*:*:*: Dream in Love my Friend *:*:* Part 7

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
ajinkazuya_love
โพสต์: 25
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 27 ก.พ. 2008 2:26 pm
ที่อยู่: in kamenashi conankong

*:*:*: Dream in Love my Friend *:*:* Part 7

โพสต์ โดย ajinkazuya_love »

เวลาเย็นตอนเลิกเรียนก็จะมีนักเรียนกลับบ้านกันอาจจะมีการเดินกลับ ขึ้นรถกลับแต่ถ้าคนที่รวย ๆ ก็จะมีรถหรู ๆ ราคาแพงมารับ แต่เกตต์ก็ไม่อิจฉาหรอกเพราะเกตต์ภูมิใจแล้วที่มีมอเตอร์ ไซค์คันที่เกตต์รัก เป็นพาหนะให้เธอขับไปกลับโรงเรียน เกตต์และมาริสาเดินมายังรถมอเตอร์ไซค์ที่เค้าทั่งสองได้จอดไว้อยู่ในบริเวณที่จอดรถ ซึ่งรวมกันอยู่กับรถมอเตอร์ไซค์ยนต์
?เฮ้ย...รถมอเตอร์ไซค์ของฉันหายไปไหนเนี้ย?เกตต์พูดขณะที่ตนหันซ้ายหันขวากำลังหารถที่หายไปอยู่ ด้วยความตกใจเพราะมันเป็นมอเตอร์ไซค์คันแรกของเกตต์เลยทีเดียว
?อะไรเหรอเกตต์ มอเตอร์ไซค์หายเหรอ?
?ใช่?
?แต่เอ๊ะโรงเรียนนี้ไม่มีประวัติมอเตอร์ไซค์หายนะ?มาริสาพูดขณะที่ช่วยเกตต์หามอเตอร์ไซค์ที่หายไปให้เกตต์
?นี้ฉันว่าไปแจ้งที่ธุรการกันเถอะเผื่อมีคนเอามอเตอร์ไซค์ผิดไป? ได้ยินเช่นนั้น เกตต์ยิ้มแห้ง ๆ ใครกันจะตาถึง เอามอเตอร์ไซค์เก่า ๆ แบบนี้ไป (ตาต่ำต่างหาก)
?ไม่ล่ะ...ฉันอาจจอดรถไว้ที่อื่นก็ได้?เกตต์สงสัยว่าถ้ามันไม่เคยมีประวัติการหายแล้วมอเตอร์ไซค์ของเธอจะหายไปไหนคันก็ไม่ใช่เล็ก ๆ ก็หน้าจะหาเจอ ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าของชายหนุ่มสองคนมาหยุดยืนต่อหน้าเกตต์และมาริสา ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกก็สองพี่น้องแซม เซฟยังไง
?ไงจ๊ะพี่น้องฝาแฝด?มาริสาทักทายแซมและเซฟอย่างยิ้ม ๆ จนทั้งสองเกือบจะสะอึก
?โธ่เอ้ยอย่าพูดแบบนี้ซิมาริสาฉันนะหล่อกว่าแซมตั้งเยอะ?เซฟพูดกลับอย่างไม่รีรอ ทำให้แซมหัวเราะขึ้นมา ทันใดนั้นแซมได้หันไปทางเกตต์ซึ่งกำลังหาอะไรซักอย่างอยู่ข้างหลังมาริสา
?หาอะไรอยู่เหรอ?แซมพูดแล้วลงจากรถมอเตอร์ไซค์ยนต์มุ่งหน้ามาหาเกตต์ เพื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง
?อ่อ...หามอเตอร์ไซค์อยู่นะพอดีมันหาย...แล้วหน้านายไปโดนอะไรมา?เกตต์ถามเพราะเห็นหน้าแซมบวม ๆ แดง ๆ เหมือนไปโดนอะไรมาทุบหน้า
?เออ...ตกบันไดนะ ไม่เป็นไรมากหรอก?แซมพูดโกหกเกตต์ไปเพราะไม่อยากให้เกตต์รู้เรื่องว่าตังเองต่อยกับเรียวเพื่อเกตต์ และถ้าเกิดพูดไปแบบนั้นอาจทำให้เกตต์ไม่สบายใจหรือไม่ก็เห็นว่าเค้าใช่กำลังติดสินปัญหาได้
?ตกบันได...ท่าจะตกอย่างแรงนะเนี้ย...อืมนี่...นายเห็นรถมอเตอร์ไซค์ฉันบ้างหรือเปล่า?เกตต์เอ่ยถามแซมทันทีเพราะระหว่างทางที่แซมเดินมานี้อาจพบมอเตอร์ไซค์ของเธออยู่ตรงไหนซักแห่งก็ได้ ซึ่งในใจของเธอคิดอยู่ว่าอาจถูกแกล้งก็เป็นได้เพราะศัตรูเธอที่อยู่ในโรงเรียนนี้เอาไปซ่อนไว้ที่ไหนก็ได้
?ไม่รู้ซิ คือฉันไม่เคยเห็นรถมอเตอร์ไซค์เธอเลย แล้วแจ้งฝ่ายธุรการหรือยัง?
?ฉันบอกให้แจ้งแล้วแต่ก็ไม่ยอมไป?มาริสาพูดอย่างน้อยใจ ทำไมฉันให้ความคิดเห็นทีไรเธอก็ไม่ทำตามซักที ดื้อชะมัด
?แล้วจะทำยังไงล่ะกลับกับฉันก่อนไหม เดี๋ยวให้ยามหาให้?แซมเอ่ยชวนให้กลับบ้านพร้อมตนเพราะถ้าหาต่ออาจจะมืดแล้วก็ได้ และถ้าหากกลับบ้านตอนมืด ๆ แบบนี้อาจเป็นอันตรายต่อเกตต์ก็ได้
?นี่เกตต์คิดดี ๆ นะว่าเธอเอามอเตอร์ไซค์ไว้ไหน?เซฟพูดเพื่อช่วยให้เกตต์คิดให้ถี่ถ้วนดีซะก่อนเพราะเกตต์อาจนำรถไปจอดที่อื่นที่ไม่ใช่ที่นี่ก็ได้ เมื่อเกตต์ได้ยินเซฟพูดอย่างนั้นก็เกิดการครุ่นคิดทันที
...ฉันลืมรถไว้ที่ไหนน้า...
?ก็เมื่อเช้านะฉัน...เออ ฉันไม่ได้เอามอเตอร์ไซค์มานี้น่า พอดีมาส่งของกับลุงใหญ่ โธ่เอ้ยหาตั้งนาน โล่งอกไปที?เกตต์ถอดหายใจอย่างโล่งอกเพราะถ้ามอเตอร์ไซค์คันนี้หายไปจริง ๆ เธอต้องไม่มีความสุขแน่ถ้าไม่ได้ขับไม่ได้เห็นมันทุกวัน
?เฮ้ยให้ตายซินัดน้องเชอร์รี่ไว้ ไปก่อนนะ?เซฟโวยวายหลังจากที่ตนดูนาฬิกาเสร็จ จนทำให้คนรอบข้างตกใจไปด้วย
?อืม...งั้นเกตต์กลับบ้านกับฉันไหม?แซมเอ่ยชวน และหวังในใจลึก ๆ ว่าเกตต์จะไปกับเค้า จุดประสงค์นั้น แซมคิดไว้แต่แรกแล้วว่าอาจจะได้รู้ว่าบ้านของเกตต์อยู่ที่ไหน แซมไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไม่ เกตต์ถึงได้สร้างความอยากรู้อยากเห็นให้กับเค้านักใจ เพียงแค่อยากจะรู้จักกับเกตต์ให้มากกว่านี้ความรู้สึกของเค้าก็แต่งเติมไปด้วยความสุขแล้ว
ภาพที่ทั้งคุยกันในขณะนั้น ไม่มีใครรู้ว่ากำลังอยู่ในสายตาของเรียวตลอด เค้ามองมายังที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ เห็นเกตต์ขึ้นรถไปกับแซม แล้วมุ่งหน้าออกไปจากโรงเรียน พอดีกับรถของเรียวที่มารับ เรียวได้ขึ้นรถไป แล้วนั่งคิดถึงภาพที่เห็น
...ทำไมเกตต์ถึงนั่งรถแซม หรือว่าออดอ้อนกันจนแซมใจอ่อน ร้ายจริง ๆ เลยนะ แต่ยังไงฉันจะไม่ยอมให้เพื่อนฉันโดนคนอย่างเธอหลอกแน่...
----------------------------------------------------
รถมอเตอร์ไซค์คันงามของแซมขับไปตามทางที่เกตต์กลับเป็นประจำ ระหว่างทางเกตต์จะคอยบอกทางอยู่เสมอ จึงทำให้แซมขับไปยังจุดหมายได้ถูกต้อง ใจในของแซมเองถือว่าการที่มาส่งเกตต์เป็นอะไรที่เค้าไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลย แถมยังได้รู้จักบ้านของเกตต์อีก โชคดีสองต่อจริง ๆ การที่เกตต์นั่งอยู่ข้างหลังเค้าตอนนี้ มันทำให้เค้ายิ่งมีความรู้สึกที่อยากจะปกป้องผู้หญิงคนนี้ ในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เธอได้ประสบมา เค้ามีความรู้สึกชื่นชมในความสามารถของเกตต์ ในความพยายาม และความเข้มแข็ง สักวันเธอต้องทำให้คนที่เคยดูถูกเธอได้เห็นแน่
...ว่าเธอก็ทำสิ่งที่เธอฝัน ให้เป็นจริงได้เช่นกัน...
?อ๊ะ...ขอบใจนะที่มาส่ง?แซมพยักหน้ารับคำ แล้วก็เกตต์ยื่นหมวกกั้นน็อกให้กับแซมกำลังจะเข้าบ้าน
?นี่เกตต์ บ้านเธอมีคนเป็นหมอดูด้วยเหรอ?เกตต์ได้ยินดังนั้นจึงหันมาทางแซมทันทีสงสัยว่าแซมรู้ได้ยังไงว่ายายทำอาชีพนี้ที่บ้านเธอ
?รู้ได้ยังไง?เกตต์ถามด้วยความสงสัย จากนั้นแซมก็ชี้ให้เกตต์ดูกระดาษที่แปะอยู่ที่หน้ารั่วบ้านของเธอ มันเป็นข้อความที่เขียนว่า
ใครอยากดูโชคชะตาราศี ดูดวงความรักหรือการงาน มาได้ทุกเมื่อที่บ้านหลังนี้เปิด 24 ชั่งโมงไม่เว้นวันหยุดราชการ จ่ายค่าตอบแทนแค่ครั่งละ 100 บาท
ลงนาม ยายหมอดู ที่ดูเม่นที่สุด
?อ่อ...อืมใช่ ทำไมเหรอ?
?เปล่าหรอกถามดูเฉย ๆไปก่อนนะ?แซมพูดพลางยิ้มมุมปาก ใส่หมวกกันน็อกแล้วเร่งเครื่องยนต์พาหนะประจำกาย
?อืม...ขับรถดี ๆ ล่ะ? เกตต์พูดทิ้งท้าย แซมยิ้มตอบรับอีกครั้งก่อนที่จะคับรถไปจากบ้านเกตต์ รอยยิ้มของเค้าใครเห็นก็รู้ว่ากำลังมีความสุขขนาดไหน เพราะเค้าเองมีข้ออ้างที่จะมาหาเกตต์ได้ตามใจชอบแล้ว
เกตต์เดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับปิดประตูหน้าบ้าน เดินมุ่งหน้าไปยังที่ที่จอดรถมอเตอร์ ไซค์ของเธอปรากฏว่ารถเธอยังอยู่
?เฮ้ย ยังอยู่เหรอเนี้ย? เกตต์ถอนหายใจเบา ๆ ให้กับตนเอง ก่อนท่ะเดินเข้าบ้านไป โดยไม่มีอะไรขับข้องใจอีก เธอเดินเข้ามาในบ้านเห็นโซฟาเก่า ๆ ที่มียายนั่งรออยู่ด้วยสายตาดุดัน ให้ตายเถอะวันนี้ไม่ได้ส่งของอีกแล้ว มัวแต่หารถมอเตอร์ไซค์อยู่ ต้องโดนยายเล่นแน่ ๆ เลย
?กลับมาแล้ว?
?อืมฉันเห็นแล้วหละ?ยายค่อย ๆ ลุกจากโซฟาที่นั่งแล้วเดินมาใกล้ ๆ เกตต์ เพื่อจะคุยด้วย
?ทำไมมาป่านี้รู้ไหมว่าแจ้หยกโทรมากี่รอบแล้ว ทำไมถึงไม่เอาโทรศัพท์ไปเล่า...แกไม่ได้ส่งของมา 2 วันแล้วนะ วันนี้ฉันก็มีลูกค้าน้อยด้วย?ยายว่าเกตต์ แต่คนที่กำลังถูกว่ากลับไม่รู้สึกผิดเลยซักนิด เธอโยนกระเป๋าไว้ในห้อง พร้อมกับเข้าไปถอดถุงเท้า ยังคิดอยู่เลยที่ยายว่า ไม่รู้ว่าเพราะเกตต์ไม่ได้ไปส่งของหรือว่าเพราะกลับบ้านช้าก็ไม่รู้
?ขนาดติดป้ายไว้หน้าบ้านซะใหญ่โตยังไม่มีลูกค้าอีกเหรอ?เกตต์พูดประชดยาย ขณะที่ตนกำลังถอดถุงเท้าที่ผ่านการถูกเหยียบย้ำมาทั้งวัน
?แกไม่ต้องมาพูดมากเลย?ยายทำเสียงดุดันใส่เกตต์อย่างน่ากลัว พร้อมกอดอก วางมาดตัวเองซะใหญ่โต
?เมื่อกี้ใครมาส่งแก่เหรอ?ทันใดนั้น เสียงที่เคยว่ากล่าวเมื่อครู่กลับเบาลงอย่างเห็นได้ชัด เดินมาเกาะไหล่หลานของตนอย่างเป็นกันเอง นี่ยายคงได้ยินเสียงรถเมื่อสักครู่แน่ ถึงได้ถามเกตต์แบบนี้ แต่รู้สึกว่ายายจะไม่โมโหเลยนะกับการที่มีคนมาส่งหลานสาวถึงหน้าบ้าน
?โธ่ยุ่งอะไรด้วยเนี้ยจะอาบน้ำแล้ว?
?เดี๋ยวค่อยอาบซิ...นี้เค้ารวยไหม?ยายดึงแขนเกตต์ให้หันหน้ามาเพราะตนยังไม่ได้คำตอบ
?โธ่เอ้ย!! จะถามเรื่องนี้เนี้ยนะ?เกตต์ปิดประตูห้องอย่างแรงเพราะไม่อยากตอบคำถามกับยายจอมจู้จี้ อยากจะบ้าตาย
?นี่ไอ้เกตต์เปิดประตูเดี๋ยวนี่นะ...เปิดมาคุยกันให้รู้เรื่องนะ?ยายเคาะประตูเกตต์อย่างแรงเพื่อไห้เกตต์ออกมาคุยกับตนในเรื่องที่ค้างคาใจ
?บอกแล้วไงว่าจะอาบน้ำ?เกตต์ตะโกนออกมาจากห้อง ด้วยความโมโหและความรำคาญ
...ถามซักไซรอยู่ได้ไม่รู้ซักเรื่องได้ไหมเนี้ยยาย...
?ปัดโธ่โว้ย...แกจะบอกฉันดี ๆ หรือจะให้ฉันไปสืบเองห๊ะ...บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ?ยายขู่ หวังที่จะให้เกตต์บอกความจริง
?มีความสามารถก็เชิญ?เกตต์พูดประทั่งยาย ที่เกตต์ไม่บอกยายไปคงเพราะเกตต์รู้ว่าถ้าบอกไปว่าแซมนั้นรวยยายคงให้เกตต์หาทางคบหากับแซมซึ่งเกตต์ไม่อยากให้ยายยัดเหยียดคนดี ๆ อย่างแซมมาเป็นแฟนกับคนที่ไม่คู่ควรอย่างเธอ

มาริสากำลังอ่านหนังสืออยู่บนโต๊ะในห้องนอนโดยใช่แสงสว่างของโคมไฟช่วยให้เธอมองเห็นตัวหนังสือ ระหว่างที่เธอกำลังอ่านหนังสืออยู่นั้นได้เหลือบไปเห็นภาพที่เธอร่างไว้ซึ่งถูกหนังสือทับอยู่ มันคือภาพของเด็กผู้หญิงสองคนที่ได้นำให้เกตต์ดูเมื่อตอนบ่ายนำมาดูเล่น ซึ่งภาพนั้นเธอกำลังคิดอยู่จะให้เป็นภาพของเธอกับเกตต์ที่เป็นเพื่อนรักกัน ถึงแม้จะหลงตัวเองก็เถอะ ในเมื่อเกตต์ยังไม่ยอมรับเธอก็ขอให้เป็นคนรู้จักอย่างนี้ก็ได้
ทันใดนั้นเธอก็ไปเห็นภาพที่เธอแอบวาดรูปของพี่เคนตอนที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงม้าหินมาริสาดูภาพนี้ได้ทำให้เธอนึกถึงพี่เคนที่เธอได้ทำซุ่มซ่ามใส่เค้าเมื่อตอนเย็น พี่เคนน่ารักมากเลยพูดจาอ่อนหวานนุ่มนวลแถมยังหน้าตาหล่อเหมือนเทพบุตรของใครหลายคนอีกต่างหากมันไม่แปลกเลยที่จะมีคนรักชอบพี่เคนมากมาย เอ๊ะ!!นี้เราคิดอะไรหรือว่าที่เกตต์พูดกับเราเมื่อตอนเย็นนี้มันจะจริง
...ที่เรา ชอบพี่เคน...
-----------------------------------
ณ บ้านเรียว
เรียวกลับมาจากที่โรงเรียนอย่างเซ็ง ๆ จึงตั้งใจว่าจะไปหาแม่ที่รักเพื่อคลายความเครียดจากเรื่องที่โรงเรียน แต่ยังไม่ทันที่จะขึ้นไปพูดคุยกับแม่ของตนก็โดนคนที่เจ้ากี้เจ้าการเรียวที่สุดเรียกไว้
?แกหยุดอยู่ตรงนั้นก่อน?คุณอรรถพลเรียกไว้ เรียวจึงหยุดเดินแล้วหันมามอง พลางถอนหายใจ แต่คำพูดเมื่อสักครู่มันก็ไม่ทำให้เรียวฟังในคำที่อรรถพลพูด เรียวกำลังจะก้าวขึ้นบันไดไป แต่ก็ต้องหยุดชักงักอีกครั้ง
?ฉันบอกว่าให้แกหยุด!!?คุณอรรถพลเรียกเรียวไว้อีกครั้ง พอลูกชายตัวดีหันมา ใบหน้าปรากฏแต่รอยช้ำไปทั่วใบหน้า นี่คงจะไปมีเรื่องกับใครมาอีกซินะ จะทำให้ฉันเอาดีในตัวแกไม่ได้เลยหรือไง
ความคิดในเบื้องลึกของจิตใจอรรถพลเวลานี้ ไม่อยากจะโทษหรือว่ากล่าวเรียวหรอกที่ทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้ จะโทษก็คงเป็นเพราะเค้าเองที่ทำอะไรให้เรียวเป็นเช่นนี้ สำหรับเค้าแล้วเรียวก็เหมือนเค้าตอนที่ยังมีความฝัน อยากจะไขว้คว้าแต่ไม้มีโอกาสมันเป็นอย่างไรเข้ารู้ดี อย่างที่เรียวว่านั้นหละถูกต้องแล้ว อรรถพลมองเรียวทุกครั้ง ก็เหมือนกับว่าเค้ามองตัวเอง นิสัยเรียว การแสดงออก และความตั้งใจอันแน่วแน่ มันไม่ต่างอะไรจากเค้าในสมัยก่อนเลยสักนิด ต่างกันก็เพียงแต่โอกาส โอกาสที่จะสามารถไขว้คว้ามันได้หรือไม่ เค้ายอมรับว่ายอมแพ้ ยอมแพ้กับความตั้งใจที่มันไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่ยอมสู้ให้ถึงที่สุด น่าขำที่สุดท้ายจะต้องกลับมายังกรอบที่ถูกสร้างไว้ รู้ทั่งรู้ว่าการกลับมาจะทำให้ความใฝ่ฝันถูกลบเลือนไปชั่วชีวิต รู้ทั่งรู้ว่าจะออกจากกรอบที่ถูกสร้างไว้ไม่ได้อีกแล้ว
...แต่เค้ากลับยอมที่จะเลือกทางนี้...
?หน้าแกไปโดนอะไรมา?เรียวได้ยินดังนั้นจึงนึกไปตอนที่เค้ามีเรื่องกับแซม เลยทำให้เกิดรอยปูดนิดหน่อยบนหน้า
?ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมขอตัวก่อน?
?ถ้าจะขึ้นไปหาแม่แก ตอนนี้เค้าไม่อยู่ ไปงานเลี้ยงต้อนรับของที่โรงแรม?คุณอรรถพลขัดขึ้น ทำให้เรียวชะงัก
?เหรอครับ แล้วคุณล่ะ ทำไมวันนี้ถึงอยู่บ้านได้...อ่อรู้แล้ว คงมีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับผมอีกใช่ไหม?
?ใช่ ไม่งั้นฉันคงไม่เสียเวลาทำงานของฉันหรอก แกลองคิดดูสิว่าวันนี้แกทำอะไรลงไป...อย่าคิดว่าฉันปล่อยแกให้มีชมรมดนตรี ให้ออกกฎบ้าบออะไรของแกเองในโรงเรียน แล้วจะทำอะ ไรทุกอย่างได้ตามอำเภอใจนะ?อรรถพลตะวาดใส่แต่เรียวก็ทำเป็นเฉย เพราะตนรู้แล้วจะต้องมีใครคาบข่าวนี้ไปบอกพ่อแน่ เรื่องที่ตนได้ไปซื้อเครื่องดนตรีใหม่
?คราวนี้ใครเหรอครับ ผ.อ หรืออาจารย์จิตรา?เรียวเอ่ยอย่างรู้ทัน ซึ่งเป็นคำพูดที่กวนคุณอรรถพลให้เกิดอารมณ์โกรธ
?แกไม่ต้องมาพูดมาก บอกฉันมาแกเอาเงินที่ไหนมาตั้งมากมายถึงซื้อเครื่องคนตรีที่แพง ๆเยอะแยะแบบนั้น คงไม่ได้ขโมยใครมาหรอกใช่ไหม?เรียวได้ยินดังนั้นถึงกับอึ้งในคำที่คุณอรรถพลพูด
...ไม่นึกเลยว่าคุณจะเห็นผมเป็นคนแบบนั้น...
?นี่ในสมองคุณคิดได้แค่นี้เหรอครับ?
?ไอ้เรียว!!?
?ผมคงเลวในสายตาคุณตลอดใช่ไหม คุณถึงได้คิดแบบนั้น หึ ถ้าสมมติว่าผมมีเรื่องฆ่าคนตายขึ้นมา คุณคงเชื่อหัวปรักหัวปัมเลยล่ะซิ?เรียวพูดประชดประชัดอย่างน้อยใจ
?บอกฉันมาแกเอาเงินมาจากไหน?คุณอรรถพลคาดคั้นให้เรียวตอบให้ได้
?ก็แค่ให้พี่คิมโอนเงินมาให้?
?อะไรนะ...แกให้คิมโอนเงินมาให้เหรอ ...ทำไมแกถึงทำแบบนี้คิดยังไงถึงไปยุ่งกับพี่เค้า ทำไมไม่บอกฉันดี ๆ?
?ถ้าผมบอกคุณ คุณจะให้เงินผมเหรอ? คำพูดนี่ทำให้อรรถพลถึงกับพูดไม่ถูก ได้แต่มองแววตาอันปวดร้าวของเรียว ถึงแม้ในใจจะรู้สึกสงสาร แต่กลับไม่แสดงออกมา
?ไม่ต้องห่วงเหรอครับ เรื่องเงินผมจะคืนให้พี่เค้าทุกบาททุกสตางค์ เพราะผมเป็นคนที่ยืมอะไรแล้วต้องคืน?พอเรียวพูดจบ ก็รีบขึ้นไปบนห้องทันที โดยทิ้งให้คุณอรรถพลนั่งคิดหนักกับเรื่องอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่น
...ฉันไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นซักหน่อย...
akazuya

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”