*:*:*: Dream in Love my Friend *:*:* Part 9

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
ajinkazuya_love
โพสต์: 25
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 27 ก.พ. 2008 2:26 pm
ที่อยู่: in kamenashi conankong

*:*:*: Dream in Love my Friend *:*:* Part 9

โพสต์ โดย ajinkazuya_love »

อาจารย์ได้มอบหมายงานให้มาริสา ทุกคนในชมรมได้ไปทำกันซึ่งก็เป็นงานที่ต้องส่งให้ทันเวลาอีกเหมือนเดิมในวันพรุ่งนี้ มาริสาได้หอบหิ้วงานออกจากห้องชมรมแล้วเตรียมตัวจะไปหามุมเหมาะเพื่อที่จะวาดภาพ ขณะที่มาริสาจะต้องหามุมวาดภาพนั้นได้หันไปเห็นเคนทีกำลังหอบหิ้วงานขึ้นไปชั้นบนสงสัยว่าจะไปทำงานที่ดานฟ้าอีกเหมือนเคย มาริสามองเคนขึ้นไปชั้นบนก็ได้นึกถึงคำที่เกตต์พูดทันทีมันเข้ามาหยุดในหัวสมอง ขาจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อจะไปบอกความรู้สึกที่อยู่ในใจแต่ก็ก้าวไม่ออกลังเลใจไม่มีความเป็นของตัวเองเลย หัวมันมึนไปหมด แต่ถ้ามัวแต่ลังเลมันจะเป็นที่เกตต์บอกไหมนะ มาริสาคิดอยู่นานจึงตัดสินใจให้มันรู้แล้วรู้ลอดเลยวันนี้ต้องบอกให้ได้ไม่ว่าคำตอบจะเป็นยังไงก็ช่างเถอะ มาริสาจึงวิ่งขึ้นขึ้นไปบนดานฟ้าอย่างรวดเร็วเหมือนมาริสายฟ้าแลบ เพื่อจะให้ไปบนนั้นเร็ว ๆ
มาริสามาถึงดานฟ้าคิดว่าจะได้เห็นการวาดภาพลวดลายของเคน แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยซักนิดเดียว กลับเห็นว่าเคนกำลังนอนหลับอยู่บนพื้นที่กำลังสบายได้รับลมจากท้องฟ้า บนดานฟ้านี้มาริสาเพิ่งขึ้นมาเป็นครั้งแรกทั้งที่อยู่โรงเรียนนี้มาตั้งหลายปี เมื่อมองไปข้างหน้ามาริสาก็ได้เห็นชุมชนของเธอที่กว้างใหญ่ไพศาลเห็นถนนหนทางได้อย่างชัดเจน
...ทำไมเคนไม่บอกนะว่าบนนี้มีวิวสวยขนาดนี้...
มาริสาหันไปมองเคนที่นอนอยู่เบื้องล่าง มาริสาก็ค่อยล้มตัวลงไปนอนข้าง ๆ เคนให้เบาที่สุดไม่อย่างนั้นเคนอาจจะตื่นเพราะเวลานอนของเค้าช่างน่ารักจึงไม่อยากให้ตื่นมาในตอนนี้ มาริสามองขึ้นไปบนฟ้าด้วยความรู้สึกดีแล้วหันมามองเคนรู้สึกใจเต้นตึกตักเพราะไม่เคยนอนเล่นด้วยอย่างนี้มาก่อน ทันใดนั้นมาริสาเห็นว่าบนผมเคนมีฝุ่นระอองติดอยู่มาริสาจึงค่อย ๆ เดินเข้าไปปัดฝุ่นบนผมของเคนเบา ๆ โดยพยายามไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว เมื่อมือของมาริสาไปโดนผมเคนทำให้คนที่นอนหลับใหลอยู่สลึมสลือตื่นขึ้นมา มาริสาเห็นดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นมาทันที พร้อมกับจัดเสื้อผ้าให้เป็นระเบียบที่สุด ผู้ที่นอนอยู่ตื่นขึ้นมาจากวังวนที่สงบ พล่างเลือบไปเห็นมาริสาที่ยืนยู่ข้าง ๆ จึงรีบลุกขึ้นมาทันที
?มาริสา...พี่หลับไปนานหรือเปล่าเนี้ย โธ่เอ๊ย...ว่าจะมาวาดรูปสักหน่อย เพลอหลับได้?เคนพูดงัวเงียเป็นอาการของคนเพิ่งตื่น จากนั้นก็ลุกขึ้นมาบิดตัวไปมาเพื่อยืดเส้นยืดสาย
?มาริสาเพิ่งมาเมื่อกี้เอง เห็นพี่เคนนอนเลยไม่อยากปลุก?เคนพยักหน้ารับรู้แล้วจัดแจงเก็บของที่วางไว้ นำสีพู่กันใส่กระเป๋าเป้
?เออ...พี่เคนจะกลับแล้วเหรอค่ะ?
...ฉันยังไม่ได้พูดเรื่องสำคัญเลยนะ...
?อืม?เคนพยักหน้าตอบ
?ไม่วาดรูปแล้วเหรอค่ะ?มาริสาอยากให้เคนอยู่ต่อ เพราะเธออยากมีเลาอยู่กับเค้านาน ๆ เพราะเวลาที่ได้พูดคุย และได้มองหน้าเค้าใกล้ ๆ มันทำให้เธอมีความสุข ถึงแม้การที่ทำแบบนี้จะเป็นการคิดการณ์ไปเอง
?วาดภาพเหรอ...อืม...พอดีว่าจิตนาการในหัวพี่มันหมดแล้ว คิดอะไรไม่ออก?
?นี่พี่บอกว่าใช่จิตนาการเหรอค่ะ...แล้วที่ขึ้นมาบนนี้ไม่ได้วาดภาพวิวหรอกเหรอค่ะ?มาริสาพูดตามที่ตนเข้าใจทุกครั้งว่าที่เคนขึ้นมาบนนี้นั้นเพื่อมาวาดรูปวิวสวย ๆ นี่ เคนเงียบไปอยู่นาน แล้วยิ้มออกมา ซึ่งมันเป็นการยิ้มที่ฟืนชัด ๆ
?พี่ขึ้นมาบนนี้ไม่ได้มาวาดรูปวิวพวกนี้สักหน่อย พี่วาดรูปตามจิตนาการต่างหาก ไม่เชื่อดูซิเนี้ย?มาริสารับรูปที่เคนยื่นให้นำมาดู ปรากฏว่าแต่ละรูปไม่มีภาพวิวบนนี้เลยซักชิ้น
?เห็นไหมล่ะ ที่พี่ขึ้นมาบนนี้ไม่ได้มาวาดรูปวิวพวกนี้สักหน่อย?
?ก็ที่อื่นมันมีเยอะแยะนี่ค่ะที่ทำให้เราเกิดจินตนาการ แล้วทำไมต้องเป็นบนนี้ด้วยล่ะค่ะ?มาริสาถามด้วยความสงสัย
?เพราะบนนี้ทำให้พี่มีจิตนาการไง พี่ขึ้นมาที่ไร ภาพพวกนั้นมันเข้ามาในสมองทุกที?
?ภาพอะไรเหรอค่ะ?
?ไม่มีอะไรหรอกน้า?เคนตอบแบบเรียบง่าย เพื่อปิดบังอะไรบางอย่างกับมาริสา เคนพล่างมองไปที่มือของมาริสาพบว่ามีภาพวาดอยู่
?นี่ภาพอะไร ขอดูหน่อยซิ?เคนยื่นมือมาหวังจะฉุดภาพที่อยู่ในมือไป มาริสาเห็นดังนั้นจึงนำภาพแอบไว้ด้านหลัง เพราะไม่อยากให้เคนดู จะให้เคนดูยังไงเหล่าก็ในมือมีแต่ภาพของเคนทั้งนั้นที่เราถือวิสาสะแอบวาดโดยไม่ขออนุญาต
?ทำไมล่ะ...หวงพี่งั้นเหรอเมื่อกี้พี่ยังให้มาริสาดูภาพของพี่เลยนะ?เคนพูดถวงสิทธิ์ของตนเองทันที
?คือ...?
?ไม่เป็นไรหรอกน่า สัญญาเลยว่าถ้าภาพมันจะดูเป็นยังไงจะไม่หัวเราะเด็ดขาด?เคนชูมือมาริสามนิ้วเพื่อให้คำสัญญา จากนั้นมาริสาก็ลังเลใจไม่น้อย แต่ก็ต้องยืนเพราะดวงตาที่เคนมองเธอนั้นดูเหมือนรียกร้องอะไรสักอย่างจากเธอจนทำให้มาริสาใจอ่อนในทันที มาริสาค่อย ๆ ยื่นรูปภาพให้อย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไร แล้วเคนก็รับมาดูปรากฏว่าเป็นภาพของตัวเองทั้งนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เค้านั่งวาดรูป คุยกับเพื่อน นั่งทำงาน หรือแม้กระทั่งตอนเล่นกีฬา มาริสาเห็นสีหน้าของเคนที่ยืนอึ้งกับภาพของเธอ ทำให้มาริสายิ่งใจไม่ดีเลย ขาสั่นไปหมด
?ขอโทษค่ะที่วาดรูปพี่เคนโดยไม่รับอนุญาต?มาริสาก้มหัวขอโทษอย่างสำนึกผิด ในขณะที่เคนขำความซื่อของมาริสา
?ขำอะไรเหรอค่ะ? เธอซักถามด้วยความสงสัย
?ก็พี่ยังไม่ว่าอะไรสักหน่อย ตีโพยตีพายไปได้?
?ทำไมล่ะค่ะก็มาริสาถือวิสาสะวาดรูปพี่...แล้วพี่ไม่โกรธเหรอค่ะ?
?ไม่เป็นหรอกน่า...ดีออกนะที่มีคนวาดภาพพี่นะ ดูซิดูดีกว่าตัวจริงอีก?เคนพูดชื่นชม ที่มาริสาวาดรูปเค้าได้เหมือนจริงมาก ๆ
?ไม่หรอกค่ะ...ตัวจริงนะดูดีกว่าตั้งเยอะ จะเอาตัวจริงไปเปรียบกับรูปภาพได้ยังไงล่ะค่ะ? มาริสาพูดอย่างจริงจัง จนให้เคนมองมาริสาอย่างไม่เชื่อว่าเธอจะกล้าพูดฉะฉานขนาดนี้ มาริสาเห็นเคนมองเธอตาไม่กระพริบ เธอจึงรู้สึกเขิน และหน้าแดงเป็นอย่างมาก
?นี่...งั้นพี่ของรูปนี่ได้ไหม?เคนขอรูปที่มาริสาที่วาดไว้ภาพหนึ่ง มันเป็นภาพที่เคนนั่งอ่านหนังสือเรียนอยู่บนโต๊ะม้าหินในโรงเรียน ที่ตนได้ตั้งใจวาดเป็นอย่างมากเพื่อที่จะมีไว้ดูตอนที่ไม่ได้เจอหน้าเคน มาริสาคิดอยู่สักพักก็ตัดสินใจที่จะนำภาพที่เธอวาดไว้ให้พี่เคนไป
?ก็...ด?มาริสายังพูดไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเคนดังอยู่ในกระเป๋าของเค้า
?ฮัลโหลครับ...ห๊ะอยู่หน้าโรงเรียนเหรอ อืมได้...ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ?เคนพูดคุยกับคนที่ถือสายในโทรศัพท์สีหน้าที่แสดงออกตอนรับโทรศัพท์ เหมือนกับว่าจะรอปลายสายนี้อยู่นานแล้ว เคนพูดคุยอย่างมีความสุข พูดไปยิ้มไปทุกคำ
...อยากรู้จังว่าใครกัน...
ทันทีที่คุยเสร็จเคนได้วางโทรศัพท์แล้วหันพูดกับร่างบางที่อยู่ตรงหน้าทันที
?เออ...มาริสาเดี๋ยวพี่ไปก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้ล่ะ?เคนบอกลามาริสาแล้วรีบวิ่งลงไปทันที ทันใดนั้นมาริสาได้มองรูปภาพเคนเลยนึกขึ้นมาได้ว่าเคนลืมภาพที่เค้าได้ขอกับมาริสาไว้
?เอะ!! พี่เคน เดี๋ยวก่อนค่ะ?มาริสารีบวิ่งเพื่อนำภาพไปให้เคน ซึ่งได้หายไปไหนแล้วไม่รู้ วิ่งเร็วจริง ๆ
... ก็แงล่ะเพราะเคนนะไม่ได้วาดรูปเก่งเพียงอย่างเดียว เพราะยังเคยเป็นนักกีฬาวิ่งแข่งของโรงเรียนด้วย เคยเป็นแชมป์เปี้ยนทั้งในอำเภอและจังหวัด แต่ตอนนี้เคนได้หันมาวาดรูปอย่างจริงจัง และเป็นคนที่วาดรูปได้ดีคนหนึ่งด้วย จึงทำให้เป็นความเสียดายของโค้ชเป็นอย่างมากเพราะถ้าเคนยังอยู่เป็นนักกีฬาวิ่งแข่งอีก อาจทำให้เคนเป็นดาวรุ้งของวงการวิ่งแข็งก็ได้...

แคธีและเพื่อน ๆ ของเธอได้นั่งเม้าแตกอยู่ตรงโต๊ะม้าหินที่วางอยู่ตามสถานที่ต่าง เพราะตนได้เลิกจากการฝึกซ้อมร้องเพลง ทันใดนั้นได้เห็นเคนวิ่งลงมาจากข้างบนอาคาร แล้วได้รีบวิ่งออกไปหน้าโรงเรียน ซึ่งได้มีผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาดูสวยมากยิ่งกว่านางสาวไทยอีก เคนได้เดินตรงเข้าไปหาแล้วมอบยิ้มทักทาย จากนั้นจึงเดินจูงมือกันออกไปจากโรงเรียน
?นี่แคธีคิดอย่างที่ฉันคิดหรือเปล่า ว่านั้นนะแฟนเคนแน่เลย?พลอยใสเห็นว่าเคนกับผู้หญิงเมื่อกี้สนิทกันมากเป็นพิเศษ จึงไม่ทำให้สงสัยเลยว่าเป็นแฟนกันหรือเปล่า
?รู้ได้ยังไง?นัชชาถามกลับอย่างเรียบง่าย
?ก็ฉันเห็นทุกวันเลยนะ ผู้หญิงคนเมื้อกี้จะรอเคนหน้าโรงเรียนทุกวันเลย?
?ฉันเห็นชุดที่ใส่แล้วสงสัยว่าจะเป็นโรงเรียนที่อยู่ในตัวเมือง?แคธีเอ่ยเพราะเห็นจากชุดที่คนนั้นใส่ ซึ่งเป็นโรงเรียนดังไม่แพ้กันกับโรงเรียนนี้
?โอ้โห!! ต้องรักกันจริงแน่ ๆ เฮ้ย...เสียดายจัง ฉันอุตสาหลงรัก?เรน่าเอ่ยอย่างผิดหวัง ทันใดนั้นพลอยใสบังเอิญหันไปเห็นมาริสาวิ่งลงมาจากอาคารแล้ววิ่งตรงไปหน้าโรงเรียนเหมือนกับกำลังหาใครบางคน
?เอะ...นั้นมัน...ยัยมาริสานี่?ได้ยินดังนั้นแคธีและคนอื่น ๆ จึงหันมามองมาริสาเป็นตาเดียว ที่กำลังวิ่งไปหน้าโรงเรียนอย่างรีบร้อน
?ยัยมาริสา...หึ...ไปทักทายเพื่อนร่วมห้องกันหน่อยสิ?แคธีพูดจบก็ลุกขึ้นตรงไปหามาริสาทันที พวกเพื่อน ๆ ของแคธีก็ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินตามแคธีไปยังที่ที่มาริสายืนอยู่เช่นกัน
มาริสาได้รีบวิ่งไปยังหน้าโรงเรียนเพราะตนได้ยินว่าจะออกมาหาใครสักคนที่หน้าโรงเรียน จึงได้รีบวิ่งตามลงมาทำให้เหนื่อยหอบนิดหน่อย มาริสามองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นวี่แววของเคนเลย ในความคิดเบื้องลึกของเธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนที่เธอสงสัยนักหนาเป็นใครกัน
ตอนที่วิ่งหอบมาเมื่อซักครู่รู้สึกใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก บอกไม่ได้เหมือนกันว่าที่ตามเคนมาเพราะต้องการนำภาพที่ถือมาด้วยนี้ให้เคนหรือเปล่า หรือว่าอีกใจหนึ่งต้องการที่จะรู้จักคนที่เคนพูดคุยด้วย มีอะไรสำคัญนะเคนถึงวิ่งลงมาอย่างรวดเร็ว ทำเหมือนกับว่าคนคนนั้นจะหายไปอย่างไงอย่างงั้นหละ
...เค้าคนนั้นจะสำคัญกว่าเราหรือเปล่านะ?...
?หายไปไหนแล้วนะ...เฮอ ๆ ...เร็วจัง?มาริสาพูดเสียงเหนื่อย ๆ และหอบจากการวิ่งตามเคนเมื่อกี้ อย่างกับวิ่งโอลิมปิกอย่างไงอย่างงั้น
?ใครกันเหรอที่หายไปนะ?ขณะที่มาริสามองไปรอบ ๆ บริเวณนั้นอยู่นั้น ก็มีเสียงที่ไม่ค่อยเป็นมิตรสำหรับมาริสาเลย มาริสาค่อย ๆ หันไปมอง ที่แท้ก็เป็นแคธีกับเพื่อน ๆ ของเธอล้อมหน้าล้อมหลัง พวกแคธีคงมาหาเรื่องกับเธอแน่ หนีไปตอนนี้ก็เหมือนสร้างความเลวร้ายขึ้นไปอีก ทางที่ดีเราควรอยู่เฉย ๆ เหมือนอย่างเคยดีกว่า
?แคธี...ฉันขอตัวก่อนนะ?มาริสารีบถอนตัวหนีไป แต่คงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก เพราะแค่มาริสาก้าวขาพยายามจะออกไปจากวงล้อมที่พวกแคธีกั้นไว้ พวกหล่อนก็แทบจะโพล่เข้ามาจับมาริสาไว้ ตอนนี้สถานการณ์ไม่ต่างจากผู้ร้ายที่ถูกตำรวจล้อมไว้เลย จะตามเคนไปก็คงไม่ทันแล้วล่ะ อย่างนี้ก็เหมือนเก็บความสงสัยไว้กับตัวเอง เบื่อที่สุดเลยกับการเก็บความสงสัยเนี้ย รู้ไหมว่ามันอึดอัดแค่ไหน
แคธีร้องบอกให้รอเดี๋ยว พลางใช้มือตนเองดึงแขนของมาริสาอย่างแรงทำให้ภาพวาดของเธอหล่นเกลือนกลาด ทำให้เพื่อนของแคธีหัวเราะกับความซื่อของมาริสา มาริสารีบก้มลงไปเก็บทันทีเพราะภาพพวกนั้นเป็นของที่สำคัญมากสำหรับเธอ
ขณะที่มาริสาเก็บภาพเธอที่หล่นอยู่นั้น แคธีก็เหลือบไปเห็นภาพของใครคนหนึ่งที่มาริสาตั้งใจวาดเอาไว้ด้วยความรู้สึก แฝงไปในกระดาษ แคธีจึงรีบเก็บขึ้นมาดู ก่อนที่มาริสาจะฉกฉวยเก็บไปก่อน เธอเพ่งพินิจกับภาพที่อยู่ในมือ ดูมุมทุกมุมแล้วมันดูหลับคลายคลับคลา มาริสาเห็นดังนั้นถึงกับตกใจ จึงรีบรุดเข้าไปใกล้ตัวของแคธีเพื่อชิงเอาภาพของเธอคืน แต่แคธีก็ไม่ยอมคืนง่าย ๆ
...ไม่ได้ จะให้เค้ารู้ความรู้สึกของเราที่มีต่อพี่เคนไม่ได้ ถ้าแคธีรู้เค้า เธอต้องพยายามทำเรื่องไม่ดีกับความรู้สึกเธอแน่ ฉันคงยอมไม่ได้หรอกนะ ที่จะต้องโดนเยียบย้ำความรู้สึกที่มีต่อเคน...
?แคธีเอามาเถอะนะ ฉันขอร้องล่ะ?มาริสาของร้องแคธีให้นำภาพของเธอคืน
?อย่านะ!! ฉันขอดูแค่นี้ทำเป็นหวงฉันเหรอ?แคธีตวาดใส่มาริสาอย่างแรง เพื่อไม่ให้เข้ามาใกล้ตัวเธอ ผู้คนที่เดินอยู่ต่างก็หันมามองกลุ่มคนที่ส่งเสียงดัง แต่เพียงแค่แคธีหันไปสบตา ก็ไม่มีใครที่จะกล้ามอง หรือแม้แต่กระทั้งเดินเข้าไปหา มาริสากลัวมาก จึงเดินถอยออกไป ปล่อยให้ภาพที่เธอพยายามวาด พยายามสร้างมันขึ้นมาด้วยความรัก ตอนนี้มันกลับตกอยู่ในมือผู้หญิงที่เธอชิงชังที่สุด แคธีเห็นว่ามาริสาถอยห่างไป แน่นอนใคร ๆ ก็ต้องยอมทำตามคำสั่งของเธอ จากนั้นเธอจึงนำภาพวาดนั้นมาดูต่อ
?นี่...มันรูปเคนนี่น่า ใช่จริงด้วย...ทำไมเธอถึงวาดรูปเค้าล่ะ?มาริสาไม่กล้าตอบไปว่าที่วาดรูปเคนเพราะอยากเห็นเค้าตลอดเวลา จึงใช้ภาพที่วาดนี้เป็นตัวแทนความรู้สึกที่ชอบเค้ามาก และถ้าเราตอบไปอย่างนั้นแคธีคงหัวเราะเยาะเธอแน่ เพราะตัวเรากับเคนไม่เหมาะสมกันเลยสักนิด เป็นได้แค่เพียงพี่ชายหรือไม่ก็แค่เพื่อนที่สนิทกันคนหนึ่งก็เท่านั้นเอง พยายามจะคิดเช่นนั้น แต่ทำไมจิตใจเรายังเหมือนหลงตัวเอง แค่เคนทำดีด้วย พูดคุยด้วยบางครั้งที่ทำให้จิตใจเตลิดไปไกล ตอนนี้เธอรู้สึกอายแสนอาย หน้าตาก็แดงฉานไปหมด
?เอะฉันรู้แล้ว...เธอชอบเค้าใช่ไหม?มาริสาได้ยินดังนั้นถึงกับตกใจมาก ที่แคธีรู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไรต่อเคน ท่าทางเราแสดงออกขนาดนั้นเลยเหรอ แต่ทำไมเคนถึงไม่คิดอย่างแคธีบ้าง ถึงวันนั้นเราจะได้ไม่ต้องบอกความรู้สึกที่มีต่อเคนจากปากตัวเอง
?น่าสงสารเธอจริง ๆ เลยนะ ไม่รู้เลยเหรอว่าเคนนะเค้ามี...?แคธีพูดยังไม่ทันจบคำ เสียงใครบางคนที่แคธีไม่อยากเจอที่สุด ส่งเสียงดังมาจากด้านหลังเธอ
...เข้ามาขัดจังหวะเสียจริง...
?ทำอะไรกันนะ?เสียงเกตต์ที่ดังมาจากข้างหลังของแคธี หล่อนจึงหันไปมองมาริสามองเกตต์ที่เดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ
... เสียงสวรรค์จริง ๆ ในที่สุดเกตต์ก็เข้ามาช่วยไว้ได้ทัน...
เกตต์ค่อย ๆ เดินไปหามาริสาแต่ทางข้างหน้าแต่พวกเพื่อนของแคธีไม่ยอมหลีกทาง
?หลีกไปฉันจะเดิน?เกตต์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่ก็สามารถทำให้คนขนลุกไปตาม ๆ กัน เพื่อนของแคธีมองหน้ากัน เพื่อปรึกษากัน เกตต์มองพวกเพื่อนแคธีอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ พวกเธอเห็นดังนั้นจึงรีบหลีกทาง เกตต์จึงเดินเข้าไปหามาริสาที่ยืนอยู่ตรงหน้า
?มาริสาพวกมันทำอะไรเธอ...แล้วนี่ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ?เกตต์ดุมาริสา แทนที่คนโดนดุจะทำสีหน้าสลดใจ แต่บนใบหน้าขาวใสกลับเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม เกตต์ไม่ได้คิดอะไร แค่ตอนนี้อยากจะคิดบัญชีกับพวกที่อยู่ข้างหลัง เกตต์หันมาทางแคธีด้วยสีหน้าท้าทาย แต่ไม่มีท่าทีที่แคธีจะกลัวเลยซักนิด ยิ่งการทำสีหน้าไม่กลัวแบบนี้หละ ยิ่งทำให้เกตต์อยากท้าทาย
?พวกเธอทำอะไรเค้านะ แค้นฉันไม่ใช่เหรอไปทำเค้าทำไม?เกตต์ตวาดใส่แคธีไปเป็นชุด ด้วยความโกรธที่เธอไม่เห็นด้วยเลยว่า เมื่อแคธีโกรธเค้าจะไปทำร้ายมาริสาทำไม เพราะทำแบบนี้เหมือนกับว่าทำร้ายเกตต์ทางอ้อมเหมือนกัน
?พวกแคธีไม่ได้ทำอะไรฉันหรอกนะ?มาริสาโกหกเข้าข้างแคธีเพราะไม่อยากให้สองคนนี้มีเรื่องเพราะเธอ ซึ่งเธอก็ไม่อยากให้เกตต์เดือดร้อนกับเรื่องของเธอ ที่มันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย ความผิดของฉันเอง ที่บังเอิญเจอกับแคธี ผิดเองที่ตามเคนมา ผิดเองที่เก็บซ้อนความรู้สึกของตนเองไว้ไม่ได้
...ผิดเองที่ฉันอ่อนแอเกินไป...
?ใช่...ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด แม้แต่จะเตะฉันยังไม่อย่างเตะเลย?แคธีพูดและเชิดหน้าใส่เกตต์ทำให้เกตต์หมั่นไส้มาก แถมยังพูดเหมือนรังเกียจมาริสาอีก
?แล้วกระเป๋าเธอล่ะ?เกตต์หันไปถามมาริสาที่หลบอยู่ด้านหลัง หลังจากเห็นว่ากระเป๋ามาริสาไม่อยู่แล้ว
?เออ...อยู่บนดานฟ้านะ?
?งั้นรีบไปเอาเดี๋ยวฉันรอข้างล่าง?มาริสาได้ยินดังนั้น จึงรีบวิ่งไปเอากระเป๋าทันที ก่อนที่จะขึ้นบนอาคารไปมาริสาหันมามองเกตต์ที่ต้องเผชิญหน้ากับแคธีและเพื่อน ๆ เพียงคนเดียว เธอรู้สึกผิดมากที่ต้องให้เกตต์ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เกตต์ไม่ได้ก่อ ตอนนี้คงมีเพียงสองสามประโยคที่มาริสาพอจะพูดได้
...ขอโทษนะ ฉันเสียใจ แต่ก็ขอบคุณมาก...
หลังจากที่มาริสาวิ่งขึ้นไปบนอาคารแล้วเกตต์จึงหันมาพูดกับแคธีทันที ด้วยสายตาที่ดุร้าย (บรื่อ!!น่ากลัวจัง)
?ส่วนเธอถ้าแค้นฉันนักก็มาทำกับฉันนี้ อย่าไปลงที่มาริสาอีก?หลังจากพูดเสร็จเกตต์หันหลังเดินไป แต่ในขณะนั้นหยุดเดินแล้วหันหลังมาส่งความทิ้งท้าย
?อ่อ...ที่พูดเมื่อกี้พวกเธอคงเข้าใจใช่ไหม คงไม่ต้องใช้ภาษาสุนัขหรอกนะ?เกตต์พูดแล้วยิ้มเหยาะแคธี แล้วเดินเข้าไปชนไหล่เธอจนเกือบล้ม จึงทำให้แคธีโกรธเคืองเป็นอย่างมาก ที่ว่าเธอเป็นหมา (อุตสาใช้คำว่าสุนัขแล้วนะ)
?ว๊าย!! แคธี มันว่าเธอเป็นหมาแนะ?เรน่าเอ่ยอย่างตื่นเต้นให้แคธีฟัง
?ฉันรู้แล้วไม่ต้องมาย้ำ?ตอนนี้ในหัวคิดอะไรไม่ออกทั้งนั้นนอกจากคิด คิด
...ฉันจะทำยังไงดีนะ ที่จะทำให้แก่มาอยู่มาก้มหัวให้ฉัน...เกตต์!!
?ปล่อยให้มันหือเราแบบนี้ไม่ได้แล้วนะแคธี?นัชชาย้ำเพื่อให้แคธีลุกขึ้นสู่กับเกตต์แบบตาต่อตาฟันต่อฟันได้แล้ว เพราะเกตต์เป็นศัตรูสำคัญที่จะต้องกำจัดออกไปจากชีวิตแคธีซะ ไม่อย่างงั้นชีวิตที่ต้องโดนข่มเหงอาจจะไม่ใช่เกตต์ แต่เป็นเธอเอง
ต่อไปนี้แก่เป็นศัตรูของฉันโดยสมบรูณ์แบบ ฉันเล่นแกเบาไปเลยได้ใจใช่ไหม ทีนี้ฉันจะไม่ปราณีแกอีกแล้ว คอยดูนะฉันจะทำให้แก
...คุกเข่าขอโทษฉัน...
?ฉันรู้แล้ว...ฉันจะต้องจัดการกับมันอย่างไงดี?ทันทีที่แคธีพูดจบ พวกเพื่อน ๆ ของเธอต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัย สลับกับการมองหน้าแคธีที่ตอนนี้ใครก็อย่าหาญเข้าไปใกล้ และไม่อาจคาดคิดได้ว่าในใจของแคธีนั้นคิดอะไรอยู่ พยายามที่จะทำอะไร
...แต่ขอแค่ไม่เกินไปเหมือนคราวนั้น...
?เออ...แล้วยัยมาริสามันชอบเคนใช่ไหม?เงียบอยู่นานแคธีก็เอ่ยถามเพื่อนที่อยู่ข้างกายออกมา ทุกคนมองหน้ากันอีกครั้งก่อนที่เรน่าจะตอบออกมาด้วยเสียงอันเบาบาง
?น่าจะใช่ ก็ที่เธอถามเมื่อกี้ ฉันเห็นมันหน้าแดงด้วย?
?งั้นก็ดี...หึ เอาล่ะพวกเรา ไปร้านคาราโอเกะกันเถอะ?แคธีพูดจบก็เดินออกไปจากโรงเรียนด้วยท่าทางปกติ ผิดคาดที่เพื่อน ๆ ต่างคาดเดากัน แต่ก็ยังคลายความเป็นห่วงได้บ้าง จากนั้นก็รีบเดินตามกันออกไป
akazuya

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”