[นิยาย] ซาเรนเทียน่า เจ้าหญิงแสนซนกับเจ้าชายอลเวง (2)

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
aa_narak
โพสต์: 4
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 09 มิ.ย. 2007 12:49 am

[นิยาย] ซาเรนเทียน่า เจ้าหญิงแสนซนกับเจ้าชายอลเวง (2)

โพสต์ โดย aa_narak »

ภายในลำแสงสีขาวนวลสบายตาที่ทำหน้าที่บดบังสิ่งที่อยู่ภายในไม่ให้มนุษย์ที่อยู่เบื้องล่างเห็น ร่างสูงของพาฟลอฟค่อย ๆ เลื่อนอยู่มาอยู่ระดับเดียวกับซาเรนเทียน่า มือคู่ใหญ่โอบรอบเอวบางของหญิงสาวเอาไว้ ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลจ้องมองใบหน้าขาวนวลของคนตรงหน้าอย่างไม่วางตา เธอเสมองไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาคู่นั้น เรือนผมสีน้ำเงินเข้มของหญิงสาวพลิ้วไหวตามแรงลม สายตาของเจ้าชายหนุ่มเหม่อมองภาพตรงหน้าและเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
ไม่นานนักร่างของซาเรนเทียน่าและพาฟลอฟก็ลอยขึ้นมาอยู่เหนือบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ปีกขนนกสลายไปเหลือเพียงแค่ผงสีทองระยิบระยับโปรยตกลงมาก่อนที่ร่างของทั้งคู่จะร่วงลงสู่พื้นดินสีขาวอันอ่อนนุ่ม
?เจ้าหญิงเพคะ? เสียงร้องเรียกอย่างดีใจดังมาจากเจ้าแมวเหมียวสีขาวสะอาด มันกระโดดเข้าใส่ผู้เป็นนายอย่างดีใจก่อนจะเหลือบมาเห็นชายหนุ่มรูปงามยืนอยู่ข้างหญิงสาว
?ข้าชื่อ พาฟลอฟ เจ้าชายแห่งอาณาจักรวิคเซนเทรีย?
?เจ้ากำลังจะทำให้ข้าเดือดร้อนนะพาฟลอฟ ข้าจะพาเจ้ากลับเดี๋ยวนี้แหละ? เธอพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองก่อนจะลากร่างสูงด้วยพละกำลังมหาศาลไปยังบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง แต่ยังไม่ทันจะได้เดินขึ้นไปถึงขอบบ่อน้ำเขาก็ขืนตัวเอาไว้ก่อน
?แต่ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้านะซาเรนเทียน่า? เขาพูดพร้อมทั้งขืนตัวไว้ หญิงสาวหันมาถลึงตาใส่พร้อมทั้งออกแรงฉุดกระชากลากถูอีกครั้ง
?ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับเจ้าหรอก เจ้ามนุษย์? เธอตอบเสียงแข็งพร้อมทั้งออกแรงดึงเขามากขึ้น
?หยุดเถอะเพคะ พระบิดาของท่านคงใกล้จะกลับมาแล้ว ขืนเจ้าหญิงยังไม่รีบกลับไปเดี๋ยวจะไม่ทันพระองค์นะเพคะ? เสียงตะโกนของสัตว์เลี้ยงคู่ใจทำให้การยื้อยุดฉุดกระชากลากถูของเจ้าหญิงและเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ทั้งสองหยุดชะงักลง
?ตายจริง ข้าลืมเสียสนิทเลย ฮึ้ย แล้วข้าจะทำยังไงกับเจ้าดีล่ะเนี่ย?? เด็กสาวเกาหัวแกรก ๆ อย่างหงุดหงิด อาการลนลานเริ่มเกิดขึ้นเมื่อนึกถึงใบหน้าบึ้งตึงและเสียงอันดุดันของผู้เป็นพ่อ มือทั้งสองคว้าแขนของเจ้าชายหนุ่มอีกครั้ง ?ข้าจะรีบพาเจ้ากลับลงไป?
?ไม่มีประโยชน์หรอกเพคะเจ้าหญิง ก่อนหน้านั้นเจ้าหญิงอาเมด้าตรัสว่าบ่อน้ำนี้ใช้ได้แค่วันละหนึ่งครั้งเท่านั้นเพคะ?
?หา วันละหนึ่งครั้ง!? เธอร้องอุทานเสียงสูงขึ้นทันที
?เจ้าก็พาข้าไปด้วยเสียก็สิ้นเรื่อง เพราะข้ามีเรื่องจะขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน่อย?
?สิ้นชื่อสิไม่ว่า แล้วทำไมข้าจะต้องช่วยเจ้าด้วยล่ะเจ้าหัวม่วง??
?ข้าชื่อ พาฟ-ลอฟ ไม่ใช่เจ้าหัวม่วง ช่วยเรียกให้มันถูก ๆ หน่อยสิ? ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างหงุดหงิดกับชื่อใหม่ที่เธอเรียกก่อนจะฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ ?แต่ถ้าเจ้าไม่อยากช่วยข้าก็ไม่เป็นไร ข้าก็แค่จะเดินออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกให้ทหารจับตัวไป จากนั้นก็แค่เล่าความจริงว่าเจ้าลักพาตัวข้ามาเพราะติดใจในรสจูบของข้าก็แค่นั้นเอง? พาฟลอฟฉีกยิ้มพลางยักคิ้วให้อีกฝ่ายที่คิ้วกระตุกด้วยความโกรธเคือง
?ใครบอกว่าข้าติดใจรสจูบจืดชืดของเจ้ากันล่ะ อุ๊บ? ซาเรนเทียน่าเบิกตากว้างด้วยความตกใจที่ตัวเองเผลอยอมรับว่าจูบกับคนตรงหน้าพร้อม ๆ กับใบหน้าที่เริ่มแดงระเรื่อ
?จะ จูบเรอะเพคะ??
?ว่าไงล่ะ จะช่วยหรือไม่ช่วย ติ๊กต่อก ๆ ๆ? พาฟลอฟยืนพิงหลังกับบ่อน้ำอย่างสบายใจ ซาเรนเทียน่ากัดฟันกรอดด้วยความแค้นเคือง
?ก็ได้?

ร่างของแมวสองตัววิ่งกลับทางเดิมที่เคยมาก่อนหน้านั้น ซาเรนเทียน่าในร่างแมวขนสีชมพูฟูฟ่องวิ่งเหยาะ ๆ นำโมโม่ออกไปด้วยความรีบเร่ง เส้นทางเบื้องหน้าคือเขตรักษาความปลอดภัยซึ่งมีทหารยามรักษาการอยู่หลายชั้น ทั้งสองตัวต่างรีบวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว พวกทหารยามเพียงแค่เหลือบมองเท่านั้น และไม่นานนักแมวทั้งสองตัวก็วิ่งเข้ามาถึงเขตพระราชฐานและกลับเข้ามาในห้องได้อย่างสบาย ๆ แสงสีขาวนวลอาบรอบตัวแมวสีชมพูและกลับกลายเป็นร่างบางของซาเรนเทียน่าอีกครั้ง
?ยังอยู่หรือเปล่าเจ้าหัวม่วง?? เธอเอ่ยถามเสียงใสพลางก้มลงอุ้มโมโม่ขึ้นมาจากพื้น ดวงตาคู่โตจับจ้องเห็บสีดำตัวเล็กที่เกาะอยู่บนขนของสัตว์เลี้ยงคู่ใจ
?อ๊าก ข้าบอกแล้วไงว่าข้าชื่อ พาฟลอฟ ๆ ๆ แล้วทำไมเจ้าต้องเสกให้ข้ากลายเป็นเห็บด้วยหา?? เสียงเอ่ยถามที่แสดงถึงความไม่พอใจสุด ๆ ดังเล็ดลอดออกมาจากเห็บตัวเล็ก หญิงสาวหัวเราะพรืดออกมาด้วยความสนุกสนานและนั่นยิ่งทำให้พาฟลอฟอารมณ์ขุ่นมัวมากขึ้นไปอีก
?ก็ครั้งแรกข้ากับท่านพี่แปลงตัวเป็นแมวเหมียวที่สุดแสนน่ารักแล้วนี่นา ขืนให้เจ้าแปลงเป็นแมวอีกตัว พวกทหารคงสงสัยแน่ ๆ เพราะฉะนั้นเจ้าเป็นเห็บนะดีแล้วน่า? หญิงสาวหัวเราะคิกคัก แม้แต่โมโม่เองก็ยังแอบหัวเราะผสมโรงไปด้วย แต่แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ซาเรนเทียน่ารีบวางสัตว์เลี้ยงคู่ใจไว้บนเตียง ร่างบางเดินตรงไปเปิดประตูห้องอย่างกล้า ๆ กลัวเพราะคิดว่าต้องเป็นท่านพ่อของเธอแน่ ๆ
?เจ้าหายไปไหนมาน่ะซาเรนเทียน่า ข้าเป็นห่วงเจ้าแทบแย่? เสียงทุ้มของเจ้าชายหนุ่มรูปงามดังขึ้นพร้อม ๆ กับเดินเข้ามาโอบกอดร่างบางอย่างถือสิทธิ์
?ข้าจะไปไหนมันก็เรื่องของข้า ไม่เกี่ยวกับเจ้าสักนิดนะดาร์วิน? เธอพูดพร้อมทั้งดันร่างสูงของชายหนุ่มตรงหน้าให้ออกห่าง ?ข้าน่ะหรือจะไปที่ไหนได้ไกล ท่านพ่อเล่นสั่งพวกทหารคุมข้ามากมายขนาดนั้น?
?ก็เพราะว่าใกล้งานแต่งของเราแล้วไง ท่านพ่อของเจ้าก็ย่อมเป็นห่วงความปลอดภัยของตัวเจ้าอยู่แล้ว และข้าเองก็เป็นห่วงเจ้าเช่นกัน? ดาร์วินพูดพลางมองคู่หมั้นด้วยแววตาที่อ่อนโยนและเต็มไปด้วยความรัก พาฟลอฟที่เกาะอยู่บนตัวโมโม่รู้สึกตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
?หึ กลัวว่าข้าจะหนีงานแต่งงานต่างหากละสิ?
?เจ้าไม่อยากแต่งงานกับข้าขนาดนั้นเชียวหรือซาเรนเทียน่า? เขาจับไหล่บางของหญิงสาวให้หันมาเผชิญหน้า ?ความรักที่ข้ามอบให้เจ้ามันยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เจ้ารักข้าเลยหรือ??
?ต่อให้เจ้าทุ่มเทความรักให้ข้ามากเพียงใด ข้าก็ไม่อาจทำใจให้รักเจ้าได้หรอกดาร์วิน เพราะข้าไม่ได้รักเจ้าและคงไม่มีวัน?
?งั้นเจ้าก็ทำใจเสียเถอะ ยังไงเสียเจ้าก็หนีงานแต่งงานไม่พ้นและเจ้าก็ต้องเป็นของข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น? พูดจบเจ้าชายดาร์วินก็เดินออกไป ซาเรนเทียน่าได้แต่ยืนกำมือแน่นอยู่เบื้องหลังก่อนจะเดินตรงปรี่คว้าหมอนทุบกับเตียงเพื่อระบายอารมณ์โดยลืมไปเสียสนิทว่ามีบุคคลที่สามอยู่ในห้องด้วย
?ในเมื่อบีบคั้นข้ากันดีนัก ข้าก็จะหนีออกไปให้ไกลจากที่นี่? ซาเรนเทียน่าพูดเสียงกร้าวพร้อมทั้งหอบหายใจ ?ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว โมโม่เจ้าช่วยข้าทีเถอะ ข้าจะทำยังไงดี??
?โธ่ เจ้าหญิงเพคะ ข้าเองก็อยากช่วยท่านเหลือเกินแต่แมวอย่างข้าจะทำอะไรได้ล่ะเพคะ? โมโม่พูดน้ำเสียงปนเศร้าพลางเลียมือของหญิงสาวเป็นการปลอบใจ
?แต่ข้าช่วยเจ้าได้นะ ไม่ใช่สิ เราต่างก็ช่วยซึ่งกันและกัน? เสียงของพาฟลอฟดังขึ้นเรียกสติของเจ้าหญิงน้อยให้หันไปมองเห็บสีดำซึ่งเกิดจากฝีมือของเธอเอง
วาบ!
ทันทีที่เด็กสาวร่ายเวทเสร็จ ร่างสูงของชายหนุ่มรูปงามแห่งดินแดนมนุษย์ก็กลับมาอยู่สภาพเดิม เขาบิดตัวไปมาอย่างเมื่อยขบ หญิงสาวเขยิบเข้าไปนั่งใกล้เขาและมองคนตรงหน้าตาแป๋วจนคนถูกจ้องถึงกับหน้าขึ้นสีก่อนจะกระแอมไอและเสมองไปทางอื่นแทน
?เมื่อกี้เจ้าบอกว่าเจ้าช่วยข้าได้งั้นหรือ??

?ใช่ แล้วเจ้าเองก็ช่วยข้าได้เช่นกัน เอาเป็นว่าต่างคนต่างได้ผลประโยชน์ร่วมกัน? พาฟลอฟเสนอ หญิงสาวเลิกคิ้วสูงอย่างสงสัย ?เจ้าอยากหนีไปดินแดนมนุษย์ไหมล่ะ??
?นี่แหละคือสิ่งที่ข้าคิดไว้แต่แรก ตอนนี้ข้ากำลังรอพี่สาวของข้าหาทางช่วยอยู่ ว่าแต่ข้าไม่เข้าใจว่าเรามีผลประโยชน์อะไรร่วมกันหรือ?? เธอเอียงคอถามอย่างสงสัย เขาดีดนิ้วเสียงดังเป๊าะพร้อมทั้งยิ้มกริ่ม
?เจ้าอยากหนีงานแต่งงานใช่ไหมล่ะ แล้วข้าเองก็อยากกำจัดคู่หมั้นของข้าเช่นกัน?
?หะ หา กำจัดคู่หมั้น!? ซาเรนเทียน่าเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ?นะ นี่เจ้าคิดจะให้ข้าฆ่าคู่หมั้นของเจ้าเรอะ??
?จะบ้าเรอะ ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้นสักหน่อย? พาฟลอฟพ่นลมหายใจก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาอธิบายให้เด็กสาวฟังอีกครั้ง ?ข้าหมายถึง ข้าจะให้เจ้าเป็นคู่หมั้นกำมะลอของข้านะสิ ข้าจะพาเจ้ากลับวังในฐานะผู้หญิงที่ข้ารัก?เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ผงะและถอยร่นออกห่างจากเขาทันที ?จะบ้าหรือไง ที่ข้าคิดจะหนีออกจากที่นี่ก็เพราะไม่อยากถูกผูกมัดนะ หนีจากงานแต่งแล้วไปเป็นคู่หมั้นเจ้ามันก็ไม่เห็นจะต่างกันสักนิด?
?ต่างสิเพราะมันเป็นเพียงแค่ละครเท่านั้น เราต่างไม่ผูกมัดซึ่งกันและกัน เจ้าก็ได้หนีออกจากงานแต่งงาน และข้าก็ไม่ต้องหมั้นหมายกับคู่หมั้นที่ท่านพ่อจัดหาให้ เห็นไหมว่าเราทั้งคู่ต่างก็ได้ผลประโยชน์ ไม่มีใครได้ใครเสียนะ ลองคิดดูให้ดี ๆ สิ? พาฟลอฟยื่นข้อเสนอ ซาเรนเทียน่าเดาะลิ้นอย่างครุ่นคิดถึงข้อเสนอของคนตรงหน้า
?มีคนมาเพคะเจ้าหญิง? โมโม่พูดกระซิบ พาฟลอฟรีบหลบซ่อนอยู่ใต้เตียงทันทีพร้อม ๆ กับที่ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกมา ร่างบางของผู้เป็นพี่สาวเดินยิ้มเข้ามาหาเธออย่างอารมณ์ดี ในมือถือขวดแก้วใบเล็กที่บรรจุน้ำสีเขียวใสไว้เต็ม
?ข้าได้มันมาแล้วซาเรนเทียน่า? เจ้าหญิงอาเมด้าพูดพลางชูขวดแก้วใบเล็กให้หญิงสาวตรงหน้าดู ซาเรนเทียน่ารีบคว้ามันมามองอย่างพิจารณา ?มันเป็นน้ำยาที่สามารถทำให้ปีกของเทพหายไปและผู้ที่ดื่มมันเข้าไปจะสามารถกลายเป็นมนุษย์ได้ในระยะเวลาตั้ง 6 เดือนเชียวนะ?
?จริงหรือเพคะ ช่างเป็นข่าวดีของข้าจริง ๆ ว่าแต่ถ้าข้าดื่มมันเข้าไปข้าก็ไม่สามารถใช้เวทย์ได้อีกนะสิ? หญิงสาวโอดครวญอย่างนึกเสียดาย แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหัว
?ยังใช้เวทย์ได้เหมือนเดิม เพียงแต่เจ้าต้องออกมายืนอาบแสงจันทร์ในคืนที่พระจันทร์เต็มดวงทุกครั้งเพื่อเติมพลังเวทนะ เพราะอยู่ที่นี่พลังเวทพวกเราสมบูรณ์อยู่แล้ว และที่สำคัญ...? อาเมด้าพูดเว้นช่วง แววตาเต็มไปด้วยความกังวล
?อะไรหรือเพคะท่านพี่?? ซาเรนเทียน่าเอียงคออย่างสงสัย ผู้เป็นพี่ถอนหายใจพลางจับไหล่น้องสาวเบา ๆ
?เราจะไม่สามารถมองเห็นซึ่งกันและกันได้จนกว่าเวลาจะล่วงเลยไปประมาณสี่เดือน เพราะช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ความเป็นเทพของน้องจะเริ่มฟื้นตัว และช่วงนั้นเจ้าจะต้องระวังพวกซาตานให้ดีล่ะ เพราะพวกนั้นมันกระหายพลังเทพยามที่พลังเริ่มฟื้นตัว? อาเมด้ากำชับน้องสาวเสียงเข้ม หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน
?งั้นน้องจะหนีตอนเที่ยงคืนเลยนะเพคะ?
?พี่จะไปกับเจ้าด้วย งั้นเรารีบเตรียมตัวกันเถอะ? อาเมด้าลุกขึ้นอย่างกระตือรือร้น แต่ซาเรนเทียน่ากลับคว้าแขนของพี่สาวเอาไว้และทำสีหน้าลำบากใจ
?เอ่อ...คือว่าน้องจะไปคนเดียวเพคะ เอ้อ ไม่ใช่สิ มีอีกคนหนึ่งด้วย? เธอพูดพร้อมทั้งกระแอมไอเสียงดัง พาฟลอฟที่ซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงสะดุ้งและค่อย ๆ คลานออกมาจากที่หลบซ่อน อาเมด้าเบิกตากว้างด้วยความตกใจแทบจะทันที
?ยินดีที่ได้รู้จัก ข้าคือเจ้าชายพาฟลอฟแห่งอาณาจักรวิคเซนเทรีย? เขาพูดแนะนำตัวพร้อมทั้งโค้งตัวให้หญิงสาวตรงหน้าอย่างสุภาพ
?นะ นี่เจ้าแอบพาเทพหนุ่มมาหลบซ่อนถึงในห้องเชียวหรือ?? อาเมด้าหันไปถามน้องสาว
?เอ่อ เขาไม่ใช่เทพเพคะ แต่เป็น...มนุษย์ แหะ ๆ ?
?หา มนุษย์หรือ?? OoO!!! อาเมด้าตะโกนเสียงดังจนน้องสาวต้องรีบกระโดดปิดปากผู้เป็นพี่ทันที
?ข้าจะดูแลเจ้าหญิงซาเรนเทียน่าเป็นอย่างดี ขอให้ท่านโปรดวางใจ? พาฟลอฟพูดขึ้น อาเมด้าเลิกคิ้วสูงขึ้นอย่างแปลกใจ
?เจ้าจะดูแลน้องสาวของข้าในฐานะอะไรหรือ?? เธอเอ่ยถาม ทั้งสองคนต่างมองหน้ากันเลิกลั่กก่อนจะช่วยกันอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เจ้าหญิงอาเมด้าฟังอย่างหมดเปลือก
?เฮ่อ...ข้าล่ะปวดหัวกับพวกเจ้าเสียจริง ๆ? อาเมด้าถอนหายใจพลางส่ายหัวไปมาอย่างเหนื่อยอ่อนก่อนจะจับไหล่บางของผู้เป็นน้องสาวให้หันมาเผชิญหน้าอีกครั้ง ?ดูแลตัวเองดี ๆ ด้วยนะซาเรนเทียน่า?
?เพคะ ข้าจะดูแลตัวเองดี ๆ ท่านพี่ไม่ต้องห่วงนะเพคะ? ซาเรนเทียน่าพูดก่อนจะโผเข้ากอดผู้เป็นพี่สาว ในยามนี้เธอรู้สึกใจหายวาบเมื่อนึกรู้ว่าจะต้องออกไปจากที่นี่จริง ๆ สองคนพี่น้องกอดกันกลมเพื่อเป็นการอำลา

เมื่อเสียงระฆังร้องดังกังวานในยามเที่ยงคืน เงาของร่างแมวสีขาวตัวเล็กค่อย ๆ ย่องผ่านแต่ละห้องในวังอย่างเงียบกริบ ดวงตาสีเหลืองอำพันหยุดอยู่ตรงหน้าห้องบรรทมของพระราชินีแห่งดินแดนเทพ แววตาเศร้าสร้อยปรากฏขึ้นมาอย่างเด่นชัด น้ำใส ๆ เอ่อล้นอยู่ใต้เปลือกตาก่อนจะตัดใจวิ่งผ่านหน้าห้องนั้นไปโดยที่ไม่เหลียวกลับมามอง
?นั่นเจ้าไปไหนไหนหรือโมโม่?? ทหารยามเอ่ยถามในขณะที่แมวเหมียวร่างเล็กเดินเข้ามายังเขตรักษาความปลอดภัยชั้นนอก
?ข้านัดเพื่อนไว้นอกวัง? เสียงหวานใสที่ถูกดัดแปลงให้หวานและอ่อนโยนเหมือนเจ้าของชื่อเอ่ยตอบ พาฟลอฟที่ถูกเสกให้กลายเป็นเห็บอีกครั้ง แอบกลั้นหัวเราะเอาไว้ ทหารยามพยักหน้าหงึกหงักและปล่อยให้มันเดินผ่านไปอย่างไม่นึกสงสัย ซาเรนเทียน่าแอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่สามารถผ่านออกมาอย่างง่ายดายอีกครั้ง
แสงจันทราสีเหลืองนวลสาดส่องลงมายังร่างเล็กสีขาวที่กำลังวิ่งผ่านหมู่บ้านเทพที่งดงามแปลกตา สี่เท้าลัดเลาะตามซอกซอยต่าง ๆ และมุ่งหน้าเข้าสู่สวนท้ายหมู่บ้านซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้สีขาวหนาแน่น ซาเรนเทียน่าทั้งวิ่งและกระโดดข้ามเถาวัลย์สลับกันไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดเธอก็เข้ามาถึงใจกลางของสวนแห่งนี้ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
วาบ!
แสงสีขาวนวลโอบล้อมร่างของแมวตัวเล็กตามบทเวทที่ถูกร่ายขึ้นมาเพื่อกลับคืนสู่ร่างเดิม
ตุ้บ!
?โอ๊ย แค่ก ๆ รีบลุกออกไปสิเจ้ามนุษย์? หญิงสาวเอ่ยสั่งชายหนุ่มที่นอนทับร่างของเธอ เขาสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ซาเรนเทียน่าปัดเศษใบไม้ที่ติดอยู่บนชุดอย่างทุลักทุเล
?นี่เจ้าจะยืนปัดเศษใบไม้นั่นทั้งคืนเลยหรือไง?? พาฟลอฟถามประชดหญิงสาวที่ส่งสายตาเขียวปัดชวนสยองมาให้ ก่อนจะเดินเข้ามาลากร่างสูงของชายหนุ่มขึ้นไปยืนอยู่บนขอบบ่อน้ำและกระโดดลงไปอย่างรวดเร็ว
?อ๊ากกกกกก?
พาฟลอฟร้องตะโกนเสียงดังลั่นเมื่อร่างของเขาดิ่งพสุธาลงมาด้วยความเร็วสูง T^T ก่อนที่จะค่อย ๆ ลดระดับความเร็วลงเมื่อมือบอบบางของซาเรนเทียน่าเอื้อมมาจับมือของเขาเอาไว้ ร่างของทั้งสองโบยบินอยู่บนท้องนภาอย่างสง่า หญิงสาวคลี่ยิ้มอย่างสุขใจพลางสูดหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงคำว่า อิสรเสรี อย่างแท้จริง
?ว้าว! วิวสวยชะมัดเลย? พาฟลอฟครางออกมาเบา ๆ ด้วยความรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับภาพทิวทัศน์ที่อยู่เบื้องล่าง ต้นไม้หนาแน่นและดอกไม้หลากสีต่างช่วยกันแต่งแต้มสีสันให้แก่ผืนแผ่นดิน แม่น้ำสายใหญ่ที่ไหล่ผ่านช่วยโอบอุ้มและหล่อเลี้ยงสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่อยู่รอบข้างให้มีความสุขและอุดมสมบูรณ์ ซาเรนเทียน่าเหลือบมองคนข้าง ๆ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฎขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องสนุกอะไรบางอย่าง
?อ๊ากกกก หยุดน้า?
ร่างของทั้งคู่พุ่งตัวลงมาเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว เสียงร้องของเขาดังขึ้นสลับกับเสียงหัวเราะอย่างร่าเริงของหญิงสาว ทันทีที่เท้าของทั้งคู่สัมผัสกับพื้นดิน เจ้าชายหนุ่มรูปงามก็รีบวิ่งแจ้นไปยังใต้ต้นไม้ใหญ่(ที่แสนจะโชคร้าย)เพื่อคายของเก่าออกมาอย่างหมดท่า ตัวต้นเหตุยืนกอดอกและหัวเราะกับท่าทางของอีกฝ่ายอย่างนึกขำ
?เจ้ารู้หรือเปล่าว่าเมื่อกี้ข้าเกือบหัวใจวายตาย?
ซาเรนเทียน่ายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจก่อนจะเอื้อมมือไปลูบปีกขนนกของตัวเองไปมา ?ไม่รู้ ก็ข้าแค่รู้สึกว่ามันสนุกดี?
?สนุก?
?ใช่ ใครจะไปคิดว่าเจ้าชายพาฟลอฟแห่งดินแดนมนุษย์จะปอดแหก?
?ฮึ่ม...ใครว่าข้าปอดแหกกันล่ะ พูดให้ดี ๆ นะ ไม่งั้น...? เขาพูดทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงยานคางพลางเดินทำหน้าหื่นเข้าไปหาอีกฝ่ายที่มองเขาอย่างระแวงและถอยกรูดไปข้างหลังจนชนกับต้นไม้ใหญ่เข้าอย่างจัง พาฟลอฟตรงเข้าประชิดตัวเธออย่างรวดเร็วและจับมือทั้งสองข้างของหญิงสาวทาบกับลำต้นของต้นไม้
พลั่ก!!!
ซาเรนเทียน่ากระทุ้งเข่าใส่หน้าท้องกำยำของพาฟลอฟจนเขาล้มหงายหลังลงไปกองบนพื้น ร่างสูงนอนงอตัวด้วยความจุก ใบหน้าหล่อเหลาเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวจากความเจ็บปวดที่หญิงสาวตรงหน้ามอบให้ได้อย่างน่าประทับใจ
?คราวหน้าถ้าเจ้าทำหื่นใส่ข้าแบบนี้อีกล่ะก็ แม่จะซัดให้กระดูกหักเลย?
?โหด! ข้าแค่จะล้อเล่นกับเจ้าเท่านั้นเองนะ?
?งั้นเจ้าก็จงภูมิใจซะ เพราะข้าเพิ่งโหดกับเจ้าเป็นคนแรก?
?ขอบคุณ? พาฟลอฟตอบประชดพลางลุกขึ้นยืนหลังจากที่เริ่มหายจุกเสียดแล้วและปัดเศษหญ้าออกจากกางเกงและเสื้อของเขาเสียยกใหญ่ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นสูงเมื่ออีกฝ่ายยื่นมือมาข้างหน้าเพื่อขออะไรบางอย่าง ?อะไร? ถ้าจะขอความรักจากข้า ข้าไม่มีให้หญิงโหดอย่างเจ้าหรอกนะ?
?หึหึ เจ้าพูดว่าอะไรนะ เจ้าชายพาฟลอฟ?? เธอหัวเราะเสียงเย็นพลางทำท่าหักนิ้วมือตัวเองเสียงดังกร๊อบ ประกอบกับดวงตาคู่กลมโตที่หรี่ลงมาอย่างมุ่งร้าย ?เจ้าลองพูดมาอีกทีสิ? เธอเอ่ยสั่งพลางเดินเข้าไปใกล้ พาฟลอฟเปลี่ยนเป็นฝ่ายถอยกรูดไปข้างหลังบ้างและรีบส่ายหัววืด ๆ
?โธ่ ข้าแค่ล้อเล่นเท่านั้นเองนะเจ้าหญิงซาเรนเทียน่าที่แสนอ่อนโยนและน่ารัก?
?ชิ อย่ามาแสร้งพูดประจบ เดี๋ยวแม่ซัดฟันร่วงเลยนี่?
?หะ โหดร้ายชะมัดเลย? พาฟลอฟถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นพร้อมทั้งล้วงหยิบขวดแก้วใบเล็กที่บรรจุน้ำยาสีเขียวไว้เต็มและยื่นให้กับหญิงสาว เธอรีบคว้ามันมาจากมือของเขา แววตาที่แสดงถึงความลังเลใจฉายขึ้นมาแว่บหนึ่งก่อนจะตัดสินใจเปิดฝาขวดและดื่มมันลงไปรวดเดียว
?มันเป็นยังไงบ้าง??
?อืม...ก็หวานและหอมมากเลย อ๊ะ? จู่ ๆ เธอก็เบิกตากว้างขึ้นอย่างตกใจ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวจากความเจ็บปวดอย่างทรมานที่เกิดขึ้นตรงบริเวณหลังและทรุดลงไปนั่งบนพื้น พาฟลอฟรีบปรี่เข้าไปประคองเธออย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ ใบหน้าของเธอยามนี้ขาวซีดอย่างน่ากลัวและยังมีเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นมามากมาย ร่างบางสั่นสะท้านก่อนจะกระตุกอย่างแรงเมื่อปีกขนนกคู่สวยถูกกระชากออกจากแผ่นหลังจากมือที่มองไม่เห็น
?ซาเรนเทียน่า!?
ใบไม้ขนาดใหญ่ถูกเด็ดออกมาจากกิ่งไม้ที่โน้มตัวลงมากำลังทำหน้าที่มอบสายลมอ่อน ๆ ให้กับร่างบางที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนตักของเจ้าชายหนุ่มรูปงามมาดกวน พาฟลอฟนั่งพัดให้กับหญิงสาวพลางใช้แขนเสื้อซับเหงื่อให้เธอเรื่อย ๆ นัยน์ตาสีม่วงหยุดอยู่ตรงใบหน้าที่งดงามของเธอ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้ม
แอบลักหลับดีไหมเนี่ย?...
เขาไม่คิดเปล่า ใบหน้าคมเข้มของพาฟลอฟค่อย ๆ โน้มเข้าใกล้ใบหน้าของซาเรนเทียน่าเรื่อย ๆ จนบัดนี้เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของอีกฝ่าย ในขณะที่ริมฝีปากของเขากำลังจะประทับตราลงบนริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ มือข้างหนึ่งก็ยกชูขึ้นกลางอากาศและ...
ป้าบ!!!
มือข้างนั้นของซาเรนเทียน่าบรรจงฟาดไปกลางหลังของชายหนุ่มอย่างแรงทำให้จมูกของเขาเลื่อนไปกดลงบนแก้มขาวเนียนหญิงสาวแทน พาฟลอฟสะดุ้งโหยงทันทีก่อนที่คนทั้งคู่จะรีบแยกออกจากกัน
?ขะ ขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจนะ? เขาพูดละล่ำละลักอย่างร้อนรนเมื่อมองเห็นสายตาที่แสนจะน่ากลัวของซาเรนเทียน่า เธอเดินย่างสามขุมเข้ามาหาเขาด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความขุ่นเคืองได้อย่างชัดเจน แต่แล้วเธอก็หยุดชะงักทันทีเมื่อรับรู้ถึงอะไรบางอย่างที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้พวกเขา ซาเรนเทียน่าสะบัดแขนข้างขวา ลูกพลังสีเขียวอ่อนพุ่งออกจากมือของเธอทันที
ตู้มมมมม...
ร่างของคนป่านับสิบที่มีหอกแหลมคมเป็นอาวุธต่างลอยกระจัดกระจายจากแรงระเบิดที่อัดร่างของพวกเขา ตามด้วยคนป่าอีกกลุ่มที่ถูกลูกพลังของซาเรนเทียน่าอัดกระแทก พาฟลอฟยืนอ้าปากค้างกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หญิงสาวรีบลากชายหนุ่มให้วิ่งหนีออกไปจากที่นี่ก่อนที่พวกมันจะฟื้นขึ้นมาเล่นงานพวกเขาอีกครั้ง
แฮ่ก แฮ่ก...
เสียงหอบหายใจของคนทั้งคู่ดังขึ้นพร้อม ๆ กับขาทั้งสองข้างที่วิ่งพาร่างของพวกเขาหนีออกมาจากพื้นที่อันตรายแบบนั้น เมื่อแน่ใจแล้วว่าพวกเขาอยู่ห่างออกมามากพอสมควรจึงหยุดพักเหนื่อยที่ใต้ต้นไม้ใหญ่
?นี่ข้าไม่เคยรู้เลยว่าอาณาจักรของข้าจะมีพวกคนป่าแบบนี้ด้วย? เขาพูดพร้อมทั้งนวดท้องของตัวเองไปมาด้วยความเหนื่อยอ่อน ซาเรนเทียน่าก็หอบหายใจไม่แพ้เขาเช่นกันก่อนจะกระอักเลือดสีขาวออกมา พาฟลอฟมองเธอด้วยสีหน้าตกใจพร้อมทั้งเข้าประคองเธอด้วยความเป็นห่วง
?อย่าทำหน้าเหมือนว่าข้าจะตายได้ไหม ข้าก็แค่ใช้พลังเวทมากไปแค่นั้นเอง? เธอพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดพลางผลักร่างใหญ่ของเขาให้ออกห่าง
?งั้นก็ดีแล้ว เพราะข้าคงลำบากแย่เวลาขุดหลุมฝังศพเจ้าน่ะ?
?จะ เจ้า ฮึ้ย ฝากไว้ก่อนเถอะ? พูดจบเธอก็เดินปึงปังออกไปด้วยความหงุดหงิด
?เดี๋ยวก่อน?
?อะไรอีกล่ะ?? เธอหยุดชะงักและหันมามองเขาสายตาเขียวปัด
?เจ้าไปผิดทางนะสิ พระราชวังของเข้าไปทางนี้ต่างหากล่ะ? เจ้าชายพาฟลอฟพูดพลางชี้นิ้วไปอีกทาง หญิงสาวกระแอมไอเสียงดังก่อนจะเดินกลับมายังเส้นทางที่ชายหนุ่มชี้
เป๊าะ!
ซาเรนเทียน่าดีดนิ้ว ม้าสีขาวสะอาดสองตัวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า เธอกระโดดขึ้นมานั่งบนหลังของม้าตัวแรก แทนที่พาฟลอฟจะกระโดดขึ้นนั่งบนหลังของม้าตัวที่สองเขากลับกระโดดขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนม้าตัวเดียวกันกับเจ้าหญิงแห่งดินแดนเทพ
?ไม่เห็นหรือไงว่ามีม้าอีกตัวสำหรับเจ้าน่ะ?
?อะไรกัน เจ้าลืมแล้วหรือไงว่าเราจะต้องแสดงละครว่าเป็นคนรักกันนะ?
?แล้วไง??
?อ้าว ถ้าเราสองคนขี่ม้าไปคนละตัวมันก็ไม่สมกับเป็นคู่รักนะสิ เพราะฉะนั้นเราต้องทำแบบนี้? พูดจบเขาก็เอื้อมมือจับเชือกที่ใช้บังคับม้าทำให้ร่างของซาเรนเทียน่าตกอยู่ในอ้อมกอดของเขาโดยปริยาย แก้มขาวเนียนของเธอขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างไม่ตั้งใจ พาฟลอฟตบเท้าเข้าที่ข้างลำตัวของม้าตัวนั้นเบา ๆ และเดินทางไปตามเส้นทางคดโค้งซึ่งเป็นหนทางนำไปสู่พระราชวังอันยิ่งใหญ่ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก
ขอฝากนิยายแนวรักแฟนตาซีด้วยนะคะ (-/\-)

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”