ร้ายลวงรัก (เลิฟซีน18) ตอนที่3 เกือบไม่รอด

ถ้าเพื่อนๆ มีเรื่องที่น่าสนใจและต้องการแบ่งปันเนื้อหา หรือร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเขียนมืออาชีพ

Moderator: Gals, B.Comics, พี่บี

ตอบกลับโพส
NUK_FAA
โพสต์: 3
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 15 ม.ค. 2013 2:03 pm

ร้ายลวงรัก (เลิฟซีน18) ตอนที่3 เกือบไม่รอด

โพสต์ โดย NUK_FAA »

วิยะดาหายใจเข้าลึกๆจนรู้สึกว่ามันทำให้เธอสบายใจและสดชื่นกว่าเดิมมากมากกว่าบรรยากาศที่อึดอัดและแทบจะบีบรัดเธอให้หายใจไม่ออกแต่ในอ้อมกอดของเขาทำให้เธอหัวใจเต้นแรงและหวั่นไหวดวงตาคู่นั้นสัมผัสของเขาที่เธอไม่เคยลืมหญิงสาวลูบใบหน้าของตัวเองอย่างตกใจเมื่อสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่ไหลผ่านลงมาบนแก้มวิยะดาแค่นยิ้มให้กับตัวเองเธอร้องไห้!ทั้งที่4ปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยได้สัมผัสมันสักครั้งหลังจากวันนั้นวิยะดาเธอกลับมาอ่อนแออีกแล้วหญิงสาวเช็ดน้ำตาและเตือนสติตัวเองว่าที่ผ่านมามันก็แค่บทเรียนสำหรับผู้หญิงโง่ๆเธอควรจะลืมมันได้แล้วและมันไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นอีกนับจากนี้ไปผู้ชายที่ชื่ออิศรางค์จะเป็นแค่เจ้านายของเธอเท่านั้น!
?ยัยวิ!แกมีเรื่องต้องคุยกับฉัน! ?
เมื่อหญิงสาวออกจากลิฟต์เข้ามายังโต๊ะทำงานมุทิตาที่รอคอยวิยะดาอยู่ก็รีบไปดึงมือหญิงสาวเข้ามาถามให้รู้เรื่องทันทีแต่กิริยาเร่งร้อนนั้นทำให้สาวแก่มองว่าเป็นการลากซะมากกว่า
?ยัยตาแกเป็นอะไร?
วิยะดาถามเพื่อนรักเบาๆเพราะกลัวว่าคนอื่นจะได้ยิน
?เป็นอะไร!ฉันควรถามคำนี้กับแกมากกว่านะเรื่องอิศรางค์น่ะ! ?
มุทิตาแทบจะกัดฟันกระซิบตอบและถามวิยะดาเรื่องใหญ่แบบนี้ทำไมถึงไม่บอก!
?แกเลิกพูดถึงเรื่องนั้นเถอะยัยตาที่อยู่ในห้องทำงานน่ะคือคุณอิศรางค์เจ้านายของเรา?
?อะไรนะ.. ?
มุทิตามองวิยะดาที่ตอบกลับมาด้วยท่าทีใจเย็นอย่างแปลกใจและไม่เชื่อหู
?ยัยวิ?
?เขาคือเจ้านาย...เข้าใจไหมยัยตา?
วิยะดาปรามเพื่อนรักที่พยายามจะพูดอะไรออกมาอีกทำให้มุทิตานิ่งและก็สงบลง
?ก็ได้เขาคือเจ้านายแต่แกมีอะไรบอกฉันนะไปทำเถอะ?
?อืมไม่ต้องเป็นห่วงฉันดูแลตัวเองได้?
หญิงสาวยิ้มให้แล้วหมุนตัวกลับไปยังโต๊ะทำงานสาวแก่มองตามแล้วส่งเสียงบอกเมื่อเห็นว่าสาวน้อยรุ่นน้องนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเรียบร้อยแล้ว
?น้องวิจ๊ะเมื่อพักใหญ่ๆตอนน้องวิลงไปท่านประธานเรียกพบจ๊ะบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษา?
วิยะดานิ่งไปพักใหญ่แล้วแล้วส่งยิ้มให้สาวแก่ที่จดจ้องเธออยู่
?ขอบคุณมากนะคะพี่แต้ว?
?จ๊ะ?
วิยะดาลุกจากโต๊ะทำงานและเปิดประตูเข้าห้องของประธานบริษัทไปมุทิตามองตามอย่างเป็นกังวล
?จะไหวไหมนะยัยวิจะทนได้แค่ไหนก็ไม่รู้.. ?
เสียงประตูเปิดทำให้อิศรางค์ที่รอคอยการมาของวิยะดาอยู่แล้วยิ้มอย่างพอใจหญิงสาวหันมามองร่างสูงอย่างไม่หลบตาและพูดเป็นงานเป็นการ
? ขอโทษที่ไม่ได้เคาะประตูก่อนคะเห็นท่านประธานบอกว่ามีงานด่วน?
?ช่วยหยิบแฟ้มส่งให้ผมหน่อยสิ?
วิยะดามองอิศรางค์ที่ยืนมองบรรยากาศข้างนอกก่อนจะหยิบแฟ้มบนโต๊ะทำงานและเดินเข้าไปส่งให้ฉับพลันใบหน้าหล่อเหลาที่นิ่งขรึมนั้นก็เปลี่ยนเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจและกระชากตัวเธอเข้าไปทันที!วิยะดาเบิกตากว้างมองดูแฟ้มงานที่เธอเดินมาส่งให้เขาถูกโยนไปบนโต๊ะทำงานด้วยความตกใจ
?คุณทำอะไร! ?
เพราะความตกใจทำให้เธอกลับมาเรียกสรรพนามอื่นแทนท่านประธานที่เธอจงใจเรียกอิศรางค์รวบมือน้อยที่พยายามดันตัวออกจากเขาไว้ด้วยมือข้างเดียวจมูกโด่งสัมผัสโดนแก้มเนียนสวยเมื่อชายหนุ่มก้มลงมาจนแนบชิดใบหน้าหญิงสาวดวงตาคู่สวยยิ่งตระหนกด้วยความตกใจ
?รู้อะไรไหมวิยะดาว่าฉันไม่เคยยอมเจ็บตัวฟรีๆหรอกนะ?
?นี่นะหรอเหตุผลที่คุณเรียกฉันเข้ามา!ไร้สาระสิ้นดี! ?
ใบหน้าหวานเชิดขึ้นและใช้เสียงดังที่กลบเกลื่อนความรู้สึกหวั่นไหวเป็นเพื่อนตัวเอง
?ไร้สาระงั้นหรอ! ?
อิศรางค์พูดเสียงดังลั่นด้วยความโกรธมือหนากระชากร่างบางให้หงายหลังลงไปบนโต๊ะทำงานก่อนจะยันตัวขึ้นคร่อมหญิงสาวอย่างรวดเร็วอิศรางค์จ้องใบหน้าหวานที่นัยน์ตาช่างอวดดีไม่ต่างจากคำพูดด้วยความโกรธ
?ฉันอยากจะรู้จริงๆถ้าเรื่องที่เธอกับฉันมีอะไรกันมันเรียกว่าไร้สาระแล้วทำไมคนอื่นๆถึงชอบทำกันหนักล่ะ?
อิศรางค์กระตุกยิ้มหยันก่อนจะก้มลงมาแนบชิดใบหน้าสวยที่ตกใจกับคำพูดของเขาให้มากกว่าเดิม
?หรือเพราะว่า..มันสนุกและก็มีความสุขเธอว่างั้นไหมวิยะดาเธอเองก็เคยลองมาเหมือนกันนี่! ?
?หยาบคาย! ?
หญิงสาวแผดเสียงออกมาด้วยความโกรธจ้องมองชายหนุ่มด้วยดวงตาขุ่นมัว
?ใช่ฉันมันหยาบคาย...แต่มันก็เรื่องจริงทั้งนั้นไม่ใช่หรอคืนนั้นเธอยังครวญครางให้ฉันฟังแทบทั้งคืนจำไม่ได้แล้วหรือไง?
?สารเลว!
วิยะดาแทบจะกัดฟันพูดออกมาเพราะสิ่งที่เธอพูดออกไปแทบจะไม่มีผลอะไรต่อเขาเลยอิศรางค์ยิ้.็ดีเขาคิดว่าจะเรียกเธอมาสั่งสอนเรื่องเมื่อเช้าเท่านั้นแต่ถ้าปากดีแบบนี้สงสัยต้องสั่งสอนกันยาวซะหน่อยจะได้รู้ว่าไม่ควรปากดีกับเขา!
?เธอพูดเองนะว่าฉันเลว? อิสรางค์พึมพำยิ้.
?อย่านะ! ?
วิยะดาร้องออกมาด้วยความกลัวหยาดน้ำตาร่วงพรูออกมาแทบไม่ขาดสายภาพความแข็งแกร่งอวดดีก่อนหน้าไม่เหลืออยู่อีกแล้วเหลือแต่เพียงวิยะดาผู้หญิงที่อ่อนแอคนเดิมเท่านั้นหญิงสาวหลับตาลงทั้งที่น้ำตายังไหลรินไม่สามารถทนมองหน้าเขาอีกต่อไปได้จนใบหน้าคมที่กำลังจะก้มลงสัมผัสริมฝีปากบางชะงัก
ดวงตาของชายหนุ่มอ่อนแสงลงความรู้สึกบางอย่างสับสนจนบอกไม่ถูกแต่ก็เพียงชั่วขณะเท่านั้นอิศรางค์ปรับเปลี่ยนสีหน้าให้เป็นปกติเขาไม่ต้องการให้คนใต้ร่างที่ตัวสั่นเทาเพราะความกลัวรับรู้ได้ว่าเธอมีผลต่อความรู้สึกของเขามากเพียงใด
หญิงสาวลืมตาขึ้นอย่างช้าๆสงสัยที่ไม่ถูกกระทำจากชายหนุ่มดวงตาที่พร่าไปดวงหยาดน้ำตาค่อยๆปรับชัดเจนมากขึ้นจนมองเห็นใบหน้าหล่อเหลาของอิศรางค์ที่ยังคงจับจ้องเธอไม่วางตา
?ไง...ยังจะปากเก่งอยู่อีกไหม?
แม้จะเป็นคำถามที่ไม่ได้เต็มไปด้วยรัศมีแห่งการคุกคามแต่เธอกลับรู้สึกว่าเป็นเต็มไปด้วยการเย้ยหยันและดูถูกอย่างชัดเจนพอๆกับความสะใจที่สามารถเอาชนะเธอได้
?ปล่อย?
วิยะดาบอกเสียงสั่นพร่าไม่กล้าแผดเสียงอะไรขึ้นมาอีกเพราะกลัวเหลือเกินกับแรงอารมณ์ของคนบนร่างที่ไม่รู้มันจะประทุขึ้นมาอีกเมื่อไรพร้อมกับพยายามยันกายลุกขึ้นให้ออกห่างจากเขาแต่ต้องนิ่วหน้าเมื่อถูกอิศรางค์กดข้อมือลงที่เดิมไม่ให้ลุกขึ้นได้อย่างเต็มแรงอิศรางค์มองใบหน้าสวยหวานที่ตอนนี้น้ำตาเริ่มจะเหือดแห้งไปหมดแล้วด้วยดวงตาดุจ้า
?จะไปไหนถ้าฉันยังพูดไม่จบเธอก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น! ?
?คุณต้องการอะไรอีก?
เธอถามเสียงสั่นแม้พยายามควบคุมมันให้ปกติแต่มันก็ทำได้ยากอยู่ดี อิศรางค์แค่นยิ้มและก้มลงมาอีกครั้งจนทำให้หญิงสาวแทบจะผวา
?ฉันก็แค่ต้องการค่าตอบแทนที่เธออวดดีกับฉันเมื่อเช้า?
เขาหมายถึงเรื่องที่เธอเหยียบเท้าเขานั่นเองวิยะดาอยากจะบอกเหลือเกินว่าเธอไม่ได้ผิดก็ในเมื่อเขากำลังจะล่วงเกินเธอเธอต้องป้องกันตัว...และหัวใจไม่ให้เผลอไผลไปกับเขาได้อีกแล้วเธอผิดอะไร
ชายหนุ่มแนบใบหน้าลงมาจนเกือบจะชิดก่อนจะกระซิบเตือนเธอเสียงแผ่วเบา
?อย่านะอย่าทำให้ฉันโมโหไม่อย่างนั้นเธออาจจะเจ็บตัวมากกว่านี้?
พูดจบริมฝีปากร้อนก็แนบลงมาทันทีหญิงสาวจำต้องหลับตาอย่างจำยอมก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อเรียวลิ้นร้อนซอกซอนเข้ามาหาความหวานในโพรงปากบางอย่างหิวโหย และลิ้มรสมันอย่างเพลิดเพลินเร่าร้อนจนทำให้เธอครางอึกอักราวกับจะหายใจไม่ออกและอยากจะเบือนหน้าหนีรสจูบเร่าร้อนนั้นก่อนเขาจะทำให้เธอขาดใจตายแต่อิศรางค์ก็รู้ทันเอื้อมมือมาบังคับใบหน้าของเธอให้อยู่นิ่งกันไม่ให้หนีหลังจากเขาลิ้มรสริมฝีปากสวยจนพอใจชายหนุ่มก็ผละใบหน้าออกและพูดเสียงแหบแห้ง
?จำไว้นะว่าอย่ายั่วโมโหหรือว่าอวดดีใส่ฉันอีกและถ้าฉันต้องการอะไรฉันต้องได้เธอคงรู้นะวิยะดาว่าคนอย่างฉันทำอะไรได้มากแค่ไหน?
คนที่สติยังมาไม่ครบเพราะแทบจะเมากับรสจุมพิตเร่าร้อนนั้นฉายแววเจ็บปวดออกมาทางแววตาอย่างชัดเจนเพราะคำพูดของเขาที่ราวกับว่าเธอเป็นสิ่งของที่เขาต้องการหาความสุขเมื่อไรก็ต้องได้เธอหลับตาลงหยดน้ำไหลรินออกมาทางหางตาอิศรางค์เลี่ยงที่จะมองใบหน้านั้นและผละออกห่างจากเธออย่างรวดเร็วหญิงสาวที่รู้ว่าไออุ่นของคนร่างสูงออกไปจากร่างก็รีบเช็ดน้ำตาก่อนจะลุกออกจากโต๊ะทำงานของชายหนุ่มเธอแทบจะประคองตัวเองออกไปไม่ไหวเพราะแขนขาที่อ่อนแรงจากความบอบช้ำข้างในหัวใจแต่ยังไม่เจ็บเท่าประโยคที่เขาพูดตามไล่หลังออกมาอย่างชัดเจน
?เธอเป็นของฉันนะวิยะดาและถ้าฉันต้องการเธอเธอก็ไม่มีสิทธิ์ปฎิเสธจำเอาไว้! ?
วิยะดายกมือขึ้นเช็ดหยดน้ำตาที่ไหลรินออกมาอีกครั้งเธออยากจะรู้เหลือเกินว่าหัวใจของเขาทำด้วยอะไรและเธอทำผิดอะไรเขาถึงได้ทำให้เธอเจ็บปวดได้ถึงเพียงนี้

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “ก้าวแรก(สู่นักเขียนมืออาชีพ)”