ตามอ่านได้ที่ http://my.dek-d.com/Sixth/story/view.php?id=289941
ปฐมบท: จุดเริ่มต้นใต้แสงจันทร์
สายลมแผ่วเบา ?ทำไมถึงมาหยุดยืนอยู่ที่นี่ ??
?ที่นี่ คือที่ไหนกัน?
นั้นเป็นคำถามที่เกิดขึ้นภายในใจของผม ขณะที่ผมรู้สึกงุนงง
และสับสนกับบรรยากาศที่ไร้ซึ่งผู้คน มองไปทางไหนก็เห็นแต่ทุ่งหญ้าเขียวขจี
ขาของผมก็เริ่มออกวิ่งไปเองเหมือนมีคนผูกเชือกไว้ที่ขาและชักจูงผมไปทั้งอย่างนั้น
ทั้งๆที่ผมเองก็ไม่รู้ถึงจุดมุ่งหมายที่จะไป
เมื่อมาถึงที่ๆซึ่งจะเรียกได้ว่าเป็นเนินเขาเล็กๆก็ว่าได้
ขาของผมก็หยุดนิ่งอยู่กับที่โดยอัตโนมัติเหมือนกับมันได้พบกับจุดมุ่งหมายแล้วงั้นแหละ
ผมแหงนหน้าขึ้นไปมองบนยอดเนิน ที่นั่นมีต้นไม้ใหญ่ยืนต้นอยู่เดียวดาย
ออกดอกสีชมพูระเรื่ออยู่เต็มต้น
สายลมได้พัดแรงยิ่งขึ้น และนั้นเองที่ผมได้พบกับเธอ
สาวน้อยที่มีผมดำสลวยแต่กลับแฝงไว้ด้วยความเศร้าสร้อย
?ไม่รู้ทำไม? ตอนนี้ผมถึงรู้สึกคุ้นเคยกับเธอเหลือเกิน?
ผมพยายามเดินเข้าไปหาเธอ สายลมยิ่งพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ
ในระยะที่ห่างกันเพียงเมตรเดียวเท่านั้น เธอก็ได้พูดอะไรบางอย่างกับผม
แต่ผมกลับไม่ได้ยินเสียงของเธอ
เหมือนดั่งว่า สายลมได้พัดพาเอาคำพูดของเธอลอยหายขึ้นไปบนท้องฟ้าสีครามนั้น
ถึงจะอยู่ใกล้กันถึงขนาดนั้นแต่ผมกลับจำใบหน้าของเธอไม่ได้เลย
ตื่นโว้ย!!! ?ฮึ่ย อะไรฟะ เกิดอะไรขึ้น?
โครม
?โอ๊ย? ?อู๊ย ทำไมตูถึงตกเตียงได้อ่ะ?
?หึๆ สมน้ำหน้า นอนกินบ้านกินเมืองอยู่ได้ นี่เค้าเรียกสวรรค์ลงโทษเฟ้ย?
เรนที่พยุงตัวขึ้นมาได้แล้วก็หันขวับไปมองหน้าเจ้าของต้นเสียงทันทีด้วยความเคือง
ที่แท้ก็นึกว่าใคร ฮาตู นี่เอง
?หน็อย เจ้าเด็กละอ่อน ปากมาก ยุ่งไม่เข้าเรื่อง ไอ้เด็กหัวเกาลัด?
เรนพูดพลางก็ไล่ถีบฮาตูพลางอย่างหมั่นไส้
?โอ๊ยๆ พอทีๆ ขอเหอะพี่? ฮาตูรีบขอร้องทันทีด้วยความเจ็บ
?อะไรนะ ขออีกที ขออีกทีหรอ เดี๋ยวจัดให้ ? เรนยิ้มเยาะแล้วแล้วกระหน่ำซ้ำ
ฮาตูรีบหาข้ออ้างทันที
?ฮึ้ย เดี๋ยวก็เข้าเวรสายหรอก เรารึอุตส่าห์ปลุก เพราะหวังดีหรอกนะ พี่เรน?
ใช่แล้ว ชื่อของเค้าก็คือ ?เรน? แปลว่า ฝน เพราะตอนที่เรนเกิดมีฝนตกพอดี หนุ่มน้อยหน้าตาดี ผมทอง ตาสีเขียว อายุ 18 สูง 186 หนัก 75 อาหารโปรดคือ ลาซานย่า
?เพราะวันนี้มีเข้าเวรตอนเช้าหรอกนะ ถึงยอมยกโทษให้? เรนบ่นอย่างเสียไม่ได้
?อะไรเล่า ทั้งๆที่ถีบผมไปแล้วหลายทีเนี่ยนะ แถมยังยืนเก๊กโม้ถึงความหล่อของตัวเองอยู่ได้ คอยดูนะ ผมจะฟ้องพี่ริกะ แบร้?
ฮาตูพูดพลางแลบลิ้นปลิ้นตาไปพลางสมตามนิสัยของเด็กหนุ่มอายุ 15 ย่าง 16
?อ่ะ? ฮาตูเหงื่อแตกใหญ่เลย เขารู้สึกถึงไอสังหารมาจากข้างหลัง ทำให้เสียวสันหลังวาบเลยทีเดียว
?อยากตายรึไง เจ้าหนู? เรนพูดพลางขยี้หัวฮาตูอย่างเอ็นดู(จริงๆนะ)
มาพูดถึงงานตอนเช้าของเรนกัน ที่พูดว่า เข้าเวรน่ะ หมายถึง เป็นยาม หา! ไม่ใช่ๆ เรนเป็นทหารผู้ต่ำต้อยของหน่วยสหพันธรัฐแห่งวินดั้มซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อป้องกัน และยับยั้งสงครามระหว่างชนเผ่า มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองแห่งศูนย์กลาง ?เอนญ่า? และที่ๆเรนอยู่ในขณะนี้ก็คือหมู่บ้าน Rock Village เป็นหมู่บ้านเล็กๆติดชายแดนภูเขา Black Mountain เส้นแบ่งเขตชนเผ่าต่างๆกับชนเผ่าแห่งความมืดทางทิศเหนือ เนื่องด้วยความบาดหมางจนเกิดเป็นสงครามในอดีตเมื่อพันปีก่อน จึงเรียกว่า ?ศึกสงครามพันปี?
หากพูดถึงเผ่าต่างๆที่มีอยู่แล้วนั้น จะนับรวมได้ทั้งหมด 7 เผ่า ด้วยกัน คือ
1. เผ่าราชันย์ ? ปกครองเหล่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป
2. เผ่าสายฟ้า ? เป็นเผ่าที่สามารถเรียกใช้เวทย์สายฟ้าได้อย่างใจนึก พลังนั้นมีติดตัวมา ตั้งแต่กำเนิด
3. เผ่าแสงสว่าง ? ถือว่าเป็นเผ่าแห่งนักรบและนักเวทย์ที่ใหญ่ที่สุด
4. เผ่าแสงจันทร์ ? เป็นเผ่าที่มีความสัมพันธ์เครือญาติกับเผ่าแสงสว่างมาตั้งแต่อดีตกาล ส่วนเรื่องอื่นยังให้อธิบายคำจำกัดความไม่ได้ เพราะถือเป็นเผ่าที่ปิดกั้นตนเอง ปิดตัวเองจากโลกภายนอก ไม่ยอมสัมพันธ์กับเผ่าอื่นนอกจากเผ่าแสงสว่าง
5. เผ่าปักษา ? เป็นเผ่าที่ปิดกั้นตัวเองเช่นเดียวกันกับเผ่าแสงจันทร์ รู้เพียงว่าคนเผ่านี้จะมีลักษณะพิเศษอยู่ที่มีตาสีเหลืองส้ม และมีปีกเหมือนนก
6. เผ่ามัจฉา ? เป็นเผ่าที่อาศัยอยู่ในเมืองบาดาลใต้น้ำ และเป็นอริกันกับเผ่าปักษา และ
7. เผ่าแห่งความมืด ? หลังศึกสงครามพันปี ชาวเผ่าแห่งความมืดได้เก็บตัวเงียบ ว่ากันว่าพวกเขารอวันเวลาที่จะได้ล้างแค้นกับเผ่าอื่นๆ โดยเฉพาะเผ่าราชันย์ แต่ก็มีเหตุการณ์สัตว์ปีศาจออกอาละวาดทำร้ายผู้คนอยู่เสมอ หรือแม้กระทั่งการก่อเหตุจลาจลของคนจากเผ่าแห่งความมืดก็ดี เส้นทางที่ผ่านเข้าสู่เผ่าแห่งความมืดต้องผ่านทะเลทราย Black Sand เสียก่อน
ถึงเวลาที่เรนจะได้เปลี่ยนกะตอนเที่ยงตรงซึ่งเป็นไปตามตารางเวรพอดี หลังจากที่ผลัดเปลี่ยนเวรให้ทหารอีกนายหนึ่งแล้ว เขาก็ตรงไปที่ย่านร้านค้าของหมู่บ้านทันที เฉพาะแถบนั้นที่มีของกินอร่อยๆและมีหลากหลายให้เลือกตามต้องการ
ณ ย่านร้านค้าในหมู่บ้าน Rock Village ที่ร้าน Cat Eye?s ซึ่งเป็นร้านคาเฟ่เล็กๆ ร้านหนึ่ง ภายในร้านทาสีด้วยสีขาว เคาน์เตอร์หน้าร้านตกแต่งเป็นบาร์เครื่องดื่ม และมีการจัดเรียงโต๊ะอย่างเป็นระเบียบอยู่ทั้งหมด 6 โต๊ะ มีดอกไม้สีเหลืองเล็กๆจัดเรียงอยู่ในแจกันสีขาวขนาดพอเหมาะกับดอกไม้ วางอยู่บนผ้าปูโต๊ะลายสก็อตสีฟ้าซึ่งปูทับบนโต๊ะไม้สีน้ำตาลอ่อนทุกโต๊ะอีกทีนึง
มีเจ้าของร้านชื่อ ?เฮียวโด? อาเฮียเฮียวโดเป็นชายอายุประมาณ 45 สูง 165 หุ่นค่อนข้างอวบลงพุง มีผมและตาเป็นสีน้ำตาลเข้ม เสียงของเขาฟังดูห้าวๆ นิสัยใจคอ ถือว่าเป็นคนดีกับเขาคนหนึ่งเลยทีเดียว เขาเป็นคนรักสัตว์ งานอดิเรกคือ เล่นหมากรุก เขาชอบเล่นกับผู้พันฟิว เจ้านายของเรนเป็นประจำยามว่างจากงาน หากว่าคุยถูกคอกับใครแล้วจะชอบเลี้ยงข้าวเค้าฟรีๆ (ซึ่งเรนก็พยายามอยู่) นอกจากจะมีอาเฮียเฮียวโดคอยทำกับข้าวแล้ว
ในร้านยังมีเด็กเสิร์ฟอยู่อีกสองคน ทั้งสองคนนั้นเป็นผู้หญิงด้วยกันทั้งคู่ คนแรกพี่อากาเนะ อายุ 23 ปี สาวผมสั้นสีน้ำตาลอ่อน สูงแค่ 152 ซ.ม. เห็นจะได้ มีหน้าที่ประจำตรงบาร์เครื่องดื่ม และคอยช่วยเก็บตังค์ลูกค้า
คนที่สองคือสาวน้อยผมยาวสีดำถึงกลางหลังมัดแกละสองข้าง ผมข้างหน้าเสกเป็นหน้าม้าด้านขวา ตาสีฟ้าอมน้ำเงินเข้ม อายุ 18 สูง 177 ซ.ม. (ต่างจากพี่อากาเนะลิบลับเลย) ชื่อของเธอคือ ?ริกะ? ใช่แล้วล่ะ เธอคนนี้แหละที่เรนตามจีบ หน้าที่ของริกะจังคือ คอยรับออเดอร์จากลูกค้า พูดง่ายๆก็คือเด็กเสิร์ฟนั่นเอง
?เฮ้ ริกะจัง ขอคาปูชิโน่เพิ่มอีกแก้วหน่อยสิ?
เสียงของลูกค้าชายวัยกลางคนคนหนึ่งดังมาจากโต๊ะสาม
?อ่าคะ ได้แล้วคะคาปูชิโน่หนึ่งที่นะคะ ? ริกะจังขานรับอย่างขยันขันแข็ง
?แหม่ ริกะจังยังน่ารักอยู่เหมือนเดิมเลยนะ ขยันขันแข็งดีจริงๆ? ลูกค้าคนเดิมกล่าวชม
?ขอบคุณมากคะ ช่วงนี้ก็ยังทำงานเก็บเงินเหมือนเดิมแหละคะ? ริกะยิ้มไปตอบไป
เธอเดินตรงเข้ามาหาเรนที่ยืนอยู่หน้าร้าน ช่วงที่เรนกำลังเหม่อนั่นเอง
?โอ๊ย? เรนถูกดึงหูเข้าอย่างแรงทีนึง
?อย่ายืนขวางทางหน้าร้านสิ? เสียงของริกะจังเป็นเชิงตำหนิ
?อ่ะ ขอโทษๆ? เรนรีบขอโทษทันทีที่ได้สติกลับมา
?โต๊ะหกยังว่างอยู่คะ วันนี้จะรับอะไรดีคะ?
เธอพูดไปยิ้มไป รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความสดใสดั่งดอกไม้แรกแย้ม
?เอาสเต็กไก่ชุดใหญ่ ลาซานญ่า กับชุดสลัดผักรวมมิตรจัมโบ้ อ่อแล้วก็น้ำเปล่า 1 เหยือกครับพ้ม?
ไม่ทันขาดคำเรนก็กระหน่ำสั่งอาหารชุดใหญ่ทันที
?จ้าๆ รอแป๊บนึงนะคะ? ริกะจังยิ้มตอบกลับมา
ดูเหมือนว่าแค่ได้เห็นหน้าริกะจัง ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานของเรนก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง
หลังจากที่เรนฟาดอาหารที่อยู่ตรงหน้าซะเกลี้ยงแล้วก็หันไปเรียกริกะจังให้มาเก็บตังค์ พร้อมกับทวงคำสัญญา
?อะแฮ่ม รู้มั้ยว่าพรุ่งนี้วันอะไร?
ริกะจังหันมาจ้องเรนด้วยความตกใจเล็กน้อย แล้วทำหน้านิ่งลงอย่างรวดเร็ว
?ก้อ วันที่ 14 กุมภา น่ะสิ? น้ำเสียงของริกะฟังดูราบเรียบ เหมือนกับจะทำว่าเป็นเรื่องปกติ
?อย่าลืมล่ะ?
เรนยิ้มไปด้วยพูดไปด้วยอย่างอารมณ์ดีเหมือนเด็กเล็กๆที่รอทานขนมหวานในช่วงวันพิเศษต่างๆ ยังไงยังงั้น
แต่ในเวลานั้นริกะจังคงคิดว่าเรนกวนตีนเธออยู่
?ของเรนคุงน่ะไม่มีหรอก ยังไงก็คงได้จากสาวๆในหมู่บ้านนี้กันเพียบอยู่แล้วแหละ?
คำพูดนั้นทำให้เรนห่อเหี่ยวลงทันที แต่ไม่แน่ ริกะจังอาจจะเปลี่ยนใจทำให้เรนซักชิ้นก็ได้ (หวังว่านะ)
ในตอนเย็นหลังจากเลิกงานแล้วซักประมาณ 6 โมงเย็นได้ ขณะที่เรนเดินเลียบแม่น้ำเพื่อกลับไปยังหอที่พัก สายตาของเรนได้เหลือบไปเห็นเงาของคนๆหนึ่งนั่งอยู่ที่ริมแม่น้ำ เงาที่คุ้นเคยนั้นจะใครซะอีก ริกะจังนั้นเอง เธอนั่งหันหลังกอดเข่าอยู่คนเดียว ข้างๆตัวเธอมีถุงผ้าเล็กๆสีฟ้าวางอยู่ ไม่รู้ว่าทำไมเรนถึงรู้สึกว่าแผ่นหลังของริกะจังดูเศร้าเหลือเกิน เรนตัดสินใจที่จะเข้าไปหาริกะ เค้าจึงค่อยๆย่องเข้าไปใกล้ แต่กลับเหยียบใบไม้แห้งตรงแถวนั้นซะอีก
?แกร๊บ?
ริกะหันมามองทันทีด้วยความตกใจ น้ำตาไหลอาบแก้มเธออยู่
เธอรีบปาดน้ำตาออกทันที แล้วฝืนยิ้มพูดต่อว่า
?แค่ผงเข้าตาน่ะ?
นั้นไม่ใช่ฝุ่นผงเข้าตาหรอก เธอคงแอบมานั่งร้องไห้อยู่ที่นี่คนเดียวแน่ๆ
?มีอะไรก็บอกได้นะ ผมยินดีที่จะช่วยเสมอ หากว่านั้นเป็นสิ่งที่สามารถทำได้?
เรนพยายามพูดปลอบใจ เพราะเขาชอบเวลาที่ริกะยิ้มมากที่สุด
?ขอบใจนะ ฉันแค่คิดถึงเพื่อนเก่าน่ะ พรุ่งนี้เป็นวันครบรอบวันตายของเค้า?
ริกะยิ้มตอบกลับมาอย่างเคย
?เสียใจด้วยนะ? เรนตอบกลับไปด้วยความเศร้าเช่นกัน
หลังจากนั้นก็ไม่มีการสนทนาตอบโต้อะไรกันอีกเลยผ่านไปซัก 5 นาที เห็นจะได้
?อ่อ เกือบลืม รับนี่ไปสิ? ดูเหมือนริกะจังจะนึกอะไรขึ้นมาได้
เธอหยิบถุงผ้าสีฟ้ายัดใส่ในมือของเรน ข้างในมีกล่องห่อด้วยกระดาษสีชมพู
ติดโบเล็กๆสีแดงเหมือนกับสีแก้มของเธอในขณะนี้
?แทนคำขอบคุณที่ช่วยปลอบเมื่อกี้ สุขสันต์วันวาเลนไทน์
ที่จริงก็กะจะให้วันพรุ่งนี้ แต่กลัวว่าจะทำงานจนยุ่งแล้วลืมให้?
สงสัยเธอจะเหลือบมาเห็นสีหน้าของเรนที่ยิ้มดีใจจนออกนอกหน้า เลยพูดกลับแบบเขินๆว่า
?แค่เป็นพิธีการเท่านั้นเองยะ แถมนี่ยังเป็นช็อคโกแลตที่ทดลองทำเองครั้งแรกด้วย?
?อ่ะ อืม ขอบคุณนะ แค่นี้ก็ดีใจแล้วล่ะ แกะห่อออกดูเลยนะ?
?เอ๋ จะเปิดดูตรงนี้เลยหรอ?
ริกะพูดด้วยความตกใจ เธอกลัวว่าช็อคโกแลตที่เธอทำเองนั้นจะถูกวิจารณ์
เรนหยิบกล่องนั้นมาแกะห่อออกดูทันที ข้างในนั้นเป็นช็อคโกแลตแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้าธรรมดา แล้วก็บิออกมาเป็นชิ้นเล็กๆพอดีคำ หยิบใส่เข้าปาก วินาทีแรกที่ช็อคโกแลตชิ้นนั้นได้เข้าปากของเรน เค้ารู้ได้ทันทีว่านรกนั้นมีจริงครับท่าน บอกไม่ถูกจริงๆว่าเป็นรสชาติแบบใดกันแน่ เริ่มแรกก็เค็มปี๊ด เคี้ยวไปอีกหน่อยก็รู้สึกถึงความขมของช็อคโกแลตที่ถูกเคี่ยวจนไหม้ โอ้ไม่รู้เรนทนเคี้ยวไอ้ช็อคโกแลตเมื่อกี้ได้ไงตั้งนาน
ริกะจังยิ้มแหยๆแล้วถามเรนว่า ?อร่อยมั้ย?
ตาของเธอดูมีประกายแห่งความหวัง แล้วเรนจะทำลายความรู้สีกนั้นลงได้อย่างไร?
?อืม อร่อย อร่อยมากๆเลย? เรนยิ้มทั้งน้ำตาตอบกลับไป
?ดีใจจัง งั้นทานให้หมดเลยนะ? ริกะคะยั้นคะยอให้เรนทานอีก
หา!!!
เธอล้อเขาเล่นแน่ๆเลย เรนไม่มีทางทานไอ้สิ่งนั้นอีกเป็นครั้งที่สองได้หรอก ไม่ถึงสามวินาทีความตั้งใจอันแน่วแน่ของเรนก็ได้พังทลายลงเมื่อสายตาของเค้าไปจับจ้องแววตาที่อ้อนวอนเหมือนสุนัขพันธุ์ชิวาวาของริกะจังเข้า
?อะเอาล่ะจะทานให้หมดในคำเดียวละนะ?
เอาวะเป็นไงเป็นกัน พูดจบเรนก็หยิบช็อคโกแลตที่เหลือยัดใส่เข้าไปเต็มปาก
เรนรู้สึกมึนงง ไม่รู้เดินกลับมายังห้องพักได้อย่างไร
เขารู้แต่ว่า
ลิ้นมันชา ไร้ความรู้สึกไปหมดแล้วโว้ย!
และก็หมดแรงนอนสลบไปอีกสองชั่วโมงเลยทีเดียว
ในช่วงเวลาทุ่มหนึ่งนั่นเองได้มีการนัดรวมพลของเหล่าทหารที่ประจำการในหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งเป็นการเรียกชุมนุมกันอย่างลับๆ
ผู้พันฟิวได้ยืนขึ้นประกาศคำสั่งลับภายในค่ายบัญชาการนั่นเอง
?มีคำสั่งลับจากศูนย์บัญชาการใหญ่เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
ให้ทหารทุกคนเก็บสัมภาระย้ายฐานกลับไปยังเมืองหลวงทันที
ยกเลิกภารกิจป้องกันเขตชายแดนแห่งนี้
ทั้งนี้ไม่ต้องสงสัยและซักถามใดๆทั้งสิ้น ให้เก็บข้าวของๆตนเองแล้วมารวมพลกันที่
ทางลี้ภัยหมายเลขที่ 13 ภายในเวลา 20 นาฬิกา ย้ำทางลี้ภัยหมายเลขที่ 13 ภายในเวลา 20 นาฬิกา
จะไม่มีการรอใดๆทั้งสิ้น ทหารทุกคนรับทราบ?
?ทราบ? เสียงทหารทุกคนขานรับ
?ดีงั้นทหารทุกคนแยกย้ายกันไปได้? ผู้พันฟิวออกคำสั่งอีกครั้ง
ขณะที่มีการประกาศคำสั่งลับกันอยู่นั้น เฮียวโดก็ได้รับทราบข้อมูลนั้นโดยบังเอิญ เหตุเพราะเค้าตั้งใจจะชวนผู้พันฟิวเล่นหมากรุกอย่างเคย และเมื่อทหารทุกคนแยกย้ายกันออกไปแล้ว เหลือเพียงก็แต่ผู้พันฟิว เฮียวโดได้เข้าไปหาผู้พันฟิวเพียงลำพัง
?สหพันธรัฐแห่งวินดั้มคิดอะไรอยู่กันแน่ ทำไมถึงจะละทิ้งฐานป้องกันแถบชายแดนแห่งนี้?
เฮียวโดเอ่ยถามผู้พันฟิวอย่างคับข้องใจ
ผู้พันฟิวนิ่งเงียบไม่ตอบอะไรกลับมา
?ปัง? เสียงของลูกกระสุนนั้นได้เจาะทะลุเข้าไปในขาข้างขวาของเฮียวโด
?อั่ก? บาดแผลที่ได้รับทำให้เขาทรุดลงนั่งกับพื้นทันที
?คิดจะทำอะไรกันแน่?
เฮียวโดกัดฟันพูดด้วยความเจ็บปวดที่แผลและความโกรธต่อผู้พันฟิว
?เรื่องนั้นชาวบ้านธรรมดาไม่จำเป็นต้องรู้หรอก? ผู้พันฟิวแสยะยิ้มอย่างดูถูก
?ฮึ จะบอกให้เรื่องหนึ่งก็ได้ หมู่บ้านนี้นะ
ได้ถูกเลือกให้เป็นแหล่งอาหารและที่เพาะพันธุ์เหล่ากองทัพปีศาจไปแล้วนะสิ?
!!!
ระหว่างที่เฮียวโดกำลังตลึงกับคำพูดนั้น ผู้พันฟิวก็เข้ามาต่อยท้องของเขาเข้าอย่างจังจนเขาสลบไปในทันที และเดินจากไปอย่างเงียบๆ จนเวลาได้ล่วงเลย 2 ทุ่มไปแล้ว ทหารทุกคนก็ได้ละทิ้งฐานป้องกันและชาวบ้านไปกันหมดอย่างเงียบเชียบตามภารกิจลับที่ได้รับมอบหมายมา
เรนซึ่งตื่นขึ้นมาด้วยการปลุกของฮาตู เด็กหนุ่มผู้ซึ่งเป็นทหารในสังกัดสหพันธรัฐวินดั้มเหมือนกัน แต่น่าแปลกที่เค้าไม่ได้หนีไปด้วยดังเช่นที่ทหารคนอื่นๆทำกัน ถือเป็นส่วนน้อยของทหารทั้งหมดซึ่งยังรักและยึดหมั่นในบ้านเกิดนั่นเอง
?พี่เรนตื่นเถอะ รีบหนีออกไปจากที่นี่กัน พาพวกชาวบ้านหนีไปด้วย?
ฮาตูพูดอย่างตื่นตระหนก และกระวนกระวายใจ
หา! ?จู่ๆนายก็พูดอะไรออกมาเนี่ย? เรนตอบกลับไปด้วยความงัวเงีย
?เชื่อเถอะน่า ทหารของสหพันธรัฐละทิ้งฐานกลับเมืองหลวงกันไปหมดแล้ว
พวกเขาละทิ้งชาวบ้าน เป็นคำสั่งของศูนย์บัญชาการใหญ่ ยังไงเรื่องนี้ก็ไม่ชอบมาพากลแหงๆ?
?ตู้ม?
ยังไม่ทันสิ้นเสียงเตือนของฮาตูการบุกรุกของแขกผู้ไม่หวังดีก็ปรากฏขึ้น มันเป็นเสียงระเบิดของป้อมปราการ ซึ่งทำให้เสียงหวอเตือนภัยดังขึ้นไม่หยุดตามมา และมาพร้อมกับปีศาจฝูงใหญ่ซัก 30 ตัวเห็นจะได้ จากเสียงระเบิดของป้อมปราการก็ดีหรือจะเป็นเสียงหวอเตือนภัยก็ดี เสียงนั้นทำให้เรนตื่นเต็มตาและรีบออกไปจากห้องพักนี้พร้อมกับฮาตูทันที
ณ ย่านชุมชนร้านค้า เกิดเหตุจราจลวุ่นวายเนื่องด้วยทุกคนกำลังตกใจและหวาดกลัวกับการมาเยือนของแขกผู้ไม่ได้รับเชิญในครั้งนี้มาก เป็นครั้งแรกที่ทหารละทิ้งชาวบ้านจึงทำให้ทุกคนเสียขวัญกำลังใจ เพราะ ปกติพวกชาวบ้านจะใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข มีบ้างเป็นครั้งคราวที่จะมีปีศาจมาบุกแต่ก็ไม่เยอะถึงขนาดคราวนี้ และที่สำคัญชาวบ้านแต่ละคนไม่เคยมีประสบการณ์ในการต่อสู้กับปีศาจเลย ถึงแม้จะเป็นปีศาจขั้นธรรมดา หรือสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่าและเป็นพันธมิตรที่ซื่อสัตย์ของเผ่าแห่งความมืด
ความโกลาหลนั้นได้แผ่ซ่านไปยังร้าน Cat Eye?s อีกด้วยนอกจากความเกรงกลัวที่มีต่อปีศาจแล้ว อากาเนะยังพบว่ามาสเตอร์ประจำร้านของเธอไม่ได้อยู่ภายในร้าน ทำให้เกิดความวิตกต่างๆนานาว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเค้ากันแน่
?ริกะๆ แย่แล้ว คุณเฮียวโดไม่อยู่?
? เอ๋ ! ?
?สงสัยจะเป็นตอนที่ออกไปเล่นหมากรุกแน่เลย จนป่านนี้แล้วยังไม่กลับมาอีก?
อากาเนะพูดพลางกุมมือไว้ที่อกไปพลาง ท่าทางเธอจะร้อนใจมาก
อากาเนะนั้นเป็นคนขี้กังวล เธอเป็นห่วงเฮียวโดมากทีเดียวด้วยความผูกพันธ์กันมาถึง 19 ปี เป็นทั้งความสัมพันธ์แบบลูกจ้าง-นายจ้าง และความสัมพันธ์แบบพ่อกับลูกสาวถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใช่ลูกของเขาจริงๆ เธอเป็นเด็กกำพร้าเพราะฉะนั้นคุณเฮียวโดจึงเปรียบเสมือนสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอก็ว่าได้ และด้วยริกะที่รู้ถึงสายใยความสัมพันธ์นั้นเป็นอย่างดี และเธอก็รักและเคารพเฮียวโดเป็นอย่างมากด้วย
?พี่อากาเนะรีบหนีออกไปเถอะ ฉันจะออกไปตามหาเฮียวโดซังเอง?
ริกะตัดสินใจอย่างแน่วแน่
?พูดอะไรอย่างนั้นนะ จะไปคนเดียวได้ไงมันอันตรายนะ พี่ก็จะไปด้วย?
แววตาของอากาเนะก็บ่งบอกถึงความหนักแน่นเช่นกัน
?พี่อากาเนะต่างหากที่ต้องไปตามหาเฮียวโดซังตามเส้นทางหลีภัย
ไม่แน่เฮียวโดซังอาจไปตามหาพวกเราที่นั้นแล้วก็ได้ ไม่ต้องกังวลนะ
ฉันจะตามพวกพี่ไปทีหลังอย่างปลอดภัยแน่ๆนะ?
ริกะเน้นย้ำให้อากาเนะมีความมั่นใจแล้วจึงวิ่งฝ่าฝูงชนที่วิ่งสวนทางกับเธอไปทันที
อากาเนะจำใจต้องทำตามที่ริกะบอกไว้ เธอเองก็รีบวิ่งไปตามทางหลีภัย ระหว่างที่วิ่งไปนั้นสายตาของเธอก็คอยมองหาเฮียวโดไปด้วย และด้วยความที่เธอเป็นคนตัวเล็กมากจึงถูกชายรูปร่างใหญ่คนหนึ่งที่วิ่งตามหลังมากระแทกใส่เธอเข้าเต็มๆ
?หลบไป? ชายคนนั้นตะคอกใส่
?ว้าย!? อากาเนะเซล้มหน้าคะมำลงทันทีโดยไม่ต้องสงสัย
โดยที่ชายคนนั้นไม่ได้สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย
?อู้ย? ขาของเธอเป็นแผลถลอกมีเลือดซิบๆ
?เป็นไรหรือเปล่า พี่อากาเนะ? อากาเนะค่อยๆเงยหน้ามอง ที่แท้ก็เรนนั่นเอง
?ระ เรนคุงเองหรอกรึ??
?อ้าว พี่นึกว่าใครอีกละ? เรนหน้ามุ้ยเลย
?เสียมารยาทออก ผมออกจะเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยพี่ชัดๆ
อ่อ แล้วคนอื่นๆที่ร้านละพี่ หายไปไหนกัน?
เรนพูดพลางยื่นมือมาช่วยประคองพี่อากาเนะขึ้นจากพื้น
?ขอร้องล่ะ ช่วยตามหาคุณเฮียวโดกับริกะจังให้ทีนะ
ริกะนะออกไปตามหาคุณเฮียวโดที่ค่ายทหารแน่ๆ ขอร้องล่ะ?
พี่อากาเนะเงยหน้าขึ้นมามองเรนทั้งน้ำตา
?ได้โปรดเถอะ ตอนนี้พี่รู้ดีว่าริกะจังทำอะไรที่มันเสี่ยงมากๆ
แทนที่พี่จะไปด้วยหรือห้ามเค้าไว้ พี่ก็ยังทำไม่ได้ แถมตอนนี้ยังเป็นเหมือนตัวถ่วงอีกด้วย ขอร้องละ?
มือเล็กๆของพี่อากาเนะกุมมือเรนไว้แน่น ทำเอาเรนใจอ่อนไปในทันที
เขาจึงตัดสินใจที่จะไปช่วยริกะและอาเฮียเฮียวโด ซึ่งเขาก็เตรียมใจไว้แล้วว่านั้นเป็นการกระทำที่เสี่ยงมากๆ
?แน่นอนผมจะไปพาตัวอาเฮียเฮียวโดกับริกะจังกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน ผมสัญญา?
พร้อมกับชูนิ้วโป้งให้อย่างเท่(เป็นท่าเก๊กเฉิมๆที่เจ้าตัวคิดว่าเท่มาก)
?ทั้งที่จะไปเสี่ยงตายแท้ๆยังมีอารมณ์เก๊กอีก เจ้าบ้า เห็นน้ำตาของผู้หญิงอีกไม่ได้ละสิเนี้ย?
?หะ เฮ้ยไอ้เด็กเปรตนิ? เรนโกรธนิดๆ
?รอดมาถีบผมให้ได้ละ ทางนี้ผมจะจัดการเอง ไม่ต้องห่วง?
ฮาตูรีบพูดขัดจังหวะ
?ฮึ ข้าจะกลับมาถีบเองแน่ๆ เตรียมตูดไว้แหละกัน?
พูดจบเรนก็วิ่งไปที่ค่ายทหารทันที พร้อมกับเอามือขวากุมดาบซามูไรยาวที่เหน็บไว้ที่เอวเพื่อความพร้อม
เจอปีศาจเมื่อรั้ยจะได้ฟันหัวมันทิ้งเมื่อนั้น
ทางด้านของริกะเองเมื่อแยกทางกับอากาเนะแล้ว เธอก็ดูกังวลใจมากทีเดียวเพราะวิ่งมานานพอสมควรแล้วแต่กลับไร้วี่แววของเฮียวโด หาเท่ารั้ยก็ยังไม่พบสักที ระหว่างทางเต็มไปด้วยข้าวของที่รกกระจัดกระจายเต็มไปหมด
?แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก? เธอหยุดวิ่งและหอบเหนื่อยอย่างหมดแรง
?เฮ้อ เหนื่อยจังเลย เฮียวโดซังอยู่ที่ไหนกันแน่ ถ้าที่นี้ไม่เจออีก เราเองก็ต้องรีบหนีเหมือนกัน?
ขณะที่เธอคิดอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงรื้อของอย่างกราดเกรี้ยว
?โฮ้ก? และนั่นเป็นเสียงคำรามของปีศาจร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย
ริกะผงะและเซตัวถอยหลังโดยอัตโนมัติด้วยความตกใจ
?ทำไมถึงซวยยังเงี้ยอ่ะ โผล่มาทำไมกันตอนนี้ ไอ้ปีศาจบ้า?
เธอบ่นถึงความซวยของตัวเองแล้วหันซ้ายหันขวา
หาทางที่จะออกไปจากบริเวณนี้อย่างเงียบและปลอดภัยที่สุด
กรี๊ด !!!
ริกะถูกฉุดตัวเข้ามาอยู่หลังมุมตึกและถูกเอามือปิดปากทันที
?อุ๊บ?
?โธ่ เงียบๆหน่อยสิ เดี๋ยวมันก็รู้ตัวเข้าพอดีหรอก?
เสียงห้าวๆนั้นกระซิบอยู่ข้างหูของริกะพร้อมกับทำมือจุ๊ๆไปด้วย เธอจำเสียงนั้นได้
?เฮียวโดซัง ยังปลอดภัยดีรึคะ? เป็นห่วงแทบแย่ มัวทำอะไรอยู่คะ
ทำไมไม่รีบหนี พี่อากาเนะเป็นห่วงมากเลย รู้มั้ย
ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาแล้วจะทำยังไง?
ริกะพูดด้วยความดีใจและตำหนิไปด้วย
?เฮ้อ พอปล่อยให้พูดละพูดเป็นต่อยหอยเชียวนะ
ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก ต้องมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อจ่ายเงินเดือนให้พวกเธอใช่มั้ยละ รู้ทันนะโว้ย?
เฮียวโดกระซิบตอบให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้
?แหะ แหะ กะอีแค่เงินเดือนนะไม่สำคัญเท่ากับชีวิตของมาสเตอร์ของพวกเราได้หรอกคะ?
?ฮึ ทำเป็นพูด?
บังเอิญกับที่ริกะเหลือบไปเห็นผ้าพันแผลไว้ที่ขาข้างขวาของเฮียวโดมีรอยเลือดติดอยู่พอดี
?อ่ะแผลที่ขานั้นเป็นอะไรไปคะ เมื่อตอนเย็นยังไม่เห็นมีเลย เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ?
?อืม โดนยิงมานะ แต่ห้ามเลือดไว้แล้ว ไม่ต้องห่วง รีบไปทางหลี้ภัยที่ 13 กันเถอะ?
?อ่ะคะ?
ริกะช่วยพยุงตัวเฮียวโดแล้วหนีออกไปอีกทางหนึ่งกับที่เจ้าปีศาจเมื่อกี้อยู่
ขณะที่หลบเลี่ยงเจ้าปีศาจตัวเมื่อตะกี้ได้แล้ว ระหว่างซอยที่จะทะลุไปทางหลี้ภัยที่ 13 นั้น ริกะและเฮียวโดต้องหยุดชะงักลงทันทีในเมื่อมีบางสิ่งบางอย่างกระเด็นข้ามหน้าข้ามตาพวกเค้าไป เมื่อมองผ่านแสงจันทร์เต็มดวงเข้าไป ปรากฎว่านั่นคือ ท่อนแขนข้างซ้ายของใครซักคนซึ่งชุ่มไปด้วยเลือด ?!!!
และเมื่อมองขึ้นไปก็พบว่าเลือดนั้นเปรอะอยู่เต็มหลังคาบ้านและเปรอะเต็มตัวเจ้าปีศาจตัวหนึ่ง เจ้าปีศาจนั้นกำลังดูดกินเลือดและเนื้อของผู้เคราะห์ร้ายที่หนีไม่ทันนั่นเอง! วินาทีนั้นทั้งเฮียวโดและริกะต่างก็หยุดยืนนิ่งแข็งเป็นท่อนไม้เลยทีเดียว สาบานได้เลยว่าพวกเขาไม่เคยเห็นอะไรที่น่าสยดสยองเท่านี้มาก่อน นั้นไม่ใช่การชำแหละเนื้อหมู หรือเนื้อวัวทั่วไปแต่นั่นมันเป็นการชำแหละเนื้อมนุษย์ ทั้งภาพที่เห็น ทั้งเสียงที่เลาะกระดูกและเสียงที่ดูดกินเลือดเนื้อนั้นอย่างมีความสุข รวมทั้งกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งตลบอบอวนทั่วบริเวณนั้น มันทำให้พวกเขาอยากจะอาเจียนเดี๋ยวนั้นเลย นั่นเป็นเพียงแค่ปีศาจธรรมดาตัวหนึ่งที่ยังไม่เทียบเท่าระดับสัตว์อสูร แค่ลำตัวมันก็สูงซัก 180 ซ.ม. ได้แล้ว! มีแขนที่งอกออกมาเหมือนดาบที่ทำจากกระดูกทั้งแข็งและแหลมคมดั่งใบมีดที่ผ่านการลับคมมาอย่างดี ตาของมันส่องประกายเป็นสีแดงเพลิง มีหูยาวเรียวแหลมเหมือนกระต่าย(แต่ไม่น่ารักเท่า) และตอนนี้มันก็รู้ตัวแล้วว่ามีเหยื่อที่น่ารักๆจ้องมองมันอยู่ มันหันกลับมาแสยะยิ้มอย่างยินดีที่จะมีอาหารมาเติมเต็มกระเพาะอันตะกละโสมมของมัน
?มัวยื่นบื้ออยู่ทำไม หนีเด่ะ? เฮียวโดตะโกนก้องใส่ริกะเพื่อเรียกสติเธอคืนมา
ทั้งคู่ช่วยกันพยุงตัววิ่งหนีออกไปอย่างทุลักทุเล
?แม่เจ้าโว้ย วันนี้มันเป็นวันเชี้ยไรเนี้ย ซวยตลอดศกเลยวุ้ย? เฮียวโดวิ่งไปบ่นไป
?วันจันทร์คะ?
?!! ?เรื่องนั้นหล่อนไม่ต้องตอบก็ได้?
ไม่ทันที่จะตะโกนเถียงกันเสร็จ เจ้าปีศาจนั้นก็วิ่งไล่หลังตามมาจนทัน แล้วกระโดดดักขวางหน้าเข้าทันที มันแสยะยิ้มอย่างผู้มีชัย
?ฟังนะ นับสามแล้วเธอวิ่งทันที ข้าจะล่อมันเอง ไหนๆขาก็เป็นอย่างนี้แล้ว?
เฮียวโดกระซิบแผนการรอดตายให้ริกะ เขาเป็นลูกผู้ชายพอที่จะไม่คิดหนีเอาตัวรอดเพียงคนเดียว
?จะบ้ารึ!?
ไม่ทันขาดคำเฮียวโดก็ผลักริกะไปข้างหลัง ?สาม?
แล้วเดินไปเผชิญหน้ากับปีศาจนั้นแทน เจ้าปีศาจนั้นเงื้อมือที่เป็นเหมือนมีดขึ้นเพื่อที่จะหั่นเนื้อสเต็กที่อยู่ตรงหน้า
?เฮียวโดซัง!?
?ฝันไปเถอะ ตราบใดที่ตูยังไม่ได้กินข้าวฟรีแล้ว
ใครหน้าไหนก็ทำอันตรายไม่ได้โว้ย?
เหมือนเสียงระฆังช่วยชีวิตตอนนักมวยกำลังน็อคแล้วหมดยก
ดาบซามูไรด้ามยาวของวีรบุรุษผู้นี้ก็ได้ผ่าปีศาจนั้นออกเป็นสองส่วน
?เรน? นั้นแหละชื่อของวีรบุรุษยามยาก
?ทำไมทำหน้างงกันขนาดนั้นอ่ะ น่าจะดีใจไม่ใช่รึ อุตส่าห์มานะเนี้ย?
?เจ้าบ้าแค่ฆ่าปีศาจตัวเดียวยังมาเก๊กอีก แกมาช่วยคนเพราะเห็นแก่กินต่างหาก?
เฮียวโดโต้กลับ
?ฮ่าๆแล้วอาเฮียที่ไหนมัวยืนเกร็งขาสั่นอยู่ละ? เรนเอาคืนบ้าง
?พอทีเถอะพ่อหนุ่มขี้เก๊กแล้วก็อาเฮียขาสั่น รีบหนีออกจากที่นี้กัน?
ริกะจึงห้ามศึก เธอรู้ดีว่าถ้ามัวแต่เถียงกันอยู่อย่างนี้ก็จะหนีไม่ทันกันพอดี
?น่านดิ เดี๋ยวหนีไม่ทันกันพอดี? เรนเออออไปกับริกะ
?แกนิเห็นดีเห็นงามกับผู้หญิงทุกทีสิน่า? เฮียวโดเลยบ่นอุบ
หลังจากการทุ้มเถียงกันพอสมควร สองชายและหนึ่งหญิงก็รีบวิ่งทะลุซอยนั้นออกมา แต่ทว่าสายไปซะแล้ว ข้างหน้านั้นกลับเต็มไปด้วยปีศาจทั้งหมด 7 ตัวได้ แต่ที่แย่ยิ่งกว่าก็คือมีสัตว์อสูรอยู่ด้วยอีก 1 ตัว ดูท่ามันจะเป็นหัวหน้านำทัพปีศาจมา
?เวรแล้วสิ ดันมาชุมนุมกันอยู่ตรงนี้ได้
ริกะพาเฮียเฮียวโดถอยหลังไปก่อนเอาห่างๆเลย ซัก 4 เมตร ตรงนี้ผมจัดการเอง?
?อะอืม? ริกะผงักหน้ารับคำและทำตามที่เรนบอก
ในตอนนั้นเฮียวโดก็เริ่มหมดสติเพราะเสียเลือดและเหนื่อยจากการวิ่งที่ไม่ได้หยุดพักเลย ตัวของเค้าร้อนจี๋จนริกะเองกังวลใจเป็นอย่างมาก เรนเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับพวกมัน
?อัสนีผ่าฟ้าเมฆาพินาศ?
ทันทีที่สิ้นเสียงสายฟ้าทั้งสิบก็ผ่าทำลายมาจากฝากฟ้า
เผาไหม้ปีศาจทั้งเจ็ดที่อยู่ตรงหน้าเป็นจุณ เหลือก็เพียงแต่เถ้ากระดูกให้เก็บรำลึกถึงความหลังแค่นั้น
ใช่แล้วละนั้นเป็นเวทย์เฉพาะตัวของเผ่าสายฟ้าที่มีติดตัวมาแต่กำเนิดของเรน ความรุนแรงของมันทำให้เค้าอยู่ใกล้ริกะและเฮียเฮียวโดไม่ได้เพราะพวกเขาอาจจะโดนลูกหลงไปด้วย
?ชิ เจ้าหัวหน้าใหญ่ดันหลบทันได้ เก่งเหมือนกันนิ?
?ข้าฉลาดผิดกับเจ้าพวกหน้าโง่นั้นน๊า เจ้าเด็กมนุษย์ คิคิคิ?
นี่คือความต่างของสัตว์อสูรและปีศาจธรรมดาตรงที่สัตว์อสูรฉลาดกว่า
เก่งกว่า และพูดจาภาษามนุษย์ได้ แต่
?ข้าเก่งกว่าแกแน่เข้ามาสิ? ขณะที่เรนท้าทายมันให้เข้ามานั้น
มันกลับแสยะยิ้มกว้างเห็นฟันที่แหลมคมอย่างเจ้าเล่ห์แล้วจึงชี้นิ้วไปทางที่ริกะอยู่
?กรี๊ด?
นั้นปะไรมีปีศาจอีกสองตัวเข้ามาใกล้ริกะ ไม่ทันแล้ว!
?ด้วยนามแห่งข้า นายของเจ้า จงปรากฎกาย ดาบเงาจันทรา?
ผลิบตาเดียวหัวของเจ้าปีศาจสองตัวนั้นกลับกระเด็นหลุดออกจากบ่าทันที พร้อมกับแสงเจิดจ้าแสบตาสีเหลืองที่เกิดขึ้น ซึ่งเกิดจากการคลายสะกดดาบ เห็นเพียงแต่เลือดที่เกาะติดอยู่กับบางสิ่งบางอย่างที่ดูคล้ายกับวัตถุโปร่งใส ไม่เห็นสิ่งที่เรียกว่าดาบอยู่เลยแม้แต่น้อย
?ทะ เธอเป็นใครกันแน่? เรนหลุดปากออกมาทันทีด้วยความสงสัย
จังหวะเดียวกันกับที่เจ้าสัตว์อสูรนั้นฉวยโอกาสเงื้อมือที่เป็นเหมือนมีดอันแหลมคมของมันเข้ามาจะฟันเรน
?คิคิคิ เจ้าหน้าโง่? สัตว์อสูรนั้นหัวเราะร่าอย่างดูถูกชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านั้น แต่ทว่า
?ใครกันแน่ที่โง่? เรนโต้กลับโดยที่ไม่ได้หันกลับไปมองเจ้าสัตว์อสูรนั้นเลย
หัวของเจ้าสัตว์อสูรนั้นก็กระเด็นหลุดออกไปเหมือนลูกน้องทั้งสองของมัน
?คิ เจ้าเองก็เก่งเหมือนกันนิ
น่าเบื่อชะมัด ดันมาปลุกข้าในคืนจันทร์เต็มดวงซะได้?
นั้นเป็นเสียงของริกะจังที่ฟังดูเหมือนเสียงยิ้มเยาะอย่างมั่นใจ แววตาของริกะจังเป็นสีฟ้าอมน้ำเงินที่ไร้แววเปรียบดั่งนักฆ่าที่เย็นชา เธอค่อยๆแกะยางรัดผมทั้งสองข้างออกปล่อยผมยาวดำสลวยให้ปลิวไสวกับสายลมที่พัดมาในยามค่ำคืนแสงจันทร์เต็มดวงสาดส่อง ภาพที่เรนเห็นริกะในตอนนี้นั้นทำให้เขารู้สึกว่าเธอดูน่าเกรงขาม สง่างาม และดูน่ากลัวในเวลาเดียวกันจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว
?เธอเป็นใครกันแน่? เรนถามย้ำอีกครั้งอย่างสงสัย
เอ๋ อยากรู้รึ? ริกะจังทวนคำถามซ้ำ เธอยังคงแสยะยิ้มอย่างมั่นใจ
?อืม ถ้ามีโชคชะตาที่จะได้พบกันอีกละก็ จะตอบคำถามนั้นให้ก็ได้
ฝากตาลุงนี้ด้วยละ บะบาย?
?อะเฮ่ย เดี๋ยวก่อน? เรนรีบวิ่งไปรั้งริกะไว้ทันที
แต่ไม่ทันซะแล้วริกะจังกระโดดถอยหลังขึ้นไปบนหลังคาพร้อมกับโบกมือลาแล้วจากไป ทิ้งให้เรน งุงงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ซักพัก ระหว่างทางที่เรนแบกตาลุงนี้ เอ่ยอาเฮียเฮียวโดหนีไปด้วยนั้นก็พบศพปีศาจนอนเกลื่อนกลาดกระจัดกระจายไปทั่ว
นั่นต้องเป็นฝีมือของริกะจังแน่ๆ เขาคิดเช่นนั้น
ในที่สุดเรนก็ไปสมทบกับฮาตูจนได้
ฮึๆจะได้ถีบตูดมันตามสัญญา
เช้าของวันที่ 16 กุมภา หลังจากที่เก็บของและร่ำลาฮาตูและอาเฮียเฮียวโดที่หมู่บ้านข้างๆ Rock Village ซึ่งห่างออกมาได้ประมาณ 500 เมตรแล้วนั้น เรนก็แบกเป้เดินทางใบโปรดเพื่อที่จะออกเดินทางต่อ
ตรู๊ดๆ เสียงมือถือของเรนดังขึ้น เขาจึงหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกง
?ฮัลโหล?
?เจ้าบ้า!!!?
เสียงตะโกนของคู่สนธนาอีกฝั่งหนึ่งดังก้องเต็มหูจนเรนต้องเอามือถือออกไปห่างๆ
คนแถวนั้นยังสะดุ้งไปด้วย พวกชาวบ้านมองเรนกันเป็นตาเดียวเลย
?เออเอ่อ ใจเย็นๆหน่อยสิครับ หัวหน้าโฮอึน ผมอายเขานะครับ?
เรนยังจำเสียงนั้นได้ดี เขาขอร้องคู่สนธนากลับทันทีที่เสียงตะโกนนั้นจบลง
ด้วยว่าตอนนี้เขาอายพวกชาวบ้านที่หันมามองเขาเสียเหลือเกิน
?แก
ให้มันอายไป รับคำสั่งให้ไปดูลาดเลาประสาเตี้ยแกรึ
ไม่ติดต่อกลับมา ติดต่อก็ไม่ได้ หายไปร่วม 2 เดือนเนี้ยนะ?
แต่ดูท่าจะไม่ได้ผลซะแล้ว ในเมื่อคำพูดของเรนไม่ได้ทำให้คู่สนธนาใจเย็นลงได้เลย
กลับเป็นการกระตุ้นให้โกรธมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ
?ขอโทษครับ ช่วงนั้นผมปิดมือถือ? เรนรีบแก้ตัว
?ฮึ่ม ให้ตายดิ คนอย่างนายเนี้ย... รีบกลับมาด่วน มีเรื่องจะคุยด้วย?
เรนซวยเข้าแล้วงัย โดนหัวหน้าหน่วยที่แท้จริงเรียกตัวกลับจนได้ กลับไปเขาคงโดนด่าเปิงแน่
หน่วยที่ว่าไม่ได้สังกัดกับสหพันธรัฐแห่งวินดั้ม แต่เป็นหน่วยงานอิสระที่ก่อตั้งขึ้นเองเพื่อเฝ้าจับตามองสหพันธรัฐแห่งวินดั้มอีกที เนื่องด้วยการกระทำและวัตถุประสงค์ที่แปรเปลี่ยนไปของสหพันธรัฐ ที่เรนเข้าร่วมกลุ่มด้วยเพราะไม่ชอบในความไม่ชอบมาพากลของสหพันธรัฐนี่แหละ รวมทั้งเหตุผลในอดีตเป็นการส่วนตัวอีกด้วย
ทั้งนี้หัวหน้าผู้ก่อตั้งหน่วย ?ลี โฮอึน? กลับเป็นคนที่แปลกประหลาดมาก เขาเป็นชายสูง 170 ผมดำชอบใส่หมวกไหมพรมและสวมหน้ากากสีขาวเป็นรูปแสยะยิ้มประหลาดๆ ซึ่งมีรอยบากที่หน้ากากบริเวณตาขวาเป็นทางยาวถึงปาก มีช่องเจาะไว้ที่ตาและปากพอให้เห็นทาง และมีอากาศหายใจกับทานข้าวแต่เห็นเป็นแค่สีดำเท่านั้น ที่สำคัญเขาชอบทดลองทำอมยิ้มรสชาติประหลาด เช่น รสบอระเพ็ด หรือแม้กระทั่งใบบัวบก แค่คิดก็หนาวแล้วถ้าจะให้เป็นหนูทดลองชิมอมยิ้มนั้น บรื้อ แต่ถึงแม้จะประหลาดอย่างนั้นเค้ากลับเป็นหมอที่มีฝีมือมาก และมีความคิดความอ่านเป็นผู้นำที่ดี ความสามารถอีกอย่างที่มีเพียงคนใกล้ชิดรอบตัวเค้าเท่านั้นที่รู้คือ ถ้าถอดถุงมือสีขาวข้างซ้ายออกแล้วสัมผัสกับใครก็ตาม โฮอึนจะรู้ถึงอดีตต่างๆของคนผู้นั้นทันทีแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เจ้าตัวลืมไปแล้วก็ตาม รวมทั้งอดีตและความคิดของสิ่งของด้วย ช่างเป็นความสามารถที่สุดยอดจริงๆ
แต่ก็นั้นแหละถ้าเรนได้กลับไปที่หน่วยงานใหญ่แล้ว คงโดนเกมลงทัณฑ์ให้ทดลองกินอมยิ้มนั้นแน่ๆ เมื่อคิดเช่นนั้นแล้วเรนก็เดินคอตกมุ่งหน้าไปที่นครแห่งศูนย์กลางเอนญ่า ที่ตั้งหน่วยงานลับนั่นเอง
ฝากนิยายค่า Y.W.A.T. (Yes, We are twins) : บท 1
Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี