[[พันธนาการแห่งบัลลังก์]] (ตอนที่3 : สองบุคลิก)
Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี
- ==Ashura==
- โพสต์: 9
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 21 พ.ย. 2007 9:55 pm
- ติดต่อ:
[[พันธนาการแห่งบัลลังก์]] (ตอนที่3 : สองบุคลิก)
เมโลดี้นอนหลับสนิทแม้แปลกที่ เพราะถูกสอนมาอย่างทหารที่ต้องนอนง่าย ควรนอนในยามนอน และควรตื่นในยามตื่น เธอถูกสอนเฉกทหารเหมือนเช่นถูกสอนให้เป็นเจ้าหญิง ความเข้มแข็งและความเรียบร้อยจึงถูกหลอมเข้าด้วยกัน โดยมีความใสซื่อบริสุทธิ์ดุจทารกที่ไม่เคยจางหายแม้จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่เพียงใด
เมื่อมีเสียงสวบสาบดังจากด้านนอก เด็กสาวก็กระพือเปลือกตาช้าๆ รับรู้เสียงนั้นได้แม้เมื่อครู่จะหลับสนิท เธอไม่ได้นอนอยู่บนพื้นจึงไม่สามารถเอาหูแนบเพื่อฟังเสียงใดใดได้ ร่างบางผุดขึ้นจากเตียงเงียบๆ เยื้องขาออกจากผ้าห่มแผ่วเบามุ่งไปทางประตู โดยให้ลำตัวแนบกับผนังไม้ไว้ เสียงนั้นดังเป็นระยะไม่ได้พยายามกลบการมาของตน ทำให้เมโลดี้พอจะแน่ใจว่าไม่ได้มาร้าย
เด็กสาวมองออกไปทางหน้าต่าง แสงเริ่มพอมี แต่ยังไม่มากเท่าไร
เขาไม่ควรมาเวลานี้ ฟ้ายังไม่สาง ถือเป็นยามวิกาลสำหรับผู้หญิงนะ!
เมื่อคิดเช่นนั้นเจ้าหล่อนก็ฉุนกึกขึ้นมา รู้ว่าเป็นบ้านตัวเองจะมาจะไปยังไงก็ได้ แต่เวลามีสุภาพสตรีเข้ามาก็ควรให้เกียรติกันหน่อย ไม่ใช่มาฟ้าครึ้มแบบนี้ เธอผลักบานประตูเปิดรับโดยเร็ว อ้าปากจะต่อว่าต่อขานแต่ก็ชะงักไป
ร่างที่เห็นสูงเกินหน้าท้องเธอไม่เท่าไร ลำตัวคล้ายเด็กแต่ขนาดใหญ่กว่าเด็กทั่วไป ผิวตะปุ่มตะป่ำเหมือนคางคกสีน้ำตาลเปลือกไม้ นิ้วอ้วนป้อมถือตะเกียงดวงเล็กๆ ดวงตาเรียวโต หูยาวผิดสังเกต ..รูปลักษณะโดยรวมเช่นนี้ทำให้เมโลดี้หวีดร้อง
?นังแม่มด!? เสียงคำรามเต็มไปด้วยโทสะของสิ่งตรงหน้ากึกก้องกลบเสียงกรีดร้องของเธอสิ้น เล็บแหลมสกปรกยกขึ้นชี้หน้าเธอ ?เข้ามาที่นี่ได้ยังไง ออกไปก่อนที่ข้าจะ--?
ร่างบางอรชรไม่ได้ฟังต่อ เพราะขาของเธอลอยขึ้นจากพื้น เมโลดี้จับเข้าที่ลำคอตน เพราะเหมือนมีมือที่มองไม่เห็นบีบเข้าไว้แล้วยกตัวเธอขึ้น หล่อนดิ้นสุดแรงแต่ก็มิอาจหลุดจากพันธนาการล่องหนได้ ลมหายใจขาดห้วง ปลายนิ้วเริ่มกระตุก ในที่สุดเมื่อมือของเธอที่จับต้นคอสิ้นเรี่ยวแรงก็ตกข้างลำตัว พร้อมกับมีเงาดำกระโจนออกจากพุ่มไม้
นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่เมโลดี้เห็น ก่อนสติจะดับวูบลง
?เมโลดี้จ๊ะ? เสียงอ่อนหวานดังทุ้มกระซิบข้างหู ?แม่รู้ว่าที่แม่ทำมันผิด ผิดมาตลอด แม่เลือกหนีจากทุกสิ่ง หนีมาไกลแสนไกล นานแสนนานเหลือเกิน เวลานี้อาจจะเร็วไปสำหรับการกลับไปที่นั่น แต่ก็ถึงคราวที่ต้องกลับไปแก้ไขมันแล้ว?
เสียงของมารดามีแววเศร้าหมอง ดวงตาสีรัตติกาลไม่ผิดจากบุตรสาวเต็มไปด้วยความขมขื่น
?แม่ขอร้องหนูนะจ๊ะ ครั้งเดียวในชีวิต กลับไปบ้านเกิดของเรา บอกกับพ่อเจ้า ..แม้เขาจะเหลือเพียงร่างที่ไร้วิญญาณก็ตาม บอกเขา..ว่าแม่รักเขามากที่สุด บอกเขาแทนแม่ที่ไม่สามารถไปได้ที บอกเขา..หัวใจของแม่เป็นของเขาเสมอ อย่าลืมนะ บ้านเกิดของพวกเรา..แก้วผลึก ไปที่นั่น หาพ่อของเจ้า ฮาเดส..?
เสียงเศร้าสร้อยที่คุ้นหูค่อยๆลอยหายไปไกล ร่างกายรู้สึกเหมือนโดนเขย่า น้ำเสียงร้อนรนเข้ามาแทนที่
?เมโลดี้! เมล..เมล ได้ยินข้าไหม? เมโลดี้!! ฟื้นสิ!?
เอเรียลเริ่มคลุ้มคลั่งเมื่อเห็นร่างบางทิ้งตัวลงไปกับพื้นต่อหน้าต่อตา ลำตัวลำแขนอ่อนปวกเปียก ลมหายใจอ่อนโรยริน และทำท่าจะคลั่งเอาจริงๆเมื่อเธอนอนสลบไม่ได้สติอยู่เป็นนาน เขาเขย่าปลุกร่างบางนั้น อุ้มไปนอนที่เตียง แต่เธอก็ไม่รู้สึกตัวเลย
?เอเรียล..? เสียงแหบข้างๆตัวทำให้เขาหันไปจ้องอย่างเอาเรื่อง ร่างนั้นลีบเล็กลงกว่าเดิม เงะงะวางดวงตะเกียงที่ทำให้เอเรียลนึกถึงมันขึ้นมาได้บนโต๊ะ ?ขอโทษ ข้าไม่รู้ว่าเป็นแขกของท่าน?
?ถ้านางเป็นอะไรไป ข้าเอาเจ้าตายแน่!? ชายหนุ่มขู่ข้ารับใช้ของตน
ร่างบางขยับช้าๆ ทำให้เอเรียลรีบให้ความสนใจทันที
?เมโลดี้? ได้ยินข้าไหม เจ้าเป็นไงบ้าง??
?อืม..? เด็กสาวส่งเสียงในลำคอ แล้วกุมขมับ ก่อนจะไอหลายครั้งติดกันเหมือนคนได้รับอากาศไม่เพียงพอ ต้นคอแดงเถือกราวถูกอะไรบางอย่างรัดแน่น เอเรียลพยายามรั้งให้นอนลง เพราะดูเหมือนหล่อนยังวิงเวียนอยู่ แต่เมื่อเขาแตะหัวไหล่มน มือเรียวบางก็ปัดออกทันควันราวต้องของร้อน
?อย่ามาแตะต้องข้า!!?
ชายหนุ่มชะงักทันที เสียงนั้นแข็งขืน ผิดปกติไป ร่างบางเคลื่อนตัวลงจากเตียง ถอยไปยืนห่างจากพวกเขาอย่างไม่เป็นมิตร
?เมโลดี้? เป็นอะไรไปหรือ? ข้าขอโทษแทนคลูคอนด้วย มันคอยดูแลกระท่อมนี้เวลาข้าไม่อยู่เท่านั้นเอง เจ้าไม่เป็นไรนะ? เขาปลอบพลางเอื้อมมือไปหา แต่เธอก็ดีดตัวออก พยายามอยู่ให้ห่างไกลที่สุด
?ข้าเป็นถึงมกุฎราชกุมารีแห่งภูผาหอม พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์แตะตัวข้า!? เสียงนั้นเกรี้ยวกราดผิดจากนางคนเดิมที่เขารู้จักเมื่อวาน ทำให้เอเรียลถอยห่างแล้วจ้องเข้าไปในดวงตาสีรัตติกาลคู่สวย
?เมโลดี้??
?ข้าไม่ใช่เมโลดี้!?
ชายหนุ่มมุ่นคิ้ว ให้ตายสิน่า ล้มหัวกระแทกหินหรือไงนะ! ถึงประสาทกลับแบบนี้
?ไม่ใช่เมโลดี้แล้วเจ้าเป็นใคร??
ร่างบางที่ยืนพิงผนังแย้มยิ้มในความมืด แววตาลุกวาวเรืองรองราวปีศาจร้าย
?ใครอีกคนที่เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้จัก?
?เมโลดี้เลิกเล่นได้แล้ว ข้า--?
ชายหนุ่มที่หาจังหวะเหมาะถลันเข้าไปต้องหยุดชะงัก เมื่อของมีคมเปล่งประกายจ่อมาทางเขา เด็กสาวอรชรชักกริชได้เร็วจนเขาไม่ทันเห็น ไม่ทันรู้ตัว ถ้าเป็นศัตรูด้วย..จะขนาดไหนกันนะ
?เจ้าไม่มีสิทธิ์แตะต้องร่างกายนี้ เวลาเจ้าของไม่รู้สึกตัว?
?ไม่รู้สึกตัว? แล้วนี่ข้ายืนคุยกับอะไรอยู่ วิญญาณหรือไง??
?น่านสิ? เจ้าหล่อนลากเสียงยียวนคล้ายจะยอมรับคำกล่าวหา ?คิดซะว่าเจ้าคุยกับวิญญาณไม่มีตัวตนก็ได้ แค่ขอยืมอาศัยร่างคนอื่น อย่างงี้เข้าใจง่ายไหม??
?เจ้าไม่ใช่เมล?? เอเรียลเริ่มคิดว่าเขาชักจะปวดหัวตุบๆเสียแล้ว ร่างเล็กข้างกายชายหนุ่มก็ยิ่งตามอะไรไม่ทันเข้าไปใหญ่
สงสัยนางจะบ้า คลูคอนเบะปากอันน่าเกลียดของมัน
?ไม่ใช่ และไม่มีทางจะใช่ด้วย? หล่อนตอบชัดถ้อยชัดคำ ?เมโลดี้ก็คือเมโลดี้ ข้าก็คือข้า?
?เจ้า.. เอ่อ..? เอาวะ..ตามน้ำก็ตามน้ำ ?จะให้ข้าเรียกเจ้าว่าอะไรดี.. เจ้ามีชื่อหรือเปล่า??
?ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจำเป็นต้องรู้เลย เอาเป็นว่า..เรื่องนี้เป็นความลับ? เจ้าหล่อนสรุปง่ายรวบรัดตัดตอนจนชายหนุ่มมึนหัว
?ถ้าข้าบอกนาง??
?ข้าก็จะพาร่างนี้หายไปโดยเจ้าไม่มีวันตามเจอ? หล่อนยิ้มอย่างเป็นต่อ
เอเรียลลงไปนั่งกุมขมับกับพื้นพยายามจะตามเรื่องราวให้ทัน คลูคอนมองชายหนุ่มสลับกับเด็กสาวแล้วตัดสินใจถอยหลังไปอีกสองก้าวไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวใดใดทั้งสิ้น
?จะให้ข้าเชื่อได้ยังไง?? เขาถามในขณะที่เธอไล้ต่างหูเล่น แต่ในใจลึกๆก็เริ่มโอนเอียง เพราะลักษณะกิริยาของทั้งคู่มีบางส่วนต่างกัน แม้จะเป็นร่างเดียวกันก็ตาม วิธีกรีดกรายนิ้วของคนตรงหน้าดูมีจริตแล้วก็หยิ่งยะโสอย่างเจ้าหญิงสูงศักดิ์ ผิดกับเมโลดี้เป็นคนละคน เมลจะทำอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ไว้ท่ามากนัก
ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าหญิงกันแน่
?ข้าไม่ได้พูดเพื่อให้เจ้าเชื่อ แต่ข้า ?สั่ง? ไม่ให้เจ้าพูด? แม้แต่การยักไหล่ก็วางท่างามสง่าอย่างนางพญา ?ข้าจะออกมาได้ก็ต่อเมื่อเมโลดี้หลับสนิทจริงๆ หรือหมดสติอย่าง..เมื่อครู่? ดวงตารัตติกาลวับวาวหันไปจ้องร่างเล็กที่ยืนห่างออกไป มือเรียวจับกริชตวัดหมุนกระชับแน่นให้ถนัดมือ ?เจ้าทำร้ายเมโลดี้!?
เอเรียลรีบลุกไปกั้นเด็กสาวไว้ ก่อนหล่อนจะแล่นถึงตัวคนรับใช้ เขาไม่ได้กลัวหล่อนทำอันตรายสัตว์ประหลาดร่างเล็กของเขาได้ แต่กลัวมันทำร้ายหล่อนเพราะป้องกันตัวต่างหาก คลูคอนเป็นเอลฬ์ ถึงจะเป็นเอลฬ์ชั้นต่ำ แต่ก็ใช้เวทมนต์บางชนิดได้ ไม่ต้องถึงตัวแค่อยู่ในรัศมีก็ฆ่าคนได้อย่างสบาย
?เขาไม่ได้ตั้งใจ คลูคอนแค่ดูแลบ้านนี้แทนข้า เมโลดี้ก็ไม่เป็นไรแล้วไม่ใช่หรือ อย่าหาเรื่องหน่อยเลยน่า?
?บอกเด็กของเจ้าให้ระวังตัว ถ้ามันกล้าทำร้ายเมโลดี้แม้แต่ปลายเล็บ ข้าเอามันตายแน่!? เสียงนั้นขู่อาฆาต ดวงตาอย่างเสือร้ายจ้องเหยื่อ ชายหนุ่มกลอกตาแทบหมดความอดทน
ถ้าเขาคิดจะจีบเด็กสาวแสนสวยและอ่อนหวานนามเมโลดี้ผู้นี้ อย่าบอกว่าเขาต้องผ่านด่านวิญญาณร้ายตนนี้ซะก่อนล่ะ
ห้ามบอกเด็ดขาดนะ
?คลูคอนรู้แล้วล่ะน่า มันไม่ยุ่งกับเมโลดี้อีกหรอก เรามีเรื่องต้องคุยกัน ..ที่เจ้าบอกว่าจะออกมาเมื่อเวลาเมโลดี้หมดสติ เมื่อวานตอนกลางวันที่เจอชิคิ..สัตว์ประหลาดตัวสีน้ำตาลน่ะ ทำไมถึงไม่ออกมา พาร่างที่เจ้าสิงอยู่นี้ไปไกลๆจากอันตรายล่ะ?
?ง่ายนิดเดียว เมโลดี้ตกใจจนหมดสติ ร่างแข็งทื่อชั่วขณะ ข้าเลยเคลื่อนไหวไม่ได้ แต่ถ้ารอสักระยะหนึ่ง ก็คงขยับได้ --อย่างน้อยก็ก่อนที่เขี้ยวของมันจะขบหัวเมโลดี้ล่ะน่า?
เธอผู้นั้นเสริมต่อเมื่อสีหน้าของเอเรียล ราวจะบอกว่ากว่าเธอขยับได้ เมโลดี้ก็ร่างแหลกเหลวไปซะแล้ว
?คิดว่าข้ามีอิสระใช้ร่างนางได้ง่ายๆหรือไงล่ะ ขนาดเมื่อกี้ที่ไอ้เตี้ยนั่นทำร้ายเมโลดี้ ข้ายังออกมาช่วยทันทีไม่ได้เลยจนกว่านางจะหมดสติ..ต้องลึกๆด้วยนะ ถ้าสลบธรรมดาก็หมดโอกาสเหมือนกัน?
?เดี๋ยวๆ งั้นเมื่อวาน..เจ้าก็ต้องได้ยิน--? ความคิดเขายังอยู่ที่เรื่องเมื่อวาน
?อ๋อ แน่ล่ะ ฝ่าบาท.. ยศสูงซะด้วย ราชาแห่งปีศาจหรือไงจ๊ะ? เจ้าหล่อนทำเสียงล้อเลียนเพราะได้ยินทุกอย่าง เสียแต่ยังขยับตัวไม่ได้เท่านั้น เมื่อพอเริ่มที่จะขยับได้ ก็ไม่มีอันตรายอะไรให้ต้องจัดการ จึงปล่อยเลยตามเลย รอให้เมโลดี้ฟื้นขึ้นมาเอง ไม่มีเหตุผลที่ต้องแสดงตัวในตอนนั้น ?ข้าได้ยินทั้งหมดนั่นแหละ?
?ยะ..อย่าบอกเมโลดี้นะ!? ชายหนุ่มทั้งกลัว ทั้งโมโห แสดงว่าเจ้าหล่อนรู้หมดทุกเรื่อง แต่แกล้งไม่ขยับเขยื้อนอยู่อย่างนั้นให้เขาต้องดูแลร่างที่หล่อนสิงสู่เองเอง ร้ายนัก!
?อืม..ขอคิดดูก่อน? เด็กสาวยืดตัวขึ้นทันทีเมื่อรู้สึกผิดปกติ มือเรียวบางยกปิดปากคนที่กำลังจะพูดอะไรต่อ ?ไม่ทันแล้ว เมโลดี้กำลังจะตื่น ไม่ต้องห่วง ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ข้าจะไม่ออกมาเด็ดขาด มันต้องใช้แรงมาก บอกแล้ว..ไม่ใช่เรื่องง่าย?
ร่างบางทิ้งตัวลงทันใด เร็วจนเอเรียลแทบรับไม่ทัน ร่างปวกเปียกอยู่ในวงแขนของเขา ใกล้จนได้กลิ่นหอมประหลาด สักพักมืออ่อนขยับจับต้นไหล่ของเขาไว้แน่น ใบหน้านวลเงยขึ้นพลางกระพริบตาถี่ รอยยิ้มบางผุดเหมือนคนเหนื่อยอ่อน
?เอเรียล? ท่านช่วยเราอีกแล้วหรือ??
ชายหนุ่มพยุงหญิงสาวให้นั่งบนเตียง ใช้ปลายแขนเสื้อซับเหงื่อให้
?เจ้า? เมโลดี้??
เธอเงยหน้า มองตาเขาแปลกๆ คงเพราะคิดว่าเขาถามอะไรบ้าๆก็ได้
?ไม่ใช่ข้าแล้วจะเป็นใครคะ??
เจ้ามีสองบุคลิก!! ชายหนุ่มอยากตะโกนออกไป แต่ก็เพียงยิ้มให้
?เปล่าไม่มีอะไรหรอก หิวหรือยัง ฟ้าใกล้สางแล้ว หรืออยากนอนต่อ? เด็กสาวตากลมโตส่ายหน้า จับแขนเขาไว้แน่น เอเรียลสังเกตแล้วมองตามสายตาคู่สวย ?อ๋อ..นั่น คลูคอน เขาเป็นเอลฬ์น่ะ คอยรับใช้ข้าอยู่ ขอโทษนะ เขาไม่รู้ว่าข้าให้เจ้าพักที่นี่ ไม่เป็นไรแล้ว เขาไม่ทำอะไรเจ้าหรอก สบายใจได้?
เธอพยักหน้าช้าๆ ชายหนุ่มลูบศีรษะของร่างที่เริ่มหายตื่นตระหนก สร้างความขัดตาให้บ่าวรับใช้อย่างมาก
?เอเรียล.. ท่านเป็นอะไรน่ะ? ปกติแล้วเจ้าร่างเล็กอยากใช้สรรพนามว่า พระองค์ นัก แต่ด้วยความที่เวลาอยู่นอกวัง ชายหนุ่มไม่ชอบให้ใครมาเรียกเช่นนั้น บ่าวรับใช้จึงต้องพลอยปกปิดความจริงไปด้วย ทั้งๆที่อยากแสดงให้รู้ไปเลยว่าฐานะต่างกันลิบลับ นางไม่ควรคู่กับฝ่าบาทของมันเลยสักนิด ?นะ..นางเป็นแม่มดนะ ท่านดูผม ดูสีตานางสิ!! แม่มดชัดๆ?
?คลูคอน!? ชายหนุ่มร่างผอมสูงหันไปเอะบ่าวรับใช้ ?นางเป็นมนุษย์ ก็แค่เกิดมาผิดปกติเหมือนคนในหมู่บ้านแม่มดที่แก้วผลึกนั่นแหละ ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวเลย?
สัตว์ร่างเล็กน่าเกลียดเป่าปากอย่างไม่เห็นด้วย แต่ก็ขัดผู้เป็นเจ้านายไม่ได้ มันส่งสายตาไม่เป็นมิตรให้เด็กสาวเมื่อยามนายเผลอ ดูเจ้าหล่อนสิ เกาะเจ้านายเขาแน่นไม่ปล่อย จริตนัก เมื่อครู่ยังขู่อาฆาตจะเป็นจะตายถ้าถูกตัวนิดถูกตัวหน่อยอยู่เลย
วางท่าเหมือนพญาหงส์
อีกาล่ะสิไม่ว่า!