[นิยาย] ซาเรนเทียน่า เจ้าหญิงแสนซนกับเจ้าชายอลเวง (1)

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
aa_narak
โพสต์: 4
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 09 มิ.ย. 2007 12:49 am

[นิยาย] ซาเรนเทียน่า เจ้าหญิงแสนซนกับเจ้าชายอลเวง (1)

โพสต์ โดย aa_narak »

ภายในห้องทรงพระอักษร ใบหน้างดงามนั่งจดจ้องตำราเล่มใหญ่ยักษ์ที่วางไว้เบื้องหน้า ดวงตากลมโตสีน้ำเงินฉายแววเบื่อหน่ายข้อความรู้ในตำราเสียเต็มที่ มือเรียวยาวใช้ป้องปากที่เริ่มหาวด้วยความง่วงนอนอีกครั้งก่อนจะวางหน้าผากมนไว้บนหน้ากระดาษราวกับมันสามารถทำให้ตัวอักษรในตำรานั้นซึมซับเข้าหัวได้อย่างรวดเร็วทันใจโดยไม่ต้องเสียเวลาอ่านมันเลยสักนิด และการกระทำเช่นนี้ส่งผลให้ชายหนุ่มที่กำลังนั่งสาธยายถึงข้อความในตำราที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานานหยุดชะงักและถอนหายใจ
?ตั้งใจหน่อยสิเจ้าหญิงซาเรนเทียน่า? เสียงพูดปรามที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนของเขาทำให้หญิงสาวผู้เลอโฉมเปลี่ยนอิริยาบถด้วยความหงุดหงิดใจ คิ้วเรียวงามขมวดเข้าหากันเป็นปมแต่ก็มิได้ทำให้ความงดงามบนใบหน้าเลือนหายไปสักนิด
?นอกจากเจ้าจะเป็นคู่หมั้นของข้าแล้ว เจ้ายังคิดที่จะเป็นท่านพ่อของข้าอีกหรือเจ้าชายดาร์วิน?? น้ำเสียงเอ่ยถามราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความประชดชันของหญิงสาวตรงหน้าทำให้เจ้าชายหนุ่มรูปงามอมยิ้ม
?หาเป็นเช่นนั้นไม่ สิ่งที่ข้าคาดหวังกลับเป็นอย่างอื่นเสียมากกว่า? คำตอบที่แฝงความนัยของเขาทำให้คิ้วเรียวงามของซาเรนเทียน่ากระตุกด้วยความโกรธเคือง ก่อนจะลุกขึ้นและเดินก้าวฉับ ๆ ออกไป แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวพ้นออกไปนอกห้องนี้ก็ถูกดาร์วินคว้าแขนเอาไว้
?ข้ารักเจ้านะซาเรนเทียน่า เมื่อไหร่เจ้าถึงจะใจตรงกันกับข้าเสียที??
?แต่ข้าไม่ได้รักเจ้านะดาร์วิน และก็จะไม่มีวันรักด้วย? พูดจบเธอก็สะบัดแขนออกด้วยแรงที่มีมากมายเกินหญิงและเดินออกไปทันที ทิ้งให้คู่หมั้นหนุ่มยืนมองเธอด้วยแววตาแสนเศร้าอยู่เบื้องหลัง

?โอ๊ย เบื่อ ๆ ๆ ๆ? เสียงร้องตะโกนดังขึ้นพร้อม ๆ กับเสียงวัตถุที่มีน้ำหนักหลากหลายชิ้นตกลงบนพื้นดังเล็ดลอดออกไปด้านนอก เหล่านางกำนัลต่างรีบก้มเก็บสิ่งของเหล่านั้นเป็นการใหญ่
?พอเถอะเพคะเจ้าหญิง สิ่งของพวกนั้นมันไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลยนะเพคะ? เสียงหวานใสดังขึ้นจากร่างของแมวเหมียวขนสีขาวฟูฟ่อง มันกระโดดนั่งบนตักเจ้านายที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ เซเรนเทียน่าพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียง
?ก็ข้าเบื่อนี่โมโม่ วัน ๆ ได้แต่นั่งอ่านตำราและฟังเรื่องเดิม ๆ ซ้ำซากอยู่นั่นแหละ แถมอีตาเจ้าชายนั่นก็ทำตัวราวกับเป็นท่านพ่อของข้าเสียอีก?
?โธ่เจ้าหญิง ทรงตรัสถึงเจ้าชายดาร์วินแบบนั้นมันจะไม่งามนะเพคะ อย่างไรเสียเขาก็เป็นคู่หมั้นของท่านนะเพคะ?
?เชอะ ก็แค่คู่หมั้นของข้าเท่านั้นแหละ?ซาเรนเทียน่าเบ้ปาก
?แล้วใครบอกว่าเจ้าชายดาร์วินจะเป็นเพียงแค่คู่หมั้นของลูกเท่านั้น? น้ำเสียงดุดันของผู้มาเยือนคนใหม่ทำให้เด็กสาวที่กำลังนอนอย่างสบายใจถึงกับสะดุ้งเฮือกและรีบลุกขึ้นนั่งอย่างสงบเสงี่ยมทันที
?ลูกไม่ได้รักเจ้าชายดาร์วินเลยนะเพคะท่านพ่อ ท่านตกลงกับท่านลุงโดยที่ข้าไม่รู้เรื่องเลยสักนิด? เจ้าหญิงน้อยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานผิดกับก่อนหน้านั้นลิบลับ
?แต่เจ้าต้องแต่งงานนะซาเรนเทียน่า?
?ไม่ ข้าไม่ยอมแต่งเด็ดขาด? เธอตะโกนดังลั่นโดยไม่สนใจภาพพจน์ของเจ้าหญิงผู้สูงส่ง เหล่านางกำนัลต่างรีบออกไปจากห้องเพราะรู้ฤทธิ์ของเจ้าหญิงเป็นอย่างดี

?อย่ามาเถียงข้าซาเรนเทียน่า งานมงคลของเจ้าและเจ้าชายดาร์วินจะจัดขึ้นอาทิตย์หน้า ห้ามเจ้าออกไปเที่ยวเล่นซนนอกวังเหมือนเมื่อก่อนอีกเด็ดขาด? พระเจ้าบิโรเนียเอ่ยสั่งด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยวและเดินออกจากห้องไปทันทีก่อนที่ประตูบานใหญ่จะถูกปิดลง
?ท่านพ่อใจร้ายที่สุดเลย? เธอร้องตะโกนไล่หลังอย่างเดือดดาลพร้อมทั้งเริ่มขว้างปาข้าวของในห้องอีกครั้ง ไม่นานนักอารมณ์ที่พลุ่งพล่านภายในจิตใจเริ่มลดลง ร่างบางนั่งหอบบนเตียงด้วยความเหนื่อย เสียงเคาะประตูทำให้หญิงสาวหันไปมองก่อนจะฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นผู้มาเยือนคนใหม่

?เฮ่อ...เมื่อไหร่เจ้าจะเลิกขว้างปาข้าวของเหมือนเด็ก ๆ เสียทีนะเซเรนเทียน่า? หญิงสาวที่มีความงดงามเฉกเช่นเธอส่ายหัวอย่างเอือมระอาก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ ร่างบางของน้องสาว
?อาเมด้าช่วยข้าด้วยสิ ข้าไม่อยากแต่งงานกับเจ้าชายดาร์วินนั่นเลยสักนิด ทำไมท่านพ่อต้องบังคับให้ข้าแต่งงานด้วยทั้ง ๆ ที่ท่านพี่ก็ยังไม่ได้แต่งงานเหมือนกันนี่นา? เธอพูดพร้อมทั้งเขย่าแขนพี่สาวไปมาด้วยความร้อนรน
?โธ่เซเรนเทียน่า ข้าเองก็อยากช่วยเจ้าเช่นกัน แต่ให้ช่วยพูดกับท่านพ่อคงจะยาก ขนาดท่านแม่เองยังไม่กล้าพูดเรื่องนี้เลยนะ? คำตอบของอาเมด้าทำให้เจ้าหญิงน้อยคอตกด้วยความผิดหวัง โมโม่ได้แต่เลียมือปลอบใจผู้เป็นนายด้วยความสงสาร ?คงมีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นล่ะมั้ง? อาเมด้าพูดพึมพำเสียงเบาแต่ก็ไม่สามารถพ้นคนหูดีไปได้
?หา เจ้ามีวิธีหรืออาเมด้า? เซเรนเทียน่าเบิกตากว้าง และนั่นยิ่งทำให้ดวงตากลมโตมากขึ้นไปอีก ผู้เป็นพี่ถึงกับสะดุ้งและรีบส่ายหัววืด ๆ ทันที ?โธ่ เจ้าไม่สงสารข้าหรือ?? เจ้าหญิงน้อยเอ่ยถามผู้เป็นพี่ด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ อาเมด้าทำท่าลังเลว่าควรจะบอกน้องสาวดีหรือไม่ แต่พอเห็นท่าทางและแววตาของน้องสาวตัวดีแล้ว เธอก็พ่นลมหายใจออกมา
?เจ้าต้องหนีไปดินแดนมนุษย์ล่ะ? เธอพูดเสียงกระซิบที่แผ่วเบา เซเรนเทียน่าถึงกับตาโตทันทีที่ได้ยินข้อเสนอของพี่สาว
?อย่าเชียวนะเพคะเจ้าหญิง ถ้าโดนจับได้ล่ะก็ อึ๋ย ข้าไม่อยากคิดเลย? โมโม่พูดขึ้นเพื่อขัดขวาง แต่มันกลับไม่เข้าหัวผู้เป็นนายเลยสักนิด
?น่าสนใจเหมือนกันแฮะ ว่าแต่ข้าจะจัดการกับปีกขนนกยังไงล่ะ เพราะในตำรามันบอกว่าบรรดาเทพทั้งหลายที่ย่างกรายไปยังดินแดนมนุษย์จะมีปีกโผล่ออกมาด้านหลังเพื่อบ่งบอกถึงความแตกต่างระหว่างเผ่าพันธุ์?
?อืม...ข้อนี้ข้าเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน งั้นข้าจะลองไปถามท่านผู้เฒ่าซากัสมาให้ก็แล้วกัน?
?อาเมด้าจ๋า? เจ้าหญิงน้อยฉีกยิ้มกว้างพลางเอานิ้วสะกิดแขนของพี่สาว ผู้ถูกสะกิดเรียกกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นเมื่อนึกรู้ว่าน้องสาวจะเอ่ยขอสิ่งใด
?อย่าเชียวนะเซเรนเทียน่า ข้ายังไม่บอกเจ้าตอนนี้หรอก?
?โธ่ พี่อาเมด้าไม่สงสารน้องสาวตาดำ ๆ คนนี้บ้างหรืออย่างไร ข้าก็แค่อยากลองไปวิ่งเที่ยวเล่นที่ดินแดนมนุษย์ดูก่อนเท่านั้นเองนะ และอีกอย่างก็จะได้เป็นการพิสูจน์ว่าสิ่งที่ตำราบอกนั้นมันเป็นความจริงไงล่ะ นะ ๆ?
?ไม่ได้?

ร่างผอมเพรียวของแมวสีขาวเดินเชิดคอขึ้นอย่างสง่า ตามด้วยพรรคพวกอีกสองตัวซึ่งมีสีชมพูและสีฟ้าตามลำดับ พวกมันเดินผ่านเหล่าทหารยามทางด้านประตูหลังของวังสีขาวที่ทั้งงดงามและอลังการมากมาย
?เอ๊ะ ข้าไม่เคยเห็นแมวสองตัวนั้นในเขตพระราชฐานเลยนะ? ทหารยามคนหนึ่งพูดขึ้นในขณะที่แมวทั้งสามเดินผ่านไป
?พวกข้าเป็นสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของเจ้าหญิงซาเรนเทียน่า? อาเมด้าในร่างของแมวเหมียวสีฟ้าพูดดัดเสียงให้แปลกไปกว่าเดิม ส่วนซาเรนเทียน่าที่อยู่ในร่างแมวสีชมพูกระโดดฝากรอยข่วนให้เป็นที่ระลึกให้กับทหารยามคนนั้นเพราะเธอรู้สึกหมั่นไส้มานาน ก่อนจะเชิดคอขึ้นและเดินจากไปอย่างสง่างาม
ไม่นานนักแมวเหมียวทั้งสามตัวก็เดินผ่านพ้นเขตการรักษาความปลอดภัยซึ่งมีอยู่หลายชั้นได้ในที่สุด ภายนอกเขตพระราชฐานเป็นหมู่บ้านของบรรดาเทพชั้นสามัญทั้งหลายซึ่งแบ่งออกเป็นสัดส่วนอย่างลงตัวและเป็นระเบียบ แมวทั้งสามตัวต่างเดินหลบหลีกพวกเทพที่ต่างเร่งฝีเท้าไปยังโรงละครซึ่งกำลังจะเริ่มการแสดงขึ้นในอีกไม่ช้า
?ไปทางไหนต่อหรือเพคะเจ้าหญิง?? โมโม่เอ่ยถาม ซาเรนเทียน่าส่ายหัววืด ๆ ก่อนจะใช้เท้าหน้าสะกิดขาของพี่สาว
?ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน?
?อ้าว!? แมวเหมียวอีกสองตัวร้องอุทานขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง
?อ่ะล้อเล่น ขำ ๆ น่า?
?หม่อมฉันไม่ขำ ๆ ด้วยนะเพคะ?
?หึหึ? เสียงหัวเราะเยือกเย็นสองครั้งบวกกับดวงตาคู่โตที่หรี่ลงส่งผลให้เจ้าหญิงขี้เล่นถึงกับหุบยิ้มและกระแอมไอเสียงดังเพื่อเรียกความจริงจังกลับคืนมา เจ้าหญิงอาเมด้าวิ่งเหยาะ ๆ ไปยังสวนท้ายหมู่บ้าน ใบไม้รูปห้าแฉกสีทองร่วงหล่นใส่ร่างเล็กทั้งสามที่วิ่งตามกันเข้าไปยังด้านในซึ่งลึกเข้าไปเรื่อย ๆ และหยุดอยู่ตรงบริเวณหนึ่ง บทเวทย์สั้น ๆ ได้เริ่มขึ้น
วาบ!
แสงสีขาวนวลอาบร่างแมวสีฟ้าเอาไว้ จากร่างที่มีขนาดเล็กขยายใหญ่ขึ้นจนเป็นรูปร่างของคน เมื่อแสงสีขาวนวลเลือนหายไปก็เผยให้เห็นร่างของหญิงสาวงดงามผู้สูงศักดิ์ทั้งสองยืนคู่กัน ร่างเล็กของโมโม่อยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นนาย
?นั่นไง มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่นี่จริง ๆ ด้วย? อาเมด้าฉีกยิ้มกว้างพลางวิ่งกระโดดข้ามเถาวัลย์และท่อนไม้ขนาดยักษ์ไปยังบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้า ตามด้วยเจ้าหญิงแสนซนที่เอียงคออย่างสงสัย
?ท่านพี่รู้ได้ยังไงว่าที่นี่มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ทำไมข้าไม่เห็นเคยได้ยินพวกเทพพูดถึงบ่อน้ำแห่งนี้เลยล่ะ?
?ข้าเคยเข้าไปแอบอ่านตำราของท่านพ่อในห้องนะสิ มันบอกว่าบ่อน้ำแห่งนี้เป็นประตูนำทางไปสู่ดินแดนแห่งมนุษย์ มีเพียงสายเลือดกษัตริย์แห่งปวงเทพเท่านั้นที่สามารถมองเห็นและใช้บ่อน้ำแห่งนี้ได้?
?ถ้างั้นเจ้าก็มองไม่เห็นมันใช่ไหมโมโม่??
?เพคะ หม่อมฉันเห็นเพียงแค่ท่อนไม้เก่า ๆ ผุพังวางเรียงซ้อนทับกันเท่านั้นเพคะ? โมโม่เอ่ยตอบผู้เป็นนาย รอยยิ้มอย่างนึกสนุกผุดขึ้นใบหน้าขาวเนียน
?งั้นเราลองลงไปข้างล่างกันดูไหมพี่อาเมด้า??
?ข้าลงไปตอนนี้ไม่ได้หรอกซาเรนเทียน่า ข้าจะต้องรีบกลับไปเรียนวิชาเวทต่อนะสิ? อาเมด้าพูดพร้อมทั้งพ่นลมหายใจอย่างเบื่อหน่าย ?เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าเห็นแล้วว่ามันอยู่ที่ไหนก็กลับกันได้แล้ว?
หมับ! มือเรียวบางรีบคว้าแขนของพี่สาวอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งส่งสายตาเป็นประกายอีกครั้ง

?คราวนี้ข้าไม่ตามใจเจ้าแล้วนะซาเรนเทียน่า? เจ้าหญิงอาเมด้าพูดเสียงแข็งก่อนจะพยายามแกะมือของน้องสาวออก
?โอ้ว...วันนี้ทำไมพี่อาเมด้าถึงได้งดงามกว่าทุกวัน ดูสิ ผิวขาวเปล่งปลั่งเหมือนไข่มุกชั้นเลิศเชียวนะ?
?อ๊ะ จริงเหรอ?? อาเมด้าฉีกยิ้มหวาน ?แหม...อันที่จริงข้าก็รู้ตัวดีอยู่หรอกนะ แต่พอได้ยินเจ้าออกปากชมข้าแบบนี้ ข้าก็เขินเป็นเหมือนกันนะ โฮะ ๆ?
?แล้วข้าก็ยังได้ยินเสียงร่ำลือจากพวกเทพอีกว่า ท่านพี่น่ะนะเป็นเจ้าหญิงที่งดงามทั้งภายนอกและภายใน?
?แหม ๆ เขาร่ำลือกันแบบนั้นจริงหรือเนี่ย??
?จริงสิเพคะ? ซาเรนเทียน่าฉีกยิ้มกว้าง ดวงตาสีน้ำเงินกลมโตฉายแววเจ้าเล่ห์เต็มที่เมื่อมองเห็นพี่สาวทำท่าทางเคลิ้มฝันและสติเริ่มหลุดลอย ?ท่านพี่ให้ข้าไปนะ??
?เจ้าหญิง อุ๊บ อ่าอ๋งอนอ๊ะเออ๊ะ(อย่าหลงกลนะเพคะ)?
?ไปสิจ๊ะ อุ้บ? เจ้าหญิงอาเมด้าเบิกตากว้างพร้อมทั้งเอามือป้องปากด้วยความตกใจ ?โอ้ ไม่นะ ข้าหลงกลเข้าอีกแล้วหรือนี่?
?เยส ท่านพี่อนุญาตข้าแล้วนะ เจ้าหญิงที่ดีพูดแล้วไม่คืนคำนะเพคะท่านพี่? ซาเรนเทียน่ายิ้มแฉ่งพร้อมทั้งกระโดดโลดเต้นดีใจเหมือนเด็ก ๆ
?เจ้านี่มันเจ้าเล่ห์จริง ๆ เลย ข้าโกรธเจ้าจริง ๆ แล้วด้วย?
?โอ๋ ๆ พี่อาเมด้าจ๋าอย่าโกรธน้องเลยนะเพคะ? ซาเรนเทียน่าพูดเสียงออดอ้อนพร้อมทั้งเดินเข้าไปโอบกอดร่างบางของพี่สาวอย่างเอาอกเอาใจเหมือนดังเช่นทุกครั้ง ?พี่โกรธน้องลงจริง ๆ เหรอเพคะ?? คราวนี้เธอเปลี่ยนเป็นถามด้วยน้ำเสียงตัดพ้อเมื่อวิธีเดิมใช้ไม่ได้ผลพร้อมทั้งปั้นหน้าเศร้าประกอบไปด้วยเพื่อเรียกร้องความสงสาร โมโม่ที่ยืนมองได้แต่ส่ายหัวเพราะนึกรู้ว่าคราวนี้มันคงจะได้ผล
?เฮ่อ...ข้าไม่เคยโกรธเจ้าได้นานเกินสองนาทีเลยนะให้ตายเถอะ? อาเมด้าพ่นลมหายใจออกมา ?ลงไปยังดินแดนมนุษย์คนเดียวก็ระวังตัวด้วยนะ อย่าให้พวกมนุษย์มองเห็นล่ะ และที่สำคัญ น้องต้องกลับมาที่นี่ก่อนค่ำด้วยนะ? อาเมด้ารัวคำสั่งเป็นชุดพร้อมทั้งมองสาวที่ฉีกยิ้มกว้างอย่างนึกเป็นห่วง
?รับทราบเพคะ? พูดจบซาเรนเทียน่าก็ถลกกระโปรงที่ยาวรุ่มร่ามขึ้นเหนือเข่าและเดินขึ้นไปยังขั้นบันไดขนาดเล็กจนไปถึงขอบของปากบ่อน้ำ เธอหันมาโบกมือให้อย่างร่าเริงก่อนจะกระโดดลงไป
?เจ้ารอน้องข้าอยู่ที่นี่ก็แล้วกันนะโมโม่ ข้าต้องรีบกลับแล้วล่ะ? อาเมด้าเอ่ยสั่งแมวเหมียวตัวเล็กที่พยักหน้ารับก่อนจะร่ายเวทกลับเป็นแมวสีฟ้าอีกครั้งและวิ่งออกไป

ร่างบางของซาเรนเทียน่าที่บัดนี้มีปีกนกสีขาวสะอาดโผล่ออกมาจากด้านหลังกำลังบินร่อนลงไปยังพื้นดินเบื้องล่างอย่างสง่างาม แสงสีขาวนวลอาบทั่วทั้งตัวเพื่อป้องกันไม่ให้มนุษย์มองเห็นวิธีการลงมาของเธอ ทันทีที่เท้าทั้งสองสัมผัสบนพื้นดินแสงสีขาวนวลนั้นก็หายไป แต่ปีกสีขาวสง่ายังคงอยู่บนแผ่นหลัง
?ว้าว ข้ามีปีกจริง ๆ ด้วยแฮะ? เธอพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพลางเอื้อมมือลูบปีกขนนกที่ยื่นออกมาจากแผ่นหลัง เมื่อเธอลูบมันจนพอใจแล้วจึงหันมามองสิ่งที่อยู่รอบตัว ดวงตาสีเงินคู่โตเบิกกว้างอย่างตื่นเต้นเมื่อมองเห็นต้นไม้รูปร่างแปลกตาที่มีสีเขียว ใบไม้ของที่นี่มีหลากหลายรูปร่างไม่เหมือนบนดินแดนแห่งเทพ ที่นั่นมีเพียงใบไม้รูปร่างเดียวคือรูปห้าแฉกสีทองเท่านั้น ถัดออกไปเป็นทุ่งดอกไม้สีสวยสดใส แต่ละดอกต่างมีหมู่ภมรบินดอมดม ซาเรนเทียน่าถลกกระโปรงขึ้นเพื่อเดินลุยเข้าไปยังใจกลางของมัน ใบหน้างดงามเปื้อนรอยยิ้มเมื่อผีเสื้อปีกสวยบินมาเกาะบนหลังมือ เธอหัวเราะร่าเมื่อเหล่าผีเสื้อต่างบินห้อมล้อมเธอราวกับว่าเธอคือเทพธิดาแห่งดอกไม้ หญิงสาววิ่งกระโดดโลดเต้นอย่างสนุกสนาน
?ว๊าย!? เธอร้องอุทานขึ้นอย่างตกใจเมื่อเท้าข้างหนึ่งสะดุดอะไรบางอย่าง และเมื่อไม่สามารถทรงตัวได้ทัน ร่างบางก็เซถลาล้มลงไปบนพื้น เธอหลับตาปี๋อย่างหวาดเสียว
ตุ้บ!
ร่างบางล้มลงไปบนพื้น หากแต่พื้นดินของที่นี่ไม่ได้แข็งอย่างที่เธอคิด ความรู้สึกเมื่อตกลงไปสัมผัสกับมันคือ นุ่ม เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นก็พบว่าพื้นดินของที่นี่มีสีสันประหลาด แถมยังเคลื่อนไหวขึ้นลงเหมือนกับว่ามันหายใจได้ด้วย ครั้นพอเธอเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับใบหน้าเนียนใส จมูกโด่งได้รูปรับกับใบหน้าเรียวยาว ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลเข้ากับผมสีม่วงอ่อนที่พลิ้วไหวเบา ๆ ตามแรงลม
?จะ เจ้าเป็นใคร?? ซาเรนเทียน่าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตกใจพลางขยับเพื่อลุกขึ้นให้ออกห่างจากชายหนุ่มที่เป็นเบาะรองรับ หากแต่ร่างบางไม่สามารถขยับเขยื้อนได้อีกเมื่อแขนทั้งสองข้างของเขาโอบรัดร่างบางของเธออย่างเหนียวแน่น
?ข้าต่างหากที่ต้องถามว่าเจ้าเป็นใคร ข้านอนของข้าอยู่ดี ๆ ก็โดนเจ้ามานอนคร่อมทับอย่างถือสิทธิ์ แถมน้ำหนักตัวเจ้าก็ใช่ย่อยซะที่ไหน ถามจริง ๆ เถอะว่าก่อนหน้านี้เจ้าทานอาหารไปทั้งหมดกี่ตันกันแน่?? ชายหนุ่มตรงหน้าเอ่ยถามพร้อมทั้งยักคิ้วให้อย่างกวน ๆ ซาเรนเทียน่าเม้มปากแน่น
?กวนประสาทชะมัดเจ้าผู้ชาย?
?ริมฝีปากน่าจูบชะมัดเจ้าผู้หญิง? เขาไม่พูดเปล่า มือข้างหนึ่งรั้งศีรษะของหญิงสาวตรงหน้าลงมาอย่างรวดเร็วและประทับริมฝีปากได้อย่างพอดิบพอดี ซาเรนเทียน่าเบิกตากว้างกับการกระทำของมนุษย์คนแรกที่เธอได้พบเจอ มือทั้งสองข้างออกแรงดันแผ่นอกกำยำให้ออกห่าง แต่เรี่ยวแรงทั้งหมดดูเหมือนจะเหือดหายไปทันทีเมื่อลิ้นนุ่มของอีกฝ่ายเข้ารุกล้ำอย่างถือสิทธิ์ หัวใจของหญิงสาวเต้นระส่ำอย่างไม่เป็นจังหวะ ภาพใบหน้าของชายหนุ่มเริ่มพร่ามัวและเปลี่ยนเป็นมืดมิด ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออกเมื่อรู้สึกถึงความผิดปกติ
?คงเป็นจูบแรกละสินะ? รอยยิ้มผุดขึ้นมุมปากเมื่อมองดูใบหน้าขาวนวลของหญิงสาวที่ตกใจจนเป็นลมไป มือข้างหนึ่งของเขาวางทาบลงบนหน้าอกด้านซ้ายของตัวเองและสัมผัสได้ถึงความแรงของการเต้นของหัวใจที่มีไม่แพ้หญิงสาวเช่นกัน เขาค่อย ๆ พลิกกายออกห่างและสอดแขนทั้งสองเข้าไปใต้แผ่นหลังเล็กของหญิงสาวเพื่ออุ้มร่างของเธอขึ้น แต่แล้วคิ้วของเขาก็เลิกสูงขึ้นเมื่อเพิ่งสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ติดอยู่บนแผ่นหลังของเธอ มันคือ ปีกนกขนาดใหญ่
?เจ้าไม่ใช่มนุษย์หรือนี่? เป็นไปได้ยังไงกัน? เขาพึมพำเบา ๆ พร้อมทั้งมองหญิงสาวที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนพื้นหญ้า ใบหน้างดงามยามหลับใหลนั้น สะกดให้เขาคลี่ยิ้มอย่างลืมตัวและสติหลุดลอยไปชั่วขณะหนึ่ง มือใหญ่ควานหาผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะเดินไปยังธารน้ำใสแจ๋วสายเล็กที่ไหลเอื่อย ๆ ผ่านไป และกลับมาอีกครั้งโดยมีผ้าสีขาวผืนเล็กชุ่มน้ำพอหมาด เขาค่อย ๆ แตะผ้าบนใบหน้าของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา ไม่นานนักนิ้วเรียวบางเริ่มขยับเขยื้อนพร้อม ๆ กับเปลือกตาคู่บางที่ค่อย ๆ เปิดออกอย่างช้า ๆ ภาพพร่ามัวตรงหน้าถูกปรับให้เป็นปกติทีละนิด ๆ จนในที่สุดเธอก็มองเห็นใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายนั่งมองเธออยู่
พลั่ก!
?โอ๊ย!? ชายหนุ่มร้องเสียงหลงทันทีเมื่อโดนหญิงสาวที่เพิ่งฟื้นคืนสติเตะใส่เต็ม ๆ จนร่างของเขากระเด็นออกไปและแผ่นหลังกระแทกบนพื้นเสียงดัง ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บจากแรงเตะพลังช้างสารของหญิงสาว เขาค่อย ๆ พยุงตัวลุกขึ้นและปัดรอยเท้าที่ติดอยู่บนเสื้อของเขาอย่างทุลักทุเล
?เจ้าเป็นใครกัน กล้าดียังไงถึงทำกิริยากับข้าแบบนั้น?? ซาเรนเทียน่าเอ่ยถามเสียงแข็งพลางจ้องมองคนตรงหน้าเขม็ง
?แล้วเจ้าล่ะเป็นใครกัน กล้าดียังไงถึงมาเตะข้าแบบนั้น? แถมเจ้าก็ไม่ใช่มนุษย์ด้วย? อีกฝ่ายถามโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้ เจ้าหญิงแห่งดินแดนเทพเม้มปากแน่นก่อนจะเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งทะนง
?ข้าคือ เจ้าหญิงซาเรนเทียน่า แห่งดินแดนเทพอนาคาเซีย?
?ข้าคือ เจ้าชายพาฟลอฟ แห่งอาณาจักรวิคเซนเทรีย? คำตอบของชายหนุ่มตรงหน้าทำให้เด็กสาวมีใบหน้าบึ้งตึงเพราะไม่สามารถทำข่มได้อีก ?เจ้าเป็นเทพหรอกหรือ? ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้าเป็นถึงเจ้าหญิงแห่งดินแดนเทพ?
?ทำไมเจ้าถึงไม่เชื่อว่าข้าเป็นเจ้าหญิงแห่งดินแดนเทพ?? เธอเอ่ยถามพลางยืนกอดอกและมองคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง
?ก็ในจินตนาการของข้าตั้งแต่เด็ก ๆ น่ะ พวกเทพธิดาจะมีใบหน้าที่งดงาม กิริยาท่าทางและคำพูดอ่อนหวานปานน้ำผึ้งชั้นดี แต่ดูเจ้าสิ ใบหน้าก็โอเค พอรับได้ แต่นิสัยดุดันแถมพลังก็มีมากเกินหญิงอีกต่างหาก? เขาสาธยายออกมาเป็นชุด คิ้วเรียวยาวของคนที่เพิ่งถูกวิจารณ์กระตุกด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง
?เจ้าบังอาจว่าข้าหน้าตาพอรับได้ แล้วเจ้าล่ะคิดว่าตัวเองหน้าตาดีหรือไงกัน??
?แน่นอน ข้าน่ะหล่อเหลาไม่แพ้เทพบุตรบนดินแดนแห่งเทพของเจ้าหรอก เผลอ ๆ ข้าจะหล่อกว่าเสียด้วยซ้ำ? พาฟลอฟพูดพร้อมทั้งยืดอกขึ้นอย่างภูมิใจ ซาเรนเทียน่าเดินเข้าไปใกล้ชายหนุ่ม
เป๊าะ!
?อืม...หน้าหนาใช้ได้เลยแฮะ ฮ่ะ ๆ ๆ? เธอหัวเราะร่าอย่างสะใจหลังจากที่ใช้นิ้วดีดหน้าผากกว้างของพาฟลอฟ และรีบกระโดดออกห่างจากเขาทันที มือทั้งสองของเขาจึงคว้าได้เพียงอากาศ ซาเรนเทียน่าแลบลิ้นปริ้นตาใส่ก่อนจะวิ่งหนีเขาไป
?เฮ้ อย่าเพิ่งสิ ข้ายังคุยกับเจ้าไม่จบเลยนะซาเรนเทียน่า? เขารีบวิ่งจ้ำอ้าวตามร่างของหญิงสาวไปอย่างรวดเร็ว ซาเรนเทียน่ารีบวิ่งไปยังจุดเดิมที่เธอลงมา ปีกขนนกสีขาวกางออกมาอย่างสง่า แสงสีขาวนวลเริ่มอาบจากส่วนเท้าและค่อย ๆ ลามขึ้นไป ร่างบางลอยขึ้นจากพื้นและพร้อมที่จะโผบินกลับไปยังดินแดนแห่งเทพอีกครั้ง
หมับ!
มือข้างหนึ่งของพาฟลอฟคว้าข้อมือของเธอได้ ซาเรนเทียน่าเบิกตากว้างขึ้นอย่างตกใจกับการกระทำของเขา แสงสีขาวนวลลามจากข้อมือของเธอไปยังร่างสูงของเจ้าชายหนุ่มไปทั่วทั้งร่าง และแล้วร่างของเจ้าหญิงและเจ้าชายผู้สูงศักดิ์จากสองดินแดนก็หายไปด้วยกันภายใต้แสงสีขาวนวลทันที
++++++++++++
ขอฝากเนื้อฝากตัว ฝากนิยายด้วยนะคะ ^^"
ขอฝากนิยายแนวรักแฟนตาซีด้วยนะคะ (-/\-)

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”