตต์ชกหน้าแถมยังปฏิเสธเงินของเค้า มันควรจะดีใจได้ไหมที่เกตต์ไม่รับเงินนี้เพราะได้แสดงว่าเธอเป็นคนที่ดี ทั้งหมดมันเป็นความรู้สึกเบื้องลึกที่ไม่อาจลบเลือน
ให้ตายเถอะทำไมในสมองถึงมีภาพของเธออยู่ในหัว ทำไมฉันถึงอยากจะรู้เรื่องของเธอด้วย ไม่ใช่หรอกมันเป็นความรู้สึกที่ฉัน
...อยากเอาชนะเธอมากกว่า...
akazuya

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”